ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก YulsiC yuri x sica

    ลำดับตอนที่ #75 : Chapter 75

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.34K
      1
      27 ส.ค. 56


    งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก







    75







    “ ฟานี่ ”

    “ คะ...มีอะไรเหรอคะพี่แท ”

    คนที่ถูกเรียกรีบขานรับทันทีที่รู้ว่าสามีต้องการ คุณหมอคนงามเตรียมพร้อมต่อการรักษาคนไข้อยู่แล้ว คืนนี้ทิฟฟานี่มีเข้าเวร แต่เพราะยังไม่ถึงเวลานั้นเธอจึงมานั่งเฝ้าไข้สามีแทน มันก็ดีกว่าเอาเวลานี้ไปเดินเอ้อระเหยลอยชายที่ไหน ความจริงเธอจะแลกเวรกับคุณหมอท่านอื่นๆก็ได้ แต่แพทย์หญิงก็ไม่ทำ เพราะว่าเธอก็ยังแวะมาดูสามีได้ตลอดเวลา ยกเว้นว่าเจอเคสผ่าตัดแบบฉุกเฉินเท่านั้นเอง

    “ วันนี้เมียของพี่สวยจังเลยครับ ”

    เคยปากหวานอย่างไร คนเราก็ยังคงปากหวานอยู่เช่นเดิม แทยอนเอ่ยชมภรรยาของตัวเอง ทุกวันสำหรับเขาแล้วทิฟฟานี่ก็ดูสวยเสมอ แต่พอเธอสวมเสื้อกาวน์ทีไรเขาก็รู้สึกว่าเธอจะดูดีเป็นทางการไปอีกแบบ ดูสวยในแบบเนี๊ยบสะอาดสะอ้านตา เห็นภรรยาในชุดนี้คราใดหัวใจเขาก็รู้สึกหวั่นไหวได้ทุกที และจะหวั่นไหวกว่านี้ถ้าเธอใส่...ซีทรู แล้วก็ขอเป็นสีดำด้วยนะ แบบนั้นจะดูเร้าใจมากเลย

    “ หึๆๆ แล้วทุกๆวัน ฟานี่ดูไม่สวยเลยเหรอคะ ”

    เธอพูดแบบกวนๆแล้วก็ยิ้มหวานตามสไตล์ของคนยิ้มสวยนั่นแหละ แทยอนก็ยิ้มรับให้กับคุณหมอคนงาม พร้อมกับเอ่ยชื่นชมในใจ...เมียเราสวยไม่เบาเลยจริงๆ ขอวอนเถอะนะที่รักอย่าไปยิ้มแบบนี้กับใครเลยนะ ยิ้มให้พี่คนเดียวก็พอแล้วนะคนดี ถ้ายังไม่รู้ก็รู้เอาไว้เลยซะตอนนี้ว่า...สามีขี้หึงเมียอย่างมากเลนนะครับคนสวย

    “ สวยสิครับ เมียของพี่สวยทุกวันอยู่แล้ว ”
    ขยับกายยุกยิกเพื่อให้ตัวเองได้เข้าไปใกล้ชิดกับคนรัก แต่ว่าร่างกายไม่อำนวยสักเท่าไหร่ แทยอนเลยทำเหมือนอย่างที่ใจต้องการไม่ได้เท่าที่ควร ทั้งเฝือกทั้งสายอะไรต่อมิอะไรนี่อีกล่ะ อยากกอดเมียก็กอดไม่ได้ ทำอะไรไม่ถนัดเอาเสียเลย ชีวิตนี้ขอเดี้ยงแค่ครั้งเดียวพอต่อไปจะไม่ขอเดี้ยงอีกแล้วเน้อ

    “ จะขยับไปไหนคะ ” 

    เห็นสามีดิ้นยุกยิกทำตัวยึกยักน่าสงสัย คุณหมอคนสวยก็ไม่แน่ใจว่าสามีต้องการอะไรกันแน่ แต่ก็คิดว่าแทยอนคงมีเรื่องที่เธอคงพอจะช่วยเขาได้ ยิ่งถามอีกคนก็ยิ่งขยับกายเข้าไปใหญ่ แทยอนเหมือนจะพยายามยกแข้งยกแขนขึ้นมา ทิฟฟานี่เอียงคอมองตามอย่างสงสัย ไม่นานนักเธอเองก็เข้าใจว่าคนไข้รายนี้ต้องการสิ่งใดจากเธอ

    “ มา...ฟานี่ช่วย ”

    ว่าแล้วแม่หมีก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ เธอเดินตรงเข้ามาหาแทยอน ซึ่งกำลังนอนหายใจพะงาบๆด้วยอาการเหนื่อยหอบ ถ้าเป็นเวลาปกตินะ ป่านนี้แทยอนคงคว้าเอาตัวของทิฟฟานี่มากอดไปแล้วล่ะ แต่นี่เพราะเขาได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่าง อะไรๆที่เคยทำได้ก็ไม่สามารถทำได้อย่างนั้นไปอีกสักระยะใหญ่ๆ ดูเหมือนคุณหมอคนงามจะล่วงรู้ไปถึงจิตใจของสามี ทิฟฟานี่เดินเข้ามาหาแทยอนถึงขอบเตียงคนไข้ เธอยกแขนขึ้นมาจากนั้นก็วางฝ่ามือลงไปทาบที่หน้าฝากของแทยอน สัมผัสที่คนป่วยได้รับมันคือความรักความอบอุ่นทั้งนั้น แค่ฝ่ามือแตะเพียงเท่านี้ แทยอนก็รู้สึกเหมือนมีแต่ความรู้สึกดีให้กัน

    “ พี่รู้สึกดีจังเลยครับ แตะหน้าฝากของพี่นานๆนะฟานี่ ”

    คนที่ร้องขอให้แพทย์หญิงแตะหน้าฝากนานๆนอนหลับตาพริ้ม แทยอนหลับตาลงไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาแค่รู้สึกดีกับสัมผัสที่คนรักมอบให้ ไม่ได้ตั้งใจจะยิ้มอ่อยใครเลยหรอกหนา แต่บังเอิญว่าทิฟฟานี่ดันเป็นคนเห็น รอยยิ้มนี้ที่เธอเป็นเจ้าของ ไม่อยากให้แทยอนยิ้มแบบนี้กับใครเลยจริงๆ

    “ ชอบที่ฟานี่ทำแบบนี้เหรอคะ ”

    ทั้งที่ก็รู้จิตรู้ใจกันมากมาย แต่ทิฟฟานี่ก็ยังแสร้งถามแทยอนเหมือนกับคนที่ไม่รู้อะไรเลย ในการใช้ชีวิตคู่ของสามีภรรยาคู่นี้ เท่าที่ผ่านมาแล้วหลายต่อหลายปี ทิฟฟานี่จะตามทันแทยอนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆก็ตาม เธอมีความสามารถในการจัดการคนกะล่อนให้อยู่หมัด และเข้าใจวิธีมัดใจสามีอย่างมีเชิง ดังนั้นง่ายมากหากจะรู้ใจกันไปหมดทุกอย่าง

    “ ครับผม ” 

    “ แล้วแบบนี้ล่ะคะ...ชอบมั้ย ? ”

    แบบนี้...ของทิฟฟานี่มันหมายถึงการดึงมือออกมาจากหน้าผาก มือเรียวลูบเสยผมของคนเจ็บให้เปิดขึ้น เพื่อที่หน้าผากของแทยอนจะได้มีพื้นที่มากกว่าเดิม ทิฟฟานี่ยืนจ้องหน้าของสามีอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะค่อยๆก้มหน้าลงไป แล้วใช้ปลายจมูกกดลงไปที่หน้าผากของอีกคน แทยอนก็หลับตาลงเพื่อรับสัมผัสนั้น ในขณะที่ทิฟฟานี่ก็ละเลียดปลายจมูกดด่งของตนไปมาจนทั่วบริเวณ

