ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย my boyfriend. (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 18 : ออกกำลังกาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.35K
      21
      10 ก.ย. 50




     

    ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นช้า ๆ ในเช้าของวันใหม่  วันที่กลับมาจากการหนีเที่ยวแล้ว  กว่าจะถึงหอก็ค่ำพอสมควร  ผมยันตัวเองลุกขึ้นอย่างยากลำบาก  รู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งตัว  ไม่ใช่เพราะเหนื่อยกับการท่องเที่ยวหรอกครับ  แต่เป็นเพราะ  ไอ้ตัวหน้าด้านที่นอนอยู่ข้างกันบนเตียงผมต่างหาก 

     

    ทันทีที่ถึงหอ  มันถอนคืนครบทั้งต้นทั้งดอก  แถมฝากล่วงหน้าด้วย  ผมเลยมีสภาพเหมือนผ่านการแข่งขันไตรกีฬามา  ปวดขบไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย  โดยที่ไอ้ตัวต้นเหตุคู่แข่งตลอดกาลของผมยังนอนสบายใจอยู่บนเตียง  ผมอยากจะโดดแทงศอกให้กระดูกมันหักเสียจริง  ขีดความสัมพันธ์ไว้แค่เพื่อน  แต่สิ่งที่เมิงทำมันโคตรขี้โกงเลยกิง

     

    หึหึหึ  ตากรูแก้เกมส์บ้างล่ะ  ผมแค่นหัวเราะออกมา

    .

    .

    .

    .

                เสียงดังโวยวายของเพื่อนพี่น้องดังลั่นไปทั่วใต้ตึกสตูดิโอ  เนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดเทอมใหม่ถึงวันที่ 3 แล้ว  แต่เป็นวันแรกที่พวกผมสโมสรหนีเที่ยวเพิ่งมาเรียนกัน  เสียงด่าท่อมากมายกระหน่ำใส่พวกผมอย่างไม่หยุดยั้ง  ส่วนมากเนื้อหาต่อว่าไม่ใช่เรื่องที่หนีเรียน  แต่เป็นไปแล้วไม่ชวนต่างหาก  เวรจริงเพื่อนตรู  เย็นนี้พวกผมคงโดนอาจารย์และคณบดีเรียกพบอีกรอบ  กลับมาเจอแต่เรื่องซวยจริงครับ

     

    ตรื้ด  ตื้ด  ตื้ด  เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นมาขัดกลางวงสนทนา

    สวัสดีครับ  ตอบลงไปยังปลายสาย

    .....  อีกฝ่ายยังไม่ตอบ

     

    เอ่อ  มีใครอยู่มั้ยครับ  ผมต้องถามไปอีกที

     

    ต๊อด  โทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก  ถึงเวลาที่ต้องบอกสักที  ไม่กลัว~~”

     

    ตื้ด  ตื้ด  ตื้ด  ผมตัดสายทิ้งทันทีที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของปลายสาย

     

    นาทีนี้ต้องพูดไป   เสียงข้างในดังออกมา

     

    แล้วทำไมผมยังได้ยินเสียงมันอีกฟร่ะ  ผมคาดว่าผมคงหลอนมากไป

     

    ฮ่า ๆๆ  ไอ้ต๊อดของเข้าอีกแล้วว่ะ  เสียงเพื่อน ๆ ฮากันไม่หยุด  ผมเลยหันไปตามเสียงฮานั่น  แล้วพบกับเอี้ยน้องต๊อดร้องเพลงถือโทรศัพท์ไว้แนบหู  แล้วออกท่าอย่างเป็นสเต็ปราวกับบี้มาเองก็ไม่ปาน

     

    มันแสดงออกมา ว่ารักแล้วให้ทำไง

     

    ต๊อดออกท่าทางมากขึ้น  สีหน้าและแววตาอินกับเพลงสุด ๆ  มันหมุนตัวสองรอบเพื่อให้ระยะห่างระหว่างผมกับมันใกล้เข้ามา

     

    วันนี้หัวใจ มันกำความลับไว้ไม่อยู่ซะแล้วเธอ

     

    ร้องจบมันก็ระบายยิ้ม ส่งจูบ ขยิบตาให้ผมทีนึง  ชูมือรูปสัญลักษณ์ที่คุ้นเคย  ตามด้วย 

     

    ฮ่า ๆๆๆ  เอี้ยน้องต๊อด  เมิง  ขี้  เดอะสตาร์มากว่ะ  ทำได้ไงว๊ะ  เสียงฮาครืนไปทั้งใต้ตึกสตูดิโอ  เหมือนอยู่ในฮอลล์คอนเสิร์ต 

     

    ต๊อดคิดฮอดอ้ายอย่างแรงนิ  น้องต๊อดแถมาหาผม  แบบไม่สนใจคนอื่นเช่นเดิม

    ไม่เจอกันนาน  เมิงยังมุขควายเสมอต้นเสมอปลายนะ  ไอ้เวร  ผมบ่นใส่หน้ามันเซ็ง ๆ ปวดกะโหลกตั้งแต่เริ่มเทอมใหม่เลย

     

    ไอ้ต๊อดทำตาเบิ่งโต  มองมาที่ผมแฝงความเศร้า  นัยน์ตาใสเอ่อคลอไปด้วยน้ำตามีแววน้อยใจบอกผ่านกรอบแว่นพลาสติกสีดำ  อ้ายไปแอ่วกัน  บ่ชวนต๊อดเน้อ  ฮู้บ่ต๊อดสิน้อยใจ๋หลาย  แคร์กันสักนิดเน้อ  มันตัดพ้อยาวเป็นชุด

    พอเลยเมิง  กรูฟังมาจนหูเปียกหมดแล้ว  เจอหน้าใครแมร่งก็บ่นแต่เรื่องนี้  ไปด่าพี่รหัสเมิงนู่น  ตอนกรูไปกรูยังไม่รู้เรื่องเลย  ผมด่ากลับเป็นชุดกว่า 

     

    เฮ้ย  โยนขี้เลยนะเมิง  อย่ามาโบ้ย ๆ  เสียงทุ้มเถียงใกล้ตัว  ใบหน้าไม่สำนึกผิด  ไอ้กิงยักไหล่เบา ๆ ส่ายหัวปฏิเสธ

    โห  ไอ้หร่า  ใครมันลากกรูไปว๊ะ  ผมหันหน้าไปหาเรื่องมัน

    เมิงก็เต็มใจให้กรูลากล่ะว้า  ริมฝีปากมันเชิดยิ้มอย่างกวนส้นเป็นที่สุด

    สาดเอ้ย  ไอ้จังไร  ผมรู้สึกเคืองผสมหมั่นไส้มันจากใจจริง ๆ

     

    ปัง  เสียงทุบโต๊ะไม้ที่พวกผมนั่งอยู่ดังแทรกการเถียงกันของผมกับไอ้กิง  เอี้ยน้องต๊อดก้มหน้าต่ำ  สองมือค้ำโต๊ะไว้  หัวฟูฟ่องของมันก้มค้างอยู่ก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นมาช้า ๆ เป็นภาพสโลว์

