คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่10
***เนื้อหาตอนไปนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของไรต์ มีบางเหตุการณ์ที่อิงจากหนัง***
ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว วิชาสุดท้ายเธอไม่ได้เรียน แค่ไปเลือกวิชาเลือกวิชาเสรีมา เธอเลือกลงวิชาดนตรีสากล ซึ่งไม่เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆเลย แองเจลล่าเข้าวิชาวรรณกรรม เอริคเข้าวิชาถ่ายรูป เจสซิกาเข้าวิชาภาษาต่างประเทศ ไมค์เข้าวิชากีฬาสากล
ซึ่งพอเลือกเสร็จพวกเขาก็มายืนจับกลุ่มคุยกันเหมือนกับนักเรียนกลุ่มอื่นๆ ที่มายืนรอกลับบ้านที่ลานจอดรถ
"เธอกลับบ้านยังไงหรอแอ็บบี้"
ไมค์ถามขึ้น เขากะว่าถ้าเธอนั่งรถประจำทางกลับเขาจะอาสาไปส่งเธอเอง
"อ๋อ ฉันเอารถมาเองน่ะ"
เกลตอบออกมาทันที เธอพอเดาออกตั้งแต่ไมค์คุยโวว่ามีรถแล้ว พ่อกับแม่ซื้อให้เขาใหม่เป็นของขวัญเปิดเทอม
"โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ"
ไมค์ที่เหมือนโดนหักหน้า บอกลาเพื่อนแล้วเดินไปขึ้นรถ เตรียมพร้อมกลับบ้านทันที
"ฉันทำอะไรผิดหรอ"
เกลถามออกไป แต่เธอก็พอรู้ว่าเขาคงเฟลที่เธอปฏิเสธเขา แต่เกลก็ไม่ได้อยากให้ความหวังใคร
“เปล่าหรอก ช่างเขาเถอะ”
ตอนนี้ที่เหลือเพียงแค่สามสาวยืนคุยกันอยู่เพื่อรอเวลากริ่งกลับบ้าน ทั้งสามคนยืนคุยนู่นนี่ไปเรื่อย เสื้อผ้าหน้าผม พรุ่งนี้แต่งตัวยังไง เรียนอะไร วันนี้มีงานไหม
“นี่แอ็บบี้ ฉันว่าพวกคัลเลนกำลังมองเธออยู่”
เจสซิกาที่ยืนอยู่ข้างหน้าเกล และเธอหันหน้าไปทางพวกคัลเลนพูดขึ้นมา แต่เกลกำลังหันหลังให้พวกเขาจึงไม่เห็นว่าจริงไหม
“ไม่หรอก คงมองข้างหลังเธอก็ได้เจส”
เกลพูดออกไป ถึงในใจเธอก็คิดว่าพวกเขามองเธออยู่จริงๆนั่นแหล่ะ แต่พยายามทำเป็นไม่สนใจ พวกคัลเลนนี้ก็ยังไงเจอใครที่ตัวเองไม่รู้ว่าเป็นใครก็จ้องจะฆ่าเขาให้ได้รึไง
“ไม่ๆ ฉันก็ว่าเขามองเธอนั่นแหล่ะ โดยเฉพาะเอ็ดเวิร์ด”
แองเจลล่าที่ยืนหันข้าง พอจะมองเห็นพวกคัลเลนได้ก็เอ่ยเสริมขึ้นมาอีก
‘แค่นี้ฉันก็กดดันมากแล้วนะ อย่าย้ำกันสิ'
เกลคิดในใจ เธออยากจะเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปเลยตอนนี้ แต่ต้องรอเวลาก่อน มันจะดูไม่ดี
“เธอไม่คิดจะหันไปมองหน่อยหรอ”
เจสซิกาที่เห็นเกลเอาแต่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้หันไปมอง ก็ถามขึ้น
“ไม่อ่ะ ถ้าเขามองจริง ก็เรื่องของเขาเถอะ”
“ว้าว สวยเลือกได้ ไม่สนบอกไม่สน”
เจสซิกาพูดแซวเกล พร้อมกับแองเจล่าเองที่ยิ้มเห็นด้วย เธออยากบอกจังเลยว่าพวกนั้นคงได้ยินที่พวกเธอพูดกัน แต่บอกไม่ได้แน่เดี๋ยวจะยาวกว่าเดิม
