[SF] Paradise...ขอบคุณสวรรค์ ( Chanyeol X Baekhyun ) - [SF] Paradise...ขอบคุณสวรรค์ ( Chanyeol X Baekhyun ) นิยาย [SF] Paradise...ขอบคุณสวรรค์ ( Chanyeol X Baekhyun ) : Dek-D.com - Writer

    [SF] Paradise...ขอบคุณสวรรค์ ( Chanyeol X Baekhyun )

    ฝนตกอย่างกับฟ้ารั่ว...ตกจนน้ำจะท่วมโลกอยู่แล้ว !!! ตกอย่างเดียวไม่ว่า...ดันพาตัวสูงๆตกลงมาเป็นของขวัญให้อีก อย่างนี้...ต้องขอบคุณสวรรค์ ใช่มั้ยนะ?? >//

    ผู้เข้าชมรวม

    576

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    576

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    7
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ส.ค. 56 / 10:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น









    สวัสดีค่ารีดเดอร์ ><!!

    กรี๊ดๆๆ~ไรเตอร์ติดใจชานแบคไปซะแล้ววว ><!!
    ฝาก SF  เรื่องนี้ด้วยน้า


    ใสๆน่ารักๆฝุดๆ  ไม่มีพลิกไม่หักมุม
    หวานน้ำตาลขึ้นล้วนๆๆๆๆๆๆ  
    เลื่อนลงไปอ่านได้เลยค้าบบบบบบบบบบบบบ !!!








    Just Love...เพียงรัก (Chanyeol X Baekhyun)

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=996801

    ฝากฟคกึ่งสั้นกึ่งยาวของไรท์ไว้ด้วยน้าๆๆๆ
    อิอิ  จิ้มๆเลยจ้า  รักที่สุด ชุ้บๆๆ -3-

    รักหยอยกะแบคให้ทำปากจู๋นะ !!






     
    :)  Shalunla :) Shalunla
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title : Paradise

      Author : Maii_ii

      Paring : Chanyeol X Baekhyun Ft.Kris X Lay

      Status : Short fiction

      Atour ‘ s :  ก็ตามหาแรงบันดาลใจ  จนไปเจอเพลงนี้เข้า

      เห็นรูปโมเม้นต์ที่สองคนกางร่มให้กันบ่อย

      ภาพมันก็วิ่งมาตามเนื้อเพลง  ก็เลยเขียน  วันเดียวจบ  ฮ่าๆๆ

      ขอให้มีความสุขกับฟิคชั่นเรื่องนี้ค่ะ ^^

      Data : 11/08/13

       

      _______________________________________________________________________

       

      เปรียบดั่งสวรรค์ได้มอบของขวัญที่ไม่เคยฝันว่าจะมีซักวันที่ได้อยู่กับเธอ

      สุขใจแค่ไหน  อุ่นใจแค่ไหน  เมื่อเวลานี้ฉันมีเธอ...ฉันมีเธอ

      เธอเดินอยู่ข้างเคียง...ไม่มีวันไปจากเธอ...

       

      ตัวเล็กๆของบยอน  แบคฮยอนวิ่งวุ่นไปทั่วออฟฟิศ  อยากจะทุบกะโหลกหัวหน้าอย่างอู๋  อี้ฟานนัก  ติดตรงที่เป็นหัวหน้าน่ะสิถึงทุบไม่ได้  มีอย่างที่ไหนจู่ๆเดินหน้ามึนมาบอกว่านัดลูกค้าไว้ก่อนเวลานัดแค่ไม่ถึงสิบนาที  พอโวยไปว่าทำไมไม่ไปเอง  อย่างงี้ใครจะเตรียมเอกสารทัน  เค้าก็ตอบกลับหน้าตาเฉยว่าฝนมันตกเห็นมั้ย !  จะให้หล่อๆอย่างเค้าไปเดินเปียกแบบนั้นได้ไง

      มันก็จบที่แบคฮยอนคนนี้มาวุ่นวายตามล่าเอกสาร  ติดต่องานที่เค้าจะต้องออกไปคุยแทนไอ้หัวหน้าเงิงนั่น  แล้วก็เดินกางร่มหอบหิ้วกระเป๋าเอกสารกับโปรเจกค์งานออกมาข้างนอกสินะ 

      “จำไว้เลยนะอี้ฟาน  เจอที่ร้านพี่เลย์เมื่อไหร่  แม่จะทุบให้หัวแบะ !!

      ซ่าๆๆๆ~

      โอ้ !  สวรรค์โปรดเมตตาลูกด้วย  ถ้าจะหลั่งไหลตกไม่ลืมหูลืมตาอย่างนี้น้าแล้วคุณลูกค้าทำไมต้องนัดเค้าให้ต้องเดินเปียกปอนเพื่อจะมาที่ร้านขนมหวานข้างออฟฟิศแค่นี้  คุณช่วยเดินขึ้นไปหน่อยจะเป็นอะไรมั้ยครับเนี่ย  หวังว่าเค้าจะไม่สายนะ!

