คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 난 니꺼야 11
ยิ่งแก้เรื่องนี้ยิ่งยาวขึ้นเรื่อยๆ เห้ออออออ
ใจจริงอยากอัพอีกทีวันที่ 11 อัพมันเดือนละครั้งไปเลย
แต่เห็นคอมเมนท์ของคุณ ⊙♡⊙ KyungD.O. แล้วชื่นใจมากอะแกรรรรรรรร
แอร๊ยสสสสสสสสสสสส์ ขอบคุณมากนะคะ *ไหว้ย่อขา” น่ารักจริงๆ *หยิกแก้ม*
โปรดฟังอีกครั้งนึง
ใครยังไม่แนะนำตัว แนะนำตัวด้วยค่ะ ชื่อเล่น และอายุ เคนะ?
ไม่งั้นเวลาตอบคอมเมนท์เค้าเรียกไม่ถูกอ่า.
Phoenixer
คยองซู: ช่ายยยยยย บยอนน่ารักมากเลยครับ.
ญา
ตอนนี้พี่คริสก็ยังมาแหย่บยอนแล้วก็กลับนะ 555555
แคร์
5555 แต่งตอนที่แล้วออกเพราะเพื่อนแชร์รูปแบครูปนี้ในเฟสบุ๊คเลยค่ะ
เท่ค่ดดดดดดดดด เราเป็นผู้หญิงคนนั้นคงตายไปเลย
Ploypilinonsri
บยอน: ติดตามไม่ถึงตอนจบมีตบนะคร้าบบบบ *ยิ้มหวาน*
Kan _kf
อ่านตอนนี้แล้วน่าจะพอเดาได้เนอะว่าตกลงเฮียคริสจะแกล้งแบคหรืออยากฟินเอง หึหึหึ
Bolio
อัพเดือนละครั้งได้มั้ยอ่ะแกรรรร คนอ่านไม่เยอะเท่าไหรรรร่
__________________________________________________________________________________________________________
“แบคฮยอนอา ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ คาบต่อไปเราสอบนะ จะไม่อ่านหนังสือรึงายยยย”
โดคยองซูพยายามดึงหลังคอเสื้อนักเรียนของแบคฮยอนที่กำลังฟุบอยู่กับโต๊ะให้เงยหน้าขึ้นมาอ่านหนังสือ เพราะคาบต่อไปพวกเขากำลังจะสอบวิชาวรรณคดี เพื่อนๆในห้องพากันจับกลุ่มติวกันหน้าดำคร่ำเครียด ในขณะที่บยอนแบคฮยอนกำลังหลับเอาเป็นเอาตาย มันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า!
“บยอนแบคฮยอน! ไอหมาขี้เกียจ กินข้าวแล้วนอนแบบนี้ทีหลังจะไม่ทำข้าวกล่องมาเผื่อแล้วนะ!”
คำขู่เหมือนจะได้ผล คยองซูฉีกยิ้มเต็มแก้มตอนแบคฮยอนยอมเงยหน้าขึ้นมาจากท่อนแขนตัวเองที่หนุนต่างหมอนในที่สุด คนที่โดนขัดจังหวะการนอนมองคยองซูด้วยดวงตาปรือปรอย ก่อนจะเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่ทำเอาคยองซูสะดุ้งแทบตกเก้าอี้
“จูบทีนึงก่อน แล้วจะยอมอ่าน”
โดคยองซูกระแอมในลำคอเบาๆ ก่อนจะขยับนั่งตัวตรงในเก้าอี้ตัวเอง มือขาวหยิบสมุดโน๊ตขึ้นมาอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนแบคฮยอนหัวเราะลั่นห้อง
“เก่งเนอะ เดี๋ยวนี้อ่านหนังสือกลับหัวซะด้วย”
คยองซูสะดุ้งอีกหน แก้มกลมขึ้นสีจัดลามไปจนถึงใบหู ยิ่งตอนที่แบคฮยอนเอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเขาเบาๆ โดคยองซูยิ่งรู้สึกว่าแก้มกำลังร้อนฉ่าจนกลัวมือแบคฮยอนจะไหม้ เลยต้องรีบสะบัดหน้าออกจากมือนั่น แล้วกดหัวแบคฮยอนให้นอนลงเหมือนเดิม แต่คนที่ฟุบหน้าลงไปแล้วยังหัวเราะคิกคักจนคยองซูต้องหยิกเอวเข้าให้
...............................................
