ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gintama Fiction: Falling Slowly (( Sougo X Kagura ))

    ลำดับตอนที่ #5 : อย่าไว้ใจพวกหน้าตาใสซื่อ เพราะเจ้าพวกนี้แต่ละคนโหดขั้นเทพกันทั้งนั้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.18K
      48
      22 พ.ย. 52

    แก๊ง!

     

    น้ำผลไม้กระป๋องหล่นลงมาในช่องรับสินค้าจากตู้ขายน้ำริมทาง  ดูเหมือนอากาศจะเย็นลงอีกนิดหน่อย  ทั้งที่อุณหภูมิก็ไม่ได้ลดลงจริงๆ  แต่เขากลับรู้สึกว่าอากาศมันหนาวยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก  ครั้งล่าสุดตอนที่รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกแบบนี้  คือตอนที่ท่านพี่มิซึบะสิ้นใจ

     

    ร่างสูงโปร่งถอนหายใจเฮือก  ก้าวเท้าเรื่อยเฉื่อยไปตามถนนเงียบเชียบผิดปกติ  เขาเปิดฝากระป๋องน้ำผลไม้ก่อนยกขึ้นดื่ม  ในใจครุ่นคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรบ้าๆ

     

    มืดค่ำป่านนี้แล้ว  ใครที่ไหนจะไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกันล่ะ  แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน  เพราะคืนก่อนเขาก็เจอกับยัยหมวยตอนกลางคืนนี่นา

     

    นานแค่ไหนแล้วนะ  ที่ไม่ได้รู้สึกจนตรอกแบบนี้

     

    ทั้งที่ใครๆต่างก็แพ้ทางนักดาบซาดิสม์แห่งชินเซ็นงุมิ  ไม่ว่าจะเป็นรองปีศาจที่เลื่องลือ  ไม่ว่าจะเป็นชิโร่ยาฉะที่เก่งกาจ  ไม่ว่าหน้าไหน  ไม่ว่าอะไร  ก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกยอมจำนน 

     

    คนอย่างเขาเนี่ยนะ  คนที่ไม่ค่อยคิดอะไรนอกจากเรื่องแกล้งชาวบ้าน  ผู้หญิงสวยๆกี่คนต่อกี่คนเขาก็แกล้งจนร้องไห้เปิดเปิงมาหมดแล้ว  ทำไมกะอีแค่ยัยเตี้ยที่...แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล...

     

    คิดมาถึงตรงนี้เขาชักตะหงิดๆขึ้นมาว่าบางทีมันอาจเป็นการพ่ายแพ้ที่สมศักดิ์ศรีก็ได้นะ  แต่ยังไงเขาก็ไม่ชอบการพ่ายแพ้อยู่ดี  ไม่ชอบความอึดอัดที่ใจตัวเองคอยแต่จะคิดถึงคนอื่นตลอดเวลา  จนไม่เป็นอันทำอะไร   

     

    ทว่าสัมผัสในตอนนั้น  รอยจูบในตอนนั้น  ภาพของหล่อนในตอนนั้น  มันชัดเจนและฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ  และมันก็มีอิทธิพลเหนือทุกความรู้สึกของเขาในตอนนี้

     

    โซโกะบีบกระป๋องน้ำผลไม้จนบู้บี้คามืออย่างหงุดหงิด  ก่อนขว้างมันลงถังขยะใกล้ๆ

     

    ...สรุปคือเราต้องไปที่นั่นให้ได้ใช่ไหม...

        

    ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจวิ่งไป ที่นั่น โดยไม่เสียเวลาสงสัยในเรื่องอื่นอีกต่อไป

     

    ............................................................................................................................................

    เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

     

    กระสุนจากปลายด้ามร่มพุ่งเข้ามาราวห่าฝน  ไม่มีความปราณีปราสัยใดๆ  คางุระพลิ้วตัวกระโดดหลบอย่างไม่คิดชีวิต  ก่อนวิ่งหายวับไปในเงามืดตรงจุดที่แสงไฟส่องไปไม่ถึง  ร่างเล็กบางไม่กล้าแม้แต่จะหอบหายใจ  ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ตำแหน่งที่เธอซ่อนอยู่  แค่ออกแรงนิดหน่อยน่ะไม่เหนื่อยหรอก  แต่ที่หอบขนาดนี้มันเป็นเพราะความกดดันทางจิตใจ

     

    ...เจ้านั่น  มาทำอะไรที่นี่!...

     

    หึ  เก่งขึ้นนี่นา

     

    ราชาแห่งรัตติกาลรุ่นปัจจุบันผลิรอยยิ้มอ่อนหวาน  หวานจนทำให้ผู้ที่แม้จะร่วมสายเลือดเดียวกันยังต้องสั่นสะท้าน  ร่างปราดเปรียวกระโดดมาจากทางด้านบน  ทอดเงาดำทะมึนทาทับท้องฟ้ายามราตรี  ราวกับเงาร่างยมทูตส่งวิญญาณสู่ปรภพ 

     

    คามุอิยกท่อนขาขึ้นหมายจะฟาดเข้าให้ที่ปลายคางผู้เป็นน้องสาว  ซึ่งถ้าเธอโดนเข้าไปสักดอกไม่แน่ว่าอาจจะได้ไปทัวร์นรกของจริง

     

    แต่คางุระไวทายาทพลิกร่างหลบวูบทันท่วงที  เด็กสาวสปริงตัวลอยจากพื้นก่อนปล่อยหมัดขวาเข้ากลางใบหน้าพี่ชายแต่ถูกหยุดไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว  ส่วนมือเรียวยาวอีกข้างหนึ่งฟาดร่มเข้ากลางลำตัวเด็กสาวก่อนเหวี่ยงหล่อนกระเด็นหวืด  คางุระลอยละลิ่วไปเกือบห้าเมตร  ไถครูดไปตามพื้นคอนกรีต  รู้สึกจุกแต่พยายามฝืนลุก  ตั้งท่าพร้อมรับมือ  กลิ่นคาวเลือดที่ไหลย้อยออกมาตามมุมปากและบาดแผลบริเวณศีรษะอบอวลเต็มจมูก

     

    ...กลิ่นของมันช่างหอมนัก...

     

    สายตาแบบนั้นแหละที่ฉันต้องการชายหนุ่มตวัดหางตามองน้องสาวคนเดียวอย่างถูกอกถูกใจ  เรียวปากบางยังคงเผยอยิ้มน้อยๆ  และเกือบจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา  ดวงตาเรียวเล็กสีน้ำเงินมองเข้าไปในดวงตาเบิกกว้างแฝงความมุ่งมั่นของอีกฝ่าย  มุ่งมั่นจนเกือบจะกลายเป็นดุร้าย  ซาดะฮารุจ้องคามุอิเขม็ง  แต่บางอย่างร้องเตือนมันว่ามันไม่ควรจะเข้าไปขวางการต่อสู้ในครั้งนี้

     

    ลื้อมาทำอะไรที่นี่  คามุอิ น่าแปลกที่น้ำเสียงของคางุระสงบนิ่ง

     

    แค่ผ่านมา...เลยแวะมาเยี่ยมสักหน่อยคำพูดของเขายังคงฟังดูสบายๆจนน่าขนลุก  สายลมหวีดหวิวแผ่วผ่านดูคล้ายจะเย็นกว่าที่เคย  ผิวกายของเธอรู้สึกหนาวจนด้านชา 

     

    แต่เลือดในกายมันกลับร้อนขึ้น

     

    คางุระอยากหัวเราะ  คนอย่างเขาน่ะรึจะคิดมาเยี่ยมเยียนใคร  พี่ชายที่ไปที่ไหนก็มีแต่นำความวิบัติพินาศไปสู่ที่นั่น  ราชาแห่งการทำลายล้าง  ก้อนสัญชาตญาณเดินได้อย่างที่พ่อของเธอเคยพูดไว้

