" ฮืมมมมมมมมมมมมมมมมมม "
เสียงฮึมฮัมนุ่มทุ้ม ที่ใครได้ฟังแล้วคงต้องพากันคล้อยตาม ความลึกลับและสเน่ห์หาของเขาซุกซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากสีขาว หากแต่น่าหวาดกลัวยามเมื่อมองเห็นแสงสะท้อนวิบวับจากกรงเล็บเปื้อนเลือดอันแหลมคมที่มือข้างซ้าย
" ฮ้าาาาาาาาา! ย่ะะะะะห์!!!!!!! "
ฉัวะ!!!!!
" อ๊าา..อั่ก!!! "
เลือดสีแดงสดไหลกระฉูดออกมาจากแผลที่ถูกกรงเล็บฟันลงไปเป็นแนวยาว 5 เส้น กลิ่นคาวของเลือดลอยคลุ้ง จนทำให้ชายผู้สวมหน้ากากสีขาวที่กำลังเช็ดคราบเลือดบนกรงเล็บของตนอยู่แทบคลั่ง....
" แฮ่ก! แฮ่ก!! อึก..อะ!! "
Mecenary ไนบ์ หรือ นาอิบ ซูบีดาร์ นายอดีตทหารรับจ้างที่ผันตัวมาเล่นเกมส์อันตรายด้วยเหตุผลบางอย่าง ในตอนนี้เขากำลังจู๊กกับฆาตกร หรือฮันเตอร์ที่มีชื่อว่า แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องผู้มาพร้อมกับสายหมอกเย็นยะเยือก หากใครอยู่ในวงหมอกมรณะของเขา จะไม่มีวันได้ออกมาอีก ตลอดกาล
ไนบ์สามารถจู๊กกับฮันเตอร์ตัวอื่นๆ ได้นานมาก เพราะความเร็วเร็วในการหลบหลีก ข้ามไม้ ข้ามหน้าต่าง และพับไม้ของเขานั้น จัดอยู่ในความเร็วที่รองลงมาจาก Forward วิลเลี่ยม นักรักบี้ เขาสามารถจู๊กกับฆาตกรได้ทุกตัว ยกเว้น แจ๊ก เดอะ ริปเปอร์ ที่มีความรวดเร็วและคล่องตัวกว่าฮันเตอร์ตัวอื่นๆ และยังสร้างคมหมอกเป็นเส้นตรงดักทางผู้รอดชีวิตได้ สายจู๊กมักจะแพ้ทางเรื่องความเร็วของริปเปอร์มากที่สุด
" จะหนีไปไหนนนนนนนนนน!!!!! "
ฉัวะ!!!!!!!
" อ๊าาาาาาาาาาาาากกกกกกกกกกกกกก!!!!! "
ร่างของไนบ์ไถลไปกับพื้นหลังจากโดนรีปเปอร์ฟันใส่อย่างรุนแรง โลหิตคาวสาดกระเซ็นเต็มพื้นดินแห้งๆ ในแมพ The red chursh หรือแมพโบสถ์ ตรงบริเวณที่มีกำแพงหินเยอะๆ
" อึก..อาาา...อือ "
เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของไนบ์ดังขึ้น เดอะริปเปอร์ค่อยๆ เลื่อนหน้ากากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะใช้ลิ้นตวัดเลียคราบเลือดของเหยื่ออย่างละเมียดละไม ความหอมหวานผสมกับกลิ่นชาเขียวทำให้เขารู้สึกว่า.....
ต้องการเลือดของไนบ์มากกว่านี้!!
" อึก..ฮืออออ....อะ..อ... "
ไนบ์ไม่สามารถห้ามน้ำตาของตนเองได้เลยแม้แต่น้อย มันไหลออกมาเพราะความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่ฆาตกรตัวนี้ได้ทำกับเขา มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะลุกขึ้นมาได้ มีเพียงสองทางที่จะไปจากฆาตกรคนนี้นั่นก็คือ โดนจับนั่งเก้าอี้ประหาร หรือค่อยๆ ตายอย่างช้าๆบนพื้นดิน
แน่นอน....เอ็มม่า ได้ทำลายเก้าอี้จนหมดแมพแล้ว.....
ซึ่งเหลือเพียงทางเดียว นั่นก็คือ ตายอย่างช้าๆ และทรมาน....
" ยัยชาวสวนทำลายเก้าอี้หมดแล้ว...อาาาา..แล้วฉันจะทำกับนายยังไงดีน้าาาา..พ่อทหารรับจ้าง หึหึ "
เดอะริปเปอร์พูดพลางหัวเราะและยกมือขึ้นมาปิดปากสไตล์คนโรคจิต ไนบ์ที่นอนเลือดไหลอาบอยู่บนพื้นค่อยๆ หันไปมองฆาตกรที่กำลังมองเขาด้วยสายตาสะใจของมัน
" ได้โปรด... "
มันทรมานเหลือเกิน...
" อะไร~ คิดจะขอให้ฉันใช้สกิลซ่อมเก้าอี้รึไงครับ นายชาเขียวน้อย? "
ความจริงของเดอะริปเปอร์นั่นก็คือในตานี้ เขาได้เอาสกิลพิเศษของฮันเตอร์มาด้วย มันสามารถพังเครื่องถอดรหัส และซ่อมเก้าอี้ประหารที่ถูกทำลายได้ เดอะริปเปอร์ได้ซ่อมเก้าอี้ขึ้นมา และจับเพื่อนร่วมทีมที่เหลือนั่งจนถูกส่งกลับคฤหาสน์ ซึ่ง ณ ตอนนี้ไนบ์คิดว่ามันน่าจะเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ที่สกิลของเขาจะคูลดาวน์เสร็จเรียบร้อย พร้อมใช้งาน...
" ไม่ดีกว่า....ฉันชอบฟังเสียงครวญครางของนายมากกว่า หึหึ "
และเขาก็ชอบกลิ่นเลือดของไนบ์มากกว่าผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ด้วย....
