ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) Up In The Air | Kaisoo/Kaido

    ลำดับตอนที่ #3 : Up In The Air : 02

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      14
      21 ก.ค. 58




    Title : Up In The Air 02

    Author : Mithunajune

     

     







     

     

     




            ร้านหนังสือวันนี้วุ่นวายกว่าปกติเพราะมีหนังสือล็อตใหม่ที่สั่งเอาไว้เข้ามา ลูกน้องที่ช่วยคุมร้านก็ไม่อยู่ด้วย คยองซูเลยต้องมาจัดการทุกอย่างคนเดียว เขาหยิบไอแพดขึ้นมาเช็คสต็อกหนังสือแล้วเอาหนังสือใหม่ขึ้นวางบนชั้นสักสองสามเล่ม ที่เหลือก็เอาใส่กล่องเก็บไว้ในห้องเก็บของก่อน

     


            คยองซูเงยหน้าขึ้นมาจากไอแพดหลังจากได้ยินเสียงกริ่งหน้าร้านบอกว่าลูกค้าเข้ามาแล้ว ท่ามกลางกองหนังสือมากมาย หัวยุ่งๆก็ผลุบโผล่จนเผยให้เห็นเจ้าของใบหน้าอ่อนวัย 

     

     








     

     

    “ในที่สุดโลกก็เหวี่ยงเราให้มาเจอกันจนได้” คิมจงอินว่าแบบนั้น

     

     

     

     








            คยองซูเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายเข้ามานั่งมุมด้านในจิบชาพูดคุยกัน ทั้งๆที่พวกเขาเทียบเท่ากับคนไม่รู้จักด้วยซ้ำ เจอหน้าก็แค่สองครั้ง คุยกันก็แค่หนเดียว แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้พูดคุยราวกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน คิมจงอินที่ไม่ได้เจอกันสามปีดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกหลายเท่าตัว

     






     

     

    ‘ผมน่ะรู้จักผ่านคยองซูผ่านตัวหนังสือมาเยอะแล้ว’









     

     

     

    ‘ฉันควรดีใจไหม?’

     









     

     

    ‘นิดนึงก็ได้’

     

     

     

     







             บทสนทนาเรื่อยเปื่อยถามไปตั้งแต่ชีวิตทั่วไป สถานการณ์ปัจจุบันของโลก หรือว่าเรื่องเม้าท์ในวงการของแต่ละคน(จงอินเห็นอย่างนี้แต่รู้ข่าวคาวดาราเยอะชะมัด) พวกเขาคุยกันจนไม่รู้แล้วว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน คยองซูนึกสงสัยว่าครั้งนี้จงอินบังเอิญหรือจงใจให้โลกหมุนเรามาเจอกันกันแน่ 

     


            ถึงแม้ว่าดูจะทะนงตนไปหน่อย แต่ร้านหนังสือของโดคยองซู นักเขียนคนเก่งของเกาหลีตอนนี้ มีหรือใครจะไม่รู้จัก?

     

     

     

     







     

    “เธอจะแต่งงานแล้วนะ”

     

     

     

     

     

     





            และคยองซูก็ได้คำตอบเมื่อจงอินพูดประโยคนั้นออกมา... จงใจ

     

     

     






     

     

     

    “รู้แล้วล่ะ” 






     

     

     

     

     

     

    “คุณคบกับเธอมานานแค่ไหน?”

     

     





     

     

     

     

    “เกือบสองปีได้”

     

     

     






     

     

    “ของผมสาม.. ไม่เคยคบใครนานขนาดนั้นมาก่อน”

     

     








     

     

     

    “ทำไมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เสียใจหรือ?”

     

     

     

     







     

    “เปล่า.. แต่ดูจะเป็นเรื่องเดียวที่เราเกี่ยวข้องกัน หรือไม่ใช่?”

     

     

     

     

     







            คยองซูไม่ได้ตอบอะไรกลับไป “แล้วจะไปงานแต่งหรือเปล่า?”

     

     







     

     

     

    “คงต้องไป ก็เราเป็นเพื่อนร่วมอาชีพ”

     

     

     







     

     

    “ตั้งใจมาหาเพราะเรื่องนี้?”

     

     

     

     

     

     




            คิมจงอินเอนตัวพิงกับเก้าอี้ไม้วินเทจ ประสานมือเอาไว้ที่หน้าตัก

     

     

     







     

     

    “มันดูประหลาดใช่ไหมล่ะ.. ในที่สุดเธอก็เจอคนที่ใช่ที่สุด ไม่ใช่ผม ไม่ใช่คุณ แต่เป็นใครอีกคน พวกเราเหมือนเป็นดาวหางที่วิ่งผ่านแค่ชั่วครู่ชั่วยาม ถูกดึงดูดให้โคจรรอบเธอคนละสองสามปี สุดท้ายแล้วก็ถูกเหวี่ยงออกไปนอกวงโคจรอยู่ดี”

     

     







     

     

    “คิมจงอิน ไม่มีใครรู้หรอกว่าโลกจะเหวี่ยงเราไปเจอใครบ้าง และจะมีเวลาอยู่ด้วยกันเท่าไหร่”

     

     






     

     

    “ไม่ได้เสียใจ แต่แค่คิดว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ในขณะที่เธอกำลังจะสร้างชีวิตคู่ มันคงเป็นความรู้สึกเวลาเห็นแฟนเก่ากำลังจะแต่งงานจริงๆนั่นแหละ” จงอินยิ้มแล้วส่ายหน้าให้กับความเพ้อเจ้อของตัวเอง

     







     

     

    “สามปีที่ผ่านมาไม่เจอใครเลย?”

