ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    난 니꺼야 (I'm yours) Baeksoo

    ลำดับตอนที่ #12 : 난 니꺼야 11

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 57



    ยิ่งแก้เรื่องนี้ยิ่งยาวขึ้นเรื่อยๆ เห้ออออออ

    ใจจริงอยากอัพอีกทีวันที่ 11 อัพมันเดือนละครั้งไปเลย

    แต่เห็นคอมเมนท์ของคุณ ⊙♡⊙  KyungD.O. แล้วชื่นใจมากอะแกรรรรรรรร

    แอร๊ยสสสสสสสสสสสส์ ขอบคุณมากนะคะ *ไหว้ย่อขา” น่ารักจริงๆ *หยิกแก้ม*

     

    โปรดฟังอีกครั้งนึง

    ใครยังไม่แนะนำตัว แนะนำตัวด้วยค่ะ ชื่อเล่น และอายุ เคนะ?

    ไม่งั้นเวลาตอบคอมเมนท์เค้าเรียกไม่ถูกอ่า.

     

    Phoenixer

    คยองซู: ช่ายยยยยย บยอนน่ารักมากเลยครับ.

     

    ญา

    ตอนนี้พี่คริสก็ยังมาแหย่บยอนแล้วก็กลับนะ 555555

     

    แคร์

    5555 แต่งตอนที่แล้วออกเพราะเพื่อนแชร์รูปแบครูปนี้ในเฟสบุ๊คเลยค่ะ

    เท่ค่ดดดดดดดดด เราเป็นผู้หญิงคนนั้นคงตายไปเลย

     

    Ploypilinonsri

    บยอน: ติดตามไม่ถึงตอนจบมีตบนะคร้าบบบบ *ยิ้มหวาน*

     

    Kan _kf

    อ่านตอนนี้แล้วน่าจะพอเดาได้เนอะว่าตกลงเฮียคริสจะแกล้งแบคหรืออยากฟินเอง หึหึหึ

     

    Bolio

    อัพเดือนละครั้งได้มั้ยอ่ะแกรรรร คนอ่านไม่เยอะเท่าไหรรรร่


    __________________________________________________________________________________________________________


     

     “แบคฮยอนอา ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ คาบต่อไปเราสอบนะ จะไม่อ่านหนังสือรึงายยยย”

     

    โดคยองซูพยายามดึงหลังคอเสื้อนักเรียนของแบคฮยอนที่กำลังฟุบอยู่กับโต๊ะให้เงยหน้าขึ้นมาอ่านหนังสือ เพราะคาบต่อไปพวกเขากำลังจะสอบวิชาวรรณคดี เพื่อนๆในห้องพากันจับกลุ่มติวกันหน้าดำคร่ำเครียด ในขณะที่บยอนแบคฮยอนกำลังหลับเอาเป็นเอาตาย มันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า!

     

    “บยอนแบคฮยอน! ไอหมาขี้เกียจ กินข้าวแล้วนอนแบบนี้ทีหลังจะไม่ทำข้าวกล่องมาเผื่อแล้วนะ!

     

    คำขู่เหมือนจะได้ผล คยองซูฉีกยิ้มเต็มแก้มตอนแบคฮยอนยอมเงยหน้าขึ้นมาจากท่อนแขนตัวเองที่หนุนต่างหมอนในที่สุด คนที่โดนขัดจังหวะการนอนมองคยองซูด้วยดวงตาปรือปรอย ก่อนจะเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่ทำเอาคยองซูสะดุ้งแทบตกเก้าอี้

     

    “จูบทีนึงก่อน แล้วจะยอมอ่าน”

     

    โดคยองซูกระแอมในลำคอเบาๆ ก่อนจะขยับนั่งตัวตรงในเก้าอี้ตัวเอง มือขาวหยิบสมุดโน๊ตขึ้นมาอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนแบคฮยอนหัวเราะลั่นห้อง

     

    “เก่งเนอะ เดี๋ยวนี้อ่านหนังสือกลับหัวซะด้วย”

     

    คยองซูสะดุ้งอีกหน แก้มกลมขึ้นสีจัดลามไปจนถึงใบหู ยิ่งตอนที่แบคฮยอนเอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเขาเบาๆ โดคยองซูยิ่งรู้สึกว่าแก้มกำลังร้อนฉ่าจนกลัวมือแบคฮยอนจะไหม้ เลยต้องรีบสะบัดหน้าออกจากมือนั่น แล้วกดหัวแบคฮยอนให้นอนลงเหมือนเดิม แต่คนที่ฟุบหน้าลงไปแล้วยังหัวเราะคิกคักจนคยองซูต้องหยิกเอวเข้าให้

     

    ...............................................

