ตอนที่ 6 : บทที่ 6 วังวนแห่งรัก
บทที่ 6 วังวนแห่งรัก
ลูซิเฟอร์ไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนว่าเพดานห้องเขาเป็นสีอะไร เขาไม่เคยใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับสีผ้าม่านเลยด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาเขาเคยมองเห็นมันเป็นแค่ของใช้ภายในบ้าน หากแต่วันนี้ เขาเพิ่งตระหนักได้ว่า ผ้าปูที่นอนสีน้ำเงินที่เขากำลังนอนอยู่นั้นมันขัดกับสีครีมโทนอ่อนละมุนของผนังห้อง เพดาน และผ้าม่านลายดอกไม้สีขาวที่ดูโดดเด่นกว่าสีพื้นหลังขึ้นมาเล็กน้อย ณ วินาทีหนึ่งเขาจึงนึกขึ้นได้ว่าเจ้าของห้องเช่าคนเก่าเป็นคนทิ้งผ้าม่านดังกล่าวเอาไว้ก่อนเขาจะย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ ลูซิเฟอร์เคยถอดมันลงมาซักและทำความสะอาดอยู่หลายหน เพียงแค่ไม่เคยใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับมัน จนกระทั่งวันนี้
และตอนนี้...เขากำลังกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะตวัดกลับมามองดูที่แผ่นอกของตน ซึ่งมีศีรษะของหญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลบลอนด์วางอยู่บนนั้น เรียวแขนเล็กโอบรอบลำตัวของเขาเอาไว้ จากนั้นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนประกายทองก็ตวัดขึ้นมามองดูเขา ปอยผมของเธอที่เสียดสีกับผิวนุ่มสลวยเหมือนใยไหม ไม่รู้ว่าเขาจ้องมองเธออยู่นานเท่าไร ถึงไม่สามารถรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของเธอ จนกระทั่งริมฝีปากแดงอวบอิ่มที่ไม่เคยถูกเขาแตะต้องเลื่อนขึ้นมาจูบตามลำคอของเขา ตามมาด้วยร่างบางที่ย้ายขึ้นมาคร่อมอยู่เหนือร่างเขา สัมผัสจากมือเรียวสวยทำให้เขาตื่นตัว หากแต่ดวงตาของเขากลับปิดลงแน่นในจังหวะที่ไออุ่นจากร่างเล็กโอบกอดเขาเอาไว้ ลูซิเฟอร์ไม่เคยต่อต้านหรือปฏิเสธสิ่งที่เธอเสนอให้ หรือแม้แต่พยายามหักห้ามใจไม่ให้ทำอะไรกับเรือนร่างของหญิงสาวที่เขาจำไม่ได้แม้แต่ชื่อของเธอ ทว่าครั้งนี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง
“จัสติน่า คือผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นทั้งที่ร่างกายของเขาและเธอยังประสานกันอยู่ พยายามที่จะสบตาลูซิเฟอร์ซึ่งไม่ได้เปิดรับเธอ มุมปากของเธอคลี่เป็นเส้นตรงทำให้มันดูบางลงกว่าตอนแรกเล็กน้อย “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราหลับนอนด้วยกัน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยเช่นกันที่ฉันบอกชื่อตัวเองกับคุณ เซนน่า ชื่อของฉัน ซึ่งดูเหมือนว่าต่อให้ครั้งหน้าฉันกลับมาหาคุณอีกครั้ง คุณก็คงจะไม่สามารถจำชื่อฉันได้อยู่ดี”
“คุณหิวรึเปล่า” ลูซิเฟอร์พลิกตัวตะแคงข้างแล้วหย่อนขาลงบนพื้นก่อนลุกขึ้นนั่ง หลังจากหญิงสาวคลานลงจากตัวเขาแล้ว
“ไม่ค่ะ ลูซิเฟอร์” ที่นอนข้างตัวเขายุบลงเล็กน้อย “จัสติน่า คุณละเมอเรียกชื่อเธอทุกครั้งที่นอนกับฉัน เธอเป็นคนยังไงคะ”
“...”