    “ ชอบครับ แต่...พี่อยากได้มากกว่านี้ ”

    พอบอกว่าอยากได้มากกว่านี้ ทิฟฟานี่ก็คลี่ยิ้มน้อยๆชวนให้หลงใหล แทยอนลืมตาขึ้นมาเห็นแล้วจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียเลย เจอรอยยิ้มบนใบหน้าและตาที่ยิ้มแบบนี้เข้าไป ต่อให้เป็นเหล็กกล้าก็ย่อมหลอมละลายลงไปอย่างง่ายดาย เมียจ๋าอย่ายิ้มให้ใครแบบนี้นะคนดี พี่คนนี้คนทนไม่ได้หากมีใครได้เห็นรอยยิ้มของเธอ

    “ ต้องทำยังไงน๊า...ถึงจะได้มากกว่านี้ ”

    ทิฟฟานี่แกล้งถามให้เป็นนัยๆ ว่าแทยอนควรจะทำอย่างไร เขาถึงจะได้อะไรที่มากกว่าปลายจมูกแตะหน้าผาก ว่าแทยอนกับยูบินเจ้าเล่ห์มากแล้วนะ แต่ทิฟฟานี่ก็เหลี่ยมจัดไปไม่น้อยกว่าสองคนพ่อลูกนั้นหรอก แทยอนกับยูบินจะเจ้าเลห์ให้เห็นชัดๆและโจ่งแจ้ง แต่ทิฟฟานี่จะเป็นพวกเก็บอาการเก่ง เธอสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆก็ตาม คุณหมอคนงามสามารถรับมือได้หมดทุกครั้งไป

    “ ทำตัวน่ารักครับผม ”

    แทยอนกระพริบตาวิบวับสลับกับทำตาใสวิ๊ง พ่อหมาจอมกะล่อนอ้อนคุณหมอด้วยการทำหวานสิ่งสายตาปิ๊งๆให้ แถมยังทำแก้มป่องเหมือนอมของเอาไว้อีก แม้ว่าร่างกายจะไม่อำอวยเท่าไหร่ แต่ความแอ๊บแบ๊วมีเกินร้อย ไม่แปลกหรอกหากจะเห็นยูบินใช้มุขนี้บ่อยๆ ก็พ่อมันพาเป็นถ้าลูกไม่เป็นคงจะไม่ใช่

    “นี่น่ารักแล้วเหรอคะ ”

    ยังแสร้งทำเป็นไม่เห็นความน่ารักที่สามีพยายามทำ ทิฟฟานี่ชอบที่จะกลั่นแกล้งแทยอนอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อสบโอกาสที่จะได้ทำมีหรือที่แม่หมีจะไม่แหย่สามีเล่น ไม่เห็นจำเป็นต้องถามอะไรเลยด้วยซ้ำไป ก็รู้ๆกันอยู่ว่าแทยอนน่ะน่ารักเพียงใด ต่อให้เขานอนทำหน้านิ่งๆเขาก็ยังดูน่ารักเลย แต่ที่ทิฟฟานี่ถามไปนั้นเธอหวังจะให้แทยอนทำมากกว่านี้ต่างหากเล่า

    “ ยังไม่น่ารักอีกเหรอจ๊ะ...แล้วแบบนี้ล่ะ...น่ารักพอมั้ย ”

    ว่าแล้วแทยอนก็หาวิธีทำตัวให้ดูน่ารักมากขึ้นกว่าเดิม เพราะคุณเมียบอกว่าเขายังน่ารักไม่พอ ดังนั้นคุณพ่อลูกซนก็เลยต้องขนเอาความน่ารักมาแสดง คราวนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องมาแบ่งเรื่องอายุกันแล้วล่ะ เพราะว่าหากอยากได้รางวัลที่คุ้มค่า มันก็ต้องแลกมาด้วยความพยายาม ซึ่งต้องอาศัยความหน้าด้านเข้าไปด้วย

    แทยอนพยายามแล้วพยายามอีกจนสามารถยกแขนข้างที่ดีที่สุดขึ้นมาได้ เมื่อสามารถควบคุมแขนข้างนึงได้แล้ว คนที่อยากจะทำตัวหน้ารักก็ขยับยึกยักยุกยิกไปมา ทิฟฟานี่ก็มองดูด้วยความสงสัย อยากรู้จริงๆว่าสามีจะทำอะไรกันแน่ และไม่นานนักแพทย์หญิงคนสวยก็ต้องหัวเราะก๊ากออกมา เมื่อเธอได้เห็นคนไข้ในปกครองทำท่าควีโยมิ

    “ ฮ่าๆๆๆๆ น่ารักมากค่ะพี่แท ไปหัดมาจากไหนคะ ”

    คนถูกถามไม่ได้ตอบอะไรกับคุณหมอคนสวยเลย แทยอนทำแค่ยิ้มๆแล้วก็เต้นยึกยักต่อไป แม่ร่ายร่างกายจะไม่อำนวยสักเท่าไหร่แต่ใจนี่เกินร้อยเลยจริงๆ แทยอนยังทำท่าทางให้ตัวเองดูน่ารักอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งแสดงท่าทางดุ๊กดิ๊กทั้งอ้อนวอนทางสายตา ทิฟฟานี่เห็นแล้วก็อดใจไว้ไม่อยู่น่ะสิ มือสะอาดของแพทย์หญิงคนงามยื่นเข้ามาหาใบหน้าของสามี แก้มป่องๆที่ดูกี่ทีก็น่ารักน่าชังก่อนหน้านี้ได้ถูกบทขยี้ด้วยริมฝีปากสวยซะแล้ว

    จ๊วบ...!!!

    “ สามีใครน๊า...น่ารักเป็นบ้าเลย ฟานี่รักพี่แทนะคะ...ที่รัก ”

    สาวสวยลักลอบขโมยจูบของบุคคลอันเป็นที่รัก ทิฟฟานี่จูบจ๊วบหนักหน่วงที่แก้มป่องๆของสามี ความจริงจะจูบปากของแทยอนนั่นแหละ แต่เพราะเขากำลังทำปากจู๋อยู่เธอจึงยื่นมือไปประคองใบหน้าคุ้นเคยเข้ามาจูบแทน ปกติก็ไม่เคยคิดที่จะรุกสามีก่อนเลยสักนิด แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าถ้าไม่รีบทำแล้วจะเสียใจทีหลัง บ่อยครั้งนะที่แทยอนทำตัวน่ารักน่าชัง เขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเจอกันใหม่ๆเลยนั่นแหละ คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้งทิฟฟานี่ถึงได้เลือกแทยอนแทนที่จะเลือกคนที่ดูดีกว่าเขา คนนี้ทิฟฟานี่รักแล้วรักเลยไม่คิดจะเปลี่ยนใจ 

    “ อร๊าย...ฟานี่ทำอะไรเค้าอ่ะ มาบอกรักกันตรงๆแบบนี้เค้าเขินนะตะเอง ”

