ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) Up In The Air | Kaisoo/Kaido

    ลำดับตอนที่ #2 : Up In The Air : 01

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 58





    Title : Up In The Air 01

    Author : Mithunajune

     

     

     




     

     

     




            คยองซูเลี้ยวรถมินิคูเปอร์สีเหลืองเข้าจอดในซองสุดท้ายที่เหลืออยู่ของชั้น 3 เปลี่ยนจากแว่นกันแดดเป็นแว่นสายตาแล้วหันไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย หลังจากเช็คว่ารถล็อกแล้วเรียบร้อยก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ลิฟต์

     


            วันนี้เขามีประชุมกับทีมทำงาน คยองซูมารับเป็นที่ปรึกษาให้กับโปรเจคต์โฆษณาพิเศษ เขาเคยทำงานอยู่ในวงการเอเจนซี่มาหลายปีก่อนจะผันตัวไปเป็นนักเขียนแล้วเปิดร้านหนังสือเป็นของตัวเอง คราวนี้เพื่อนในวงการโฆษณาที่สนิทสนมกันอย่าง อีแทมิน เรียกตัวให้มาช่วยงานนี้หน่อย คยองซูเลยรับเป็นฟรีแลนซ์ให้

     

     




     

     

            อีก 2 นาที เก้าโมงสิบห้า

     

     

     




            คยองซูแทรกตัวผ่านผู้คนไปจนถึงหน้าประตู เห็นคนนั่งเกือบจะเต็มห้องแล้วเลยเปิดประตูเข้าไปนั่งด้วยความรวดเร็ว พยักหน้าทักทายสมาชิกร่วมทีมหลายๆคน เลยจนสายตาไปเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่มุมห้องอย่างเรียบร้อย ใบหน้าคมเข้มยังไม่ตื่นดีด้วยซ้ำ ในมือถือกาแฟจากร้านชื่อดังเอาไว้ ข้างๆมีผู้ชายอีกคนท่าทางจะเป็นผู้จัดการประกบไม่ห่าง

     

     

     





            แค่เห็นครั้งเดียวก็จำได้แล้ว...

     

     

     



            ใบหน้ารูปสลักแบบนั้นใช่ว่าจะเจอได้ทุกวัน

     

     





            การประชุมเริ่มต้นขึ้นในที่สุด อีแทมินหัวหน้าโปรเจคต์ไล่แนะนำสมาชิกและหน้าที่ เพราะว่าเป็นโปรเจคต์พิเศษเลยทำให้ดึงคนมาจากหลายที่ บางคนยังไม่รู้จักกันก็ต้องแนะนำเอาไว้ก่อน 

     

     

     





    “ส่วนคนนี้.. คิมจงอิน” แทมินผายมือไปยังเจ้าของชื่อ “ปกติแล้วจงอินไม่ค่อยรับงานคอมเมอร์เชียลขนาดนี้เท่าไหร่ รับงานภาพงานอาร์ตหรือแฟชั่นในต่างประเทศมากกว่า ทุกคนคงคุ้นหน้าอยู่แล้ว แต่คราวนี้ผมใช้อำนาจเพื่อนสนิทมาอ้อนวอน เราเลยได้คิมจงอินมาเล่นโฆษณาตัวนี้”

     

    “เรื่องเลือกพรีเซนเตอร์ผมไม่เคยเอาเข้าที่ประชุมมาก่อน แต่ทางผู้ใหญ่อนุมัติแล้ว ยังไงก็ขอฝากทุกคนด้วยนะครับ”



     





            คิมจงอินโค้ง 90 องศาให้ทั้งห้อง ใบหน้าเรียบเฉยนั้นบิดยิ้มมุมปากพอให้ไม่รู้สึกว่าไร้มารยาท พอเงยหน้าขึ้นมาก็ประสานสายตาเข้ากัับที่ปรึกษาพิเศษเข้าอย่างจัง แววตาสีเข้มไหวระริกเพราะความตกใจแล้วรีบกลับไปนิ่งสงบดังเดิม

     

     

     





            คยองซูนึกขำในใจ ก่อนหน้านี้ไม่ได้ฟังที่แทมินแนะนำทีมงานเลยใช่ไหม ไม่ได้สนใจอะไรรอบตัวเลย เป็นคนแบบไหน? โลกหมุนรอบตัวเองหรือยังไง?