“คุณไม่เคยนอนกับเธอเลยใช่ไหม”
“...” ลูซิเฟอร์ก้มมองดูผ้าปูที่นอนของตัวเองอีกครั้ง “มันไม่เข้ากันเลยว่าไหม ผ้าปูที่นอนสีนี้ กับผ้าม่านพวกนั้น”
ต่อให้ลูซิเฟอร์หลีกเลี่ยงที่จะพูดมันออกมา เซนน่าก็ได้คำตอบแล้วว่า เขาไม่เคยหลับนอนกับจัสติน่า หญิงสาวที่เขาพร่ำถึงมาก่อน ทุกครั้งที่เขาเรียกชื่อจัสติน่า การกระทำของเขาอ่อนโยนและระมัดระวังจนดูเก้งก้าง ทั้งที่เขาติดจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างมากกับเซนน่าเมื่อตอนที่พวกเขานอนด้วยกันครั้งแรก
“ตามปรกติแล้วฉันไม่ได้คาดหวังว่าห้องของผู้ชายจะมีผ้าม่านลายดอกไม้ด้วยซ้ำ นอกจากนั้นแล้ว ผ้าปูที่นอนสีเข้มเรียบง่ายไร้ลวดลายติดจะสะท้อนความเป็นผู้ชายได้ดีในสายตาฉัน”
“ผมอาจเปลี่ยนเป็นสีครีม”
“ให้เข้ากับผ้าม่านอย่างนั้นหรือคะ”
“ให้มันไม่ดูตัดกันเกินไป”
“คุณชอบความละมุนละไม” เซนน่าก้มเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม “อยากให้ฉันช่วยเรื่องผ้าปูที่นอนที่จะเข้ากับผ้าม่านนั่นไหม”
“เย็นนี้”
“ได้ค่ะ เจอกันเย็นนี้”
ลูซิเฟอร์ไม่ได้ลุกออกจากเตียงของตนตอนที่หญิงสาวออกจากห้องเขาไป เสียงก้าวเดินหายไปเบื้องหลังบานประตูที่ปิดตัวลง ในขณะที่เขากลับจ้องไปยังผ้าม่านในตัวห้องต่อไป
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2014
“พวกเราโชคดีมากเลยนะคะ ที่วันนี้อากาศดีตรงกันข้ามกับคำพยากรณ์” แม้ว่าลูซิเฟอร์จะไม่ได้เห็นหน้าของหญิงสาว เขาก็รู้สึกได้ถึงความสุขที่ปนอยู่ในเสียงหวานๆ ของจัสติน่า ขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังถนนโคลัมเบีย (Columbia Road) มือของเขายังเกาะกุมมือของเธออยู่ที่เดินนำหน้าไปอย่างกระตือรือร้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังเรือนผมสีน้ำตาลยาวสลวยที่ถูกปล่อยลงมาตามแผ่นหลังจนถึงช่วงเอวของเจ้าตัว “ฉันชอบที่นั่นมาก และจะไม่มีวันรู้สึกเบื่อเลยต่อให้ต้องไปที่นั่นอีกเป็นพันๆ ครั้ง แม้ว่ามันติดจะวุ่นวายอยู่ก็ตาม”
“ระวัง” ลูซิเฟอร์ดึงร่างบางกลับเข้าหาตัวเขาขณะที่พวกเขากำลังจะข้ามถนน เพราะมีรถจักรยานวิ่งตัดมาในจังหวะที่จัสติน่าไม่ทันได้ระวังตัวพอดี
“ขอโทษค่ะ ฉันตื่นเต้นไปหน่อย” มือเล็กเกาะกุมลำแขนของชายหนุ่มที่โอบกอดร่างเธอเอาไว้ แผ่นหลังของเธอแนบกับอกของเขา ร่างสูงยืนนิ่งสงบ แต่เธอสามารถรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจเขาที่ถี่รัวพอๆ กับหัวใจเธอ ตามมาด้วยสัมผัสอ่อนโยนที่ประทับลงมาบนศีรษะ
“แท้จริงแล้วเขาก็ควรจะระวังคุณด้วยเหมือนกัน”
“คุณ...ดุเหมือนกันนะเนี่ย” จัสติน่าหันเข้าหาเขาเพื่อช้อนสายตาขึ้นมองหน้าชายหนุ่มชัดๆ “เหมือนพี่ชายฉันเลย แต่ฉันเชื่อค่ะ ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะเป็นแบบนั้น เพราะคุณเป็นลูกคนเดียว ส่วนใหญ่แล้วลูกคนเดียวมักจะมีความเป็นผู้นำเหมือนกับลูกคนโตของบ้าน และจะมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ”
