ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Catch The STAR✩ ชมรมรักกระชากดาวป๊อป

    ลำดับตอนที่ #4 : ✩ 2 ✩ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48
      8
      15 ก.ย. 62






    ✩ ✩ 
    แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว



     

     

     

    Komu Komu : พรุ่งนี้ขอนัดประชุมหลังเลิกเรียนนะ แค่15นาที มากันด้วยล่ะ

     

    Ayamieee♡ : รับทราบค่า ยูสึกาโนะคุง~ จะรีบไปเลยค่า

     

    Komu Komu : อือ

     

    (Read 19)

     

     

    แหวะ~ รุ่นพี่เขาบอกสมาชิกในชมรม ไม่ได้บอกรองประธานอย่างเธอสักหน่อย

     

    ฉันกลอกตาเบ้ปากใส่โทรศัพท์ บนหน้าจอเป็นแชทไลน์กลุ่มชมรมที่มีการจีบกันอย่างน่าพะอืดพะอมของใครบางคน

     

    ดูสิ! คนในชมรมยังไม่มีใครตอบเขาเลย มีแต่ยัยนี่เท่านั้นแหละ สร้างมาคุยกันสองคนหรือไง  

     

    แล้วชื่อไลน์นี่อะไรกัน..โคมุ โคมุุ..แอ๊บแบ๊วซะจริง-0-

     

    แต่ก็..ดูขัดกับคาแรกเตอร์เขาอย่างพิลึกนะ คนอย่างรุ่นพี่ยูสึกาโนะเนี่ยนะจะตั้งชื่อไลน์แบบนี้

     

    ติ๊ง~

     

    มีข้อความใหม่จากไลน์แจ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง ฉันกดเปิดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นคาโอริ

     

     

    Ma-a-mi : ไป D-2o กานนนนนนน

     

    ชีวิตยัยนี่นี่ไม่พ้นเรื่องปาร์ตี้ยามราตรีจริงๆใช่ไหม- -;

     

    Otomechan : ใครบ้าง

     

    Ma-a-mi : ฉัน เธอ ฉัน เธอ ฉัน เธอ

     

    Otomechan : ไม่ไป-3-

    Otomechan : ลากฮัจจี้มาได้แล้วจะลุกไปแต่งตัวทันที

     

    Ma-a-mi : ถ้างั้นเธอนอนอยู่แบบนั้นแหละ

     

    Otomechan : ok~

     

    Ma-a-mi : ลุก! มีแฮมินด้วยอีกคนนึง ไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้ ขอเริ่ดๆ เจอกัน2ทุ่ม

     

     

    ฉันส่ายหัวให้กับเพื่อนคนนี้ สุดท้ายก็ต้องคะยั้นคะยอให้ฉันไปจนได้สินะ

     

    เอาเถอะ วันนี้วันอาทิตย์ พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ ออกไปสูดอากาศสดชื่น(ในบาร์)สักสองสามชั่วโมงคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

     

    ไปแต่งตัวดีกว่า~

     

     

     

     


    8.08 PM

    D-2o

     

    " โอโตเมะ ทางนี้~ " ฉันเดินลงจากรถโดยสารด้วยท่าทางทุลักทุเลสุดๆ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็วันนี้ฉันหยิบกระโปรงหนังเข้ารูปตัวสั้นมาแมตช์กับเสื้อเกาะอกสีเข้ม แถมยังใส่ส้นสูง 3 นิ้วคู่เก่งอีก นานๆทีจะได้แต่งตัวแบบนี้ล่ะนะ ถ้าแม่ฉันอยู่ล่ะก็มีหวังได้โดนเฉดหัวกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนไปร้านเหล้าแน่ๆToT

     

    แต่ก็นั่นแหละนะ ชุดและรองเท้าแบบนี้เวลาจะเดินลงรถโดยสารทีจะเหมือนคนไม่สมประกอบหน่อยๆ- -;;

     

    " โอ้โหหหO_o วันนี้ก็เอาเริ่ดๆตามที่ฉันบอกจริงๆซะด้วย "

     

    " แบบนี้คือหวังจะจิ้มหนุ่มๆใส่กระเป๋ากลับบ้านสักกี่โหลดี>_< "

     

    " พอเลย " ฉันยกมือห้ามปรามก่อนที่ยัยสองคนนี้จะพูดอะไรเพ้อเจ้อไปมากกว่า " แค่มานั่งเอาบรรยากาศย่ะ "

     

    " อ๋อออ ลืมไป~ " คาโอริยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะพูดเสียงเบาๆแต่เน้นๆว่า " ต้องจิ้มประธานชมรมแค่คนเดียวนี่เนอะ "

     

    " โอ๊ยยยย นั่นยิ่งแล้วใหญ่เลย ไม่มีทางอะ "  ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง เห็นไหมยัยพวกนี้ไม่ทันไรก็เอามาล้อซะแล้ว ฉันไม่ชอบเขาจะตายไป