    คนเจ็บทำเหมือนตัวเองเป็นสาวสุดสะดิ้งตุ้งติ้งน่าฟัดดัดจริตทำตัวกระมิดกระเมี้ยน ทำเป็นเหนียมอายแถมปรายตามองแบบคนที่ต้องการความรับผิดชอบ การแกล้งทำตัวสาวแตกมันไม่ได้แปลกตาอะไรเลยสักนิด เพราะแทยอนกับยูบินชอบเล่นแบบนี้กันบ่อยๆ แทยอนเล่นเป็นสาวแตก ส่วนยูบินเล่นเป็นหนุ่มหล่อ ก็พ่อมันพาเป็นจะให้ทำยังไง เคยเตือนแล้วนะว่าอย่าทำบ่อยๆเดี๋ยวลูกน้อยมันจะติดเป็นนิสัย แต่เท่าที่เห็นกันทุกวันยูบินก็ทำตัวเหมือนผู้ชายอยู่ร่ำไป ทิฟฟานี่ก็เริ่มจะปักใจเชื่อแล้วว่าลูกสาวเริ่มกลายร่างแล้ว

    “ เขินมากเหรอคะที่รัก ”

    เมื่ออีกคนแกล้งที่จะสาวแตกทิฟฟานี่ก็เลยแกล้งที่จะเป็นสาวห้าว ก็อย่างที่บอกว่าเธอไม่เคยรุกสามีก่อนแต่ครั้งนี้เห็นทีจะอดใจไม่ไหว อาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์เลวร้ายที่เพิ่งผ่านพ้นมา มันเป็นบทเรียนที่มีราคาแพงแสนแพงสำหรับเธอเลยทีเดียว แค่รู้ว่ากำลังจะเสียคนที่รักไปหัวใจก็เจ็บช้ำจนเรียกได้ว่าขาดรอนๆ ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานใจในวันนั้นเธอจะจำมันไปจนตาย และตราบใดที่เธอยังมีเวลาอยู่กับคนที่รัก อะไรที่ไม่เคยทำจึงอยากจะลองทำดูบ้าง วันนี้ยังมีเวลาก็จะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เธอจะสามารถทำได้

    “ เขินสิคะตะเองก็ ”

    ทำเหนียมอายบิดกายไปมาตามประสาคนมารยาเยอะ ถึงแม้ว่าทิฟฟานี่จะรู้อยู่ก่อนแล้วก็ตามทีเถอะ แต่แทยอนก็ยังเยอะได้อีก ก็คนมันหล่อน่ารักออกซะขนาดนี้หากจะมีมารยาสักนิดสักหน่อยเมียที่รักก็คงจะให้อภัยล่ะนะ ถึงแม้ว่าความจริงตัวเองจะไม่ได้เขินอะไรเลยก็ตาม ยอมรับว่าหน้าด้านยิ่งว่าทางคอนกรีตเสียอีก แต่ก็นั่นแหละวันนี้อยากจะหน้าบางดูบ้างจะเป็นไร

    ยิ่งได้เห็นก็ยิ่งเด่นชัดว่าน่ารัก น่ารักจนอยากจะฆ่าทิ้งให้แดดิ้นเสียจริงๆเลย ทะลึ่งทะเล้นเล่นเป็นบ้าในบางโอกาสนี่แหละเสน่ห์ที่ทำให้ทิฟฟานี่พลาดท่ามาหลงรัก กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อทุกอย่างมันได้สายไปแล้ว ไม่เคยคิดเสียใจเลยที่เธอมาเจอคนๆนี้ แทยอนสามารถทำให้เธออารมณ์ดีได้ทุกวัน เวลาเจอก็หมั่นไส้แต่พอเขาหายหน้าไปใจก็คิดถึง รักจริงๆอิตาคนทะลึ่งเจ้าชู้คนนี้

    แทยอนทำเอียงอายเหมือนให้ท่า และทิฟฟานี่ก็ไม่ทำให้เขาเสียเวลาเสียแรงอ่อยไปเฉยๆคุณหมอคนสวยก็เลยดึงคอของสามีเข้ามาหา จากนั้นเธอก็ยื่นใบหน้าสวยของตัวเองเข้าไปใกล้ ตามด้วยแงปรารถนาของหัวใจที่เรียกร้องอยู่นานสองนาน ริมฝีปากอิ่มกดประกบลงไปที่ริมฝีปากซีดจางของคนเจ็บ พอปากของคนนึงประกบปุ๊บอีกคนก็เปิดปากรับทันที แบบนี้เขาเรียกว่าคนทันเกม ไม่ว่าทั้งคู่ใครจะเป็นคนเปิดฉากก่อนแต่ทุกขั้นตอนจะต้องมีอีกคนที่ตอบสนองได้เสมอ 

    ปากประกบปากลิ้นแลกลิ้นอย่างคนสิ้นความอาย ทิฟฟานี่กับแทยอนจูบกันอย่างไม่ได้แยแสใครจะเข้ามาเห็น จะมีระแวงบ้างก็คือตัวป่วนของทุกคน ยูบินทายาทคนแรกของพ่อหมากับแม่หมีนั่นเอง เด็กคนนี้หากมองผิวเผินแล้วจะเห็นแต่ความน่ารักน่าชัง แต่หากอยู่ด้วยกันและเรียนรู้อย่างลึกซึ้งแล้วจะทึ่งในความแสบสันของเจ้าตัวแน่นอน ลูกหมาวัยละอ่อนมันจะแสนออดอ้อนเหมือนพ่อของมัน และเวลาที่มันแผลงฤทธิ์ขึ้นมายูบินจะร้ายกว่าแทยอนเป็นไหนๆ ดังนั้นขออย่าให้ลูกรักตื่นขึ้นมาในตอนนี้เลย...สาธุ

    “ หม่าม๊าอย่ากัดปากป๊ะป๋าฉิ ป๊ะป๋ายังม่ายหายป่วยเลยนะ ” 

    “ ใครกัดปาก แม่กัดปากพ่อซะที่ไหน เขาเรียกว่ากำลังรักษาโรคให้ต่างหากล่ะจ๊ะ ”

    เถียงลูกไปข้างๆคูๆ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองนั้นกำลังทำอะไร อาจจะไม่ได้กัดปากกันเหมือนอย่างที่ยูบินว่ามา แต่เด็กมันก็เห็นเต็มตาว่าพ่อกับแม่ทำอะไรกัน ยูบินไม่ได้ไร้เดียวสาจนไม่รู้ว่าใครทำอะไร ฉากแบบนี้หนูน้อยเห็นพ่อกับแม่และอาๆทำกันออกจะบ่อย เรียกง่ายๆก็คือเห็นจนชินตาและเข้าใจว่ามันคือการแสดงความรัก แต่รักมันคืออะไรหนูน้อยยังไม่สามารถเข้าใจในเวลาอันใกล้นี้หรอก

    “ รักฉาอาไรอ่ะ ป๊ะป๋า...เอาปากแตะกันแล้วมันหายเจ็บเหยอ? ”

    “ หายสิลูก ถ้าป๊ะป๋าถูกหม่าม๊าแตะปากแบบนี้ทุกวันนะ รับรองว่าป๊ะป๋าหายป่วยแน่นอน ”

    “ จริงอ่ะ งั้นหม่าม๊าแตะปากป๊ะป๋าต่อไปเยยนะ ป๊ะป๋าจะได้กลับบ้านเย็วๆ หนูอยากให้ป๊ะป๋ากลับบ้านพร้อมกับเรา ”






    *-*-*-*-*
    *-*-*-*
    *-*-*
    *-*
    *






    “ จะให้เด็กชื่อว่าอะไรก็แล้วแต่ใจของนายนะ...ยูริ ”

    คนที่พ่ายแพ้ในการดวลเดือดยอมจำนนต่อหลักฐานที่มัดตัวของตนเป็นที่เรียบร้อย ทั้งที่เธอเป็นคนส่งสารท้าทายเขาไปแท้ๆ แต่เหตุไฉนกลับกายเป็นตัวของเธอเองที่พ่ายแพ้ คิดว่าตัวเองก็เก่งกาจไม่น้อยหน้าสามี แต่แล้วทำไมศึกครั้งนี้เธอถึงได้พ่ายแพ้ไปโดยสิ้นเชิง เมื่อตนแพ้พ่ายในศึกบนเตียงเสียสิ้นแล้ว เจสสิก้าจึงได้ยกให้ยูริเป็นคนตั้งชื่อของลูกตามที่ได้สัญญาเอาไว้ตั้งแต่ต้น

