ตอนที่ 47 : EP.45 ตั๋งโต๊ะและลิโป้
Game of Creation ภาค ประกาศิตเทพมารแสวงพ่าย
EP.45 ตั๋งโต๊ะและลิโป้
“ประวัติศาสตร์กำลังสั่นคลอน เพราะขุมอำนาจใหม่ที่มีความสามารถประดุจเทพเซียนจุติ” ชายปริศนาในชุดคลุมกล่าวขึ้นลอยๆ ระหว่างเล่นหมากล้อมบริเวณลานโล่งบนยอดเขาสูง “ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานประวัติศาสตร์จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง”
“ท่านสนใจความเป็นไปของโลกตั้งแต่เมื่อใดกัน?” เสียงแหลมสูงของสตรีในชุดคลุมกล่าวตอบ มือของนางวางหมากสีขาวลงบนกระดาน “นับตั้งแต่พวกเราเริ่มแผนการนี้ ก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าโลกใบนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
“เพราะข้าไม่คิดว่าผู้ครอบครองจารึกแรกกำเนิด จะย้อนเวลากลับสู่ยุคอดีตมากขนาดนี้นะสิ ข้าสัมผัสได้อย่างน้อยๆก็มีประมาณเกือบ 200 คน ไหนจะพลังของอาวุธเทคโนโลยีสมัยใหม่ ยังมีพวกจารึกแรกกำเนิดเทียมที่ถูกสร้างขึ้นมาอีก” ฝ่ายชายในชุดคลุมดูจะมีความวิตกอยู่ไม่น้อย ซึ่งส่งผลถึงการเดินหมากของเขา
“นี่ท่านแอบใช้ดาวเทียมอีกแล้วสินะ? ไม่กลัวพวกเขาจับสัญญาณได้หรือ อย่าลืมนะว่าเวลานี้ไม่ได้มีดาวเทียมเพียงดวงเดียว” น้ำเสียงของฝ่ายสตรีคล้ายตำหนิเล็กน้อย เวลานี้หมากขาวของนางได้เปรียบในเกมกระดานอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าอยากพบเขาไวๆนี่นา”ฝ่ายชายแย้ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงหาอย่างที่สุด
“ไม่ต้องรีบไปหรอก...เด็กน้อย เมื่อถึงเวลาพวกเจ้าทั้งสองจะได้พบพวกเขาเอง” เสียงอันทรงอำนาจเสียงหนึ่งแว่วขึ้นตามสายลม จนไม่อาจจำแนกที่มาที่ไปของเสียงดังกล่าวได้ “ข้าสัมผัสได้ถึงพลังแห่งจารึกแรกกำเนิดที่แสนคุ้นเคย เวลานี้ทั้งโลกมีอยู่ทั้งหมด 243 ชิ้น และมีสี่ขุมกำลังที่ครอบครองเกิน 50 ชิ้น ที่เหลือกระจัดกระจายกันไป แต่ไม่ต้องกังวลส่วนหลักทั้ง 108 ชิ้นอยู่ในยุคอดีตครบถ้วนแล้ว”
“แล้วเขาล่ะอยู่ที่ใด?” สตรีในชุดคลุมเผลอหลุดปากถามออกมา ก่อนที่นางและชายในชุดคลุมจะก้มหน้าลงเมื่อรู้ว่าทำผิดพลาดไป
“วันนี้ข้าอารมณ์ดีไม่ถือโทษเจ้าหรอก ตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองเตียงอัน...” เสียงนั้นก้องกังวานราวกับพายุใหญ่ ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไปในอากาศราวกับไม่เคยมีมาก่อน บุรุษและสตรีในชุดคลุมถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเดิมหมากต่อเพื่อรอคอยเวลา...
