ตอนที่ 16 : Chapter 16
Chapter 16
ในตอนที่ผู้คนสงสัยว่าลู่เหิงไปไหน จู่ๆ วิดีโอแบบไลฟ์สดก็เปลี่ยนเป็น ‘กล่องดำ’ กล่องดำเป็นสิ่งที่จัดเตรียมไว้สำหรับบุคลากรทางทหารที่ต้องปฏิบัติภารกิจที่อันตรายอย่างยิ่งเพื่อให้ทิ้งข้อความไว้ ข้อความที่ถูกบันทึกในกล่องดำจะถูกส่งไปยังมือของครอบครัวเป็นอันดับแรก เพราะว่าภารกิจนี้สำคัญเป็นอย่างมาก ผู้คนจึงมีการเรียกร้องให้จับตาดูอย่างเต็มที่ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติภารกิจ และทุกอย่างที่เกี่ยวกับภารกิจนี้จะถูกแพร่ภาพออกไปทั่วทั้งเครือข่ายดวงดาว กระทั่งภาพในกล่องดำก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“สวัสดีครับพ่อ แม่ แล้วก็พี่” ลู่เหิงนั่งหน้ากล้อง เขาดูไม่สบายใจเล็กน้อย “ผมขอโทษ ปีนี้ผมคงไม่สามารถไปงานเทศกาลดวงดาวด้วยได้แล้ว”
ผู้คนบนเครือข่ายดวงดาวไม่เคยเห็นลู่เหิงในลักษณะนี้ ลู่เหิงคนที่ปรากฏตัวในการรายงานหลายๆ ครั้งมักจะดูเฉยชาและมั่นคง ไม่ว่าจะนั่งหรือยืนแผ่นหลังเขาจะตั้งตรงเสมอ แต่ในเวลานี้ทุกคนพลันตระหนักได้ว่าทหารที่ตรงตามตำราทุกอย่างคนนี้ก็เป็นมนุษย์ที่มีเลือดมีเนื้อเช่นกัน เขาก็มีครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อน มีหลายคนที่จำประวัติครอบครัวของลู่เหิงได้ซึ่งพูดได้เลยว่าเป็นชนชั้นสูงของสหพันธ์มนุษย์ คนที่สามารถมีชีวิตอย่างมั่นคงและปราศจากเรื่องให้ต้องกังวลภายใต้การปกป้องของครอบครัว
เขาดูเหมือนกำลังคิดบางอย่างจึงยิ้มบางๆ “ในงานเทศกาลดวงดาวครั้งก่อนแม่ดุผมตอนที่คุยกันและบ่นว่าผมผิดนัดถึงเก้าครั้งแบบนี้ได้ยังไง เห็นได้ชัดว่าปีถัดไปก็จะเป็นครั้งที่สิบแล้ว”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง บางทีอาจกำลังคิดว่าจะทำยังไงให้ความโกรธของแม่สงบลงดี จู่ๆ ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น “ผมจำได้ว่าครั้งก่อนแม่พูดถึงความฝันเมื่อสองสามวันก่อน แม่ฝันเห็นผมเล่นเปียโนตอนยังเป็นเด็ก แม่ยังพูดอีกว่าแม่หวังจะได้ฟังเพลง ‘แสงจันทร์’ อีกครั้งในวันเกิดผมที่กำลังจะมาถึง”
ลู่เหิงในกล้องยืนขึ้นและเอาบางอย่างออกมาจากปุ่มสเปซ ไม่กี่วินาทีถัดมาเปียโนอันน่าทึ่งก็ปรากฏขึ้นมากลางห้อง ลู่เหิงหลุบตาลงและเดินรอบเปียโนช้าๆ นิ้วของเขาลากบนตัวเปียโนราวกับกำลังมองคนรักของเขา
