ตอนที่ 14 : + DR + 13 +
คิดแล้วก็เบ้ปากออกมาทั้งๆ ที่ก้มหน้าดูดเครื่องดื่มของตัวเองอยู่
ฉันพยายามคิดหาเหตุผลว่าเพราะเหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงได้เปลี่ยนนิสัย ซึ่งมันผิดแผกจากตอนที่อยู่กับฉันสองต่อสองได้รวดเร็วอย่างแยบยลนัก เอาง่ายๆ คือตอน นี้ซีลัสดูเป็นผู้ชายที่น่าคบหาคนหนึ่ง ภาพลักษณ์ของชายผู้นี้กลมกลืนกับคำว่าคนดี
เขาสร้างภาพแม้กระทั่งกับลูกหมาตัวเล็กๆ เลยหรือไง เป็นไปได้มั้ยที่เจ้าไข่ตุ๋นจะกลายเป็นหมาในการอุปการะของเขา ฉันเห็นมันวิ่งเล่นที่มหา’ลัยอยู่ดีๆ นายคนนี้จะมาตู่ว่าเป็นเจ้าของมัน ไม่งี่เง่าไปหน่อยเหรอ!
ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ... คิดคนเดียวไปเรื่อย รู้ตัวอีกทีฉันก็ดูเป็นคนที่ไร้ตัวตนที่สุดในโต๊ะไปเสียแล้ว
ผู้ชายหน้าตาดีทั้งสองคนแลกเปลี่ยนความคิดผ่านคำพูดที่ดูมีการศึกษา และการวางตัวต่อหน้าคนไม่คุ้นเคยอย่างดีจนสมควรได้รับคำชม อีกคนก็หล่อคมเข้ม ส่วนอีกคนก็หล่อในแบบฉบับผู้ชายไฮโซในเมืองหลวง
ดูเหมือนอดีตพี่ชายข้างบ้านของฉันจะชอบผู้ชายอันตรายคนนี้มากๆ เพราะตั้งแต่มาถึงพี่คิมหันต์ก็พูดไม่หยุด ซีลัสก็ไม่เกี่ยงที่จะตอบคำถามยามที่พี่คิมสอบถามสิ่งใด
อาจจะเป็นเพราะการวางน้ำเสียงของซีลัสมันน่าฟัง ใครได้อยู่ใกล้มีอันต้องเคลิ้ม เขามีวิธีพูดในแบบของเขา เหมือนคนเจ้าเสน่ห์ไปเสียทุกอย่างแม้กระทั่งการวางมือบนแก้วเครื่องดื่ม ยามยกขึ้นมาดูดดื่มเส้นเลือดบนอวัยวะส่วนนั้นก็เด่นขึ้นเหมือนภาพวาดมีชีวิต ซีลัสสามารถทำให้กาแฟราคาไม่หนักกระเป๋าดูแพงขึ้นมากเวลามือเขาวนเวียนอยู่กับแก้วเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนนั่น
ฉันถอนสายตาหนีจากคนทั้งสอง
เรื่องที่เขาใช้คุยกันส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ และหนึ่งอย่างที่ฉันเพิ่งรับรู้นั่นคือพี่คิมหันต์ทำงานเป็นสัตวแพทย์อาสาสมัคร เขาตะเวนไปทั่วประเทศเพื่อรักษาสัตว์ที่ป่วยแต่ด้อยโอกาสทางการรักษา
ส่วนผู้ชายจอมสร้างภาพอย่างคุณศิตานนท์อะไรนี่ ก็ไม่ยอมง้างปากเลยว่าทำอาชีพอะไร คือใคร อยู่ที่ไหน แค่บอกว่าชอบช่วยเหลือสัตว์ก็เท่านั้น
นักบุญ ใจบาป หึ!