อ๊ากกก! เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังก้องขึ้นภายในคฤหาสน์ของคหบดีแห่งเตียงอัน บรรดาบ่าวไพร่ต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น ภายหลังจากที่กลุ่มชายชุดดำบุกเข้ามาภายในตัวบ้าน กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยคนกระจายไปตามคฤหาสน์ของกลุ่มย่านการค้าใหม่ ซึ่งเป็นพวกที่เคยทรยศต่อกุยแกและพวกพ้องทั้งสิ้น การเข่นฆ่าจะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวเท่านั้น หากผู้ไม่ใช่เครือญาติที่เกี่ยวข้อง ย่อมได้รับการละเว้นชีวิตขอเพียงไม่เข้ามาช่วยเหลือ
แม้จะเกิดการล้างสังหารกลางเมืองหลวงแห่งใหม่ของราชวงศ์ฮั่น เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรวมทั้งเหล่าทหารกลับไม่คิดก้าวก่าย เพราะนายกองประจำเวรวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนของลิโป้ทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเทพนักรบตัดสินใจอิงแอบเกาะโศกศัลย์ย่อมต้องอำนวยความสะดวกในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เมื่อการล้างแค้นมาถึง
“พวกแกเป็นใคร ทำแบบนี้ทำไม?” เสียงร้องถามจากคหบดีรายหนึ่ง ภายหลังจากที่เขาถูกเหวี่ยงร่างล้มลงบนลานบ้านตระกูลเยี่ย
“ชำระแค้น” กลุ่มคนในชุดดำบอกด้วยเสียงอันเย็นยะเยือก
“พวกเราไม่เคยบาดหมางกับใคร พวกเจ้ามาผิดที่แล้ว” เยี่ยหวนประกาศกร้าวพร้อมชักกระบี่ออกจากฝัก ยามนี้หัวหน้าตระกูลทั้งหมดของย่านการค้าใหม่ ล้วนถูกพาตัวมาที่นี่หมดสิ้นเพื่อรอการสำเร็จโทษ
“ไม่เคยบาดหมาง น่าขำนัก” ตงโยว่หัวเราะเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยท่าทีของผู้มีชัย
“เจ้า!” เยี่ยหวนเบิกตากว้างไม่คิดว่าจะได้พบเจอกับอดีตคนรู้จักในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าตระกูลคนอื่นๆก็มีท่าทีไม่แตกต่างกัน
“พวกเจ้าเลือกที่จะทรยศเอง มีหรือที่ท่านหัวหน้าใหญ่...ไม่สิ..มีหรือที่นายท่านจะยอมละเว้น พวกเจ้าสมควรรับกรรม” ตงโยว่ผู้ที่บัดนี้ครองตำแหน่งรองหัวหน้าสมาคมพ่อค้าเมืองฮู๋โต๋ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันอย่างที่สุด “ไม่ต้องกลัวไปหรอก พวกท่านกับลูกยังต้องทรมานไปอีกนาน ส่วนพ่อแม้พี่น้องคนอื่นๆ ห้ามละเว้นเด็ดขาด”
สิ้นคำสั่งฉากล้างสังหารก็เกิดขึ้นอีก บรรดาผู้ที่เสพสุขอยู่บนความรุ่งเรืองของย่านการค้าใหม่ ต่างส่งเสียงร้องขอชีวิต บ้างก่นด่าสาปแช่ง บ้างขอเจรจาต่อรอง น่าเสียดายที่มันสายเกินไปเสียแล้ว สิบศักดิ์เกาะโศกศัลย์ ซันไจ่ไจ๋ ซันเสินหนง และซันซีหลาง ยืนมองเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยแววตาเย็นชา ทั้งหมดเปรยขึ้นเกือบจะพร้อมๆกันว่า กรรมสนอง!
ด้านหนึ่งของเมืองกำลังเปิดฉากสังหาร อีกด้านหนึ่งกลับเป็นความรื่นเริงสนุกสนานในยามค่ำคืน คฤหาสน์ตระกูลอ้องมากไปด้วยแขกเหรื่อคนสำคัญ โดยมีตั๋งโต๊ะเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดของงานในค่ำคืนนี้ ซึ่งสายตาของจอมคนแห่งเสเหลียงกำลังจดจ้องอยู่กับการร่ายรำของยอดนารีนามเตียวเสี้ยน ยิ่งเมื่อนึกถึงค่ำคืนอันเร่าร้อนของตนกับนางที่ผ่านมา จอมคนก็ยิ่งแทบอดทนรองานเลิกไม่ไหว หารู้ไม่ว่าทั้งหมดเป็นเพียงภาพลวงจากพลังของจารึกแห่งกลิ่นที่นางครอบครองอยู่ ร่ายกายจะคล้ายได้สัมผัส จมูกราวกับได้สูดดม ความรู้สึกเสมือนหนึ่งได้ครอบครอง แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงตาอันไร้ความจริง
“ยิ่งมองยิ่งงาน” ตั๋งโต๊ะแย้มยิ้มระหว่างดื่มสุรา
“ข้ายินดียิ่งนักที่ใต้เท้าชอบ” อ้องอุ้นรีบกล่าวเอาอกเอาใจ
“ข้าชอบทั้งงานทั้งคน” น้ำเสียงของตั๋งโต๊ะแฝงเลศนัยเอาไว้ไม่น้อย