     

    มาหาเหยื่อ เล่นด้วยงั้นสิ

     

    เธอกล่าวถาม  สีหน้าที่มักจะเต็มไปด้วยความร่าเริง  หรือไม่ก็ฉุนเฉียวขี้โวยวาย  บัดนี้กลับเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความเคร่งเครียดระคนหวาดหวั่น

     

    ...ไม่รู้แน่ว่าหวาดหวั่นในสิ่งใด  ระหว่างพี่ชายของเธอ  หรือตัวตนของเธอเอง...

     

    แต่สิ่งหนึ่งที่รู้แน่คือเขาไม่ใช่พี่ชายคนเดิมของเธออีกแล้ว

     

    มือเรียวค่อยๆกำหมัดแน่นจนเอ็นซีดขาวปูดโปน  คางุระรักเมืองนี้  รักเอโดะ  รักผู้คนที่นี่  มันเป็นความรับผิดชอบของเธอ  หากคนในสายเลือดเดียวกันจะก่อเรื่องร้ายๆอะไรขึ้น

     

    ไม่ใช่ที่นี่  คามุอิ

     

    ห่วงอะไรกัน  ฉันไม่ฆ่าเพื่อนของเธอหรอก ใบหน้าของเขาครึ่งหนึ่งกลืนหายไปกับความมืดมิด  เห็นเพียงรอยยิ้มกว้าง ยังไม่ใช่ตอนนี้  ฉันจะอดทนรอ  จนกว่าเธอและเจ้านั่นจะแข็งแกร่งขึ้น  มันถึงจะคุ้มค่าที่ฉันไว้ชีวิตพวกเธอไปในวันนั้น  จริงไหม?

     

    คางุระไม่ตอบ  เธอสับฝีเท้าทะยานไปเบื้องหน้า  ก่อนที่เธอจะทันทำอะไร  คามุอิโผล่มาด้านหลังอย่างไร้สุ้มเสียง  แต่พี่คิดถึงเธอนะ  เลยแวะมา เล่นด้วยนิดหน่อย  คนที่นี่น่ะมีแต่พวกอ่อนแอ  ไม่ทันไรก็ตายง่ายๆซะแล้ว

     

    เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

     

    สาวน้อยคว้าร่มขึ้นมาระดมยิงใส่ผู้เป็นพี่อย่างตระหนก  แต่ไม่ถูกสักนัด  เท้าหนักๆเหวี่ยงใส่ร่างเธอจนกระเด็นอีกครั้ง  เลือดข้นๆทะลักออกมาจนเปื้อนเต็มใบหน้า 

     

    อย่าออมมือนักเลย  นานๆทีจะได้เจอกัน  เต็มที่หน่อยไม่ได้หรือเขามั่นใจนักว่าน้องสาวคนนี้จะต้องเก่งกาจกว่าที่เห็นภายนอก  อย่างน้อยก็ต้องสมกับที่คนของเขาตัดสินใจไว้ชีวิตเธอด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่เขาไว้ชีวิตกินโทกิ

     

    คางุระพลิกตัวกลางอากาศ  และเธอก็ได้รู้ในตอนนั้นเองว่าเธอกำลังจะหล่นลงไปทับคนๆหนึ่ง  ที่ดูเหมือนจะโผล่มาแถวนั้นแบบไม่รู้อิโหน่อีเหน่  แต่ว่า...ทำไมมันดูคุ้นๆ

     

    ว๊ากกกกก!  หลบปายเดี๋ยวนี้น่ออาตี๋!!!” 

     

    เฮ้ยยย!”

     

    พลั่ก!

     

    สองร่างล้มระเนระนาดไม่เป็นท่า  โอคิตะลุกขึ้นมาอย่างงงๆ  มือคลำก้นระบมป้อยๆ 

     

    อะไรของหล่อนเนี่ย...