“หยาดน้ำตาที่พร่างพราวบนฟ้า ช่างเป็นงานศิลปะชั้นเลิศที่กลายเป็นแค่ของไร้ค่าเมื่ออยู่ในมือผม” ลู่เหิงกระซิบและนั่งลงหน้าเปียโน ปลายนิ้วเรียวและทรงพลังของเขาค่อยๆ สัมผัสแต่ละคีย์ด้วยความทะนุถนอม มือที่สมบูรณ์แบบคู่นั้นไม่ด้อยไปกว่าหยาดน้ำตาแห่งดวงดาวเลย
ลู่เหิงปิดตาและหวนนึกถึงอดีตครู่หนึ่งและเริ่มเล่นเพลงโปรดของแม่ ‘แสงจันทร์’ เสียงเปียโนกระตุกเล็กน้อยในตอนแรกก่อนจะค่อยๆ ลื่นขึ้นและช้าลง เพลงนี้เป็นเพลงที่นุ่มนวลและอ่อนหวานแต่มันกลับถูกเล่นด้วยท่าทางเย็นชาที่ดูเข้ากันดีกับชายชาติทหาร ชายหนุ่มที่กำลังเล่นเปียโนนั่งหลังตรงดูสง่างาม ร่างกายของเขาถูกปกปิดด้วยเครื่องแบบทหารสีดำที่ไม่มีรอยย่นอยู่เลย ทั่วทั้งร่างเขาดูเหมือนมีดที่ทำจากเหล็กซึ่งไม่เข้ากันเลยกับเพลงที่ควรสะท้อนความรู้สึกระหว่างคนรักภายใต้แสงจันทร์
จู่ๆ เสียงเปียโนก็ขาดตอนลง แล้วชายหนุ่มก็เหลือบตามองขึ้นมา “ตอนนี้ดูเหมือนผมจะไม่เหมาะที่จะเล่นเพลงนี้อีกแล้ว และผมก็ไม่อยากดูหมิ่นผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ด้วย”
จากนั้นครู่หนึ่งตัวโน้ตที่แสดงความอาลัยก็หลุดออกมาจากปลายนิ้วของเขา ในช่วงแรกโน้ตนั้นเกาะกลุ่มกันเป็นก้อนราวกับสายลมที่พัดพาทุกคนกลับไปสู่ยุคที่วุ่นวาย ดาวแม่ที่กำลังจะถูกทำลายและมนุษย์ผู้กล้าที่กำลังดิ้นรนเพื่ออนาคต ความโศกเศร้า ความโกลาหล ความสิ้นหวัง ความย่อยยับ ประวัติศาสตร์ที่มืดมนอย่างสมบูรณ์ได้ห้อมล้อมไว้
นี่คือ ‘หลบหนีจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน’ ไข่มุกน้ำงามที่สุดในประวัติศาสต์ศิลปะ ต่อมาเสียงของเปียโนก็ค่อยๆ ผ่อนคลาย ผู้รอดชีวิตที่ทิ้งดาวบ้านเกิดคิดถึงดาวแม่ ความเศร้าโศกที่มีต่อคนที่รักและเพื่อนที่ติดอยู่บนดาวบ้านเกิดตลอดไปและความสับสนสำหรับอนาคตข้างหน้า อย่างไรก็ตามความสับสนนั้นก็อยู่เพียงไม่นาน เสียงโน้ตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังค่อยๆ ดังขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และด้วยกองทัพที่หนักแน่นก็นำจังหวะดนตรีไปสู่ฉากสุดท้ายอันงดงาม เช่นเดียวกับเส้นทางในประวัติศาสตร์การพัฒนาของสหพันธ์มนุษย์
ทุกคนบนเครือข่ายดวงดาวถูกดึงดูดความสนใจไปที่ดนตรีที่เร่งเร้าและความอ่อนเยาว์ที่สว่างไสว พวกเขาเห็นธงที่โบกสะบัด ภูเขาที่ไม่อาจข้ามผ่าน และแตรฉลองชัย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั่วทั้งเครือข่ายดวงดาวพร้อมใจกันเชื่ออย่างเป็นเอกฉันท์ว่า มนุษยชาติจะเป็นผู้ชนะ!
