ตอนที่ 66 : Chapter 64
Chapter 64
ไอโอนาสดูเหมือนจะเสพติดการนอนมากเกินไปหน่อย ถึงเผ่ามังกรทุกตัวขี้เซาและไม่ทำอะไรเลยนอกจากนอนหลับ แต่มันก็คล้าย ๆ กับการจำศีลที่นอนสักร้อยปีแล้วก็ตื่นขึ้นมายาว ๆ เห็นได้ชัดว่าไอโอนาสมีบางอย่างผิดปกติ
ลู่เหิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเชื่อมประเด็นสำคัญได้ จริง ๆ แล้วเป็นเพราะความเป็นเทพในร่างเจ้าแห่งมังกรตนนี้ถูกทำลาย แต่ร่างกายยังคงเป็นร่างเทพอยู่ เพราะอย่างนั้นพลังงานในร่างจึงไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงร่างเทพ ดังนั้นจึงต้องอยู่ในสภาวะหลับใหลบ่อย ๆ เพื่อใช้พลังงานให้น้อยลง
หลังจากตรึกตรองเสร็จ ลู่เหิงจึงผ่อนคลายลง นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตราบใดที่ไอโอนาสใช้ร่างมนุษย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรื่องขาดแคลนพลังงานก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะร่างมนุษย์ใช้พลังงานน้อยกว่าร่างมังกร
เห็นคนบนไหล่เหมือนมีแนวโน้มที่จะหลับไปจนตราบชั่วฟ้าดินสลาย ลู่เหิงจึงผลักไอโอนาสอย่างทนไม่ไหว
ไม่มีการตอบรับ
ลู่เหิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวบางสิ่งอย่างนุ่มนวลที่ข้างหูอีกฝ่าย “เจ้าแห่งมังกรผู้ยิ่งใหญ่สมบัติของท่านถูกโจรขโมยไปแล้ว”
“อะไรนะ!” ไอโอนาสตื่นในพริบตา ก่อนจะสบเข้ากับดวงตายิ้ม ๆ ของลู่เหิง ความโกรธพลันเลือนหายไปในอากาศทันที “เจ้าน่าจะใช้ผลไม้นั่น ไม่ใช่ว่าข้าให้เจ้าเป็นกองเลยหรือ?”
ลู่เหิงบีบมือไอโอนาสอย่างอ่อนโยนและปลอบเจ้ามังกรที่ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ก่อนจะดึงตัวเองออกมาแล้วกลับไปดูภาพจิตรกรรมฝาผนังในวิหารต่อ
เพียงแวบแรกลู่เหิงก็พบว่าความลับหลายสิ่งที่ถูกฝังไว้ใต้แม่น้ำแห่งกาลเวลา ความเป็นจริงทั้งหมดได้ถูกบันทึกไว้บนภาพจิตรกรรมบนทางเดินวิหารนี้แล้ว ในนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าก็อบลินอยู่ด้วย
แต่เดิมเผ่าก็อบลินอยู่ร่วมกันกับคนแคระ และทั้งสองเผ่าก็มักจะมีการติดต่อกันบ่อย ๆ คนแคระอาศัยอยู่เหนือพื้นดินในเทือกเขาหิน ส่วนก็อบลินอาศัยอยู่ใต้เทือกเขาหิน หลังจากกองทัพอันเดดรุกราน เผ่าคนแคระได้เข้าร่วมสงครามภายใต้การนำของเทพแห่งการตีเหล็กของพวกเขา ทว่าก็อบลินกลับอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก พวกเขาไม่เชื่อในเทพเจ้า เมื่อปราศจากความศรัทธาพวกเขาจึงไม่มีเทพประจำเผ่า ในสงครามอันยุ่งเหยิงนี้เผ่าที่ไม่มีเทพประจำเผ่าคอยปกป้องบนสนามรบมีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่
เพื่อปกป้องตัวเอง เผ่าก็อบลินได้ปิดทางเข้าอาณาจักรใต้ดินทั้งหมด หลังจากที่ดินแดนของคนแคระตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของศัตรู เหล่าคนแคระที่เป็นเพียงช่างตีเหล็กซึ่งอยู่แนวหลังล้วนตื่นกลัวจนแทบทำอะไรไม่ถูกและได้พยายามขอที่หลบภัยจากก็อบลินแต่ก็ถูกปิดประตูไม่ให้เข้า