    “ เอ...จะให้ลูกของเราชื่อว่าอะไรดีน๊า... ”

    ยูริทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักใจ เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะมอบชื่อไหนให้กับลูกสาวดี แม้จะยังไม่รู้เพศของเด็กซึ่งอยู่ในครรภ์ผู้เป็นภรรยา หากแต่ว่าคนทั้งสองก็มาประลองยุทธ์กันให้สะนั่นเตียง ผลสุดท้ายผลลัพธ์ก็ตกมาเป็นยูริที่ชนะแบบขาดลอยสองต่อหนึ่งยก ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะในคราแรก แต่ด้วยประสบการณ์วิดพื้นบนเตียงซึ่งมีเยอะกว่า จึงทำให้ยูริได้เปรียบและชนะเจสสิก้าไปอย่างใสๆ

    “ จะชื่อว่าอะไรนายเลือกเอาได้เลย ฉันยกให้นายเป็นคนเลือกชื่อให้ลูกตามสัญญานะ ”

    เจสสิก้านอนซบใบหน้าอยู่กับแผงอกกว้างของสามี ณ จุดนี้เธอไม่ต้องมาเก็บความพิศวาสเอาไว้อีกแล้ว นอนด้วยกันมาสักกี่ครั้งสักกี่หนก็ไม่เคยเลยที่เธอจะออเซาะยูริแบบนี้ แต่กับครั้งนี้ขออนุญาตอ้อนสามีหน่อยเถอะ อย่าคิดว่าจะได้เจอกันง่ายๆล่ะนานทีปีหนเธอถึงจะยอมทำนะเออ

    “ พี่ได้สิทธิ์นั้นแล้วใช่มั้ยครับ ” 

    ต้องถามย้ำเพื่อความมั่นใจว่าตัวเองได้สิทธิ์ในการเลือกชื่อให้ลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะไม่อยากจะถูกดัดหลังหาว่าคิดไปเอง แม้จะเป็นคนรั้นไม่ชอบฟังคำของใครแต่เชื่อไหมว่าวันนี้เขายอมเชื่อฟังเจสสิก้าหมดทุกอย่าง อะไรทำได้ทำไม่ได้ยูริจะต้องถามความคิดเห็นจากภรรยาก่อนเสมอ ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองนะ หากแต่ว่าอยากจะรู้ความคิดของเมียก่อน อยู่ด้วยกันมันก็ต้องช่วยกันคิดสิถึงจะถูก

    “ ได้สิ…นายได้สิทธิ์นั้นไปหมดแล้วยูริ ฉันยกสิทธิ์นั้นให้นายไปแล้ว ส่วนจะทำอะไรกับมันก็เรื่องของนาย ”

    สิทธิ์…ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่สิทธิ์การตั้งชื่อให้ลูกเพียงแค่เท่านั้น หากแต่หมายไปถึงทุกๆอย่างที่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวพึงจะมีพึงจะกระทำ วันนี้ ตอนนี้ วินาทีนี้เจสสิก้ายกสิทธิในทุกๆอย่างให้กับคนที่เธอรักหมดแล้ว ทั้งตัวและหัวใจเธอก็ยกให้หมดเลย ต่อจากนี้ถ้ามีคนมาถามว่าหัวใจเธอเป็นของใคร เธอจะตอบอย่างไม่คิดเลยว่ายูริ หัวใจของเธอเป็นของยูริแค่คนเดียว

    พอได้ยินคำพูดที่ย้ำว่าตนได้รับสิทธิ์ของหัวใจจากอีกคน ยูริก็จะทนที่จะทำตามใจของตัวเองไม่ได้ สิทธิ์ของเขามันมีขอบเขตกว้างแค่ไหนกันนั้นเขาไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้คืออยากจะใช้สิทธิ์ของความเป็นสามีกับคนที่นอนกอดเขาอยู่ตรงนี้อีกสักรอบเหลือเกิน แม้จะเพิ่งผ่านการวิดพื้นมาหยกๆถึงสามยกแล้วก็ตามที แต่ความปรารถนาที่ตนมีไม่ได้ลดลงไปเลยสักนิด คนมันฟิตจัดทำยังไงได้เนอะ

    ดวงตาคมสองสบตาของหญิงคนรัก ตอนนี้ยังไม่มีคำพูดใดเปล่งออกมาจากปากของคนทั้งคู่ ยูริมองสบตาเจสสิก้าอย่างมีความนัย และเจสสิก้าเองก็ไม่ได้ไร้เดียวสาถึงขนาดที่จะไม่รู้อะไรเลย เธอรู้ว่าสามีต้องการสิ่งใดจากการมองครั้งนี้ อะไรที่คนทั้งคู่ทำได้โดยไม่รู้จักเบื่อหน่าย

    “ สิทธิ์ที่พี่ได้รับมันมากแค่ไหนกันครับน้องเจส ”

    “ สิทธิ์ของนายนะเหรอ…มันก็มากเท่า… ”

    พูดขาดๆหายๆให้อีกคนได้คิด และยูริก็คิดตามจริงๆนั่นแหละ เขาไม่รู้ว่าตัวเองได้รับสิทธิ์มากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่อ่านจากสายตายั่วสวาทของอีกคนแล้วก็รู้สึกว่ามันมากอยู่พอตัว แม่คุณเอ๊ยจะยั่วกันไปถึงไหนนะ มือน้อยๆของคนที่นอนก่ายเกยขยับลูบไล้ไปมาที่แผกอกกว้างของอีกคน ดวงตากลมๆบัดนี้หรี่ลงมาเหลือเพียงนิด เห็นได้ชัดเลยว่ามันหยาดเยิ้มแถมเชิญชวนอีกต่างหาก เจอแบบนี้เข้าไปแล้วใครจะอดใจอยู่

    “ มากเท่า… ”

    “ ก็มากเท่าที่...ใจของฉันมอบให้นายไง ”

    สาวสวยขยับกายภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ซึ่งมีอีกคนซ่อนกายอยู่ด้วย เจ้าของใบหน้างามพยายามตะเกียกตะกายพาร่างของตนให้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกับคนรัก เจสสิก้าพยายามที่จะพาตัวเองไปให้ถึงจุดหมาย แต่เธอก็ไปได้ไม่ถึงไหนหรอกเพราะว่าเอวบางได้ถูกแขนแกร่งของร่างกำยำกอดรัดเอาไว้ก่อนน่ะสิ เจสสิก้าจะขยับขึ้นแต่ยูริรั้งเอาไว้ไม่ให้เธอทำอะไรได้ ไม่รู้ว่าเขาทำเพื่ออะไรแต่เจสสิก้าขยับไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ

    “ ใจของน้องเจสเป็นของพี่ เพราะฉะนั้นพี่มีสิทธิ์ได้ทั้งหมดที่น้องเจสมีสินะครับ ” 

    “ ได้สิคะ...เจสให้สิทธิ์กับพี่ยูล...หมดทุกอย่างเลย ”

