ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] LOST CONTROL (MARKBAM)

    ลำดับตอนที่ #14 : : the fourteenth :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.99K
      70
      29 ต.ค. 60

     

     

    14

     

     

     

     

         แบมแบมว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างผิดพลาดแน่ๆ

     

          ความผิดพลาดเริ่มตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นเพดานสีขาว ลุกขึ้นมานั่งแบบมึนๆ จ้องมองวอลเปเปอร์สีน้ำเงินเข้มบนผนังห้องอีกฝั่งด้วยความว่างเปล่า เลื่อนสายตาลงมายังโต๊ะสีขาวที่มีกองแมสโมเดลวางซ้อนกันเป็นตั้ง และมันยิ่งดูผิดพลาดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแบมแบมก้มมองผ้านวมลายขวางสีขาวน้ำเงินที่ตัวเองห่มอยู่

     

          ถึงจะปวดหัวมากจนเหมือนหัวจะระเบิด แต่แบมแบมจำได้ว่าห้องเขาไม่มีวอลเปเปอร์สีน้ำเงิน ไม่มีโต๊ะสีขาวตั้งอยู่ตรงปลายเตียง ไม่ได้กองบรรดาแมสโมเดลไว้เป็นตั้งแบบนี้ และยังจำได้ดีว่าผ้าห่มของเขาเป็นสีเทาด้วย

     

         ฉิบหายละ กูวาร์ปมาอยู่ที่ไหนเนี่ย

     

         ความผิดพลาดยังคงมีให้ค้นพบอย่างต่อเนื่อง ตุ๊กตาหมีริลัคคุมะ(ที่น้องสาวยัดเยียดให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีก่อน)กลับกลายเป็นตุ๊กตาเป็ดหน้าโง่สีเหลืองอ๋อย นอนแอ้งแม้งอยู่บนหมอนใบข้างๆ แทน นอกเหนือจากนั้น ไม่มีสิ่งบ่งบอกว่าใครเป็นเจ้าของห้อง แต่ให้เดาจากกองโมเดลกับโต๊ะรกๆ เจ้าของห้องคงไม่พ้นจากคำว่าสถาปัตย์

     

         แบมแบมพาตัวเองลงมายืนข้างเตียง กวาดตามองหาห้องน้ำแต่ก็ไม่พบ ยืนนิ่งตั้งหลักสักพักก่อนจะก้าวเท้าอย่างไม่มั่นคงออกไปจากห้องที่ไม่คุ้นเคย หลังบานประตู คือห้องกว้างๆ ที่แบ่งออกเป็นสัดส่วนและตกแต่งในโทนสีขาว เขาได้ยินเสียงทีวี พยากรณ์อากาศวันนี้จะมีฝนตกหนักทั่วกรุงโซล แทรกด้วยเสียงคล้ายโลหะกระทบกันดังมาจากตรงไหนสักแห่งที่เรียกความสนใจมากกว่า เดินตามกลิ่นหอมของแป้งกับเนยที่ชวนให้น้ำลายสอมาโผล่ยังหน้าห้องครัว และเจอเข้ากับแผ่นหลังคุ้นตาในเสื้อกล้ามสีดำ

     

         เจ้าของแผ่นหลังนั้นมีผมสีน้ำตาลแดง

     

         ทันทีที่ร่างในเสื้อสีดำหันมา นั่นคืออะไรบางอย่างที่ผิดพลาดที่สุดในเช้านี้

     

         ตื่นแล้วเหรอ

     

         มาร์ค ต้วนมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ!?