ความตายของเหล่าคนแคระเป็นประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมที่ยังคงถูกขับร้องจากปากนักกวีแบบปากต่อปาก นอกจากนักรบเผ่าคนแคระที่อยู่ในกองทัพพันธมิตร เผ่าคนแคระที่เหลือล้วนถูกกองทัพอันเดดสังหาร และจนกระทั่งวันนี้เผ่าคนแคระก็ยังไม่สามารถเรียกกำลังใจกลับมาได้เลย
เมื่อเดินตามภาพจิตรกรรมบนทางเดินยาวและดูไปจนสุดทาง ภาพวาดสุดท้ายเป็นคำทำนายเกี่ยวกับชะตากรรมของแผ่นดินใหญ่ที่ถูกเขียนโดยเทพเจ้า หลังจากปิดผนึกทางเชื่อมไปสู่อาณาจักรของอันเดดและสอดส่องแม่น้ำแห่งกาลเวลาด้วยพลังเหนือธรรมชาติ
คำทำนายบนภาพจิตรกรรมเริ่มต้นด้วยการเปิดอาณาจักรเทพของเหล่าเทพเจ้าและการออกจากแผ่นดินใหญ่ ภาพอื่น ๆ ปรากฏขึ้นในฉากถัดไป
เผ่ามนุษย์ฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากความสามารถในการเรียนรู้อันยอดเยี่ยมและอัตราการเกิดที่สูงมาก จากนั้นก็เข้าควบคุมทั้งแผ่นดินใหญ่ สิ้นสุดการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์บนแผ่นดินใหญ่ เกาะมังกรถูกยกขึ้น เผ่ามังกรทั้งหมดย้ายไปอยู่บนนั้น มังกรแทบจะกลายเป็นตำนานบนแผ่นดินใหญ่ การแตกแยกของเผ่าเอลฟ์ทำให้เอลฟ์ส่วนหนึ่งจากบ้านเกิดและสร้างเมืองแสงจันทร์ในอาณาเขตเผ่ามนุษย์ ขณะที่อีกส่วนยังคงอาศัยอยู่ในป่าเอลฟ์ พระสันตะปาปาแห่งแสงลดน้อยลง นักบวชที่ฝึกพลังแห่งแสงหายไป มานาในการต่อสู้และเวทมนตร์กลายเป็นที่นิยม จักรวรรดิเบก้าก่อสงครามและในที่สุดก็รวบรวมแทบทุกดินแดนในแผ่นดินใหญ่ได้สำเร็จ
ในที่สุดกองทัพอันเดดก็ข้ามทางเชื่อมและเข้ามาในแผ่นดินใหญ่ได้อีกครั้ง ทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ตกอยู่ในวังวนแห่งสงครามและความตาย ดินแดนทั้งหมดตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมัน ทุกชีวิตล่าถอยกลับไปที่วาติกันด้วยเปลวเพลิงแห่งความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์
ทว่าภาพวาดกลับสิ้นสุดลงที่จุดสำคัญพอดี ลู่เหิงมองเมฆที่ลอยอย่างเชื่องช้าใต้ฝ่าเท้า วิหารนี้แตกเสียหายอย่างแท้จริง
ไอโอนาสเห็นลู่เหิงจ้องใต้เท้าด้วยสีหน้าคาดเดาไม่ได้ “เจ้าเบื่อที่จะอยู่บนเกาะมังกรหรือเปล่า หรือข้าจะพาเจ้าบินไปรอบ ๆ เกาะมังกรสักรอบดี อืม ข้ายอมให้เกียรติเจ้านั่งบนหลังของเจ้าแห่งมังกรก็ได้”
“ไอโอ เราอยากเห็นอีกครึ่งของวิหาร” ตั้งแต่รู้ว่าไอโอนาสคือคนคนนั้น ลู่เหิงก็ไม่ได้กังวลอะไรมากอีกต่อไป ตราบใดที่เป็นเรื่องที่เขาขอ อีกฝ่ายไม่มีทางคัดค้าน
“ไม่ได้ สมบัติของข้าก็ต้องอยู่กับข้า” ไอโอนาสส่ายหัวทันทีที่ได้ยิน
“ท่านไปกับข้าได้” ลู่เหิงไม่ค่อยเข้าใจตรรกะของเจ้ามังกรตนนี้
“แต่มนุษย์พวกนั้นเสียงดังเกินไป ข้านอนหลับไม่สนิท แต่เดิมข้ายกดินแดนของเผ่ามังกรขึ้นฟ้าให้กลายเป็นเกาะลอยได้ก็เพราะข้ารำคาญเสียงมนุษย์น่ารำคาญพวกนั้นจนนอนไม่ได้นี่แหละ” ไอโอนาสกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
