ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gintama Fiction: Falling Slowly (( Sougo X Kagura ))

    ลำดับตอนที่ #6 : คนที่ชอบพูดว่าไม่สนใจเรื่องของชาวบ้าน แต่พอได้ยินคนอื่นคุยกันก็หูผึ่งทุกที!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.04K
      49
      25 ม.ค. 53

     

    ...เราเกิดมาด้วยกัน...

    ...เรามีสายเลือดเดียวกัน...

    ...จิตวิญญาณของเราเชื่อมโยงกัน...

    ...เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน...

     

    ...เขาเกิดมาเพื่อปกป้องเธอ  เธอเกิดมาเพื่อดูแลเขา...

     

    แล้วทำไม?

     

    แปะ!

     

    หยดน้ำเล็กๆหล่นลงบนแก้มของนักดาบมือหนึ่งแห่งชินเซ็นงุมิ  โอคิตะ  โซโกะพยายามฝืนลืมตาขึ้น  ร่างเล็กบางของคางุระยืนค้ำหัวเขาอยู่  เขามองไม่เห็นหน้าเธอ

     

    ไปโรงหมอกังน่ออาตี๋ เสียงนั้นกล่าวกับเขาเบาๆ 

     

    ร่างของโซโกะถูกยกสูงขึ้นจากพื้น  เขารู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังอยู่บนแผ่นหลังของคางุระอีกครั้ง  แม้สติใกล้หลุดเต็มที  แต่เขาก็แน่ใจว่าแผ่นหลังนั้นกำลังสั่นสะอื้น

     

    ร้องไห้?โซโกะถามอย่างอ่อนแรง

     

    คางุระไม่ตอบ  เขาถอนหายใจ  ซบหน้าลงกับแผ่นหลังของเธอ

     

    สักวันเจ้านั่นจะกลับมา  ไม่สิ...เขาต้องกลับมาแน่  ฉันรู้

     

    โอคิตะกล่าว  สายตาของคามุอิยังคงฉายชัดในความคิด  แม้จะแค่แวบเดียวแต่เขาก็จำได้

     

    ...เจ้าบ้านั่นเป็นคนยังไงกันแน่...

     

    น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาจากดวงตาสีน้ำเงิน  คางุระร้องไห้  เดินแบกโซโกะไปตามถนน  เธอจงใจเดินออกห่างจากย่านที่มีคนพลุกพล่าน  เส้นทางที่ทอดยาวเบื้องหน้ามืดและเปล่าเปลี่ยว  มือของเขากอดคอเธอหลวมๆจากด้านหลัง  แต่เพียงเท่านั้นความอบอุ่นก็แผ่ซ่านมาถึงเธอจนเต็มตื้อ

     

    ...คนที่นี่  ไม่ว่าใครก็ไม่เคยทิ้งเธอให้เดียวดาย... 

     

    ถ้าหากว่า...ถ้าหากว่า...วันหนึ่งกินโทกิต้องฆ่าพี่ชายของเธอ  เธอจะทำยังไง?

     

    แต่เธอก็ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บตัวด้วยสาเหตุที่มาจากตัวเธอ  หรือสายเลือดของเธออีกแล้ว

     

    วันที่เธอตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตที่นี่  คือวันที่เธอยืนหยัดว่าจากนี้ไป  เธอจะต่อสู้เพื่อปกป้องไม่ใช่ทำลาย 

     

    ...เธอจะปกป้อง...

     

    คางุระไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมา  เธอเงียบ  เงียบจนน่ากลัว  มีเพียงสายตากร้าวและความแน่วแน่ฉายชัด  มันคือช่วงเวลาที่ตัวเธอเปลี่ยนจากเด็กผู้หญิงขี้โวยวายไร้สาระเป็นใครอีกคน...ใครอีกคนที่เขาไม่เคยรู้จัก  ใครอีกคนที่ทรงอำนาจ 

     

    แต่อย่างไรก็ตาม  บางสิ่งบางอย่างบอกเขาว่าคางุระก็คือคางุระ  ไม่ว่าเธอจะเก็บงำอะไรไว้สักเท่าไร  เขายังคงเชื่อในสิ่งที่เขาสัมผัสได้ถึงวิญญาณของผู้หญิงคนนี้

     

    เพราะไม่เคยมีใคร...ล่วงล้ำเข้ามาในจิตใจของเขาได้มากไปกว่าเธออีกแล้ว 

     

    ............................................................................................................................................