     

         “กินแพนเค้กไหม จะได้ทำเผื่อ

     

         อาจเป็นผลข้างเคียงจากอาการแฮงก์ แบมแบมจำไม่ได้ว่าคำตอบของคำถามนั้นคืออะไร รู้ตัวอีกที เขานั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว มีจานแพนเค้กกับแก้วโกโก้ร้อนวางตรงหน้า พร้อมด้วยมาร์ค ต้วนบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ไม่พูดไม่จาอะไรนอกจากก้มหน้าก้มตาหั่นแพนเค้กและเอาส้อมจิ้มเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

     

         เดี๋ยวก่อนนะ

     

         บรรยากาศจะสงบสุขเกินไปหน่อยแล้ว

     

         “พี่มาอยู่นี่ได้ไงอ่ะ

     

         เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเป็นปกติสุขเกินไปนัก แบมแบมตั้งคำถามทันทีหลังจากตั้งสติได้ มาร์คเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารเช้า แก้มสองข้างพองออกด้วยแพนเค้กที่ยังเคี้ยวไม่หมด มองกลับมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ทำหน้าทำตาเหมือนไม่เข้าใจคำถามและคล้ายว่าเขาใกล้เคียงกับคำว่าเสียสติ

     

         “นี่ห้องพี่ ทำไมพี่จะอยู่ไม่ได้ล่ะตามด้วยส่งยิ้มกว้างให้กับหน้าตาเหลอหลาของคนถาม

     

         เฮ้ย เดี๋ยว

     

         เดี๋ยวๆๆ

     

         เมื่อกี้มันว่าอะไรนะ ห้องพี่? ห้องมาร์ค ต้วน?

     

         ตลกแล้วโว้ย!

     

         แล้วผมมาอยู่ห้องพี่ได้ไงวะแบมแบมพึมพำ หันซ้ายหันขวา กวาดตามองไปรอบห้องอย่างตื่นๆ

     

         ลองนึกดูสิ ไม่ยากเกินความสามารถของสมองนายหรอก

     

         มาร์คยักไหล่ ยกแก้วนมขึ้นดื่มเป็นการตัดบทสนทนา กวนตีนพอยัง โอเค ใช่ ถูกอย่างที่มาร์คพูด มันไม่ยากเกินความสามารถของสมองแบมแบมหรอก แต่มันยากตรงที่ตอนนี้กูปวดหัวจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย! สมองเหมือนจะระเบิดทุกวินาทีที่หายใจ ยังมีหน้ามาบอกให้รื้อฟื้นความจำด้วยตัวเองอีก จิตใจทำด้วยอะไร เล่ามาแต่แรกก็จบแล้วไหม

     

         แบมแบมจ้องมองแพนเค้กในจานและนึกย้อนกลับไป

     

         เป็นความน่าประหวั่นพรั่นพรึงมากเมื่อลองนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วทุกอย่างหลั่งไหลเข้ามาในหัวเยี่ยงน้ำป่าไหลหลาก แต่ไม่ปะติดปะต่อ เป็นภาพเบลอๆ ขาดๆ หายๆ ชัดเจนขึ้นมาเป็นบางช่วงเหมือนกำลังดูทีวีเก่าๆ เขาไปดื่มกับเพื่อน เขาเมา ชนใครสักคนตอนเดินไปอ้วกที่ห้องน้ำ มีสัมผัสของอะไรบางอย่างคล้ายผ้าและเย็นจัดบนใบหน้า, กับใครบางคนที่ดูเหมือนมาร์ค ต้วน

     

         ใครบางคนที่ดูเหมือนมาร์ค ต้วน

     

         ใครบางคนที่ดูเหมือนมาร์ค

     

         มะ...ไม่จริงมั้ง

     

         เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

     

         แล้วจะให้ทำหน้าดีใจหรือยังไง? อยากสวนกลับด้วยประโยคนั้น แต่ช่างมันก่อน ตอนนี้สมองกำลังวุ่นวายอยู่กับการหาคำตอบ สรุปว่าไอ้คนที่เจอในห้องน้ำเมื่อคืนคือมาร์ค ต้วนตัวจริงเสียงจริงใช่ไหม? ไอ้เชี่ย มึงไปโผล่อยู่ที่ร้านเหล้าได้ยังไง? ไหนบอกว่าไปกินข้าวกับพี่รหัส? แล้ว...แล้วทำไมตอนอยู่ในร้านถึงไม่เห็นวะ? โอ๊ย ยูคยอมล่ะ? ยูคยอมหายหัวไปไหน? ทำไมทิ้งกูไว้แบบนี้!

