ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Mandrake Hero(ine) - ผู้กล้าพืชป่วน ยกก๊วนปราบมังกร

    ลำดับตอนที่ #26 : 23 - คำตอบของแม่มดดำ - “เดี๋ยวฟ้องเรียกเงินซะให้เข็ด”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 281
      0
      28 ก.พ. 54

    บทที่ 23

    คำตอบของแม่มดดำ

     

    มาเทียสยังงงๆ อยู่กับผลการเจรจา แต่เมื่อเข้าใจว่าทุกสิ่งดูเหมือนจะเรียบร้อยดี และมังกรไม่มีอันตรายมากไปกว่านั้นก็เบาใจ

    พวกเขายังหารือกันต่ออีกสักเล็กน้อย...มาตรการตั้งรับกลายเป็นเฝ้าระวังไม่ให้จอมมารมาทำร้ายนี้ดฮ็อกที่กำลังขับพิษอยู่ในอ่างเก็บน้ำ พร้อมกันนั้นก็ขอให้เมืองหลวงของมณฑลเปิดประตูน้ำ ให้น้ำไหลได้เป็นอิสระ ส่วนงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลินั้นจะไม่มีการล้มเลิก ทั้งเพื่อหาเงินไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจากแผ่นดินไหว และเพื่อ รวบรวมจิตปรารถนาดี ไปช่วยเร่งการเยียวยาของนี้ดฮ็อก ตามข้อเสนอแนะของโยฮันน์

    เป็นอันว่าชุดของแอนนาลีจะได้เข้าประกวดตามเดิม และต้องหานางแบบคนใหม่

    กว่าจะหารือหลายอย่างเรียบร้อย เวลาในวันนั้นก็เคลื่อนเป็นเย็นคล้อย แม่มดดำกลับหอคอยของตนไปก่อนที่ชายหนุ่มจะทันได้พูดกับเธอ เมื่ออาหารเย็นผ่านพ้นไป เขาจึงตักสตูว์ที่ทำเผื่อไว้ใส่กล่องอาหารปิดฝาอย่างดี และอาสาจะเดินไปส่งลูกศิษย์ทั้งสองของเธอถึงหอคอย เนื่องจากเห็นว่าค่ำแล้ว เพื่อจะได้หาโอกาสถามเรื่องที่แอนนาลีฝากมาด้วย

    เอลี่กับอาร์คตอบรับ และเมื่อถึงหอคอยแล้วก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัว ปล่อยให้ชายหนุ่มเดินอยู่ในหอคอยเพียงลำพัง เนื่องจากหลังไปที่พรีม่า มาเทียสก็ได้แวะมาทำงานเล็กๆ น้อยๆ ที่หอคอยของเอริเธียพอสมควร จนเฮลฮาวนด์ทั้งเจ็ดที่เฝ้าอยู่เปลี่ยนท่าทีจากเห่าขู่เป็นกระดิกหางน้ำลายยืดกับเนื้อที่เขานำติดไม้ติดมือมาให้ อีกทั้งตนเองยังชินแล้วว่า ห้องรับแขก (ซึ่งทีแรกช่างตีเหล็กถูกพาตัวไปข่มขู่ถามเรื่องแมนเดรกที่หายไป) อยู่ที่ใด และบริเวณใดของหอคอยเป็นเขตหวงห้ามบ้าง

    มาเทียสมุ่งหน้าไปหาแม่มดที่ห้องรับแขกนั้น หลังจากไม่เห็นเธอกินอาหารอยู่ในครัว

    เขากำลังจะเคาะประตูพอดี เมื่อได้ยินเสียงพูดเบาๆ แว่วมา

    เป็นเสียงผู้ชาย

    หากว่าผู้กล้าไม่ได้เพิ่งอยู่ร่วมกินมื้อเย็นกับตนเมื่อครู่ที่แล้ว ช่างตีเหล็กคงเดาไปว่าเป็นพี่ชายของเธอ

    แต่แน่นอนว่าไม่ใช่

    เป็นเกียรติจริงๆ ที่ท่านแม่มดดำคิดว่าข้าคือจอมมาร แต่ข้ารับรองว่าข้าไม่ใช่จอมมารแน่ๆ