     

     

     

    จากนั้นก็พากันเดินเข้ามาในร้าน ร้านนี้เป็นร้านเหล้าไม่ใช่คลับที่เปิดเพลงตื๊ดๆสะเทือนสมอง ถ้าอยากมานั่งเอาบรรยากาศยามค่ำคืนชิลๆก็ต้องที่นี่ล่ะ พวกเรามานั่งที่โต๊ะนึงก่อนจะสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาคนละอย่าง

     

              อะไรกันโอโตเมะ วันนี้กินโซจูพีชเหรอ แฮมินพูดพลางทำหน้าตกใจอย่างแรง เมื่อได้ยินว่าฉันสั่งโซจูพีชมา

     

              ก็บอกแล้วไงว่าอยากมานั่งเอาบรรยากาศเฉยๆ ไม่อยากเมาหัวทิ่มย่ะ

     

              งั้นก็ดี วันนี้จะได้มาเก็บศพฉันกับคาโอริ เนอะๆ เธอทำท่าทางดีใจก่อนจะหันไปแปะมือกับคาโอริด้วยความแฮปปี้ที่วันนี้จะมีคนเก็บศพพวกเธอแล้ว-0-;;

     

              ยัยพวกนี้นี่!

     

              อ๊ะ! มาแล้วๆ อาริงาโตะ~ ได้เครื่องดื่มแล้ว ยัยสองคนนั้นก็ยกกระดกดื่มทันที ประหนึ่งว่าชาตินี้จะไม่ได้กินเหล้าอีกแล้ว

     

              อ๊า~ ร้อนซู่ซ่า รสชาติที่คิดถึงToT

     

              เพิ่งจะกินไปเมื่ออาทิตย์ก่อน คิดถึงอีกแล้วเหรอ-o-;

     

              ของแบบนี้กินทุกวันก็ยังไหว ยัยคาโอริส่ายนิ้วไปมา แล้วก็กระดกแก้วขึ้นอีกอย่างไม่ยั้งมือ

     

     

     

              2 ชั่วโมงผ่านไป

     

              ปัญหาตกมาถึงฉันแล้วจ้า..คลาดสายตาไปแค่แปปเดียว ยัยสองคนนั้นหายไปไหนก็ไม่รู้ เมื่อกี้ยังเห็นเต้นโยกย้ายส่ายเอวกันอยู่แถวนี้นี่นา ฉันแค่ก้มลงดูโทรศัพท์นิดเดียวเองนะ เป็นเด็กๆกันหรือไงเนี่ย ยิ่งเมากันแล้วด้วย

     

              ฉันลุกขึ้นเตรียมออกไปตามหาเพื่อนว่าไปแจมอยู่กับโต๊ะไหนหรือเปล่า เอ..ไปทางไหนก่อนดีนะ คนเยอะใข่เล่นเลยนะเนี่ย-_-

     

              ฉันเดินไปเรื่อยๆผ่านผู้คนที่เดินกันพลุกพล่าน มีดนตรีสดเล่นบนเวทีด้วย หรือว่าสองคนนั้นจะไปยืนฟังเพลงกันนะ..แต่ไม่น่าใช่

     

              พลั่ก!

     

              จู่ๆก็มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาชนฉันจนแทบล้ม แต่ยังดีที่ว่าเขาคว้าแขนฉันเอาไว้ได้ทันก่อนจะหน้าคะมำลงไปกับพื้น

             

              แต่ว่าชุดฉันเปียก-0- กรี๊ดดดด เสื้อเกาะอกหนังของฉันจะเปียกไม่ได้นะ สงสัยจะเป็นเหล้าจากแก้วเขาที่หกใส่ฉันตอนชนแน่เลย

     

              โอ๊ะ! ขอโทษที ฉันมองไม่เห็นเธอ ชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับฉันโค้งขอโทษอย่างสุภาพด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด

     

              ไม่เป็นไรค่ะ ฉันตอบอย่างสุขุม เขาคนนั้นสังเกตเห็นว่าเสื้อฉันเปียก เขาจึงโค้งลงอีกครั้ง

     

              ข..ขอโทษ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมาเช็ดให้นะ

     

              ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันกลับไปเอาทิชชู่ที่โต๊ะมาเช็ดเอง

     

              ไม่ได้นะ เดี๋ยวฉันไปหามาให้

     

              ทำอะไรอยู่วะ หาตั้งนาน..ที่แท้ก็มาเต๊าะสาวอยู่ตรงนี้นี่เอง บุคคลที่3 โผล่พรวดมาทางด้านหลังของผู้ชายคนนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว เดี๋ยวก่อนนะ..นี่เขา..