“เผ่ามังกรแบบพวกท่านไม่ใช่ว่านอนหลับสนิทเมื่อได้กอดสมบัติที่ชอบหรือ?” ลู่เหิงชี้ให้เห็นจุดสำคัญ
“ใช่” ดวงตาของไอโอนาสสว่างวาบพลางคิดว่าที่เมื่อก่อนนอนหลับไม่สนิทเป็นเพราะเขาไม่มีสมบัติที่ชอบมาก ๆ เฉกเช่นมังกรตนอื่น แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาเรื่องนี้แล้ว
“หากเจ้าสัญญาว่าจะนอนกับข้าในร่างมนุษย์ทุกวัน เช่นนั้นเจ้าแห่งมังกรจะยอมทำตามคำขอของเจ้าก็ได้” ไอโอนาสเชิดคางขึ้นเล็กน้อย แต่ในใจก็ยังกังวลอยู่นิดหน่อยเพราะเขาเคยได้ยินนักกวีพเนจรกล่าวว่ามนุษย์ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการนอนด้วยกันมาก ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ไอโอนาสรู้สึกว่าเขาควรเคารพความคิดเห็นของลู่เหิง
ลู่เหิงยิ้มและเอ่ย “น้อมรับบัญชาของท่าน องค์ไอโอนาส”
เมืองไบบ์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในที่ราบสูงลารันส์ ตามตำนานกล่าวว่าครั้งหนึ่งที่ราบสูงลารันส์เคยเป็นอาณาเขตของเผ่ามังกร ใจกลางที่ราบสูงลารันส์หลุมขนาดยักษ์คือที่ที่เกาะมังกรเคยอยู่ ถึงแม้เกาะมังกรจะลอยขึ้นฟ้า แต่ก็ไม่มีใครสามารถเปรียบเทียบได้ว่าหลุมนี้มีขนาดเท่ากับเกาะมังกรจริง ๆ หรือไม่ แต่ตำนานก็ดึงดูดนักผจญภัยจำนวนนับไม่ถ้วนให้มาสำรวจที่แห่งนี้ สมบัติของมังกร ช่างเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจ
นี่เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมที่สมาคมนักผจญภัยของเมืองไบบ์จึงตั้งอยู่เขตทางเหนือ กิลด์นักผจญภัยในเมืองไบบ์ครอบครองบริเวณที่ดีที่สุดของเมืองซึ่งรายล้อมไปด้วยร้านค้าและร้านเหล้าจำนวนมาก หน่วยลาดตระเวนกลุ่มเล็กของเมืองจะคอยเดินตรวจตราตลอดวันเพื่อป้องกันไม่ให้นักผจญภัยเลือดร้อนเหล่านั้นก่อปัญหา
กลุ่มหมาป่าโลหิตเพิ่งส่งภารกิจและไม่มีอะไรทำจึงไปดื่มที่ร้านเหล้าข้าง ๆ กิลด์ ภารกิจนี้ทำให้พวกเขาสูญเสียเงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตไปทั้งหมด เหล้าในแก้วพวกเขาถูกเปลี่ยนจากเบียร์ดำของเทือกเขาหินที่ดื่มมาตลอดเป็นเอล*ที่มีคุณภาพด้อยกว่า นักผจญภัยในทีมทุกคนต่างกำลังคิดเกี่ยวกับการหาลูกค้ารายใหญ่อย่างเร่งด่วน
(*เบียร์ประเภทหนึ่ง)
“เอลนี่ความจริงไม่ใช่สำหรับให้คนดื่มหรอก พูดง่าย ๆ ไอ้นี่อย่างดีก็แค่ใช้ป้อนม้าเท่านั้นแหละวะ! ” นักรบรูปร่างแข็งแกร่งคนหนึ่งกระแทกแก้วลงที่บาร์อย่างแรง
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าโง่แบบเจ้าที่ปล่อยให้เสือดาวใบมีดเกล็ดน้ำแข็งหนีไปได้ พวกเราจะเกือบเสียแม้กระทั่งกางเกงชั้นในเช่นนี้หรือ?” นักเวทในชุดคลุมกล่าวท่าทางเย้ยหยัน
“เจ้า! ”
ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังจะมีปากเสียงกันเรื่องนี้รอบที่ร้อยหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดอัศวินพเนจรที่ด้านหลังประดับด้วยคันธนูสั้นพลันผลักประตูเข้ามา “มีแกะอ้วน แกะอ้วนจากสมาคมแรงงานกำลังจะจ้างวานทำภารกิจ! ”
