คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : -- ๖ – สิ่งที่ครูเซเดอร์หนุ่มได้รับคำสั่งให้ ‘ลบล้าง’ -“นี่นาย! ระวังหน่อยสิ!”
๖ – สิ่งที่ครูเซเดอร์หนุ่มได้รับคำสั่งให้ ‘ลบล้าง’
ย้อนกลับไปเมื่อบ่ายวันนั้น...
หลังจากไปสารภาพบาปที่โบสถ์ ก่อนกลับโรงแรมที่พักเพื่อบังคับตนเองให้นอนหลับดับความฟุ้งซ่านลงบ้าง บิวเรนก็ไปยังตึกสำนักงานครูเซเดอร์ประจำเก็ตโตในตอนบ่ายแก่ๆ เพื่อรับ ‘ของ’ บางอย่างตามคำสั่ง แล้วเขากับแม่นมของท่านหญิงน้อยจึงช่วยกันขนช่อดอกไม้สด กับตะกร้าใส่ภาชนะทนความร้อนบรรจุอาหารกลางวันครบชุดไปที่ร้านหมอโจเซฟ เพื่อส่งอาหารเย็นให้เด็กชายคนเจ็บกับท่านหญิง
ปกติหน้าที่นี้เป็นของคุณแม่นมคนเดียว ถ้าไม่ใช่ผู้กองไวส์วอลด์ฝากดอกไม้ช่อเบ้อเริ่มให้เขาถือมา คงไม่มีโอกาสที่เขาจะได้แตะต้องชุดอาหารของธิดาพระมหาสังฆราชาแน่แท้
และเขาก็ไม่อยากแตะต้องนักหรอก ในเมื่อรู้ว่าจุดประสงค์ที่ตนต้องมาช่วยหอบหิ้วของพวกนี้คืออะไร
...แต่ก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ ไม่ใช่หรือ...
ผู้กองฮัมเบิร์ต ไวส์วอลด์ หรือฮัมบี้ หรืออะไรก็ตามนั่นไม่ใช่คุณชายหยิบโหย่ง ได้เป็นเทมพลาร์แค่เพราะเส้นใหญ่อย่างที่เขากับแม็กนัสค่อนขอดเลย บิวเรนรู้ซึ้งกับตัวเมื่อคืนนี้เองว่ามันเลือดเย็นได้ขนาดไหน
ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะสืบประวัติเขามาเป็นอย่างดี และไม่รีรอเลยที่จะยกเรื่องเลื่อนตำแหน่งและค่าตอบแทนลับๆ มาโน้มน้าว ไปจนถึงยกเรื่องความปลอดภัยของพ่อแม่พี่น้องมาขู่ชายหนุ่มอย่างเรียบๆ
...จะคิดมากอะไร มันก็แค่เด็กปีศาจตัวเดียว... เด็กหนุ่มพูดหยันๆ ...ยังไงเราก็ต้องประหารมันอยู่แล้ว แต่เพราะท่านหญิงเกิด ‘ติด’ มันขึ้นมา เลยต้องจัดการอย่างลับที่สุดเท่านั้นเอง...
...ฉันเมตตาแกขนาดไหนแล้ว ที่ให้ทำงานแก้ตัว แทนที่จะเอาผิดแกให้จมดิน คงไม่อยากให้ครอบครัวแกหายไปเฉยๆ ใช่ไหมล่ะ...