    หึหึ  ไอ้ต๊อดขำจิตตก  ริมฝีปากคลี่ยิ้มมีเลศนัย น้ำเสียงจริงจังออกจากปากมัน ไผสิทำให้อ้ายต้องขุ่นข้องหมองใจ  จำไว้เน้อ  ต๊อดบ่ยอมให้มันหน้านั้นได้พบความม่วนชื่นในชีวิต  พูดจบมันก็ขยิบตาให้ผมทีนึง  แต่แอบปรายสายตาแฝงความมุ่งร้ายไปทางไอ้กิง

     

    ฮ่า ๆๆ แมร่ง  เอี้ยน้องต๊อดเริ่มอาฆาตแล้วว่ะ  เพื่อนในโต๊ะผมฮากันใหญ่ 

    เออ  งั้นเมิงต้องทำร้ายตัวเองคนแรกเลยว่ะไอ้ต๊อด  ผมบ่นเครียดใส่หน้ามัน  เอามือกุมหน้าผาก ทนทำใจให้ปลื้มไปกับคำพร่ำพรรณนาของมันไม่ได้สักที

     

    ไอต๊อดแสยะปากหน้าเซ็งกับแรงตอบรับของผม  บ่เป็นหยังดอก  แม้ในวันนี้อ้ายยังบ่รับน้ำใจของต๊อด  วันหน้าต๊อดสิยังเคียงข้างอ้ายอยู่แน่นอน  แววตาซึ้งส่งมาให้ผมก่อนจะ

     

    เอี้ยต๊อดครับ  ขึ้นเรียนได้แล้วครับ  เมิงจะเป็นขี้ปลาทองพี่เรไปถึงไหนครับ  เสียงผองเพื่อนไอต๊อดเรียกจากบันไดขึ้นตึก  ต๊อดเหลือบไปมองแบบเสียมิได้  เริ่มออกเดินจากโต๊ะเพื่อไปขึ้นเรียน  เดินไปสักครึ่งทาง  มันหันหน้ามาทางผม  เอากำปั้นทุบอกตัวเองสองทีแล้วชี้นิ้วจากตำแหน่งหัวใจส่งตรงมาให้ผม  กัดเม้มริมฝีปากทีนึงเอียงคอเล็กน้อยแล้วขยิบตาให้อีกรอบ 

    “You are my world.”  มันส่งน้ำเสียงหวานเลี่ยนก่อนหายลับไปบนห้องเรียน  ทิ้งให้

     

    ฮ่า ๆ เอี้ยน้องต๊อดไปสรรหามุขควายมาจากไหนมากมายว๊ะนั่น  เพื่อนผมยังขำกันต่อ

    หึหึ  ไอ้ต๊อดคงจะชอบเมิงมากจริง ๆ นะเนี่ยะ  กรูเห็นแมร่งเฝ้ามาเป็นปีแล้ว  เสียงขำขันทุ้มหูออกความเห็นจากปากไอ้กิง  ผมเหล่มองไม่ได้ตอบอะไร  แต่ตัดพ้อในใจ คิดอะไรซะบ้างเซ่  ขำเป็นอย่างเดียวเรอะเมิง  ความรู้สึกหลากหลายปะทุขึ้นในหัว  ตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะ

     

    หมับ  ข้อมือแกร่งจับช่วงแขนผมหยุดตัวไว้  ผมหันไปตามแรงดึงนั่น

    ไปไหนวะ  ไอ้กิงถามผม

    ไ ป ขี้  ผมตอบช้า ๆ ชัด ๆ สะบัดแขนออกจากมือมันแล้วเดินออกมา

    อะไรว๊ะ  เป็นอะไรไปอีก  ได้ยินมันบ่นขัดใจในท่าทางของผม  เออ  กรูมันพวกปากหมา  ขี้เหล้า  เอาแต่ใจ  ขออภัยที่ทำให้เมิงลำบาก  แมร่งเอ้ย  ผมงอนโดยไม่รู้ว่าเหตุผลไหนกันแน่  เพราะการเป็นอยู่คือของมันทำให้ผมเสียอารมณ์ได้ทุกที  แต่สาเหตหลัก ๆ คงเป็นเพราะ เพื่อน  ความสัมพันธ์ที่มันตัดสินใจขีดระดับไว้เพียงคนเดียว

     

    ซ่า~~”  เสียงน้ำไหลจากก๊อกห้องน้ำใต้ตึกสตูดิโอ  ผมซับหน้าตัวเองด้วยน้ำเย็น ๆ ให้ตื่นตัว  เพ่งมองภาพสะท้อนตัวเองในกระจกเงา  ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาลองเบ่งกล้ามดู  จับ ๆ วัด ๆ กล้ามเนื้อตรงช่วงตัว  ไม่ว่าจะเป็นร่างกายส่วนไหนของผม  มันเห็นได้ชัดว่าเล็กและบอบบางไปทันทีเมื่อเทียบกับไอ้กิง  มันคงแอบเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแอ๊บโดมิไนเซอร์โดยที่ผมไม่รู้  หุ่นถึงได้แน่นเร้าใจขนาดนั้น

     

    หึหึ  ผมหัวเราะใส่ตัวเองในกระจกเงา  กรูจะฟิตหุ่น  คอยดูนะเมิงไอ้กิง  คราวนี้เมิงจะมาวินนิ่งกับกรูฝ่ายเดียวไม่ได้แล้ว  ฮ่า ๆ กร๊าก  ผมหัวเราะสะใจกับแผนการคว้าแชมป์นักเพาะกายชาย  ว่ากันว่าสุขภาพกายที่แข็งแรงจะทำให้สุขภาพใจเข้มแข็งทบทวีตามไปด้วย

     

     

    โครงการสายรหัส To be come กรู จึงเริ่มขึ้น  อย่าเพิ่งงงครับ To be come กรู หมายถึงน้องรหัสทุกคนของผมต้องมาร่วมออกกำลังกายโดยมีผมเป็นแกนนำ  ก็เล่นคนเดียวมันไม่สนุกนี่ครับ  ผมเตรียมตัวพร้อมแล้วในชุดนักกีฬาอบต.  เสื้อสีเหลืองสะท้อนแสงตัดกับแขนและคอเสื้อสีน้ำเงิน  ด้านหลังสกรีนเบอร์และชื่ออบต.แถวบ้านไว้ใหญ่เต็มตัวเสื้อ  กางเกงบอลสมัยมัธยมปลายที่แม่เย็บเป้าจนแน่นแล้ว มีขนผ้าขึ้นเล็กน้อย  นันยางคู่เก่าที่พอดีเท้า  ผมฟิตเต็มที่จอดแลมไว้บริเวณลานไทร  เริ่มมองหาคิมทันที (มันเป็นน้องคนเดียวที่ไม่ติดงานในวันนี้)

     

    เฮ้ย  คิม  ไปกัน  ผมตะโกนเรียกน้องรหัสผมที่นั่งนิ่งอยู่ริมสนามหญ้าที่ตอนนี้มีเด็กในคณะเตะบอลกันอยู่

     

    อืม  ต๊อดพร้อมแล้วอ้าย  เอี้ยน้องต๊อดระริกระรี้หน้ายิ้มแป้นเสนอตัวโย่ง ๆ ของมันมายืนข้างผม  ไอ้ต๊อดเองก็ใส่ชุดเล่นกีฬาพร้อมแล้วเหมือนกัน  ผมงงเล็กน้อย