เมื่อกลุ่มหมาป่าโลหิตมาถึง ด้านหน้าโต๊ะออกภารกิจของแกะอ้วนก็มีแถวยาวเหยียดแล้ว นักรบได้แต่สบถสาปแช่งในใจ ก่อนจะเข้าแถวด้านหลังอย่างเป็นระเบียบ
แถวสั้นลงอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะเป็นลูกค้าที่จู้จี้จุกจิกน่าดู ไม่ช้านักรบด้านหน้าก็เหลือเพียงแค่สองคน ในที่สุดเมื่อไม่มีอะไรบดบังสายตา นักรบก็ลอบประเมินคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะออกภารกิจในใจ แกะอ้วนดูเหมือนนายน้อยของตระกูลขุนนางที่ออกมาผจญภัย ดูผิวอันละเอียดอ่อนบนใบหน้า ดูดาบที่เต็มไปด้วยอัญมณี แล้วดูชุดเกราะแสงที่หรูหราแต่ใช้งานจริงไม่ได้นั่นสิ ดูก็รู้ว่าเป็นมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริง
ฟังเหตุผลที่เขาคัดกลุ่มนักผจญภัยที่มารับภารกิจออก
“ใครในกลุ่มเจ้าเป็นคนสำรวจเส้นทาง?”
“ขโมยที่มีประสบการณ์โชกโชน”
“ข้าเกลียดขโมยที่สุด คนต่อไป”
“คนที่ทำหน้าที่สำรวจเส้นทางในกลุ่มของเราคืออัศวินพเนจร”
ไม่รอให้นายน้อยถาม คนด้านหลังพลันกล่าวอย่างชาญฉลาด
“เช่นนั้นพวกเจ้ามีนักบวชไหม?”
“ไม่ ไม่มี”
“ภารกิจนี้ไม่ง่าย ไม่มีนักบวชก็ทำไม่ได้หรอก คนต่อไป”
“เดี๋ยว ๆ ไม่ใช่ว่าท่านพานักบวชมาด้วยหรือ?”
“พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงอยากได้นักบวชของข้า ไสหัวไปซะ คนต่อไป! ”
ฟังสิ่งที่พูดทั้งหมดแล้ว มีแค่นายน้อยจากตระกูลสูงศักดิ์เท่านั้นแหละที่จะมีพฤติกรรมดื้อรั้นเอาแต่ใจแบบนี้ ทว่านักรบลอบดีใจที่กลุ่มของพวกเขาดูเหมือนจะตรงตามเงื่อนไขนายน้อยคนนี้เต็ม ๆ มันไม่สำคัญว่าคุณชายน้อยจะเอาแต่ใจหรือไม่ ประเด็นสำคัญคือเขาดูโง่มากน่าจะโกงได้ง่าย อีกทั้งยังมีเงินเยอะมากอีกด้วย แค่แกะอัญมณีจากดาบนั่นมาเม็ดหนึ่งก็น่าจะพอให้กลุ่มของพวกเขากินและดื่มได้เป็นเดือน
หลังภารกิจนี้เสร็จสิ้น บางทีอาจจะได้ไปหาจูลี่ที่รักบ้างก็ได้ นักรบคิดด้วยความดีอกดีใจ
นายน้อยท่าทางฟุ่มเฟือย หยิ่งยโส อารมณ์ร้อนคนนี้แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นไอโอนาส นักบวชฝึกหัดท่าทางบอบบางที่เขาพามาด้วยคือลู่เหิงที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ด้วยวิชาเวท อย่างไรรูปลักษณ์ของพระสันตะปาปาก็แทบไม่มีใครไม่รู้จักอยู่แล้ว
เหรียญทองหนึ่งถุงถูกใช้เป็นค่ามัดจำ หลังจากที่จ้างกลุ่มหมาป่าโลหิต ทั้งสองก็กลับมาโรงแรมที่พักอยู่
ทันทีที่เข้ามาในห้องไอโอนาสก็ไปนั่งบนเก้าอี้หวายริมระเบียง ลู่เหิงเห็นแวบแรกก็รู้ว่าเจ้ามังกรตนนี้กำลังงอน ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงลากตัวเองไปอาบน้ำและเข้านอนด้วยความระริกระรี้ไปแล้ว ส่วนสาเหตุของความโกรธคงไม่ต้องเดาให้ยากจากมังกรที่ความคิดที่ตรงไปตรงมาตนนี้
“เหอะ! ” อาจเพราะเห็นลู่เหิงไม่พูดอะไรมาพักหนึ่ง เสียงขุ่นเคืองอย่างจงใจจึงดังมาจากทางระเบียง
เห็นไอโอนาสคล้ายจะเขียนคำว่ารีบมาง้อข้าเร็ว ๆ ตัวใหญ่ไว้ข้างหลัง ลู่เหิงได้แต่ส่ายหัวด้วยความขบขัน
“ไอโอ เป็นอะไรหรือ?”