     

    พรีเคียว~  พรีเคียว~  ติ๊ด!

     

    ฮัลโหล  ครับ  ใช่ครับ  หือ?...โอคิตะ........

     

    ..........................

     

    .........

     

    ห๊า!!!

     

    เสียงแปดหลอดดังสนั่นจากรองปีศาจฮิจิคาตะ  ดังจนทำให้หลายคนในที่ทำการชินเซ็นงุมิถึงกับต้องจ้ำอ้าวมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

     

    ครืดดดดด~

     

    แน่นอน...คนที่มาถึงก่อนคนแรกคือ

     

    เกิดอะไรขึ้นเหรอโทชิ!!  ทำไมทำเสียงเหมือนเพิ่งรู้ข่าวทางโทรศัพท์ว่าโซโกะซี้ม่องเท่งยังงั้นล่ะ!!” ลูกพี่ใหญ่กอริล่าซังนั่นเอง

     

    นี่ผมยังไม่ได้เล่าอะไรเลยนะโว้ยครับ!!  ถ้าถามแบบนี้ผมว่าไม่ต้องถามเลยยังจะดูแนบเนียนกว่าอีก!!”

     

    ห๊า!  แปลว่าโซโกะตายแล้วจริงๆงั้นเร้อออ!!”

     

    แค่เดี้ยงเฉยๆโว้ย!!  เจอไอ้ลูกพี่ตัวเบ้งของกลุ่มฮารุซาเมะอัดน่วม  ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล...

     

    หา!!  หัวหน้าหน่วยโอคิตะถูกอัดเดี้ยงงั้นเร้อ!  เปนปายม่ายด้ายยยย~”

     

    พวกลูกน้องที่ยกขบวนกันตามมาพอได้ยินเข้า  ก็มีรีแอคชั่นยิ่งกว่าเห็นโอทาเอะรับรักคอนโด้ซะอีก

     

    โธ่เอ๊ย...เห็นกันอยู่หลัดๆเสียงสะอื้นดังขึ้น  แต่ฮิจิคาตะรู้สึกว่ามันฟังดูสะใจยังไงก็ไม่รู้

     

    นี่พวกแก  ฉันบอกว่าเจ้านั่นยังไม่ตายไงล่ะ

     

    ยังหนุ่มแท้ๆ  ไม่น่าด่วนจากไปเลยอีกคนหนึ่งสั่งน้ำมูกใส่ทิชชู่ดังพรืด  เขาอาจคิดไปเองก็ได้ว่าเจ้านั่นกำลังกลั้นหัวเราะอยู่ด้วย

     

    เฮ้ๆ  มันยังไม่ตาย...

     

    ท่านโอคิต่า~” เสียงร้องไห้ระงมดังไปทั่วชินเซ็นงุมิอย่างรวดเร็ว

     

    ........

     

    เป็นไปได้ยังไงกัน!  ทำไมโซโกะถึงไปฉะกลุ่มสลัดอากาศนั่นได้ล่ะโทชี้~”

     

    คอนโด้พูดเสียงสั่นน้ำตาไหลพรากยิ่งกว่าญาติตาย  ฮิจิคาตะไม่แปลกใจหรอก...เพราะการที่ได้รู้ว่าโซโกะแพ้ใครสักคน  มันเป็นเรื่องที่สุดแสนจะน่าเศร้า

     

    ...จริงๆนะ...

     

    ใบหน้าคมเข้มแสยะยิ้มกว้าง

     

    อย่ากังวลไปเลยน่า  มันไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาลเลยสักนิด  อันที่จริง...มันไม่ใช่เรื่องงานด้วยซ้ำไป  ที่โซโกะโดนเล่น  เป็นเพราะปัญหาส่วนตัวล้วนๆ

     

    อย่าบอกนะครับว่าหัวหน้าโอคิตะจีบแม่ยายของหมอนั่น!!”

     

    นี่...ยามาซากิ ฮิจิคาตะหันไปสบตากับลูกน้องหน้าจืด

     

    แกเป็นพวกที่...เวลาดูหนังจะชอบสปอยล์เพื่อนข้างๆว่าฉากต่อไปจะเป็นยังไงใช่มั้ย?

