คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Up In The Air : 01
Title : Up In The Air 01
Author : Mithunajune
คยองซูเลี้ยวรถมินิคูเปอร์สีเหลืองเข้าจอดในซองสุดท้ายที่เหลืออยู่ของชั้น 3 เปลี่ยนจากแว่นกันแดดเป็นแว่นสายตาแล้วหันไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย หลังจากเช็คว่ารถล็อกแล้วเรียบร้อยก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ลิฟต์
วันนี้เขามีประชุมกับทีมทำงาน คยองซูมารับเป็นที่ปรึกษาให้กับโปรเจคต์โฆษณาพิเศษ เขาเคยทำงานอยู่ในวงการเอเจนซี่มาหลายปีก่อนจะผันตัวไปเป็นนักเขียนแล้วเปิดร้านหนังสือเป็นของตัวเอง คราวนี้เพื่อนในวงการโฆษณาที่สนิทสนมกันอย่าง อีแทมิน เรียกตัวให้มาช่วยงานนี้หน่อย คยองซูเลยรับเป็นฟรีแลนซ์ให้
อีก 2 นาที เก้าโมงสิบห้า
คยองซูแทรกตัวผ่านผู้คนไปจนถึงหน้าประตู เห็นคนนั่งเกือบจะเต็มห้องแล้วเลยเปิดประตูเข้าไปนั่งด้วยความรวดเร็ว พยักหน้าทักทายสมาชิกร่วมทีมหลายๆคน เลยจนสายตาไปเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่มุมห้องอย่างเรียบร้อย ใบหน้าคมเข้มยังไม่ตื่นดีด้วยซ้ำ ในมือถือกาแฟจากร้านชื่อดังเอาไว้ ข้างๆมีผู้ชายอีกคนท่าทางจะเป็นผู้จัดการประกบไม่ห่าง
แค่เห็นครั้งเดียวก็จำได้แล้ว...
ใบหน้ารูปสลักแบบนั้นใช่ว่าจะเจอได้ทุกวัน
การประชุมเริ่มต้นขึ้นในที่สุด อีแทมินหัวหน้าโปรเจคต์ไล่แนะนำสมาชิกและหน้าที่ เพราะว่าเป็นโปรเจคต์พิเศษเลยทำให้ดึงคนมาจากหลายที่ บางคนยังไม่รู้จักกันก็ต้องแนะนำเอาไว้ก่อน
“ส่วนคนนี้.. คิมจงอิน” แทมินผายมือไปยังเจ้าของชื่อ “ปกติแล้วจงอินไม่ค่อยรับงานคอมเมอร์เชียลขนาดนี้เท่าไหร่ รับงานภาพงานอาร์ตหรือแฟชั่นในต่างประเทศมากกว่า ทุกคนคงคุ้นหน้าอยู่แล้ว แต่คราวนี้ผมใช้อำนาจเพื่อนสนิทมาอ้อนวอน เราเลยได้คิมจงอินมาเล่นโฆษณาตัวนี้”
“เรื่องเลือกพรีเซนเตอร์ผมไม่เคยเอาเข้าที่ประชุมมาก่อน แต่ทางผู้ใหญ่อนุมัติแล้ว ยังไงก็ขอฝากทุกคนด้วยนะครับ”
คิมจงอินโค้ง 90 องศาให้ทั้งห้อง ใบหน้าเรียบเฉยนั้นบิดยิ้มมุมปากพอให้ไม่รู้สึกว่าไร้มารยาท พอเงยหน้าขึ้นมาก็ประสานสายตาเข้ากัับที่ปรึกษาพิเศษเข้าอย่างจัง แววตาสีเข้มไหวระริกเพราะความตกใจแล้วรีบกลับไปนิ่งสงบดังเดิม
คยองซูนึกขำในใจ ก่อนหน้านี้ไม่ได้ฟังที่แทมินแนะนำทีมงานเลยใช่ไหม ไม่ได้สนใจอะไรรอบตัวเลย เป็นคนแบบไหน? โลกหมุนรอบตัวเองหรือยังไง?
.
“ถ้าเจอคนที่ใช่แล้วเราจะถูกดึงดูดเข้าสู่วงโคจรของเขาจริงหรือ?”
“เธอเล่าให้ฟังว่าคุณว่าเอาไว้แบบนั้น..”
คยองซูไม่คิดว่าบทสนทนาแรกระหว่างเขากับคิมจงอินจะเป็นคำถามแบบนี้...
นายแบบหนุ่มในเสื้อแขนยาวคอเต่าสีขาวกับกางเกงทรงกระบอกสีน้ำเงินเข้มลายทางเอนตัวพิงกับเก้าอี้ทรงสูงแล้วเบือนหน้ามาถาม
“แล้วเธอได้เล่าต่อหรือเปล่า ว่าความใช่น่ะสั่นคลอนหัวใจได้มากกว่าความรักเยอะเลยนะ”
“ทำไม?”
“แค่ความรักมันทำให้เรามองข้ามทุกอย่างไปจนกลายเป็นตาบอด แต่ความใช่มันทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ แม้แต่ความรัก”
จงอินโคลงหน้าไปมาราวกับครุ่นคิดประโยคก่อนหน้าด้วยความละเมียดละไม ไม่ว่าจะอยู่ในอากัปกิริยาแบบไหน คิมจงอินก็น่ามองอย่างเหลือเชื่อ
“คุณเหมือนเธอมากรู้ตัวหรือเปล่า”
คยองซูแค่นยิ้มให้กับคำกล่าวนั้น “ไม่คิดหรือว่าเราเหมือนกันมากเกินไป”
“คุณไม่ใช่คนที่ใช่ของเธอ ผมเองก็เช่นกัน..”
