ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WANNAONE : BREAKING DOWN [ LAI GUANLIN x PARK JIHOON ]

    ลำดับตอนที่ #5 : BREAKING DOWN : IV [RE WRITE]

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 62


    BREAKING DOWN ( IV )

    ---------------------------------------------------------------------------------




               ทำแผลเป็นหรือเปล่า ”

              เสียงทุ้มเข้มโทนเดิมที่ยังคงความเฉยชาไม่รู้สึกรู้สาอะไร แม้มุมปากหยักจะได้แผลจนมันปริแตกเริ่มจะขึ้นรอยช้ำแล้วก็ตาม ตั้งแต่โดนเซนลากมาที่ห้องสภาก็พึ่งจะมาเอ่ยปากเป็นประโยคแรกนี่แหละ ด้วยความที่คนตัวสูงอารมณ์ไม่ดีมาหมาดๆ จีฮุนเองก็เลยไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไปเพราะกลัวจะเป็นอีกคนที่ทำให้เซนไม่พอใจ

              เราทำได้ ” พอเอ่ยเสียงหวานตอบรับไปกล่องปฐมพยาบาลขนาดกลางก็มาวางอยู่ตรงหน้า มือขาวของเจ้าตัวเล็กก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์ทำแผลให้เซนเซดริกทันที

              และก็เป็นอีกครั้งที่จีฮุนสงสัยเหลือเกินว่าไลควานลินรู้สึกอะไรบ้างมั้ย ขนาดมือบางจิ้มสำลีนุ่มที่อาบไปด้วยแอลกอฮอล์ไปบนแผลเจ้าตัวยังคงนั่งนิ่งจ้องหน้าเราแบบนี้ได้ เอ๊ะ หรือว่าเรามือเบา

              นะ นี่ จ้องหน้าเราทำไม? ” ด้วยความที่นั่งข้างกันระยะห่างก็แค่เพียงช่วงแขนนิดเดียว แก้มกลมนุ่มเห่อร้อนทันทีทั้งประหม่าในเวลาเดียวกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนตัวสูงเอาสายตาคมจ้องมองหรือเพราะอากาศข้างในนี้มันร้อนมากกันแน่

              แต่เจ้าตัวเล็กคงจะลืมไปว่าห้องนี้เปิดแอร์คอนดิชั่นอยู่

              คงไม่ได้เป็นเพราะอากาศร้อนเสียแล้วกระมัง…

              ให้มันจับแขนทำไม ” คนอะไรตอบไม่ตรงคำถามแถมยังมาถามกลับอีก

              เราเปล่า ” แววตากลมสวยช้อนมองเซนเซดริกเพราะกลัวว่าคนตัวสูงจะเข้าใจผิด จีฮุนไม่ได้ให้จองจองจับเสียหน่อย นายคนนั้นน่ะ จู่ๆ ก็มาดึงข้อมือเล็กของจีฮุนไปเองต่างหาก

              แล้วทำไมต้องกลัวอีกคนเข้าใจผิดด้วยนะจีฮุน เขาจะคิดยังไงเราห้ามได้เสียที่ไหนเล่า

              เห็นอยู่ ”

              ใครจะไปรู้ว่าเขาจะจับล่ะ ” ริมฝีปากแดงอิ่มเอ่ยเถียงสุดใจ ตอนนั้นเราเห็นว่ายืนคุยกันอยู่สองคนนี่ ใครมันจะไปคิดล่ะว่านายตัวสูงที่ชื่อจองจองจะลากเข้าไปเป็นประเด็นด้วย

              นี่ มีเรื่องกันแบบนี้ไม่กลัวถูกลงโทษหรอ ” เพราะสงสัยเลยถามออกไปยิ่งอีกคนเป็นถึงเซนเซดริกจะให้มามีเรื่องชกต่อยกันทุกครั้งที่เจอหน้าแบบนี้มันคงไม่ดีเท่าไหร่ ฟังจากคนชื่อแซมแล้วมันไม่น่าจะมีแค่ครั้งสองครั้งแน่ๆ

              ฉันคือเซน มีอะไรต้องกลัวอีกหรอ ” น้ำเสียงจริงจังฟังดูน่าเกรงขามกรรณออกมาจากลำคอแกร่ง พอได้นั่งใกล้ๆ ได้มองใกล้ๆ แม้มุมปากจะมีรอยช้ำแต่ความหล่อเหลายอมรับว่ามันไม่ลดลงเลย ไม่พอยังเสริมให้ผู้ชายคนนี้ดูดิบเถื่อนไปอีก