    เฮ้ย  อะไรวะ?  เงยหน้าไปถามมัน

    ออกกำลังกายไงอ้าย  ต๊อดสิพร้อมเสมอ  ไปกันเถอะอ้าย  เย็นมากแล้ว  ไอ้ต๊อดออกท่าวอร์มซอยเท้าถี่ ๆ  พูดเหมือนผมนัดมันไว้

    จะไปก็ไปเลยเมิง  กรูจะไปกับไอ้คิม  สายรหัสออกกำลังกายเว้ย  เมิงไม่เกี่ยว  ผมบ่นใส่หน้ามัน

     

    พี่เร  วันนี้ไปกับไอ้ต๊อดเหอะครับ ผม แค่ก ๆ เหมือนไม่สบาย  คิมเดินมาทางพวกผม  น้องรหัสผมขนาดตัวพอ ๆ กันกับผม  ในตอนนี้คิมก้มหน้าไอค่อกแค่กไหล่ห่องุ้มตัว  ทำให้มันดูตัวเล็กลงกว่าเดิมอีก

    อ้าว  เมิงเป็นไรว๊ะ  ไม่สบายไม่กลับไปนอนหอ  ผมอดห่วงคิมไม่ได้  หน้าตามันดูบู้บี้แต่ยังอุตส่าห์มานั่งรอผม

    ไม่เป็นไรครับพี่เร  ผมอยากออกมาสูดหายใจข้างนอกมากกว่า แค่ก ๆ 

    อืม  งั้นกรูไปคนเดียวได้  เมิงก็พักผ่อนซะล่ะ  ผมเตือนมันก่อนจะเริ่มปลีกตัวออกมา

     

    อ้ายเร  ต๊อดไปด้วยเน้อ  เอี้ยน้องต๊อดยังเสนอหน้าตามผมมาอีก  ผมเริ่มเซ็ง  จะผ่อนคลายยังมีมารมาสร้างความลำบากใจ

    ถ้าเมิงอยากออกกำลังกายนัก  ไปเตะบอลกับพี่รหัสเมิงในสนามนู่น  อยู่กับเมิงแล้วกรูเสียพลังงาน  ผมไล่มันให้ไปเล่นกีฬาสนับสนุนยาเสพย์ติดกับไอ้กิงในสนามหญ้า

     

    พี่เรครับ  ให้ไอ้ต๊อดไปเป็นเพื่อนเถอะพี่  ผมขอช่วยมันไว้เอง  พี่เรอุตส่าห์นัดผมไว้  ผมดันไปด้วยไม่ได้  คิมบอกผมเสียงเศร้า

    ผมครุ่นคิดอยู่แปปนึงเกรงจะเสียน้ำใจคิม  อือ  ก็ได้วะ  เงยหน้าไปบอกไอ้ต๊อด  อย่ากวนประสาทกรูนักนะเมิง  ไม่งั้นกรูจับเมิงถ่วงบ่อน้ำคณะแน่  ผมขู่มันกันไว้ก่อน

     

    เอี้ยน้องต๊อดยิ้มกว้าง  พยักหน้าตอบรับอย่างเร็วและถี่  ผมขยี้ตาทีนึง  เมื่อกี้เหมือนเห็นมันมีหางสะบัดอยู่ข้างหลังด้วย

     

    ผมเริ่มออกตัววิ่งจ๊อกกิ้ง  สักพักนึงรู้สึกเหมือนไอ้ต๊อดไม่ได้ตามมา  เลยหันไปมองด้านหลัง  สิ่งที่พบคือไอ้ต๊อดกับไอ้คิมชูนิ้วโป้งให้แก่กันอยู่  ตามด้วยภาษามืออีกสองสามอย่าง  เดาได้ว่า  โอเค ๆ เดี๋ยวจัดให้  น้องรหัสผมที่เหมือนเป็นไข้อยู่กลับดูสบายดีขึ้นมาเสียอย่างงั้น  ไวเท่าความคิด  เมื่อมันสังเกตเห็นผม  ไอ้คิมแสร้งหวัดแดกขึ้นมาอีกครั้ง  ผมจึงรู้ตัวในบัดดล

     

    ไอ้คิมเมิงขายกรู  ตะโกนอาฆาตเคือง  ตั้งท่าเดินกลับไปจัดการสายรหัสหักหลัง

     

    เอี้ยน้องต๊อดวิ่งมาอย่างไวกว่า  คว้าแขนผมออกวิ่งในคราวเดียวกัน  ไปกันอ้าย  อ้ายรับปากแล้ว  รีบไปออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงกันเน้อ  มันบอกยิ้มหน้าระรื่น

     

    ผมรู้สึกเหมือนเสียหมาซะแล้ว  ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้  บอกไปแล้ว  ได้แต่วิ่งไปหันไปด่าไอ้คิมไป  เมิงขายกรู ไอ้น้องเลว  เมิงนะเมิง  เห็นมันนิ่ง ๆ  นึกไม่ถึงว่าคบพี่หวังผล

     

    ไม่ได้ขายครับพี่เร  ยังด้านหน้าตะโกนปฏิเสธกลับมา  ผมไม่ได้ขาย  ผมให้เช่า  รายได้ดีกว่า  ความจริงจากปากมัน  เห็นกรูเป็นจตุคามเรมเทพเรอะ

     

    ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน  เคืองไอ้น้องรหัสแสนดี  โดยที่แขนยังถูกเอี้ยน้องต๊อดจับวิ่งออกห่างไปเรื่อย ๆ สับสนไม่รู้จะด่าอะไรอีก  ก่อนที่ไอ้คิมจะไม่ได้ยิน  ผมเลยตะโกนกลับไปอีกครั้ง  แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กรูด้วย  ไม่งั้นกรูซ่อมเมิงแน่  ผมเห็นไอ้คิมอึ้งเล็กน้อยก่อนชูมือเป็นสัญลักษณ์ว่า OK. เอาสิครับถ้าเราคบกันเพื่อผลประโยชน์  เรื่องอะไรผมจะยอมเสียรายได้จากตัวผมเอง

     

    ฮ่า ๆ อ้ายเรน้อ  งกเหมือนกันเน้อ  เอี้ยน้องต๊อดขำสนุก  นาน ๆ ผมจะเห็นมันขำเพราะคนอื่น  เพราะปกติคนอื่นจะขำมันมากกว่า

     

    เออ  ไม่งั้นกรูก็เสียเปรียบสิว๊ะ  แล้วเมิงจะปล่อยแขนกรูได้ยัง  ผู้ชายสองคนวิ่งเกาะแขนกัน  น่ารักตายห่าเลย  ผมเตือนมัน

    คล้ายมันจะเพิ่งรู้ตัว  รีบชักมือออก  หยุดวิ่ง  ทำท่าเอียงอาย  อ่า แม่นเลยอ้าย  เราบ่ควรชิงสุกก่อนห่าม  ต๊อดสิจะถนอมอ้ายให้มาก  บ่ให้อ้ายต้องตกเป็นขี้ปากไผได้  มันเพ้อร่ายยาว