“เปล่าสะหน่อย เธอก็พูดไป”
เกลยังพูดปฏิเสธอย่างนอบน้อม ไม่อยากจะมีเรื่องกับใครหรือตัวอะไร เดี๋ยวตายเร็วไป
เกลยังนาฬิกาขึ้นมาดู เหลือเวลาอีก2นาที เธอจึงบอกลาเพื่อนสาวอีกสองคนแล้วเดินไปที่รถตัวเอง
แต่เหมือนฟ้าจะแกล้ง เพราะรถของเธออยู่ห่างจากรถพวกคัลเลนประมาณห้าคันแถมอยู่แนวเดียวกันด้วย พวกคัลเลนจึงเห็นว่าเธอเดินมาที่รถคันไหน เกลสงบจิตใจแบบปลงๆ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องร้อนตัว ชิลเข้าไว้ เกลพอตั้งสติได้ ก็ทำตัวปกติ ตีหน้าเรียบเฉย สงบเยือกเย็นทุกสถานการณ์ เธอปลดล็อกรถแล้วเปิดประตูหลังคนขับโยนกระเป๋าเป้เข้าไป หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่เพื่อบอกว่าเธอกำลังกลับ พวกเขาจะได้รู้ว่าเธอออกจากโรงเรียนมาแล้ว
“แม่คะ หนูกำลังกลับค่ะ ค่ะหนูจะระวัง แม่บอกพ่อด้วยนะว่าเกลจะพาลายจุดไปเดินเล่น ให้หาอะไรให้มันกินก่อนเลย”
เสียงสนทนาระหว่างแม่ลูก ที่คนที่อยู่ระแวกเกล หรือไกลกว่าจะได้ยินเพียงสิ่งที่เกลพูด แล้วสำหรับคนที่การได้ยินนั่นไกลว่าคนปกติ ย่อมได้ยินทุกคำพูดของเกล
เกลที่คุยโทรศัพท์เสร็จก็เปิดประตูเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์เตรียมพร้อมไว้เลย เกลพิงตัวไปข้างหน้าวางแขนไปบนพวงมาลัยแล้วเอาคางเกยไว้ เธอคิด นี่หรอชีวิตโรงเรียนมัธยม ก็ดีนะ แต่ไม่ค่อยตื่นเต้นเลย
อีกด้านนอกรถของเกล
สายตาของเอ็ดเวิร์ดยังจ้องไปที่คนที่อยู่เป็นรถ เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างแน่ๆ แต่เขากลับไม่ได้ยินมันเลย ซึ่งเขาหงุดหงิดมากๆ ทำไมเขาถึงอ่านเธอไม่ได้ เธอเป็นใครกัน เขาไม่เคยเห็นเธอในเมือง อลิซเองก็ไม่เห็นว่าเธอจะมา มันมีบางอย่าง เหมือนเธอเป็นข้อยกเว้นสำหรับทุกอย่าง ไม่ว่าอะไร
เธอทำตัวธรรมดา ไม่หาเรื่องใครไม่หาเรื่องใส่ตัว ไม่เป็นจุดเด่นให้ใครสังเกต เป็นตัวของตัวเองแต่สิ่งนั้นกับดึงดูดความสนใจเข้าไปหาตัวเธอมากกว่าเดิมสะอีก เอ็ดเวิร์ดมองเกลอย่างเงียบๆจนมีรถคันแรกขับออกไป เกลก็เคลื่อนรถขับออกตามไปทันที เหมือนเธอรอเวลานี้มานานแล้ว
“เธอไปแล้ว กลับกันได้ยังเอ็ดเวิร์ด”
อลิซถามขึ้นจริงๆพวกเธอไม่จำเป็นต้องรอเขาสะหน่อย ยังไงก็มากันคันละอยู่แล้ว มีเอ็ดเวิร์ดมาคนเดียว ที่เหลือมาด้วยกัน พวกเขาแค่จะอยู่แกล้งเขาเท่านั่นแหล่ะ
“จะกลับก็กลับสิ ไม่ได้รอใครสะหน่อย”
อลิซยิ้มกับความปากแข็งของเอ็ดเวิร์ด เธอรู้ว่าเข้ากำลังหัวเสียที่อ่านผู้หญิงที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้ไม่ได้
.
.
.
.
.
.
.