      กริ๊งๆ~

      เสียงกระดิ่งที่แขวนติดดังขึ้นเมื่อมือเล็กดันประตูเปิดเข้าไปด้านใน  ร้านขนมหวานที่มีทั้งกลิ่นกาแฟและเค้กมากมายลอยอบอวล  บรรยากาศผ่อนคลายต่างกับข้างนอกที่ฝนตกอย่างกับฟ้ารั่ว  ร่มใสถูกเสียบไว้ตรงที่วางร่ม  เสื้อสูทสีฟ้าอ่อนถูกถอดออกทันทีที่พาตัวเองไปนั่งที่มุมด้านในใกล้กับกระจกที่มองออกไปยังวิวด้านนอกได้

      ถึงมันจะมีแต่ฝนกับฝน...แต่แบคฮยอนก็ชอบที่จะนั่งติดหน้าต่างเพื่อสังเกตเรื่องราวต่างๆอยู่ดี  ร้านนี้ในเวลาบ่ายกว่าๆไม่มีลูกค้ามากนัก  เค้าสั่งเค้กฟัจด์หนึ่งชิ้นกับโกโกร้อนหนึ่งแก้ว...กินเยอะไม่ดีหรอก  เดี๋ยวอ้วนขึ้นมาจะยุ่ง !

      นาฬิกาเรือนสวยที่ข้อมือถูกยกขึ้นดูครั้งแล้วครั้งเล่า...ไหนล่ะลูกค้าที่ว่า...ไม่เห็นมีใครมาซักคน  เค้กก็หมดไปแล้ว...จนสั่งไอติมมากินเพิ่มไป  หนังท้องตึงหนังตาจะหย่อยแล้วนะ  เฮ้อ~

      RrrrRrrr

      โทรศัพท์เครื่องสวยที่วางทิ้งไว้เฉยๆบนโต๊ะส่งเสียงร้องดัง  พอเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามาก็ไม่ลังเลเลยที่จะกดรับ

      [  เฮ้~ ]

      “ลูกค้าที่ว่าอยู่ไหนเนี่ย !!  รอจนจะหลับอยู่แล้วนะ”  เสียงหวานกรอกลงไปตามสาย  แกล้งเพิ่มฟิลลิ่งเหวี่ยงๆลงไป  โดนซะบ้างเถอะอี้ฟานตัวร้าย !  ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็จะเป็นลูกน้องที่ดี  แต่ที่มันไม่มีใคร  ตอนนี้ในฐานะน้องของแฟนก็ต้องแสดงบทบาทนิดนึง

      เค้าบอกว่าติดฝน  ให้รอหน่อย...ขอโทษด้วย  แบบนี้  ]

      “จะให้รอถึงเมื่อไหร่...ฝนก็ตกแบบนี้  อากาศเย็นจะตาย  ฉันไม่สบายใครจะรับผิดชอบ”

      [  อย่าเหวี่ยงมากดิ - -  ขอโทษได้ป่ะล่ะ  เดี๋ยวมัน...เอ้ย!  เค้าก็ไป  รอหน่อยๆๆเจ๊  ]

      “ไปนอนเลยไปอี้ฟานบ้า”

      กดตัดสายถึงจะดูเหมือนไม่พอใจแต่ก็มีรอยยิ้ม  เค้าไม่ได้คิดอะไรมากหรอก...เป็นคนทำงานที่ต้องคอยติดต่อประสานมันไม่ใช่เรื่องนักหนาที่ต้องมาคอยลูกค้าที่มีเหตุผลง่ายๆอย่างติดฝน...ใครๆก็ว่าแบคฮยอนชอบเหวี่ยงแต่ก็เลือกให้เค้ามาเป็นคนคอยติดต่อลูกค้าอยู่เรื่อย  คงเพราะไม่มีใครมีเหตุผลหน้าด้านๆแบบหน้าเชื่อถือได้เท่าแบคฮยอนคนนี้แล้วมั้ง

      กรี๊งๆๆ

      “ยินดีต้อนรับค่ะ”  พนักงานสาวที่เคาเตอร์ส่งเสียงต้อนรับผู้มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม  มันก็อดจะแปลกใจไม่ได้นะทีตอนเค้าเข้ามาไม่เห็นใครยินดีต้อนรับซักคน  เชอะๆยัยพวกพนักงานสองมาตรฐาน  แต่แพคฮยอนก็ไม่ได้แปลกใจอะไรหรอก  คนที่ก้าวเข้ามาใหม่  เค้าสูงมากซะจนต้องก้มถึงจะผ่านประตูเข้ามาในร้านได้  ผมสีน้ำตาตัดสั้นเปียกไปด้วยน้ำฝน  เสื้อสูทถูกถอดเมื่อเค้าได้มายืนในร้าน  ไม่มีร่มติดมาซักคัน  ไม่แปลกหรอกที่จะเปียกขนาดนั้น...แต่เอ..หรือจะเป็นลูกค้าของเรานะ

      ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นจากการวุ่นวายอยู่กับเสื้อผ้าและการพยายามเช็ดแว่นสายตาอันใหญ่ของตัวเอง  บังเอิญหรืออาจจะตั้งใจ  ดวงตาของคนทั้งคู่สบกัน...แล้วก็เป็นแบคฮยอนที่หน้าร้อนขึ้นมา  เมื่อเห็นรอยยิ้มน้อยๆของคนคนนั้น

      -///- 

      อยู่ดีๆยิ้มหวานออกมาแบบนั้น...บ้ารึเปล่าฮะ  แล้ว...หน้าแดงทำไม ย่าห์~แบคฮยอน !!

      “ขอโทษนะครับ  ใช่คุณบยอน  แบคฮยอนหรือเปล่าครับ” 

      เสียงทุ้มต่ำไม่เข้ากับใบหน้าดังขึ้นเหนือหัว  แบคฮยอนละจากการพยายามเอาฝ่ามือเล็กอังหน้าตัวเองให้หายร้อน  เงยหน้าขึ้นมองอีกคน  คนตัวสูงที่ยืนยิ้มอยู่เมื่อกี้มายืนอยู่ตรงนี้...ลูกค้าจริงๆสินะ

      “ใช่ครับ  ผมบยอน  แบคยอน”

      “ผมปาร์ค  ชานยอลเจ้าของบ.ไฟล์คอมชิลครับ”

      “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

      “เช่นกันครับ”  ทั้งสองคนลุกขึ้นโค้งให้กัน  แต่จู่ๆแบคฮยอนก็โพลงออกมา

      “อ่า...ผ้าขนหนูมั้ยครับคุณชานยอล”

      “ฮะ ??”

      แบคฮยอนน่ะเป็นคนเตรียมพร้อมนะ  ทีแรกก็เตรียมมาให้ตัวเอง...เผื่อจะเปียกฝนมาก  แต่ว่าตอนนี้กลับยื่นผ้าขนหนูสีน้ำตาอ่อนให้อีกคนไปแล้ว  เห็นน้ำหยดติ๋งๆจากใบหน้านั้นแล้วมันก็อยากจะเช็ดให้ 

      อ่า...-//- หน้าแดงอีกแล้ว

      ............

      .....

      .

      จะมีกี่คนที่ทำให้ฝันเหมือนความจริง

      จะมีกี่คนที่พาพบสิ่งที่ตามหา

      จะมีกี่คนที่คอยกางร่มเมื่อฝนมา 

      ถ้าใครคนนั้นไม่ใช่...เธอ

      ...

      ..

      “ออกไปคุยงานแทนหน่อย  ตกลงเรื่องแบบน่ะ”

      “ไม่ไปเองเล่า !!

      “ฝนมันตกไม่เห็นอ่อ  นี่เอกสารกับแบบงาน  ไปล่ะ”

      แฟ้มใหญ่ๆถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะ  พร้อมแบบงานขนาดเท่าแผ่น  A5  ถูกวางลงบนโต๊ะ  แบคฮยอนละจากการพิมพ์เอกสารด่วนที่พึ่งถูกสั่งมาเมื่อ  นาทีที่แล้ว  แหวใส่ไอ้คนเดียวกับที่พึ่งสั่งงานลงมาและเอางานมาเพิ่มให้ใหม่เสียงดัง 

      ช่างขยันหางานใส่หัวให้ฉันจริงๆเลยนะนายเนี่ย - -

      “แล้วคุยที่ออฟฟิศ...”

      “เปล่า...ที่เดิม”

      ปาร์ค  ชานยอล...คนที่บยอน  แบคฮยอนพยายามจะทำความเข้าใจ  หน้าหล่อๆที่ออกแนวจะหวานหน่อยๆ  รอยยิ้มกว้างๆที่อวดฟันแทบครบสามสิบสองซี่  วันนั้นหลังจากรับผ้าขนหนูไปเค้าก็เช็ดผมตัวเองลวกๆ  สั่งคาปูชิโน่มาดื่ม  ชวนอีกคนคุยนู่นนี่  ตั้งนานสองนานจนกาแฟหมดเป็นแก้วที่สอง  เค้าถึงได้วกกลับมาเข้าเรื่องงาน

      ...วันนี้ก็ไม่ต่างกับที่เก่าเวลาเดิม  แบคฮยอนเดินออกมาจากออฟฟิศ  วันนี้ออกจะทุลักทุเลเป็นพิเศษ  เมื่อฝนยังตกหนัก  ไหนจะกระเป๋าเอกสาร  ไหนจะแบบงานแสนสำคัญ...เป็นถึงหัวหน้าไม่มีปัญญาบอกให้ลูกค้าขึ้นมาที่ออฟฟิศหรือไง

      โอ๊ยยย~ใกล้ๆก็จริง  แต่เดินแบบนี้เมื่อไหร่จะถึง  แบคฮยอนล่ะอยากได้ร่มตลาดซะจริงๆเลย !