     

    “หมั่นไส้จริง!

     

    โดคยองซูเตะเข้าที่ข้างสะโพกของคนที่นั่งเหยียดขายาวเอนหลังพิงกำแพงกดเกมส์ในมือยิกๆอยู่หน้าห้อง แบคฮยอนส่งข้อสอบก่อนเขาพักใหญ่ แถมยังเดินล้วงกระเป๋ากางเกงผิวปากออกนอกห้องไปจนนึกอยากหยิกสักทีอีก

     

    “ออกมาก่อนนี่ทำข้อสอบได้ ไม่ได้ดิ่งลงมาทั้งแถวใช่ไหม?”

     

    คยองซูก็ถามไปงั้นแหล่ะ เพราะเขารู้ดีกว่าใครว่าแบคฮยอนนั้นหัวดี ขนาดนั่งๆหลับอยู่งี้ พอคุณครูปลุกขึ้นมาตอบคำถาม แบคฮยอนก็ตอบได้หน้าตาเฉย เป็นอย่างงี้หลายหน จนคุณครูเลิกสนใจไปแล้วว่าแบคฮยอนจะหลับคอพับ จะฟุบโต๊ะ จะวาดรูป หรือจะกินขนม

     

    “เป็นห่วงเหรอ น่ารักจัง”

     

    แบคฮยอนงอขาเข้ามานั่งขัดสมาธิ จัดการยัดเครื่องเล่นเข้ากระเป๋าเป้ ก่อนจะชูมือสุดแขนให้คยองซูดึงลุกขึ้น แบคฮยอนยิ้มอารมณ์ดีตอนที่มือนิ่มๆฉุดตัวเองให้ลุกยืน วงแขนขาววาดโอบที่รอบไหล่เล็ก ก่อนจะพาเดินไปด้วยกัน

     

    “เดี๋ยวพาไปกินของอร่อย แล้วเดี๋ยวพาไปส่งบ้านนะ”

     

    “เอ่อ..”

     

    “ว่าไงครับ?”

     

    แบคฮยอนไล้แก้มใสของคยองซูด้วยหลังมือเบาๆก่อนจะยิ้มให้

     

    “คือ...ไปพรุ่งนี้แทนได้ไหม?”

     

    “ทำไมหล่ะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

     

    แบคฮยอนรีบแตะหลังมือลงบนต้นคอและหน้าผากเกลี้ยง ก่อนจะมุ่นคิ้วเพราะผิวคยองซูก็ไม่ได้มีอุณหภูมิผิดปกติอะไร

     

    “หรือว่า..”

     

    ยังไม่ทันถามจบประโยคคำตอบก็โผล่มาด้านหลังคยองซู แบคฮยอนพยักหน้าประมาณว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะกระชับสายกระเป๋าเป้ เตรียมเดินแยกไปที่รถตัวเอง แต่เดินไปยังไม่ถึงก้าวดีก็โดนกระชากคอเสื้อเอาไว้ก่อน แบคฮยอนไอโขลก เด็กหน้าหมาขยับคอเสื้อฮึดฮัด ตาเรียวรีหรี่จ้องคนที่กระชากคอเสื้อตัวเองเอาไว้ด้วยสายตาหาเรื่อง

     

    “พี่คริส จะทำไรบยอน!

     

    “แปบครับ ผู้ชายคุยกัน”

     

    คยองซูทำหน้าเหรอหรา เพราะถูกดันไปแอบอยู่ด้านหลัง คนตัวเล็กได้ทำปากขมุบขมิบใส่แผ่นหลังฟานเก่อ ส่วนหูก็พยายามฟังว่าสองหนุ่มคุยอะไรกัน เพราะทั้งสองคุยกันเบาแทบไม่ได้ยิน

     

    “เอาไง? ต่อยกันเลยป่ะ? ทำหน้ายับแบบนี้เดี๋ยวไม่ให้คยองซูกลับด้วยซะเลยนี่ไอเปี๊ยก”

     

    “ใครไอเปี๊ยก”

     

    “งั้นไอเตี้ย”

     

    ว่างั้นแล้วก็ใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากแบคฮยอนจนหงายหลังเซแท่ดๆ แบคฮยอนที่โดนแกล้งทรงตัวขึ้นมายืนตรงแล้วกอดอกยืนรอคยองซูกับอี้ฟานคุยกัน นี่ถ้าอี้ฟานไม่ได้พูดเชิงเหมือนจะให้คยองซูกลับด้วยนะ ป่านนี้สะบัดบ๊อบงอนเป็นตุ๊ดกลับบ้านไปนอนรอให้คยองซูมาง้อแล่ว!