     

              เต๊าะบ้าอะไรล่ะ ฉันเดินชนเขาเข้าเต็มๆเลยเนี่ย

     

              เอ๊ะ? นี่เธอ.. คนคนนั้นเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน เขาก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมองให้ชัดๆ แล้วเรียกฉันว่า ยัยดาวโรงเรียนคนนั้น

     

              รุ่นพี่.. ฉันเผลอเรียกเขาออกไปแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยชื่อ ก็นึกขึ้นมาได้ว่าฉันไม่อยากคุยกับเขาสักหน่อย

     

              มาทำอะไรที่นี่ เขามองหน้าฉันอย่างตั้งคำถาม ผู้ชายที่เดินชนฉันมองฉันที  มองรุ่นพี่ที ก่อนที่จะโพล่งถามออกมา

     

              “ นี่มันอะไรกัน นายรู้จักเธอคนนี้เหรอ

     

              รุ่นน้องในชมรมฉัน รุ่นพี่ยูสึกาโนะตอบนิ่งก่อนที่จะสะบัดมือไล่เพื่อน นายกลับไปที่โต๊ะก่อนไป

     

              อ้าว ไหงงั้นวะ ฉันทำเสื้อเธอเปียกนะ ยังไม่ได้หาอะไรมาเช็ดเลย

     

              เดี๋ยวฉันจัดการเองน่า

     

              อะไรของแกวะ..เออๆ ยังไงก็ขอโทษด้วยแล้วกันนะสาวน้อย คนคนนั้นกลับไปที่โต๊ะตามคำของรุ่นพี่อย่างว่าง่าย เขาโค้งขอโทษฉันเป็นรอบที่สาม ก่อนที่จะเดินจากไป ทิ้งฉันกับรุ่นพี่เอาไว้สองคนอย่างโหวงเหวง

     

              เดี๋ยวนะ..ทำไมเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ-o-;

     

              สรุปว่ายังไง เขาถามหลังจากที่เพื่อนของเขาจากไปได้ประมาณห้าวินาที มาทำอะไรในที่แบบนี้

     

              ก็เหตุผลเดียวกับรุ่นพี่มั้งคะ ฉันพูดอย่างไม่สบอารมณ์ เขามายุ่งอะไรกับฉันเนี่ย ทำไมต้องถามด้วยสีหน้าที่เหมือนพี่ชายที่คอยดุน้องสาวเวลาที่แต่งตัวโป๊ด้วย- -//

     

              เป็นดาวโรงเรียนมาที่แบบนี้ได้หรือไง รุ่นพี่ยิ้มเยาะเมื่อฉันตอบเขาแบบเด็กดื้อ ที่เขาถามน่ะ จริงๆก็ไม่ได้หรอก ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้ถึงหูอาจารย์ที่โรงเรียนล่ะก็..ฉันจะโดนปลดจากตำแหน่งทันที เป็นดาวโรงเรียนจะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างให้กับนักเรียนคนอื่นๆ ตลกไหมล่ะ ตำแหน่งที่ฉันไม่ได้เลือกแต่กลับห้ามนั่นนี่เต็มไปหมด

     

              และฉันก็ไม่สนใจหรอกนะว่าจะมีใครไปบอกอาจารย์ไหมว่าฉันมาในที่แบบนี้ อย่างมากก็แค่โดนปลดจากตำแหน่ง แล้วไงล่ะใครสน ไม่ได้อยากเป็นอยู่แล้วย่ะ-()-

     

              “ ฉันไม่สนใจกฎบ้าๆนั่นหรอก

     

              งั้นเหรอ คนตัวสูงยิ้มกวนๆ แอบแม่มาสินะ

     

              เอ๊ะ..แล้วเกี่ยวอะไรกับรุ่นพี่คะ ฉันขึ้นเสียงสูงใส่คนจุ้นจ้านที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ได้ ไม่ได้แอบมาสักหน่อย ก็แค่ออกมาตอนที่เขาไม่อยู่

     

              มันต่างจากคำว่าแอบตรงไหนล่ะนั่น

     

              ไม่รู้ค่ะ ฉันสะบัดหน้าหนี

     

              กลับได้แล้วมั้ง

     

              ไม่ ฉันหันหน้ากลับมาหาคนที่มาบอกให้ฉันกลับบ้านอย่างดื้อๆ

     

              พรุ่งนี้ฉันนัดประชุมหลังเลิกเรียนนะ จะตื่นไหวเหรอ

     

              คนนัดเองก็เหมือนกันนี่คะ

     

              ฉันไม่ได้ดื่มเลยสักจิบ เขาพูดเสร็จก็พ่นลมหายใจออกทางจมูกเบาๆ แล้วเอานิ้วมาจิ้มหน้าผากฉัน ไม่เหมือนเธอหรอก กลิ่นโซจูรสพีชฟุ้งมาถึงนี่

     