     

     

     





     

     

     

    .

     

     

     






     

     

     

    “ถ้าเจอคนที่ใช่แล้วเราจะถูกดึงดูดเข้าสู่วงโคจรของเขาจริงหรือ?”

     

    “เธอเล่าให้ฟังว่าคุณว่าเอาไว้แบบนั้น..”

     

     

     

     

     

     

     





            คยองซูไม่คิดว่าบทสนทนาแรกระหว่างเขากับคิมจงอินจะเป็นคำถามแบบนี้...

     

     



            นายแบบหนุ่มในเสื้อแขนยาวคอเต่าสีขาวกับกางเกงทรงกระบอกสีน้ำเงินเข้มลายทางเอนตัวพิงกับเก้าอี้ทรงสูงแล้วเบือนหน้ามาถาม

     

     

     





     

     

    “แล้วเธอได้เล่าต่อหรือเปล่า ว่าความใช่น่ะสั่นคลอนหัวใจได้มากกว่าความรักเยอะเลยนะ”

     

     

     



     





     

     

    “ทำไม?”

     

     







     

     

     

    “แค่ความรักมันทำให้เรามองข้ามทุกอย่างไปจนกลายเป็นตาบอด แต่ความใช่มันทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ แม้แต่ความรัก”

     

     

     

     





            จงอินโคลงหน้าไปมาราวกับครุ่นคิดประโยคก่อนหน้าด้วยความละเมียดละไม ไม่ว่าจะอยู่ในอากัปกิริยาแบบไหน คิมจงอินก็น่ามองอย่างเหลือเชื่อ

     

     

     

     





     

    “คุณเหมือนเธอมากรู้ตัวหรือเปล่า”

     


     

     

     

     

     



            คยองซูแค่นยิ้มให้กับคำกล่าวนั้น “ไม่คิดหรือว่าเราเหมือนกันมากเกินไป”

     

     

     

     




     

     

     

    “คุณไม่ใช่คนที่ใช่ของเธอ ผมเองก็เช่นกัน..”

     

     





     

     

     

     

    “ผู้หญิงคนนั้นรักทุกคน แต่ไม่มีใครใช่สำหรับเธอ”

     

     

     

     

     

     


     

    “เรื่องเศร้าคือทุกคนตกหลุมรักเธอชนิดโงหัวไม่ขึ้นยังไงล่ะ” จงอินยิ้มพรายเมื่อนึกถึงบุคคลที่สาม คยองซูหัวเราะอย่างเห็นด้วย

     

     

     

     

     




            เสียงทีมงานตะโกนคุยกันไปมาในสตูดิโอคลอไปกับเสียงเพลงที่เปิดเอาไว้ คยองซูนึกสงสัยว่าทุกครั้งที่เขาเจอจงอินจะต้องมีเสียงคุยกับเสียงเพลงคลออยู่ด้วยทุกครั้งเลยไหม คราวที่แล้วเป็นอิตาเลียนแจ๊ซ คราวนี้เป็นฮิปฮอปเกาหลีสินะ

     


            กองถ่ายพักยาวเกือบชั่วโมง ถ้าเขาเป็นจงอินคงเลือกจะเข้าห้องพักไปนอนสักงีบมากกว่ามาคุยบทสนทนายืดยาวกับ.. เรียกว่าอะไรดีล่ะ แฟนเก่าของแฟนเก่า?

     

     






     

    “คุณโดคยองซู.. ผมอ่านผลงานคุณหลายเล่มเลย”

     

     

     

     





            คยองซูยักคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เขาขยับแว่นที่สวมอยู่เบาๆ

     

     






     

     

    “เป็นยังไงบ้างล่ะ”

     

     

     






     

    “อยากอ่านอะไรแบบนี้แหละ” จงอินว่าเจือหัวเราะ “อ่านแล้วก็รู้สึกว่าพอมีใครสักคนออกมาวิพากษ์สังคมแบบไม่ต้องด่าทอก็อ่านสบายตาดีเหมือนกัน”

     

     

     







     