และสุดท้าย บิวเรนก็ถูกยัดเยียดหน้าที่เพชฌฆาตให้ พร้อมกับอาวุธสังหารคือซองยาอันเล็ก ใส่ผงสีขาวละเอียด ผู้กองไวส์วอลด์บอกเขาว่ามันจะทำให้ใครก็ตามที่กินเข้าไปค่อยๆ รู้สึกง่วงหลับในครึ่งชั่วโมง และมีอาการคล้ายหัวใจล้มเหลวไปเองในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา จะไม่มีใครจับได้ด้วยซ้ำว่าเด็กนั้นถูกวางยา
เขาไม่อยากทำหรอก แต่ให้เลือกระหว่างครอบครัวของตัวเองเป็นอันตราย กับเด็กที่เขาแทบไม่รู้จักเลยคนเดียวตายไป มันก็ต้องเป็นอย่างหลังอยู่ดีไม่ใช่หรือ
บิวเรนตามแม่นมของท่านหญิงเข้าไปในครัวของร้านหมอโจเซฟได้อย่างง่ายดาย ดูเธอจัดอาหารแต่ละอย่างใส่จานชามกระเบื้องเนื้อดีที่เตรียมมา ทั้งขนมปังหอมกลิ่นเนย ซุปข้น สลัดผักสด อาหารจานหลักที่เป็นปลาอบกับผักบางอย่าง ราดน้ำเกรวี่ควันฉุย และของหวานที่เป็นเค้กครีมสดกับสตรอเบอร์รี่ โรยผงน้ำตาลละเอียดเป็นละอองขาว ซ้ำน้ำดื่มยังเป็นน้ำผักผลไม้รวมปั่นสีสวยเสียอีก
หากสภาพจิตใจยังเป็นปกติ ชายหนุ่มคงน้ำลายสอที่ได้เห็นอาหารจากวัตถุดิบธรรมชาติดีๆ ซึ่งตนไม่เคยเห็นต่อหน้าอย่างนี้มาก่อน เผลอๆ จะนึกอิจฉาท่านหญิงจอมเอาแต่ใจ กับเด็กชายที่จู่ๆ เหมือนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดให้เจ้าหล่อนบำรุงบำเรอด้วยซ้ำ
แต่เมื่อตระหนักรู้ว่าเจ้าเด็กปีศาจต้องตายในคืนนี้ ซ้ำด้วยมือของเขาเอง ชายหนุ่มก็ได้แต่นึกขอโทษมันอยู่ในใจ พร้อมกับปลอบตนเอง ว่าอย่างน้อยมันก็โชคดีที่ได้กินอาหารหรูหราเยี่ยงราชาเป็นมื้อสุดท้ายก่อนตาย
ชายหนุ่มอาศัยจังหวะที่แม่นมตรวจดูความเรียบร้อยของดอกไม้ เข้าไปใกล้อาหารสองสำรับที่จัดไว้ แล้วก็รีบเทผงยาพิษที่ได้มาลงบนของหวาน ผสมกับผงน้ำตาลที่โรยหน้าไว้ทันที
ใส่พิษในอาหารเสร็จสิ้นโดยไร้อุปสรรค เหลือแต่นำไปให้เด็กนั่นเท่านั้น
บิวเรนจำได้ติดใจว่าตนโรยผงพิษใส่ของหวานในสำรับไหน และเขาก็ยกสำรับนั้นขึ้นไปข้างบนพร้อมแจกันดอกไม้ ขณะที่แม่นมยกสำรับของท่านหญิงลูเชียส
เป็นงานเล็กๆ ที่ไม่ควรจะลำบากอะไรเลย กระนั้น ชายหนุ่มยังรู้สึกร้อนๆ เย็นๆ ไปทั่วแผ่นหลังจนสบถด่าตนเอง ...เขาเป็นครูเซเดอร์ เคยรบชายแดน เคยฆ่าคน กระทั่งเด็กอัสลานยังยิงทิ้งได้โดยไม่ลังเล แล้วทำไมฆ่าเด็กปีศาจนอกรีตสักคนจึงได้รู้สึกหวั่นเกรงนัก
...อาจเป็นเพราะนี่ไม่ใช่สนามรบ ไม่ใช่วิธีซึ่งหน้า และใจจริงเขาก็ไม่อยากฆ่าเด็กตาใสที่ไม่มีทีท่าจะทำร้ายตนเองก่อนคนนี้ แต่มาคิดไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดเลย...
“นี่นาย ! ระวังหน่อยสิ !” แค่เสียงแหวของท่านหญิงก็ทำเขาสะดุ้ง “มือสั่นแบบนี้ เดี๋ยวอะไรก็ได้กระเด็นลวกนิกซ์เข้าหรอก !”
“ข...ขอโทษครับ ท่านหญิง ผ...ผมไม่เคยเห็นอาหารดีๆ ต่อหน้าแบบนี้มาก่อน ล...เลยตื่นเต้นไปหน่อย” เขาพยายามกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะ แต่เมื่อเห็นอมาเนเซรา ลูเชียส จ้องอย่างเอาเรื่องก็เงียบไป
เอาเถิด ไม่ช้าการยกอาหารก็ผ่านไปได้ด้วยดี และบิวเรนก็ยืนเฝ้าอยู่ในมุมห้องอย่างเงาไร้ตัวตน ขณะที่ท่านหญิงกับเด็กปีศาจกินอาหารมื้อเย็นไปพลางคุยไปพลาง ทุกอย่างท่าทางจะไปได้สวย...
...อย่างน้อยก็จนเขาได้ยินคำพูดที่ทำให้ตนใจหายวาบ...