              อ..อะไร แค่โซจูพีช ก็น้ำผลไม้นั่นแหละ

             

              “ แต่มันก็มีแอลกอฮอล์นี่นา เขาหัวเราะที่ฉันอ้างว่านั่นเป็นน้ำผลไม้แบบไม่มีเหตุผล เถียงไม่ได้แล้วยังจะเถียงอีก

     

              โอ๊ย ไม่พูดด้วยแล้ว พอที ทำไมฉันต้องมายืนคุยกับเขาตั้งสิบประโยคด้วยเนี่ย-0-**

     

              คิดแบบนั้นแล้วก็กำลังจะเดินหนี แต่แล้วก็มีเสียงดังโครม ทำให้ฉันต้องหยุดชะงักแล้วหันไปทางทิศต้นตอของเสียง

             

              ร่างผู้หญิงหุ่นเพรียวคนนึงล้มตึงอยู่ที่พื้น คนรอบๆก็ยืนอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ว่า..เดี๋ยวนะ..นั่นมันคาโอริไม่ใช่เหรอ ลงไปทำอะไรที่พื้นน่ะ! -[]-

     

              พอนึกได้ว่าเป็นเพื่อนตัวเอง ฉันก็รีบวิ่งไปทางนั้นอย่างไม่รอช้าแล้วช่วยพยุงยัยนั่นที่ตอนนี้กลิ่นเหล้าหึ่งอย่างกับโรงงานผลิตเหล้า คาโอริพูดด้วยน้ำเสียงยืดย้วย

     

              อ..โอยยย ฉันง่วงแล้วก็..เจ็บก้นสุดๆ~

     

              สาวสวย~ วิ่งหนีพวกฉันทำไมล่ะ หนุ่มหน้าย่นขี้เมาที่เพิ่งวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุด้วยท่าทางที่เมาแป๋ไม่แพ้เพื่อนฉันเลย

     

              พวกคุณน่ะ ไปเลยน้า~ หน้าย่นเป็นหมาปั๊กแล้วยังจามายุ่งกับพวกช้านอีก~ คนที่วิ่งตามมาอีกรายคือแฮมิน ยัยนั่นก็พอๆกันเลย พูดแทบไม่เป็นประโยคแล้ว-0-**

     

              กล้าว่าโอปป้าแบบนี้เหรอจ๊ะ แม่สาวเกาหลี~

     

              โอ๊ย พอได้แล้ว พวกคุณกลับไปเลยไป ฉันที่นั่งฟังบทสนทนาของคนเมาพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ถ้าทนฟังต่อทั้งคืนก็ไม่จบหรอกมั้ง

             

              ว้าววว~ สาวน้อยคนนี้ก็โคตรสวยเลย สนใจจะไปต่อกับพี่ๆไหมจ๊ะ เอิ่ม..ยังอีกนะ ยังไม่สำนึกอีกไอ้แก่นี่

     

              พอได้แล้วมั้งคุณ พวกเธอเด็กขนาดนี้ไม่อายบ้างเหรอรุ่นพี่ยูสึกาโนะโผล่มาจากไหนไม่รู้ คิดว่ากลับบ้านไปนอนแล้วนะเนี่ย  เขาเดินมายืนข้างฉันที่กำลังพยุงคาโอริอยู่ แก๊งขี้เมาก็ทำหน้าเหวอกันใหญ่

     

              อะไรวะ โคตรหล่อเลยลูกเพ่~ พวกผมขอถอยทัพก่อนล่ะคร้าบ พูดจบก็กอดคอกันเดินกลับไปอย่างง่ายดาย อะไรกันเนี่ย-0-// จู่ๆจะยอมก็ยอมกันซะดื้อๆแบบนี้เหรอ

     

              ฉันหันไปทางรุ่นพี่ก็รู้แล้วว่าทำไมพวกนั้นถึงยอมถอยไปง่ายๆแบบนั้น เพราะตอนนี้เขาหน้าถมึงทึงเหมือนสิงโต สายตาแข็งกร้าวที่ดูน่าเกรงขามเหมือนกับตอนที่อยู่ที่ห้องชมรม มิน่าล่ะพวกนั้นถึงหัวหดกันหมด

     

              อ..อ้าววววว คนนี้นี่คุ้นจริงๆ เหมือนจะเป็นรุ่นพี่.. ~ แฮมินเดินโซซัดโซเซมาทางนี้แล้วจ้องหน้ารุ่นพี่อย่างละเอียด

     

              เพื่อนเธอเมาขนาดนี้เชียว เขายิ้มแห้งๆเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนฉันทั้งสองที่เมาจนไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว ยัยคาโอริก็หลับคาไหล่ของฉันแล้วเนี่ย ตัวก็หนักชะมัด หุ่นก็ดีแต่ทำไมหนักแบบนี้เนี่ย

     