ด้านเกล
เธอกลับถึงบ้านโดยใช้เวลาเร็วกว่าขาไปนิดหน่อย เธอทักทายพ่อกับแม่แล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุดเตรียมตัวเข้าไปเดินเล่นในป่าตามปกติ เธอกะว่าจะไปสำรวจรอบๆสะหน่อย ดูว่าป่าที่เธอใช้เล่น ฝึกวิชาทุกวันนี้ใช่ป่าแถบเดียวกับเขตสงวนในหนังtwilightรึป่าว ทำไมเธอไม่เคยเจอพวกตัวละครในหนังเลย ซึ่งเขาต้องออกล่ากันอยู่แล้ว มีเพียงเป็นไปได้อย่างเดียวคือเป็นป่าคนละแถบกัน อาจจะอยู่กันคนละฝั่ง เธอต้องหาเวลาไปเที่ยวเขตสงวนบ้างแล้วจะได้รู้
เกลสำรวจป่าด้านล่างจนพอใจ เธอจึงสำรวจด้านบนบ้างโดยปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงกว่าต้นอื่นๆ เธอปีนขึ้นไปจนถึงยอดไม้ ยืนบนกิ่งไม้กิ่งหนึ่งที่สามารถรับน้ำหนักเธอได้ เธอสังเกตว่ารอบๆตัวเธอมีแต่ป่าและป่า พื้นที่ที่นี่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวไปหมด และมันเชื่อมถึงกัน เธอมองตามป่าที่เชื่อมกันไปจนสุดสายตาก็รู้ว่าเขตสงวนน่าจะอยู่ฝั่งทางนั้น ซึ่งตรงข้ามกับที่ที่เธออยู่ตอนนี้ เกลละสายตาหันไปมองด้านอื่นๆแทน และเธอก็พบกับตึกสามหรือสี่ชั้น เก่าๆเหมือนมันร้างมานานแล้ว และภาพความทรงจำเก่าก็แล่นเข้ามาในหัวเธอทันที ที่นั่นน่าจะเป็นองค์กรที่ทดลองมนุษย์ บ้านเกิดของร่างนี้ เกลยกนาฬิกาที่สวมอยู่ขึ้นมาดู ก็เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว เธอต้องกลับบ้าน ก่อนที่เจนกับทอมจะเป็นห่วง
เกลบันทึกทิศทางของศูนย์นั่นใส่ไว้ในความทรงจำ สักวันเธอจะไปสำรวจมันให้ได้
เกลกลับบ้านมากินมื้อเย็นทันพอดี ซึ่งทอมก็ถามว่าเธอไปไหนมา เกลก็บอกตามตรงว่าไปสำรวจป่ามา เธออยากรู้ว่าบ้านเราอยู่ติดกับป่าทางไหน ทอมจึงบอกว่าทิศที่บ้านเราอยู่คือป่านอกเมืองทางทิศใต้ ทางที่เกลจะเข้าเมืองหรือทางไปโรงเรียนคือไปทางทิศเหนือ ป่าแถวนี้มีบ้านอยู่ไม่มาก แต่บ้านของทอมกับเจนคือบ้านที่ไกลจากเมืองที่สุดแล้ว แต่ก็เป็นที่ดินของบ้านเราเองไม่ใช่ที่ดินรัฐบาล
ในเย็นวันนั้น เกลที่อาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้านอน อยู่ๆเธอก็ปวดหัวขึ้นอย่างรุนแรง เหมือนกับสมองในหัวของเธอจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ปวดมากจนเหมือนมีคนกำลังจะควักสมองเธอออกไป
“อื้ออออออออ”
ไม่มีเสียงกรีดร้องอะไรออกมาจากของเกล มีเพียงเสียงคางที่ดังขึ้นในลำคอของเธอ เกลพยายามกัดปากเอาไว้ เธอไม่อยากส่งเสียงร้องออกไปให้เจนกับทอมได้ยิน ความเจ็บกินเวลานานถึงห้านาทีที่เกลขยับเขยื้อนไม่ได้ ได้แต่นอนกุมหัวของตัวเองไว้ จิกมือกับพรมในห้องระบายความเจ็บปวดของตัวเอง เมื่อทุกอย่างจบลง เกลลากตัวขึ้นไปนอนบนเตียงได้สำเร็จ ไม่มีน้ำตาแม้สักหยดที่ไหลออกมา เธอไม่ได้เสียใจ หรือเจ็บปวดใจอะไรที่จะต้องร้องไห้ มันเป็นเพียงเจ็บปวดที่ร่างกาย และเธอจะต้องรักษามันได้
เกลนอนคิดถึงเนื้อเรื่องของหนังเรื่องthe witchต่อ ในหนังนางเอกจะไปหาหมอเพื่อดูว่าตัวเองเป็นอะไรและได้รับข่าวร้ายว่าเธอจะอยู่ได้ไม่นาน แต่เกลคิดว่านี้เป็นการปวดหัวครั้งแรกของเธอมันจะยังไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้ เมื่อไรที่เริ่มมีเลือดไหลออกมาจากร่างกาย วันนั้นแหล่ะมันจะเริ่มเลวร้ายเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณไปเรื่อยๆ