     

    “เก่อ ต้องไปวันนี้เลยเหรอ เย็นแล้วนะ ไกลด้วย ขับรถมืดๆผมเป็นห่วง”

     

    “เรื่องด่วนนี่ครับ เดี๋ยวถึงแล้วพี่โทรหานะ โอเคไหม?”

     

    แบคฮยอนมองอี้ฟานที่สัมผัสแก้มคยองซูอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหยักสวยกดจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวสองสามที แล้วรุนหลังคยองซูที่มีท่าทีอิดออดนิดหน่อยมาทางเขา มองตาอี้ฟานแบคฮยอนก็รู้ว่าฝ่ายนั้นก็ไม่ได้อยากจะปล่อยคยองซูกลับบ้านกับเขาเท่าไหร่หรอก เป็นผู้ชายเหมือนกัน แบคฮยอนมองตาปราดเดียวก็รู้

     

    ความรักของอู๋อี้ฟานเป็นของจริง.

     

    ..............................

     

    “บยอนเป็นอะไรอะ งอนเหรอ?”

     

    คยองซูแตะมือลงบนต้นขาของแบคฮยอนที่นั่งเงียบ เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างอยู่พักใหญ่ คยองซูคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่พอใจที่เขาไม่ยอมบอกว่าวันนี้อี้ฟานจะมารับ ไม่ก็ไม่ชอบใจที่เขาทำท่าอิดออดตอนที่คริสรุนหลังตัวเองมาหาแบคฮยอน

     

    “เปล่า”

     

    “หรือว่า... คือ ..ถ้าบยอนขับรถไกลๆฉันก็เป็นห่วงเหมือนกันนะ อย่าน้อยใจเลย”

     

    “ไม่ได้น้อยใจ แล้วก็ไม่ได้งอนด้วย”

     

    “งั้นนายเป็นใคร เอาแบคฮยอนของฉันคืนมานะ เอาแบคฮยอนของฉันไปซ่อนไว้ไหน นายเอาลูกหมาขี้เล่นของฉันไปไว้ไหน ฮึ?”

     

    คยองซูจับที่ไหล่กว้างของแบคฮยอนแล้วโยกไปโยกมา เขย่าๆจนแบคฮยอนหัวสั่นหัวคลอน จริงๆแบคฮยอนยิ้มออกตั้งแต่ได้ยินคำว่าแบคฮยอนของฉันแล้วแหล่ะ แต่ว่าเขาชอบเวลาที่คยองซูเป็นแบบนี้ที่สุด คยองซูที่เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับเขา

     

    “กอดฉันหน่อยสิ?”

     

    “หื้ม?”

     

    “นะ อยากเป็นฝ่ายโดนกอดก่อนบ้าง”

     

    คยองซูหน้าแดง เพราะรู้ดีว่าแบคฮยอนหมายถึงอะไร ในเมื่ออีกฝ่ายมักเป็นคนเข้ามาอ้อนมากอด มาคลอเคลียเขาก่อนตลอด น้อยครั้งที่คยองซูจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

     

    คยองซูกางแขนออกสองข้าง กวักมือนิดหน่อยคล้ายจะบอกว่าเข้ามากอดสิ แต่แบคฮยอนส่ายหน้า

     

    “แบบนั้นฉันถูกกอดตรงไหน?”

     

    เพราะแบคฮยอนว่างั้น คยองซูก็เลยต้องขยับเข้าไปใกล้แบคฮยอนอีกนิด ก่อนจะสอดแขนเข้าไปโอบรอบเอวสอบแล้วซบหน้าลงบนบ้าที่ตั้งตรงและกว้างกว่าตัวเอง แบคฮยอนไม่ได้พูดอะไร แต่ริมฝีปากที่ขยับยกอยู่ข้างขมับบอกคยองซูว่าแบคฮยอนกำลังยิ้ม

     

    “ฉันเป็นลูกหมาของคยองซูใช่ไหม?”