    “ก็เพราะปกติพวกวิจารณ์สังคมมันมีแต่หัวรุนแรงน่ะสิ บางทีฉันก็อยากด่านะ แต่ด่าอย่างมีอารยะ ไม่ต้องประชดประชดเปรียบเทียบน่ะ”

     







     

     

     

    “ผมชอบเล่มที่คุณเขียนถึงการศึกษามากที่สุด นักศึกษาทั้งประเทศควรได้อ่านอะไรแบบนี้”

     






     

     

     

    “แปลกนะ.. ไม่คิดว่าเด็กๆอย่างนายจะสนใจเรื่องสังคมด้วย”

     

     







     

     

    “นี่คิดว่าตัวเองแก่กว่าผมกี่ปีกัน”

     

     






     

     

     

    “หมายถึงคนอายุอย่างเราๆไง”

     







     

     

     

     

    “ก็จริง.. เด็กเดี๋ยวนี้อ่านหนังสือดีๆน้อยลง ผมแค่เป็นคนชอบอ่านหนังสือมากๆเลยอ่านไปได้หมดทุกอย่าง”

     

     

     






     

     

    “ฉันคงไม่ต้องตอบใช่ไหมว่าชอบอ่านหรือเปล่า”

     

     




     

     

            จงอินไม่ได้ตอบอะไรกลับมา สต๊าฟสาวคนหนึ่งเดินเอาน้ำส้มมาให้ทั้งคู่ดื่มแก้กระหาย จงอินยังคงยืนพิงเก้าอี้ทรงสูงอยู่อย่างนั้น ส่วนคยองซูเองก็ยืนล้วงกระเป๋าไม่ได้เดินหายไปไหน พวกเขาแค่ยืนอยู่ข้างๆกัน

     

     

     

     






     

    “ทำไมถึงมาเป็นนายแบบ”

     

     

     







     

     

    “ทำไมถึงถามล่ะ”

     







     

     

     

     

    “ดูความคิดแล้วไม่ใช่คนทำงานสายแฟชั่น”

     






     

     

     

     

    “คนสายแฟชั่นเป็นคนคิดเยอะเรื่องสังคมไม่ได้เหรอ?”

     

     






     

     

     

            คยองซูนิ่งไปพักหนึ่ง “อืม.. ก็จริงนะ”

     

     






     

     

     

    “มาเป็นนายแบบก็เพราะชอบ ผมชอบศิลปะของอารมณ์ แค่อยากถ่ายทอดอารมณ์ตัวเอง รู้สึกมันเยอะไปหน่อย แบ่งไปให้คนอื่นบ้าง”

     

     







     

     

     

    “เป็นเด็กเก็บกดหรือไง” คยองซูกระเซ้า

     

     

     







     

     

    “บางทีก็คิดเหมือนกัน” จงอินส่งยิ้มเผล่ราวกับยอมรับ

     



     






            เสียงอีแทมินตะโกนมาจากระยะไกลว่าถึงเวลาแล้วให้ทุกคนประจำตำแหน่ง คยองซูดื่มน้ำส้มอึกสุดท้ายแล้วยื่นมือไปรับแก้วเปล่าจากจงอิน เขาพยักเพยิดให้อีกฝ่ายไปประจำที่ของตัวเองได้แล้ว

     

     

     




     

     

     

    “คุณเป็นคนน่าสนใจมาก หวังว่าจะได้คุยกันอีก”

     

     

     






     

     

     

    “ถ้า.. โลกเหวี่ยงเราให้มาเจอกันนะคิมจงอิน”

     

     








     

     

     

     

     

     

     

    และนั่น..คือการพบกันครั้งที่สองของเรา
















    (mithuna's talk)

    เรื่องนี้มาตอนละสั้นกว่าเรื่องที่แล้วเยอะเลยนะคะ แฮ่ เพราะว่าจะอ่านเนื้อหาแล้วได้อารมณ์มากกว่า เรื่องนี้จะมีอะไรให้คิดเยอะ มิอยากให้คนอ่านได้คิดตามแล้วก็ทิ้งอารมณ์ไปกับแต่ละตอน ยังไงก็ลองอ่านกันดูเนอะ ใครที่เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ก็ยินดีต้อนรับนะคะ ^^

    พูดจาพูดคุยกันได้ที่ @mithunajunejune #UITAkaido 




    mithuna

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×