    ท่านโยเวียส เล่นอย่างนี้ไม่ขำเลยนะ

    ช่างตีเหล็กยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะขยับหลบไปข้างๆ ประตู

    เขาเพิ่งนึกได้ว่าตนลืมอะไรไปเสียนาน ...เอริเธียเป็นสายของจอมมาร

    ข้าไม่ใช่ท่านโยเวียสจริงๆ ...คงเป็นเสียงของโยฮันน์ ผู้อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ของโรงเรียนผู้กล้า

    จะไม่ใช่ได้อย่างไร ชื่อก็โยเหมือนกัน แถมท่านรู้เรื่องกฎของจอมมารเสียขนาดนั้น จะมาอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจอมมารศึกษาก็ฟังไม่ขึ้นหรอก ไอ้กระดาษจดหมายที่ท่านเก็บไว้นั่น ที่จริงตั้งใจจะเอากลับมาใช้ซ้ำเพื่อลดรายจ่ายใช่ไหมเล่า หญิงสาวยังคงแย้ง ไม่ตลกเลยนะ นี่ท่านคิดจะทำอะไร รู้ทั้งรู้ว่าการแก้คำสาปของข้าขึ้นอยู่กับเทศกาลครั้งนี้ ท่านยังจะมาถล่มมันอีก ล้อเล่นกับนี้ดฮ็อกนี่ไม่เกินไปหน่อยรึ

    ท่านแม่มดดำ บ่นกับข้าไปก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ ชายอีกคนหัวเราะแหะๆ ข้าเองไม่รู้ว่าจอมมารคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าเกลียดชังมนุษย์ขนาดนั้น เขาจะคิดทำลายโลกเพื่อกวาดล้างมนุษย์ก็ไม่แปลกใช่ไหมล่ะ

    แต่ท่านโยเวียสไม่มีวันคิดทำอะไรแบบนั้นแน่

    ท่านพูดเหมือนกับรู้จักเขาเลยนะ แสดงว่าเป็นสายลับของเขาจริงๆ ใช่ไหมล่ะ

    แม่มดดำไม่ตอบอยู่เป็นนาน จนกระทั่งโยฮันน์พูดขึ้นมาเอง

    อ๊ะๆ อย่ากังวลเลย ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจอมมารศึกษา ย่อมเข้าใจดี ข้าไม่รายงานเรื่องท่านไปถึงสภาจอมเวท หรือสมาคมผู้กล้าหรอก ทำแบบนั้นก็เสียคนที่ควรสัมภาษณ์ไปเปล่าๆ มีตั้งหลายเหตุผลที่คนบางคนเลือกที่จะรับใช้จอมมาร การแก้คำสาปก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่...นั่นไม่ได้หมายความว่าจอมมารจะเห็นแก่ชีวิตของลูกน้องคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ จนทิ้งโอกาสทำลายอิลลูเซียครั้งสำคัญไปเพื่อลูกน้องคนเดียวเลยนี่นา

    ...ข้าชักจะเชื่อแล้วว่าท่านไม่ใช่ท่านโยเวียส เสียงของแม่มดดำเย็นเยียบขึ้น งั้นเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก เชิญกลับไปได้

    เห...ฟังดูใจดำพิกลนะขอรับ โยฮันน์หัวเราะแห้งๆ ก็ท่านเป็นคนเชิญข้ามาที่หอคอยท่านเอง จะไม่เชิญข้านั่งพักผ่อน ดื่มน้ำดื่มท่าสักหน่อยเลยหรือ ที่จริงนี่ก็เวลาอาหารเย็นแล้วด้วย

    ข้าไม่มีนโยบายเลี้ยงอาหารแขก สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เอริเธียตอบได้สมความหน้าเงิน แต่ถ้ากินวัชพืชที่มันขึ้นในแปลงปลูกพืชข้าได้ ก็ฝากถอนให้ด้วย อาจารย์สอนระบบนิเวศน่าจะแยกแยะพืชชนิดต่างๆ ออกสินะ