“หมั่นไส้จริง!”
โดคยองซูเตะเข้าที่ข้างสะโพกของคนที่นั่งเหยียดขายาวเอนหลังพิงกำแพงกดเกมส์ในมือยิกๆอยู่หน้าห้อง แบคฮยอนส่งข้อสอบก่อนเขาพักใหญ่ แถมยังเดินล้วงกระเป๋ากางเกงผิวปากออกนอกห้องไปจนนึกอยากหยิกสักทีอีก
“ออกมาก่อนนี่ทำข้อสอบได้ ไม่ได้ดิ่งลงมาทั้งแถวใช่ไหม?”
คยองซูก็ถามไปงั้นแหล่ะ เพราะเขารู้ดีกว่าใครว่าแบคฮยอนนั้นหัวดี ขนาดนั่งๆหลับอยู่งี้ พอคุณครูปลุกขึ้นมาตอบคำถาม แบคฮยอนก็ตอบได้หน้าตาเฉย เป็นอย่างงี้หลายหน จนคุณครูเลิกสนใจไปแล้วว่าแบคฮยอนจะหลับคอพับ จะฟุบโต๊ะ จะวาดรูป หรือจะกินขนม
“เป็นห่วงเหรอ น่ารักจัง”
แบคฮยอนงอขาเข้ามานั่งขัดสมาธิ จัดการยัดเครื่องเล่นเข้ากระเป๋าเป้ ก่อนจะชูมือสุดแขนให้คยองซูดึงลุกขึ้น แบคฮยอนยิ้มอารมณ์ดีตอนที่มือนิ่มๆฉุดตัวเองให้ลุกยืน วงแขนขาววาดโอบที่รอบไหล่เล็ก ก่อนจะพาเดินไปด้วยกัน
“เดี๋ยวพาไปกินของอร่อย แล้วเดี๋ยวพาไปส่งบ้านนะ”
“เอ่อ..”
“ว่าไงครับ?”
แบคฮยอนไล้แก้มใสของคยองซูด้วยหลังมือเบาๆก่อนจะยิ้มให้
“คือ...ไปพรุ่งนี้แทนได้ไหม?”
“ทำไมหล่ะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
แบคฮยอนรีบแตะหลังมือลงบนต้นคอและหน้าผากเกลี้ยง ก่อนจะมุ่นคิ้วเพราะผิวคยองซูก็ไม่ได้มีอุณหภูมิผิดปกติอะไร
“หรือว่า..”
ยังไม่ทันถามจบประโยคคำตอบก็โผล่มาด้านหลังคยองซู แบคฮยอนพยักหน้าประมาณว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะกระชับสายกระเป๋าเป้ เตรียมเดินแยกไปที่รถตัวเอง แต่เดินไปยังไม่ถึงก้าวดีก็โดนกระชากคอเสื้อเอาไว้ก่อน แบคฮยอนไอโขลก เด็กหน้าหมาขยับคอเสื้อฮึดฮัด ตาเรียวรีหรี่จ้องคนที่กระชากคอเสื้อตัวเองเอาไว้ด้วยสายตาหาเรื่อง
“พี่คริส จะทำไรบยอน!”
“แปบครับ ผู้ชายคุยกัน”
คยองซูทำหน้าเหรอหรา เพราะถูกดันไปแอบอยู่ด้านหลัง คนตัวเล็กได้ทำปากขมุบขมิบใส่แผ่นหลังฟานเก่อ ส่วนหูก็พยายามฟังว่าสองหนุ่มคุยอะไรกัน เพราะทั้งสองคุยกันเบาแทบไม่ได้ยิน
“เอาไง? ต่อยกันเลยป่ะ? ทำหน้ายับแบบนี้เดี๋ยวไม่ให้คยองซูกลับด้วยซะเลยนี่ไอเปี๊ยก”
“ใครไอเปี๊ยก”
“งั้นไอเตี้ย”
ว่างั้นแล้วก็ใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากแบคฮยอนจนหงายหลังเซแท่ดๆ แบคฮยอนที่โดนแกล้งทรงตัวขึ้นมายืนตรงแล้วกอดอกยืนรอคยองซูกับอี้ฟานคุยกัน นี่ถ้าอี้ฟานไม่ได้พูดเชิงเหมือนจะให้คยองซูกลับด้วยนะ ป่านนี้สะบัดบ๊อบงอนเป็นตุ๊ดกลับบ้านไปนอนรอให้คยองซูมาง้อแล่ว!