“อาจจะไม่เหมือนเสียทีเดียว” ลูกคนเดียวไม่ได้มีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพียงแค่ไม่ชอบการสูญเสียสิ่งที่เขาต้องการ เพราะชินชากับการได้รับมากกว่า รวมไปจนถึงความเสียหายที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับสิ่งที่เขาหวงอีกด้วย ลูซิเฟอร์รู้สึกขัดใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงจุดนี้ เพราะตระหนักได้ว่าจัสติน่าไม่ใช่สิ่งของ แต่เธอเป็นหญิงสาวที่เขา...ต้องการ
“บางทีฉันก็ไม่ชอบนิสัยความเป็นลูกคนเล็กเสียทีเดียว ฉันมักจะขาดความระมัดระวังอยู่เสมอ” เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนยิ้มออกมา “และดูเหมือนกับว่าฉันมักจะสร้างเรื่องให้คนรอบข้างคอยห่วงใยตลอดเลย”
‘ห่วงใย’ คำนี้ทำให้การกระทำของเขาที่มีต่อเธอเมื่อก่อนหน้านี้ฟังดูดีขึ้นมากเลย
“ผมแค่...” หวงมากเกินไป “...วิตกมากเกินไป ตอนนี้เราข้ามถนนได้แล้วครับ”
“ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น” จัสติน่าเอ่ยขณะข้ามถนนไปพร้อมๆ กับเขา เธอกวาดตามองไปยังผู้คนที่เดินสวนทางมาพร้อมกับช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือพวกเขา แทบอดใจรอที่จะถึงตลาดดอกไม้บนถนนโคลัมเบียไม่ไหว ซึ่งเธอสามารถมองเห็นมันได้จากจุดที่อยู่ในตอนนี้แล้ว “ที่นี่ มักจะมีคนเยอะตลอดเลย”
ลูซิเฟอร์เคยเดินผ่านมาที่ตลาดดอกไม้แห่งนี้ด้วยความบังเอิญหลายครั้ง หากแต่ไม่เคยชายตามองหรือแม้แต่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ จึงไม่ทันสังเกตว่าระหว่างทางเดินผ่านซุ้มดอกไม้ต่างๆ จะอัดแน่นไปด้วยผู้คนเสียขนาดนี้ และความคิดที่จะต้องเข้าไปเดินผ่านฝูงชนไปพร้อมกับจัสติน่าทำให้เขาอยากจะถอยหลังกลับ หากแต่แววตาสดใสตื่นเต้นของหญิงสาวทำให้เขาไม่สามารถทำลายมันลงได้ เพราะสาเหตุที่แท้จริงที่เขาไม่อยากเข้าไปในนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเอง เขาไม่ต้องการให้เธอต้องไปเบียดเสียดกับชายอื่น ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมากับแฟนสาวก็ตาม แต่มันก็ทำให้เขาอดหน้ามุ่ยไม่ได้อยู่ดี
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“...” ลูซิเฟอร์ขมวดคิ้วแน่น ‘ผมรำคาญพวกผู้ชายที่เดินผ่านคุณ’ คือสิ่งที่เขาอยากจะโพล่งออกไป แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาสดใสของหญิงสาวแล้วเขาก็เปลี่ยนใจ “ผม...คงจะหิว”
“คุณไม่เคยมาที่นี่ใช่ไหมคะ” เธอยิ้มกว้าง “คุณเห็นช่องทางระหว่างร้านดอกไม้กับตรงด้านหน้าตัวอาคารนั่นไหม หากพวกเราเดินไปสักระยะจะมีร้านขายเครปกับโดนัทอยู่ มีกาแฟสำหรับถือกินไปด้วยได้ เราไปตรงนั้นก่อนก็ได้ค่ะ แล้วเดินไปจนสุดทางอีกฝั่ง ฉันอยากรอให้คนน้อยลงกว่านี้อีกสักหน่อยแล้วเราค่อยเดินกัน”