" งือออ..อือ..อะ.... "
สิ่งที่จะทำให้เดอะริปเปอร์ผู้น่าหวาดหวั่นคนนี้คลั่งได้ มีเพียงอะไรก็ได้ที่เป็นไนบ์
ไม่ว่าจะเป็นเสียงครวญครางยามเจ็บปวดของไนบ์
กลิ่นเลือดของไนบ์
รอยเท้าของไนบ์
และสเต็ปการจู๊กของไนบ์
หากเขาสามารถพิสูจน์ลายนิ้วมือบนกล่องหีบสมบัติได้ เขาจะพิสูจน์ว่ากล่องไหนไนบ์เปิดเอาไว้ เขาจะแบกกลับบ้านทันทีโดยไม่ต้องสงสัย
เขาอยากสะสมทุกๆอย่างที่เป็นของไนบ์ อยากครอบครองและกลืนกินไนบ์ใจจะขาด...
ยอมรับก็ได้ว่าเขาเป็นคนโรคจิต ซาดิสต์ ก็เขามันเป็นฆาตกรต่อเนื่องในสายหมอก ที่ฆ่าแต่ผู้หญิงนี่หน่าาาา แต่หลังจากเข้ามาเล่นเกมส์นี้แล้ว เขาก็ได้ฆ่าผู้ชายเป็นบางครั้งบางคราว
รวมถึงไนบ์ด้วยเช่นกัน...
เขารู้ว่าระบบบางอย่างจะทำการรักษาผู้เล่นที่ถูกปล่อยให้แห้งตาย ซึ่งเขาเคยปล่อยให้ไนบ์แห้งตายอยู่ข้างๆ เครื่องถอดรหัส ผลปรากฎว่าในตาถัดไป ไนบ์กลับมาวิ่งจู๊กกับเขาได้เหมือนเดิม แต่ไม่สามารถจำได้ว่าตนเองถูกเขาปล่อยแห้ง กลับกัน ไนบ์เคยบอกเขาว่าตาที่แล้วเขาถูกจับนั่งเก้าอี้ประหาร
ระบบได้ดัดแปลงความทรงจำตอนตายนี่เอง...
เพื่ออะไรเดอะริปเปอร์ก็ไม่รู้หรอก....แต่ตอนนี้
ไนบ์มันจะแห้งตายแล้ว!!!!!!
" หวา หวา หวาาาา!!!! "
เดอะริปเปอร์รีบวิ่งไปยังเก้าอี้ตัวล่าสุดที่เขาเพิ่งจะใช้มันส่งหมอสาวกลับคฤหาสน์ แน่นอน สิ่งที่ดร็อปอยู่ก็คงไม่พ้นเป็นเข็มฉีดยาของเอมิลี่หรอก
แจ๊กรีบหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะวิ่งไปหาไนบ์ที่ดูเหมือนจะเริ่มหมดสติไปทีละน้อยๆ เขาไม่รอช้า จับแขนของไนบ์ขึ้นมา และฉีดยาลงไปตรงข้อพับแขนอย่างรวดเร็ว
" อือ.... "
พรึ่บ!!!
ไอคอนของไนบ์เปลี่ยนเป็นคนเดินขากะเพลกและมีแถบเหลืองอยู่ครึ่งหลอด ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะมึนงงเล็กน้อยเพราะเมื่อกี้คิดว่าตนเองน่าจะแห้งตายไปแล้วแท้ๆ
" อะ..อือ..นาย? "
ไนบ์จำได้ว่าตัวเองไม่ได้ติดตั้งเปิร์คลุกขึ้นเองได้หนึ่งครั้ง เขามองเดอะริปเปอร์ที่กำลังควงเข็มฉีดยาของเอมิลี่เล่น ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว
แต่ทำไมล่ะ? ทำไมไม่ปล่อยให้เขาแห้งตาย??
" ฉันจะกลับ..ทำไมนายต้องยื้อฉัน? "
ไนบ์ถามด้วยความไม่เข้าใจ เดอะริปเปอร์ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่พอเขาจะก้าวขาเพื่อวิ่งหนีอีกฝ่าย กรงเล็บนั่นได้ตวัดเฉือน ตัดเส้นเอ็นตรงข้อเท้าของเขาทั้งสองข้าง จนต้องลงไปนั่งกับพื้น
" ฉัน...ไม่ให้นายไป ไนบ์ "
การฟันของเดอะริปเปอร์ทำให้ไอคอนของเขาเปลี่ยนเป็นล้มลงไปบนพื้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าคนที่ถูกกากบาททับไว้ แต่เขาไม่ได้แห้งตาย!
แจ๊คช้อนตัวชายหนุ่มขึ้นมา ก่อนจะเดินไปยังเครื่องถอดรหัสเครื่องหนึ่งที่ยังซ่อมไม่เสร็จดี น่าจะเหลืออีกประมานครึ่งหลอด ซึ่งตานี้เป็นอะไรที่โครตซวยมาก
เหลือเครื่องถอดรหัสอีกตั้ง 4 เครื่อง ร้ายแรงสุดคือหลุมก็ยังไม่เปิด!
เนื่องจากตานี้เดอะริปเปอร์ค่อนข้างป่วนเกมกันพอสมควร เขาวิ่งไล่ไปตามเครื่องถอดรหัส ไล่พังเครื่องและไล่ฟาดทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น เอ็มม่าโดน Terror Shock ไปหนึ่งรอบ ก่อนที่มาร์ธาจะช่วยเธอออกมาจากเก้าอี้ เดอะริปเปอร์ไม่เคยเฝ้าเหยื่อ เขากำลังไล่หวดเอมิลี่ต่อหลังจากที่เอ็มม่านั่งเก้าอี้ไปแล้ว!
แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กัน เขาค่อนข้างซ่อมเครื่องถอดรหัสช้า ช้าพอๆ กับวิลเลี่ยมเลยก็ว่าได้ และเขาก็ต้องรีบผละออกมาเมื่อเอมิลี่ลากเดอะริปเปอร์มาหาเขา ซึ่งก็คงเป็นเครื่องนี้ล่ะมั้ง ที่เขาเคยซ่อมทิ้งไว้
เอาตามตรงมันน่าจะเสร็จอย่างน้อยสองเครื่อง แต่ไม่รู้ว่ามาร์ธาทำอะไรอยู่หลังจากที่เขากับเอมิลี่กำลังจู๊กกับฆาตกร ส่วนเอ็มม่าเธอทำหน้าที่ของเธอนั่นก็คือพังเก้าอี้ทุกตัวในแมพโบสถ์
หลังจากนั้นเอมิลี่ก็โดน Terror Shock จากการพยายามปีนข้ามหน้าต่าง เธอถูกเดอะริปเปอร์จับโยนใส่เก้าอี้ที่เอ็มม่ายังไม่ได้ทำลาย ก่อนจะหันมาเล่นงานเขาต่อ และในจังหวะที่เขากำลังจู๊กกับฆาตกร มาร์ธาได้เข้ามาช่วยเอมิลี่ไว้ได้ทันเวลาพอดี เพราะเหลืออีกนิดนึงเธอก็จะถูกส่งกลับไปที่คฤหาสน์แล้ว
และหลังจากที่เอมิลี่ถูกช่วย เดอะริปเปอร์เลิกสนใจเขาแทบจะในทันทีและกลับไปล่าเอมิลี่ที่กำลังรักษาตัวเองอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหาเอมิลี่ไม่เจอ เจอแต่มาร์ธาที่กำลังปั่นไฟอยู่แถวนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว!
Terror Shock!
ก่อนที่เธอ จะถูกจับไปนั่งเก้าอี้ในห้องใต้ดิน และมันเป็นเรื่องยากที่จะดึงเธอออกมาจากเก้าอี้ในห้องใต้ดินนั้นได้ เอมิลี่รักษาตัวเองเสร็จเรียบร้อยและกำลังปั่นไฟ ส่วนตัวเขาได้ไปวนเวียนอยู่แถวๆ บ้านหลังเล็กซึ่งมีห้องใต้ดินอยู่ ส่วนเอ็มม่าน่าจะกำลังทำลายเก้าอี้จนใกล้จะหมดแมพแล้วกระมัง?
" ย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาห์!!!!!! "
ฉัวะ!!!!!
" อะ..อึก..!!! "
ไนบ์ถูกฟันไปหนึ่งครั้ง แถบดีเลย์ความเจ็บปวดปรากฎขึ้นในทันทีก่อนที่เขาจะรีบกระโดดข้ามหน้าต่าง วิ่งวนอยู่ในบ้านเล็กหลายรอบ จนกระทั่งแถบดีเลย์ความเจ็บปวดขึ้นจนเต็ม เขาจึงเริ่มเจ็บ
" เหวออออออออออออ!!!! "
" มาร์ธา!!!! "
เขาลืมดูแถบเวลาในการนั่งเก้าอี้ของมาร์ธา จนกระทั่งเธอถูกส่งตัวกลับไปยังคฤหาสน์ ตอนนี้จึงเหลือแค่เขา เอมิลี่ และก็เอ็มม่า เท่านั้น....
ติ๊งงงง!!!
เหลือเครื่องถอดรหัสอีก 4 เครื่อง!
เขารู้สึกใจชื้นขึ้นเมื่อเครื่องถูกซ่อมสำเร็จไปแล้ว 1 เครื่อง แต่ในจังหวะนั้น...
ฉัวะ!!!!
" อ้าาาาาาาากกกกกกกก!!!!! "
กรงเล็บสายหมอกของเดอะริปเปอร์พุ่งมาโดนแผ่นหลังของเขาเต็มๆ แถบดีเลย์ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ถ้ามันขึ้นเต็มหลอดเมื่อไหร่ เขาได้ลงไปนอนแน่
วูบบบ!! วูบบบบ!!
ไนบ์จำเป็นต้องใช้สนับแขนในการแดชตัวเองหนีฆาตกรออกมาให้ไกลที่สุด แต่ดูเหมือนเดอะริปเปอร์จะตามติดเขาเป็นพิเศษ ขนาดใช้แดชทิ้งระยะห่าง ก็ยังตามตัวเขาทัน จนกระทั่งแถบดีเลย์ของเขาขึ้นเต็มหลอด. และเปลี่ยนสถานะเป็นนอนบนพื้น!
และเดอะริปเปอร์ก็เอาสติ๊กเกอร์มาแปะไว้ใกล้ๆ เขา ก่อนจะค่อยๆไล่เก็บเอ็มม่า และเอมิลี่อย่างใจเย็น ซึ่งเริ่มที่เอ็มม่าก่อนเป็นคนแรก แจ๊คหวดเธอจนล้มและซ่อมเก้าอี้ขึ้นมาใหม่ คราวนี้เขาเลือกที่จะเฝ้าเอ็มม่า ปล่อยให้เอมิลี่เข้ามาฮีลเขาที่กำลังนั่งอยู่ และเนื่องจากตัวเขานั้นค่อนข้างฮีลช้า ทำให้เอ็มม่าถูกส่งกลับคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว เดอะริปเปอร์เจอเขาและเอมิลี่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไล่เก็บเอมิลี่ก่อน ส่วนไนบ์ก็พยายามซ่อมเครื่องถอดรหัสแถวนั้นไปพลางๆ สุดท้ายก็จบอย่างที่เห็น.....
จบการย้อนความ.....
ต๊อกแต๊ก ต๊อกแต๊ก ต๊อกแต๊ก.....