              ใครเมากันค้า! ไม่มาวววว แฮมินที่ยังสื่อสารได้อยู่ แย้งรุ่นพี่ด้วยน้ำเสียงยานๆ

     

              เดี๋ยวฉันไปส่ง

     

              อะไรนะคะ-0-** ฉันทำปากหวอ เมื่อกี้เขาบอกว่าจะไปส่งงั้นเหรอ บ้าเรอะ! ใครจะให้คนอย่างเขาไปส่งเพื่อนฉันกัน ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจัดการเอง

     

              แล้วเธอคิดว่าจะหามเพื่อนไปส่งที่บ้านเองคนเดียวไหวเหรอ เขาถอนหายใจให้กับความหัวดื้อของฉัน ก็จริงอยู่ที่ฉันคงทำไม่ไหว แต่ใครจะกล้าปล่อยเพื่อนให้ไปกับผู้ชายตัวสูงๆแบบเขาล่ะ ไม่ได้รู้จักมักจี่กันด้วย

     

              ไม่ไหว แต่ก็ไม่ให้กลับกับรุ่นพี่

     

              เธอนี่มันหัวดื้อจริงๆ เขาเดินมาเคาะหัวฉันดังก๊อก ฉันไม่ใช่พวกโรคจิตสักหน่อย

     

              ถ้างั้นต้องให้ฉันไปด้วย ฉันยื่นข้อเสนอขึ้นมา รุ่นพี่ยูสึกาโนะก็หลุดขำออกมาซะอย่างงั้น

     

              ฮ่ะๆๆ นี่เธอคิดว่าฉันจะไปส่งแค่เพื่อนเธอหรือไง เขาพูด ไม่ได้ใจดำขนาดนั้นนะ

     

              ที่ฉันขอไปด้วยเพราะว่าเป็นห่วงเพื่อนหรอกน่า

     

              ยังไงก็เอาเถอะ เขาถอนหายใจก่อนจะเดินมาช่วยพยุงแฮมินอีกคน ไปได้แล้ว

     

     

     

              หลังจากนั้นเขาก็พาพวกฉันขึ้นรถส่วนตัวของเขาแบบทุลักทุเล แถมคาโอริยังไปอ้วกใส่ล้อรถรุ่นพี่เขาอีก ฉันเกลียดเพื่อนตัวเองก็วันนี้นี่แหละT^T จากนั้นเขาก็ขับรถไปส่งคาโอริก่อนเพราะเธอดูท่าจะอาการหนักสุด ตามด้วยแฮมิน แล้วก็..

     

              บ๊ายบายยย ขอบคุณน้าค้ารุ่นพี่~ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลยค่า ยัยแฮมินตะโกนลั่นพลางกระโดดโบกมือตามรถมาเหมือนคนบ้า รุ่นพี่หัวเราะนิดหน่อยก่อนจะขับรถออกมา

     

              เพื่อนเธอนี่ตลกดีนะ ฮ่าๆ เขาหัวเราะก่อนที่จะถามต่อ ต่อไปก็บ้านเธอสินะ อยู่ตรงไหนล่ะ

     

              ที่ซอยxx แถวโรงเรียนน่ะค่ะ

     

              ใกล้โรงเรียนมากเลยนี่ แบบนี้ก็เดินมาเรียนทุกวันสินะ

     

              ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ ฉันตอบเนือยๆ ทำไมต้องเกิดสถานการณ์บ้าๆที่ทำให้ฉันต้องมานั่งอยู่บนรถของคนที่ทำให้ฉันอายด้วยล่ะเนี่ย- -; พระเจ้าต้องเกลียดฉันแหงๆ

     

              ไปเที่ยวที่แบบนั้นบ่อยไหม รุ่นพี่ยูสึกาโนะถามถึงเรื่องที่ฉันไปเที่ยวร้านเหล้าอีกครั้ง

     

              ก็อาทิตย์ละครั้ง ถ้าเพื่อนชวนและถ้าว่าง

     

              ไม่คิดเลยว่าดาวโรงเรียนจะเป็นสาวเที่ยวแบบนี้นะ

     

              เลิกเรียกฉันว่าดาวโรงเรียนเถอะค่ะ- -** คำก็ดาวโรงเรียน สองคำก็ดาวโรงเรียน รู้ไหม..ตั้งแต่รู้จักกับเขา เขายังไม่เรียกชื่อฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เชื่อก็เลื่อนขึ้นไปดูได้เลย

     

              ทำไมล่ะ นั่นมันตำแหน่งที่ใครๆก็ใฝฝันอยากจะเป็นสักครั้งในวัยมัธยมเลยนะ

     

              ก็ไม่ใช่ฉันแล้วคนนึง

     

              เพราะ?