     

         ไอ้ชั่ววววววววว เกลียดมันจังเลยโว้ย อย่าให้เจอนะคิมยูคยอม มึงไม่ตายดีแน่!!!

     

         แต่ที่บัดซบยิ่งกว่าโดนเพื่อนทิ้งหรือพบว่าตัวเองตื่นมาในห้องของคนอื่น แบมแบมจำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเขาทำอะไรลงไปอีกบ้าง ความทรงจำจบลงที่ยูคยอมพูดอะไรกับเขาสักอย่าง มีฉากหลังเป็นสถานที่คล้ายๆ ว่าอยู่ในห้องน้ำแล้วภาพก็ตัดไป พยายามนึกหัวแทบแตกยังไงก็ไม่มีอะไรออกมาจากความทรงจำอีกนอกจากภาพสีดำ

     

         “เมื่อคืนผมได้ทำอะไรแปลกๆ หรือเปล่า ไม่ก็...พูดอะไรแปลกๆ

     

         อันที่จริงแบมแบมไม่อยากถามหรอก ไม่อยากรื้อฟื้นเท่าไหร่ เดี๋ยวได้เป็นประเด็นให้อีกฝ่ายเอามาล้อ (ซึ่งแหงล่ะ มันต้องล้อแน่) แต่ก็เป็นความคาใจที่น่ารำคาญพอกัน คิดไปคิดมา ได้ข้อสรุปกับตัวเองในใจว่า เออ ถามก็ได้วะ ได้ยินมาจากยูคยอมบ่อยๆ หมอนั่นสาปแช่งเขาทุกครั้งที่ไปดื่มด้วยกันว่าสภาพแย่ได้ขนาดไหนตอนเมา หรือสามารถทำอะไรที่ยามมีสติไม่เคยกล้าทำได้บ้าง

     

         เขากลัวจะหลุดสิ่งที่ไม่สมควรให้ใครรู้

     

         “อืม...มาร์คหยุดคิด คิดว่างั้นนะ

     

         …

     

         มึง..

     

         ฉิบหายล่ะแบมแบม

     

         กูทำอะไรไปบ้างเนี่ยยยยย

     

     

         “พี่มาร์คนอนกับแบมแบมนะ

         ...

     

         พี่มาร์คกอดแบมแบมหน่อย แบมแบมปวดหัว

         …

     

         “พี่มาร์คตัวอุ่นจังเลย แบมแบมชอบ

         …

     

     

         อะไร...

     

     

         ไอ้เชี่ยยยยยยยย

     

     

         ไม่จริง ไม่มีทางเว้ย ถึงเมาเขาก็ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่

     

     

         มาร์ค ต้วนอย่ามาตอแหล!

     

         .

     

         .

     

         .

     

         เฮ้ย แต่ก็...

     

         หรือกูจะทำจริงวะ?

     

         เอาจริงจังแบบไม่แกล้ง ไม่ตอแหลใดๆ ทั้งสิ้นอ่ะนะ?

     

         บ้าน่า ไม่เห็นนึกอะไรออกเลย ไร้ความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แต่อีคนเล่าก็แอคติ้งใหญ่มาก ทำหน้าโศกเศร้าเหมือนโดนเขาขืนใจไปอีก จริงจังมากขนาดเด็กอนุบาลสามก็ยังเชื่อ แม่งเอ้ยย โมเมนต์หลังแดกเหล้าแล้วตื่นมาแบบนี้นี่แม่งแย่ แย่มาก มากๆๆ นี่ชีวิตมึงก้าวพลาดเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วห๊ะแบมแบม!