     







     

     

     

    “ผมโตเกินกว่าจะคบใครเล่นๆแล้ว.. คุณล่ะ?”

     

     

     






     

     

     

    “เอาเป็นว่าหกปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ฉันเจอคนที่ใช่”

     





     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     






            พนักงานสาวยกเครื่องเคียงสารพัดชนิดมาให้กินก่อนเรียกน้ำย่อย จงอินจัดแจงยกจากถาดมาวางไว้บนโต๊ะเพื่อช่วยเธอ เรียกริ้วแดงๆพาดแก้มยุ้ยๆนั่นได้ดีเชียว คยองซูหยิบตะเกียบและช้อนในกล่องออกมาสองชุด วางไว้ให้ตัวเองหนึ่ง และยื่นให้จงอินอีกชุด

     





            ไม่รู้ยังไง แต่อยู่ดีๆก็ถูกลากออกมากินมื้อดึกด้วยกันแล้ว..

     

     

     





            กระดูกหมูตุ๋นเสิร์ฟเป็นอย่างแรก มาพร้อมกับโซจูสองขวดและเบียร์อีกสอง คิมจงอินที่คยองซูลงความเห็นแล้วว่ากระแดะที่สุดดื่มเหล้าเพียวไม่ได้ เจ้าตัวบอกว่าโซจูรสชาติแย่ ถ้าไม่กินกับเบียร์จะกินไม่ไหว พอท้วงว่าไม่กลัวเมาเร็วหรือไงก็เชิดหน้าบอกทันทีว่าตัวเองคอแข็ง หึ.. คิดจะสู้กับนักเขียนน่ะหรือ? ไม่รู้หรือไงว่าพวกขายจินตนาการน่ะกินเหล้าต่างน้ำ

     

     


            แต่ที่คยองซูไม่รู้เหมือนกันก็คือพวกทำงานสายบันเทิงก็ปาร์ตี้จัดสุดๆเหมือนกัน

     

     

     




     

    “เคยอ่านเพจ Humans of NewYork เปล่า” คยองซูยื่นโทรศัพท์ให้อีกคนดูหน้าเพจ facebook 







     

     

     

     

    “ไม่อะ”






     

     

     

     

    “ไปอ่านซะ ฉันชอบมาก”

     







     

     

     

    “มันเกี่ยวกับอะไร เล่าเรื่องคนเหรอ?” จงอินหยิบโทรศัพท์คยองซูมาเลื่อนๆดูในหน้าฟีด

     

     






     

     

    “คนทำเป็นช่างภาพ ทีแรกก็ถ่ายรูปคนทั่วไปในนิวยอร์คธรรมดา แล้วพอไปคุยกับคนเยอะๆเข้าเห็นว่ามีเรื่องน่าสนใจเต็มไปหมดก็เลยยกโคว้ทที่ชอบของคนนั้นใส่มาในรูปด้วย ทีนี้คนอ่านก็ชอบมาก เลยดังระเบิดกลายเป็นเพจเจ๋งๆที่ได้ออกหนังสือของตัวเองไปเลย”

     

     







     

     

    “น่าสนใจนะ เห็นหน้าคนแบบนี้ไม่รู้เลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เป็นเบื้องหลัง”

     

     






     

     

    “มันสนุกตรงที่ได้เซอร์ไพรซ์ไปกับคำพูดของคนพวกนี้เนี่ยแหละ”

     







     

     

     

    “คยองซูคิดไหมว่านิวยอร์คนี่เหมือนดินแดนลึกลับ” จงอินทำมือประหลาดอธิบายไปด้วย

     

     







     

     

    “หือ?” 

     







     

     

     

    “มีทุกอย่างที่นั่น”

     

     






     

     

    “A place where dreams are made of ไง”

     

     

     





     

     

    “แต่ไม่เคยไปเที่ยวจริงๆจังๆสักทีนะ”

     

     

     






     

     

    “ถ้าเที่ยวอเมริกาต้องไปสักเดือน ขับรถข้ามรัฐน่ะถึงจะคุ้ม ไปแค่นิวยอร์คไม่คุ้มหรอก”

     

     

     







     

     

    “คยองซูเคยไปหรือยัง?”

     

     

     






     

     

    “คนปกติเขาว่างไปเที่ยวเมืองนอกเป็นเดือนๆที่ไหน” คยองซูใช้ตะเกียบในมือชี้หน้าพ่อนายแบบคิวทอง

     

     






     

     

     

    “ทำเป็นคนทำงานออฟฟิศไปได้”

     






     

     

     

     

    “ฉันไม่ได้ทำแต่เพื่อนคนอื่นเขาทำนะ”

     

     






     

     

     

    “งั้นเราไปกันไหม?”