    ...ท่านทำเหมือนกับข้าเป็นตัวอะไรที่มีเขา เดินสี่ขา และร้องมอๆ เลยแฮะ

    ก็แล้วแต่จะคิด หญิงสาวตอบ แต่อย่าทำเนียนเด็ดผิดต้น หรือขโมยข้าวของออกไปจากหอคอยข้าล่ะ ข้าจะฟ้องเรียกค่าชดเชยจากท่านให้หมดตัวเลย

    ขอรับๆ เสียดายที่ข้าคงไม่ทำหรอก แค่นี้ข้าก็เป็นอาจารย์จนๆ เงินเดือนชักหน้าไม่ถึงหลังแล้ว แถมข้ากินวัชพืชไม่ได้ด้วย

    มีเสียงฝีเท้า และเสียงเปิดประตู

    มาเทียสยิ่งยืนพิงผนังไม่กระดุกกระดิก จนกระทั่งแขกของเอริเธียปิดประตูลง และหันมาทางชายหนุ่ม

    อ้าว! นั่นใครกัน

    เอ้อ...ช่างตีเหล็กมาเทียสขอรับ ข้าพาลูกศิษย์ของแม่มดดำมาส่ง

    อ้อ ท่านช่างตีเหล็กนี่เอง แล้วกัน ข้าทำให้ท่านรอนานหรือเปล่านี่

    ไม่เลยขอรับ ข้าเพิ่งมาถึงนี่เอง ชายหนุ่มพูดพลางเกาศีรษะ ก่อนจะลดเสียงลง ท่านโยฮันน์มาที่นี่ทำไมขอรับ

    อ้อ ท่านแม่มดดำชวนข้ามาคุยเรื่อยเปื่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก

    มาเทียสแกล้งถาม เพื่อให้อีกฝ่ายคิดไปว่าตนไม่ได้ยินเรื่องที่ทั้งสองพูดคุยกันเมื่อครู่ และดูเหมือนอาจารย์โรงเรียนผู้กล้าจะตอบด้วยเสียงสบายๆ ไม่ตึงเครียดอะไร

    ว่าแต่ข้าคงต้องรีบขอตัวก่อน มาถึงนี่ข้ายังไม่ได้จองโรงแรมเลย ไม่รู้จะหาที่พักได้ทันไหมนะ แถมอาหารเย็นก็ยัง—”

    ในครัวมีสตูว์อยู่ขอรับ ข้าทำให้แม่มดดำเอง ช่างตีเหล็กตัดสินใจบอก ตอนนี้ใส่อยู่ในหม้อ แต่กล่องอาหารที่วางบนโต๊ะเป็นของข้า ท่านโยฮันน์ตักไปสักกล่องก็ได้ วันหลังมีโอกาสค่อยนำกล่องมาคืนข้า

    เห...จะดีหรือท่านช่างตีเหล็ก

    ถือเสียว่าข้าเลี้ยงท่านขอรับ ชายหนุ่มยิ้ม และถ้าพักโรงแรมไม่ได้ ท่านมาพักที่บ้านข้าได้นะขอรับ เราพอมีที่ทางอยู่

    ท่านช่างมีน้ำใจ สมเป็นคนเมืองพาร์ฟจริงๆ โยฮันน์ยิ้ม พร้อมกับยื่นมือส่งมาข้างหน้า ข้าขอรับน้ำใจเรื่องอาหารเย็นก่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องที่พักค่อยดูกันอีกที

    ไม่เป็นไรขอรับ มาเทียสจับมือกับอาจารย์โรงเรียน...ก่อนจะรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา เขาขมวดคิ้ว ...เราเคยพบกันมาก่อนหรือเปล่าขอรับ

    เอ... โยฮันน์ชักมือกลับ ข้าเคยมาที่พาร์ฟเมื่อสองสามปีก่อน แต่คิดว่าไม่เคยพบท่านนะ

    งั้น...ข้าคงคิดไปเองขอรับ แค่รู้สึกเหมือน...เคยจับมือใครที่คล้ายๆ กับท่านมาก่อนนะ

    อ้อ อีกฝ่ายหัวเราะ เคยมีคนบอกว่าข้าหน้าโหล เลยทักผิดบ่อยๆ แต่ไม่นึกว่ามือจะโหลด้วยแฮะ