    โว้ย  ใครมันจะไปชิงสุกกับเมิง  วิ่งน่ะ  เขาใช้ขาไม่ต้องใช้ปาก  เงียบบ้างเถอะว๊ะ  ผมด่ามันไปอีกครั้ง  มันทำหน้างอง้ำงอน  สงบปากแล้ววิ่งตามผมมา

     

    โปรแกรมแรกสำหรับการฟิตหุ่นของผมคือ  อบอุ่นร่างกายให้พร้อมโดยการวิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ รอบบริเวณคณะซึ่งกินอาณาบริเวณกว้างขวางพอสมควร  รอบคณะผมร่มรื่นไปด้วยไม้ยืนต้นขนาดใหญ่  ถนนราดยางเรียบอย่างดีไม่เป็นหลุมบ่อเหมือนถนนที่ทางรัฐชอบสร้าง  มีทางเท้าเป็นอิฐบล็อคปูเรียบไปตลอดตามเส้นทางลัดรอบไปยังตึกต่าง ๆ ทำให้เส้นทางการวิ่งลื่นไหลไปได้ง่ายทีเดียว  แต่เพียงพักนึงผมพบกับความผิดปกติ

     

    เอี้ยน้องต๊อดวิ่งรอบตัวผมแทนที่จะวิ่งตรง ๆ ไปด้วยกัน  เดี๋ยวมันก็วิ่งเดินหน้าวนรอบ  เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนเป็นถอยหลังวน  สลับไปมาจนผมเริ่มมึน

     

    ทำเอี้ยไรเมิงเนี่ยะ  กรูไม่ใช่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นะเว้ย  ถึงได้มาวิ่งจงกลมกรู 

    บ่ได้ดอกอ้าย  ต๊อดสิต้องคุ้มครองความปลอดภัยให้อ้าย  ไม่งั้นอาจมีหมามาไล่งับ   ไม่ก็มีคนแอบเบิ่งอ้ายแน่นอน  แฮ่ก  ท้ายประโยคมันมีอาการแอบหอบ  วิ่งวนไปพูดไปคงเหนื่อยน่าดู 

    แล้วเมิงจะทำตัวให้ลำบากทำไมวะ  ไอ้ประสาท  ไม่มีใครที่ไหนเขามาสนใจหรอกเว้ย  ทำตัวให้เหมือนคนปกติเขาทำกันได้มั้ยวะ  เดี๋ยวพ่อก็ทิ้งไว้นี่หรอก  ผมงัดเสียงจริงจัง  เอี้ยน้องต๊อดนี่มันบ้าทุกองศาจริง ๆ

     

    โธ่!  อ้ายเร  ช่างบ่ฮู้ไรบ้างเลย  เอี้ยน้องต๊อดเสมองผม  ทำหน้าเบื่อโลกเสมือนว่าผมโง่เกินทน

    เออ  กรูยอมไม่รู้  ผมตัดบทแค่นั้นแล้วออกตัววิ่งต่อไป  ไม่งั้นผมคงด่ามันจนขาดอากาศหายใจตายไปก่อน

     

    ชายหนุ่มรูปร่างมาตรฐานชายไทยในชุดนักกีฬาอบต.สีสะท้อนแสง กับชายหนุ่มสูงโย่งเป็นผีเปรตหัวฟูในชุดกีฬาเด็กแนว(ประหลาด) ด้วยเสื้อกล้ามตัวโคร่งกับกางเกงทรงประหลาดขาสามส่วนเป้าต่ำกับเอวที่ต๊ำต่ำกว่าจนบ๊อกเซอร์โผล่มาครึ่งตูด  รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสูงที่ดันเศือกสวมถุงเท้าที่สูงกว่าเข้าไปอีก  ภาพทั้งสองวิ่งเคียงข้างกันช่างดูโดดเด่นจากสิ่งแวดล้อมเสียนี่กระไรนัก 

     

    หนึ่งรอบบริเวณตึกคณะทั้งหมด  แค่หนึ่งรอบก็เกินพอ  สำหรับคนที่ใช้ชีวิตไม่ปกติแบบพวกผม  ผมนึกว่าผมที่สภาพร่อแร่จากการออกกำลังกายเพียงไม่มากจะดูเหนื่อยน้อยกว่าไอ้ต๊อด  แต่ไอต๊อดกลับดูสดใสกระปรี้กระเปร่ามากทีเดียว  ทั้งที่ตัวมันทั้งขี้เหล้าและขี้ยาเหมือนพี่รหัสมัน 

     

    อ้ายเร  น้ำน่ะอ้าย  ค่อย ๆ ทานเน้อจะได้สดชื่น  ไอ้ต๊อดซื้อน้ำจากซุ้มโค้กมาให้ดื่ม  พวกผมแวะพักเหนื่อยกันที่จุดสตาร์ทลานไทร  ผมเห็นไอ้กิงยังเตะบอลอยู่

    เออ  อืม  ขอบใจว่ะ  ผมรับมาดื่มดับกระหาย  เหนื่อยแทบอ้วก  เพิ่งจะรู้ว่าร่างกายตัวเองอ่อนปวกเปียกขนาดนี้

     

    ไอ้ต๊อดทำหน้าเคลิ้มฝัน  นั่งเท้าคางมองผมดื่มน้ำอยู่  ผมสังเกตเห็นเลยยื่นขวดน้ำให้มันบ้าง

    เอ้า  กรูแดกเพลิน  โทษทีว่ะ 

    หน้ามันยังล่องลอยเพ้อฝันอยู่  นัยน์ตาเยิ้มหวาน  เหมือนสติไม่ได้อยู่ตรงนี้แต่อยู่ที่หนังหน้าผมแทน

     

    ป้าบ  ตบหัวฟูมันให้รู้สึกตัว  ต๊อด  เมาเนื้อมาเรอะเมิง  ผมสงสัยว่ามันคงไปพี้ยามาแน่นอน

     

    เอี้ยน้องต๊อดเหมือนจะรู้สึกตัว  สติเริ่มคืนมา  ไม่เป็นไรอ้าย  อ้ายกินเต๊อะ  ต๊อดบ่หิว  มันปฏิเสธใบหน้ายิ้มแย้ม

    ไม่หิวน้ำเหรอว๊ะ  กินสักหน่อยมั้ยเมิง  เดี๋ยวจะขาดน้ำตายก่อนนะโว้ย  ผมเตือนมันด้วยความหวังดี

    บ่เป็นหยัง  ต๊อดมีสปอนเซอร์แล้ว  มันยิ้มตอบกลับมาแล้วจ้องหน้าผมต่อไป

    อะไรของเมิง  สปอนเซอร์  ผมงง

     

    อ้ายเรไง  อ้ายคือสปอนเซอร์ของต๊อด  มันขยายความที่ไม่ช่วยทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นเลย