“พอดีไข่ตุ๋นเป็นลูกหมาในความดูแลของผมแต่ไม่ได้อยู่กับผมครับ” กะจะทำตัวเป็นคนหูทวนลมเสียหน่อยก็ทำไม่ได้ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฉันเลยฟังซาตานจอมสร้างภาพชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่คิม แต่ไม่ว่ายังไง การเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขาก็ยังดูรวบรัดไปหมด
“อ๋อครับ...”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้น...ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ซีลัสว่าพลางมองหน้าฉันคล้ายพยายามส่งกระแสคำสั่งอะไรสักอย่างผ่านสายตา ซึ่งจังหวะนั้น ฉันเมินหน้าเขาอย่างกล้าหาญ สั่งตัวเองว่าต้องใจแข็ง ทำเป็นไม่มองทำเป็นไม่เห็นเข้าไว้ เดี๋ยวเขาก็รำคาญแล้วเลิกสุงสิงกับฉันไปเอง
“เดินทางปลอดภัยนะครับ หวังว่าโอกาสหน้าเราจะได้เจอกันอีก...”
“ยินดีครับ” พวกเขาตอบโต้กันอย่างสุภาพ ฉันลุกขึ้นก่อนใคร หวังจะหนีจากตรงนี้ไปรอพี่คิมด้านนอก
“ฮานะ งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งเธอเอง” พี่คิมเรียกฉัน ก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่ทำจะทำต่อไปกับฉันในทันที ดูเหมือนร่างกายของฉันมันจะจูนกันกับกระแสจิตของซีลัสอยู่ตลอดเวลา เพราะจบสิ้นการลั่นวาจาของพี่ชายข้างบ้าน ฉันก็มองบุคคลที่สามโดยไม่ได้ตั้งใจ และพี่คิมที่กำลังยิ้มอย่างใจดี คงไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้สีหน้าของซีลัสนั้นดูแข็งกร้าวขนาดไหน
ทั้งๆ ที่ฉันเถียงเขาว่าฉันไม่กลัวเขาเลยแม้เพียงนิด แต่เวลานี้เลือดในกายของฉันมันกลับปั่นป่วนเสมือนมันต่อต้านและเตือนสติฉันว่าอย่าไปกับพี่คิมจะดีกว่า
“ไปรอพี่ที่หน้าร้านนะเดี๋ยวพี่ไปเอารถก่อน” พี่คิมหันต์บอกกับฉันพลางเดินหายไป ร่างสูงเดินไปแล้วและฉันคงหมดโอกาสปฏิเสธ
ฉันรีบทำตามที่พี่คิมหันต์บอก ไม่ใช่เพราะว่าเป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้ใหญ่อะไรหรอกนะ แต่กลัวว่าหมาบ้าที่หายใจเข้าออกถี่ๆ ซ้ำยังขบกรามแน่นแถวนี้จะแว้งกัดเอาอีก
หมับ!
แต่ก็ว่าแล้วเชียว...
“จิ๊!” ฉันหลุดอุทานเสียงเบา และแทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อจู่ๆ ผู้ชายใจร้ายได้กระชากข้อมือบางของฉันไว้อย่างถือสิทธิ์ เขาเผยอาการคลั่งอย่างไม่น่าไว้ใจ ร่างสูงลงแรงขยี้ข้อมือฉันจนเกิดเสียงกระดูกถูกบด แค่ดึงธรรมดาฉันก็ตัวปลิวแล้ว แต่เขากลับลากฉันหน้าดำหน้าแดงไปมุมอับของร้าน มันเป็นมุมด้านในสุดที่มีชั้นหนังสือบังสายตาคนด้านนอกไว้ ซีลัสทำเหมือนรู้ว่าอะไรตั้งอยู่ตรงไหนยังไงยังงั้น เจ้าของเรี่ยวแรงแข็งแกร่งเหวี่ยงร่างฉันจนไหล่บอบบางปะทะกับกำแพงร้านที่เป็นปูนเปลือยอย่างแรง
“เป็นบ้าอะไรอีก!” กรอกเสียงถามลอดไรฟัน ไม่อยากให้เสียงแว้ดของฉันเป็นจุดสำคัญให้ใครต่อใครหันมามอง
“เอาโทรศัพท์มา...” ซีลัสแบมือขอ พอเห็นว่าเขาทำแบบนั้นฉันเลยยกมือปัดมือเขาทิ้งแบบไม่ไว้หน้า ผู้ชายไร้มนุษยธรรมเจ้าของกระทำพฤติกรรมถึงเนื้อถึงตัว อย่างน่ารังเกียจนี่ ยึดติดกับคำว่าเอาแต่ใจตัวเองมากไปแล้ว