    ช่างตีเหล็กอดไม่ได้ที่จะหัวเราะรับ ก่อนที่อาจารย์โรงเรียนผู้กล้าจะขอตัวไปในที่สุด

    และมาเทียสก็เพิ่งนึกได้ก่อนเคาะประตูห้องรับแขกของแม่มดดำนั่นเอง...ว่ามือของโยฮันน์นั้นสากกร้านเกินกว่าจะเป็นแค่อาจารย์เขียนหนังสือ

    แต่คงเพราะเขาออกเดินทางเก็บข้อมูล ซ้ำน่าจะจบจากโรงเรียนผู้กล้าที่ตนสอนอยู่ จึงย่อมต้องใช้อาวุธเป็นบ้างกระมัง

     

    * * * * *

     

    ใคร เอริเธียอดถามอย่างหงุดหงิดไม่ได้ กับเสียงเคาะประตู

    ...คงไม่ใช่อีตาโยฮันน์รู้มากอะไรนั่นกลับมาใช่ไหม...

    ข้าเอง

    เมื่อรู้จากเสียงว่าไม่ใช่ แม่มดดำควรรู้สึกดีขึ้น ...ทว่าเจ้าของเสียงนั้นก็ยังเป็นคนที่เธอรู้สึกไม่อยากพบเช่นกัน

    มีธุระอะไร ถึงมาบุกรุกหอคอยข้ายามวิกาล หญิงสาวถามเสียงเย็น เดี๋ยวฟ้องเรียกเงินซะให้เข็ด

    ท่านก็รู้ว่าข้าไม่มีเงินให้ จะฟ้องให้ตัวเองเสียค่าทนายเล่นๆ ก็ตามใจ

    ...เข้ามา เอริเธียเริ่มเข่นเสียง ช่างตีเหล็กนั้นย้อนกลับเก่งขึ้นทุกวัน

    มาเทียสเปิดประตูเข้ามา และก้าวยาวๆ ไปนั่งบนเก้าอี้หลุมตะปู ซึ่งเวลานี้เก็บตะปูเรียบร้อยแล้ว โดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้เชิญ

    แม่มดดำนึกอยากใช้มนตร์เรียกตะปูขึ้นมาจากร่องตงิดๆ

    ข้าพาเอลี่กับอาร์คมาส่ง แล้วก็เอาสตูว์มาให้ท่าน

    อ้อ ขอบใจ เอริเธียทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หนังประจำของตน แต่ไม่เห็นต้องมารายงานตัวกับข้าเลย

    ข้ามีเรื่องจะถามท่านด้วย เลยคิดว่าคุยไว้ก่อนเนิ่นๆ จะดีกว่า

    หญิงสาวเลิกคิ้ว

    เรื่องอะไร

    เธอแอบหวังว่าเขาจะขอโทษเรื่องครั้งนั้น

    เอริเธียรู้ว่าเขารู้อยู่แล้ว เรื่องที่เธอเคยอยากเป็นจอมเวทขาวมากกว่าแม่มดดำ ดังนั้นที่ใช้มนตร์ขาวรักษาแผลเล็กน้อยให้เขาได้ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก หญิงสาวจึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องพูดทำร้ายจิตใจกัน

    แล้วเรื่องที่เธอบอกให้มาเทียสทำอาหารมาให้แทนเงินสามร้อยเกล ก็เพราะไม่อยากให้เขาต้องลำบากลำบนหาเงินมาให้ ช่างตีเหล็กไม่ได้มีเงินถุงเงินถังเหมือนพี่ชายของเธอ อีกอย่างนั่นก็เป็นอาหารที่เขาตั้งใจจะทำให้เธอด้วยอยู่แล้ว ก็เท่ากับเธอรักษาแผลให้ตอบแทนกับอาหาร ไม่จำเป็นต้องผ่านสามร้อยเกลด้วยซ้ำ

    ...แต่ถ้าอยากจ่ายจริง ข้าไม่เกรงใจหรอกนะ อยากให้เองช่วยไม่ได้... แม่มดดำคิดอยู่ในใจ

