ตอนที่ 3 : 三 ซน ซึงวาน
三
I เยริมคือฝันร้ายของเวนดี้ I
พวงแก้มใสเจือสีชมพูน้อยๆจากการสูบฉีดเลือดยามที่ต้องหายใจเร็วขึ้น ทว่าใบหน้าที่แย้มยิ้มอย่างแจ่มใสของร่างน้อยยังไม่มลายความสุขลงเลย สองเท้าก็ก้าวไปตามทางเดินอย่างไม่ลดละแม้จะเต็มไปด้วยหินขรุขระหรือต้นหญ้า สองมือก็ถือชายกระโปรงให้สูงขึ้นพ้นจากพื้นดิน เป็นภาพที่งดงามสมกับเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มเสียจริงๆ
“เร็วๆสิจองกุก ข้างหน้านั่นมือลำธารด้วยล่ะ” เจ้าของร่างนั้นหันไปพูดกับสาวใช้ด้านหลังที่หอบหายใจเกาะต้นไม้ไม่เป็นท่า
“ท่านหญิงเล็กคะ ถ้าจะให้อิฉันวิ่งต่อไปอีกมีหวังเป็นลมล้มพับเป็นแน่ นั่งพักซักครู่เถอะนะคะ”
เด็กสาวมุ่ยหน้าไม่ยอมความ
“อยู่อีกแค่นี้เอง งั้นหญิงเดินไปรอที่ลำธารแล้วกันนะ”
“ท่านหญิงเล็ก..! เฮ้อ นี่มันวันอะไรของกุกเนี่ย”
สาวใช้พึมพำกับตนเองแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนก้อนหินขนาดใหญ่ใกล้ๆ ปล่อยให้ท่านหญิงเดินไปอีกแค่นิดเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอก อีกทั้งยังมองเห็นหากเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมจะวิ่งเข้าไปช่วยไม่คิดชีวิต ถ้าหากจะต้องหน้าแหกเพราะล้มไปกองกับก้อนกรวดก็ยังดีกว่าต้องไปโดนโบยเพราะดูแลลูกสาวคนเล็กของบ้านตระกูลซนไม่ดีพอ
บุคคลที่ได้ชื่อว่า “ท่านหญิงเล็ก” ค่อยๆลดฝีเท้าจนกระทั่งหยุดนิ่งหลังต้นไม้ต้นใหญ่ ขณะที่สองมือยังขยับขึ้นเกาะต้นไม้ดวงตาคู่นั้นกลับจ้องภาพตรงหน้าราวกับต้องมนต์ แพรขนตางามกระพริบถี่ๆเหมือนจะทดสอบตนเองว่าไม่ได้ฝันไป
เพราะภาพที่ได้เห็นนั้นมันงดงามเหลือเกิน…
น้ำในลำธารถูกมือเรียววักขึ้นลูบไปตามเนื้อผิวเนียนเรียบไร้ที่ติอีกทั้งยังขาวสะอาดไม่ต่างจากลูกผู้ดีมียศ เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนถูกมวยขึ้นแล้วปักด้วยปิ่นเผยให้เห็นความกว้างของไหล่บอบบางที่ไม่ต่างจากผู้หญิงทั่วไป รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้านั้นเล็กน้อยเมื่อผีเสื้อตัวเล็กบินมาเกาะบนไหล่เนียนของตนเอง แม้จะเห็นใบหน้าเพียงเสี้ยวหนึ่งแต่ก็ทำให้คนที่มองอยู่ตัดสินเลยว่าต้องงามหยดย้อยเป็นแน่
ถ้าหากที่แห่งนี้ไม่ใช่ป่าก็คงนึกว่าร่างตรงหน้าคือองค์หญิงในวังไปแล้ว
จนกระทั่งรอยยิ้มนั้นหายไป ร่างในลำธารขยับตัวหันไปรอบๆเหมือนรู้ตัวว่ามีคนนิสัยไม่ดีแอบมองอยู่คนตัวเล็กหลังต้นไม้จึงรีบซ่อนตัว ในขณะที่ใจเต้นรัวเพราะกลัวเจ้าหล่อนรู้กลับมีกะจิตกะใจนึกเสียดาย พอนึกขึ้นได้ว่าทิ้งจองกุกให้อยู่ตรงทางเดินสองเท้าก็ค่อยๆก้าวเพื่อหลบหนี
แต่ทว่า…
“แอบดูข้าอาบน้ำแล้วจะหนีไปง่ายๆอย่างนี้รึ?,กระต่ายน้อย”
ร่างเล็กหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกได้ว่าไหลทั้งสองข้างถูกยึดไว้ด้วยสัมผัสเย็นๆที่คาดว่าจะเป็นมือของคนที่เธอแอบมองเมื่อครู่นั่นแหล่ะ ริมฝีปากบางเกือบเปล่งเสียงกรีดร้องเมื่อถูกจับให้หันมาเผชิญหน้ากัน
“ข-ข้าไม่ได้ อ..แอบดู”
“เด็กเลี้ยงแกะ,ถ้าเจ้ายังไม่ยอมรับ ข้าจะจิ้มตาทั้งสองข้างของเจ้าให้บอดสนิทไปเลย”
“ม-ไม่ อย่า!…ฮึก”
อยู่ดีๆร่างในมือก็สะอื้นฮึกปล่อยโฮออกมาทำเอาคนที่คาดคั้นเอาความจริงถึงกับอ้าปากค้าง อะไรมันจะขี้แยขนาดนี้?