“เก่อ ต้องไปวันนี้เลยเหรอ เย็นแล้วนะ ไกลด้วย ขับรถมืดๆผมเป็นห่วง”
“เรื่องด่วนนี่ครับ เดี๋ยวถึงแล้วพี่โทรหานะ โอเคไหม?”
แบคฮยอนมองอี้ฟานที่สัมผัสแก้มคยองซูอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหยักสวยกดจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวสองสามที แล้วรุนหลังคยองซูที่มีท่าทีอิดออดนิดหน่อยมาทางเขา มองตาอี้ฟานแบคฮยอนก็รู้ว่าฝ่ายนั้นก็ไม่ได้อยากจะปล่อยคยองซูกลับบ้านกับเขาเท่าไหร่หรอก เป็นผู้ชายเหมือนกัน แบคฮยอนมองตาปราดเดียวก็รู้
ความรักของอู๋อี้ฟานเป็นของจริง.
..............................
“บยอนเป็นอะไรอะ งอนเหรอ?”
คยองซูแตะมือลงบนต้นขาของแบคฮยอนที่นั่งเงียบ เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างอยู่พักใหญ่ คยองซูคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่พอใจที่เขาไม่ยอมบอกว่าวันนี้อี้ฟานจะมารับ ไม่ก็ไม่ชอบใจที่เขาทำท่าอิดออดตอนที่คริสรุนหลังตัวเองมาหาแบคฮยอน
“เปล่า”
“หรือว่า... คือ ..ถ้าบยอนขับรถไกลๆฉันก็เป็นห่วงเหมือนกันนะ อย่าน้อยใจเลย”
“ไม่ได้น้อยใจ แล้วก็ไม่ได้งอนด้วย”
“งั้นนายเป็นใคร เอาแบคฮยอนของฉันคืนมานะ เอาแบคฮยอนของฉันไปซ่อนไว้ไหน นายเอาลูกหมาขี้เล่นของฉันไปไว้ไหน ฮึ?”
คยองซูจับที่ไหล่กว้างของแบคฮยอนแล้วโยกไปโยกมา เขย่าๆจนแบคฮยอนหัวสั่นหัวคลอน จริงๆแบคฮยอนยิ้มออกตั้งแต่ได้ยินคำว่าแบคฮยอนของฉันแล้วแหล่ะ แต่ว่าเขาชอบเวลาที่คยองซูเป็นแบบนี้ที่สุด คยองซูที่เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับเขา
“กอดฉันหน่อยสิ?”
“หื้ม?”
“นะ อยากเป็นฝ่ายโดนกอดก่อนบ้าง”
คยองซูหน้าแดง เพราะรู้ดีว่าแบคฮยอนหมายถึงอะไร ในเมื่ออีกฝ่ายมักเป็นคนเข้ามาอ้อนมากอด มาคลอเคลียเขาก่อนตลอด น้อยครั้งที่คยองซูจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
คยองซูกางแขนออกสองข้าง กวักมือนิดหน่อยคล้ายจะบอกว่าเข้ามากอดสิ แต่แบคฮยอนส่ายหน้า
“แบบนั้นฉันถูกกอดตรงไหน?”
เพราะแบคฮยอนว่างั้น คยองซูก็เลยต้องขยับเข้าไปใกล้แบคฮยอนอีกนิด ก่อนจะสอดแขนเข้าไปโอบรอบเอวสอบแล้วซบหน้าลงบนบ้าที่ตั้งตรงและกว้างกว่าตัวเอง แบคฮยอนไม่ได้พูดอะไร แต่ริมฝีปากที่ขยับยกอยู่ข้างขมับบอกคยองซูว่าแบคฮยอนกำลังยิ้ม
“ฉันเป็นลูกหมาของคยองซูใช่ไหม?”