“นี่...สตรอเบอร์รี่เหรอฮะ” เด็กชายถามอย่างสงสัย
“อื้อ เคยกินมั้ย” ท่านหญิงตอบ
“เคยแต่แบบที่เป็นแยมกับของอบแห้งฮะ ไม่เคยกินลูกสดๆ มาก่อนเลย”
“ลูกสดสิถึงจะอร่อย เอางี้ เปลี่ยนกับของฉันมั้ย จานของฉันสตรอเบอร์รี่มากกว่า แถมลูกใหญ่กว่าด้วย”
“ม...ไม่ต้องหรอกฮะ”
“เถอะน่า ฉันกินจนชินแล้ว นายเพิ่งได้กินทั้งที ก็ลองให้เต็มที่ไปเลยสิ”
“ก...ก็ได้ฮะ”
เสียงรับอย่างว่าง่ายทำให้บิวเรนแทบไม่เหลือสติ เขารีบปราดจากประตูห้องไปยังโต๊ะวางอาหารตัวเล็กที่ตั้งเหนือเตียงคนไข้ ปัดจานของหวานที่เด็กชายมีเขายกขึ้นจนคว่ำหลุดจากมือ
จานกระเบื้องเนื้อดีแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ส่วนขนมชิ้นสวยกลิ้งลงไปกองบนพื้น ทิ้งรอยเปื้อนแดงและขาวไว้เป็นทางบนเสื้อคนไข้กับผ้าห่ม
“ทำอะไรของนาย !” ท่านหญิงตวาดพร้อมกับลุกขึ้นทันที
“ข...ขอโทษครับท่านหญิง ส...สงสัยเมื่อคืนผมพักผ่อนไม่พอ เมื่อกี้...เมื่อกี้เลยหน้ามืดวูบไป”
“เชื่อเขาเลย ครูเซเดอร์ประสาอะไร เดี๋ยวฉันสั่งท่านพี่ลดขั้นซะให้เข็ด !”
“เซราอย่าโกรธคุณบิวเรนเลยฮะ” นิกซ์พูดขึ้น “ก็คุณบิวเรนเขาไม่ได้ตั้งใจนี่นา”
“ครูเซเดอร์ในขณะทำงานต้องตื่นตัวอยู่เสมอ ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด” เด็กหญิงยังเอ่ยเสียงแข็ง “ถ้าเกิดเหตุลอบสังหารแล้วครูเซเดอร์หน้ามืดขึ้นมาจะทำยังไง อีกอย่าง จานกระเบื้องนี่ไม่ใช่ถูกๆ ...แค่หักค่าเสียหาย นายก็เตรียมไม่มีเงินเดือนกินไปได้อีกสามเดือนแล้ว ยิ่งกว่านั้น ถ้าเศษกระเบื้องโดนใครเข้าจะเป็นยังไง ! ซุ่มซ่ามอย่างนี้มันน่าปลดมั้ย !”
“ข...ขอโทษจริงๆ ครับ ท่านหญิง” ชายหนุ่มคอตก หน้าซีดเผือด ได้แต่ปลอบตนเองว่าจนกรอบไปสามเดือนยังดีกว่าถูกประหารเพราะคนเข้าใจว่าลอบสังหารท่านหญิงลูเชียสแน่นอน
“ร...เรื่องเล็กน้อยเองฮะเซรา แล้วก็ไม่มีใครเป็นอะไรด้วย อย่าโกรธคุณบิวเรนเลยฮะ” เด็กชายปีศาจกลับพูดช่วยเขา จนท่านหญิงพออารมณ์เย็นลงบ้าง ชายหนุ่มจึงรีบเก็บเศษขนมใส่ถุงขยะออกไปทิ้งด้านหลังร้านหมอ ไม่รอฟังเด็กทั้งสองตกลงกันว่าใครจะได้กินเค้กไร้ยาพิษที่เหลืออยู่จานเดียว จากนั้นก็รีบจ้ำกลับโรงแรมเล็กๆ ซึ่งเขาพักอยู่กับแม็กนัส
บิวเรนไม่รู้ว่าผู้กองไวส์วอลด์จะว่าอย่างไรอีกที่แผนลอบฆ่าผิดพลาด ชายหนุ่มปวดหัวแทบระเบิด รู้แต่ว่าตนอยากไปจากที่นี่ ไปอยู่คนเดียว ไปหาอะไรสักอย่างที่จะช่วยลบล้างความตึงเครียดจนประสาทจะบิดเป็นเกลียวอยู่แล้ว
* * * * *
ความคิดเห็น