“ก็ดีครับ” นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างมาก แม้ว่าจริงๆ แล้วเขาจะไม่ได้รู้สึกหิวเลยก็ตาม
“อืม...แค่พูดถึงฉันก็ได้กลิ่นเครปนั่นแล้ว”
ลูซิเฟอร์แทบไม่ปล่อยมือหญิงสาวเลยขณะที่พวกเขาเดินไปข้างหน้า เขาใช้ตัวเป็นที่กั้นระหว่างจัสติน่ากับชายใดก็ตามที่เดินผ่านเข้ามาในรัศมีที่พวกเขาอยู่ มือของเขาอ้อยอิ่งอยู่ที่ปลายเส้นผมของหญิงสาวขณะที่เธอกำลังสั่งของหวานและกาแฟกับพนักงานขาย เขาไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการรอคอยให้เธอจบบทสนทนากับคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จัก หากแต่มีความสุขไปกับการดื่มด่ำชื่นชมรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ที่ทำให้เขารู้สึกสงบ
“คุณหาเพื่อนได้ทุกที่เลยนะครับ” เขารับเครปมาหลังจากจ่ายเงินให้พนักงานเสร็จแล้ว
“ฉันควบคุมตัวเองไม่ให้สรรหาบทสนทนามาคุยกับเธอได้จริงๆ คุณเห็นแววตาของเธอไหมคะ ที่ดูเป็นมิตรและใจดี อีกทั้งยังยินดีต้อนรับทุกคนเสียขนาดนั้น”
“เหมือนคุณ”
“เหมือนฉันหรือคะ”
“ใช่ครับ เหมือนคุณ” เขาไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกโล่งใจหรือว่าเสียใจดีที่ตอนนี้มือของเขาไม่ว่างพอที่จะเอื้อมไปแตะต้องตัวเธอได้ เพราะมีเครปกับกาแฟขัดขวางเอาไว้อยู่ หรือบางทีเขาควรรู้สึกโล่งใจแทนเธอ ที่จะไม่ถูกเขาลวนลามต่อหน้าสาธารณชนหมู่มากในตอนนี้ หากแต่แสดงความเสียใจให้กับตัวเขาเอง
“ลูซิเฟอร์” จัสติน่ายิ้มไม่หุบ “คุณช่วยโน้มหน้าต่ำลงมาหน่อยได้ไหมคะ มีอะไรติดอยู่ที่จมูกคุณน่ะ เดี๋ยวฉันช่วยเช็ดออกให้”
“มันทำให้ผมดูเลอะเทอะมากรึเปล่า” เขาไม่แน่ใจว่าทำตัวเองเปื้อนตั้งแต่เมื่อไร ครั้งล่าสุดที่เดินผ่านร้านกระจกมามันก็ดูสะอาดอยู่ ถึงเขาจะรู้สึกแคลงใจอยู่บ้าง แต่ก็โน้มหน้าลงต่ำแต่โดยดี สายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา ก่อนจะเลื่อนต่ำไปตามริมฝีปากที่เม้มแน่น แล้วความคิดของเขาก็เริ่มเลอะเทอะตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มประกบปากของเขาในเวลาต่อมา
“อืม ฉันไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมคำพูดของคุณถึงได้หวานฉ่ำขนาดนี้” จัสติน่าผละออก ลูซิเฟอร์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนยิ้มให้เธอ
“ตกลงจมูกผมไม่ได้เปื้อนใช่ไหม”
“ฉันโกหกคุณค่ะ” รอยยิ้มของเธอสดใส ในขณะที่รอยยิ้มของเขาดูเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก ทว่ามันไม่ได้ทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัว ทำได้อย่างมากก็แค่เพิ่มสีสันบนพวงแก้มของเธอเท่านั้น