คยองซูไม่ตอบ แต่ถอยตัวออกมาแล้วแหวกปกคอเสื้อนักเรียนออกเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยฟันจางๆที่ยังติดชัดเจนอยู่บนผิวขาว
“คนดีๆที่ไหนเขายอมให้หมาที่ไหนก็ไม่รู้งับคอกันหล่ะ?”
พูดอย่างงั้นแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตาย ถ้าในประโยคไม่มีคำว่าหมาหรือลูกหมา มันก็เหมือนการบอกกลายๆว่าแบคฮยอนเป็นของเขานั่นเอง
“อา.. กินวาฟเฟิลกันเถอะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยเสียก่อน”
แบคฮยอนกินที่คยองซูตักป้อนไปคำเดียวแล้วก็ได้แต่นั่งอมช้อนไม้ เท้าคางมองคยองซูที่ดูจะตั้งอกตั้งใจกินมากเกินกว่าเหตุ ขอเขาข้างตัวเองสักหน่อยแล้วกัน ว่าคยองซูกำลังเขิน
“บยอนก็พาคยองซูมาร้านนี้ด้วยเหรอ?”
แบคฮยอนที่กำลังอ้าปากรับวาฟเฟิลชุ่มน้ำผึ้งหอมหวานคำที่สองจากคยองซูปรายตามองเจ้าของเสียงอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะรับวาฟเฟิลเข้าปากแล้วเคี้ยวหงุบหงับ ส่วนคยองซูที่หันไปเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ก็รีบวางช้อนเรียบร้อย ทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แล้วทำไมนายต้องป้อนวาฟเฟิลแฟนฉันด้วยหล่ะ?”
“คือฉัน...”
“นายทำไม?”
“อย่ายุ่งกับคยองซู มีอะไรไปคุยกันข้างนอก”
แบคฮยอนแตะที่แก้มคยองซูเบาๆอย่างอ่อนโยน ก่อนจะออกแรงดึงข้อมือเด็กสาวที่ทำหน้าบูดบึ้งให้ออกไปคุยกันที่สวนด้านนอกร้าน
คยองซูถอนหายใจยาว วางช้อนในมือลง แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ใครจะไปกินต่อลงกัน ถ้าเขาเห็นคนอื่นป้อนวาฟเฟิลให้แฟนตัวเองเขาก็คงไม่ชอบใจ มินอาคงรู้สึกแบบนั้น
...........
“ทะเลาะกับเธอรุนแรงไหม?”
คยองซูเอ่ยถามแบคฮยอนที่เอนศีรษะซบลงมาบนไหล่ ใบหน้าที่ปกติมีความขี้เล่นตอนนี้มีแต่ร่องรอยความเหนื่อยล้า เปลือกตาปิดนึ่งเหมือนอยากกันตัวเองออกจากความวุ่นวายสักพัก
“ยัยนั่นกำลังจะทำฉันประสาทเสีย ฮึ่ยย เซงชะมัด”
“ขอโทษนะ ความผิดฉันเอง”
“ความผิดฉันต่างหาก เลยกินวาฟเฟิลไม่อร่อยเลยใช่ไหม?”
แบคฮยอนลืมตา ดวงตาเรียวรีจ้องตอบดวงตากลมของคยองซูที่มองมาก่อนแล้ว ปลายนิ้วเย็นๆสอดประสานเข้ากับปลายนิ้วและมืออุ่นๆของคยองซูก่อนจะเป็นฝ่ายยิ้มให้ ในหัวคิดว่าวันหลังคงต้องพาคยองซูไปร้านอื่น
“แล้วดีกันหรือยัง? ไม่ตามไปง้อเขาเหรอ?”
“โดคยองซู”
แบคฮยอนทำเสียงต่ำในลำคอเป็นเชิงเตือน
“เป็นแฟนเขาแล้ว ทิ้งขว้างเขาแบบนี้ได้เหรอ? เป็นผู้ชายทำตัวไม่น่ารักกับผู้หญิงเขาไม่เรียกว่าลูกผู้ชายหรอกนะ”
“...”
“โกรธเหรอ?”