เมื่อโน้ตตัวสุดท้ายถูกกดลง ลู่เหิงก็ก้มหน้าลงครู่หนึ่งราวกับว่าเขากำลังสงบอารมณ์จากสภาพจิตใจที่ตึงเครียด หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ยกศีรษะขึ้นและยิ้มเป็นเชิงขอโทษ “ผมไม่ได้เล่นเปียโนมานานเกินไป ผมเล่น ‘แสงจันทร์’ ไม่ได้แล้ว และผมก็สัญญาว่าจะเล่นให้เพื่อนคนหนึ่งฟังสักเพลง ‘หลบหนีจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน’ เป็นเพลงที่เขารักมากที่สุด ผมหวังว่าแม่จะไม่รู้สึกเคืองนะ”
เลนส์อัตโนมัติบันทึกช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของพันโทไรเนอร์ เขาทำวันทยหัตถ์กล้องตามแบบทหารจากนั้นก็ก้าวขึ้นหุ่นจักรกลไป ยานอวกาศขนาดใหญ่หาที่เปรียบไม่ได้ของหน่วยสายลมและสายฟ้า ปากที่อ้ากว้างใหญ่ของมันถูกเปิดออกเป็นแนวขนาน ก่อนที่หุ่นสีขาวเงินจะบินตรงไปทางรูหนอนขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามต่อหน้าวัตถุขนาดใหญ่ทั้งสองนี้ หุ่นจักรกลตัวนั้นดูไม่เล็กเลยแม้แต่น้อย หุ่นจักรกลค่อยๆ หายไปในรูหนอนช้าๆ ผ่านไปหลายสิบนาทีแสงสว่างจ้าก็สะท้อนเข้าตาทุกคนจนแสบไปหมด แล้วรูหนอนก็พังทลาย
หลังออกจากแผนกพัฒนาการ ลู่เหิงและผู้ช่วยตัวน้อยก็มายืนอยู่ในพื้นที่ขนาดเล็กด้วยกัน ไทม์ไลน์ในพื้นที่เล็กๆ นี้ไม่เหมือนในหลายๆ โลก พวกเขาสามารถเห็นพัฒนาการระยะยาวของโลกนั้นได้ในระยะเวลาอันสั้น นี่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติภารกิจสามารถสรุปและเห็นภาพสะท้อนในภารกิจได้ อีกทั้งยังช่วยแผนกในการให้คะแนนพวกเขา
หลังจากการเสียสละของลู่เหิง ไม่มีใครสงสัยว่าการสังหารราชินีของเขาสำเร็จหรือไม่ แนวป้องกันของเซิร์กที่ถอนตัวออกไปสามารถอธิบายประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจน สหพันธ์มนุษย์ชนะศึกและสามารถนำดาวที่ถูกยึดครองจำนวนมากกลับคืนมาได้ ในประวัติศาสตร์การเผชิญหน้ากันของมนุษย์และเซิร์ก นี่เป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดที่สหพันธ์มนุษย์เคยได้ครอบครอง ก่อนการกำเนิดของราชินีองค์ใหม่พวกเซิร์กได้นำนโยบายป้องกันมาใช้และไม่ได้ตามราวีดาวของสหพันธ์มนุษย์อีก ผู้คนที่อยู่ตามดาวชายแดนสามารถใช้ชีวิตอย่างที่พวกเขาใฝ่ฝันได้
ลู่เหิงได้รับตำแหน่งจอมพลนำหน้าชื่อและกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง รูปปั้นของเขาถูกสร้างขึ้นหน้าตึกหุ่นจักรกลของสถาบันทหารแห่งแรก รูปปั้นถูกประดับประดาด้วยดอกไม้จากเหล่านักเรียนตลอดทั้งปี ใน ‘ประวัติศาสตร์ทั่วไปของมนุษยชาติ’ เขาถูกบันทึกไว้ว่า: ความสำเร็จของจอมพลไรเนอร์ ฮาร์ทในสหพันธ์มนุษย์นั้นไม่ด้อยไปกว่าจอมพลเอ็ดดี้ วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์มนุษย์สู่โลกระหว่างดวงดาวเลย เขาได้ทำลายดาบที่มีชื่อว่า ‘เซิร์ก’ และนำชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสงบและสันติสุขมาสู่พลเมืองในดาวชายแดนนับพัน...
