Hey Girl02: I can't get you out off my mind, 'Cause you're so cute.
I was thinking I could fly to your hotel tonight
'Cause I-I-I can't get you out off my mind
Can't get you out of my mind
Can't get you off my mind(oh)
;Lost In Japan-Shawn Mendes
________________________________________________________________________________________________________________
มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา นัยน์ตาสีซิทรินมองออกไปนอกบานหน้าต่างของห้องเรียน ตั่งแต่เข้ามาในโรงเรียนเธอยังไม่เห็นคุโรโกะแม้แต่เงาเลย จะโทรไปถามก็กลัวรบกวนอีกฝ่าย ส่ายหน้าอย่างปลงตก หันกลับมามองตรงประตูห้องเรียนครู่หนึ่ง ก่อนจะฟุบลงกับโต๊ะ สงสัยวันนี้คงไม่มาหรอกมั้ง
"มองหาใครอยู่หรอครับ"
"คุโรโกะน่ะ ไม่เห็นตั่งแต่เช้าแล้ว ไม่รู้ว่าไม่สบายรึเปล่า"
"ดูเป็นห่วงมากเลยนะครับ"
ริมฝีปากหนาฉีกยิ้มกว้างยามเจ้าหล่อนพยักหน้าหงึกหงัก หันกลับมามองเพื่อนสนิทที่กำลังกลั้นขำจนไหล่สั่น นั่นก็ทำให้ตนเผลอหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อย เขาไม่ได้แกล้งนะ แต่เธอไม่ยอมหันมามองเขาดีๆเองนี่นา
"ก็ใช่น่ะสิ...นี่นายแกล้งฉันหรอ"
"ผมเปล่านะครับ"
"ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ นายด้วยรึไงไทกะ"
แหวใส่เพื่อนสนิททั้งสองทันควัน ให้ตายสิ เธออยากมุดแผ่นดินหนีชะมัด เพราะเมื่อกี้ดันตอบไปเต็มปากเต็มคำเลยว่าเป็นห่วงเขาน่ะ ส่วนคางามิก็ไม่มีการสะกิดให้เธอดูหน้าคนถามเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะกันอีก ไอ้เพื่อนไม่รักดีเอ้ย หล่อนงอนจริงๆนะเนี่ย
"อะไรล่ะ เธอไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาดูเองนี่ฮ่าๆ"
"ชิ"
"แหนะ ทีงี้มาทำเป็นงอน ปัดโธ่"
กอดอกล้อเลียนร่างบาง หัวเราะร่าอีกหนเมื่อฮิเมะถลึงตาใส่ตน ก็มันตลกจริงๆนี่นา พลันทุกอย่างเงียบลงกะทันหันเนื่องจากอาจารย์คาบโฮมรูมเดินเข้ามาในห้องเรียน กำลังสนุกอยู่เลย
"ฉันเกลียดโจทย์ข้อนี้ชะมัด"
"แต่เธอก็แก้ได้ไม่ใช่รึไง"
"แน่นอน เพราะฉันเก่งไง"
ยักคิ้วใส่คนตัวสูงหนึ่งทีพร้อมกับทำสีหน้าภาคภูมิใจในตัวเองขั้นสูงสุด ชำเลืองมองเหล่าเพื่อนร่วมห้องสักพักหนึ่ง ทำไมพวกผู้หญิงบางคนทำท่าเหม็นเบื่อแบบนั้นล่ะ เธอก็เอาความจริงมาพูดเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้เธอสอบได้อันดับหนึ่งแถมได้อยู่ห้องเอนะ แต่ย้ายตามคางามิมาต่างหาก
"แล้วทำไมฮิเมะจังถึงอยู่ห้อง B ล่ะครับ"
"ย้ายลงน่ะ เพราะเป็นห่วงไอ้งั่งนี่ไง"
"อย่างงั้นหรอกหรอครับ"
พยักหน้ารับ เขาสงสัยมานานแล้วแหละ เพราะฮิเมะดูเก่งเกินจะมาอยู่ห้องอย่างนี้ได้ นัยน์ตาสีฟ้าเข้มเหลือบมองคนตรงหน้าตนครู่หนึ่ง ถ้าให้มองดีๆคนในห้องจะไม่ค่อยชอบเจ้าหล่อนเท่าไหร่เลย โดยเฉพาะพวกผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกมาเยอะ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
"มีอะไรรึเปล่าคุโรโกะ"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ ถ้าฮิเมะจังง่วงนอนก็นอนไปเลย เดี๋ยวผมปลุก"
"ขอบใจนะ"
ส่งยิ้มให้อีกคนก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ดวงตาจดจ้องแขนเสื้อตัวเอง บางทีเธอก็อดคิดไม่ได้นะว่าคิดผิดหรือเปล่าที่ตามมาดูแลคางามิแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด
"ฮิเมะอยู่มั้ย"
"อ้าว มีอะไรหรอยูมิ"
"มานี่เลยยัยตัวแสบ ตามหาจนทั่วเลย มีผู้มาหาหล่อนน่ะ"
มือคีย์บอร์ดสาวกอดคอเพื่อนสาวคนสนิทแน่น ไม่วายใช้มืออีกข้างขยี้เส้นผมสีบลอนด์จนฟูไม่เป็นทรงด้วยความมันเขี้ยว ดวงตาคู่สวยชำเลืองมองกลุ่มผู้หญิงที่นั่งหน้าห้องเรียนสักพักหนึ่ง อยากเกิดก็เปิดมาเลย หล่อนพร้อมปะทะเสมอ หยุดชะงักค้างกลางอากาศยามคนในอ้อมแขนส่งเสียงห้าม อดมีมวยเลยว่ะ
"ไม่มีเรียนหรอคิเสะ"
"อ๊ะ ฮิเมจจิ ขอโทษทีฮะ คือว่ามีเรื่องอยากให้ช่วยน่ะ"
"ว่ามาเลยรอฟังอยู่"
พูดพลางยืนพิงกำแพงห้องเรียน ท่าทางเธอเหมือนนักเลงก็ไม่แปลกหรอก เพราะตอนอยู่อเมริกากับพวกฮิมาวารินี่ยกพวกตีกันเป็นว่าเล่นเลย แต่เดี๋ยวนี้เลือดไม่ร้อนแล้วไง
"ฮิโตชิจจิเขาชอบหมีหรือหมาฮะ"
"คิเสะ...นายเหมือนอะไรมานามิก็ชอบอย่างนั้นแหละ"
"เอ๊ะ นี่ฮิเมจจิหลอกด่าฉันอยู่รึเปล่าเนี่ย"
ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย เขารู้นะว่าตัวเองเหมือนหมา แต่รู้สึกขัดใจกับคำพูดของฮิเมะแปลกๆ
"เปล่าอะ ฉันพูดความจริง"
"ใจร้ายจังเลยนะ"
"กลับไปเรียนได้แล้วน่า"
สะบัดมือไล่พ่อนายแบบสุดหล่อทันทีเพราะหมดธุระ ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างเมื่อคนผมเหลืองโบกมือลาตน แต่เดินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ก็ดันสะดุดเชือกรองเท้าตัวเองล้มหน้าเกือบทิ่มพื้น ให้ตายสิ เห็นแล้วนึกถึงฮิมาวาริเลย ส่ายหน้าไปมาอย่างปลงตกก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเรียนอีกรอบ
"สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลยนะครับ"
"ขนาดนั้นเลยหรอ"
"ขนาดนั้นเลยครับ ไม่สบายรึเปล่า"
มือหนาทาบลงบนหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ ขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะรู้สึกร้อนที่หลังมือเล็กน้อย ก็ว่าอยู่ทำไมวันนั้นคนตัวเล็กดูซึมผิดปกติ ที่แท้ก็มีไข้นี่เอง
"ทำหน้าแบบนั้นทำไม ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า"
"แน่ใจนะครับ"
"อื้ม สบายมาก"
ส่งยิ้มตาหยีให้คนตรงหน้า หันกลับไปมองคางามิที่ยืนคอยอยู่หน้าประตูห้องเรียนและรีบเดินไปหา ขาเรียวก้าวตามร่างสูงใหญ่สักพักหนึ่งก่อนจะแยกกันตรงหน้าอาคาร โบกมือลาทั้งสองคนแล้วเดินตรงไปยังห้องชมรมของตัวเองทันที มือเบสสาวค่อยๆเปิดประตู ชะงักชั่วขณะเพราะไม่เห็นใครเลย มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไล่อ่านแชทกลุ่ม
อ้าว วันนี้ไม่มีซ้อมนี่หว่า ไอ้เวรเอ๊ย
"เอาจริงๆฮิเมะเป็นเด็กน่ารักนะ"
"น่ารักมากต่างหาก"
"นั่นสิ"
อิซึกิพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของฮิวงะและริโกะ แต่เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมากลางวงสนทนาได้ มันต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแน่ๆ
"ว่าแต่ พูดถึงฮิเมะทำไมหรอ ครับ"
"น่ารักแบบนี้ถึงยังไม่มีแฟนล่ะ"
"อ๋อ มันเข็ดแล้วน่ะครับ กับเรื่องแบบนี้น่ะ"
ตอบคำถามผู้เป็นโค้ชก่อนจะเหล่หางตามองคุโรโกะที่นั่งข้างตน และหันกลับมาหาทุกคนในทีม ดูเหมือนจะตกใจกับคำตอบกันหมดเลยนะนั่นน่ะ น่าเหลือเชื่อใช่ไหมล่ะ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ พออกหักเมื่อปีที่แล้วสาวเจ้าก็ไม่คิดเรื่องทีแฟนอีกเลย คงเป็นความทรงจำฝังใจแหละ