     

    ผิดแล้วยามาซากิ... คอนโด้กอดอก  พูดโต้แย้งด้วยมาดนิ่งคินดะอิจิ

     โซโกะน่ะไม่จีบใครหรอก  แต่เจ้านั่นไปเล่นซาดิสม์กับแม่ยายของศัตรูต่างหาก  อีกฝ่ายถึงได้โกรธแค้นขนาดนี้ยังไงล่ะ

     

    ครับ ฮิจิคาตะตอบรับด้วยมาดที่นิ่งกว่าร้อยเท่า ผมจะไม่เชื่อสิ่งที่คุณคอนโด้เล่าให้ฟังไปตลอดชีวิตแน่นอนครับ

     

    ............................................................................................................................................

     

    เฮ้  คางุระ

     

    กินโทกิเอ่ยปากทักเด็กสาวที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ยาวสำหรับรอในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง  ชินปาจิที่ตามมาด้วยมีสีหน้าสลดใจอย่างเห็นได้ชัด

     

    ไม่เป็นไรนะ  คางุระจังหนุ่มแว่นถามด้วยนิสัยขี้กังวล

     

    ตามร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำ  เสื้อผ้าหลุดลุ่ย  ดูยับเยินไม่น้อยเลยทีเดียว  แต่อะไรมันก็คงไม่เท่ากับการที่เธอนั่งก้มหน้ามองพื้นด้วยสายตาว่างเปล่าเสมือนว่าจมอยู่ในห้วงความคิดอันสับสน  และแม้พวกเขาจะเข้ามาอยู่ข้างๆ  แต่เธอก็ยังไม่ยอมหันมาสบตาด้วยซ้ำไป

     

    ...พวกเขาไม่ชอบให้เธอเป็นแบบนี้เลย...

     

    คางุระตามปกติที่ร่าเริงจนติดจะงี่เง่าไม่เคยทำสีหน้าหงอยเหงาแบบนั้น

     

    ไม่มีใครถามซ้ำถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  คุณกินทรุดร่างนั่งลงข้างๆสาวน้อยที่ทำให้เขาชักจะรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นพ่อจ๋าก่อนวัยอันควรมากขึ้นทุกวัน

     

    ฝ่ามือหนาใหญ่แต่อบอุ่นวางลงบนหัวของเธอก่อนจับโยกไปมาเบาๆอย่างเอ็นดู

     

    หงอยเชียวน้า  คิดมากไปได้  เจ้านั่นไม่ตายง่ายๆหรอกน่า

     

    อากินจัง คางุระเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่ไม่ว่าเมื่อไร  ไม่ว่าที่ไหน  ก็มักจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ  ในเวลาที่เธอโดดเดี่ยว  อับจนหนทาง

     

    กินโทกิขยี้หัวคางุระจนผมเริ่มกระเซิง  ปากก็บ่นๆอะไรไม่รู้ยืดยาวสมกับตำแหน่งตาลุงไม่ได้ความประจำเรื่อง(รองจากมาดาโอะตัวจริง)

     

    เจ้าพี่บ้าของหล่อนน่ะ  เดี๋ยวสักวันฉันจะปราบให้จั๋งหนับเลยคอยดู  สักวันเจ้านั่นจะต้องรู้จักทำมาหากินอย่างอื่นนอกจากไล่หั่นคอชาวบ้านซะมั่ง  ไม่ไหวเลยน้า  เป็นผู้ชายแบบนี้จะดูแลครอบครัวในอนาคตได้ยังไงกัน

     

    คุณยังจะมีน้ำหน้าไปสั่งสอนใครอีกเหรอครับ  แค่ตัวเองยังเอาไม่รอด  แถมสันหลังยาวขนาดนี้ยังกล้าคิดจะไปสอนชาวบ้านเรื่องความรับผิดชอบอีกเหรอครับชินปาจิตบมุขจนชิน  เผลอตัวย้อนเข้าให้หนึ่งดอกจนได้ 

     

    อ๊ะ...ขอโทษครับ  คางุระจัง  ผม...

     

    ทุกอย่างยังเหมือนเดิม  ทุกคนยังคงเห็นเธอเป็นคางุระของพวกเขาเหมือนเดิม  ไม่ว่าที่จริงแล้วเธออาจจะเป็นอะไรที่ดุร้าย  เหมือนคามุอิ  เหมือนยาโตะอื่นๆ

     

    น้ำอุ่นๆเริ่มปริ่มเต็มขอบตา  เสียงเริ่มจะสั่นอย่างไร้การควบคุม

     

    อากินจัง...  อาชินปาจิ...