     

    พูดยังไม่ทันจบ  คางุระก็ตรงเข้ามากระชากคอเสื้อก่อนตะโกนด่าอย่างโกรธจัด 

     

    มาทำอะไรที่นี่ตอนนี้ห๊า!  อยากตายหรือไงน่อ!”

     

    สายตาของคางุระจริงจังราวกับไม่ใช่เด็กสาวคนเดิม  เลือดโชกอาบ  บาดแผลฟกช้ำ  ร่างกายยับเยิน  ไม่บ่อยนักที่เขาจะเห็นเธอในสภาพแบบนี้  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่

     

    เกิดอะไร... เสียงของโซโกะกลืนหายลงไปในลำคอ  ทันทีที่สัมผัสได้ถึงไอเย็นวาบจากด้านหลัง  กลิ่นไอจิตสังหารรุนแรงจนแทบสำลักพุ่งตรงมาที่เขาในเสี้ยววินาที  ไม่เหลือแม้แต่เวลาให้เขาหันกลับไปมองว่าเจ้าของจิตสังหารที่รุนแรงคนนั้นเป็นใคร...

     

    กรงเล็บของคามุอิทะลวงความว่างเปล่าตรงหน้า  เหยื่อของเขาเมื่อครู่ยังยืนอยู่ตรงนี้  เด็กหนุ่มคนนั้น...ไม่น่าเชื่อว่าจะหายวับไปต่อหน้าต่อตามือสังหารหนึ่งในใต้หล้าคนนี้ได้

     

    เคร้ง!

     

    คมดาบปะทะโครงเหล็กของร่มดังสนั่นหวั่นไหว  เจ้าเด็กนั่นโผล่มาจากทางไหนไม่รู้  เกือบตวัดดาบแยกร่างเขาออกเป็นสองท่อน  เพราะความประมาทเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นแค่มนุษย์โลก

     

    อ้าว...ไม่เบานี่นา ใบหน้ายิ้มแย้มไม่อาจข่มความยินดีในน้ำเสียง  ที่เอโดะนี่มีคนที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยจริงๆ

     

    อย่านะคามุอิ เสียงเย็นเยือกของสาวอีกคนในที่นั้นกล่าวขึ้น  ร่างเล็กตรงมาที่พี่ชาย  สายตาบ่งชัดว่าเธอพร้อมฆ่าเขาทีเดียวถ้าหากเขาลงมือทำอะไรกับเจ้าเด็กคนนี้

     

    หึ!”

     

    เสียงหัวเราะหยันดังจากปากของคนที่เขาเพิ่งจะเคยพบหน้าครั้งแรก  เด็กหนุ่มหน้าตาใสซื่อ  แต่ดวงตาสีแดงกลับหรี่ลงต่ำส่อสัญญาณอันตราย  ปากเรียวยิ้มเหยียด  ราวกับว่าเขากำลังนึกสนุกอย่างไร้เหตุผล  ท่าทีเหล่านั้นทำให้หัวใจของคามุอิเต้นแรง 

     

    เรามีกลิ่นเหมือนกันเลยนะ ราชาแห่งรัตติกาลทักทาย เหยื่อ ที่ทำให้การมาเยี่ยมเยียนน้องสาวของเขาคุ้มค่าขึ้นอีกเยอะ

     

    เจ้าชายแห่งดาวซาดิสติคยิ้มแสยะ  ถามตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มานานแค่ไหน  คนตรงหน้านี่คงเป็นพี่ชายของยัยหมวยนั่น  เจ้ายาโตะกลุ่มสลัดอากาศฮารุซาเมะที่เขาหวังอยากจะขยี้ให้ย่อยยับมาตั้งนาน  ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าพวกมันมีเอี่ยวกับข้าราชการระดับสูงของประเทศนี้ล่ะก็

     

    เพราะมีคนของรัฐบาลหนุนหลังเลยกล้ามากำแหงในถิ่นคนอื่นล่ะสิ โซโกะเริ่มพูดบ้าง รู้หรือเปล่าว่าที่นี่ห้ามพกอาวุธน่ะ  หือ?