ไนบ์ใช้เข่าของตนในการทรงตัว สองมือพยายามซ่อมเครื่องถอดรหัส ความเจ็บปวดที่ข้อเท้าหลังจากถูกตัดเส้นเอ็นเริ่มทวีคูณ ไนบ์กัดฟันแน่น พยายามถอดรหัสให้เร็วที่สุด ส่วนแจ๊คก็ยืนมองอยู่เงียบๆ
' ซ่อมช้ามาก..... '
เขาอ่านประวัติของไนบ์มาแบบละเอียดสุดๆ รวมถึงสกิลติดตัวต่างๆ ทั้งมีผลดีและผลเสีย แต่พอมาเห็นด้วยตัวเองแล้ว รู้สึกว่าจะช้ากว่าที่คิดไว้เยอะ....
ติ๊งงงง!!!!!
ใช้เวลานานโขกว่าเจ้าตัวจะถอดรหัสเสร็จ ไนบ์หันไปมองแจ๊คที่กำลังยืนมองเขาผ่านหน้ากากสีขาว
ตอนนี้หลุมได้ปรากฎขึ้นแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ตำแหน่งของมัน....
" อะ..... "
แจ๊คเดินเข้าไปหาไนบ์ที่ยังจ้องเขาไม่เลิก สองมือรวบตัวบางๆ ของอดีตนายทหารรับจ้างขึ้นมาพาดบ่าไว้ ก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นพลางส่งเสียงฮึมฮัมด้วยความอารมณ์ดี
" .......... "
ไม้ตายสุดท้ายของไนบ์ก็คือมีดคูกรีที่เหน็บไว้ใต้เสื้อคลุมสีชาเขียว เขาค่อยๆ เลื่อนมือขึ้นไปหยิบด้ามมีด แต่ยังไม่ชักออกมาจากปลอก รอจังหวะถ้าเดอะริปเปอร์ทำอะไรเขา เขาแทงไม่เลี้ยงแน่ ฆาตกรก็ฆาตกรเถอะ...
ซ่าาาาา!!! ซ่าาาาา!!!! ซ่าาาาาา!!!
ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ได้ยินเสียงนี้ เดอะริปเปอร์ก็ได้ยินเช่นกัน...
" ดูเหมือนว่า~ จะเจอทางออกลับแล้วล่ะนะ~~ "
ทางออกลับนั้นอยู่ใกล้ๆ กับประตูใกล้บ้านหลังเล็ก แต่ทว่าแจ๊คเริ่มเล่นตุกติก เขาเดินเบี่ยงไปอีกทางทำให้เสียงลมเริ่มเบาลง ไนบ์ชักมีดคูกรีออกมาจากปลอกทันที และยื่นมันไปจ่อคอของแจ๊ค
ชิ้งงงงงงงง!
แจ๊คชะงัก สักพักเขาก็ค่อยๆ เดินถอยหลังกลับไปยังทางเดิมที่มีเสียงลม ใบหน้าภายใต้หน้ากากกำลังหวาดหวั่นกับคมมีดคูกรีที่กำลังจ่อคอเขาอยู่ รังสีอำมหิตเล็กๆ ที่แจ๊คไม่กล้าหือเริ่มปะทุ
' งืออออออ..เมียดุง้าาาา!! '
สุดท้าย เขาก็ต้องปล่อยไนบ์ลงทางออกลับไป...
.
.
.
.
.
แต่มีหรือที่ฆาตกรหัวรั้นอย่าง แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ จะยอมกลับไปยังคฤหาสน์ เขาเลือกที่จะกระโดดลงทางออกลับตามไนบ์ไปเมื่อทิ้งระยะได้พอสมควรแล้ว
ฟุบ!
เขาลงมายังที่ๆ หนึ่ง มันมีลักษณะคล้ายกับเตาผิงที่ไม่ได้ใช้มานาน ตรงกลางห่างออกไปมีร่างของไนบ์ที่กำลังนั่งอยู่นิ่งๆ. ให้หมอสาวเอมิลี่ทำการรักษาบาดแผลที่ถูกเขาตัดเส้นเอ็นไปที่ข้อเท้าของไนบ์
" นี่เขาทำบ้าอะไรเนี่ย? ถ้านายมาช้าอีกนิดนายได้พิการถาวรแน่.... "
อะ...อะไรนะ!!!?
เขาเกือบทำไนบ์พิการหรอ!!!!
สาบานไว้เลยว่าคราวหน้าแจ๊คจะไม่ยุ่งกับข้อเท้าของไนบ์อีก เขารู้สึกว่าควรขอโทษร่างเล็ก แต่ไม่ใช่ตอนนี้ นี่มันในห้องโถงฝั่งของผู้รอดชีวิต หากเขาปรากฎตัวไปแล้วล่ะก็ คงไม่แคล้วโดนรุมประชาทัณฑ์และไล่ออกมาอย่างกับหมูกับหมาแน่....
แจ๊คเฝ้ามองไนบ์ทำแผลจนเสร็จ แม่สาวห้าวอย่างมาร์ธารับหน้าที่แบกไนบ์กลับห้องพักของเขา แจ๊คใช้วิชาหายตัวก่อนจะค่อยๆ ย่องตามทั้งสองไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งมาถึงห้องพักของไนบ์ที่ดูเหมือนจะเป็นห้องพักของคนรักสันโดษ เพราะมันอยู่ห่างจากห้องของผู้รอดชีวิตคนอื่นเยอะมากๆ!
แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดี เวลาลักลอบมาหาจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับแจ๊ค
" นายจะทำอะไรต่อรึเปล่า??? "
เนื่องจากไนบ์ยังไม่สามารถเดินได้ชั่วคราว มาร์ธาจึงอาสาเป็นคนคอยดูแลไนบ์เอง อันที่จริงหน้าที่นี้ต้องเป็นของหมอเอมิลี่ แต่ทว่ามาร์ธากลับยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยความเต็มใจแบบสุดๆ
" ไม่ละ...พาฉันไปที่เตียงหน่อย..... "
มาร์ธาทำตามคำขอของไนบ์ เธอแบกเขามาที่เตียงซึ่งอยู่ไม่ห่างมากนัก โทนห้องของเจ้าตัวจะออกแนวเป็นตีมสีเขียวเป็นหลัก ไนบ์นั่งลงบนเตียงก่อนจะดึงแขนที่คล้องมาร์ธาไว้ตอนพยุงตัวออก....