     

              น่าเบื่อออกนี่คะ ฉันพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายด้วย

     

              ฉันแอบแซะรุ่นพี่ไปหนึ่งที หึ! วันนั้นบังอาจหาว่าฉันเป็นต้นเหตุให้พวกผู้ชายเอะอะเสียงดัง ฉันพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ทำให้รุ่นพี่ยูสึกาโนะถึงกับชะลอรถแล้วหันมามองหน้าฉัน

     

              พาดพิงกันเหรอเนี่ย พูดจบก็เสยผมสีดำขลับขึ้น โทษที

     

              “ :( 

     

              ถึงแล้ว คุยกับคนอย่างเขาจนเพลิน จนตอนนี้ก็ขับรถมาจอดหน้าบ้านฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่เขารู้ได้ไงว่าบ้านฉันหลังไหน-0-

     

              ร..รู้ได้ยังไงคะว่าหลังนี้

     

              ไปสืบมา :)

     

              ห๊ะ-o- ฉันปากหวอเท่าไข่ห่าน แต่เมื่อเขาเห็นว่าฉันทำหน้าตกใจแค่ไหน ก็หัวเราะเสียงดัง

     

              ฮ่าๆๆ เธอนี่ต๊องจริงๆ

     

              ...

     

              ป้ายใหญ่จนแทบจะทิ่มตาอยู่แล้ว เขาหัวเราะอย่างสดใสแล้วจึงชี้ไปที่ป้ายอันโตหน้าบ้านฉันที่สลักไว้ว่า ยานากิสะ

     

               ขอบคุณค่ะที่มาส่ง  ฉันทำหน้านิ่งแล้วพูดขอบคุณแบบเมินๆใส่คนที่หัวเราะอยู่นั่นแหละ อารมณ์ดีมากนักหรือไง หรือว่ามีความสุขที่ฉันหน้าแตกก็ไม่รู้-3- “ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ”

     

              ฉันเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถ แต่ก่อนจะปิดประตูเขาก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

     

    ตื่นให้ไหวล่ะ ยัยเด็กขี้เมา

     

              เอ๊ะ! ฉันขมวดคิ้วหน้ามุ่ยใส่คนกวนประสาท บ้าเอ๊ย เขาจะทำให้ฉันหงุดหงิดไปถึงไหนเนี่ย

     

              ฮ่าๆ ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว

     

              “ :( หันหน้าหนีคนที่ชอบหัวเราะเยาะฉันอยู่เรื่อย ก่อนที่เขาจะพูดประโยคที่ทำให้ฉันต้องหันขวับกลับไปแทบจะเดี๋ยวนั้น

     

              “ ฝันดียานากิสะจัง  รุ่นพี่ยิ้มแล้วเอื้อมมือมาปิดประตูที่ฉันเปิดค้างไว้ แล้วขับรถออกไปทันที ปล่อยให้ฉันยืนมึนอยู่หน้าบ้านคนเดียว

     

              ยานากิสะจัง..

     

              อาจจะเพราะฉันชินกับการถูกเรียกว่า โอโตเมะ(จัง) ’ ซึ่งเป็นชื่อจริง ฉันเปรียบเหมือนบุคคลสาธารณะของโรงเรียนเพราะว่าเป็นดาว ทำให้คนอื่นสามารถเรียกฉันด้วยชื่อจริงได้โดยที่ไม่ถามความพอใจของฉันสักคำ

     

              แต่ฉันก็ชินไปกับมัน จนบางทีก็เผลอบอกคนที่เพิ่งจะรู้จักกัน(เช่น อุซางิซัง)ว่าให้เรียกฉันว่า โอโตเมะ เถอะ

     

              พอมีคนมาเรียกนามสกุลแบบนี้ก็รู้สึกดีแปลกๆเหมือนกันแฮะ เหมือนกับว่ากำลังโดนให้เกียรติอยู่อะไรแบบนี้..

     

              อื้อออออ..คิดอะไรไร้สาระอีกแล้ว เข้าบ้านนอนดีกว่า เดี๋ยวตื่นไม่ไหว>-<

     

     

     

             


              วันต่อมา

            ห้องชมรมเพาะปลูก

     

     

              ฉันพยายามจะเข้าห้องชมรมช้าๆ เพราะไม่อยากมานั่งหัวโด่ให้ไอ้พวกแมลงวันมายุกยิก หวังว่าตอนเดินไปถึงแล้วรุ่นพี่จะมาถึงห้องแล้วน่ะนะ จะได้รีบๆประชุมรีบๆปล่อยกลับบ้าน วันนี้ฉันจะซื้อชีสเค้กไปฝากอุซางิ!

     

              ทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้าห้องขมรมมา ก็พบว่าความหวังของฉันเป็นจริง ประธานและรองประธานมาถึงแล้ว แต่รองประธานนั่นท่าทางจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นะ ดูสิ ทำหน้าตากินเลือดกินเนื้อเชียว-_-;;

             

              สงสัยจะได้รบกันอีกแล้ว..