     

    ไม่พูดเปล่า  โซโกะตรงเข้ามาพร้อมกับดาบในมือ  คามุอิใช้ร่มปัดดาบทิ้งโดยไม่ขยับตัวจากจุดเดิมแม้แต่ก้าวเดียว  ทว่าในต่อจากนั้นไม่ถึงวินาทีเขาต้องกระโจนออกจากตรงนั้นแทบไม่ทัน  คมดาบที่คิดว่าปัดพ้นไปแล้วแว้งกลับมาจนเกือบปาดคอขาดสะบั้น  เฉียดฉิวไปนิดเดียว  เพียงสะกิดลำคอเขาเป็นรอยบาดเล็กๆพอให้เลือดซึมออกมา 

     

    ว้า...พลาดเหรอ น้ำเสียงสะใจไม่เข้ากับคำพูดของนักดาบมือหนึ่งแห่งชินเซ็นงุมิดังขึ้น  ตามมาด้วยการโจมตีไม่ยั้ง  ถึงแม้คามุอิจะหลบได้เกือบหมด  แต่ไอ้การโจมตีรัวแบบไม่เปิดโอกาสให้หายใจแบบนั้นน่าดูชมราวกับเจ้าเด็กนี่ไม่ใช่มนุษย์โลก 

     

    ...ช่างน่าประทับใจ... 

     

    คามุอิหัวเราะออกมาจริงๆ  ดูท่าเขาจะต้องเพิ่มรายชื่อเหยื่อเก็บไว้กินทีหลังอีกสักคนแล้วล่ะ  ถ้าวันนี้มันรอดชีวิตไปได้นะ

     

    หวืด!

     

    หมัดแหวกผ่านอากาศตรงเข้าที่ใบหน้าของโซโกะเต็มๆด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลของยาโตะที่สามารถใช้พังกำแพงหินได้อย่างง่ายดาย  ตามด้วยเตะสอยเข้าให้ที่คางสองครั้งติดจนอีกฝ่ายแทบสลบ 

     

    ...ลำดับต่อไปต้องใช้มือเปล่ากระซวกเข้าไปในท้อง  คว้านให้ข้างในแหลกเหลว... 

     

    ...รสชาติของเลือดเจ้านี่จะเป็นยังไงนะ... 

     

    โอคิตะ  โซโกะถูกอัดร่วงกองอยู่บนพื้น  คามุอิกระชากร่างนั้นขึ้นมา

     

    แกก็เป็นแค่สวะคนหนึ่งนั่น... 

     

    สายตาอะไรกันหรือที่เขาคาดหวังจะเห็นจากคนใกล้ตาย  หวาดกลัว  เกลียดแค้น 

     

    ...แต่เปล่า...

     

    ...เพราะมันยังคงยิ้ม...

     

    ผั๊วะ!

     

    อั๊วะบอกเลี้ยวน่อว่าอย่ามายุ่งกับหมอนั่น!!”

     

    เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับ เหยื่อ ที่น่าสนใจที่สุดในชีวิตหรืออย่างไรไม่ทราบ  คุณพี่ชายลืมคู่ต่อสู้อีกคนหนึ่งไปสนิทใจ  สาวน้อยรอจังหวะนี้มานาน  ส้นเท้าหนักๆเหวี่ยงกระแทกท้ายทอยพี่ชายจนหน้าคะมำ  และแน่นอน...คุณสุภาพบุรุษซาดิสม์เตรียมเสียบอยู่แล้ว

     

    สวบ!