    หา?  ผมยังงงต่อไป

    เอี้ยน้องต๊อดทำหน้าเซ็ง แล้วอธิบายต่อ  อ้ายเปรียบเสมือนเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับต๊อด  ต่อให้เหนื่อยมากเท่าใดเพลียมากแค่ไหน  แค่ต๊อดได้เบิ่งอ้าย  ได้อยู่ข้าง ๆ อ้าย  ต๊อดสิสดชื่นเสมอ  เสมือนต๊อดดื่มสปอนเซอร์หลังออกเหงื่อ  ทดแทนเกลือแร่ที่สูญเสียจากร่างกาย  พูดจบมันก็ยิ้มหวานให้ทีนึง 

     

    พรวด  แค่ก ๆ ๆ   ผมสำลักน้ำเปล่าในทันที  เห็นกรูเป็นเครื่องดื่มชูกำลังเรอะ  คิดได้เนาะเมิง

     

    อ้ายเร  อ้ายเป็นหยัง  ค่อย ๆ นะอ้าย  เอี้ยน้องต๊อดรีบมาลูบหลังผม

     

    ผมสำลักน้ำหูน้ำตาเล็ดจนหน้าแดง  มันยิงมุขซะผมหลบไม่ทัน  พอผมเริ่มสงบ  อาการเริ่มเข้าที่เข้าทาง  ผมเกิดอาการสงสัยมาก  จนอดไม่ได้

    ต๊อด  กรูถามเมิงจริงเหอะว่ะ  ที่เมิงเข้ามาเล่นมุขควายใส่กรูมาตั้งนานชาติแล้วเนี่ยะ  เมิงเป็นเกย์ ผมหยุดสะอึกตัวเองไปนิดนึงแล้วพูดต่อ เมิงอยากนอนกับกรูเหรอวะ  ซัดไปตรง ๆ  คงติดนิสัยไอ้กิงเข้าให้แล้ว

     

    เอี้ยน้องต๊อดที่ปกติมันมักจะทำให้ชาวบ้านชาวช่องเขาอึ้ง ทึ่ง เสี่ยว ในมุขมันได้เสมอ  แต่ในตอนนี้มันกลับหน้าเหวอ  อ้าปากค้าง  ตาถลึงโต  มือเกร็งอ้าค้างจับโต๊ะม้าหินอยู่  ภาพมันนิ่งเอ๋อทำซะผมอดขำไม่ได้

     

    ฮ่า ๆ เฮ้ย! ถึงกับนิ่งเลยเหรอวะ  ผมตบไหล่เรียกสติมันกลับมา

     

    เอี้ยน้องต๊อดค่อย ๆ หุบปากที่อ้าไว้ลงช้า ๆ  สายตาเบือนมาทางผมยังมีแววตกตะลึงอยู่  มันลองขยับปากดู  คงลองเทสต์ดูว่าจะมีเสียงออกมารึเปล่า

    ใย  อ้ายเว้าจังซี่เด้อ?  มันเอื้อนเอ่ยประโยคคำถามออกมา 

     

    อุ๊บ  ฮ่า ๆ ทำไมเมิงต้องหน้าตะลึงขนาดนั้นด้วยวะ  ผมยังคงฮาอยู่ก่อนจะตอบคำถามมัน  อืม  ก็กรูอยากรู้นี่หว่า  ปกติผู้ชายเขาจะมาม่อเพศเดียวกันทำไมเล่า  ถ้าไม่เป็นเกย์ไปซะ

     

    อ้ายเร  ต๊อดบริสุทธิ์ใจเน้อ  ต๊อดบ่ได้คิดแบบนั้น 

    แล้วเมิงมายุ่งกับกรูทำไมได้ตั้งนานสองนาน  จะทำตัวเป็นรุ่นน้องปกติกับเขาก็ไม่ได้  กรูไปโดนต่อมอะไรของเมิงเข้ารึไง  ผมเพ่งมองหน้ามันแบบต้องการคำตอบ

     

    ไอ้ต๊อดทำหน้าครุ่นคิด  อ้ายจำตอนต๊อดเข้าปี 1 ได้บ่  มันชวนผมรำลึกอดีต

    จำได้สิวะ  ตอนเมิงเข้าเรียนปี 1 ใหม่ ๆ  เมิงโคตรเปรี้ยวเลย  ใครจำเมิงไม่ได้ก็แปลกแล้ว 

    ก็ตอนนั้นแหละอ้าย  อ้ายเรเริ่มเข้ามาประทับในใจต๊อดตั้งแต่ตอนนั้น  นัยน์ตามันแสดงความรู้สึกเหมือนผมเป็นองค์ที่ลงไปประทับมันจริง ๆ

    ตอนนั้นตอนไหนวะ  กรูไม่น่าเผลอไปทำอะไรเข้าให้ตัวกรูเองต้องซวยเจอเมิงมาจองล้างจองผลาญเลย 

    โธ่!  อ้ายเร  มันตัดพ้อหน้างอน  ตอนปี 1 ที่ต๊อดเจอคณะแบนไง  แล้วมีแค่อ้ายที่เชื่อต๊อด 

    อ๋อ  กรูนึกออกแล้ว  ผมเอากำปั้นทุบฝ่ามือตัวเองแบบเพิ่งคิดได้

     

                เหตุเกิดเมื่อตอนที่เอี้ยน้องต๊อดเข้ามาเรียนปี 1 เป็นเฟรชชี่ใส ๆ มาเลย  แต่ด้วยความที่ตัวมันเป็นเด็กซิ่ว 2 ปี  มันในตอนนั้นที่จริงแล้วต้องอยู่รุ่นปี 3  พวกผมเองอยู่ในรุ่นปี 2 ต้องเป็นปีเทคแคร์รุ่นไอ้ต๊อดมัน  ตอนนั้นไอ้ต๊อดมันเอี้ยครับ  เอี้ยจริง ๆ ไม่ใช่เอี้ยน้องต๊อดแบบทุกวันนี้ด้วย  มันซิ่วมาจากคณะที่รับน้องแรงและแข็งพอสมควรจากมหาวิทยาลัยดัง  มันจึงเปรี้ยว  กร่าง  และปีนเกลียวสุด ๆ  ไม่เคยเรียกพวกผมว่าพี่  ยิ่งกับไอ้กิงนี่แทบจะชกกันตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้า  เพราะตัวไอ้กิงเองก็แรงใช่เล่นเหมือนกัน 

     

    คราวซวยจึงตกมาอยู่ที่ผมอย่างช่วยไม่ได้  ผมไม่ใช่จะนางสาวไทยรักเด็กรักสัตว์รักทุกคนอะไรหรอกครับ  แต่ผมไม่ชอบการมีเรื่องหรือบาดหมางกัน  ผมจึงต้องเป็นคนคอยไกล่เกลี่ยเรื่องไอ้ต๊อดบ่อย ๆ  เพราะพี่คนอื่นแทบไม่เอามันแล้ว  ผมเลยมีโอกาสได้รู้จักตัวมัน  แล้วพบว่าอันที่จริงมันแค่การ์ดแข็งและฟอร์มจัดก็เท่านั้นเอง 

     

    เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เปลี่ยนไปก็คือ  พวกรุ่นผมเรียกพวกไอ้ต๊อดมาดื่มสังสรรค์กัน  เผื่อว่าเหล้าจะช่วยคลี่คลายอะไรได้  บรรยากาศดำเนินไปด้วยดี  เราไม่เน้นดื่มให้เมามากเน้นให้ผ่อนคลายเพื่อพูดคุยกันมากกว่า    สักพักนึง