      ซ่าๆๆๆ~

      “แบบนี้เดี๋ยวก็เปียกแย่  ผมไปส่งนะ”  ร่มในมือถูกดึงไป  หันไปก็เห็นตัวสูงๆยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง  กระเป๋าเอกสารเองก็โดยฉวยไป  ปาร์ค  ชานยอลก็ยังส่งยิ้มกว้างให้เหมือนอย่างเคย  อ่า~ก็อยู่หน้าออฟฟิศเลยนี่จะเสียเวลาเดินขึ้นไปหน่อยไม่ได้หรือไง

      “คุณปาร์คฮะ...เราขึ้นไปคุยงานบนออฟฟิศได้มั้ยฮะ  ผมกลัวว่าเอกสาร...”

      “ผมชอบร้านกาแฟรู้มั้ยแบคฮยอน  อยากกินกาแฟแล้วล่ะ  เรารีบไปกันเถอะ”

      “...”

      “ตากฝนจะไม่สบายนะ  ไปเร็ว..ผมจะกางร่มให้แบคฮยอนเอง”

      ถ้าจะบอกว่าอู๋  อี้ฟานหน้ามึนล่ะก็...ชานยอลคนนี้หน้ามึนกว่าเป็นร้อยเท่าทีเดียวเชียว  ย่าห์~แบคฮยอนอยากจะบ้า !!

      ..........

      ......

      ..

      “คาปูชิโน่ครับ  แบคฮยอนเอาอะไรมั้ย”

      “คาราเมลนมสดครับ”

      “รอซักครู่นะคะ”

      คราวนี้อีกคนกลับเตรียมผ้าขนหนูมาเองแล้ว  เค้าบอกว่าหลังจากวันนั้นแบคฮยอนก็สอนให้เค้าได้รู้ว่าถ้าเราพกผ้าขนหนูผืนเล็กๆติดตัว  เราก็จะไม่กลัวมากหรอกเวลาที่ต้องเปียกฝน  สำคัญพอๆกับมีร่มเชียวล่ะ

      ไม่เห็นมันจะพิเศษตรงไหน...กับอีแค่ผ้าขนหนู  แค่กลัวว่าเวลาเปียกฝนแล้วผมจะแฟบจนดูไม่ได้  แค่กลัวว่าอายไลเนอร์ที่บรรจงกรีดไว้มันจะเลอะลงมา  แค่นั้นเอง...จะมาเป็นจริงเป็นจังอะไรกับคำพูดเค้านัก

      “แบคฮยอนมีอะไรที่อยากพูดกับผมหรือเปล่า”

      “ครับ?”

      “ผมว่าผมสัมผัสถึงคำพูดมากมายในใจของแบคฮยอนได้เลยล่ะ  ฮ่ะๆ” 

      อีกคนยิ้มขันแต่เค้ากลับยู่หน้า ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้าคงลุกเดินออกไปไม่เกรงใจแล้ว !

      “อ่า...คิดแบบนั้น  ผมเสียใจนะแบคฮยอน”

      เฮ้ย ~!!  มาอ่านใจคนอื่นมั่วซั่วได้ด้วยเรอะ  แล้วยังจะยิ้มอีก  นายเป็นคนบ้าหรือไงชานยอล...หรือรวยฟัน...อวดจังเลย  ฮึ่ย~!  เลิกมองด้วยสายตาแบบนั้นซะที  คนมันใจเต้นแรงไม่รู้หรือไงเล่า !

      ........

      ...

      .

      “ฮัดชิ่ว !!  ไม่ไปทำงานนะ  ฮัดชิ่ว !!  ไม่สบาย  ฮัดดด~

      พอๆๆ  น้ำมูกน้ำลายกระเด็นผ่านโทรศัพท์มาแล้ว  ]

      “จะฟ้องพี่เลย์”

      [  เดี๋ยวเถอะเตี้ย !  พักไปเดี๋ยวจะให้ที่รักเอาข้าวต้มไปให้  โอเค๊~ ]

      “อื้อ...ขอบใจนะ”

      จบคำก็แทบทำโทรศัพท์หลุดมือจากแรงจามของตัวเอง  หลายวันมานี่ฝนตกไม่หยุด  ทั้งๆที่ก็เตรียมพร้อมกินยาดักทุกทีที่ออกไปเจอฝน  แต่ก็ยังไม่สบายจนได้  ฮัดดดดดด~ชิ่ว !!!

      ร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดกางเกงใส่นอนธรรมดาผ้าขนหนูผืนใหญ่พาดทับบนบ่าเพิ่มความอบอุ่น  เดินออกจากห้องนอนตรงไปที่ครัว...กินน้ำอุ่นๆหน่อยก็ท่าจะดี  ถ้าพี่เลย์เอาข้าวต้มมาให้  จะได้กินยาแล้วนอนพัก...ขาดงานหลายวันไม่ได้หรอก...ไอ้หัวหน้ามันเขี้ยววว~!!