     

    หากสัญชาตญาณการต่อสู้ที่เฉียบคมทำให้คามุอิเบี่ยงตัวหลบปลายดาบก่อนที่มันจะทะลุผ่านลำตัว  มันจึงเพียงแค่ทะลวงผ่านต้นแขนของเขาเท่านั้น  เลือดของตัวเองที่ไม่ได้เห็นมาแสนนาน  ความเจ็บปวดที่น่าอภิรมย์  แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือมีคนที่พร้อมจะฆ่าเขาทีเดียวถึงสองคน  แถมยังเป็นทั้งสองคนที่น่า เล่น ด้วยอย่างที่สุด 

     

    หึๆๆๆ  ฮ่าๆๆๆๆๆ  ฉันชักชอบแกขึ้นมาจริงๆแล้วสิ

     

    ไม่รู้สิ  ตอนนี้ฉันแค่อยากเห็นแกทำหน้าทรมานสุดๆเท่านั้นล่ะนะโซโกะตอบหน้าตาย  และเขาก็คิดอย่างนั้นจริงๆ

     

    คางุระวิ่งไปสบทบกับโอคิตะ  ทั้งสองเข้าคู่กันได้ดีเสมอเวลาต้องการผนึกกำลังกันไล่บี้ใครสักคน 

     

    โอเคมั้ยอาตี๋

     

    ก็ดีนะ  จะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันขอเอาเลือดหัวพี่ชายหล่อนออกสักหน่อยน่ะ

     

    เอาออกสักลิตรก็ล่ายน่ออาหมวยยิ้มเหี้ยม  โซโกะรู้สึกทะแม่งๆคล้ายกับไม่แน่ใจว่าระหว่างพี่กับน้องควรเก็บใครก่อนดี

     

    คามุอิหัวเราะ เข้าใจหาแฟนนะ  คางุระ

     

    ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงเขินอยู่หรอก  แต่เพราะเป็นคามุอิพูด  ทั้งคู่เลยแค่รู้สึกพะอืดพะอมแปลกๆ  แถมคามุอิยังไม่ได้หยุดแค่นั้น  

     

    พี่...ถูกใจจริงๆ

     

    ปากบอกว่าถูกใจ  แต่สีหน้าบอกว่าถูกใจมาก  ส่วนในใจนั้นรู้สึกถูกใจสุดๆ 

     

    ถึงตรงนี้  โซโกะผู้ไม่เคยหวั่นแม้จะถูกจ้องกระซวกไส้ถึงกับขนลุกซู่  ส่วนคางุระลืมตัวตวาดแว้ดๆใส่พร้อมรัวกระสุนถี่ยิบ  คามุอิกระโดดหนีไปยืนอยู่บนพนักม้านั่งตัวยาว  การทรงตัวดีเลิศ

     

    อย่าสะเออะมายุ่งกะคงของอั๊วะน่อ!  ไอ้ตัวแย่งของเล่นเอ๊ย!!”

     

    ขี้หวงเหมือนเดิม  พี่แค่ยืมเล่นหน่อยเดียว...

     

    หน่อยเลียวของลื้อสิน่อ!  กระทั่งตุ๊กตาบาบี๋ยังม่ายเคยเอามาคืงอั๊วะเลย  บอกอั๊วะมาน่อ  ลื้อแอบเบี่ยงเบนใช่ม้ายยยย~!!”

     

    คามุอิไม่ได้บอกว่าที่ตอนนั้นเขาเอามาคืนหล่อนไม่ได้  เพราะเขาดันแยกชิ้นส่วนมันเละตุ้มเป๊ะไปแล้ว 

     

    เอาเลยอาตี๋!”

