ตอนที่ 46 : EP.44 จุดเริ่มต้น สงครามมิวแทนท์สองกลุ่ม
Game of Creation ภาค ประกาศิตเทพมารแสวงพ่าย
EP.44 จุดเริ่มต้น สงครามมิวแทนท์สองกลุ่ม
“ลิโป้ผู้นั้นนับได้ว่าร้ายกาจอย่างยิ่ง ขนาดสามคนนั่นได้รับอาวุธวิเศษกับยาเพิ่มพลังเซียน ของตำหนักเหนือฟ้าเราเสริมส่ง เขายังสามารถรับมือได้อย่างสูสีขนาดนี้” ชายในชุดคลุมซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของศิษย์เอกสุมาเต็กโชกล่าวขึ้น
“มีบางอย่างผิดแปลกไป”กุนซือวิถีฟ้าพูด แววตาครุ่นคิด
“ท่านหมายถึงสิ่งใด?”
“สหายเอ๋ย อาวุธวิเศษของสำนักเรา ไม่มีอาวุธใดในโลกต่อกรได้ ยาวิเศษพลังเซียนยิ่งทรงอานุภาพดุจเพิ่มพูดพลังวัตรรับร้อยปีชั่วขณะ แต่ลิโป้ผู้นี้นอกจากประมือได้อย่างสูสี อาวุธยังไม่มีแม้รอยขีดข่วน ข้าเกรงว่าพวกเราจะพบกับคู่ปรับเข้าให้แล้ว” กุนซือวิถีฟ้าหรี่ตาลงใช้ความคิด
“คู่ปรับ? ข้าไม่เข้าใจเลย”ชายในชุดคลุมกล่าวด้วยน้ำเสียงสับสน
“อาจารย์ข้า ท่านเซียนสุมาเต็กโชเคยกล่าวไว้ ผู้ที่มาจากแดนสวรรค์เหนือโลกมีอยู่มากมาย พวกเขาเหล่านั้นบ้างอยู่สันโดษ บ้างรวมกลุ่มกันเคลื่อนไหวด้วยเหตุผลและอุดมการณ์ต่างๆ ดูท่าฝ่ายลิโป้เองคงมีเซียนพวกนั้นสนับสนุนอยู่เช่นกัน เจ้ารีบส่งข่าวกลับไปตำหนักเหนือฟ้า ส่วนข้าจะสร้างค่ายกลเหนือฟ้าช่วยทัพกวนตง” กุนซือวิถีฟ้าตัดสินใจแน่วแน่
“ขอให้ท่านปลอดภัย”ชายในชุดคลุมกล่าว พร้อมกับพลิ้วกายทะยานจากไป
“ในที่สุดข้าก็ต้องหงายไพ่ตายของตัวเองสินะ” น้ำเสียงของกุนซือวิถีฟ้า คล้ายกับมีความหนักใจอยู่ไม่น้อย มือขวาของเขาค่อยๆลูบไล้มือซ้ายด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
“เพลงง้าวเทพนักรบ สะบั้นสมรภูมิ”
พลังอันรุนแรงผนึกกันเป็นรูปง้าวขนาดใหญ่ฟาดฟันเข้าใส่สามผู้กล้าไร้ชื่อเสียง กวนโอรับด้วยง้าวมังกรเขียวซึ่งผสานเทพพลังมังกรเอาไว้ กระนั้นแรงกดดันของพลังวัตรสองพันปีก็ดูจะตึงมืออยู่ไม่น้อย เตียวหุยเห็นพี่น้องร่วมสาบานเสียเปรียบก็เงื้อทวนยาวอสรพิษเขารุกไล่ ทั้งยังใช้เทพพลังอสรพิษทองผสานเข้าไป ลิโป้รับด้วยปลายง้าวกรีดนภาทั้งยังกระแทกเตียวหุยให้ต้องถอยห่างออกไป ส่วนเล่าปี่ดูจะมีฝีมือด้อยที่สุดในสายตาของลิโป้ หากแต่กระบี่เหนือฟ้าที่ทิ่มแทงมานั้น มากไปด้วยกระบวนท่าลวงทั้งยังแฝงอันตรายในความเรียบง่าย