เตียวเสี้ยนยามนี้อยู่ในชุดผ้าบางเบาสีขาวประดับดอกไม้สดสีอ่อน แลดูคล้ายเทพธิดาของทุ่งดอกไม้มากกว่าหญิงสาวชาวมนุษย์ การร่ายรำของนางช่างอ่อนช้อยสวยงามเมื่อผสานกับวิชาตัวเบาเทพธิดาเหิน ยิ่งหนุนส่งความเย้ายวนของนางมากขึ้นไปอีก บรรดาแม่ทัพนางกองที่มาร่วมงานต่างก็แสดงท่าทีหลงใหลนางไม่น้อย เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูดขึ้นมาเท่านั้น เพราะทุกคนรู้ดีว่านางเป็นคนของตั๋งโต๊ะ
“จะว่าอะไรไหม? หากข้าจะสู่ขอนางจากท่านในตอนนี้” ตั๋งโต๊ะกล่าวขึ้นซึ่งได้ยินเฉพาะอ้องอุ้นที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
“ข้าย่อมยินดียิ่งใต้เท้า” อ้องอุ้นกล่าวออกมาแทบจะไม่ต้องใช้เวลาคิด
“ดี!” ตั๋งโต๊ะหัวเราะร่าก่อนที่จะลุกขึ้นยืน ทันทีที่เขาโบกมือการแสดงก็หยุดชะงักลง “ทุกคนจงฟัง ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะประกาศให้พวกเจ้าทราบ”
“เรื่องสำคัญอันใดหรือท่านพ่อ” เสียงหนึ่งดังมาจากประตู พร้อมกับการมาถึงของลิโป้ในชุดขุนพลแสนองอาจ ทันทีที่เขากำราบพวกฮังหยงจนพินาศและเดินทางกลับมาจากด่านกักพยัคฆ์ ก็ได้จัดแจงเวรยามใหม่เพื่อเปิดทางล้างแค้นให้กับพันธมิตร และเมื่อทราบว่าตั๋งโต๊ะอยู่ที่นี่ก็รีบแต่งกายออกมาในทันที
“เจ้ามาก็ดีแล้วลิโป้จะได้ช่วยเป็นพยานให้ข้า”
“พยาน?”ลิโป้ปรากฏความวิตกภายในใจ “ท่านพ่อหมายถึงสิ่งใด”
“ข้าจะแต่งเตียวเสี้ยนเป็นภรรยา” ตั๋งโต๊ะประกาศอย่างชัดเจน
เหมือนสายฟ้าฟาดเข้ากลางใจของลิโป้ เทพนักรบหนุ่มกำหมัดแน่นพยายามสะกดอารมณ์เกรี้ยวกราดเอาไว้ เขาฝืนยิ้มยกมือกล่าวอวยพรต่อพ่อบุญธรรม “ข้าขอยินดีกับท่านพ่อด้วย ข้าขออาสาตระเตรียมทุกอย่างเพื่อการวิวาห์ของท่านเอง”
“คงต้องรบกวนเจ้าแล้วลูกข้า” ตั๋งโต๊ะกล่าวพร้อมกับนั่งลงดื่มสุราต่อ
“ไม่เป็นไรขอรับท่านพ่อ” กล่าวเสร็จลิโป้ก็เดินออกไปพร้อมกับความโกรธแค้น
“เริ่มแผนการได้แล้วลิหยู” ตั๋งโต๊ะกระซิบบอกบุคคลที่นั่งอยู่ใกล้ๆ โดยอาศัยช่วยที่อ้องอุ้นไม่ได้สังเกตตนเอง ลิหยูพยักหน้ารับก่อนจะหาจังหวะออกไปจากงานเลี้ยงเพื่อดำเนินแผนการบางอย่าง ตั๋งโต๊ะยกจอกสุราขึ้นดื่ม “ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต ลิโป้เอ๋ยข้าจะให้เจ้าตายตามฮัวหยงไปเสีย จะได้ไม่อยู่เป็นหอกข้างแคร่ของข้า”
ทุกสิ่งเป็นแผนของตั๋งโต๊ะทั้งหมดจริงหรือ? เขาไม่ได้สิเน่หาในตัวเตียวเสี้ยนเลยหรือ แท้จริงตั๋งโต๊ะนั้นลุ่มหลงนางอย่างมาก แต่วิสัยของจอมคนอำนาจย่อมมาก่อนทุกสิ่ง!
ทางด้านลิโป้เมื่อออกมาได้ก็ระบายอารมณ์กับทุกสิ่งรอบๆตัว ข้าวของภายในสวนของบ้านสกุลอ้องพังเสียหายหลายต่อหลายอย่าง
“วีรบุรุษยากฝ่าด่านหญิงงาม คำกล่าวนี้เห็นจะจริง” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านบน เมื่อลิโป้แหงนหน้าขึ้นไปมอง ก็พบกับชายปริศนาในชุดผ้าคลุมสีเทาหม่น เจ้าของพลังฝีมือสุดพิสดารที่ช่วยให้เขารอดชีวิตกลับมาจากด่านกักพยัคฆ์
“ท่านช่างรู้ใจข้าจริงๆ” ลิโป้กล่าวขึ้น “ข้ากำลังอยากเจอท่านอยู่พอดี”
“ข้าไม่สังหารตั๋งโต๊ะให้เจ้าหรอก สิ่งที่ข้าทำได้คือเปิดโอกาส ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่ฝีมือของเจ้าเอง” ซันซั่งเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับรู้ถึงความต้องการของเทพนักรบแห่งยุคเป็นอย่างดี
“แค่นั้นก็เกินพอแล้ว” ลิโป้เหยียดรอยยิ้มชั่วร้าย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
ว่าเเต่หลานคนของฝ่ายธรรมมะ เเต่ทำตัวไม่ต่างกับอธรรมเลย สมควรโดนฆ่าแล้ว
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 2 มิถุนายน 2558 / 00:47
เพราะในอนาคตมีการปะทะกันอยู่เนืองๆของฉบับใหม่ฉบับเก่า หากเหมือนกันคนที่ใช้ได้แตกต่างจะมีแค่ซั่งเทียนคนเดียว
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 2 มิถุนายน 2558 / 01:05