“การประเมินจะอยู่ในระดับไหน?” ลู่เหิงในฐานะสมาชิกใหม่ไม่รู้ว่าระดับความสำเร็จนี้อยู่ในระดับไหน
“อย่างน้อย A คุณเป็นคนที่เก่งที่สุดในบรรดาสมาชิกใหม่ที่ผมเคยเห็นมาเลย!” ผู้ช่วยตัวน้อยตีลังกากลางอากาศและดูตื่นเต้นมาก
ลู่เหิงรู้สึกผ่อนคลายในใจ เขาคิดและควบคุมหน้าจอตรงหน้าให้มุ่งเน้นไปที่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
ทั้งเวย์นและแอนดริวถูกส่งไปยังศาลทหารในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ในที่สุดพวกเขาก็ถูกตัดสินจำคุกให้อยู่ในคุกมืดตลอดชีวิต นี่เป็นบทลงโทษที่โหดร้ายที่สุดของสหพันธ์มนุษย์ซึ่งลู่เหิงคาดไว้อยู่แล้ว แม้ว่าลูกค้าจะไม่ได้ขอร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากที่เข้าไปในโลกนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม ลู่เหิงรู้สึกว่าเขาควรรับผิดชอบในการแก้ไขอันตรายร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ในหน่วยสายลมและสายฟ้า บางทีอาจเพราะคนบางคนไม่ควรถูกทำให้แปดเปื้อนจากแผนการเหล่านี้
อย่างไรก็ตามภาพถัดมาทำให้ลู่เหิงและผู้ช่วยตัวเล็กถึงกับตื่นตะลึง
หลังจากตื่นขึ้นมาและรับรู้ทุกอย่าง ฮิววิตต์ก็ขังตัวเองอยู่ในกล่องดำที่ลู่เหิงอยู่เป็นที่สุดท้ายถึงสามวัน หลังจากกลับออกมาสิ่งแรงที่เขาทำคือการแจ้งทีมบังคับใช้กฎหมายให้นำตัวแอนดริวและคาร์โลออกไป
การจัดการแอนดริวของฮิววิตต์นั้นสมเหตุสมผลและเป็นอย่างที่ลู่เหิงคาดไว้อยู่แล้ว แต่ฮิววิตต์กลับให้ทีมบังคับใช้กฎหมายนำตัวคาร์โลไปด้วย ทุกอย่างที่คาร์โลใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายในการเข้าหน่วยสายลมและสายฟ้าถูกรายงานทั้งหมด นี่ทำให้ลู่เหิงรู้สึกตะลึงจนพูดไม่ออก มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยสำหรับฮิววิตต์ที่เคยดูแลคาร์โลเป็นอย่างดีมาก่อน สิ่งที่คาร์โลก่อไม่ใช่อาชญากรรมเล็กๆ เขาทำผิดต่อหน้าต่อตาประชาชนทุกคน ถ้าอีกคนไม่ปกปิดให้เขา เขาจะต้องถูกศาลทหารตัดสินโทษขั้นรุนแรง
พัฒนาการถัดมาเส้นอารมณ์ของโลกนี้ดูคล้ายม้าป่าที่กำลังอาละวาดและเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง คาร์โลถูกตัดสินโทษขั้นรุนแรงในศาลทหาร บทลงโทษคือสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับโอเมก้า มีทางเลือกเพียงสองทางที่รอเขาอยู่ว่าจะทำงานใช้แรงงานในดาวแร่ที่ห่างไกลตลอดชีวิต หรือการไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารหรือเสื้อผ้าในศูนย์จับคู่ฟรี... คาร์โลเลือกศูนย์จับคู่ฟรี