      PingPong~ PingPong~

      เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น  ตัวเล็กๆเดินลากเท้าออกไปเปิด  สงสัยจะเป็นพี่เลย์ที่เอาข้าวมาส่งให้  แต่พอเปิดประตูออกไปกลับไม่ใช่คนหน้าหวานใจดี  แต่เป็นตัวสูงๆในชุดไปรเวทสบายๆ  หน้าคมนั่นยังมีแว่นสายตาอันโตวางพาดบนสันจมูก  และใบหน้านั้นก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม  มือสองข้างประคองชามโจ๊กที่ควันขาวยังลอยกรุ่น  บอกว่าพึ่งพ้นออกจากหม้อไม่นาน

      “เข้าไปได้มั้ย”

      “อ่ะ...เชิญฮะ”  แบคฮยอนหลบทางให้อีกคนได้เดินเข้ามาในห้อง  ปิดประตูเดินตามคนที่เดินไปทางนู้นทีทางนี้ทีอย่างคล่องแคล่ว    โจ๊กร้อนๆมาพร้อมช้อนและผ้าเช็ดปากวางให้เสร็จสรรพที่เคาเตอร์  แบคฮยอนเดินลากเท้าตามเข้ามา  มือยังคอยเช็ดจมูก  นั่งจุ้มปุ้กที่เก้าอี้บาร์มองชามโจ๊กงงๆ

      “กินสิ...ทำมาให้นะ”

      “ทำมา...ให้ผม??”

      “ได้ยินเสียงจามดังสนั่นหวั่นไหวจนพนังห้องผมแทบพัง  นอนไม่หลับ...คิดว่าเพื่อนข้างห้องคงไม่สบาย  เลยลุกไปทำโจ๊ก”

      “?!

      “ไม่คิดว่าจะเป็นแบคฮยอน” 

      คนตัวสูงๆนี่อยู่ใกล้เค้าตลอดเลยเหรอ  คนข้างห้องที่ใครๆก็บอกว่าออกจะแปลกๆคือชานยอลคนนี้เหรอ  โลกกลมไปมั้ยนะ  เป็นทั้งเพื่อนข้างห้อง  เป็นลูกค้า  แล้วเป็นคนแรกที่มาดูแลในวันที่เค้าไม่สบายอีก  บังเอิญไปมั้ง?!

      .........

      ..

      ภาพดีๆที่เธอให้ฉันแม้ตอนหลับตา

      ยิ่งทำให้ฉันมั่นใจ  ให้ฉันเข้าใจว่าเธอ...

      ...

      .

       

      คนตัวสูงมาขลุกอยู่ที่ห้องแบคฮยอน  นั่งๆนอนๆอย่างกับเป็นเจ้าของห้องซะเอง  ซ้ำยังติดยามาให้...          ถึงแบคฮยอนจะมีตู้ยาครบครัน  แต่คนคนนี้กลับครบครันมากกว่า  มีทั้งยาฆ่าเชื้อ  ยาแก้ไอ  ไม่เว้นแม้กระทั่งซุปอุ่นๆของตอนกลางวันและเย็น 

      หลังจากอยู่ด้วยกันทั้งวัน...ชานยอลก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรสำหรับแบคฮยอนหรอก  ทีแรกก็ไม่ชอบความมึนของเค้าอยู่ซักหน่อย  ไม่ชอบที่เค้าทำอะไรตามใจตัวเอง...จนทำให้แบคฮยอนต้องลำบากตากฝนออกไปเพื่อพบแล้วก็คุยเรื่องงานสองสามคำก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

      แต่ตอนนี้คนที่เคยไม่ชอบ...กลับมาอยู่ดูแลเค้าทั้งวัน  หยิบทิชชู่มาให้แล้วบอกให้เค้าสั่งน้ำมูกได้ตามสบาย  บางทีก็เป็นคนบังคับให้เค้าสั่งน้ำมูกเองเสียงด้วยซ้ำ

      บอกว่า...ถ้าปล่อยให้เชื้อโรคสะสมอยู่ในร่างกาย...เมื่อไหร่จะหายเล่า

      “อาบน้ำสิ...จะได้นอน”

      ท้องฟ้าด้านนอกเป็นสีดำ...บ่งบอกเวลาว่ามืดมากแล้ว  แต่ชานยอลก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของ       แบคฮยอน  ดูหนังเรื่องนู้นเรื่องนี้ด้วยกัน  แต่ที่พึ่งจบเมื่อกี้มันเป็นหนังผีที่ชานยอลตั้งใจจะแกล้งคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งปิดตา 

      ตอนนี้เค้าก็ยังนั่งหลับตาปี๋อยู่  บอกว่าจบแล้วให้ไปอาบน้ำซักทีก็ไม่เชื่อ

      “ไม่เอาอ่ะ...กลัวผี  ไม่อาบหรอกน้ำ  นอนไม่หลับด้วย”