     

         “พอจะนอนนายก็เอาแต่โวยวายร้อนอย่างนั้นร้อนอย่างนี้เสียงมาร์คดึงสติที่หลุดลอยให้กลับมา เขาเหลือบมองคนพูดที่กำลังแบ่งแพนเค้กชิ้นสุดท้ายในจานออกเป็นสองส่วนและจิ้มเข้าปากคำใหญ่

     

         มาร์คหยุดกลืนก่อนจะพูดต่อ โวยวายไม่พอ ยังมาอ้อนให้พี่อาบน้ำให้อีกต่างหาก

     

         หืม? อาบน้ำ?

     

         พ่ออออออออ เมิงงงงงงงง เส่ะะะะะะะ !!!!!

     

         แบมแบมตะโกนลั่นอยู่ในหัว ขณะนั่งนิ่งค้างมองมาร์คที่กดยิ้มมุมปากเหมือนกลั้นขำ จิ้มแพนเค้กคำสุดท้ายเข้าปาก ยกแก้วนมขึ้นดื่มจนหมดแล้วลุกไปยังซิงก์ล้างจาน

     

         โหย อะไรวะ ทิ้งระเบิดไว้แล้วอย่าหนีดิ ไม่เคลียร์นะเว้ย

     

         “ตลกมากป่ะเห้ย!”

     

         แบมแบมตะโกนไล่หลังขณะลุกตามมาร์คไปยังส่วนห้องครัว แม้ใจจริงอยากจะตะโกนใส่หน้าไปว่าอย่ามาตอแหล แต่นั่นก็ออกจะดูเป็นการพูดจารุนแรงกับผู้ที่อาวุโสกว่าหนึ่งปีไปสักนิด เขาเดินมาหยุดยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์บาร์ฝั่งตรงข้าม มองแผ่นหลังของคนที่ง่วนอยู่กับการล้างจาน

     

         “เอ้า ก็เห็นนายเครียด

     

         แบมแบมกลอกตา นึกอยากจะเตะไอ้พี่บ้าที่ยืนหันหลังให้อยู่นี่สักที

     

        “เอาความจริงดิ ผมไม่เล่น

     

         ไม่รู้หูแว่วไปเองหรือว่ายังไงที่ได้ยินเสียงถอนหายใจ มาร์คปิดก๊อกน้ำแล้วหมุนตัวกลับมา ก็ไม่ได้เล่น พี่จริงจังหลังจากประโยคนั้น สบตากัน แล้วทุกคำพูดในหัวก็ลอยหายไป ยืนสตันท์อยู่สักพัก รอบตัวเงียบมากเสียจนเสียงน้ำหยดกระทบก้นอ่างสแตนเลสดูจะดังก้องไปทั่วทั้งห้องครัว กลายเป็นว่าพวกเขากำลังคุยคนละเรื่องเดียวกัน ในคำว่าจริงจังของอีกฝ่ายคล้ายจะสื่อความหมายไปถึงอีกเรื่อง

     

         เรื่องที่แบมแบมเหมือนจะรู้ดีว่าคือเรื่องอะไร

     

     

         หนึ่งก้าว...

     

     

         สองก้าว...

     

     

         สามก้าว...

     

     

         โดยไม่คาดคิด คนที่เคยอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับมายืนอยู่ตรงหน้า

     

     

         มือสองข้างยันกับขอบเคาน์เตอร์ด้านหลัง

     

     

         ระยะห่างไม่กี่เซนต์  ไม่มีพื้นที่ให้ถอยหนี

     

     

         ทั้งที่ปากอยากจะพูดอะไรสักอย่าง อยากจะขยับออกไปจากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ แต่กลับก้าวขาไม่ออก แววตาจริงจังที่เหมือนมีเรื่องราวมากมายอยากจะบอก สะกดไว้ในยืนนิ่งอยู่กับที่ ตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงและรัวเร็วในจังหวะที่ต่างออกไปจากเดิม ความรู้สึกมากมายผสมปนเปกันมั่วจนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร

     

         แล้วเกมจ้องตาก็เริ่มขึ้น

     

         แบมแบมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อใบหน้าคมคายเคลื่อนใกล้เข้ามา แต่คราวนี้เขาจะไม่หลบสายตา ทำใจกล้าหาคำตอบโดยการจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเข้ม จนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วๆ บอกว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้มากขนาดไหน ความรู้สึกบางอย่างแล่นตรงเข้ากลางใจ

     

         หวั่นไหว

     

         คนถูกกระชับพื้นที่ขยับถอยโดยสัญชาตญาณเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ถอยจนหลังยิ่งกดแนบกับขอบเคาน์เตอร์ เข้าสู่ระยะน่าหวาดเสียวที่เขาทนไม่ไหวและต้องเป็นคนเอ่ยปากก่อน

     

         ใกล้ไปแล้ว

     

         เขายกมือขึ้นดันอีกฝ่ายไว้ไม่ให้ขยับเข้ามาใกล้มากกว่านี้ มาร์คยอมหยุดแต่ไม่ขยับออกไป กลับจ้องไม่ละสายตาและถามด้วยเสียงจริงจังจนน่าใจหาย

     

         “อยากรู้อะไรก็ถามสิแบมแบม

     

         พี่จริงจังกับผมแค่ไหนวะ?

     

         นั่นคือคำถามแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัว แต่ถึงอย่างนั้นแบมแบมกลับยืนนิ่ง ปิดปากสนิททั้งที่มาร์คเปิดทางให้แล้ว เขาไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ได้แต่ปล่อยความสงสัยลอยค้างอยู่หลังริมฝีปาก กลอกตาครุ่นคิดก่อนจะถอนหายใจ เหลือบสายตาไปทางอื่น บรรยากาศเงียบกริบเหมือนก่อนหน้านี้ ที่ต่างออกไปคือมีความกดดันเพิ่มเข้ามาซึ่งเขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เอาเสียเลย

     

         ว่าไง ถ้าไม่มี พี่พูดนะ

     

         มันจะไปยากอะไรวะแบม ถามสิ!

     

         แต่พอเขาจะเริ่มต้นประโยค มาร์คก็ขัดขึ้นมา

     

         “พี่ไม่รู้ว่านายคิดยังไงกับสิ่งที่พี่เคยบอกไป แต่จะย้ำอีกทีว่าทุกสิ่งที่พี่พูด มันหมายความตามนั้นจริงๆ

     

         แบมแบมขบริมฝีปาก เออ ที่พูดมาไม่ใช่ว่าไม่รู้ ไอ้การที่มาบอกว่าชอบเขาๆ เนี่ย พอจะทำความเข้าใจได้หรอก เขาก็เห็นอยู่ว่าอีกฝ่ายยืนยันคำพูดนั้นด้วยการกระทำมาตลอด ถึงบางทีไม่ค่อยแน่ใจก็เถอะว่าพูดจริงหรือพูดเล่น เพราะ...เอาล่ะ พูดตามตรงเลยนะ เขาไม่เห็นว่ามาร์คมีท่าทีอะไรที่บ่งบอกชัดเจนว่า เฮ้ย ที่กูทำอยู่เนี่ย เพราะอยากได้มึงมาเป็นแฟนนะ อะไรงี้ ไม่มี๊ แล้วจะไม่ให้สงสัยได้ยังไงเล่า

     

         ลองนับดูสิว่านี่มันกี่เดือนแล้ว ถ้าไม่จริงจัง พี่ไม่มาป้วนเปี้ยนอยู่กับเราแบบนี้หรอก

     

         แบมแบมหันขวับ จ้องมองคนพูดอย่างตื่นตระหนก

     

         ทีหลังน่ะ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ความลับก็อย่าเมาจนไม่มีสติอีก รู้ไหม

     

         นั่นไง กูว่าแล้ว หลุดปากไปจริงๆ ด้วย

     

         เชี่ยแบ๊มมมม!