    ร่างบางแกะแขนแกร่งที่กอดรัดรอบเอวของเธอออกพอหลวมๆ จากนั้นเจ้าหล่อนก็ขยับกายเลื่อนขึ้นไปหนุนหมอนใบเดียวกับคนรัก ริมฝีปากสวยถูกชโลมเลียด้วยลิ้นจนฉ่ำ ทำเอาคนที่กำลังมองถึงกับต้องเลียริมฝีปากของตัวเองตามไปด้วย ยิ่งนับวันแม่คนงามก็ยิ่งยั่วเก่งเข้าไปทุกที โชคดีจริงๆที่พ่อกับแม่เลือกผู้หญิงคนนี้มาให้เป็นคู่ครองของเขา

    น้ำลายอึกใหญ่ถูกชายหนุ่มกลืนลงคอไปหลายครั้ง ไมรู้ว่าจะเยอะไปไหนกลืนเท่าไรก็ไม่เคยหมดไปจากคอสักที ยิ่งกลืนลงไปเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกได้ว่ามันยิ่งเยอะ ยูริเริ่มมีอาการของคนที่กำลังหื่นอย่างเต็มอัตรา ดูเหมือนว่าเจสสิก้ากำลังจะปั่นหัวของเขาให้หมุนเล่น เดี๋ยวรุกเดี๋ยวไล่บางครั้งก็เดาทางไม่ถูก แต่ครั้งนี้เธอคงกำลังรุกเขาอยู่จริงๆแล้วล่ะ
    สายตาของว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จดจ้องกันไม่ต่างอะไรกับปลากัดที่รอจะฟัดคู่ต่อสู้ ทั้งคู่มองตากันด้วยแววตาแห่งความพิศวาสและปรารถนา อีกคนดวงตาหวานฉ่ำเหมือนน้ำหวานที่พร้อมดื่ม ส่วนอีกคนเริ่มที่จะแสดงอารมณ์หื่นตามแบบฉบับของตน ตอนนี้ต้องวัดกันว่าใครจะอดทนต่อความต้องการได้มากกว่ากัน

    “ น้องเจสรู้มั้ยครับว่า...ตอนนี้น้องเจสดูสวยมากเลยนะครับ ”

    เป็นยูริที่ทนเก็บอาการไว้ไม่อยู่เมื่อบางอย่างภายในกายมันเริ่มรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา เจสสิก้าในเวลานี้ช่างดูเซ็กซี่เร้าใจน่าลุ้นน่าลองเสียจริง ไม่ใช่แค่สีหน้าและแววตาที่ดึงดูดใจ หากแต่รวมทุกๆอย่างที่เป็นเธอนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ยูริใจจิตหวั่นไหว ก้อนเนื้อภายในอกด้านซ้ายทำงานหนักกว่าปกติเมื่อคิดไปถึงเวลาต่อจากนี้ที่เขาจะได้พบเจอ

    “ แล้วพี่ยูลรู้มั้ยคะว่า...พี่ยูลเองก็หล่อเชียว ”

    “ พี่ยูล...น้องเจสเรียกพี่ว่าพี่ยูลหลายครั้งแล้วนะครับ ”

    ก่อนหน้านี้ที่ได้ยินคำนำหน้าของตัวเองว่าพี่ยูริก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่พออีกคนเรียกซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้ง มันจึงทำให้เขาต้องทักท้วงคนที่เรียกเขาว่าพี่ออกมา เป็นที่น่าสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่ตั้งแต่แรกเจอเธอกับเขาจะเรียกกันคนละอย่าง ยูริจะเรียกเจสสิก้าว่าน้อง ส่วนคนน้องจะเรียกคนพี่ว่าแกหรือนาย แต่ ณ ปัจจุบันเขาก็ได้สรรพนามนำหน้าใหม่ว่า...พี่ เจสสิก้าเรียกเขาว่าพี่ยูลช่างสุดแสนจะชอบใจที่ได้ฟัง

    “ ค่ะ...เจสเรียกคนๆนี้ว่าพี่ยูล พี่ไม่ชอบเหรอคะ ”

    ปากก็ฉอเลาะไปส่วนมือก็เอามาวางทาบไว้กับอกของอีกคน เจ้าหล่อนช่างแสนซนเสียจริงนะ มือไม้ไม่เคยเลยที่จะอยู่สุขเลยสักครา ปากว่าเมื่อไหร่มือของเธอได้ถึงตัวเขาเมื่อนั้น แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าเนื้อคู่เพราะหื่นพอๆกัน ยูริมือเร็วฉันฑ์ใดเจสสิก้าก็มือไวฉันฑ์นั้นแล นี่แหละอนาคตพ่อกับแม่ของเด็กน้อยผู้ไม่ประสา

    “ ชอบสิจ๊ะ...พี่ชอบทุกอย่างที่น้องเจสเรียกเลยล่ะ และที่ชอบที่สุดก็คือ... ”

    จ๊วบ…!!!

    “ เพราะรู้ว่าชอบไงคะ เจสถึงกำลังจะทำให้พี่อยู่นี่ไง ”

    พอพูดออกไปแล้วเท่านั้นแหละแม่คนงามก็ลวนลามสามีทันที มือที่ทำเพียงแค่วางแหมะไว้บนอกของยูริก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนไป มันเลื่อนไหลลูบไล้ไปมายังบริเวณนั้นไม่อยู่เฉย คนที่ถูกยั่วยวนก็เลยพลอยเคลิ้มตามอย่างเต็มใจ เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเจสสิก้าจะเหมือนเป็นคนเย็นชา เธอจะไม่แสดงความรู้สึกพิศวาสสามีออกมาให้ใครได้เห็น แต่ถ้าอยู่ด้วยกันตามลำพังเฉกเช่นดังตอนนี้ คำว่าสามีจะเพิ่งเป็นสุดที่รักในทันที ความปรารถนาใดที่เธอพึงได้และพึงมี สิ่งเหล่านั้นจะมีให้กับอีกคน

    ความรู้สึกสุขล้นเริ่มแผ่ซ่านเข้ามายังหัวใจของชายผู้เคยไร้รัก มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย รัก...คำๆนี้ไม่มีใครบอกได้ว่ามันมีขอบเขตจำกัดเอาไว้ที่อารมณ์ไหน จะถามใครก็คงได้คำตอบที่ไม่เหมือนกันเพราะรักมันไม่มีสูตรตายตัว มีแต่เจ้าตัวที่มีรักเท่านั้นจะบัญญัติมันได้ รักของใครจะเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้ แต่ความรักของยูริที่มีอยู่คือเจสสิก้าคนเดียว เธอคนนี้คนเดียวที่เป็นรักของควอนยูริ

    ใกล้กันคราใดหัวใจก็หวั่นไหวไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยสักที จากที่เคยเต้นตามจังหวะปกติก็เปลี่ยนเป็นรัวกระหน่ำอย่างกับสินค้าลดราคา ยิ่งใกล้เวลาปิดห้างเมื่อไหร่ก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ เหมือนกับก้อนเนื้อที่ซ่อนอยู่ในอกข้างซ้ายของเจสสิก้า ยิ่งเธออยู่ใกล้ยูริมากเท่าไหร่หัวใจดวงน้อยๆดวงนี้ก็จะยิ่งมีอาการมากขึ้นเท่านั้น แม้จะอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมานเธอจะพยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด แต่ความจริงแล้วหัวใจมันกลับหวีดร้องว่า...ต้องการ

    “ รู้เหรอครับว่าพี่ชอบหรือไม่ชอบอะไร ”

    แกล้งถามพอให้ใจได้สั่นเล่นเป็นการกระตุ้นนิดๆ ถึงอีกคนไม่บอกเขาก็คิดของเขาไปไกลสุดกู่แล้วล่ะ แค่อยากจะให้เจสสิก้ารู้สึกว่าเขาอ่อนด้อยกว่าก็เท่านั้นจึงได้ถามออกไป หากแต่ว่าภายในใจมันก้าวไปไกลจนแทบจะเสร็จสิ้นกิจกรรมรักกันไปแล้ว