"น่าสงสารเลยนะนั่นน่ะ"
"ครับ ตอนมันอกหักนี่ผมกับเพื่อนปลอบจนเหนื่อยเลย"
"โห"
ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงบริเวณนั้นพร้อมใจกันอุทานออกมาด้วยความสงสาร เห็นเจ้าหล่อนเป็นคนแบบนี้แต่กับเรื่องความรักก็น่าสงสารมากคนหนึ่งเลยนะ
"ไม่มีซ้อมหรอคะ"
"มีสิ เนอะ ไปซ้อมกันเถอะ"
"ไหงมานั่งจับกลุ่มกันเรื่องฉันล่ะ"
เท้าเอวมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสอง ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆพ่อหนุ่มอารมณ์ร้อน ไม่วายวางกระเป๋าเอาไว้บนตักตัวเอง มือแขนขาเพื่อคลายอาการปวดเมื่อย ชมรมดนตรีกับชมรมบาสเกตบอลไม่ได้ใกล้กันเลยจริงๆสินะ เล่นเอาเธอเมื่อยตามตัวเลย ให้ตายสิ
"โค้ชเป็นคนเริ่มน่ะครับ"
"งั้นหรอ"
"ครับ งั้นพวกผมไปซ้อมก่อนนะ"
หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขายาวก้าวตามหลังแสงของตนแต่ต้องหยุดชะงักเพราะได้ยินฮิเมะพูดว่า'ตั้งใจซ้อมนะ' ใบหน้าหันกลับมาส่งยิ้มให้ร่างบางก่อนจะรีบวิ่งไปยังสนาม
"ฮิเมะจัง พรุ่งนี้จะไปพวกพี่แข่งมั้ย"
"ไม่มั่นใจนะคะว่าไปได้รึเปล่า เพราะว่าพรุ่งนี้ฉันมีงานน่ะค่ะ"
"ไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไรจ้า"
ริโกะตบไหล่เล็กเบาๆและส่งยิ้มให้เชิงบอกว่าไม่เป็นไร แต่ความจริงถ้ารุ่นน้องสาวคนสวยไปด้วยเธอก็คงอุ่นขึ้นเยอะเลยล่ะ เพราะจะได้มีคนช่วยดูแลเจ้าพวกนี้ได้ดีเธอดูแลเอง สะดุ้งโหยงยามเห็นคุโรโกะวิ่งสะดุดเท้าตัวเองจนเกือบล้ม ให้ตายเถอะ ทำไมถึงไม่ระวังเอาเสียเลยนะไอ้เด็กคนนี้
"เป็นอะไรรึเปล่าคุโรโกะ"
"เข่าถลอกนิดหน่อยน่ะครับ ไม่เป็นอะไรหรอก"
"ระวังตัวหน่อยสิ พรุ่งนี้แข่งแล้วนะ"
ร่างบางบ่นอุบคล้ายกับหมีกินผึ้ง มือเล็กค่อยๆทำแผลให้คนตรงหน้าอย่างเบามือ รอบที่แล้วก็หัวแตก สุดยอดของความไม่ระวังตัวเลย เงยขึ้นมองหน้าอีกฝ่ายครู่หนึ่ง ยังมีหน้ามายิ้มอีกคนเขาเป็นห่วงนะเจ้าบ้า
"ฮิเมะจังเป็นห่วงผมหรอครับ"
"ก็เป็นห่วงน่ะสิ ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่แผลถลอกแล้วจะทำยังไง"
"ขอบคุณนะครับ"
กล่าวขอบคุณพยาบาลจำเป็น ริมฝีปากหนาฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมยามคนตัวเล็กก้มหน้าและมองไปทางอื่น ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะ ส่ายหน้าอย่างปลงตกก่อนจะเดินกลับไปซ้อมบาสเกตบอลต่อ กับบางคนยิ่งรู้จักก็ยิ่งแสดงความน่ารักออกมาให้เห็นเรื่อยๆเลยนี่มันจริงนะ โดยเฉพาะฮิเมะ
'ก็ใช่น่ะสิ...นี่นายแกล้งฉันหรอ'
'อื้ม สบายมาก'
'ก็เป็นห่วงน่ะสิ ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่แผลถลอกแล้วจะทำยังไง'
ทุกคำพูดและการกระทำของมือเบสสาวยังคงวนอยู่ในหัวของเขา ร่างสูงโปร่งเอนกายพิงกับพนัก มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความที่ส่งมาจากฮิเมะก็อดยิ้มไม่ได้ น่ารักชะมัด
________________________________________________________________________________________________________________
Talk with Writer.
หลงลูกสาวฉันแล้วล่ะสิ
13/10/62
________________________________________________________________________________________________________________
หลงฮิเมะจังล้วซี่~~~