     

         “ไม่รู้หรือไงว่าอย่าถือคำพูดคนเมาเป็นจริงเป็นจังน่ะ

     

         แบมแบมว่าพลางกลอกตามองไปทางอื่น ความรู้สึกผสมกันระหว่างเสียหน้ากับเก้อเขิน รับรู้ได้ถึงความร้อนแปลกๆ ที่เริ่มลามไปทั่วหน้า แต่เขายังไม่พร้อมหันไปเผชิญหน้ากับมาร์ค ต้วนที่ยิ้มกดมุมปากกลั้นขำ (มันกลั้นขำจริงๆ นะ เขาได้ยิน) ในระยะประชิดขนาดหายใจรดกันแบบนี้

     

         ขอเวลาพี่รวบรวมกำลังใจแปป ฮือ

     

         มาร์คโคลงศีรษะน้อยๆ ด้วยความขบขัน แบมแบม มองพี่ไม่พูดเปล่า ยกสองมือขึ้นประกบข้างแก้มของคนที่ทำเป็นเมินไม่ได้ยิน บังคับให้หันกลับมาสนใจ เอ่ยขัดขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะโวยวาย ฟังให้ดีนะ เท่านั้น แววตาก็แปรเปลี่ยนเป็นความสงสัยเข้ามาทดแทน

     

         ขอโทษ ที่ไม่ชัดเจน พี่แค่อยากให้ตัวเองแน่ใจก่อนว่าพร้อมแล้วจริงๆ ที่จะมีใครสักคน

     

         ความรู้สึกบอกไม่ถูกมันโหว่งอยู่ในช่องท้อง แล้วตอนนี้แน่ใจแล้วหรือไง

     

         “ถ้าบอกว่าใช่ แล้วแบมแบมล่ะ ชอบพี่บ้างหรือเปล่า

     

         แบมแบมถึงกับไปไม่ถูกพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำถาม คล้ายสมองรับข้อมูลมาประมวลผลมากเกินไปจนเกิดอาการเออเร่อกะทันหันและไร้การตอบสนองไปในที่สุด ชอบหรือเปล่างั้นเหรอ ไม่ปฏิเสธว่าเขารู้สึกดีกับอีกฝ่ายมากกว่าแต่ก่อน ดีขึ้นมาก ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาจะทำความรู้จักกันผ่านการต่อล้อต่อเถียง แกล้ง กวนตีนหรือเกรียนใส่กันก็ตามที แล้วยิ่งคิดทบทวน แบมแบมก็พบว่าเขาอนุญาตให้มาร์คเข้าใกล้ได้มากกว่าคนอื่นโดยไม่รู้ตัว

     

         คำตอบหนึ่งแจ่มชัดขึ้นมาในใจ

     

     

         ผม...

     

     

     

         ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

     

     

         เสียงเคาะประตูดังขึ้น แบมแบมหันขวับไปมองที่ประตูห้องด้วยความตกใจ แล้วก็เกิดความคิดหาหนทางเอาตัวรอดขึ้นมาได้โดยการทำท่าจะผละไปดูว่าใครมาเคาะประตู แต่มาร์คก็เอาแขนสองข้างกักตัวเขาไว้ระหว่างเคาน์เตอร์เหมือนเดิม นายยังไม่ได้ตอบคำถาม

     

         ก๊อกๆๆๆๆ!!!!!

     

         เชี่ยมาร์ค! เปิดประตูดิ๊!”

     

         เสียงคุ้นหูของแจ็คสัน หวังดังลอดผ่านบานประตูมาให้ได้ยินแว่วๆ ตามด้วยการเคาะประตูห้องที่ฟังคล้ายการพังประตูมากกว่า นอกเหนือจากนั้น ยังปล่อยสารพัดสัตว์ในปากออกมาวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน โดยไม่คิดเกรงกลัวว่าผู้อยู่อาศัยคนอื่นจะเปิดประตูออกมาตะโกนด่าแม่และบรรพบุรุษด้วยความรำคาญที่ทำเสียงดังรบกวนเลยสักนิด

     

         ปึง! ปึง! ปึง!