ลูซิเฟอร์ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป จัสติน่าสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนเดินนำหน้าชายหนุ่มไป เธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเดินเฉียดผ่านชายอื่นเอง หลังจากสังเกตเห็นว่าสีหน้าของลูซิเฟอร์ดูยุ่งเหยิงเมื่อเขาไม่ประสบความสำเร็จจากการกีดกันเธอออกได้จากทุกคน เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัด เพราะว่าเขาไม่ได้พยายามทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไรออกมาหากแต่มองตามชายคนดังกล่าวตาขวาง นั่นทำให้เธอรู้สึกขำมากกว่า มันทำให้เธอรู้สึกว่า แท้จริงแล้ว ผู้ชายที่ดูเหมือนมีอะไรเก็บซ่อนเอาไว้ เป็นคนขี้หึงอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมากกว่าที่คิด จากนั้นเธอก็เริ่มเบี่ยงเบนความสนใจเขาด้วยการอธิบายเกี่ยวกับดอกไม้ที่พวกเขาเดินผ่าน มือเกาะกุมแขนเขาเอาไว้แน่นหลังจากอาหารที่เคยอยู่ในนั้นถูกจัดการไปจนหมดเกลี้ยง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งนำพาพวกเขาทั้งสองย้อนกลับไปยังวันแรกที่พวกเขาได้พบกัน
“โครคอสเมียลูซิเฟอร์” จัสติน่ายืนยิ้มให้กับพันธุ์ไม้ดังกล่าว
“ดอกไม้โปรดของคุณ” รอยยิ้มของชายหนุ่มเจ้าเล่ห์เหมือนเคย
“ใช่ค่ะ ดอกไม้โปรดของฉัน” เธอจ้องตาเขาไม่ลดละ “ที่ดูเหมือนว่าฉันจะไม่สามารถหาความหมายอะไรแอบแฝงในภาษาดอกไม้จากมันได้เลย ฉันจึงคิดว่า...ฉันจะตั้งให้มันเอง ความหมายแอบแฝงในภาษาดอกไม้”
ลูซิเฟอร์รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาหลงลืมไปชั่วขณะว่าการหายใจเข้านั้นทำอย่างไร แววตาคู่สีน้ำตาลนั้นช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา หากแต่มันไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจในความเป็นหญิงสาวของเธอลดน้อยลง
“คุณตั้งความหมายแอบแฝงอะไรให้มันครับ”
“ผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง อ้างอิงมาจากความหมายของชื่อทั่วๆ ไปค่ะ” เธอยิ้มร่า “หลังจากที่ฉันพยายามหาความหมายของมันแต่ไม่ประสบความสำเร็จ”
ลูซิเฟอร์ยิ้มให้เธอ แม้ว่าเขาจะรู้สึกขัดแย้งกับความคิดของเธออยู่ไม่น้อยก็ตาม เขาดึงเธอออกมาจากกลุ่มชน มองหาความเป็นส่วนตัวท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา ใช่ร่างของตนบดบังร่างหญิงสาวจากสังคมภายนอก เพื่อที่เขาจะสามารถจูบเธอได้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดดื่ม และลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ปลุกไฟในตัวพวกเขาให้ลุกโชน
จัสติน่าไม่รู้ตัวว่าพวกเขาจูบกันอยู่นานเท่าไร เธอไม่สนใจ และต้องตกใจกับความคิดที่ว่า ‘เธอน่าจะชวนเขาไปที่ห้องของเธอ ไม่ใช่ที่นี่’ ประหลาดใจมากที่ได้รับรู้ว่าลูซิเฟอร์ปลุกเร้าทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเธอกับชายคนไหนมาก่อนได้สำเร็จ เธอพยายามบอกตัวเองว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากที่เธอหมดความเชื่อมั่นตามหลักคำสอนของศาสนาที่เธอเคยใช้กักกันตัวเองเอาไว้จากความต้องการเหล่านี้แล้ว ทว่าส่วนหนึ่งเธอกลับอดคิดไม่ได้ว่า อาจมีเพียงแค่ลูซิเฟอร์ ลูซิเฟอร์เพียงเท่านั้นที่จะสามารถทำให้เธอปล่อยกายปล่อยใจให้รู้สึกอะไรแบบนี้ได้ ลูซิเฟอร์...ที่นำมาซึ่งแสงสว่างและทำให้เธอได้รู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของตัวเธอเอง หรือแม้แต่ความเป็นหญิงสาว ที่มีความต้องการในรูปแบบที่ไม่ได้แตกต่างออกไปจากหญิงสาวคนอื่นๆ