    ท่าน...สนใจเป็นนางแบบประกวดชุดเทพีฤดูใบไม้ผลิให้เมืองเราไหม

    เอริเธียกะพริบตาปริบๆ ในทันที

    ...ครั้นแล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะยาวนานจนแสบท้อง

    เจ้าเล่นมุกอะไร

    ข้าพูดจริงนะ มาเทียสขมวดคิ้ว สีหน้าออกจะบึ้งตึง

    ข้านี่นะ เป็นเทพีฤดูใบไม้ผลิ แม่มดถอดหน้ากากซับน้ำตา ด้วยกลัวหน้ากากเวทมนตร์ของตนจะพังไปอีกอัน นึกยังไงถึงมาขอให้ข้าเป็นนางแบบ

    นางแบบที่วางตัวไว้ประสบอุบัติเหตุขาหัก แอนนาลีเห็นหน้าตาที่แท้จริงของท่านเมื่อบ่ายวันนี้ เลยอยากให้ท่านมาเป็นนางแบบแทน

    แอนนาลี... เอริเธียทวนชื่อช้าๆ อ้อ หญิงคนรักของเจ้านี่เอง

    นางเป็นเพื่อนกับข้ามาตั้งแต่เด็ก เสียงของช่างตีเหล็กยังคงเคร่งเครียด

    หึ เพื่อนที่ไหนเขากอดกันกลมเวลาเจอหน้ากันอย่างนั้นหญิงสาวกอดอก เสมองไปอีกทาง

    นางทุ่มเทให้กับการประกวดครั้งนี้มาก รู้ว่านางแบบของตัวเองต้องถอนตัว จะไม่ตกใจมากได้อย่างไร

    เสียใจหรือ ข้าว่าผู้หญิงอาจจะรู้สึกอะไรมากกว่าที่เจ้าคิดหรอกนะ

    ก็แล้วแต่จะคิด แต่นั่นเป็นเรื่องของข้ากับนางไม่ใช่หรือ

    แม่มดดำขมวดคิ้วทันควัน ...จะบอกว่านั่นไม่ใช่เรื่องของข้างั้นสิ...

    ไม่ใช่ได้อย่างไร ถ้าเจ้าแต่งงานขึ้นมา ภาระรับผิดชอบย่อมเพิ่มขึ้น ก็เท่ากับมีเวลาว่างมาทำงานให้ข้าน้อยลงน่ะสิ หญิงสาวเสไปพูดอีกเรื่อง

    งั้นข้าก็ขอบอกไว้ ชายหนุ่มพูดช้าๆ ...ว่าข้ายังไม่คิดจะแต่งงาน ไม่ว่ากับใคร แต่ท่านจะรับเป็นนางแบบครั้งนี้ไหม แอนนาลีบอกว่ามีเงินรางวัลชนะเลิศให้สองหมื่นเกล

    แม่มดดำรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋งรื่นหูเป็นจังหวะ

    สองหมื่นเกลนั้นไม่ใช่น้อยๆ ต่อให้รวบรวมเงินพอสร้างปราสาทกระจกเงาได้แล้ว มีทุนเสริมไว้ย่อมดี

    ทว่างานครั้งนี้ยังมีปัญหา

    ขอโทษ ข้าเป็นแม่มดนะ ไม่ใช่—”

    นางงาม ข้ารู้ แต่ต่อให้มองไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริงของตัวเอง ใครๆ ก็เห็นกันทั้งนั้นว่าท่าน...เอ่อ...งามอย่างไร ถ้ามีคนรับผิดชอบแต่งตัวแต่งหน้าให้ ส่วนท่านก็มั่นใจในตนเองขึ้นอีกนิด ย่อมไม่มีปัญหาไม่ใช่หรือ

    ข้าได้บทเรียนมาว่าไม่ควรเชื่อใจใคร โดยเฉพาะ...ผู้หญิงที่อาจคิดว่าข้ากำลังจะแย่งคนรักของนาง แม่มดดำบอกโดยนัย ทำไมน่ะหรือ ...ความลับ ข้าไม่บอกเจ้าหรอกว่าข้าเคยโดนเพื่อนแกล้งแต่งหน้าทำผมให้จนเป็นตัวตลกในงานเลี้ยง แค่เพราะนางกลัวว่าผู้ชายที่นางแอบชอบจะมาชอบข้าเท่านั้นเอง