     

    คยองซูไม่ตอบ แต่ถอยตัวออกมาแล้วแหวกปกคอเสื้อนักเรียนออกเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยฟันจางๆที่ยังติดชัดเจนอยู่บนผิวขาว

     

    “คนดีๆที่ไหนเขายอมให้หมาที่ไหนก็ไม่รู้งับคอกันหล่ะ?”

     

    พูดอย่างงั้นแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตาย ถ้าในประโยคไม่มีคำว่าหมาหรือลูกหมา มันก็เหมือนการบอกกลายๆว่าแบคฮยอนเป็นของเขานั่นเอง

     

    “อา.. กินวาฟเฟิลกันเถอะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยเสียก่อน”

     

    แบคฮยอนกินที่คยองซูตักป้อนไปคำเดียวแล้วก็ได้แต่นั่งอมช้อนไม้ เท้าคางมองคยองซูที่ดูจะตั้งอกตั้งใจกินมากเกินกว่าเหตุ ขอเขาข้างตัวเองสักหน่อยแล้วกัน ว่าคยองซูกำลังเขิน

     

     “บยอนก็พาคยองซูมาร้านนี้ด้วยเหรอ?”

     

    แบคฮยอนที่กำลังอ้าปากรับวาฟเฟิลชุ่มน้ำผึ้งหอมหวานคำที่สองจากคยองซูปรายตามองเจ้าของเสียงอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะรับวาฟเฟิลเข้าปากแล้วเคี้ยวหงุบหงับ ส่วนคยองซูที่หันไปเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ก็รีบวางช้อนเรียบร้อย ทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    “แล้วทำไมนายต้องป้อนวาฟเฟิลแฟนฉันด้วยหล่ะ?”

     

    “คือฉัน...”

     

    “นายทำไม?”

     

    “อย่ายุ่งกับคยองซู มีอะไรไปคุยกันข้างนอก”

     

    แบคฮยอนแตะที่แก้มคยองซูเบาๆอย่างอ่อนโยน ก่อนจะออกแรงดึงข้อมือเด็กสาวที่ทำหน้าบูดบึ้งให้ออกไปคุยกันที่สวนด้านนอกร้าน

     

    คยองซูถอนหายใจยาว วางช้อนในมือลง แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ใครจะไปกินต่อลงกัน ถ้าเขาเห็นคนอื่นป้อนวาฟเฟิลให้แฟนตัวเองเขาก็คงไม่ชอบใจ มินอาคงรู้สึกแบบนั้น

     

    ...........

     

    “ทะเลาะกับเธอรุนแรงไหม?”

     

    คยองซูเอ่ยถามแบคฮยอนที่เอนศีรษะซบลงมาบนไหล่  ใบหน้าที่ปกติมีความขี้เล่นตอนนี้มีแต่ร่องรอยความเหนื่อยล้า เปลือกตาปิดนึ่งเหมือนอยากกันตัวเองออกจากความวุ่นวายสักพัก

     

    “ยัยนั่นกำลังจะทำฉันประสาทเสีย ฮึ่ยย เซงชะมัด”

     

    “ขอโทษนะ ความผิดฉันเอง”

     

    “ความผิดฉันต่างหาก เลยกินวาฟเฟิลไม่อร่อยเลยใช่ไหม?”

     

    แบคฮยอนลืมตา ดวงตาเรียวรีจ้องตอบดวงตากลมของคยองซูที่มองมาก่อนแล้ว ปลายนิ้วเย็นๆสอดประสานเข้ากับปลายนิ้วและมืออุ่นๆของคยองซูก่อนจะเป็นฝ่ายยิ้มให้ ในหัวคิดว่าวันหลังคงต้องพาคยองซูไปร้านอื่น

     

    “แล้วดีกันหรือยัง? ไม่ตามไปง้อเขาเหรอ?”

     

    โดคยองซู

    แบคฮยอนทำเสียงต่ำในลำคอเป็นเชิงเตือน

     

    “เป็นแฟนเขาแล้ว ทิ้งขว้างเขาแบบนี้ได้เหรอ? เป็นผู้ชายทำตัวไม่น่ารักกับผู้หญิงเขาไม่เรียกว่าลูกผู้ชายหรอกนะ”

     

    “...”

     

    “โกรธเหรอ?”