" ฉันจะนอนในห้องนาย...ถ้าหากมีอะไรให้ฉันช่------ "
" ไม่เป็นไรหรอกมาร์ธา ฉัน..ยังพอเดินได้บ้าง.... "
ไนบ์พูดแทรกมาร์ธาขึ้นมาทันที ทำให้หญิงสาวเงียบลงแต่ก็ยังคงส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ไนบ์ก่อนจะค่อยๆ เดินออกจากห้องของชายหนุ่มไปอย่างเงียบๆ
ทำไมไนบ์จะไม่รู้ล่ะ เขาอายุปาเข้าไปสามสิบกว่าๆ แล้ว แค่นี้เขาก็มองออกว่ามาร์ธาคิดกับเขาเกินคำว่าเพื่อนแน่นอน
แต่ไนบ์ไม่เคยคิดกับมาร์ธาอย่างนั้น เขาเลือกที่จะเงียบ และไม่ให้ความหวังอีกฝ่าย ทำตัวตามปกติ เงียบๆ นิ่งๆ ไม่สุงสิงกับใครอยู่แล้ว
ชายหนุ่มเหลือบมองลิ้นชักข้างเตียง ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดมัน หยิบบางสิ่งที่เขาเก็บทะนุถนอมไว้มาหลายปีขึ้นมาดู มันมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมๆ บางๆ ซึ่งดูก็รู้ว่ามันเป็น รูปภาพ
ใช่....สิ่งของที่ไนบ์ทะนุถนอมมันมาตลอดก็คือรูปภาพใบนี้ มันเป็นความทรงจำสุดท้ายที่แสนสำคัญของเขาก่อนที่เขาจะถูกเชิญให้เข้ามาเล่นเกมส์ที่ไร้จุดจบราวกับนรกนี่....
ในภาพนั้นมีรูปเขาในชุดฮู้ดสีชาเขียวกำลังยิ้มร่า มือข้างหนึ่งกอดคอชายผู้หนึ่งที่แต่งตัวคล้ายคลึงกับเขามาก นั่นก็คือเสื้อคลุมติดฮู้ดแต่ของเขาเป็นสีม่วง ในรูปนั้นทั้งสองคนกำลังกอดคอยิ้มร่าอย่างมีความสุข ไนบ์ค่อยๆใช้ปลายนิ้วลูบไปบนรูปชายคนนั้น
" ป่านนี้นายจะออกมาจากนรกรึยังนะ...ฮะๆ... "
ไนบ์พูดออกมาเบาๆ. พลางหัวเราะด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่เคยยิ้มแบบในรูปภาพอีกเลย เต็มที่ก็แค่ยิ้มบางๆแค่นั้น
คนที่อยู่ในรูปนั้นมีชื่อว่า อีริค สเตฟาโน่ เพื่อนสนิทที่สนิทมากๆราวกับเป็นฝาแฝด พวกเขาเคยเป็นทหารและหลบหนีสงครามออกมาเหมือนกัน ไนบ์เลือกที่จะไปเป็นทหารรับจ้าง ส่วนอีริคเลือกที่จะไปเป็นนักล่าหัวแทน ถึงแม้พวกเขาจะทำงานต่างกัน แต่พวกเขาก็ไม่เคยรักกันน้อยลง ทั้งสองไม่ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งมากนัก เพราะอีริคต้องเปลี่ยนที่อยู่บ่อยๆ เนื่องจากเขาเป็นนักล่าหัวที่มีตำรวจและทหารคอยไล่ล่าอยู่เป็นระยะ
แต่แล้ววันหนึ่ง พวกเขาทั้งสองได้ถูกจ้างวานโดยผู้มีฐานะคนหนึ่งให้ไปก่อความวุ่นวายในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งที่ใจกลางเมือง โดยพวกเขาต้องลักลอบเข้าไปอย่างเงียบๆ ใช้วิธีใดก็ได้ที่จะทำให้งานดูวุ่นวายมากที่สุด ฟังเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายซึ่งไนบ์ก็คิดแบบนั้น แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าอีริคได้ทำงานพลาด เขาถูกตำรวจที่คอยคุ้มกันงานบริเวณนอกเห็นตัวเข้าแล้วถูกกราดยิง อีริคถูกยิงที่ขาจนไม่สามารถหนี เขาถูกตำรวจจับกุมตัวไปอย่างรวดเร็ว
ไนบ์โยนงานทิ้งแล้วรีบตามไปในทันที โชคดีที่เขารู้จักสถานีตำรวจละแวกนี้ ทำให้เขาหามันได้ค่อนข้างง่าย การลักลอบเข้าสถานีตำรวจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย รั้วสูงที่มีลวดหนามติดไฟฟ้าค่อนข้างอันตราย หากโดนช็อตขึ้นมาก็คงไม่ต้องขยับไปไหน รอให้ตำรวจมาจับอย่างเดียว
เขาใช้วิชาความคล่องตัวที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ของตัวเองในการปีนขึ้นไปบนแมนชั่นที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับรั้วโรงพัก ก่อนจะเสี่ยงกระโดดข้ามมา ทำเอาเขารู้สึกจุกไม่น้อย สิ่งแรกที่เขาต้องทำนั่นก็คือตัดกระแสไฟที่ส่งมาตามลวดนี่ซะ โดยการหาห้องควบคุมไฟฟ้า หรือไม่ก็น่าจะเป็นคัตเอาท์แถวๆนี้แหละ
และอุปสรรคที่สองที่ไนบ์ต้องระวังนั่นก็คือแสงไฟ แสงไฟทุกๆอย่างที่ส่องไปมาราวกับเครื่องสแกน และยามที่เดินควักไขว่ในตอนกลางคืนราวกับมดแมลงที่น่ารำคาญ ไนบ์ตั้งตัวอยู่ตรงมุมอับที่ปลอดภัยที่สุดพลางใช้สายตาสำรวจบริเวณและอุปสรรคทั้งหมดในนี้
1. ยาม
2. แสงไฟ
3. กล้องวงจรปิด
นี่คือสามสิ่งที่ไนบ์ต้องระวัง เขาชักมีดคูกรีคู่ใจออกมา ก่อนจะย่องไปใกล้ๆ กับกล้องวงจรปิดที่อยู่ใดล้สุดก่อน ไนบ์รู้ว่าเขาควรตัดจุดไหนออกเพื่อให้กล้องวงจรปิดเสียและไม่สามารถจับภาพเขาได้ เรื่องนี้เขาต้องทำอย่างรวดเร็ว และใจเย็น
กล้องวงจรปิดตรงลานหลังโรงพักมีไม่กี่ตัว ไนบ์ทำลายกล้องไป 2 - 3 ตัวแล้ว และตัวนี้ก็เป็นตัวสุดท้ายที่เขาพึ่งทำลายเสร็จ
แกร๊บ!