     

    เฮ้ๆๆ 

     

    คุณกินเริ่มเห็นท่าไม่ดีเมื่ออาหมวยทำท่าจะทำนบแตก

     

    อั๊วะ...อั๊วะ...เกือบทำคนซี้เลี้ยวน่ออากินจัง

     

    เสียงพูดปนกับเสียงสะอื้นอู้อี้ฟังแทบไม่เป็นภาษา

     

    อั๊วะเกือบจะปล่อยให้อีตาย  อีเกือบจะตายจริงๆน่ออากินจัง  อั๊วะช่วยอะไรม่ายล่าย  ทำอะไรไม่ล่ายเลย  อาตี๋นั่นมาช่วยอั๊วะ  เลี้ยวอีก็ต้องมาเดี้ยงอ่ะน่อ  อั๊วะเผลอทำคนอื่นเจ็บอีกเลี้ยว... 

     

    โวยวายทั้งน้ำตาอย่างเจ็บแค้น  และรังเกียจเดียดฉันท์ในความไร้พลังของตัวเองเหลือเกิน

     

    ปัดโธ่...เด็กน้อยเอ๊ย 

     

    ที่จริงแล้วเขาควรจะตบหัวเรียกสติหล่อนสักป้าบ  แล้วบอกว่า

     

    ...เธอคิดว่าเจ้านั่นจะยอมตายง่ายๆหรือไง  เธอคิดว่าเขาจะปล่อยให้เธอต้องทุกข์ใจที่เขาต้องมาตายเพราะเธอเหรอ  เธอต้องเชื่อมั่นในตัวหมอนั่นเซ่!...

     

    ลูกผู้ชายเขาต้องรู้จักยอมรับในการตัดสินใจของกันและกัน  แต่ช่วยไม่ได้แฮะ  เธอเป็นผู้หญิงนี่นะ  ถึงจะรู้เรื่องนั้นอยู่เต็มอกแต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้

     

    คุณกินดึงร่างเล็กๆนั่นเข้ามาโอบจนเต็มอ้อมกอด  ชินปาจิเป็นพวกอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว  เผลอน้ำตาซึมก่อนเข้าผสมโรงเข้าไปกอดทั้งคางุระทั้งคุณกินกับเขาด้วยคน  ใครมาเห็นสภาพของคนสามคนกอดกันตอนนี้อาจชวนให้ตะขิดตะขวงใจพิลึก  แต่เหล่าสมาชิกร้านรับจ้างสารพัดลืมคิดไปสนิท

     

    แล้วพวกชินเซ็นงุมิล่ะ คุณลุงผมเงินถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่น่าจะมีแต่พวกเขา

     

    เข้าไปเยี่ยมอาตี๋ในห้องกันอยู่น่อ

     

    ................................................................................

    ...................................

    ................

     

    โซโก่~”

     

    เสียงตะโกนทั้งน้ำตาของคอนโด้ดังลั่นขนาดที่ผู้ป่วยระยะสุดท้ายห้องข้างๆคงอยากจะลุกขึ้นมาเอาเสาน้ำเกลือฟาดหัว

     

    ใคร...ใคร๊...ใครมันทำแกอย่างนี้โซโกะ  บอกลูกพี่สิ  บอกมา!  ลูกพี่จะไปฆ่าม้าน~!!”

     

    คุณคอนโด้ครับ  ผมจะตายก็เพราะพลังคลื่นกระแทกเสียงแปดหมื่นเดซิเบลของคุณนั่นแหละ

     

    ใจเย็นก่อนครับหัวหน้า ยามาซากิพยายามลากคอนโด้ออกจากเตียงผู้ป่วยที่เขาปีนขึ้นไปเพื่อเขย่าตัวโอคิตะ

     

    ...นี่ตูมีหัวหน้า  หรือกำลังเลี้ยงลิงอยู่ฟะ...