ศูนย์จับคู่ฟรีนั้นเป็นที่สำหรับโอเมก้าที่กระทำความผิดทางอาญาแต่ไม่ต้องการไปเหมืองเพื่อใช้แรงงานอย่างหนัก พวกอัลฟ่าที่ต้องการโอเมก้าสำหรับให้กำเนิดทายาทรุ่นถัดไปสามารถมาเลือกโอเมก้าที่พวกเขาต้องการได้จากศูนย์จับคู่ สายเลือดของคาร์โลนั้นบริสุทธิ์และระดับของพลังจิตยังอยู่ในขั้นสูงอีกด้วย ซึ่งเป็นที่ ‘ต้อนรับ’ อย่างมาก จากภาพ [ผลสรุปการประเมิน] เขาถูกขังในห้องแคบๆ ห้องหนึ่ง คาร์โลซึ่งท้องป่องกำลังนั่งอยู่บนเตียงและมองไปที่หน้าต่างขนาดเล็กเหนือศีรษะ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ในสายตาลู่เหิงและผู้ช่วยตัวเล็ก ภาพได้เคลื่อนไปในอีกสิบปีข้างหน้า
ดาวหลัก กรมทหาร
ชายในชุดวิจัยสีขาวผลักประตูออฟฟิศจอมพลอย่างไม่มีพิธีรีตอง การ์ดที่ประตูไม่ได้ขวางเขา ไม่ใช่เพราะเขาเป็นหัวหน้าของสถาบัน แต่เป็นเพราะเขาเป็นพี่ชายของท่านจอมพลต่างหาก ท่านจอมพลนั้นเกรี้ยวกราดต่อทุกคนและทุกสิ่ง มีเพียงความอดทนต่อครอบครัวของเขาเท่านั้นที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
“นายรู้ว่าฉันมาทำอะไรที่นี่” อเล็กซ์ไม่ลังเลที่จะพูด
“คำตอบของฉันยังเหมือนเดิม ฉันจะไม่ให้ป้ายชื่อไรเนอร์กับนาย” ชายหนุ่มผมแดงหลังโต๊ะทำงานวางปากกาในมือลง เงยหน้าขึ้นมองแล้วย่นคิ้ว ผมสีแดงของเขาถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปด้านหลัง เครื่องแบบทหารติดกระดุมจนถึงเม็ดบนสุด ใต้ตาดำคล้ำ ดวงตาเขาดูมืดมนและหม่นหมอง พื้นที่ระหว่างคิ้วของเขามีรอยย่นหลายเส้น
อเล็กซ์ที่ได้คำตอบไม่ได้โกรธ หลังจากการเสียสละของไรเนอร์ กระดูกของเขาไม่สามารถกอบกู้กลับมาได้ เหลือทิ้งไว้เพียงป้ายชื่อทหารเท่านั้น สำหรับทหารที่ยอมพลีชีพป้ายชื่อประจำตัวเป็นหลักฐานสุดท้ายว่าพวกเขาเคยอยู่บนโลกนี้ เป็นเวลาสิบปีที่อเล็กซ์เฝ้ารอป้ายชื่อของไรเนอร์แต่เขากลับถูกปฏิเสธ เขาโกรธมากในตอนแรกก่อนจะเริ่มชินชา
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป อเล็กซ์และครอบครัวก็ค่อยๆ สามารถหลุดพ้นจากความเจ็บปวดจากการสูญเสียไรเนอร์ได้ แต่ชายตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่ เป็นเวลากว่าทศวรรษที่อเล็กซ์คอยเฝ้ามองฮิววิตต์เปลี่ยนจากลูกชายที่ปล่อยตัวตามสบายและมีความดื้อรั้นเป็นคนที่ยากจะคาดเดาเคร่งขรึมและเข้มงวด เปลี่ยนเป็น... ไรเนอร์คนที่สอง
หลังจากการตายของไรเนอร์ ฮิววิตต์ซึมเศร้าไปพักหนึ่ง จากนั้นเขาก็กลืนกินกองพันที่ห้าของเวย์นจนหมดสิ้น เขาไม่ได้พยายามอยู่ห่างจากศูนย์รวมอำนาจอีกต่อไป ตรงกันข้ามกลับพุ่งลงไปในน้ำขุ่นคลักของกรมทหารและรวบรวมกองกำลังจำนวนมากในเวลาไม่กี่ปี ในที่สุดเขาก็สามารถคว้าตำแหน่งจอมพลมาได้ด้วยความแข็งแกร่งอย่างไม่มีเงื่อนไข และกลายเป็นจอมพลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากท่านจอมพลได้รับตำแหน่งที่สูงที่สุดในกรมทหาร สิ่งแรงที่เขาทำคือการส่งหัวหน้ากองพันหลายคนที่โหวตสนับสนุนให้ทำลายหน่วยสายลมและสายฟ้าไปศาลทหาร