     

     







     

     

     

    “หือ?”

     

     

     






     

     

    “เอาไว้มีโอกาสแล้วไปขับรถเที่ยวกัน”

     






     

     

     

     

    “เอาสิ”

     









             อาหารทั้งโต๊ะหมดเกลี้ยงแล้ว แต่ทั้งคู่ยังไม่หยุดดื่ม หมดโซจูหมดเบียร์ไปก็เยอะแล้วแต่ไม่เห็นจะมีใครเมาสักคน ถ้าไม่นับที่คยองซูหน้าแดงแจ๋กับจงอินที่ผมจุ่มลงไปในเบียร์แล้ว.. ก็ถือว่าเรียบร้อยดี

     

     






     

     

            ‘ถ้าไม่เมา.. ไม่หยุดนะ’ จงอินยื่นคำขาด

     

     

     

     




            หลังจากนั้นเป็นภาพตัดไปตัดมาอย่างเบลอๆ จำได้ว่าตัวเองปีนขึ้นไปบนเก้าอี้จะเปลี่ยนหลอดไฟ จงอินที่ถอดเสื้อหนาวและทำท่าจะถอดกางเกงด้วย โต๊ะข้างๆที่เมาพอกันก็ร้องเพลงเสียงดัง คิมจงอินเลยตะโกนไปว่า นึกว่าจะต่อยกันแล้ว ไปๆมาๆกลายเป็นกอดกันร้องเพลงพื้นเมือง วาร์ปจนไม่รู้จะวาร์ปยังไง

     



            รู้สึกตัวอีกทีคยองซูก็ตื่นมาในออดี้ทรีทีของคิมจงอินในสภาพเหม็นเหล้าสุดๆ ข้างๆเป็นจงอินที่หลับเป็นตายตรงที่นั่งคนขับ กลิ่นเหม็นเปรี้ยวตลบไปทั่วทั้งรถจนคยองซูต้องเปิดประตูให้ระบายอากาศ

     

     




     

     

    “คิมจงอิน ตื่น!” ฟาดแรงๆไปที่อกสักที

     

     

     

     




            นายแบบหนุ่มกระตุกตื่นขึ้นมาเต็มตา หัวที่ยุ่งยิ่งกว่าเวลาปกติหันซ้ายหันขวาอย่างตกใจ พอหันมาเห็นคยองซูที่นั่งหน้าโทรมอยู่ข้างๆก็นิ่งไป พอนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนถึงได้ระเบิดหัวเราะออกมาทั้งคู่ ทั้งจงอินและคยองซูหัวเราะเหมือนจะว่าถ้าใครหยุดก่อนจะแพ้ หัวเราะจนสำลักจนจะหมดแรง






     

     

     

     

    “เมื่อคืนทำบ้าอะไรกัน” จงอินยิ้มแก้มปริ

     

     

     

     







     

    “ชีวิตวัยรุ่นไง” คยองซูตอบให้

     

     

     






     

     

     

    “ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะพวกเราน่ะ”

     

     

     

     






     

     

    “YOLO เว้ย You Only Live Once”

     

     







     

     

     

    “ร่างพังพอดี”

     

     







     

     

     

    “หาอะไรกินแก้แฮ้งกันเหอะ” คยองซูถอดแว่นมาเช็ดแล้วกดโทรศัพท์หาร้านโจ๊กเด็ดๆแถวนี้

     






     

     

     

    “รอบหน้าขอเหล้าดีๆหน่อยนะ”

     

     




     

     

     

    “ถ้านายจ่ายฉันก็ไม่ว่าอะไร”

     

     





     

     

     

    “โอเค ดีล!”













     

    (mithuna's talk)



    *ตัวอย่างการนำเสนอของ Humans of NewYork ค่ะ มิตามเพจเขามาเป็นปีๆแล้วก็ยังชอบอยู่นะ มันได้หลายมุมมองดี ลองไปหาอ่านกันดูนะคะ





    ใช่แล้ว.. สองคนนี้เป็นแฟนเก่าของแฟนเก่าค่ะ ตอนที่แล้วไม่ได้บอกช่วงเวลาไว้ ดูผู้หญิงเค้าไปเร้วเร็วเนอะ แต่เอาจริงๆอันนี้เป็นแค่มุมมองของสองคนนี้ไง ว่ารักแล้วเลิกแล้ว มิตั้งใจให้ผู้หญิงเป็นเหมือนซัมเมอร์ในเรื่อง 500 days of summer ใครเคยดูกันบ้างคะ? เป็นหนังที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลยล่ะ

    เพิ่งเปิดเรื่องก็ยังไฟแร๊งแรง เขียนได้วันละหน่อยวันละหน่อย แต่เดี๋ยวมิจะสอบปลายเทอมแล้วก็แว้บไปเที่ยวนิวยอร์คอยู่หลายสิบวัน 555555 ช่วงนั้นก็... อาจจะหายไปหน่อย แฮ่


    อย่าลืม #UITAkaido @mithunajunejune นะฮวัฟ




    mithuna

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×