      “มีอย่างที่ไหน  โตแล้วยังกลัวผีอีก”  จบคำผ้าขนหนูที่เคยใช้ปิดตาก็ถูกสะบัดทิ้ง  เค้าจ้องหน้าคนที่เริ่มสนิทพอที่จะเล่นหัวได้อย่างเคืองๆ  ก่อนจะกระโดดไปตะครุบผมสีน้ำตาลยุ่งๆนั้นไว้  ดึงแบบหยอกๆจนอีกคนร้องโอย

      “ไม่ได้กลัวเฟร้ยย~  อย่ามาว่าฉันนะปาร์ค  ชานยอล !!

      “โอยยแบคฮยอน” 

      “อ๊ะ~

      เพราะไม่ได้ตั้งใจ  เค้าแค่รู้สึกเจ็บจนอยากจะหยุดแบคฮยอนเฉยๆ  มือใหญ่ตะครุบเข้าที่เอวบางจนตัวเล็กๆที่ใช้เข่ายันบนโซฟาเสียหลักล้มทับตัว  จมูกแดงๆเพราะพิษหวัดจมหายลงที่แก้มของชานยอล  แทบทุกส่วนของแบคฮยอนทาบทับลงไปที่คนตัวใหญ่  ซ้ำแขนเค้ายังพาดอยู่บนเอวเล็กๆของแบคฮยอนอย่างไม่ตั้งใจ  ส่วนแขนสองข้างของคนที่กะจะแกล้งเค้าเมื่อกี้ก็พาดที่บ่ากว้างนั้นไว้  คล้ายจะโอบรอบคอเค้ากลายๆ

      “ถ้าผมติดหวัดจนไปทำงานไม่ได้จะทำยังไงแบคฮยอน”

      “...”

      “ไปอาบน้ำแล้วเข้านอนนะครับ  ผมเองก็ต้องพักผ่อนแล้วเหมือน”

      “...”

      “หายเร็วๆนะครับคนดี  แล้วเจอกันครับ”

      ริมฝีปากอุ่นประทับจูบลงบนสันจมูกเล็กอย่างตั้งใจ  ส่งยิ้มให้คนที่ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ  ไม่รู้เพราะใกล้จะเป็นไข้  หรือเพราะคนที่ยังส่งยิ้มหวานอยู่ข้างล่างนี้  ชานยอลดันตัวคนที่ยังนิ่งเป็นรูปปั้นออก  จูบเบาๆที่หน้าผากมนอีกทีก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองไป

       

      ตึกตัก...ตึกตัก~

      -///////////////////////////////////////////////- 

      อ่า...เมื่อกี้มันฝันหรือไงนะแบคฮยอน

      ....

      ..

      .



      เปรียบดั่งสวรรค์ได้มอบของขวัญที่ไม่เคยฝันว่าจะมีซักวันที่ได้อยู่กับเธอ

      สุขใจแค่ไหนเมื่อเวลานี้ฉันมีเธอฉันมีเธอ 

      เธอเดินอยู่ข้างเคียง....ไม่มีวันไปจากเธอ

      ...

      ..

       

      ...วันนี้ฝนก็ยังตกเหมือนเคย...แปลกไปก็ตรงที่ออกจากห้องมาตอนเช้า  ไม่ได้รีบร้อนเพื่อจะให้ทันเวลาที่จะไม่มีรถติดเหมือนอย่างเคย  แต่กลับหยุดรอเพื่อจะมองไปที่ประตูห้องข้างๆ

      เผื่อว่าเค้าจะออกมาทำงาน...เหมือนกัน...เผื่อว่าจะได้เจอก่อนจะต้องออกไปเริ่มวันใหม่

      แต่กลับไม่เจอ...ซ้ำวันนี้ยังไม่มีอู๋  อี้ฟานที่เดินมาสั่งให้ออกไปคุยงานแทน  พอเดินเอางานเข้าไปให้ที่ห้อง  เลขาเค้าก็บอกว่าออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อเที่ยงแล้ว...มีลูกค้าสำคัญที่ต้องออกไปคุยงานเอง

      เฮ้มาแต๊ะอั๋งจุ๊บเค้าแล้วจะหายไปอย่างนี้เฉยๆเหรอ  ใจร้ายไปหน่อยมั้ยปาร์ค  ชานยอล

      .....

      .

      จะมีกี่วันที่ต้องทนเหงาข้างหน้าต่าง

      จะมีกี่ทางที่ต้องพบผ่านกับปัญหา

      จะมีกี่ครั้งที่วันหยุดเหมือนไม่มีค่า

      ถ้าในวันนั้นไม่พบเธอ

      ...

      .

      “งานกับบริษัทของประธานปาร์คเรียบร้อยได้ด้วยดี  ประธานพอใจผลงานของเรามาก”

      “...”