     

              ประธานนัดกี่โมง ทำไมเพิ่งมา โทอิกะพูดด้วยน้ำเสียงที่ตั้งใจจะข่มให้ฉันกลัว เดินสวยอยู่หรือไง

     

              ค่ะ ฉันตอบนิ่งๆดูท่าเหมือนจะว่าง่าย แต่เปล่าเลย เมื่อกี้ยัยนั่นถามว่า เดินสวยอยู่หรือไง ฉันก็เลยตอบ ค่ะ ไป ก็ใช่น่ะสิ ฉันเดินสวยอยู่ สวยกว่าเธอด้วย แบร่~

     

              “ มานั่งเลย กำลังจะเริ่มประชุมพอดี รุ่นพี่ยูสึกาโนะพูดขัดขึ้นมา คงไม่อยากให้ทะเลาะกันล่ะมั้ง

     

              ฉันเดินไปนั่งตรงที่ว่างอย่างเซ็งๆ นี่ต้องเจอคนแบบโทอิกะจนจบปีการศึกษาเลยเหรอเนี่ย ฉันคงประสาทกินตายก่อนล่ะ ยัยนั่นเกลียดอะไรฉันนักหนา ถึงจ้องจะกัดฉันเหมือนหมาทุกที หรือฉันไปฆ่าหมาเธอตาย-0-;;

     

              เราจะเริ่มปลูกดอกไม้กันสุดสัปดาห์นี้นะ ขอให้ทุกคนเตรียมดอกไม้ที่จะปลูกมาด้วย เอาเป็นเมล็ดพันธุ์นะ ไม่ใช่หอบมาทั้งดอกทั้งราก ดีนะที่เขาพูดดักเอาไว้ก่อน ไม่งั้นฉันได้ยกมาทั้งต้นแน่

     

              เอาดอกไม้ที่ชอบด้วยล่ะ เพราะจะต้องดูแลมันจนโตและหมดฤดูของมัน โทอิกะพูดเสริม เอ..ดอกไม้ที่ชอบ ฉันไม่ค่อยรู้จักเรื่องดอกไม้เท่าไหร่หรอก แต่ว่าจะปลูกทั้งทีก็ต้องเอาดอกที่สวยๆ มีความหมายดีๆสิ

     

              ฉันหยิบมือถือขึ้นมาเสิร์ชหาดอกไม้ที่ความหมายดีๆ อืม..มีหลายดอกเลยแฮะ

     

              ดอกคิคุ(ดอกเบญจมาศ/Chrysanthemum) มีหลายสีและมีความหมายแตกต่างกันออกไป เช่น สีแดงสื่อถึงความรัก สีเหลืองสื่อถึงความโชคดี สีขาวสื่อถึงความซื่อสัตย์

     

              เห..ดอกคิคุก็น่าสนใจนะ มีหลายสีแถมยังความหมายดีอีกด้วย ถ้าได้ปลูกล่ะก็จะได้ตั้งตารอด้วยว่าจะได้สีอะไร ตกลงเอาดอกนี้ล่ะ ฉันจะปลูกดอกคิคุ~ >_<

     

              ฉันยิ้มร่าให้กับไอเดียของตัวเอง ก่อนจะคิดได้ว่าไปซื้อเมล็ดที่ร้านของอุซางิซังหลังเลิกประชุมเลยดีกว่า จะได้ทั้งไปซื้อและเอาชีสเค้กให้เขาด้วย อ๊ะ! ไลน์ไปบอกไว้ก่อนดีกว่า

     

              ฉันกดเข้าโปรแกรมแชทไลน์แล้วพิมพ์ข้อความไปหาอุซางิซัง ลืมบอกไปว่าเขาให้นามบัตรร้านมาแล้วมันมี IDไลน์อยู่ ฉันก็เลยแอดไปซะเลย

     

                        Otomechan : อุซางิซังงง ช่วยเตรียมเมล็ดดอกคิคุเอาไว้ทีนะคะ เดี๋ยวฉันไปจ่ายเงินตอนกลับจากโรงเรียน แล้วจะแวะเอาชีสเค้กไปให้ด้วยนะคะ>o<

     

              ฉันกดข้อความที่แสนจะน่ารักคิคุเหมือนดอกไม้ไป

     

    เขาตอบช้าจัง..นี่ก็ 3 นาทีแล้ว ต้องมานั่งฟังยัยโทอิกะบ่นอะไรก็ไม่รู้รอ หรือว่าจะทำงานอยู่นะ

     

    ติ๊ง~

     

    โอ๊ะ-0- ตอบมาแล้ว

     