     

         มาร์ค! ทำห่าอะไรอยู่วะ มาเปิดประตูให้กูก่อนโว้ย!”

     

         แต่เจ้าของห้องกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ

     

         “คะ คือ...พี่แจ็คสันมา

     

         “แล้ว?

     

         “ไม่รำคาญเสียงเพื่อนตัวเองหรือไง ปล่อย ผมจะไปเปิดประตู

     

         มาร์คทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดนั้น กลอกตาเมินหน้าไปทางอื่นแบบไม่รู้ไม่ชี้แต่แขนยังค้างไว้ท่าเดิม ถามก่อนว่าน่าหมั่นไส้มากแค่ไหน พอเห็นอย่างนั้นบวกกับแจ็คสัน หวังที่ก่อมลพิษทางเสียงด้วยการเพิ่มเดซิเบลให้มันน่ารำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่หลังบานประตู (เขารำคาญแทนคนอื่นน่ะ) แบมแบมเลยยื่นเท้าไปเตะขาอีกฝ่ายให้ถอยออกไป แน่นอนว่าได้ผล มาร์คสะดุ้งโหยง กุมหน้าแข้งด้วยความเจ็บ เขาใช้โอกาสนั้นเฟดตัวให้พ้นระยะที่มาร์คจะเอื้อมถึง

     

         เป็นไง เจ็บใช่ไหม สมน้ำหน้าว่าอย่างนั้นก่อนจะรีบจ้ำออกมาจากห้องครัว

     

         ปึง! ปึง! ปึง! ปึง! ปึง!

     

         “มาร์ค! กูปวดฉี่! มาเปิดประตูเร็ว!”

     

         ท่ามกลางเสียงโวยวายของแจ็คสัน ได้ยินเสียงมาร์คตะโกนไล่หลังมา

     

         มาเตะกันแล้วเดินหนีเหรอ! โห่ เขินก็บอกว่าเขินดิ!”

     

         ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะสถานการณ์วุ่นวายบ้าๆ นี่หรือเปล่า เลยทำให้เขาที่กำลังปวดหัวเป็นบ้าคิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่เผลอหลุดยิ้มออกมา

     

         แบมแบมตะโกนกลับไป

     

         “เออ! เขิน พอใจยัง ทีนี้ก็หุบปากไปได้แล้ว!”








    TBC...











    ----------------------------------------------------
    มาแล้ววววววว แฮร่ ;;w;;


    เปิดเทอมมานี่ยุ่งโคตรๆ เบย
    งานเยอะอย่างไม่น่ามีชีวิตรอดมาทำอย่างอื่นได้

    เอามาลงให้ก่อนสอบ อาทิตย์หน้าเก๊าเริ่มสอบมิดเทอมแล้ว
    เป็นสัญญาณว่าจะหายไปอีกแล้วน้าาาา
    ขอไปเอาชีวิตให้รอดก่อนแล้วเราจะกลับมา

    ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์นะคะ ทุกคนที่คอมเมนต์ให้เลย
    คนที่กดชอบรวมทั้งผู้อ่านทั้งที่แสดงตัวและไม่แสดงตัว
    ดีใจที่ชอบ รัก และรอฟิคเรื่องนี้
    รู้สึกละอายใจทุกครั้งที่เข้ามาดูหน้าฟิคแล้วผู้อ่านทุกท่านพากันบอกว่า
    'รออยู่น้าาา' 'รีบกลับมาต่อไวๆน้าาาา' ฮือ /me ก้มกราบเบญจางคประดิษฐ์

    อย่างไรก็ตาม เอ็นจอยรีดดิ้ง
    ด้วยรัก <3





    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×