สิ่งที่เธอจะต้องการเพื่อรักษาโรคที่เธอเป็นเกี่ยวกับสมองที่องค์กรบ้านั่นโปรแกรมไว้ ก็คือ ไขจากกระดูกของผู้ให้กำเนิด หรือพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ เกลจะต้องได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกสันหลังใหม่ เพื่อรักษาโรคทางสมองของเธอให้ได้ ซึ่งในหนังนางเอกเองก็หาไม่เจอเหมือนกัน แล้วเธอจะหาเจอได้อย่างไร หรือชีวิตนี้จะจบเร็วขึ้นกว่าเดิม
“ช่างมันสิ ชีวิตนี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วที่ได้เจอเจนกับทอม ถ้าจะต้องตายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าใครมันมาแส่หาเรื่องฉันอีก มันจะไม่ตายดี"
เกลพูดกับตัวเองถึงความไม่กลัวตาย แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าจะมีคนมาตามล่าเธอเมื่อเธอเปิดเผยตัวตนว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ พวกมันจะพาเธอไปหายาแก้ที่ช่วยเยียวยาแต่ไม่สามารถรักษาได้ พวกมันจะเล่นงานครอบครัวเธอเพื่อให้จำยอม ซึ่งเกลตอนนี้ไม่ใช่นางเอกคนเก่าแล้ว เธอรู้อนาคตที่จะเกิด และรู้ว่าพวกมันเป็นยังไง เธอจะไม่มีทางแพ้หรือเสียท่าให้พวกมันแน่นอน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เช้าวันใหม่
วันนี้เกลตื่นนอนด้วยอารมณ์ไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก แต่อีกเดี๋ยวเจนจะขึ้นมาเธอต้องทำตัวให้ดูสดใสเข้าไว้ เพื่อให้เจนสบายใจ เธอจะไม่ลากพวกเขามาเกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดที่จะเกิดขึ้นแน่นอน เกลลุกจากเตียงแล้วเดินไปอาบน้ำ
เจนที่เข้ามาในห้องหวังจะมาปลุกลูกสาวขี้เซาของเธอ ก็พบกับเตียงที่ว่างเปล่ากับเสียงน้ำกระทบพื้นจากห้องน้ำ จึงรู้ว่าลูกสาวตื่นแล้ว เจนยิ้มดีใจที่เห็นเกลกระตือรือร้นจะไปโรงเรียน เจนเก็บที่นอนให้กับเกลแล้วเดินลงไปข้างล่างเพื่อทำอาหารเช้าให้เกลกิน กิจวัตรยามเช้าของครอบครัวเวทเทอร์ก็ผ่านไปเหมือนกับวันแรกที่เกลไปเรียน กินมื้อเช้า ยืนส่งเกลขับรถออกไปโรงเรียน
บ้านคัลเลน
เอ็ดเวิร์ดกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปโรงเรียนใกล้เสร็จแล้ว ก็รู้สึกการกำลังมาของบางสิ่งที่ไว้ และเสียงเปิดประตูเสียงดังของห้องเขาก็ดังขึ้น
“ฉันเห็นแล้ว!!!”
อลิซสาวน้อยจอมแก่นของบ้านที่กำลังบุกรุกที่ส่วนตัวของเอ็ดเวิร์ดอย่างถือวิสาสะ พูดขึ้นเสียงดังกระตือรือร้น ผิดกับเจ้าของห้อง
“เคาะประตูไม่เป็นหรอ”
เอ็ดเวิร์ดพูดบอกอลิซแล้ว เช็คความเรียบร้อยร่างกายต่อ
“อะไรนายไม่ตื่นเต้นเลยหรอ ดูสิ ดูที่ฉันเห็น”
อลิซพูด แล้วบอกให้เอ็ดเวิร์ดดูอนาคตในนิมิตที่เธอเห็น เอ็ดเวิร์ดส่ายหัว แต่ก็เข้าไปดูในความคิดของอลิซ เขาเห็นเกล กำลังลงจากรถที่จอดอยู่ที่ลานหน้าโรงเรียนใส่เสื้อเชิ้ตชมพูอ่อนกับกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาวคู่เดิม เดินเข้าโรงเรียนไป
“แล้วไง”
“ก็มันบอกว่าเธอไม่ใช่ข้อยกเว้นกับฉันไง อะไรกัน นายไม่ตื่นเต้นเลยหรอ ไม่สนุกเลย ฉันไปบอกคนอื่นๆดีกว่า”
อลิซรีบวิ่งออกไปเหมือนตอนที่เธอเข้ามา ในสายตาเขาคือเธอวิ่ง แต่ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาคงคิดว่าเธอหายตัวได้
พออลิซหายไปแล้ว เอ็ดเวิร์ดก็คลียิ้มออกมา ในหัวเขาตอนนี้คือดีใจนิดๆ อย่างน้อยถ้าเขาอยากรู้ว่าจะมีอันตรายอะไรกับเธอไหม เขาก็ถามจากอลิซได้ แต่ทำไมเขาต้องคิดเรื่องแบบนี้ด้วย มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสะหน่อย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
TBC…
มาแล้ววว เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวสุขเนอะ
เจอกันพรุ่งนี้
ขอบคุณทุกกำลังและคอมเม้นต์น้าาาา
ตรวจคำผิดแล้ว
ความคิดเห็น