     

    “ใช่”

     

    “บยอน”

     

    “เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดถึงเขาเวลาเราอยู่ด้วยกัน”

     

    “ก็เมื่อกี้ตอนเราอยู่ด้วยกันเขาอยู่ด้วยนี่  แล้วให้ทำไงหล่ะ!

     

    “...”

     

    “บยอน”

     

    “....”

     

    “อย่าเป็นแบบนี้สิ”

     

    “จูบฉันสิ แล้วจะหายโกรธ”

     

    ทั้งที่ในใจกรีดร้องว่าอย่า มันผิด แบคฮยอนมีแฟนแล้ว จะปล่อยให้ความรู้สึกตัวเองถลำลึกไปกว่านี้ไม่ได้ แต่ร่างกายกลับไม่ฟัง ตอนที่คยองซูลืมตาขึ้นก็เห็นเพียงแค่ปลายจมูกและแพขนตาของอีกฝ่าย พอถอยตัวออกมาก็เห็นว่าแบคฮยอนกำลังยิ้มอยู่

     

    “แค่นี้ไม่พอหรอก”

     

    คยองซูได้แต่กำหลังคอเสื้อบยอนแบคฮยอนเอาไว้แน่นตอนที่แบคฮยอนแนบริมฝีปากลงมา รสหอมหวานของน้ำผึ้งผสมกันกับกลิ่นกาแฟคาปูชิโน่บนริมฝีปากและลิ้นร้อนๆของบยอนแบคฮยอนที่คลอเคล้าลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้คยองซูต้องนิ่วหน้าเสียดายตอนที่แบคฮยอนผละออกไป

     

    ดวงตาเรียวรีแสนเจ้าเล่ห์มองใบหน้าของคยองซูตาไม่กระพริบ เล่นเอาอีกฝ่ายเงอะงะ ไม่รู้จะเอามือไม้วางไว้ตรงไหน ก็เลยได้แต่วางมือบนหลังคอบยอนแบคฮยอนเหมือนเดิมเท่านั้น

     

    “อ๊ะ”

     

    คยองซูสะดุ้งหน่อยๆตอนที่แบคฮยอนแนบริมฝีปากเย็นๆลงมาบนต้นคอ แบคฮยอนแหวกคอเสื้อนักเรียนสีขาวของคยองซูออกเพื่อที่จะได้ฝังริมฝีปากลงไปได้ถนัด ปลายลิ้นเย็นๆและฟันคมๆกดเย้าลงบนเนื้อขาวเนียนจนขึ้นเป็นรอยช้ำฟันชัดเจนอีกหน  เสียงครางอึกอักในลำคอเบาๆยิ่งกระตุ้นให้แบคฮยอนอยากแกล้งคยองซูมากขึ้นอีก มือขาวแหวกคอเสื้อให้กว้างกว่าเก่า ก่อนจะบรรจงแนบริมฝีปากลงตามเนินไหล่ขาว

     

    “บยอน พ ..พอแล้วนะ”

     

    บยอนแบคฮยอนไม่รู้หรอกว่าโดคยองซูต้องอับอายแค่ไหนตอนที่รู้สึกตัวอีกทีคือหลังตัวเองกำลังเอนแตะลงบนเบาะโซฟา มือนิ่มตัดสินใจจับเข้าที่หูทั้งสองข้างของแบคฮยอน บังคับให้อีกฝ่ายเงยหน้าจากคอขึ้นมาสบตาตัวเอง คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าดวงตาคู่นั้นแสดงความต้องการบางอย่างอย่างไม่ปิดบัง

     

    “พอก็ได้”

     

    ไม่วายแบคฮยอนยังยื่นหน้าไปจูบข้างแก้มแดงจัดของคยองซูอีกหนึ่งที ก่อนจะดึงเอวคยองซูให้ขึ้นมานั่งเหมือนเดิม แบคฮยอนขยับออกห่างจากคยองซูเล็กน้อย เพื่อให้ความร้อนที่ครุกกรุ่นอยู่ในร่างกายสงบลงโดยไว

     

     “รู้สึกดีเหมือนกันไหม?”

     

    “อืมก็..ดี”

     

    แบคฮยอนกับคยองซูไม่ได้พูดอะไรกันต่อ เพราะริมฝีปากกลับมาแนบกันสนิทอีกครั้ง บยอนแบคฮยอนไม่รู้ว่าหลังจากจูบนี้จะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง รู้แต่ว่า คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องบอกความรู้สึกของเขากับคยองซูเสียที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×