              อย่าอยู่ใกล้มันอีก ” อีกแล้ว แบบนี้อีกแล้วเหมือนเมื่อคืนวานที่คนชื่อไลควานลินโน้มหน้ามาใกล้ๆ แล้วมันทำให้ใจของจีฮุนสั่นไหว ดวงตากลมสวยเหมือนโดนเวทมนต์สะกดว่าต้องเป็นเด็กดีและเชื่อฟัง

              อะ อื้อ แผลนี่เจ็บมั้ย? ” ได้แต่ตอบรับไปเช่นเคย ดวงตาหวานใสหลุบมองแผลที่มุมปากก่อนมือเล็กๆ ของจีฮุนจะถูกเจ้าของยกขึ้นมา มันเกือบจะแนบไปที่แก้มของคนตัวสูงแล้วแต่ถ้าไม่ติดว่า

              พรึ่บ

              ออกไปได้แล้ว ” เซนลุกขึ้นยืนเอ่ยประโยคแล้วหันหลังให้

              เอ่อ… เราขอโทษนะ ” มือนุ่มนิ่มค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะชักมือกลับแล้วรีบลุกยืนหมุนกายออกไปทันที เขาคงไม่ชอบให้คนอื่นมาแตะตัวใช่มั้ย อ๋า… จีฮุนไม่ทันได้คิด หวังว่าเซนเซดริกคงจะไม่โกรธจีฮุนนะ

              คนตัวเล็กพองลมปากจนแก้มกลมอูมน่าหยิกพร้อมกับถอนหายใจหลังจากหลุดพ้นบริเวณห้องสภามา จีฮุนยอมรับว่ามันค่อนข้างรู้สึกเฟลนิดหน่อยกับอารมณ์ของร่างสูงที่แปรปรวนเสียเหลือเกิน นึกอยากจะลากมาก็ลาก อยากจะไล่ก็ไล่ จีฮุนเหนื่อยเอาใจตามไม่ทันแล้ว

              ไปไหนมาไอ่จี้ มานั่งนี่ …. เดี๋ยวนี้ ” พอเดินเข้ามาในห้องเจ้าตัวขาวชะงักหน่อยๆ เมื่อเจอจีซองนั่งกอดอกทำหน้าอยู่ที่โต๊ะ เมื่อไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งเลยต้องเล่าทุกอย่างให้จีซองฟังตั้งแต่คุณองวานเอาเอกสารไปให้รุ่นพี่ที่ชื่อแบคโฮ

              เอ๊ะ!!! เอกสาร…

              ซองงง ยังไม่ได้เก็บเอกสารเลย ตอนนั้นมันล่วง ” เมื่อนึกขึ้นได้จีฮุนถึงกับเบิกตากว้างว่าภารกิจสำคัญไม่คอมพรีส ไม่พอยังทำเละไม่เป็นท่าตายแน่ๆ จีฮุนเอ้ยย

              ไม่ต้องเลยมึงอ่ะ ไอ่องมันไปเคลียร์แล้ว ” จีซองส่ายหน้าระอากับพฤติกรรมบ้าบอๆ ของจีฮุน วันนี้ทั้งวันมีแต่คนทำเรื่องให้ปวดหัวตั้งแต่แดฮวีมาจนเด็กแก้มเยอะอย่างจีฮุน

              หวีล่ะ นอนพักแล้วใช่มั้ย ”

              เมื่อกี้คุณครูพยาบาลโทรมาบอกว่าไอ่หวีมันกลับหอละ ” ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากกลับหอทั้งที่ตอนแรกจะพาไปพักที่ห้องพยาบาลยังไม่อยากจะไป แรงจะเดินยังไม่มีเลย… แต่จีซองก็เก็บความสงสัยไว้แต่เพียงเท่านั้นไม่ได้ถามอะไรครูเขามากมาย

              เฮ้ออ แต่ละคนกูเหนื่อย…

              .

              .

              .