     

    ผลั่ก  ตุบ  และตามด้วยเสียงโวยวายอีกมากมาย  เอาแล้วไง  ไอ้ต๊อดมันชกกับเพื่อนรุ่นผมคนนึง  แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย  ไม่มีทีท่า  พวกผมรีบจับแยกโดยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ตัวไอ้ต๊อดดูไม่เมาเท่าไหร่  แต่เพื่อนผมดูเมาพอดู 

     

    เมิง  เมิงด่ากรู  อยากมีเรื่องกับกรูเหรอ  ไอ้เอี้ยต๊อด  เสียงเพื่อนผมอ้อแอ้ด่าไปทั้งที่เลือดยังซึมมุมปาก

    ไอ้ต๊อดมีรอยช้ำตามใบหน้าเช่นกัน  ไอ้ต๊อดนิ่งใบหน้ากวนบาทา  ผมไม่ได้อยากมีเรื่อง  คุณพูดไม่เข้าหูผมเองต่างหาก  ตอนนั้นมันพูดจาแบบนี้กับพวกผมครับ

     

    เอี้ยต๊อด  อะไรของเมิงวะ  กรูชวนมาแดกดี ๆ ทำไมเมิงจะทำตัวให้เข้ากับคนอื่นบ้างไม่ได้ไงวะ  เมิงถือว่าเมิงเก่งมาจากไหน  ไอ้กิงเริ่มของขึ้นเหมือนกัน  ด้วยความที่ไอ้ต๊อดเป็นน้องรหัสมันด้วย  แล้วมันก็ดันแรงกันทั้งคู่ 

     

    ผมเห็นท่าไม่ดี  บรรยากาศเริ่มมาคุ  น้องปี 1 เองในตอนนั้นเลือกเข้าข้างไอ้ต๊อดอยู่แล้ว  พวกเพื่อน ๆ ผมก็ดูเคืองน้ำหน้ามันมานาน  จนผมเกรงว่าจะเกิดมวยหมู่ขึ้น

    กลับกันเถอะว่ะ  ตอนนี้พวกเมิงพูดจาอะไรไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี  รอให้ไอ้เพื่อนบ้าเราหายเมาก่อนเถอะว่ะแล้วค่อยเคลียร์กัน  ผมตัดบทกลางวง  พยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้นมากที่สุด  เรื่องในวงเหล้าจึงจบลงในวันนั้น 

     

                แต่เรื่องไอ้ต๊อดไม่จบ  เพียงไม่นานข่าวการมีเรื่องกันเองของรุ่นพี่กับรุ่นน้องดังไปทั่วคณะ  พวกผมถูกพี่ปีสูงจับซ่อม(ลงโทษ)ในทันที  ข้อหาพาน้องไปกินเหล้าแล้วไม่ชวน  เอ้ย! ไม่ใช่  เรื่องกินเหล้าแล้วไม่สามารถดูแลสถานการณ์ได้ต่างหากครับ  ไอ้ต๊อดกลายเป็นหมาหัวเน่าในบัดดล เพราะใคร ๆ ก็เชื่อว่ามันเปรี้ยวอยากมีเรื่องอยู่แล้ว  เหมือนมันรู้ตัวมันเลยยิ่งทำตัวทำหน้ากวนตีนให้น่าหมั่นไส้ขึ้นไปอีก  ไอ้ตัวเพื่อนผมที่มีเรื่องในวันนั้นก็ยังไม่พูดอะไร   ผมคิดว่าไอ้ต๊อดถึงมันจะกวนส้นแค่ไหนมันก็ไม่น่าชกคนโดยไม่มีเหตุผล  ผมเลยเป็นเหมือนตัวกลางในเหตุการณ์นั้น  พยายามบอกกับทุกคนรอบ ๆ ตัวว่าอย่าเพิ่งตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่ไอ้ต๊อดดันทำตัวตอกย้ำให้คนเขาเชื่อว่ามันเอี้ยจริง ๆ เข้าไปอีก  จนผมหมดความอดทน

     

                ผลั่ก  รอบนี้เป็นผมเองที่ชกมันไปท่ามกลางสาธารณชน  ทั้งคณะอึ้ง  ผมเองยังอึ้งเลย  เป็นเพราะผมทนรำคาญความปากหนักของมันไม่ได้มากกว่า  ผมจัดตัวเองเป็นตุลาการพิพากษาเหตุการณ์ทั้งหมดเอง 

    ถ้าไอ้ต๊อดมันเอี้ยจริง ๆ มันชกผมกลับแล้วล่ะในตอนนี้  ผมยกตัวอย่างที่เห็นภาพสุด ๆ ให้กับทุกคน เมิงเองก็เลิกบ้า  ปากหนัก  ฟอร์มจัด  ไม่ได้เท่ห์เลยนะนั่น  มีอะไรก็เคลียร์ ๆ กันไปให้จบสักทีดิว๊ะ  แมร่ง  ผมด่าตัดบทเรื่องมันจะได้สิ้นสุดกัน

     

    แล้วเหตุการณ์ก็คลี่คลายเป็นเรื่องโอ้ละพ่อทันที  เมื่อไอ้เพื่อนตัวดีผมนี่แหละ  ที่ดันเมาแล้วเศือกปากหมาด่าเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยทำให้ต้องมีเรื่องชกต่อยใช้กำลังกัน  แต่มันดันไม่กล้าบอกคนอื่น  เรื่องจึงจบอย่างสันติใครผิดก็ว่าไม่ตามผิด  ขอโทษขอโพยให้อภัยกันเป็นทางออกที่ดีที่สุด  พี่ ๆ จึงเหมือนเข้าใจไอ้ต๊อดมากยิ่งขึ้น  ไอต๊อดเองก็ดูประทับใจในความไม่ถือโทษโกรธเอาความของคนในคณะ  ฟอร์มมันจึงถูกฉีกกระจายตั้งแต่วันนั้นจากกำปั้นของผม

     

     

    โห  แมร่ง  เพราะกรูเองเหรอเนี่ยะเลยทำให้เมิงกลายเป็นตัวประหลาดอย่างทุกวันนี้  ผมบ่น  ไม่น่าเลยว่ะ  น้ำเสียงผมเศร้าสลดจริง ๆ

    โธ่!  อ้ายเร  มันพ่นสำเนียงน้อยใจออกมา

     

    เออ ๆ กรูล้อเล่นล่ะน่า  ผมเอื้อมมือไปตบหัวฟูมันในเชิงปลอบใจ  แต่  แล้วไงวะ  เมิงประทับใจกรูมาก  ถึงขนาดมากวนประสาทกรูได้ทุกทีไปอย่างนี้เหรอ  ผมยังคงไม่เข้าใจในพฤติกรรมมันอยู่ดี

    ต๊อดบ่ฮู้เน้อ  ต๊อดฮู้แต่ว่า  ต๊อดอยากทำอันหยังให้อ้ายเรบ้าง  ตอบแทนที่อ้ายเรทำให้ต๊อดฮู้สึกดี ๆ  ไอ้ต๊อดพูดจบก็กระพริบตาปิ๊งยิ้มหวานใส่ผม 