     

    หนุ่มจืดประจำสำนักแอบคิดเอือมๆ

     

    รองหัวหน้าฮิจิคาตะยืนกอดอกเงียบๆอย่างไม่ยินดียินร้าย  ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

     

    งานนี้คงทำอะไรไม่ได้หรอกนะ  เพราะเจ้านั่นมีเอี่ยวกับระดับสูงของบาคุฟุอย่างที่รู้กัน  ฉันจะไม่บอกว่าแกคงเจ็บตัวฟรี  แต่ฉันจะบอกว่าแกโชคดีมากที่รอดชีวิตจากหมอนั่นมาได้

     

    แต่แปลกจังนะครับที่หัวหน้ากองโอคิตะรอด ยามาซากิท้วงขึ้นแบบไม่กลัวตาย เพราะหมอนั่นไม่เคยละเว้นใครมาก่อนเลย

     

    ฮิจิคาตะหัวเราะหึเบาๆ  ตวัดสายตารู้เท่าทันแลร่างที่นอนอยู่บนเตียง ดูท่ามันจะถูกใจแกน่าดูนะ

     

    ผมรู้สึกว่าตัวผมกับเจ้านั่นมีอะไรบางอย่างคล้ายกันน่ะครับ  คนเราก็มักจะถูกใจคนที่คล้ายกับตัวเองทั้งนั้นแหละ  ใช่มั้ยครับคุณฮิจิคาตะ

     

    โอคิตะพูดหน้าตาย  ดวงตาใสซื่อมองตรงไปยังฮิจิคาตะที่กระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที  เขารู้จักโซโกะดีเกินกว่าจะไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่ไม่ได้พูดลอยๆ 

     

    มันมักจะรู้ทันเขาเสมอๆในทุกเรื่อง 

     

    เมื่อพูดอะไรมากไม่ได้  เพราะอาจกลายเป็นเชือกตวัดกลับมามัดตัวเองให้ดิ้นไม่หลุดภายหลัง  ฮิจิคาตะจึงทำได้แค่แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมแต่ไม่มีใครทันสังเกตเห็น

     

    คุณคอนโด้  กลับกันได้แล้วน่า  รองปีศาจเฉไฉไปเรื่องอื่น  พร้อมกับลากหัวหน้าแห่งชินเซ็นงุมิลงจากเตียงคนป่วย เดี๋ยวผมนอนเฝ้ามันเองน่า  คุณกลับไปทำอย่างอื่นเหอะ

     

    ไม่น้า  ไม่อ๊าววว  โซโก๊ะ!!”

     

    ยามาซากิ

     

    ครับ!”

     

    รู้ใช่ไหมว่าต้องทำไง ฮิจิคาตะเริ่มใช้นิ้วนวดขมับเบาๆอย่างปวดหัว

     

    ครับ!”

     

    พูดเรื่องอะไรกันน่ะโทชิ  แอ่ก!”

     

    โครม!

     

    คอนโด้ไม่ทันจะรู้ตัว  ตอนที่ยามาซากิคว้าเอาแจกันดอกไม้(ของโรงพยาบาล)ทุ่มใส่กบาลเขาเต็มแรง  และต่อให้ฟื้นขึ้นมาเขาก็คงไม่รู้อยู่ดีว่าเขาสลบไปได้ยังไง

     

    ถ้าไม่ทำงี้  มีหวังไม่ยอมกลับแหงมฮิจิคาตะพึมพำ  ก่อนสั่งลูกน้องที่ทำหน้าที่ดีเกินคาด  เอากลับไปเลย

     

    ยามาซากิแบกกอริล่าเพศผู้ออกไปจากห้องตามคำสั่งเป๊ะๆ  แต่ใครใช้ให้มันใช้แจกันของโรงพยาบาลฟะ  เอาเถอะ...ค่าชดใช้แจกันนั่นก็หักจากเงินเดือนมันแล้วกัน

     

    หลังจากตัวเกะกะ(?)ทั้งคู่กลับไป  ฮิจิคาตะก็ได้โอกาสพูดคุยกับโซโกะในเรื่องที่เจ้าตัวอยากรู้จริงๆจังๆสักที

     

    ตอบมาตามตรงโซโกะ เขาเริ่มทันทีเมื่อแน่ใจว่าสองคนนั่นไปแล้วจริงๆ แกคิดจะทำยังไงต่อ

     

    โอคิตะ  โซโกะมองดวงตาสีดำดุดันคู่นั้นอย่างสงบ  และไม่ตอบคำถาม  ความแน่วแน่ในสายตาทำให้ฮิจิคาตะรู้ว่าเขาไม่อาจคาดคั้นคำตอบใดจากคนตรงหน้าได้อีกแล้ว

     

    ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ 

     

    ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร

     

    ผิวเผินภายนอก  โซโกะอาจดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจ  ไม่มีเหตุผล  แถมติดจะเห็นแก่ตัวหน่อยๆ  แต่มันไม่ใช่หรอก  มีเพียงพวกเขาที่รู้ว่าไม่ใช่  โซโกะ...อาจเป็นคนซาดิสม์  แต่มันเป็นคนดี 