นี่เขาโตมากับการสปอยล์ของพ่อแม่อย่างร่ำไรมากสินะ ฉันละอยากจะแสดงความยินดีต่อบุพการีของเขาเหลือเกินที่เขาเป็นแบบนี้
“อย่ามาหาเรื่อง ถอย” ฉันเงยหน้าสั่งร่างที่สูงกว่า ดวงตาร้ายกาจจ้องฉันอยู่เหมือนคนกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันก็อยากเชิดหน้าจ้องเขาคืนอยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดที่ว่าซีลัสเขากำลังหรี่ตามองฉันก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ ใบหน้าหล่อครบเครื่องเลื่อนมาประชิด คุณสมบัติชอบคุกคามชาวบ้านชาวเมืองที่ซีลัสมีติดเป็นเครื่องรางประจำตัว เป็นชนวนชวนให้ใจฉันตกลงไปในหลุมของความวิตกกังวล อยากผลักเขาออกไปให้พ้นๆ แต่มือไม้ก็สั่น ร่างกายก็แข็งทื่อไปหมด
“อย่า คุณรวยแถมยังดัง อยากตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งหรือไง”
“คำพูดฉลาดขึ้น แต่ฟังดูปัญญาอ่อนเหลือเกิน ใครมันจะมาตามถ่ายรูปฉันในร้านโกโรโกโสนี่กัน”
“คุณ!”
“...” ซีลัสแค่นหัวเราะแล้วโน้มหน้าลงมาจนจมูกเราเสียดผ่านกันและกัน ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น และตกใจจนสะดุ้งเมื่อคนบ้าล้วงมือเข้ามาในกระเป๋ากระโปรงของฉันแบบไม่สนใจว่าฉันจะรู้สึกอายมั้ย ถ้ามีใครบังเอิญเดินมาเห็น
“ไอ้บ้า อ๊ะ!”
“ซ่านักนะ เอาแฟนมาโชว์ผัว ทำไมไม่สำนึกบ้าง ว่าผัวเธอน่ะไม่ได้ใจดี!” พูดไปค้นหาไป แม้จะไม่ได้ตั้งซุกไซ้แต่ใบหน้าเขาก็เข้าใกล้ฉัน แล้วมันช่างดูอันตรายไปเสียทุกการขยับจริงๆ
“หยุดนะ นี่คุณเป็นอะไร เอามือออกไป แล้วจะพูดอะไรก็ระวังปากหน่อยได้ มั้ย อ๊ะ...” ฉันร้องประท้วงอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่คงจะแดงก่ำ ทั้งยังพยายามกลั้นน้ำ ตาเอาไว้เพราะไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอให้คนสารเลวอย่างเขาได้เห็น
อยู่ใกล้เขาเหมือนโดนเงาปีศาจครอบทับจิตวิญญาณ หัวสมองเกิดความโง่กว่าเก่า เหมือนถูกไม้ขนาดใหญ่ตีเอาๆ จนมึนงงและไม่สามารถต้านทานแรงโรคจิตของเขาได้
ฉันนิ่ง มือหนาเลยได้ใจ จับร่างฉันเหวี่ยงไปมาไม่นานคนควานหาโทรศัพท์มือถือของฉันอยู่นานก็เจอ ซีลัสดึงโทรศัพท์ออกจากที่ซ่อนออกไปแล้ววุ่นวายกับหน้าจอ
“เอามา ฮึก คนหยาบคาย” ฉันนึกสภาพตอนตัวเองโดนล้วงกระเป๋าเมื่อสัก-ครู่นี้แล้วทำใจให้ไม่คิดมากไม่ได้จริงๆ
“ขอแล้วไม่ไห้ดีๆ มันก็ต้องทำแบบนี้” ซีลัสกดโทรศัพท์ของฉัน คิ้วหนาได้รูปขมวดเป็นปมยามสายตาเรียวคมจ้องมองอะไรสักอย่างบนหน้าจอ
“เอามา!” ร้องขอของคืนพลางกลั้นสะอื้นเหมือนเด็กน้อยโดนคุณพ่อขัดใจ แต่เขาก็เอาแต่เฉย เขามึนที่สุด บุคคลคนนี้สามารถสร้างปรากฏการณ์คลั่งในอกให้ กับฉันเป็นอย่างมากจริงๆ ฉันโมโหจนอยากกำหมัดแน่นแล้วต่อยหน้าเขา ต่อยแรงๆ ให้เลือดเขาออกมาจนหมดตัวแล้วตายๆ ไปซะ ฉันเกลียดเขา เกลียดที่แพ้เขาอยู่ได้
“...”