“นี่เจ้า..! หยุดร้องน่า ข้าแค่พูดเล่น” ดูเด็กนี่เข้าสิ,พอรู้ว่าที่พูดไปคือการพูดเล่นก็หยุดร้องไห้เหมือนกับว่าสั่งน้ำตาได้ แก้วตาสวยมองหน้าคนพูดก่อนจะกระพริบตาปริบๆยิ่งดูเหมือนกระต่ายน้อยอย่างที่หล่อนว่าเข้าไปใหญ่
“ท่านจะไม่จิ้มตาข้าจนบอดแล้วใช่หรือไม่?”
เสียงสะอื้นเมื่อครู่มันหายไปไหนจนหมดแล้วนะ…
เด็กน้อยทำหน้าทำตาช่างน่าหยิกแก้มเนียนๆนี่เหลือเกิน เจ้าของใบหน้าสวยที่พึ่งถูกแอบมองเมื่อครู่พยักหน้าอย่างไม่มั่นใจแต่ก็พึ่งรู้สึกว่าคิดผิดไปเมื่อใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นฉีกยิ้มตาหยีใส่ทีหนึ่ง
“งั้น…ปล่อยข้าแล้วกันนะ จะไม่รบกวนท่าน-”
“…เจ้าเป็นใครกัน?”
“หา?”
“แลกกับการไถ่โทษที่แอบมองข้า บอกชื่อเจ้ามา”
เป็นครั้งแรกที่ท่านหญิงเล็กนึกถึงจองกุกขึ้นมาดื้อๆทั้งที่ไม่เคยจะเรียกหา ใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นเมื่อหวนคิดถึงคำเตือนของสาวใช้ว่าห้ามพูดคุยกับคนแปลกหน้ายามเที่ยวป่า แต่พอร่างบอบบางในชุดฮันบกตรงหน้าจิกสายตาก็ทำให้กลีบปากบางหลุดคำตอบออกมาได้ไม่ยาก
“ซึงวาน…ซน ซึงวาน”
“ซึงวานงั้นหรอ…”
“ท่านหญิงเล็กคะ! จองกุกมาแล้วค่ะ”
เสียงแหลมเล็กของผู้มาใหม่ทำให้ดวงหน้างดงามราวเทพธิดานั้นตกใจ เธอดูลุกลี้ลุกลนขึ้นมาก่อนที่จะแย้มยิ้มเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นแตะพวงแก้มของใบหน้าอ่อนเยาว์ของคนตรงหน้า
“ข้าอยากเป็นเพื่อนกับเจ้า ถ้าอยากรู้ชื่อข้า…ก็กลับมาที่นี่อีก…”
“ข้าอยากรู้จักกับเจ้าจริงๆนะ-ซึงวาน”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเปลือกตาทั้งสองข้างก็หนักอึ้ง..ค่อยๆปิดลงจนกระทั่งรอบข้างมืดไปหมด…
…รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องนอนของตนเอง…
ฝัน…
คำแรกที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนสติตัวเองเมื่อลืมตาตื่นขึ้น มันเป็นเวลาที่นาฬิกาปลุกดังขึ้นพอดิบพอดี มือก็เอื้อมไปกดปิดมันสมองก็คิดย้อนไปถึงฝันที่พึ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ มันคงจะเป็นฝันธรรมดาทั่วไป ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หน้าตาเหมือนคุณอาไอรีนของเธอ
ทำไมกันนะ…
เวนดี้ค่อนข้างแปลกใจหลังจากที่ก้าวเท้าลงมาถึงขั้นสุดท้ายของบันไดวนใจกลางบ้าน ร่างบอบบางของเด็กสาวผมบลอนด์คนหนึ่งกำลังใช้ส้อมเขี่ยอาหารบนจานไปมาราวกับจะหาอะไรซักอย่างหนึ่ง แค่เห็นแผ่นหลังภายใต้สเวตเตอร์สีครีมกับใบหน้าแค่เสี้ยวเดียวก็ทำให้คนที่กล้าๆกลัวๆอยู่หน้าบันไดมั่นใจในคำตอบของตนเองเลยว่าคนๆนั้นคือ ‘เยริม’ ลูกพี่ลูกน้องที่แสนจะเย็นชาและป่วนที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
เอ...เดี๋ยวก่อนนะ เธอก็มีลูกพี่ลูกน้องอยู่แค่คนเดียวไม่ใช่รึไง
“Hi,What’s up?”