      “ขอบคุณโด  คยองซูที่ออกแบบงานได้ดีไร้ที่ติ  แล้วก็ต้องขอบคุณบยอน  แบคฮยอนด้วย  ที่ติดต่อประสานงานกับคุณปาร์คจนทำให้เราได้โปรเจกค์งานนี้มา  เอ้า!  ปรบมือ”

      ผมกับตัวเล็กๆไม่ต่างกันนักของคยองซูลุกขึ้นรับเสียงปรบมือจากพนักงานในออฟฟิศ  อี้ฟานเดินออกจากห้องทำงานมาเพื่อบอกข่าวดีกับทุกคน  คือเรื่องงานและวันหยุดยาวถึง สัปดาห์ที่จะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้

      “ผมต้องการให้ทุกคนพักผ่อนอย่างเต็มที่  เพื่อเราจะได้ลุยงานกันอย่างหนักกันต่อ  มีความสุขกับวันหยุดยาวนะทุกคน”

      ...

      ทำไมฉันจะไม่รู้...ว่านายจะตามพี่เลย์ไปเยี่ยมครอบครัวที่จีน  ทำมาเป็นหัวหน้าที่ดี  เฮ้อ~แล้วหยุดยาวแบบนี้จะให้เค้าทำอะไร  นั่งๆนอนๆเฉาตายอยู่ในห้องเรอะ  แต่ถ้าจะให้เลือกเฉาอยู่ในห้องกับฝ่าดงฝนออกมา  ขอตายอยู่ในห้องยังจะดีซะกว่า !

      ตั้งแต่วันที่ไม่สบายวันนั้น  ก็ไม่เคยเจอคนตัวสูงที่เป็นทั้งลูกค้าและเพื่อนข้างห้องอีกเลย  ออกไปที่ระเบียงพยายามมองเข้าไป  ก็ไม่เห็นจะมีความเคลื่อนไหวในห้องนั้น  จะให้แอบถามอู๋  อี้ฟานก็ใช่เรื่อง  ก็พอรู้ว่าเสาไฟฟ้าสองคนเป็นเพื่อนกัน  แต่ถ้าไปพูดถึงให้รู้เข้า  มีหวังโดนล้อตาย !

      ช่างเถอะแบคฮยอน  หมอนั่นจะทำอะไรอยู่ไหนมันไม่ใช่เรื่องของนายซะหน่อย  แค่คนที่มาทำให้รู้สึกดีๆ  แค่คนที่มาดูแลทำโจ๊กกับซุปอร่อยๆให้  คนที่หายาให้กิน  คนที่ดูหนังเป็นเพื่อน

      คนเดียวกับที่อยู่เต็มหัวใจของแบคฮยอน...อยู่ไหนของเค้านะคนบ้า!

      ..........

      .....

      โชคร้ายที่ในทีวีไม่มีอะไรน่าดึงดูดพอสำหรับแบคฮยอน  คนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นสบายๆ  นั่งเหม่อมองฝนที่ตกกระหน่ำลงมาจนน้ำแทบจะท่วมโลก  ฝนตกแบบนี้...ยิ่งคิดถึงวันที่เจอกัน  เมื่อไหร่จะได้เห็นหน้า!

      ฮื่อ...เป็นบ้าอะไรนักนะแบคฮยอน  คิดถึงตัวโย่งๆหน้ามึนๆนั่นจัง

      ...

      ห๊ะ !  คิดถึงเหรอ  บ้าไปแล้ว!!!

      PingPoong~  PingPong~

      เสียงกริ่งที่ดังขึ้นทำให้รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าหวานโดยอัตโนมัติ  ตัวเล็กๆกระโดดข้ามโซฟาวิ่งถลาไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว  มาซักทีนะ!  ปาร์ค  ชานยอล

      “อ่ะ~

      “คุณแบคฮยอนหรือเปล่าครับ  มีพัสดุมาส่งครับ”

      รอยยิ้มหุบลงแทบจะทันที  เมื่อเห็นว่าไม่ใช่คนที่รอคอย...ก็แค่คนส่งพัสดุที่เปียกไปทั้งตัว  กล่องพัสดุขนาดไม่ใหญ่นักถูกเอาออกมาจากเสื้อคลุม  ส่งให้แบคฮยอน  หน้าซื่อๆเศร้าๆที่เต็มไปด้วยหยดน้ำเห็นแบบนี้แล้วมันก็อดจะสงสารไม่ได้

      ฝนตกขนาดนี้ยังต้องออกมาคอยส่งของอีกเหรอ

      “ช่วยเซ็นต์รับตรง...”