    เอ่อ... สีหน้าของมาเทียสอ่อนลง แทบเรียกได้ว่าเจื่อน ขณะที่เขาเกาศีรษะและเหลือบไปอีกทาง ข้า...ขอโทษ

    ช่างตีเหล็กไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เมื่อนั้นเอง เอริเธียก็ตระหนักได้ว่าตนเผลอหลุดความลับออกไปอีกอย่างแล้ว

    หญิงสาวรู้สึกได้ว่าหน้าของตนร้อนผ่าว จึงรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

    ขอโทษทำไม จ...เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย

    เธอไม่อยากได้ยินเขาพูดว่า เอ่อ...ท่านเพิ่งบอกข้าไปเมื่อครู่นี้เองนะ ทว่ามาเทียสดูเหมือนจะไม่ใจดำหรือซื่อบื้อขนาดนั้น

    ก็...ขอโทษที่ทำให้นึกถึงเรื่องไม่ดีท่าทางเวลาเขาก้มหน้าลงและพูดอย่างนั้น ทำให้หญิงสาวอดใจอ่อนไม่ได้...แต่ก็แค่ครู่เดียว

    ไม่อยากให้นึกก็อย่ามาขอให้ข้าถอดหน้ากากหน้าผู้คนสิเอริเธียตอกกลับ

    ช่างตีเหล็กเงียบไปครู่หนึ่ง จึงได้พูดขึ้นอีกครั้ง แต่แอนนาลีไม่มีทางทำอะไรอย่างนั้นหรอก หรือ...ถ้าท่านไม่อยากถอดหน้ากากจริงๆ ก็เสกหน้ากากให้ดูเหมือนใบหน้าที่แท้จริงของท่านไม่ได้หรือ ข้าได้ยินเฮลิออสบอกว่าหน้ากากนี้ใช้เวทมนตร์เปลี่ยนแปลงหน้าตาได้ตามต้องการนี่

    ก็จริง แม่มดดำรับ แต่สมาคมจอมเวทกลัวว่าหน้ากากนี่จะถูกนำไปใช้ในเพื่อการหลอกลวงหรือฉ้อโกงมากเกินไป เลยบังคับให้สร้างได้แต่หน้าตาจืดๆ ไปจนถึงอัปลักษณ์เท่านั้น ...ถึงอย่างไร คนหน้าตาไม่ดีก็ย่อมมีคนเชื่อถือหรือหลงใหลน้อยกว่าคนรูปงาม ไม่อย่างนั้นข้าคงเสกหน้ากากนี่ให้ดูสวยเหมือนใบหน้าจริงๆ ของตัวเองไปแล้ว

    มาเทียสเงยหน้ามองอย่างประหลาดใจ เหมือนเพิ่งตระหนักได้

    ...นั่นสินะ

    ดังนั้นอย่ามาเสียเวลากับข้าเลย ช่างตีเหล็ก ไปหานางแบบที่อื่นเถอะหญิงสาวลุกขึ้นยืนเป็นเชิงตัดบท

    แต่...ยังมีเฮลิออสอยู่นี่ ทว่าชายหนุ่มพูดขึ้นอีก

    หมายความว่าอย่างไร เอริเธียเหลียวกลับไปถาม

    ก็หมายความว่า...ต่อให้ท่านกลัวว่าคนอื่นจะแกล้งแต่งหน้าท่านไม่ดี เฮลิออสย่อมไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นแน่ ช่างตีเหล็กเอ่ยหนักแน่น ไม่มีพี่ชายคนไหนยอมให้น้องสาวตัวเองกลายเป็นตัวตลกของคนอื่นๆ หรอก ข้าเองก็เป็นพี่ชายเหมือนกัน มีสิทธิ์พูดอย่างนี้ใช่ไหม

    ฮึ แม่มดดำแค่นเสียงทันที ในงานนั้น เขาไม่แม้แต่จะเข้ามาพูดกับข้าด้วยซ้ำ ปล่อยให้ข้าถูกคนอื่นหัวเราะเยาะจนวิ่งหนีออกไปเอง เป็นพี่ชายที่แสนดีใช่ไหมล่ะ