“คนหนึ่งโจมตีด้วยความรอบคอบเปิดเผย คนหนึ่งอหังการรุนแรงบ้าบิ่น ส่วนเจ้านั่นดูราบเรียบแต่เต็มไปด้วยเล่ห์กล คนพวกนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ หากข้าไม่ได้รับถ่ายทอดพลังวัตรมหาศาลคงยากที่จะรับมือได้” ลิโป้ครุ่นคิดระหว่างการต่อสู้
“หนึ่งสู้สามยังไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย ลิโป้ผู้นี้สมเป็นเทพนักรบแห่งยุคจริงๆ” แม้เป็นศัตรูแต่กวนอูก็อดชื่นชมไม่ได้
“พลังของง้าวดุดันรุนแรง แถมยังแฝงไปด้วยช่องโหว่ที่ลวงให้โจมตีใส่ ไม่เพียงฝีมือร้ายกาจสติปัญญาก็ล้ำเลิศ วันนี้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ” เตียวหุยเองก็คิดไม่ต่างจากกวนอู
“มองเห็นแล้ว” เล่าปี่เหยียดรอยยิ้ม ทิ่มกระบี่เข้าใส่จากมุมอับด้านข้าง ขณะลิโป้วุ่นอยู่กับการรับมือกับเตียวหุยและกวนอู
ฉึก! คมกระบี่แทงเข้าชุดเกราะบริเวณเหนือสีข้าง ความเจ็บแปลบแล่นเข้าจู่โจมลิโป้ เทพนักรบแห่งยุคกัดฟันกรอดก่อนจะระเบิดพลังวัตรทั้งหมดในคราวเดียว คลื่นกระแทกของพลังวัตรสองพันปีไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถรับมือได้ สามพี่น้องร่วมสาบานเองก็ไม่ยกเว้น พวกเขากระดอนออกไปคนละทิศละทาง เสียงอื้ออึงพร้อมฝุ่นควันหนาคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ร่างกายของลิโป้เริ่มปรากฏความอ่อนล้า ผลจากการระเบิดพลังทั้งหมดออกมาทำให้พลังวัตรสองพันปีค่อยๆลดลงอย่างรวดเร็ว คนอย่างลิโป้หาใช่ผู้ที่ยึดมั่นในศักดิ์ศรีเขาสามารถยืดหดได้ตามสถานการณ์ เมื่อตกเป็นรองซ้ำฝีมือยังถดถอย เขาจึงได้ล่าถอยอย่างรวดเร็วท่ามกลางความแตกตื่นของผู้คน
“น่ากลัวเกินไป” สามพี่น้องร่วมสาบานอุทานพร้อมกัน
“สักวันข้าจะต้องเอาคืนแน่”ลิโป้กล่าวคำอาฆาต
“ค่ายกลเหนือฟ้า เทพอัศนีพิโรธ”
ท้องฟ้าพลันถูกเมฆมากมายไหลเข้ามาบดบัง เตียวหุยเล่าปี่และกวนอูเห็นดังนั้นก็รีบถอยออกจากสนามรบในทันที กุนซือวิถีฟ้าตวัดไม้คทารูปร่างแปลกตาไปมา ประกายแสงหลากสีส่องสว่างจากไม้คทาอย่างต่อเนื่อง แท้จริงแล้วไม้คทานี้ทำขึ้นด้วยวิทยาการของโลกอนาคต มีการฝังหัวใจเป็นๆของคนเอาไว้ภายใน ซึ่งหัวใจเหล่านั้นมีจารึกแรกกำเนิดเทียมติดตั้งอยู่ และหัวใจยังถูกหล่อเลี้ยงเอาไว้ไม่ให้หยุดเต้น ถือเป็นอาวุธที่ใช้ในยามฉุกเฉิน ทำให้สามารถใช้พลังได้หลากหลายรูปแบบ กุนซือวิถีฟ้าเองก็ใช้พลังสร้างเมฆ สร้างลมและสายฟ้าผสมผสานกันไปมา ก่อเกิดค่ายกลเทพอัศนีที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งเบื้องล่าง