     

    คางุระร้องบอกคู่หู  สองร่างกระโจนห่างจากกันในทันที  คนหนึ่งมุ่งเผชิญหน้า  อีกคนดักทางอยู่ข้างหลัง  คามุอิโยกตัวหลบหมัดของน้องสาวได้ทุกดอก  แต่เธอก็ไม่ยอมลดละการโจมตีลงเลย  หมัดแล้วหมัดเล่าถูกปล่อยออกไป  ในที่สุดวินาทีที่เขาหันหลังกลับไปเพื่อรับการโจมตีของโซโกะจากด้านหลัง  ก็ต้องโดนลูกเตะของหล่อนเข้าจนได้ 

     

    ด้วยแรงส่งของลูกเตะนั้นทำให้เขาหน้าหันไปอีกทาง  แต่ยังไม่ทันหันหน้ากลับมาดูเป้าหมาย  มือของคามุอิกลับคว้าหัวคางุระไว้ได้อย่างแม่นยำ  ก่อนเหวี่ยงร่างนั้นไปทางโซโกะ  เด็กหนุ่มกระโดดหลบปล่อยให้เจ้าหล่อนกลิ้งหลุนๆไปบนพื้น  ส่วนตัวเองยังคงมุ่งมั่นกับการต่อสู้ตรงหน้า

     

    โอคิตะฟันคามุอิได้แค่สองแผลจากการโจมตีนนับครั้งไม่ถ้วน  ที่ไหล่ซ้ายและต้นขาขวาของราชาแห่งรัตติกาลปรากฎรอยแผลยาวภายใต้ริ้วผ้าฉีกขาด  ดูจากความลึกและเลือดที่ออกมา...ถ้าเป็นมนุษย์ทั่วไปถือว่าฉกรรจ์พอสมควร  แต่คามุอิคล้ายจะไม่รู้สึกรู้สาด้วยซ้ำ

     

    ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้  แม้แต่กินโทกิที่มีฝีดาบดีกว่าเขายังอดหวั่นไม่ได้ว่าพวกยาโตะเป็นสัตว์ประหลาด  ไม่ใช่มนุษย์  ทว่าโซโกะเป็นพวกที่ไม่เคยคำนึงถึงเรื่องพรรคนั้น

     

    เพราะเขาเป็นมนุษย์ที่ไม่เคยประมาณการตัวเอง  และไม่เคยประมาณการใคร  มีโอกาสอย่างมากที่คนอย่างเขาจะต้องจบชีวิตลงในการต่อสู้  เพราะเขาสนุกกับมันจนลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง

     

    ถ้าเช่นนั้นแล้ว...คนอย่างเขากับพวกยาโตะ  ต่างกันตรงไหน?

     

    แม้ซามูไรจะสู้เพื่อปกป้อง  แต่สำหรับเขามันมีบางอย่างที่มากกว่า  เป็นบางอย่างที่ทำให้ชาวสวรรค์หวาดหวั่นต่อพลังอำนาจที่คล้ายจะน้อยนิดของมนุษย์โลก  บางอย่างที่ว่านั้นก็คือ...พวกมนุษย์มักมีอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมายเสมอ

     

    ฉับพลันที่คมดาบญี่ปุ่นวาววับกำลังจะถูกส่งผ่านลำคอของคามุอิ  ยาโตะหนุ่มกลับยืนนิ่งรอรับคมดาบด้วยรอยยิ้ม  สายตาของเขาที่มองมายังนักดาบแห่งชินเซ็นงุมิแฝงความนัยชวนฉงน

     

    ไม่ใช่สายตาของสัตว์ร้ายกระหายเลือด  แต่เป็นสายตาที่ดูเศร้าสร้อยจนเกินหยั่ง 

     

    อาตี๋!  อย่าฆ่าหมอนั่น!!”

     

    มือของโซโกะหยุดชะงักทันที  คางุระรู้ในตอนนั้นว่าเธอได้พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปเสียแล้ว

     

    เด็กสาวไม่ทันเห็นว่าพี่ชายของเธอทำอะไรลงไป  เธอเห็นเพียงแค่ร่างของโอคิตะที่ล้มลง  เลือดที่สาดกระจายเต็มพื้น  และคู่ปรับของเธอคนนั้น...นอนแน่นิ่ง

     