    “ ไม่รู้ได้ยังไงล่ะคะ นี่เมียของใคร...ทำไมจะไม่รู้ใจสามีของตัวเอง ”



    NC……………………………..NC

    YulsiC

    NC……………………………..NC






    *-*-*-*-*
    *-*-*-*
    *-*-*
    *-*
    *






    “ เมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็เห็นสมควรว่าจะยอมยกลูกสาวให้เป็นสะใภ้ของคุณทั้งสองคนตามที่ทางคุณร้องขอมา ”

    ท่านนายพลเอ่ยปากยกลูกสาวสุดที่รักให้ไปเป็นสะใภ้ของครอบครัวอิม แม้จะไม่เต็มใจยกดานี่ให้กับยุนอาสักเท่าไหร่แต่ก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ในเมื่อลูกสาวของท่านได้ลั่นวาจาออกมาว่าตั้งท้องลูกของไอ้ลูกเขยกะล่อนคนนี้ จะให้ท่านนายพลกับคุณนายคิมทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว 

    “ ขอบคุณจริงๆครับท่านนายพล ทางเรายินดีรับผิดชอบกับทุกอย่างที่ลูกชายของเราก่อเอาไว้ครับ ”

    ผู้นำครอบครัวอิมได้ตกปากรับคำรับผิดชอบกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ยุนอาก่อเรื่องไว้ ครอบครัวนี้สามารถดูแลและเลี้ยงดูลูกสะใภ้ให้อยู่อย่างสุขสบายได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลยสักนิด

    “ และเราขอสัญญาว่าเราจะดูแลลูกสาวของท่านกับคุณนายให้ดีที่สุด หนูดานี่จะเปรียบเสมือนลูกสาวแท้ๆของเราสองคนเลยค่ะคุณนายคิม ”

    อิมยูจินพูดสบทบกับคำกล่าวข้างต้นของสามี ครอบครัวนี้วางแผนกันเอาไว้เลยว่าถ้าได้ดานี่ไปอยู่ที่บ้าน พวกเขาจะเลี้ยงดูเด็กสาวคนนี้ให้ดีที่สุดประดุจกับเธอเป็นลูกสาวในไส้กันเลยทีเดียว อยากเรียนจะส่งเสียให้เรียน อยากทำงานจะจัดแจงหาการหางานให้โดยที่จะไม่ให้ลูกสะใภ้ลำบากหาเลยหากเธอของขอมา

    “ ดิฉันเชื่อที่คุณสองคนว่ามานะคะ แต่ไม่ค่อยจะไว้ใจลูกชายของคุณเท่าไหร่เลยค่ะ ”

    ในเมื่อจะมาเป็นดองเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว คุณนายคิมก็เลยไม่จำเป็นต้องปิดบังความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่ เมื่อรู้สึกอย่างไรก็บอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้เอาไว้ตรงนี้เลยก็แล้วกัน

    “ เอ่อ...คุณนายคิมหมายถึงความเจ้าชู้ของยุนอาเหรอคะ ถ้าเป็นเรื่องนั้นคุณนายอย่าได้ห่วงไปเลยค่ะ ทางเราจะไม่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเป็นอันขาดค่ะดิฉันขอสัญญา ”

    “ ในเมื่อคุณนายอิมให้คำสัญญาแบบนี้แล้วดิฉันก็สบายใจขึ้นมาหน่อยค่ะ ต้องเข้าใจหน่อยนะคะว่าเรามีลูกสาวอยู่แค่คนเดียวเราจึงต้องหวงต้องห่วงเป็นพิเศษ ”

    “ ผมเอาเกียรติของผมเป็นประกันนะครับท่านนายพล หนูดานี่จะไม่มีวันเสียใจ หากมีวันนั้นเมื่อไหร่ทางเรายินดีชดใช้ให้คุณทุกอย่างครับ ”

    “ ผมได้เอ่ยปากยกลูกสาวให้ไปเป็นสะใภ้บ้านของคุณแล้ว แต่การที่ดานี่จะอยู่กับใครนั้น ให้ลูกสาวของผมโตกว่านี้ก่อนแล้วเราค่อยมาว่ากันใหม่ วันนี้แค่ยกให้ตามความเหมาะสมเท่านั้น เพราะพรุ่งนี้ดานี่จะเดินทางไปเรียนต่ออีกอย่างที่ผมอยากจะขอ...ห้ามยุนอาไปหาดานี่โดยที่ไม่มีคนในครอบครัวของผมหรือเด็กของผมไปด้วย ไม่อย่างนั้นผมจะถือว่าสิ่งที่เราตกลงกันในวันนี้เป็นโมฆะ พวกคุณมีปัญหาอะไรมั้ยครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเราก็จบเรื่องนี้กัน และลูกสาวของผมจะยังอยู่ที่นี่กับพวกเรา ”

    พ่อแม่ของยุนอารู้สึกเสียหน้านิดๆที่ผู้ใหญ่ฝ่ายนี้ยังไม่ยอมให้พวกเขาพาดานี่ไปอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าท่านนายพลจะบอกว่ายอมยกลูกสาวให้ไปเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลอิมแล้วก็ตาม เด็กสาวเป็นลูกสะใภ้แค่ในนามเท่านั้น และจะได้เป็นจริงๆขนาดย้ายไปอยู่ด้วยก็ต่อเมื่อเธอโตแล้วงานนี้ยุนอาแห้วรับประทาน


    ผู้หลักผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายต่างก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตน ที่บ้านท่านนายพลก็เลยเหลือแต่คนไม่มีการมีงานทำเท่านั้นที่ยังอยู่ ดานี่เป็นเจ้าของบ้านดังนั้นเธอจึงอยู่ได้ไม่ผิดอะไร แต่คนที่เพิ่งจะได้มาเป็นลูกเขยก็ยังเอ้อละเหยลอยชายไปมา ประหนึ่งว่าบ้านหลังนี้เป็นของตัวเอง

    “ เมียจ๋า...ไปอยู่บ้านกับสามีมั้ยคะ ”

    ชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆเดินต้อยๆตามหลังเมียไม่ห่าง ยุนอาพยายามโน้มน้าวใจให้ดานี่ยอมไปอยู่ที่บ้านของเขาในคืนนี้ ในเมื่อพ่อตาแม่ยายยอมยกลูกสาวให้เขาแล้ว ก็ไม่เสียหายอะไรใช่ไหมหากเขาจะทำตัวให้สมกับการเป็นสามี หน้าที่ของสามีคือรักและดูแลภรรยา ซึ่งบางส่วนเขาก็ได้ทำไปแล้วแต่มันยังไม่สมบูรณ์ก็เท่านั้นเอง ดังนั้นคืนนี้อยากจะทำให้มันสมบูรณ์ยันเช้าเลยฮ่าๆๆ

    “ ไม่ได้หรอกค่ะ หนูต้องเตรียมตัวเดินทางนะ ”

    ดานี่บอกสามีพรางเดินไปมาเพื่อเก็บข้าวของเตรียมตัวเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้ รู้อยู่หรอกว่าตัวเองเป็นอะไรกับคนที่เดินตาม ก่อนหน้านี้ดานี่คือเด็กสาวผู้เก็บงำความลับมากมายเอาไว้ แต่เมื่อเธอใจกล้าหน้าด้านเปิดเผยความจริงและไม่จริงออกไป สถานการณ์เลวร้ายก็เปลี่ยนผันทันที ตอนนี้เธอได้เป็นสะใภ้ของตระกูลอิมอย่างเกือบเป็นทางการไปแล้ว