“เราควรจะไปต่อที่บ้านของฉัน หรือ...” หญิงสาวรีบพูดเมื่อมีโอกาส “หรือที่ของคุณดีคะ”
ชายหนุ่มหยุดชะงักทั้งที่ปลายลิ้นของเขาแตะอยู่บริเวณต้นคอของหญิงสาว ขณะที่เธอขยับแก้มแนบกับศีรษะของเขาพลางดันกายเบียดเข้าใกล้เขามากขึ้นพร้อมกับเสียงครางอันแสดงถึงความพึงพอใจ
“ถ้าคุณไม่เหนื่อยจนเกินไป”
“คุณพูดอย่างกับว่าเพิ่งพาฉันไปวิ่งมาราธอนมา”
เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาหญิงสาวที่กำลังหัวเราะคิกคักท่าทางเป็นสุข ไม่สามารถเอ่ยออกไปได้ว่าหัวใจของเขานั้นกำลังเต้นรัวเหมือนกับไปวิ่งมาราธอนมาหลายรอบ โดยที่เขาเองก็เพิ่งจะรู้ตัวเมื่อตอนที่ต้องหยุดมองเธออยู่เฉยๆ เพียงอย่างเดียว
“ที่ของคุณ” หญิงสาวขยับเข้าหาริมฝีปากของเขาอีกรอบ โดยที่ดวงตาคู่นั้นติดจะส่อแววซุกซนขึ้นมาเล็กน้อย “หรือว่าที่ของฉันดีคะ”
“ผมรู้จักที่อื่นที่ดีกว่านั้น” เขาจูบริมฝีปากเธออย่างรวบรัด และจำเป็นต้องผละหน้าออกทันที หากแต่ยังประคองเธอไว้อย่างถนอม ดวงตาของจัสติน่าส่อแววกระตือรือร้น บ่งบอกให้เขารับรู้ว่าเธอไม่ติดใจในการกระทำของเขาเลย ทว่ามันยิ่งทำให้เขารู้สึกลำบากใจมากขึ้นไปอีก เพราะมันยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนจะขาดการควบคุมมากขึ้นไปทุกที
“ที่ไหนคะ”
“อนุญาตให้ผมพาคุณไปนะ”
“พาฉันไปสิคะ”
ลูซิเฟอร์ยิ้มรับ ประสานนิ้วของตนกับนิ้วทั้งห้าของหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า นับเป็นเรื่องน่าประหลาด ที่เขารู้สึกสงบมากขึ้นทุกย่างก้าวที่เขาพาเธอเดินออกห่างจากฝูงชนมา ไม่มีความรู้สึกต้องการเธออย่างลึกซึ้งจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป หากมีเพียงแต่ความรู้สึกสงบภายในใจเพียงเท่านั้น
Pergola and Hill Gardens
“ฉันพอจะรู้แล้ว ว่าคุณจะพาฉันไปที่ไหน” ดวงตาจัสติน่าทอประกายขณะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังแทรกนิ้วทั้งห้าของเขาเข้ามาระหว่างนิ้วทั้งห้าของเธอทันทีที่พวกเขาลงจากรถ เขาก้าวเข้ามาเดินในระดับเดียวกันกับหญิงสาว ชะลอฝีเท้าให้เข้ากับจังหวะการเดินของเธอ
“คุณเคยมาที่นี่”
“เมื่อนานมาแล้วค่ะ มากับครอบครัวของฉัน”
“ผมหวังว่าคุณจะไม่เบื่อนะ”
“ไม่ค่ะ ฉันเกือบจะนึกเสียใจมากกว่าที่ลืมมันไป”
“เกือบจะนึกเสียใจ” ชายหนุ่มทวนแผ่วเบา ขณะทอดมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังยิ้มให้กับทางเดิน จนกระทั่งเธอรู้ตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขาแทน
“แค่เกือบจะนึกเสียใจค่ะ แต่ฉันไม่เสียใจเลย” ลูซิเฟอร์เองก็อยากจะรู้เหตุผลว่าเพราะอะไร ทว่ามีอย่างอื่นเบี่ยงเบนความสนใจเขามากขึ้นมากะทันหันและนั่นก็คือจัสติน่า เขารู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานรอบตัวเธอทุกครั้งที่เธอทอดมองเขา หรือแม้แต่ตอนที่เขาทอดมองเธอ
พวกเขาเดินเรียบกำแพงไปจนถึงทางแยกที่เรียบไปกับป่า ทั้งสองเลี้ยวขวาไปตามถนนเส้นเล็ก จนกระทั่งเห็นบ้านที่ตั้งอยู่ตรงอยู่กึ่งกลางระหว่างทางแยกซ้ายขวา จัสติน่าเดินกึ่งวิ่งนำหน้าชายหนุ่มไปจนกระทั่งเห็นทางเข้า เธอหันกลับมามองเขาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างราวกับดอกทานตะวันยามได้รับแสงแดด ชายหนุ่มยิ้มบางออกมาขณะทอดมองดูร่างหญิงสาวผ่านประตูเข้าไปก่อนเขา เมื่อเขามาถึงก็เห็นเธอกำลังก้มหน้ามองดูดอกไม้น้อยใหญ่ พยายามสูดดมต้นลาเวนเดอร์พลางหลับตาพริ้ม เรือนผมสีน้ำตาลที่ลูซิเฟอร์คาดการเอาว่าเธอน่าจะรวบเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้ตอนเข้ามาในสวน ดูเหมือนจะไม่อยากถูกผูกมัดเอาไว้สักเท่าไร มันหลุดลุ่ย จนยางมัดผมเกือบจะร่วงลงบนพื้นอยู่แล้วหากเขาไม่เดินเข้าไปคว้าเก็บเอาไว้ก่อน
“ขอบคุณค่ะ ฉันรีบรัดแบบลวกๆ ไปหน่อย มันเลยไม่อยู่” หญิงสาวรับยางมัดผมไปจากชายหนุ่ม ตั้งท่าจะรวบผมขึ้นอีกรอบแต่ถูกยั้งมือเอาไว้ อีกทั้งร่างสูงยังเข้าประชิดตัวเธอ มือใหญ่ค่อยๆ แกะยางมัดผมออกจากมือหญิงสาวแล้วยัดมันลงไปในกระเป๋ากางเกงของเขาเอง
“ณ ตอนนี้ ผมชอบให้คุณปล่อยผมมากกว่า” เขากระซิบกับริมฝีปากของหญิงสาว จัสติน่าหลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้ม รอคอยสัมผัสจากริมฝีปากของเขาบนปากของตน แต่กลับรู้สึกได้ถึงปลายนิ้วของชายหนุ่มที่ปัดเส้นผมออกจากใบหน้าและลำคอของเธอ ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสอ่อนที่ขมับด้านซ้าย ไล้ต่ำลงมาจนถึงซอกคอ
“แล้วตอนไหนอีกบ้างคะ ที่คุณอยากให้ฉันปล่อยผมน่ะ”
“...” ลูซิเฟอร์นิ่งไปชั่วขณะ ประทับจูบครั้งสุดท้ายลงบนแก้มของจัสติน่าก่อนจะสบตากับเธอพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พอตัว
“คุณคิดอะไรอยู่คะลูซิเฟอร์”
“ผมอยากพาคุณไปต่อแล้วละ”
“ฉันยังไม่ได้คำตอบเลยนะคะ”
“ผมเกรงว่าคำตอบของผมอาจจะไม่น่าฟังเท่าไรนะ” ชายหนุ่มกล่าวแล้วจูงมือหญิงสาวลอดใต้สะพานที่ถูกสร้างคร่อมสวนด้านล่างตรงจุดที่พวกเขาอยู่ แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ภายใต้ซุ้มดอกไม้ที่เป็นทางยาวไปอีกสองถึงสามร้อยเมตร
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นิยายของไรท์อ่านตั้งแต่อยู่มอต้น ลูคัสคลีฟ... บลาๆๆๆ สนุกมากค่ะ ตอนนี้เรียนจบทำงานแล้ว 5555555+
มาปลุกความหื่นในตัวคุณกันเถอะ
โอ้ย หวานและชวนคิด จะไปต่อไหนกันดี >////<
เหมือนกำลังย้อนอดีตเลย นึกถึงสมัยก่อน แฮ่ 555555555555555555
สักวันจัสติน่าต้องรู้สินะว่าลูซิเฟอร์มีกิ๊ก TT