    บางที...มันอาจจะผิดตั้งแต่ตอนที่เธอตะโกนเรียกสติพ่อในวันนั้น  มันอาจจะผิดตั้งแต่ตอนที่เธอช่วยให้เขารอดชีวิต  ในวันที่เขายังไม่กลายเป็นสัตว์ร้ายไล่ทำลายชีวิตคนอื่นไม่เลือกหน้า  อย่างในวันนี้  บางที...บางที...เธอไม่ควรคาดหวังแม้แต่น้อยนิด  ว่าเขาจะกลับมา

     

    เหมือนกับที่เธอเองไม่ควรคาดหวัง  ว่าตัวเธอเองจะไม่กลายเป็น สัตว์ ในสักวัน

     

    เพราะ ณ ตอนนี้  วินาทีนี้  เธอกำลังจะกลายเป็นสัตว์ร้าย

     

    คามุอิ!!”

     

    เสียงคำรามดังลั่นจนพื้นดินสั่นสะเทือน  นกแตกรังพาทั้งฝูงบินออกจากสวนสาธารณะอย่างอลหม่าน  แม้แต่โซโกะที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นยังอดไม่ได้ที่จะ...หวาดกลัว

     

    ไม่ได้กลัวในสายเลือดแห่งยาโตะ  แต่กลัวในความโกรธแค้นของเด็กสาวที่เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่า  เคยรู้จักเธอจริงหรือเปล่า

     

    กล้าดียังไง!” ร่างเล็กย่างสามขุมเข้าหาพี่ชายที่ยืนรออยู่อย่างใจเย็น

     

    ลื้อกล้าดียังไง!!”

     

    คางุระกระโจนพรวดเข้าใส่คามุอิทันที  หลังจากนั้น...ด้วยสายตาของคนธรรมดาแทบจะมองไม่ทันเลยว่าทั้งคู่ต่อสู้กันยังไงบ้าง 

     

    พื้นหิมะกระจุยกระจายเป็นแถบๆ  ต้นไม้หักยับเยินต่อๆกันในคราวเดียว  รวดเร็ว  รุนแรง  บ้าคลั่ง

     

    อาจเป็นเพราะสติอันเลือนรางจากการเสียเลือดมากเกินไป  โซโกะรู้สึกว่าการต่อสู้ของยาโตะร่วมสายเลือดเบื้องหน้านั้น  เหมือนเป็นการต่อสู้ระหว่างยักษ์กับยักษ์  สายตาของเขาพร่าจนแทบมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร 

     

    สิ่งเดียวที่ทำให้เขายังคงมีสติอยู่ตอนนี้  คือคางุระ

     

    อั๊วะเตือนลื้อเลี้ยวน่อว่าอย่ามายุ่งกับคงของอั๊วะ!!”

     

    คางุระพูดอย่างเดือดจัด  คามุอิที่ชักจะมีบาดแผลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆยกหลังมือขึ้นปาดเลือดที่ทะลักออกมาตามจมูกกับปาก  ใบหน้ามีรอยช้ำจากแรงกระแทก 

     

    ไม่เลวจริงๆด้วย พี่ชายเอ่ยชมอย่างอ่อนโยน ฝากบอกคุณเหยื่อหมายเลขหนึ่งแล้วก็คุณเหยื่อหมายเลขสองด้วยล่ะ  ฉันจะรอวันที่พวกนายแข็งแกร่งกว่านี้

     

    คามุอิหมายถึงกินโทกิกับอีกร่างที่นอนน็อกอยู่ตรงนั้น

     

     

    คิดจะหนีงั้นเหรอ!” อาหมวยกัดฟันกรอด  สับฝีเท้าไล่ตามพี่ชายที่บังอาจมาก่อเรื่องแล้วชิ่งหนี

     

    ไม่ต้องห่วง  สักวันพี่กลับมาฆ่าเธอแน่ คามุอิกระโดดหายวับไปในความมืด  เหลือเพียงคำพูดทิ้งท้าย

     

    คืนนี้ช่างสนุกจริงๆ

     

    ............................................................................................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×