    “ จุ๊ๆๆๆ บอกแล้วไม่จำนะคะ ไม่เอาหนูนะมันดูห่างเหินอ่ะ เอาเป็นเมียจ๋านะคะ...ได้ป่ะ ” 

    ได้ยินคำว่าหนูจากดานี่คราใดหัวใจดวงนี้รู้สึกสลดทุกทีเลย คำว่าหนูมันบ่งบอกเลยนะว่าอายุต่างกันมากแค่ไหน สิบสี่ย่างสิบห้ากับอายุยี่สิบแปด นั่นมันห่างกันตั้งรอบนิดๆเลยนะ ยิ่งคิดยิ่งตอกย้ำว่าตัวเองนั้นแก่มากแค่ไหน นี่ถ้าไม่ใช้ความเจ้าเล่ห์และการเข้าใจผิดของดานี่ร่วมด้วยนะ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาจะได้เมียเป็นของตัวเองสักทีไหม

    “ เฮ้อ...ค่ะ ตกลงค่ะ เมียจ๋าก็เมียจ๋า ”

    เด็กสาวผู้ใจดีหันมายิ้มหวานให้กับชายผู้เป็นที่รัก รอยยิ้มของเธอดูมีความสุขมากเลยทีเดียว เมียรักของยุนอายิ้มให้เขาอย่างเปิดเผยแบบที่ไม่ต้องเกรงสายตาของใคร หัวใจดวงน้องเหมือนได้อุ่นไอมาเติมเต็มส่วนที่ขาด เด็กสาวถูกเลี้ยงดูมาด้วยเงินแม้พ่อกับแม่จะบอกว่ารัก และเธอเองก็รู้ว่าท่านทั้งสองรักมากแค่ไหน แต่ท่านทั้งคู่ก็ไม่เคยที่จะแสดงมันออกมา สิ่งที่เธออยากได้ก็มีแค่ความอบอุ่นมีที่พึ่งทางใจไม่ใช่คำทักทายที่ว่า...เอาไว้ก่อนนะลูกพ่อกับแม่มีธุระต้องไปทำ

    “ ดีมากเลยค่ะที่รัก มามะมาให้สามีกอดหน่อย ”

    ไม่พูดเปล่าตาเฒ่าหัวงูก็เดินเข้าไปโอบเอวบางจากด้านหลัง ยุนอารั้งตัวของดานี่เข้ามากอดไว้อาจจะด้วยรู้สึกวิงเวียนที่เห็นเมียเดินไปเดินมาก็เป็นได้ หากแต่จุดประสงค์หลักของของเขาก็คือ...อยากกอด มีเมียน่ารักขนาดนี้ก็อยากจะขอกระชับความสัมพันธ์ให้แนบสนิทกันยิ่งกว่าเดิมสักหน่อย
    แขนยาวของคนตัวสูงกอดรัดเอวบางของร่างเล็กอย่างหลวมๆเพื่อไม่ให้คนที่ถูกกอดรู้สึกอึดอัด วันนี้ชายหนุ่มได้กอดคนรักอย่างที่ไม่ต้องกลัวใครจะเอาปืนมาจ่อหัวอีกแล้ว เป็นเพราะเด็กสาวคนที่อยู่ในอ้อมกอดคนนี้คนเดียวเลย หากเธอไม่เข้ามาขวางทางปืนแล้วบอกกับพ่อว่าตัวเองท้องกับเขา ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องยากหากจะมีวันนี้

    “ ถึงไม่อนุญาตก็คงจะกอดอยู่ดีไม่ใช่เหรอคะ ”

    “ อืมม์...ใช่ค่ะ ถึงเมียจ๋าไม่ให้กอด สามีก็จะกอดเมียจ๋าอยู่ดีนั่นแหละ ”

    จมูกโด่งยื่นเข้าไปสูดดมเอากลิ่นหอมที่ติดผมสาวเข้าปอด การหายใจลึกๆแต่ละฟอดมันทำให้ชายหนุ่มชุ่มฉ่ำหัวใจ จากนั้นคางยาวๆของเขาก็ได้วางลงไปพาดที่บ่าของอีกคน พร้อมกันนั้นจมูกซนของคนเจ้าชู้ก็ซุกไซร้ไปตามซอกคอของคนรัก ดานี่ไม่ได้ผลักไสยุนอาออกห่างแต่อย่างใด เธอแค่เอียงคอไปตามที่หัวของยุนอาดันให้เอียงเท่านั้นเอง

    “ คืนนี้ไปอยู่คอนโดกับสามีสักคืนได้มั้ยคะเมียจ๋า ”

    จมูกก็ซุกไซร้กับซอกคอส่วนปากก็พร่ำออดอ้อนวอนให้เมียไปอยู่ด้วย เพราะนี่เป็นคืนสุดท้ายที่ดานี่จะได้อยู่เกาหลี ดังนั้นนี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะยังพอมีเวลาอยู่กับคนรักตามลำพังบ้าง อยู่ด้วยกันอย่างไม่ต้องหลบๆซ่อนๆเหมือนก่อนหน้านี้ หากสาวน้อยเดินจากเขาไปในวันพรุ่งนี้ การรอคอยที่กินเวลาเกือบครึ่งปีก็จะเข้ามาเยือน ซึ่งยุนอาไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนั้นโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

    “ ไปอยู่กับพี่สองต่อสองสักคืนได้มั้ยที่รัก ”

    “ สามีก็ได้ยินแล้วนี่คะว่าคุณพ่อท่านห้ามเราอยู่กันตามลำพัง ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เราทำกันมาจะสูญเปล่านะคะ สามีไม่อยากแต่งงานกับเมียจ๋าแล้วเหรอ ”

    เด็กสาวยกแขนขึ้นมาตั้งฉากแล้วก็เอามือน้อยๆนั่นลูบไล้ที่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของอีกคน ใจจริงนั้นอยากจะมีเวลาส่วนตัวกับยุนอาเหมือนกัน แต่ด้วยคำสั่งและข้อตกลงที่ทั่งสองฝ่ายมีให้กันมันฉุดเธอเอาไว้ แต่หากทำตามที่หัวใจปรารถนาก็เกรงว่าคนรักนั่นแหละที่จะมีอันตราย และเธอยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

    “ อยากสิคะ สามีอยากแต่งงานกับเมียจ๋านะ แต่งวันนี้พรุ่งนี้เลยก็ได้สามีพร้อมเสมอนะคะ ขอแค่เมียจ๋าบอกมาคำเดียวค่ะ ”

    คนที่เคยไร้หัวใจคนนี้อยากจะแต่งงานมีเมียมีลูกในเร็ววัน หากแต่ว่าที่เจ้าสาวยังมีอายุน้อยมากเขาจึงต้องเก็บแผนนี้เอาไว้ แต่ก็ยังมีเรื่องสงสัยคาใจอยู่ว่าเขาไปทำดานี่ท้องตอนไหน ทำไมเธอถึงได้บอกท่านนายพลไปอย่างนั้น หรือว่าก่อนที่เขาและเธอจะมาเจอกัน ดานี่เคยมีใครไปพร้อมๆกับมีเจสสิก้าอย่างนั้นเหรอ 

    “ อืมม์...เมียจ๋า สามีขอถามอะไรได้มั้ยคะ ”

    “ ถามอะไรคะ ”

    ดานี่เหลือบไปมองเสี้ยวหน้าของคนที่ต้องการจะถามอะไรเธอ เด็กสาวมองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลและสงสัยของยุนอา ดานี่เห็นสามีเป็นแบบนี้แล้วเธอก็สงสัยในอาการของเขาเหมือนกัน อะไรที่อยู่ในนั้นสิ่งใดที่ยุนอากำลังเป็นกังวลอีก ในเมื่อเรื่องรวมของเขากับเธอก็ลงเอยด้วยดีไปแล้วนี่นา