              [ Bae jinyoung Part ]

              ผม แพจินยอง ออสตินคนที่หนึ่งแห่งเซดริก ตอนนี้เวลาบ่ายกว่าๆ ผมควรจะอยู่เล่นบาสกับพวกไอ่หลินแต่ถ้าไม่ติดว่าต้องดูแลใครบางคนที่ร้องไห้จนไม่สบาย ผมหันไปมองคนป่วยที่หลับอยู่บนรถก็ได้แต่ถอนหายใจใบหน้าที่ซีดเซียว เหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ปรากฎบนกรอบใบหน้าน่ารักกับเนื้อตัวที่ร้อนเพราะอุณภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้น ขนาดลักพาตัวมายังหลับไม่รู้เรื่องเลย

              ผมถอย BMW I8เข้าจอดในซองเรียบร้อยก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่งที่แดฮวีอยู่ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูและใช้แขนแกร่งช้อนอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาแนบอกใบหน้าเปื้อนเหงื่อซบลงตรงอกของออสตินอย่างน่าสงสาร สีหน้าที่เหนื่อยอ่อนของคนตัวเล็กเป็นเหตุให้ผมรีบสาวเท้าเข้าหอทันทีจนเดินเข้าไปหยุดหน้าลิฟต์

              อ่าว มึงอุ้มแดฮวีไปไหนเนี่ย ”

              มาก็ดีไอ่พัคกดลิฟต์ชั้นบนสุดให้กูที ” เป็นจังหวะบังเอิญพอดิบพอดีที่เจอเพื่อนอย่าง พัคอูจิน เดินออกมาจากลิฟต์

              เจอหน้าก็ใช้เพื่อนนะมึงอ่ะ ” เพื่อนมีก็ต้องใช้กันบ้างสิวะ มือไม่ว่างกดเพราะอุ้มคนป่วยอยู่เนี่ย แต่ถึงไม่ใช้ไอ่พัคผมก็จะใช้คนอื่นอยู่ดี

              แล้วนี่มึงจะไปไหน ”

              จะไปสเตเดี่ยมไอ่หลินแม่งตีกับไอ่จองอีกละ กูนึกว่ามึงอยู่กับมันซะอีก ” ไอ่พัคตอบด้วยสีหน้าเอือมๆ ก็นะเรื่องไอ่หลินกับไอ่จองมันค่อนข้างจะปกติไปแล้ว เพราะไอ่จองมันชวดเรื่องตำแหน่งเซนไปเพราะคะแนนเทไปที่ไอ่หลินมันหมด

              ฝากด้วยละกัน ”

              อ่าวแล้วมึง…. อ๋ออออออ ” อ๋อยาวไปนะไอ่สัสมันหลุบตามองแดฮวีก่อนจะพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจก่อนจะเดินแยกออกไป

              พอเข้ามาในห้องเรียบร้อยผมจัดการวางคนตัวเล็กลงบนเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปหาผ้ากับน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนป่วยหน่อย

              เพราะผมเลือกที่จะกดลิฟต์ชั้นบน สุดแน่นอนว่าชั้นนี้มันต้องเป็นของผู้คุมหออยู่แล้ว ผมคุมหอ WHITE ไอ่แดนหอ GRAY ส่วนไอ่หลินหอ BLACK

              ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่พาคนตัวเล็กกลับห้องของเจ้าตัวจะบอกว่าไม่มีคีย์การ์ดก็ถูกแต่ถึงไม่มีคีย์การ์ดผมก็เข้าห้องแดฮวีได้อยู่ดี ที่เลือกพามาที่นี่เพราะกันไม่ให้กระต่ายน้อยหนีผมไปแบบเมื่อวานตอนเย็นอีกไง

              เอาเป็นว่าเดี๋ยวเย็นๆ ค่อยปลุกขึ้นมากินข้าวกินยา

              หวังว่าตื่นมาคงไม่มีแรงมาพยศ

              ฟังดูเจ้าตัวเล็กดูดื้อนะครับ ใช่ครับ… แดฮวีดื้อมากๆ แต่ป่วยขนาดนี้คงไม่มีแรงหรอกแต่ถ้าไม่ฟังก็คงต้องดุกันหน่อย

              เห็นแบบนี้ผมไม่คิดจะรังแกคนป่วยหรอกนะ

              ถ้าในกรณีที่แดฮวีไม่ทำตัวน่าหมั่นเขี้ยวจนเกินไปนะครับ

              [ END Bae jinyoung Part ]

              อื้อ… ”

              ด้วยความเย็นของแอร์คอนดิชั่นที่กระทบกับผิวกายละเอียดทำให้เจ้าตัวเล็กขยับกายเล็กน้อย มือบางควานหาผ้าห่มผืนใหญ่เพื่อห่มคลายหนาว แต่กลิ่นที่ไม่คุ้นเคยทำไห้ใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วพันกันยุ่งไปหมด ก่อนเปลือกตาสีมุกจะค่อยๆ ลืมขึ้นและบรรยากาศภายในห้องที่แตกต่างจากห้องพยาบาลทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งสุดตัว