    ท่านแม่มดดำ มาเทียสขมวดคิ้วเคร่งขรึม ข้ารู้ว่าเฮลิออสไม่ใช่คนอย่างนั้น น้องสาวอย่างท่านควรจะรู้ดีกว่าข้าเสียอีก ไม่ว่าตอนนั้นจะเกิดเรื่องอะไร ท่านจะไม่ให้โอกาสพี่ชายท่านได้แก้ตัวบ้างเลยหรือ

    หญิงสาวเชิดหน้าและกอดอก

    เธอไม่อยากพลาดหวังอีก พี่ชายที่เป็นผู้กล้ากลับเอาแต่ดูแลอย่างอื่น ปกป้องคนอื่น เพื่อนสนิทก็กลับหักหลังกันอย่างร้ายกาจที่สุด จอมมารโยเวียสที่เธอชื่นชมอุดมการณ์ก็คิดกำปั้นทุบดินแค่จะทำลายล้างโลก ...เช่นนี้จะไม่ให้เซเลน่าเคยหวังและผิดหวังมาจนเกินพอได้อย่างไร

    กระทั่งภาพเงาในกระจกยังหลอกลวงเธอ แล้วคนอื่นจะไม่หลอกลวงได้ง่ายยิ่งกว่าเชียวหรือ

    ...แต่เงินสองหมื่นเกล...

    อย่างน้อย ข้าคนหนึ่งล่ะที่ไม่แกล้งท่าน ช่างตีเหล็กพูดอีกครั้ง ข้าอยากให้แอนนาลีชนะอยู่แล้ว จะเอาท่านไปเป็นตัวตลกเพื่ออะไร ข้าอีกคนจะช่วยพี่ชายท่านดูเอง แล้วยังมีท่านอัลบัสกับคนอื่นๆ อีก

    ...เชอะ ที่แท้ก็ทำเพื่อตัวเองกันทั้งนั้น... เอริเธียคิด ...เอาเถอะ งั้นข้าจะทำเพื่อตัวเองเหมือนกัน...

    ก็ได้ แม่มดดำรีบเอ่ยโดยเร็ว แต่อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ทำเพื่อพี่ชายหน้าโง่ของข้า เพื่อเพื่อนหญิงของเจ้า หรือเพราะเจ้าขอร้อง แต่เพราะเงินสองหมื่นเกลนั่นต่างหาก ขืนใครมาทำให้ข้าไม่ได้เงิน ข้าจะขูดรีดเงินจากมันจนหยดสุดท้าย เข้าใจใช่ไหม

    ช่างตีเหล็กเพียงแต่รับคำง่ายดาย

     

    * * * * *

     

    คนเขียนขอคุย

     

            ตกลงโยฮันน์เป็นจอมมารหรือเปล่า ตะแกยังไม่ได้บอกคนเขียนเลยครับ รอดูต่อไปด้วยกันนะครับ (ซะงั้น 555)

            แต่อดรู้สึกไม่ได้เหมือนกัน มาเทียสผู้ฉลาดผิดช่างตีเหล็ก บทจะซื่อบื้อก็ซื้อบื้อได้อย่างคาดไม่ถึงแหละเนอะ ^^a

            ด้านของเอริเธีย ตอนนี้ก็รู้สึกกึ่งๆ พ่อแง่แม่งอนแบบแปลกๆ บวกเฉลยเบื้องหลังการกลั่นแกล้งสาวเจ้า ทีแรกผมคิดว่ามาเทียสอาจต้องเอาเรื่องที่เอริเธียเป็นสายของจอมมารมาแบล็คเมล์ให้ยอมเป็นนางแบบด้วย แต่ก็กลายเป็นเอาเงินล่อบวกความงอนของสาวเจ้านิดหน่อย ไปฉลุยกว่าที่คิดซะงั้น

            โยฮันน์=โยเวียส ตอนนี้ยังคงรอลุ้นกันต่อไปครับ ว่าแต่ก่อนเทศกาลจอมมารหรือใครจะลงมือก่อนหรือไม่ โปรดติดตามชมตอนต่อไปครับ :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×