     

    เออ  ขอบใจในความหวังดีว่ะ  แต่เมิงจะช่วยทำตัวปกติแบบรุ่นน้องทั่วไปเขาทำกัน  กรูจะถือเป็นพระคุณมาก  ไม่ต้องสรรหาอะไรมาให้กรูหรอกโว้ย 

    เฮ็ดแบบปกติ  มันบ่คุ้มค่ากับความดีของอ้ายหรอก  อ้ายต้องได้รับสิ่งพิเศษเน้อ 

    พิเศษแบบเมิง  กรูรับไม่ไหวว่ะ  มีแต่จะทำให้กรูรู้สึกเหนื่อยเลี่ยนไปมากกว่าเดิม

     

    เอี้ยน้องต๊อดเงียบแทนคำตอบ  แล้วมันเริ่มทำแก้มป่องให้กลมแข่งกับหัวฟู ๆ ของมัน  การได้นั่งพูดจาแบบเปิดอกกับมันคราวนี้ทำให้ผมรู้สึกสบายใจดีทีเดียว  อย่างน้อยทำให้ผมรู้ว่ามันคิดอะไรหรือรู้สึกยังไง  ที่แน่ ๆ ในความรู้สึกของมันนั้น  ไม่ใช่ในทำนองชู้สาวกับผม  เพียงแต่พฤติกรรมประหลาดบวกกับบุคลิกพิลึกของมันเลยออกมาเป็นเอี้ยน้องต๊อดอย่างทุกวันนี้แทน  แต่กับไอ้กิงผมกลับไม่กล้าที่จะพูดคุยเปิดอกแบบนี้กับมันบ้าง  เพราะอะไรดี  เพราะกลัวผลลัพธ์ที่จะออกมารึเปล่า  ทั้งที่จะว่าไปแล้วพฤติกรรมไอ้กิงประหลาดกว่าไอ้ต๊อดสักสิบเท่าได้มั้งครับ

     

    อ้ายเร  อ้ายพอจะว่างมั้ย  เสาร์นี้อ้ายไปงานแป๊ดกับต๊อดเน้อ  ไอ้ต๊อดชวนผมไปไหนสักที่

    หา  เสาร์นี้  ไปไหนนะ  ผมกลับจากภวังค์หันมาคุยกับไอ้ต๊อดต่อ

    งานแป๊ดไงอ้าย  เดี๋ยวต๊อดขี่เวสไปรับอ้ายที่หอ  ไปกับแก้งค์รถโบราณของพวกต๊อด  ไปกับต๊อดเน้อ  เวลาไปกลับจะได้สะดวก ๆ  ต๊อดยิ้มหน้าบานเชื้อเชิญผมสุดฤทธิ์

     

    แป๊ด  เฟสติวัล  คือ  งานของคลื่นวิทยุอินดี้คลื่นหนึ่ง  ที่จัดขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายนเป็นประจำของทุกปี   และไอ้งานนี้แหละครับที่เป็นสาเหตุให้พวกผมต้องหนีเที่ยวในสัปดาห์เรียน  เพราะพวกเพื่อนผมให้เหตุผลว่าจะไปกันจึงมาล่องแพในวันเสาร์อาทิตย์ไม่ได้  เป็นงานที่มีเพลง,ภาพยนต์,หนังสือทำมือต่าง ๆ ของศิลปินทั้งอินดี้และไม่อินดี้นำออกมาวางจำหน่ายกัน  มีคอนเสิร์ตที่แบ่งเป็นหลายเวทีสำหรับแนวเพลงต่าง ๆ ให้เที่ยวชมกันอย่างสนุก  ไอ้กิงพาผมไปแทบทุกปี  ปัญหาใหญ่ที่พบคือรถติดฉิบเป๋งกับหาที่จอดรถยากฉิบหาย

     

    อืม  เอาดิ  ไปกับเมิงก็ดี  ผมตอบรับแบบไม่คิดอะไรมาก

    จริงบ่อ้าย  อ้ายห้ามผิดสัญญาเน้อ  เดี๋ยวต๊อดสิรีบไปรับอ้าย  บ่ให้อ้ายต้องรอสักวินาทีเดียว  ไอ้ต๊อดทำหน้าดีใจเหมือนได้โล่ห์  ผมเห็นเหมือนมันแอบมีหางอีกแล้ว

    เออ  ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นหรอกเมิง  งานมีตั้งวันเสาร์  ใจเย็น ๆ เว้ย  ผมยื่นมือไปตบไหล่ให้มันเพลาอาการเหมือนคนขาดยาลงบ้าง

     

    โครม!!”  เสียงดังของอะไรสักอย่างกระแทกโสตประสาทจนพวกผมสะดุ้ง  หันไปตามเสียงนั่น

     

    เฮ้ย!  ไอ้กิง  เมิง  เตะบอลไปไหนของเมิงวะ  เสียงเพื่อนโวยวายด่าไอ้กิงที่ไปเตะบอลอัดกำแพงตึกเข้าแทนที่จะเตะเล่นกันในสนาม 

     

    ไอ้กิงไม่ตอบอะไร  ใบหน้านิ่งนั้นดูมีอารมณ์เคือง  ไอ้กิงคว้าเอาเสื้อนักศึกษาที่ถอดพาดไว้มาสวมอย่างลวก ๆ  ก่อนเดินออกจากสนามหญ้ามาทางพวกผมที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหินใกล้กับซุ้มโค้ก 

     

    ไอเร  กลับหอ  เหนียวตัวแล้วกรูอยากอาบน้ำ  มันบอกหรือสั่งดี  ใบหน้านิ่งน้ำเสียงฟังดูเหมือนเหม็นอะไรมา

    ผมหันไปมองหน้ามันออกอาการงงเล็กน้อย  หา?  แล้ววันนี้เมิงไม่กลับบ้านแล้วไง  เห็นบอกกรูว่าจะกลับบ้าน 

    ไม่กลับแล้ว  กรูขี้เกียจขับรถ  มันตอบมาห้วน ๆ

    งั้นเมิงก็กลับหอไปก่อน  กุญแจห้องกรูเมิงก็มีแล้ว  เดี๋ยวกรูว่าจะไปเล่นฟิตเนสก่อนแล้วค่อยกลับหอว่ะ  ผมยังคิดดำเนินตามแผนฟิตกล้ามอยู่นะครับ

    ไม่  เมิงกลับไปกับกรูด้วย  ไอ้กิงยังยืนยัน  เริ่มเอื้อมมือมาคว้าแขนผมดึงดันให้ไปด้วยกันให้ได้

     

    อั้ยกิงนิ  อ้ายเรเขาไม่อยากปิ๊ก  อั้ยก็ปิ๊กไปก่อนเน้อ  ตัวบ่ได้ติดกัน  ผมคิดว่าไอ้ต๊อดเป็นรุ่นน้องเพียงคนเดียวที่กล้าเถียงไอ้กิงแบบไม่ลืมหูลืมตา

     

    ไอ้กิงเสมองไอ้ต๊อดนิ่ง ๆ  แล้วหันกลับมาแบบไม่สนใจ  ไป  กลับหอ  กรูจะดูเรื่องเด่นเย็นนี้  เดี๋ยวไม่ทัน  อ๋อ  อยากดูข่าวนี่เอง  แต่