      “รอแป๊บนึงนะ” 

      ตัวเล็กๆกระโดดผลุบเข้าห้องไป  กลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กในมือยื่นให้คนที่ยืนอยู่หน้าประตู  ส่งยิ้มกว้างๆจนตาเหลือเป็นขีดให้  เซ็นต์รับก่อนจะปิดประตูกลับเข้ามานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม  แต่พอจะเปิดดูว่าใครส่งอะไรมาเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขัดขึ้นมาอีกครั้ง

      แอ๊ด~

      “ผมลืมปากกาฮะคุณแบคฮยอน”

      “ห๊ะ ~

      “ขอคืนด้วยครับ”

      “แล้วไอ้ที่เสียบอยู่ที่กระเป๋าเสื้อนี่มันไม่ใช่ปากกาหรือไง !!  หาเรื่องฉันเรอะ !!

      “อ่า...ขอโทษที่รบกวนคร้าบบบ T^T

      ประตูปิดลงด้วยอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นของแบคฮยอน  กระแทกตัวนั่งลงที่โซฟาแรงๆ  มือเรียวเอื้อมเปิดกล่องพัสดุนั้นอย่างไม่ใส่ใจนัก  หน้ากล่องบอกว่าเป็นพัสดุด่วนจากต่างประเทศ  ใครส่งอะไรมาไกลขนาดนี้  หรือจะเป็นพี่เลย์กับคริส

      แต่พอเปิดออกข้างในกล่องก็เป็นแค่ผ้าขนหนูผืนเล็กๆธรรมดา  พร้อมกับโน้ตใบเล็กๆที่ถูกเขียนด้วยลายมือหวัดๆ

      อยู่อียิปต์  มาดูงาน...ร้อนมาก  อยากให้ฝนตกจัง  จะรีบกลับไปหานะคนดี  <3’

      แค่นี้ก็พอจะอธิบายได้ว่าเค้าหายหน้าหายตาไปไหนมาตั้งหลายวัน  แก้มใสซับสีแดงเรื่ออย่างไม่อาจห้าม  คนบ้า~อยู่ไกลแบบนั้น  ยังจะอุตส่าห์ส่งของแบบนี้มาให้  คิดว่าเค้าไม่มีปัญญาหาไว้ใช้เองหรือไง  บ้าจริงๆเลย

      ...กลับมาเร็วๆนะ  ปาร์ค  ชานยอลของฉัน...

      PingPong~  PingPong~

      กริ่งดังขึ้นอีกครั้ง  แบคฮยอนวางผ้าขนหนูกับกล่องพัสดุเปล่าลงบนโต๊ะ  ไม่ค่อยสบอารมณ์ซักเท่าไหร่  สงสัยจะเป็นแมสเซนเจอร์คนนั้น  ลืมอะไรอีกล่ะ  ไปไม่ถึงห้านาทีกลับมาอีกแล้ว เฮ่อ~

      แอ๊ด~

      “นี่!  ลืมอะไรไว้อีกหรือไง”

      “ลืมหัวใจไว้ครับ  กลับมาเอา”  ตัวเปียกปอนของปาร์ค  ชานยอลยืนยิ้มแฉ่งอยู่ที่หน้าประตู  ในมือก็ถือร่มไว้...ทำไมไม่ใช้ล่ะคนนี้นี่  แล้ว...จู่ๆมาพูดอะไรแบบนี้...เขินนะ -//-

      “หัวใจที่ไหน  ฉันไม่มีหรอก  หาผิดที่แล้ว”

      “ถูกแล้ว...หาถูกแล้ว  อยู่กับคนนี้...ตั้งแต่วันที่เจอครั้งแรกแล้ว”  นิ้วเรียวจิ้มเบาๆที่หน้าอกตรงส่วนเดียวกับหัวใจที่เต้นรัวของแบคฮยอน  หน้าหวานๆที่แดงเหมือนลูกสตอเบอร์รี่  น่ารักจนยากจะห้ามใจ  ริมฝีปากนุ่มกดจูบแผ่วเบาข้างริมฝีปากบาง  แบคฮยอนหลับตารับสัมผัสของอีกคนอย่างเต็มใจ

      “จะขอคืนเหรอ”

      “เปล่า...ตั้งใจว่า...”

      “...”

      “...”

      “จะฝากไว้...ตลอดไปเลย”

      ...

      .

       

      ภาพดีๆที่เธอให้ฉันแม้ตอนหลับตา

      ยิ่งทำให้ฉันมั่นใจให้ฉันเข้าใจว่าเธอ...

      เปรียบดังสวรรค์ได้มอบของขวัญที่ไม่เคยฝันว่าจะมีซักวันที่ได้อยู่กับเธอ

      สุขใจแค่ไหน...อุ่นใจแค่ไหน  เมื่อเวลานี้ฉันมีเธอ...ฉันมีเธอ

      เธอเดินอยู่ข้างเคียง  ไม่มีวันไปจากเธอ...

      ....

      ..

       

      ฉันเองก็ตกหลุมรัก...ตั้งแต่วันที่เราได้ยืนอยู่ใต้ร่มคันเดียวกันแล้วล่ะชานยอล

       

      ขอบคุณสวรรค์ที่ให้ของขวัญ

       

      THE END

      :)  Shalunla

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×