“ผู้หญิงคนนั้นรักทุกคน แต่ไม่มีใครใช่สำหรับเธอ”
“เรื่องเศร้าคือทุกคนตกหลุมรักเธอชนิดโงหัวไม่ขึ้นยังไงล่ะ” จงอินยิ้มพรายเมื่อนึกถึงบุคคลที่สาม คยองซูหัวเราะอย่างเห็นด้วย
เสียงทีมงานตะโกนคุยกันไปมาในสตูดิโอคลอไปกับเสียงเพลงที่เปิดเอาไว้ คยองซูนึกสงสัยว่าทุกครั้งที่เขาเจอจงอินจะต้องมีเสียงคุยกับเสียงเพลงคลออยู่ด้วยทุกครั้งเลยไหม คราวที่แล้วเป็นอิตาเลียนแจ๊ซ คราวนี้เป็นฮิปฮอปเกาหลีสินะ
กองถ่ายพักยาวเกือบชั่วโมง ถ้าเขาเป็นจงอินคงเลือกจะเข้าห้องพักไปนอนสักงีบมากกว่ามาคุยบทสนทนายืดยาวกับ.. เรียกว่าอะไรดีล่ะ แฟนเก่าของแฟนเก่า?
“คุณโดคยองซู.. ผมอ่านผลงานคุณหลายเล่มเลย”
คยองซูยักคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เขาขยับแว่นที่สวมอยู่เบาๆ
“เป็นยังไงบ้างล่ะ”
“อยากอ่านอะไรแบบนี้แหละ” จงอินว่าเจือหัวเราะ “อ่านแล้วก็รู้สึกว่าพอมีใครสักคนออกมาวิพากษ์สังคมแบบไม่ต้องด่าทอก็อ่านสบายตาดีเหมือนกัน”
“ก็เพราะปกติพวกวิจารณ์สังคมมันมีแต่หัวรุนแรงน่ะสิ บางทีฉันก็อยากด่านะ แต่ด่าอย่างมีอารยะ ไม่ต้องประชดประชดเปรียบเทียบน่ะ”
“ผมชอบเล่มที่คุณเขียนถึงการศึกษามากที่สุด นักศึกษาทั้งประเทศควรได้อ่านอะไรแบบนี้”
“แปลกนะ.. ไม่คิดว่าเด็กๆอย่างนายจะสนใจเรื่องสังคมด้วย”
“นี่คิดว่าตัวเองแก่กว่าผมกี่ปีกัน”
“หมายถึงคนอายุอย่างเราๆไง”
“ก็จริง.. เด็กเดี๋ยวนี้อ่านหนังสือดีๆน้อยลง ผมแค่เป็นคนชอบอ่านหนังสือมากๆเลยอ่านไปได้หมดทุกอย่าง”
“ฉันคงไม่ต้องตอบใช่ไหมว่าชอบอ่านหรือเปล่า”
จงอินไม่ได้ตอบอะไรกลับมา สต๊าฟสาวคนหนึ่งเดินเอาน้ำส้มมาให้ทั้งคู่ดื่มแก้กระหาย จงอินยังคงยืนพิงเก้าอี้ทรงสูงอยู่อย่างนั้น ส่วนคยองซูเองก็ยืนล้วงกระเป๋าไม่ได้เดินหายไปไหน พวกเขาแค่ยืนอยู่ข้างๆกัน
“ทำไมถึงมาเป็นนายแบบ”
“ทำไมถึงถามล่ะ”
“ดูความคิดแล้วไม่ใช่คนทำงานสายแฟชั่น”
“คนสายแฟชั่นเป็นคนคิดเยอะเรื่องสังคมไม่ได้เหรอ?”
คยองซูนิ่งไปพักหนึ่ง “อืม.. ก็จริงนะ”
“มาเป็นนายแบบก็เพราะชอบ ผมชอบศิลปะของอารมณ์ แค่อยากถ่ายทอดอารมณ์ตัวเอง รู้สึกมันเยอะไปหน่อย แบ่งไปให้คนอื่นบ้าง”
“เป็นเด็กเก็บกดหรือไง” คยองซูกระเซ้า
“บางทีก็คิดเหมือนกัน” จงอินส่งยิ้มเผล่ราวกับยอมรับ
เสียงอีแทมินตะโกนมาจากระยะไกลว่าถึงเวลาแล้วให้ทุกคนประจำตำแหน่ง คยองซูดื่มน้ำส้มอึกสุดท้ายแล้วยื่นมือไปรับแก้วเปล่าจากจงอิน เขาพยักเพยิดให้อีกฝ่ายไปประจำที่ของตัวเองได้แล้ว
“คุณเป็นคนน่าสนใจมาก หวังว่าจะได้คุยกันอีก”
“ถ้า.. โลกเหวี่ยงเราให้มาเจอกันนะคิมจงอิน”
และนั่น..คือการพบกันครั้งที่สองของเรา
(mithuna's talk)
เรื่องนี้มาตอนละสั้นกว่าเรื่องที่แล้วเยอะเลยนะคะ แฮ่ เพราะว่าจะอ่านเนื้อหาแล้วได้อารมณ์มากกว่า เรื่องนี้จะมีอะไรให้คิดเยอะ มิอยากให้คนอ่านได้คิดตามแล้วก็ทิ้งอารมณ์ไปกับแต่ละตอน ยังไงก็ลองอ่านกันดูเนอะ ใครที่เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ก็ยินดีต้อนรับนะคะ ^^
พูดจาพูดคุยกันได้ที่ @mithunajunejune #UITAkaido
mithuna
ความคิดเห็น