    ไม่ทันแล้วล่ะเมิง  นี่มันเริ่มค่ำแล้ว  จบไปแล้ว  ผมบอกมันไป

    งั้นกลับไปดูประเด็นร้อนวันใหม่  มันยังชวนผมไปดูข่าวรายการใหม่

    รายการนั้นมันมาตั้งดึก  แล้วเมิงจะรีบกลับไปทำไมตั้งแต่ตอนนี้วะ 

     

    ไอ้กิงเงียบ  ใบหน้าครุ่นคิด  เรื่องเล่าเช้านี้  กรูติดข่าวอยู่  ไปรีบกลับ  มันออกแรงดึงแขนผมมากขึ้น

     

    อั้ยกิง  อั้ยดูโทรทัศน์บ้างป่าว  ชื่อบอกอยู่ว่าเรื่องเล่าเช้านี้  รายการก็ต้องมาตอนเช้าสิอั้ย  แต่ตอนนี้เวลาจะหนึ่งทุ่มแล้วนะอั้ย  ไผที่ไหนจะมาจัดรายการตั้งแต่ตอนนี้  วู้  ตัวโตซะเปล่า  สมองเล็กจริง  ไอ้ต๊อดแสยะปากเหยียดหยามเมื่อพูดจบ  ผมคิดในใจ  เมิงช่างกล้า

     

    ไอ้กิงปรายตามองไอ้ต๊อด  ผมแอบขนลุกเมื่อเห็นความหฤโหดในสายตานั่น  ผมกลัวไอ้พี่น้องสายรหัสคู่นี้จะชกกันหลังฟาดปากกันเสร็จ  ในเมื่อพี่ก็บ้าและน้องก็เวรเช่นนี้  ผมเลยกะจะตัดบทซะก่อน

     

    งั้น  แต่เสียงไอ้กิงดังแทรกขึ้นมาแทน  ผมกับไอ้ต๊อดหันไปมองหน้าไอ้กิง  หน้ามันเหมือนคิดอะไรอยู่

     

    งั้น...  ผมเลียนเสียงมัน  รอว่ามันจะพูดอะไร

    งั้น...งั้น  ไอ้ต๊อดเอียงคอพูดตาม  รอฟังด้วยอีกคน 

     

    ไอ้กิงก้มหน้าต่ำมองผมกับไอ้ต๊อดที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหิน  โดยตัวมันยืนค้ำสูงอยู่  มือยังคงคว้าแขนผมเอาไว้

    งั้นไปดูจูมง  นางเอกจะแข่งทำกับข้าว  ตอนกำลังน่าลุ้นเลย  อีกหนึ่งรายการที่มันชวนผมกลับไปดู

     

    ...  มีเพียงความเงียบแทนคำตอบ  ก่อนที่ผมจะ  ฮ่า ๆๆ  บ้าเรอะเมิง  เคยดูบ้างป่ะเนี่ยะ  นั่นมันแดจังกึมเว้ย  แล้วนั่นก็จบไปตั้งนานแล้วด้วย  ผมหัวเราะเสียงดังพอ ๆ กันกับไอ้ต๊อดด้วย  หน้าอย่างไอ้กิงดูละครผมว่าแปลกแล้ว  ยังจะชวนกลับไปดูซีรี่ส์เกาหลีแบบถูก ๆ ผิด ๆ อีก

     

    เออ  ช่างแมร่งเหอะน่า  จะอะไรก็ช่างหัวมัน  แต่กรูจะกลับแล้ว  ไอ้กิงพูดน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ  แล้วออกแรงรั้งแขนผมอีกทีสองที 

    อืม ๆ รู้แล้ว ๆ กลับก็ได้  กรูเริ่มเหนื่อยเหมือนกัน  ผมตัดสินใจลุกขึ้นจากโต๊ะกลับพร้อมมัน  ก็อุตส่าห์ขนรายการมาทั้งโทรทัศน์ขนาดนี้

     

    อ้าว  อ้ายเร  ใยอ้ายทิ้งต๊อดง่าย ๆ เยี่ยงนี้เล่า  เสียงตัดพ้อของเอี้ยน้องต๊อด

     

    ผมหันไปมองตามเสียง  รู้สึกเริ่มหน่าย  มีตัวปัญหาทีเดียวพร้อมกันสองคน  

    เอาเหอะน่าเมิง  วันนี้กรูเริ่มเหนื่อยแล้ว  กลับกันไปก่อน  แล้วค่อยเจอกันวันที่ไปงานแป๊ดนะ  พูดจบผมก็ยิ้มหวานให้อีกทีนึง  เอี้ยน้องต๊อดยิ้มรับกว้างใบหน้ามีความสุขก่อนจะแยกย้ายกันไป  ผมแอบถอนหายใจ  เหนื่อยมาทั้งวัน

    .

    .

    .

    เร  เสาร์นี้จะออกกี่โมงวะ  ไอ้กิงถามผมเมื่อถึงหอพัก

    หา  ออก?  ออกไปไหนวะ  ผมงงอยู่ ๆ ก็มาถาม

    งานแป๊ดไง  จะออกไปสักกี่โมงดี  เอาแบบไม่สายมากละกัน  รถจะได้ไม่ติด  ไอ้กิงขยายความ

    อ๋อ  ผมนึกออก  ทำไมวันนี้ใคร ๆ ก็ชวนผมไปหว่า  เมิงไม่ต้องมารับกรูหรอกวันนั้นน่ะ  กรูนัดกับไอ้ต๊อดไว้แล้วว่าจะไปพร้อมมัน  เมิงจะได้ไม่ลำบากเทียวรับเทียวส่งอยู่  ผมต้องปฏิเสธมันไป

     

    ไอ้กิงนิ่งเงียบ  คิ้วขมวดเข้าหากัน  มีแววยุ่งเหยิงฉายบนใบหน้า  มันมองหน้าผมเหมือนมีอารมณ์เคือง

    เออ  งั้นเจอกันที่งานแป๊ดละกันว๊ะ  มันบอกเสียงขุ่น ๆ

    ผมยิ้มรับ  ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนมีความสุข  อืม  แล้วค่อยเจอกันวันเสาร์นะ 

     

    แป๊ด  เฟสติวัลปีนี้คงมีอะไรน่าตื่นเต้นรอพวกผมอยู่นะ  ผมนึกสนุกในใจ  แล้วเจอกันงานแป๊ดนะครับ

     

    --------------------------------------------------

     

    TBC.

     

    ภาพวาดกิงกะเรโดยคุณ mo_dm ค่า  สวย  เอ็กซ์  เซ็กซ์  เร้าใจมากมาย  ชอบค่าชอบ  ท่าจะให้ดีขอแบบเต็มตัวจะสะใจหื่น ๆ ของว่างมาก  ฮ่า ๆๆ  แล้ววาดมาให้ดูให้เป็นเกียรติเป็นศรีอีกนะค้า

     

     

    เดี๋ยวว่างจะมาคุยมาตอบเม้นท์พรุ่งนี้นะค้า  แล้วเจอกันค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×