" !!! "
ชายหนุ่มหันไปข้างหลังก็พบกับตำรวจชายคนหนึ่งที่มองเขาด้วยความตกตะลึง ไนบ์ใช้จังหวะนี้พุ่งเข้าไปปิดปากไว้แน่น ก่อนจะใช้มีดคูกรีกรีดคอตำรวจผู้โชคร้ายอย่างรวดเร็วจนคอเกือบขาด โลหิตคาวกระเซ็นเต็มเสื้อฮู้ดสีชาเขียวจนมีสีแดงเปรอะเป็นคราบปื้นๆ กลิ่นสนิมคาวลอยคลุ้งแต่สำหรับไนบ์ มันกลายเป็นภาพชินตาไปแล้ว
เขารีบลากศพของตำรวจรายนี้มาซ่อนไว้ในมุมอับ เป็นจังหวะพอดีกับแสงไฟที่สาดมาทางนี้พอดี เขาทิ้งศพไว้ตรงนั้นก่อนจะฉีกตัวออกมาอีกมุมด้วยความรวดเร็วของทหารเก่า เบื้องหน้าของไนบ์ ไม่ใกล้ไม่ไกลมีคัตเอาท์ไฟฟ้าของรั้วอยู่ ประจวบเหมาะที่แถวนั้นไม่มียามพอดี และไม่มีแสงไฟสาดไปยังบริเวณนั้นด้วย
กรึก! แต๊ก..แต๊ก..แต๊ก.....
ไนบ์ย่องไปเปิดตู้คัตเอาท์ก่อนจะกดปุ่มต่างๆ เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งมายังรั้วด้วยความรวดเร็ว จนกระทั่งเขาเริ่มที่จะมั่นใจว่ารั้วลวดหนามจะไม่มีไฟฟ้าแล่นอยู่อีกต่อไป
จี๊ดๆ!
ไม่รู้ทำไมถึงมีหนูอยู่แถวๆนี้ แต่เพื่อความชัวร์ เขาได้ตะคุรบมันไว้ในมือก่อนจะโยนไปทางรั้วหนามอย่างแม่นยำ ผลปรากฎว่าหนูเคราะห์ร้ายตัวนี้ไม่ถูกไฟช็อตตาย หากแต่มันถูดลวดหนามที่แหลมคมแทงตามร่างของมัน นั่นทำให้ไนบ์มั่นใจ 100% แล้วว่าไฟถูกตัดไปแล้วเรียบร้อย
" ฮึบ!! "
ไนบ์ใช้ความพยายามในการปีนขึ้นไปบนหลังตู้คัตเอาท์ ก่อนจะใช้มีดคูกรีตัดลวดหนามออก พอให้คนสามารถผ่านไปได้อย่างปลอดภัย เมื่อตัดเสร็จเขาจึงกระโดดลงมา ก่อนจะแอบในมุมมืดเพื่อรอจังหวะดีๆ ในการพุ่งเข้าไปสังหารยามทั้งสองคนที่กำลังยืนเฝ้าประตู
ไม่นานนัก...เขาก็เจอจังหวะดีๆ...
' ตอนนี้แหละ! '
ฉัวะ!! ฉัวะ!!
หยาดเลือดสาดกระเซ็นใส่หน้าชายหนุ่มที่กำลังยืนสะบัดมีดคูกรีที่เต็มไปด้วยคราบเลือด ที่พื้นมียามสองคนเบิกตาโพลง คออยู่ในสภาพเกือบขาด เลือดสีแดงสดไหลเจิ่งนองเต็มพื้นดินหากแต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย....
กึก....
เขาเปิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว นึกติเล็กน้อยที่ไม่ยอมล็อกประตูให้เรียบร้อยแต่มันก็เป็นเรื่องดีที่เขาจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงค้นหากุญแจตามกางเกงตำรวจ
หลังจากที่ชายหนุ่มเข้ามาด้านในก็ต้องพบกับอุปสรรคใหม่ เมื่อด้านในนั้นมีแต่แสงไฟสว่างจ้าและทางรอบๆ ตัวดูซับซ้อนไปหมด เขาต้องคอยหลบทั้งตำรวจ ทั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถหันไปหันมาได้เองโดยอัตโนมัติ
' นี่มันงานสายลับชัดๆ! '
ไนบ์อดคิดไม่ได้ว่านี่มันจะเหมือนงานสายลับมากเกินไปแล้ว เขาเพียงแค่อยากจะเข้ามาช่วยเพื่อนรักแหกคุกออกไปก็แค่นั้น แต่ไม่นึกว่าในโรงพักแห่งนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่หนาพอสมควร เขาต้องคอยหลบหลีกตำรวจ ทำลายกล้องวงจรปิดบางตัวที่มันน่าจะเห็นเขา
ไม่นานนักเขาก็มาถึงโซนนักโทษคุมขัง ดูเหมือนว่าตำรวจในนี้จะมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยมากจนเกินไปหน่อย บทจะไม่มีตำรวจก็เล่นซะนึกว่าเป็นโรงพักร้างไปเลยทีเดียว
" นาอิบ!! "
อีริคเป็นเพื่อนชายเพียงคนเดียวที่เรียกของของไนบ์ 2 พยางค์ ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นไนบ์ตอนย่องเข้ามาในโซนนักโทษคุมขังพอดี ชายหนุ่มรีบปรี่เข้าไปหาเพื่อนสนิทของตนเองที่อยู่ในคุกด้วยความรวดเร็ว
" นาย..มันอันตรายนะ!!! "
อีริคยังคงอยู่ในชุดเดิมของเขา หากแต่ตามเนื้อตัวของเขามีรอยถูกซ้อมเล็กน้อย ที่ขาก็มีผ้าพันแผลพันแบบลวกๆ ดูท่าแล้วน่าจะยังไม่ได้เอาลูกกระสุนออก
" นี่พวกเขา..... "
ไนบ์ที่เห็นสภาพเพื่อนของตัวเองก็ถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกจุกในอกที่เพื่อนต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ ถ้าหากรู้ว่าเรื่องทุกอย่างมันจะบานปลายมาขนาดนี้เขาก็จะไม่มีวันรับงานนั่นมาทำอย่างแน่นอน
" ไนบ์!! นายไม่ควรมาที่นี่! หากนายถูกจับนายโดนโทษหนักนะ!!!! "
แต่มีหรือที่ไนบ์จะฟัง ชายหนุ่มสำรวจแม่กุญแจตัวใหญ่ที่อยู่ในสภาพขึ้นสนิมเกรอะ มันเก่ามากเสียจนไนบ์ไม่นึกว่าตำรวจเขาจะยังเอามาใช้งานอีก ดวงตาสีฟ้าภายใต้ฮู้ดกวาดมองหาเครื่องมือที่พอจะไข หรือทำลายแม่กุญแจเก่าๆ ตัวนี้ได้
เขาพบกับตู้สีแดงที่มีถังดับเพลิงอยู่ข้างในพร้อมกับค้อนที่อยู่ข้างๆตู้ ไม่รีรอให้มากความ ชายหนุ่มรีบปรี่เข้าไปหยิบขวานสีแดงสดมาไว้ในมือทันที ก่อนจะใช้มันสับแม่กุญแจจนพัง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเสียงที่ดังสนั่น
แกร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!
นักโทษบางคนเริ่มตื่นขึ้นมาเพราะตกใจเสียง ดูเหมือนตำรวจด้านนอกจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่ามีคนบุกรุก คงเพราะกล้องวงจรปิดที่ถูกไนบ์สับจนเละ หรือศพที่โดนเชือดกองไว้หน้าประตู เหล่านักโทษก็เริ่มแหกปากแล้วเช่นกัน
" นาย..มานี่! "
เมื่อเปิดประตูสำเร็จ ชายหนุ่มรีบลากเพื่อนของตนออกมาจากห้องขังและพาไปยังอีกทาง มันเป็นทางที่มีทางเชื่อมลงไปยังที่ๆ ไนบ์ได้เตรียมทำทางหนีไว้นานแล้ว แต่ไนบ์ก็คิดได้ว่าบางทีตำรวจบางส่วนอาจไปดักแถวๆนั้นแล้วก็ได้ เขาจึงหลีกเลี่ยงมาเป็นคลานหนีไปทางช่องระบายอากาศแทน
[ ตรวจพบนักโทษแหกคุก นักล่าหัว อีริค สเตฟาโน่ โดยมีอดีตพลทหาร นาอิบ ซูบีดาร์ แอบลักลอบเข้ามาพานักโทษคนดังกล่าวแหกคุก ]
" บ้าเอ้ย! มันรู้แล้ว!! "
ไนบ์สบถออกมาพลางพาอีริคคลานไปตามช่องระบายอากาศด้วยความรวดเร็ว ยังดีที่อีริคมีความอดทน เขาไม่ออดแอดยามเมื่อขาของตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่
" นาอิบ!! เราต้องไปที่ทางออกด้านข้างของโรงพัก!! "
อีริคพูดพลางพาไนบ์คลานไปอีกทางอย่างรวดเร็ว ยังดีที่ช่องระบายอากาศในนี้ค่อนข้างกว้างพอที่จะหมุนตัวกลับไปกลับมาได้ ทั้งสองคลานมาเรื่อยๆ จนถึงช่องระบายอากาศที่ใกล้กับทางออกที่อีริคบอกไว้
ตุบ...ตุบ....
ทั้งสองแงะฝาช่อง ก่อนจะกระโดดลงมาอย่างรวดเร็ว ตำรวจยังไม่มาเฝ้าตรงนี้ ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจกล้องวงจรปิดที่กำลังจับภาพของพวกเขาแล้ว ทั้งสองตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปเรื่อยๆ จนเจอกับประตูทางออก
" บ้าเอ้ย!!! ประตูมันต้องใส่รหัส! "
อีริคสบถพลางใช้กำปั้นทุบประตูอย่างรุนแรง ไนบ์กัดฟันแน่นพลางมองไปรอบๆ เผื่อจะเจออะไรที่พอเป็นประโยชน์ได้บ้าง แน่นอน เขาเจอกับเครื่องๆหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเขาเท่าไหร่ ไนบ์สกิดอีริคก่อนจะชี้ไปทางเจ้าเครื่องนั่นทันที
" นั่นน่าจะเป็นเครื่องถอดรหัส ไปกัน!! "
ทั้งสองวิ่งไปทางเครื่องนั่นทันทีโดยไม่ต้องรีรอ ไนบ์ใช้ความรู้ของตนเองในการถอดรหัสประตู ไม่รู้ว่าโรงพักที่นี่เขาไปเอาความไฮเทคลำสมัยนี่มากจากไหน แต่ที่แน่ๆ มันไม่คณามือไนบ์แน่นอน
" เดี๋ยวฉันถอดเองดีกว่า...นายไปดูต้นทางให้ก็พอ "
ทั้งสองผลัดเปลี่ยนหน้าที่ ไนบ์ชักมีดคูกรีเตรียมพร้อมหากมีใครเข้ามาโจมตี ส่วนอีริคนั้นทำหน้าที่ถอดรหัสแทนเพราะเขาทำได้เร็วกว่าไนบ์นิดนึง
" นั่น!! มันอยู่ตรงนั้น!!!!!! "
เสียงของตำรวจดังขึ้น พร้อมกับเสียงเท้าที่กำลังกรูมาทางทั้งสอง อีริคกับไนบ์เหงื่อแตกผลั่ก มือไม้สั่นแต่ก็ยังพยายามถอดต่อไปจนกระทั่ง.....