              U-SA-GARDEN : โทษทีนะโอโตเมะจังToT วันนี้ฉันต้องปิดร้านเร็ว พ่อฉันป่วยเข้าโรงพยาบาลก็เลยต้องไปเยี่ยมน่ะ ส่วนเรื่องเมล็ดพันธุ์ฉันจะใส่ไว้ที่ตู้จดหมายหน้าร้านนะ เงินค่อยเอาให้ก็ได้

              U-SA-GARDEN : อดเจอเลยฮือT^T ไว้จะเลี้ยงชีสเค้กไถ่โทษแทนเอง

     

    แย่จัง เขาไม่อยู่T.T เอาเถอะ อย่างน้อยครั้งหน้าก็จะได้กินชีสเค้กฟรีจากเขาล่ะนะ

     

    ฉันเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าโทอิกะยืนมองฉันด้วยท่าทางที่พร้อมจะเข่นด่าฉันแล้ว

     

    รุ่นพี่พูดอยู่ปาวๆ ก็ยังจะเล่นโทรศัพท์นะ เป็นดาวโรงเรียนแท้ๆแต่กลับไม่รู้เรื่องมารยาท

     

    โทอิกะ รุ่นพี่ยูสึกาโนะพูดเสียงกดต่ำเพื่อจะให้เธอหยุด แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นแบบครั้งก่อน เมื่อเธอทำตาแข็งใส่เขา

     

    นายไม่เคยเข้าข้างฉันเลย! ก็เห็นอยู่ว่ายัยนั่นไม่สนใจที่ฉันพูด ฉันเป็นรองประธานนะ

     

    ฉันทักไปสั่งเมล็ดพันธุ์กับร้านดอกไม้ที่จะใช้ปลูกในชมรมน่ะค่ะ ขอโทษค่ะ ฉันพูดไปตามจริง ถึงจะเล่นโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากเรื่องของชมรมสักหน่อย ไม่ยอมให้มาด่ากันฟรีหรอกย่ะ พอโทอิกะไดยินว่าฉันพูดด้วยท่าทางที่ต่อกรและไม่ยอมเธอเหมือนกัน ก็ทำสีหน้าที่โกรธจนขึ้นสี

     

    เอ๊ะ! อย่ามาต่อปากกับฉันนะ

     

    ไม่ได้ต่อปากนะคะ ฉันก็พูดตามจริง แถมยังขอโทษรุ่นพี่แล้วด้วย

     

    นี่เธอ!..

     

    โทอิกะ หยุด สิ้นเสียงแข็งๆของรุ่นพี่ยูสึกาโนะ ยัยโทอิกะก็หันไปมองแล้วก็พบว่าเขามองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างมาก ทำให้เธอถอนหายใจแรงจนคนในชมรมแทบจะปลิว ก่อนที่จะกระฟัดกระเฟียดกระทืบเท้าออกจากห้องไป

     

    เอาล่ะขอโทษที เลิกประชุมได้ กลับบ้านกันดีๆล่ะ พูดจบรุ่นพี่ก็เอามือบีบสันจมูกเหมือนกับเหนื่อยใจ คนอื่นๆในชมรมก็เดินเข้ามาปลอบฉันบ้าง บอกให้ฉันใจเย็นบ้างแล้วก็เดินออกจากห้องไป จนตอนนี้เหลือแค่ฉัน

     

    รุ่นพี่ไม่ได้มองมา เลยน่าจะไม่รู้ว่าฉันยังยืนมองเขาหัวโด่แบบนี้ เขาถอนหายใจอย่างหนักใจแล้วลุกขึ้นไปหยิบบัวรดน้ำกำลังจะเดินออกไปทางประตูหลังห้องชมรม คงจะออกไปรดน้ำต้นไม้ล่ะมั้ง

     

    ฉันควรจะคุยกับเขาไหม จริงๆฉันก็ทำตัวไม่ดีอยู่เหมือนกันนั่นแหละ อาจจะควรขอโทษเขาใช่ไหม-_- อ๊ะ! อย่าคิดว่าฉันลำเอียงที่ไม่คิดจะขอโทษยัยโทอิกะนะ เพราะยัยนั่นมาโวยวายใส่ฉันก่อน แถมยังว่าฉันแรงๆหลายครั้งด้วย ถือว่าประกาศตัวเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของฉันแล้ว เพราะฉะนั้นฉันไม่ขอโทษ! (แต่จริงๆก็ขอโทษไปแล้วนั้นแหละ แต่ขอโทษให้โมโห :P)

     

    คุยกับเขาก่อนสักครั้งคงไม่เป็นไรมั้ง..ท่าทางรุ่นพี่จะดูเครียดกับสถานการณ์เมื่อกี้ ถ้างั้น..


    แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ

     

    รุ่นพี่คะ!

     


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    _______________________________________________________


    ตัดจบแบบละครไทย คอมเมนต์ติชมกันได้น้าาาา

     

     

     

     

     

     

     

             

     

             

     

              


    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×