     

    ช่วงเวลาที่ผ่านมา  เขาเคยละทิ้งผู้หญิงคนแรกที่เขารัก  เพื่อให้เธอได้มีความสุขกับชาย...ผู้ซึ่งไม่ได้มีชีวิตอย่างพร้อมจะตายตลอดเวลาอย่างเขา  พวกเขาทุกคน  ต่างทอดทิ้งความสุข  ความภูมิใจ  ครั้งแล้วครั้งเล่า  เพียงเพื่อจะปกป้องคนที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญ

     

    โซโกะเองก็ไม่แตกต่าง

     

     โซโกะ  แกน่ะ...ควรรู้จักที่จะรักตัวเองซะบ้าง

     

    นัยน์ตาคมเข้ม  บัดนี้ทอดมองบุรุษผู้ที่เขารักมันเสมือนน้องชายร่วมสายเลือด  ความดุที่มักจะฉายอยู่ในแววตากลับอ่อนแรงลง  กลับกลายเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเปราะบางหลากหลาย  และเหนือสิ่งอื่นทั้งปวง...มันคือความห่วงใย

     

    เด็กหนุ่มเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ  เผลอทำหน้าเหวอออกมาอย่างไม่รู้ตัว  ความรู้สึกผิดลึกๆ(ลึกมากๆ)ต่อคนตรงหน้าก่อตัวขึ้นช้าๆ  คำพูดของกินโทกิที่ครั้งหนึ่งเคยพูดไว้กลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง

     

    ...สิ่งสำคัญที่แกจะถูกเจ้านั่นช่วงชิงไป  รวมถึงตัวเจ้านั่นด้วยใช่ไหม?...

     

    โซโกะ...อย่าพรากตัวเองออกจากคนที่ต้องการในตัวแกน้ำเสียงทุ้มเจือปนกลิ่นของความเศร้า  อย่าเอาคำว่าเสียสละมาใช้กับความรัก  แต่แกต้องไม่ยินยอมที่จะสูญเสียมันไป  ไม่งั้นคนที่เสียใจที่สุดจะเป็นตัวแกเอง

     

    คนๆนี้...ยังคงเอาใจใส่เขาเสมอมา  ไม่ว่าเขาจะทำตัวเลวร้ายแค่ไหน  หลายครั้งเขาก็รู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เกลียดผู้ชายคนนี้  และคิดว่าถ้าหากวันหนึ่งฮิจิคาตะเกิดตายก่อนเขาไปจริงๆ  คงอดไม่ได้ที่จะคิดถึง 

     

    แต่พอมองหน้าหมอนี่แล้ว  มันหมั่นไส้จนไม่อยากจะยอมรับเลยให้ตายเถอะ

     

    โอคิตะนิ่ง  ก่อนเอ่ยปาก

     

    คุณฮิจิคาตะ...

     

    ฮิจิคาตะส่งสายตาเชิงคำถาม

     

    ขอบคุณมากครับ

     

    สีหน้าของรองปีศาจไม่มีการเปลี่ยนแปลง  และไม่มีอาการตอบรับคำขอบคุณนั้นแต่อย่างใด  แถมยังพูดตัดบทดื้อๆ ฉันจะกลับล่ะ

     

    อ้าว...ไหนว่าจะอยู่ด้วยกัน...

     

    เจ้าชายแห่งดาวซาดิสม์ท้วง  อุตส่าห์คิดแผนฆ่าได้แล้วทั้งที  รู้ตัวชิ่งหนีอีกจนได้แฮะไอ้บ้านี่

     

    ใครจะกล้าอยู่กับแกสองต่อสองตั้งคืนหนึ่งฟะ!”

     

    ฮิจิคาตะพูดพลางสยอง  ไม่ไว้ใจเจ้าคนวิปริตที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อก่อให้เกิดความอับยศแก่ชีวิตของเขาตลอดเวลา

     

    ฉันแค่อยากจะเตือนแกเป็นการส่วนตัวเท่านั้นแหละ  อีกอย่าง...ดูเหมือนมีคนอยากจะอยู่เฝ้าแกอยู่แล้วด้วย

     

    หือ?

     

    ก็คนที่แบกแกมาส่งนั่นไงล่ะ

     

    ............................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×