“นั่นมัน...”บุคคลในชุดคลุมสีเทาหม่นอุทาน ขณะสังเกตการณ์อยู่ที่ไกลๆ
“พลังของจารึกแรกกำเนิดเทียม แถมยังมาจากอาวุธของโลกอนาคต ผู้ที่ใช้คนไม่ธรรมดาพวกเราควรไปทักทายสักหน่อย” ซันซั่งเทียนยิ้มร้าย
“ครับท่านพ่อ” บุคคลลึกลับในชุดคลุมสีเทาหม่นทั้งสองขานรับ พร้อมกับพลิ้วกายทะยานตัวรุดไปข้างหน้า ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ค่ายกลดังกล่าวเริ่มทำงาน
เปรี้ยง! เสียงสายฟ้าฟาดลงสู่พื้นกึกก้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกายแสงสว่างวาบฟาดลงในหลายๆจุดของกองทัพทั้งสองฝ่าย ซึ่งส่วนมากผลร้ายจะตกอยู่กับกองทัพของลิโป้ เปลวเพลิงมากมายพวยพุ่งขึ้นจากที่ถูกฟ้าผ่า ซากศพที่ถูกเผาไหม้ปรากฏอยู่โดยทั่ว บรรดาเจ้าเมืองของฝ่ายกวนตงล้วนแตกตื่นกับสิ่งที่เห็น
“ค่ายกลหรือนี่ ร้ายกาจดุจเทพยดา” อ้วนสุดกล่าวด้วยความตระหนก
“พวกเราควรผูกไมตรีกับตำหนักเหนือฟ้า”กองซุนจ้านออกความเห็น
ทว่าอ้วนเสี้ยวกลับไม่พูดอะไร เพียงมองประกายแสงหลากสี ในจุดที่กุนซือวิถีฟ้ายืนสร้างค่ายกลอยู่ ชั่วพริบตาจากสนามรบก็กลายเป็นนรก เวลาเพียงครึ่งก้านธูปมีผู้คนล้มตายนับพัน ถึงกระนั้นพลังของจารึกเทียมก็มีข้อด้อยกว่าของจริงมาก ใช้ได้เพียงชั่วขณะก็เสื่อมอานุภาพลง จนกระทั่งทุกสิ่งกลับสู่สภาพปกติ
ฟ้าว! เสียงหนึ่งแว่วขึ้นจากด้านหลัง กุนซือวิถีฟ้าพลิ้วกายกลับมาแล้วซักมือซ้ายออกไป คลื่นพลังงานประหลาดบางอย่างถูกปลดปล่อยออกไป บุคคลลึกลับในชุดคลุมสีเทาหม่นรีบดีดตัวออกห่างไปหลายก้าว ทำให้เขาพลาดโอกาสโจมตีในที่สุด
“นั่นมัน!”คนในชุดคลุมบังเกิดความสงสัยเมื่อเห็นมือข้างซ้ายของกุนซือวิถีฟ้า ทั่วทั้งแขนถูกฝังผลึกบางอย่างเข้าไปในภายใน ทั้งยังมีสาลไฟและอุปกรณ์อิเลคโทรนิคติดตั้งอยู่
“เครื่องสร้างเขตแดนยังไงล่ะ”กุนซือวิถีฟ้ายิม้อย่างเป็นต่อ
“เจ้าพวกนั้นพัฒนามันสำเร็จแล้วสินะ” น้ำเสียงของชายในชุดคลุมสีเทาหม่นดูมีความกังวลไม่น้อย ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงย่างเท้าสามขุมเข้าใกล้อย่างต่อเนื่อง
“แต่อุปกรณ์นั่นคงใช้งานยากน่าดู การรับมือเราสองคนอาจจะตึงมือเจ้าเกินไป” คนในชุดคลุมสีเทาหม่นอีกคนบอกกล่าว พร้อมกับเดินเข้าหาจากด้านหลัง