              โอ้ย! ” ด้วยอาการปวดหัวจากพิษไข้เล่นงานอย่างหนักจนต้องล้มตัวลงไปนอนเหมือนเก่า ก่อนเสียงทุ้มเข้มจะเปล่งออกมาคล้ายจะดุเบาๆ ที่คนป่วยทำอะไรผลีผลาม

              อย่าพึ่งดิ้นจะได้มั้ย ”

              ทำไมมาอยู่ที่นี่ ” เสียงเล็กๆ ติดแหบอยู่บ้างเอ่ยออกมา พร้อมกับนอนจ้องหน้าคนตัวสูงอย่างต้องการคำตอบ

              อุ้มมา ” ตอบหน้าตายไปอีก

              นิสัยไม่ดี ” ได้แต่งึมงำใส่อีกคนก่อนเจ้าของกายขาวบางจะพลิกตัวหนีไปอีกทาง คนเจ้าเล่ห์นิสัยเสีย

              ลุกมากินข้าวกินยาก่อน หรือต้องให้ป้อน ” พอเห็นท่าทีพยศเล็กๆนั่นก็อดขู่ไม่ได้ นี่ขนาดป่วยก็ยังต้องให้บังคับ

              เนื่องด้วยเรี่ยวแรงหดหายทำให้เจ้าตัวเล็กต้องยอมแพ้ไปก่อน โดยการเป็นเด็กดีนั่งกินข้าวกินยาและมีคนตัวสูงอย่างออสตินลงทุนมานั่งเฝ้าไม่ห่างกาย ดวงตาคมเอาแต่นั่งมองทุกการกระทำจนแดฮวีแอบคิดว่านี่ไม่คนป่วยนะไม่ใช่นักโทษ

              มือเรียวสวยเอื้อมไปตักข้าวต้มอุ่นๆ ในชามอย่างเชื่องช้า นั่งกินไปเรื่อยๆไม่มีเสียงพูดคุยกันของทั้งสองระหว่างนั้นล่วงเลยจนเจ้าตัวเล็กทานเสร็จ

              ได้เอากระเป๋าเรามามั้ย ” หลังจากกินข้าวเสร็จก็ได้แต่นั่งมองไปรอบๆ เผื่อว่าจะเจอกระเป๋าของตัวเองไม่งั้นก็เข้าห้องไม่ได้เพราะไม่มีคีย์การ์ด

              ไม่ แต่จีซองคงเก็บให้ ” เจ้าของนัยน์ตาคมตอบก่อนจะเดินถือยากับแก้วน้ำมานั่งข้างๆ ก่อนจะยื่นมันให้กับคนน่ารัก

              จีซองรู้ได้ไง ”

              ให้ครูพยาบาลโทรไปบอก ”

              ได้ไงอะ ”

              ฉันคือออสติน ทีนี้กินยาได้หรือยัง หรือต้องให้ป้อนอีก ”

              นบ้าอำนาจพูดบอกพร้อมโน้มหน้ามาใกล้ๆ แต่ใบหน้านิ่งๆ นั้นมันไม่ได้น่ากลัวหรอกนะ มันเจ้าเล่ห์มากต่างหากแล้วยังทำให้คนป่วยแก้มขึ้นสีแดงเลือดฝาดน่าหยิกแตกต่างจากตอนแรกที่ใบหน้าซีดเซียวเพราะพิษไข้อีกด้วย

              " ทะ ทำอะไร? " เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมบังคับแถมตอนนี้มือยังไม่ว่างเพราะถือแก้วน้ำกับยาเม็ดสีขาวๆ อยู่ด้วย ตัวก็โดนคนตัวใหญ่เอาแขนแกร่งมากันไว้ กลายเป็นว่าโดนขังไว้ในอ้อมแขนของออสตินแห่งเซดริกเสียแล้ว

              อยากรังแก ”

              “ … ”

              แต่ไม่อยากผิดคำพูด ” 


    ---


    อันยองง

    อย่าลืมคอมเมนต์ให้กำลังใจแล้วก็ตามไปสกรีมฟิค #แพ้แล้วหลินฮุน น้า

    หวีดเซนกับออสตินได้เต็มเท้เลยนาจา รักส์






    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×