อเล็กซ์ลุกขึ้นและออกไป เขาหยุดที่หน้าประตูแล้วกระซิบ “ฉันคิดว่าไรเนอร์คงไม่อยากเห็นนายกลายเป็นคนที่แตกต่างแบบนี้”
ไม่มีการตอบสนองจากคนด้านหลัง อเล็กซ์ถอนหายใจเบาๆ ปิดประตูและออกจากห้องที่น่าหดหู่
ลู่เหิงและผู้ช่วยตัวเล็กมองหน้ากัน ไม่แน่ใจว่าควรจะทำอะไร ทุกอย่างดูเหมือนจะร้ายแรงไปหมด
“ไม่ใช่นายพูดว่าเส้นความสัมพันธ์ระหว่างบุตรแห่งโชคชะตาไม่มีทางสั่นคลอนเหรอ...” ลู่เหิงอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาออกมา ช่าง A เถอะ ครั้งนี้ได้ D ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกเหมือนกำลังเล่นกับความรู้สึกคนอื่นจากนั้นก็หวดก้นอีกฝ่าย เขารู้สึกเหมือนเขาเป็นคนสำส่อนเลย
“ผมก็ไม่รู้ สถานการณ์นี้มันอะไรน่ะ? ผมเคยเห็นคนที่พยายามขัดขวางความสัมพันธ์ของบุตรแห่งโชคชะตาซ้ำๆ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จง่ายขึ้น แต่ก็ไม่สามารถส่งกระทบต่อเส้นความรู้สึกของพวกเขาได้เลย” ผู้ช่วยภารกิจล้มพับและทึ้งผมตัวเอง “ผม ผมต้องไปที่รัฐมนตรีเพื่อรายงานว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ แผนกโชคชะตาจะต้องตำหนิเราสำหรับปัญหานี้ ผมอาจถูกส่งไปทำลาย! อ๊า! ทำไงดี ทำไงดี!”
ลู่เหิงมองผู้ช่วยตัวน้อยที่ดูแตกตื่นกว่าตัวเองแล้วได้แต่บังคับตัวเองให้สงบลงและปลอบผู้ช่วยตัวน้อย พวกเขาจะเผชิญหน้ากับชะตากรรมและการตัดสินใจขององค์กร
------------------------------------------------------------------------
ถ้าถามว่าซึ้งมั้ยมันก็ซึ้งแหละ แต่แบบยูบรรยายแผน บรรยายวิธีสะท้อนจิตมาซะยืดยาวแต่ยูดันให้หายเข้าไปในรูหนอนแล้วจบเนี่ยนะ??? ไหนฉากบู๊ที่เรารอ ไหนฉากตายแบบตราตรึงใจที่เราหวัง....... (┛◉Д◉)┛彡┻━┻
------------------------------------------------------------------------
คำศัพท์(ที่โคตรเยอะ) (◯Δ◯∥)
Reminisce = รำลึกถึงอดีต
Blaspheme = พูดดูหมิ่นศาสนาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
Insurmountable = เอาชนะไม่ได้, ผ่านไม่ได้
Triumphant = ฉลองชัยชนะ
Bestow = มอบรางวัลให้
Somersault = ตีลังกา
Maneuver = ยักย้าย, หลบหลีก, ซ้อมรบ
Dumbfound = ทำให้พูดไม่ออก, ทำให้ตกตะลึง
Meticulous = พิถีพิถัน, เอาใจใส่กวดขัน
Salvage = กอบกู้
Martyr = ผู้ยอมพลีชีพ
Melancholy = ตรอมใจ, สลดหดหู่
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

555555555ถาม55555555จริง555555555
อยากคว่ำโต๊ะเหมือนกัน 555
ยู!!!!!!ทำแบบนี้ได้ยังไง๊!!!!!!!!!!!!
ฉากต่อสู้สุดอลังของฉันนนนนนนนนนนนนนนน
หายไปไหนนนนนนนนนนนนนนนนนน