    ด้วยความสงสัยที่เพิ่งจะมีขึ้นมาดานี่ขยับหมุนตัวเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับคนรัก สองคนมองสบตากันอย่างต้องการหาคำตอบจากอีกฝ่าย ปัญหาอะไรหรือเรื่องราวแบบไหนกันที่ทำให้เกิดเวลานี้ ยุนอาเบือนสายตาไปมองที่เสี้ยวหน้าของดานี่สักพัก แต่เด็กสาวไม่อยากให้เขาพักสายตาไปที่อื่นนอกจากดวงตาของเธอเอง

    มือเล็กยกขึ้นมาประกบแก้มทั้งสองข้างของคนที่เริ่มตั้งคำถาม ตอนนี้ยุนอาเหมือนจะไม่กล้าถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ และกิริยาที่เขาทำอยู่ก็ยิ่งส่งผลให้ดานี่อยากรู้เข้าไปใหญ่ ความสับสนและสงสัยต่างๆนาๆประดังเข้ามาในหัวจนจะแยกเรื่องไหนออกจากกันไม่ได้อยู่แล้ว

    “ ที่รัก...เมียจ๋าพร้อมที่จะตอบทุกคำถามนะคะ ขอเพียงแค่สามีถามมา...เท่านั้นเอง ”

    อยากจะรับรู้อยากจะรับฟังในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ ขอเพียงยุนอายอมบอกสิ่งนั้นออกมาเธอก็จะได้กระจ่างดังใจหวังทันที ความรู้สึกอึดอัดที่ตลบอบอวลอยู่ในห้องนอนเล็กๆห้องนี้จะได้จางหายไป

    “ ครับ...เมียจ๋า ที่บอกว่าท้องนั่นน่ะ เมียจ๋าท้องจริงๆเหรอคะ เมียจ๋าท้องกับพี่...จริงๆเหรอ ”

    คำถามนี้อาจจะดูใจร้ายไปสักหน่อย แต่ว่าคนคอยคำตอบก็จำเป็นต้องถามเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ไม่ว่าคำตอบที่ได้รับจะเป็นเช่นไร เด็กที่อยู่ในท้องของดานี่จะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของใครก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรยุนอาก็รับได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เพราะรักเขาจึงยอมรับทุกอย่างที่เป็นดานี่ได้หมด ดีหรือไม่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย แต่ตอนนี้เพียงแค่อยากรู้ความจริงเท่านั้น

    “ เปล่าค่ะ...เมียจ๋าไม่ได้ท้องกับสามีนะคะ ”

    “ คะ...ครับ เมียจ๋าไม่ได้ท้องกับพี่ ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ว่าเด็กน้อยคนนี้จะเกิดมาจากใคร แต่แกจะมีพี่เป็นพ่อของแกครับผม ”

    ดานี่พูดอะไรไม่ออก เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจก่อนที่จะโผเขากอดคนรักเอาไว้แน่น แรกเจอเธอบอกได้เลยว่ายุนอาดูไม่น่าเป็นคนใจแคบจิตใจแข็งกระด้างและสุดแสนจะเย็นชา พูดจาอะไรแต่ละคำมีแต่เชือดเฉือนทำให้เจ็บช้ำ แต่พอลองมาคบกันเธอจึงได้รู้ว่าสิ่งที่เคยเห็นนั้นเป็นเพียงหน้ากากที่เขาสวมมันเอาไว้ แท้จริงภายใต้หน้ากากนั้นมีแต่ความรักและความอบอุ่นเต็มไปหมด ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่ได้มารักกับผู้ชายคนนี้

    “ สามีขา...เมียจ๋าไม่ได้ท้องกับใครหรอกนะคะ เมียจ๋าโกหกพ่อค่ะ ไม่อยากให้พ่อทำร้ายที่รักของเมียจ๋าอีก ขอบคุณนะคะที่จะรับเป็นพ่อของลูกใครก็ไม่รู้ ”

    “ ฮ่าๆๆ...สามีก็ถูกหลอกด้วยเหรอคะ ร้ายจริงๆนะเมียเรา ”

    ยุนอาถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเขาได้รู้ความจริงที่ว่าดานี่ไม่ได้ท้อง เธอแค่กุเรื่องขึ้นมาโกหกท่านนายพลเพื่อช่วยชีวิตเขาเท่านั้น รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆที่ดานี่ยังเป็นเด็กดีของเขาอยู่เช่นเคย ดีแล้วล่ะนะที่เด็กไร้เดียงสาคนนี้ยังจะไร้เดียวสาอยู่ต่อไป

    “ เมียจ๋าขอโทษนะคะสามี ”

    “ จะขอโทษทำไมล่ะคะเมียจ๋า สามีว่าเรามาปั้มลูกกันจริงๆเลยดีมั้ยคะ คุณพ่อตาจะได้ไม่ว่าเมียจ๋าโกหกไง ”
    ว่าแล้วคนกะล่อนก็เริ่มคิดแผนชั่วๆขึ้นมาได้ หากไม่อยากให้เมียรักถูกพ่อตากล่าวหาว่าโกหกเรื่องท้องแล้วนั้น เขาจะต้องทำฝันนี้ให้เป็นจริง คราวนี้แหละทั้งเมียทั้งลูกครบกันหมดเลย

    “ ไม่เอาดีกว่าค่ะ อย่าลืมสิคะว่าเมียจ๋ายังเรียนไม่จบ ม.ปลายเลยนะคะ เอาไว้เราแต่งงานกันก่อนแล้วค่อยมีลูกนะคะที่รัก ”

    “ ไม่ได้เหรอคะ ว๊า...น่าเสียดายจริงๆ งั้นสามีของจูจุ๊บเมียจ๋าแทนได้มั้ยคะ สักวินาทีเดียวก็ยังดี ”

    ดานี่ยิ้มอย่างใจดีก่อนที่เธอจะรั้งใบหน้าหล่อเหลาของคนรักให้ลงมาหา และตามด้วยริมฝีปากที่ฉาบด้วยลิปสติกสีชมพูระเรื่อไปประกบที่ริมฝีปากของอีกคน ยุนอายืนงงกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญในตอนนี้ กำลังสงสัยอยู่ว่านี่คือฝันหรือเรื่องจริง ปกติดานี่ไม่เคยจู่โจ่มเขาก่อนเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้มาแบบเต็มๆ

    “ วันนี้นี้รับจูบไปก่อนนะคะ เอาไว้คืนหน้าเมียจ๋าจะให้มากกว่านี้ค่ะ ตกลงมั้ยคะที่รัก ”

    “ ครับผม...เมียจ๋าว่ายังไงสามีจะทำตามนั้นครับ ว่าแต่...คืนนี้พี่นอนที่นี่กับเมียจ๋าได้มั้ยเอ่ย ”

    “ ได้สิคะ สามีจะนอนที่นี่ก็ได้นะ ก็เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้วนี่คะ เมียจ๋ายอมให้สามีนอนด้วยจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยค่ะ และถ้าเรียนจบเมื่อไหร่เราจะได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่เช้ายันค่ำตลอดไป ”

































    Writer talk..........................สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทั้งหลาย วันนี้ไรท์กลับมาอีกครั้งกับอะไรก็ไม่รู้ รู้แค่ว่ามันมีสีแดงๆด้วยอ่ะ อยากได้มั้ยคะ ถ้าอยากได้ขอมาเลยค่ะ ไรท์ว่างเมื่อไหร่จัดให้เมื่อนั้น ฮุๆๆๆๆๆ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×