“เข้ามา”กุนซือวิถีฟ้าท้าทาย พร้อมกับชี้ไม้คทาไปหาคนที่อยู่ด้านหลัง ชั่วพริบตาสายฟ้าก็ฟาดลงมาอย่างไม่มีสุ้มเสียง
“เด็กๆน่า” คนในชุดคลุมสีเทาหม่นยกมือขึ้นต้านรับ แต่ในเสี้ยววินาทีเขาก็ต้องกระโดดถอยหลังออกไป เมื่ออีกฝ่ายยกมือซ้ายมาทางเขาเช่นกัน
“บัดซบ แขนข้างนั้นสามารถผนึกการใช้จารึกแรกกำเนิดระดับ A ได้” คนที่พึ่งรอดตายจากการโดนฟ้าผ่ากล่าวขึ้น
“ใช่แล้ว! ตราบเท่าที่มีมือข้างนี้อยู่ พวกเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก” กุนซือวิถีฟ้าระเบิดเสียงหัวเราะอย่างผู้มีชัย
“ขนาดนั้นเลยหรือครับ” เสียงที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันแว่วขึ้นจากด้านหลัง พร้อมการปรากฏตัวของซันซั่งเทียน
“ไม่ว่าใครก็สู้ข้าไม่ได้หรอก” กุนซือวิถีฟ้าสะบัดมือไปด้านหลัง หมายจะผนึกพลังของผู้มาใหม่
“ลองดูสักตั้ง” ซันซั่งเทียนยิ้มร้ายยืนเผชิญหน้ากับคลื่นพลังลึกลับดังกล่าว ทว่ามือของเขากลับสามารถกระแทกอกอีกฝ่ายด้วยพลังมหาศาลได้อย่างรุนแรง มือขวาของเขาก็ออกแรงกระชากแขนซ้ายที่ถูกดัดแปลงจนขาดออกจากลำตัว
“อั่ค!” กุนซือวิถีฟ้ากระอักเลือดคำโตพร้อมกับลอยละลิ่วไปด้านหลังราวกับว่าวเชือกขาด เลือดจำนวนมากพุ่งออกจากบาดแผลอย่างต่อเนื่อง
“จับเป็น เอาตัวกลับไปเค้นหาข่าว” ซันซั่งเทียนสั่ง บุคคลในชุดคลุมสีเทาหม่นก็รับเข้าไปจับกุมตัว พร้อมกับห้ามเลือดในทันที ชายหนุ่มผู้มาจากโลกอนาคตของดูมือที่น่าขยะแขยงนั้นอย่างเย็นชา พลังที่เปล่งออกมาเมื่อครู่มันไม่สามารถหยุดเขาได้เลยแม้แต่น้อย อานุภาพของมันคงหยุดได้เพียงจารึกแรกกำเนิดระดับ A ลงไป แต่จะใช้ไม่ได้กับระดับ S หรือว่าจารึกส่วนหลักแบบเขา
ชายหนุ่มตัดสินใจทิ้งแขนข้างนั้นลงบนพื้น นั่นถือเป็นการประกาศสงครามกับฝ่ายตำหนักเหนือฟ้า เพราะหากพวกนั้นได้แขนกลับไปตรวจสอบ อย่างน้อยๆก็จะสามารถรู้ระดับฝีมือของผู้ลงมือได้ ดูท่าการต่อสู้ของเหล่ามิวแทนท์ที่แท้จริง กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วท่ามกลางกระแสแห่งสงครามและประวัติศาสตร์ที่เริ่มถูกเปลี่ยนแปลง
ตอนต่อไปอีกหลายวันถึงจะได้ลงให้อ่านนะครับ พิมพ์แค่สองตอนก็ปวดตาซะละ ยังไม่หายดีเลย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่ฮาเจ้าสองตัวนี้จริง