" เสร็จแล้วววว!!!!!! "
อีริคตะโกนออกมาสุดเสียง ก่อนจะหันไปมองไนบ์ที่กำลังวิ่งมาทางเขา ดูเหมือนว่ามีข้อผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้น
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!
อยู่ดีๆ เจ้าเครื่องนั่นก็ระเบิดขึ้นมากระทันหัน ทุกๆอย่างกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ตามด้วยเปลวเพลิงที่เริ่มลุกฮือขึ้นอย่างรวดเร็วเสียจนตั้งตัวไม่ทัน ไนบ์รีบลุกขึ้นมา เขาได้รับบาดเจ็บปานกลางจากการถูกแรงระเบิดอัดใส่ แต่อีริคนั้น.....
เขาไม่รู้....
" ริคคคค!!!!!! "
ชายหนุ่มตะโกนก้องเรียกหาเพื่อนรักของตนที่น่าจะอยู่ในกองเพลิง แต่ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับ ด้วยความร้อนรนเขาจึงยอมฝ่ากองไฟเข้าไป ไม่ลึกมากนัก เขาก็พบกับร่างหนึ่งที่กำลังนอนหมดแรงอยู่ท่ามกลางกองเพลิง
" ริค!!! "
" .......... "
ไนบ์รีบปรี่เข้าไปดูอาการของเพื่อนรัก หากแต่อุปสรรคที่ร่วงลงมาก็คือแผ่นฝ้าที่ถูกไฟเผาบางส่วน พร้อมกับโครงเหล็ก
" หนี...ไปซะ..นาอิบ..... "
ดวงตาสีฟ้าสบเข้ากับดวงตาสีชมพูซีดภายใต้ฮู้ดสีม่วง ไนบ์ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ เขามองคำพูดสุดท้ายที่อีริคกำลังบอกเขา
" ฉัน รัก นาย "
ก่อนที่มือปริศนาจะฉุดเขาออกมาจากเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำอย่างรวดเร็ว ทุกๆอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเสียจนไนบ์ประมวลผลไม่ทัน รู้ตัวอีกทีเขาก็ตื่นขึ้นมาในคฤหาสน์แห่งนี้เสียแล้ว....
ใครบางคนค่อยๆลืมตาขึ้นมา.....
คนๆนั้นก็คือแจ๊ค ในมือของเขามีรูปไนบ์กับผู้ชายที่ชื่อว่าอีริคกำลังกอดคอกันอย่างมีความสุข
ความสามารถในการซ่อมเครื่องถอดรหัสช้าไม่ใช่ข้อเสียดาษดื่น หากแต่มันเป็นข้อเสียที่มาจากผลกระทบทางด้านจิตใจที่สูญเสียเพื่อนไปเพราะสิ่งนี้ หากเป็นแจ๊คเองเขาก็คงหดหู่ไม่น้อย ไนบ์เห็นเครื่องนี่ทีไร เหตุการณ์นั้นมันต้องผุดขึ้นมาแน่นอน เพราะมันคงเป็นภาพติดตาเขาไปแล้ว
ตอนนี้เจ้าของรูปภาพยังคงหลับสนิทบนเตียงในสภาพที่ไม่ได้ใส่ฮู้ด ฝ่ามือหยาบไร้ซึ่งกรงเล็บเปื้อนเลือดค่อยๆ ลูบหัวชายหนุ่มตรงหน้าอย่างนุ่มนวล
เขาไม่ใช่คนแบบโจ๊กเกอร์ หากรูปภาพนี้คือความสุขเพียงหนึ่งเดียวของไนบ์เขาก็จะไม่มีทางทำลายมันเป็นอันขาด แค่ถูกบังคับให้มาเล่นเกมส์นี้ก็น่าหดหู่พอแล้ว มันก็ควรจะมีอะไรที่ทำให้มีความสุขได้บ้าง
" ริค.... "
ถึงแม้จะรู้สึกจุก แต่มันก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ถ้าเราจะไปโกรธแค้น ตีโพยตีพายใส่ในความสุขที่เราไม่ได้เป็นคนมอบให้
" ฉันก็รักนายนะ นาอิบ ซูบีดาร์ "
==============================
มุมพูดคุยเล็กน้อย ~
เดี๋ยวคืนนี้ไรท์จะมาลงรูป อีริค สเตฟาโน่ เพื่อนคนสำคัญของน้องชาเขียวให้นะคะ เขาอาจจะมีบทบาทในอนาคตที่จะมาถึงนี้......มั้งนะ...
ลงรูป อีริค สเตฟาโน่ ค่ะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
พบคนกลัวเมียค่ะ 5555
อีริคจะตาสีแดงข้าง ชมพูข้างค่ะ(555+)และนางชอบสีม่วง(?)
ทำต่อเยอะๆน้าาา ชอบภาษาที่ใช้มาก สู้ๆน้า ไรท์
จากรีทผู้น่ารัก??’???’???’?