“เอามานะ...”
“หยุด ถ้าทำให้ฉันหงุดหงิดไปกว่านี้ ฉันจะลากเธอไปเอาบนรถแน่...ฮานะ!” เท้าที่กำลังจะเดินเข้าไปแย่งโทรศัพท์ตนเองจากมืออีกฝ่ายชะงักกึก ร่างหนาไม่ได้ลงทุนใช้อะไรมายับยั้งอาการดื้อรั้นของฉันมากนัก แค่ใช่สายตาเอาจริงกับประโยคที่ได้ฟังแล้วชวนตบปากขู่กัน ฉันก็นิ่งงันเหมือนถูกสาปให้เป็นหินแล้ว
ฉันยืนนิ่งมองชายหนุ่มมาดผู้ดีแต่สันดานคนละเรื่องครอบครองทรัพย์สินของตัวเองอย่างคนจนปัญหาหาทางปกป้อง
Rrrrrrr...
และถือว่าโชคดีที่โทรศัพท์มีสายเข้า เจ้าของใบหน้าทรงเสน่ห์เริ่มเผลอ ฉันเลยยื่นมือไปคว้าแล้วแย่งคืนมาได้ ปลายนิ้วเรียวรีบกดรับสายที่โทรเข้ามาอย่างไม่ลังเลใจ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่ในที่มืดกับซีลัสสองต่อสอง คิดว่าใครก็ในตอนนี้ ใครก็ได้สักคนที่โผล่เข้ามาไม่ว่าจะดีหรือร้ายฉันจะขอความช่วยเหลือจากเขาคนนั้น แต่ฉันก็ไม่ได้ลืมว่าคนตรงหน้านี่เจ้าเล่ห์ขนาดไหน ซีลัสเหมือนเด็กน้อยไม่มีความยอมกัน เขายังหน้าด้านเดินเข้ามารวบเอวฉันแล้วยื้อแย่งโทรศัพท์มือถือกลับไปเป็นพัลวัน แต่เพราะรอบนี้ฉันเตรียมรับมือความเอาแต่ใจของอีกฝ่ายมาดี เลยออกแรงผลักร่างสูงจนเขาเซไปโดนชั้นวางหนังสือ
พรึ่บบบบ!
(ฮานะ... ฮานะได้ยินพี่มั้ย รับแล้วทำไมไม่พูด)
“...” ฉันกลืนน้ำลาย ปล่อยให้ปลายสายถามไถ่ด้วยน้ำเสียงร้อนรน แววตาสั่นระริกมองคนเลวตรงหน้าอย่างคนระวังภัย และเพราะร่างสูงที่ถูกผลักเข้าใส่ชั้นหนังสือผลีผลามผละออกมา เลยพานทำให้หนังสือตกจากชั้นวาง ซึ่งนับว่าดีเพราะทันทีที่พนักงานรู้แล้วว่าตรงนี้มันมีการเคลื่อนไหวอันเกิดจากความผิดปกติ เธอจึงเดินหน้าตั้งเข้ามา
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ!”