เสียงเล็กถูกเปล่งออกมาทั้งๆที่เธอยังไม่ขยับตัวไปไหนซะด้วยซ้ำ นั่นยิ่งทำให้ก้อนเนื้อที่อยู่ในอกข้างซ้ายมันยิ่งสูบฉีดเลือดดีมากจนเกินไป
พูดตามตรงเลยก็คือ เธอกลัวเยริม เด็กคนนั้นอ่อนกว่าเธอสองปี แต่จะไม่เรียกเธอว่าพี่ถ้าไม่จำเป็น แถมยังชอบพูดกระแนะกระแหนว่าเธอคือ เค้กเรดเวลเวทของรักของหวงของอาไอรีน เวนดี้กลัวเยริมมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเยริมเป็นเด็กก้าวร้าว…
ตอนนั้นเยริมอายุแค่ห้าขวบแต่สามารถทำให้แก้มของเธอเป็นแผลเลือดออกได้เพราะเล็บที่เจ้าตัวไม่ยอมตัดนั่น
“ขอชมนะว่าผอมลง” เด็กสาววัยสิบเจ็ดบนเก้าอี้ไม้ตัวเขื่องหันหลังมามองเธอพร้อมเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาสีออกเทาๆนั้นมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างกับตัวอะไรซักอย่างก่อนจะยื่นมือที่มีเล็บยาวๆนั่นออกมาทำถ้าเหมือนต้องการอ้อมกอดจากเธออย่างที่คนอื่นเขาทำกัน
“กอดหน่อยสิ”
“ย-เยริม..”
ดวงตากลมโตของคนอายุมากกว่าจับจ้องอยู่กับปลายเล็บยาวๆที่เข้าใกล้ตนเองมากขึ้นทุกที ทว่าไม่ทันได้ระวังตัวร่างบอบบางที่เคยอยู่ในระยะไม่ใกล้มากนักก็โผเข้ากอดพร้อมกระชับแขนรัดตัวเธอไว้แน่นจนนึกสงสัยว่าเด็กตัวบางๆแบบนี่มีแรงมากขนาดนั้นเชียว
เวนดี้แทบกลั้นหายใจเมื่อปลายจมูกของคนที่สวมเสื้อสเวตเตอร์เฉี่ยวผ่านลำคอเธอไปแต่ก็ต้องตกใจจนหลับตาแน่นเมื่อหล่อนหันใบหน้าเข้าหาลำคอขาวสะอาด สัมผัสได้ถึงลมหายใจเย็นๆ
ถ้าเวนดี้มีญาณทิพย์คงเป็นลมล้มพับที่เห็นว่าเยริมกำลังแยกเขี้ยวออกมา..!
“เยริม!!”
สิ้นเสียงนุ่มที่ดังขึ้นคนที่กอดเธอไว้ก็คลายแรงลงจนละมือออกจากร่างกายเธอในที่สุด คนที่กำลังสติหลุดลอยสูดหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติก่อนจะหันไปหาต้นเสียงที่เข้ามาช่วยเธอได้ถูกเวลา ไม่ใช่ใครที่ไหน-ก็คุณอาไอรีนของเธอนั่นแหล่ะ
อ่อก!!
จู่ๆเยริมก็สำลักไอจนตัวโยน สองมือที่เคยไขว่คว้าเธอไว้เอื้อมขึ้นมากุมลำคอไว้หลวมๆ เธอทำท่าทางเหมือนกับว่า…กำลังโดนใครบีบคออยู่อย่างนั้นล่ะ คนที่เป็นพี่อย่างเวนดี้จะให้ยืนมองน้องทรุดลงไปก็ไม่ใช่เรื่อง ก็เลยต้องยื่นมือไปจับไว้จากที่เคยเบี่ยงหนี
“เวนดี้,มีเรียนภาคเช้าไม่ใช่หรอรีบไปซะสิ เดี๋ยวอาดูแลน้องเอง” ไอรีนพูดเสียงเรียบพร้อมเข้ามาประคองร่างของคนที่หายใจเฮือกใหญ่ราวกับว่าโผล่พ้นผิวน้ำจากที่จมดิ่งอยู่นาน
ทำไมอารีนถึงดูปกติขนาดนั้นทั้งๆที่เยริมดูแย่ขนาดนี้?
…บางครั้งเวนดี้ก็รู้สึกว่าเธอไม่เข้าใจอาของเธอเลยซักนิด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คนนี้ของคุณอาไอรีน สาวสองพันปีนู้นนนน
ตายแหล่ววววทำไมอ่านมาถึงตอนนี้แล้วกลัวเยริมไม่แพ้วานเลยล่ะTT____TTนางดูแสบอ่ะฮืออออวงวารยัยหนูวานแท้
ส่วนเยริมนั้น เดาทางไม่ถูกว่าจะมารูปแบบไหน
กลัวแทนเวนดี้แล้วค่ะเนี่ย เหมือนเป็นหนูน้อยในดงเสือ
ฮือ ยัยหนูเอ็นดู555555555
แล้วทำไมเวนดี้ไม่เหมือนคนอื่นๆล่ะ อัยอิกู น่าสงสัย น่าสงสัย
มาต่อไวๆนะคะไรท์รอติดตามนะคะ สู้ๆค่ะ