“เจ้าหากลุ่มนักผจญภัยมาช่วย เจ้าดูถูกข้า” เมื่อลู่เหิงถาม ไอโอนาสพลันโพล่งทุกคำที่เขาเตรียมไว้ในใจอยู่นานออกมา “สมบัติของมังกรก็ต้องอยู่ภายใต้การปกป้องของมังกร”
ลู่เหิงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ไอโอนาสที่กำลังขุ่นเคือง “แค่จ้างให้พวกเขาตามหาซากวิหารเท่านั้น งานปกป้องข้าแน่นอนว่ายังเป็นของท่าน นี่ก็เพื่อร่างกายของท่านด้วย”
หลังจากที่ทั้งสองมาถึงที่ราบสูงลารันส์ ไอโอนาสร่อนลงด้วยความมั่นใจที่จะพาลู่เหิงไปตามหาเศษซากวิหาร ผลคือเขาตะลึงงันไปทันทีที่มาถึงข้างหลุมที่ยุบลงไป เนื่องจากผ่านมาเนิ่นนาน ร่องรอยทั้งหมดของเกาะมังกรถูกฝังใต้ต้นไม้สูงเสียดฟ้าและพุ่มไม้หนา อีกทั้งการผุกร่อนและการพังทลายของหินบริเวณชายขอบทำให้ไอโอนาสไม่สามารถบอกได้แม้กระทั่งว่าขอบเขตของเกาะมังกรเมื่อก่อนอยู่ตรงไหน นับประสาอะไรกับการตามหาครึ่งหนึ่งของวิหาร
ไอโอนาสเสนอว่าให้เขาบินสำรวจตามรูปร่างของเกาะมังกรอาจจะพบเบาะแสก็ได้ เมื่อคิดถึงสภาพร่างกายของไอโอนาส ลู่เหิงจึงปฏิเสธข้อเสนอของอีกฝ่าย และตัดสินใจไปเมืองไบบ์ที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อจ้างนักผจญภัยที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งให้ช่วยตามหาครึ่งหนึ่งของวิหารที่หายสาบสูญแทน จำนวนกลุ่มนักผจญภัยจะมากเกินไปไม่ได้เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลังจากจบเรื่องลู่เหิงจะใช้วิชาเวทลบความทรงจำของผู้ที่เข้าร่วมทั้งหมด ถ้ามีคนมากเกินไปจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังแสงศักดิ์สิทธิ์เปล่า ๆ
ไอโอนาสเห็นด้วยกับข้อเสนอของลู่เหิงอย่างไม่เกี่ยงงอน แต่อารมณ์ของเขาก็ยังขุ่นมัวอยู่ดี “ข้าก็แค่ต้องงีบเพื่อฟื้นฟูพลังงานที่ถูกใช้ตอนเปลี่ยนเป็นร่างมังกรเท่านั้นเอง”
ลู่เหิงลูบหลังของอีกฝ่าย รู้ดีว่าควรปลอบเจ้ามังกรตนนี้อย่างไร “หากท่านหลับไปนาน เราจะเหงามากนะ”
“ถ้าเจ้าพูดเช่นนั้น เจ้าแห่งมังกรผู้ยิ่งใหญ่จะให้อภัยเจ้าก็ได้”
---------------------------------------------
นี่หมาหรือมังกร? เชื่องดีจังเลย55555
ขออภัยที่หายไปหลายวันแต่คิดว่าคงหายอีกเพราะคนแปลติดนิยายค่ะ อิอิ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่สิ ต้องเป็นพระเอกสิ
มังกรไทป์หมา yes!
ทำไมอ่านชื่อน้อนมังกรทีไรขัดใจทุกที
เอ็งดูวคุณมังกรเค้านะ 😆
// ปล...... โลกนี้แล้วก็พระเอก(มั้ง)ดูแปลกๆยังไงไม่รู้อ่ะ.... หรือว่าเราคิดไปเอง🤔
มีความโดนหลอกง่ายมากค่า~