ฉันมองหน้าพนักงานสาวด้วยสายตาขอบคุณที่เธอเข้ามาช่วยยื้อให้ฉันเอาชีวิตรอกจากเงื้อมือซาตานไปได้ เมื่อเห็นหนทางหนีจึงนำพาร่างผอมบางเดินผ่านซีลัสไป ฉันกลัวเหลือเกินว่าชายหนุ่มผู้มีลักษณะเหมือนจะไม่ยอมให้ผืนโลกอยู่เหนือ กว่าฝ่าเท้าอย่างเขาจะกระชากแขนฉันแล้วจับฉันไปกักกันพร้อมกับลงมือกรีดหัวใจกันอย่างที่เขาขู่ แต่ก็ไม่
ฉันสามารถเดินผ่านคนใจดำมาอย่างง่ายดาย แต่เรียวแขนเล็กก็ยังอุตส่าห์เบียดโดนร่างกายเขา เพียงแค่เฉียดกันกายหนาอุ่นพลันปล่อยกระแสอะไรสักอย่างออกมาให้อุณหภูมิในกายฉันสะท้านเล่น ฉันพยายามไม่มองหน้าอีกฝ่ายที่จ้องหน้ากันคล้ายคนขบคิดหาวิธีกำราบฉันให้ได้
ถึงจะพยายามไม่ร้อง แต่พอนึกถึงช่วงเวลาที่ซีลัสขุดเรื่องราวงี่เง่ามาข่มกัน หัวใจฉันก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด จะไม่ให้เสียใจได้ยังไง จะไม่ให้เสียน้ำตาได้ยังไง ซีลัสเป็นคนไม่ดี เป็นคนไม่ดีที่ฉลาดพูด ฉลาดพูดในทางที่เลว ฉลาดพูดจาข่มหัวฉัน
ฉันสูดลมหายใจ มองออกไปยังนอกร้านก็พบว่ารถยนต์ขนาดเจ็ดที่นั่งสีดำสนิทของพี่คิมหันต์จอดเทียบอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว เพื่อเป็นการตัดปัญหาหากอีกฝ่ายเห็นว่าทำไมหน้าฉันถึงดูไม่ดี สองมือเลยยกปาดน้ำตา พลางปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มเข้าไว้ แล้วรีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านในก่อนที่ซาตานร้ายนั่นจะออกมาตอกย้ำว่าเขาเป็น 'เจ้าของ' ร่างกายฉันให้เจ็บใจเล่นอีก
เป็นไปอย่างที่คาดคิด พี่คิมถามถึงเหตุผลของการออกจากร้านที่ล่าช้าแล้วฉันก็แค่โกหกออกไป หลังจากที่เข้ามานั่งในรถ ฝนก็ริน หน้าปัดน้ำฝนรถคันใหญ่เริ่มถูกผู้ขับสั่งให้ทำงาน
ฝนกำลังจะตกอีกแล้ว...
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน เจอเขาทีไร... ฝนตกตลอดเลย...
แต่ไม่ว่าจะชีวิตจริงหรือจิตใต้สำนึก ฉันก็ไม่อยากพบไม่อยากเจอเขาอีกแล้ว!
(HANA END)
Dark Rian เสี่ยงหัวใจท้าทายซาตาน
I Need Love ปรารถนาหัวใจซาตาน
You Are My Peach เมื่อหัวใจมันสั่งให้คลั่งคุณ
You In Me คนโปรดในกรงรัก
I Don't Mind ไม่อยากเสียโอกาสรัก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

3,177 ความคิดเห็น
-
#3117 seehamat009 (จากตอนที่ 14)วันที่ 11 เมษายน 2563 / 11:51รอค่าาาา#3,1170
-
#3115 seehamat009 (จากตอนที่ 14)วันที่ 11 มีนาคม 2563 / 23:46เจิมมมมมม#3,1150
-
#3114 ช็อกโกแลตร้อน/Hot chocolates (จากตอนที่ 14)วันที่ 11 มีนาคม 2563 / 23:21เจิมมมมมมมม#3,1140
-
#2709 janeBJ (จากตอนที่ 14)วันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 / 00:48รออออออ#2,7090
-
#2708 _MildOEY_ (จากตอนที่ 14)วันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 / 00:20ใจอ่อนอีกแล้วฮานะ#2,7080
-
#2707 nisakhaow (จากตอนที่ 14)วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 / 20:33โอ้ยๆๆๆเจ็บปวดๆๆไตจิวายๆๆ#2,7070