“ใช่”
“บยอน”
“เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดถึงเขาเวลาเราอยู่ด้วยกัน”
“ก็เมื่อกี้ตอนเราอยู่ด้วยกันเขาอยู่ด้วยนี่ แล้วให้ทำไงหล่ะ!”
“...”
“บยอน”
“....”
“อย่าเป็นแบบนี้สิ”
“จูบฉันสิ แล้วจะหายโกรธ”
ทั้งที่ในใจกรีดร้องว่าอย่า มันผิด แบคฮยอนมีแฟนแล้ว จะปล่อยให้ความรู้สึกตัวเองถลำลึกไปกว่านี้ไม่ได้ แต่ร่างกายกลับไม่ฟัง ตอนที่คยองซูลืมตาขึ้นก็เห็นเพียงแค่ปลายจมูกและแพขนตาของอีกฝ่าย พอถอยตัวออกมาก็เห็นว่าแบคฮยอนกำลังยิ้มอยู่
“แค่นี้ไม่พอหรอก”
คยองซูได้แต่กำหลังคอเสื้อบยอนแบคฮยอนเอาไว้แน่นตอนที่แบคฮยอนแนบริมฝีปากลงมา รสหอมหวานของน้ำผึ้งผสมกันกับกลิ่นกาแฟคาปูชิโน่บนริมฝีปากและลิ้นร้อนๆของบยอนแบคฮยอนที่คลอเคล้าลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้คยองซูต้องนิ่วหน้าเสียดายตอนที่แบคฮยอนผละออกไป
ดวงตาเรียวรีแสนเจ้าเล่ห์มองใบหน้าของคยองซูตาไม่กระพริบ เล่นเอาอีกฝ่ายเงอะงะ ไม่รู้จะเอามือไม้วางไว้ตรงไหน ก็เลยได้แต่วางมือบนหลังคอบยอนแบคฮยอนเหมือนเดิมเท่านั้น
“อ๊ะ”
คยองซูสะดุ้งหน่อยๆตอนที่แบคฮยอนแนบริมฝีปากเย็นๆลงมาบนต้นคอ แบคฮยอนแหวกคอเสื้อนักเรียนสีขาวของคยองซูออกเพื่อที่จะได้ฝังริมฝีปากลงไปได้ถนัด ปลายลิ้นเย็นๆและฟันคมๆกดเย้าลงบนเนื้อขาวเนียนจนขึ้นเป็นรอยช้ำฟันชัดเจนอีกหน เสียงครางอึกอักในลำคอเบาๆยิ่งกระตุ้นให้แบคฮยอนอยากแกล้งคยองซูมากขึ้นอีก มือขาวแหวกคอเสื้อให้กว้างกว่าเก่า ก่อนจะบรรจงแนบริมฝีปากลงตามเนินไหล่ขาว
“บยอน พ ..พอแล้วนะ”
บยอนแบคฮยอนไม่รู้หรอกว่าโดคยองซูต้องอับอายแค่ไหนตอนที่รู้สึกตัวอีกทีคือหลังตัวเองกำลังเอนแตะลงบนเบาะโซฟา มือนิ่มตัดสินใจจับเข้าที่หูทั้งสองข้างของแบคฮยอน บังคับให้อีกฝ่ายเงยหน้าจากคอขึ้นมาสบตาตัวเอง คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าดวงตาคู่นั้นแสดงความต้องการบางอย่างอย่างไม่ปิดบัง
“พอก็ได้”
ไม่วายแบคฮยอนยังยื่นหน้าไปจูบข้างแก้มแดงจัดของคยองซูอีกหนึ่งที ก่อนจะดึงเอวคยองซูให้ขึ้นมานั่งเหมือนเดิม แบคฮยอนขยับออกห่างจากคยองซูเล็กน้อย เพื่อให้ความร้อนที่ครุกกรุ่นอยู่ในร่างกายสงบลงโดยไว
“รู้สึกดีเหมือนกันไหม?”
“อืมก็..ดี”
แบคฮยอนกับคยองซูไม่ได้พูดอะไรกันต่อ เพราะริมฝีปากกลับมาแนบกันสนิทอีกครั้ง บยอนแบคฮยอนไม่รู้ว่าหลังจากจูบนี้จะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง รู้แต่ว่า คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องบอกความรู้สึกของเขากับคยองซูเสียที
ความคิดเห็น