ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก YulsiC yuri x sica

    ลำดับตอนที่ #74 : Chapter 74

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.11K
      2
      8 ส.ค. 56

    งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก





    74





    “ อ้าม...อาหย่อย แต่ไม่มีเนื้อเยยอ่ะ มีแต่ผัก ”

    หนูน้อยวัยกำลังซนบ่นอุบอิบเบาๆ ในขณะที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่เต็มปาก ยูบินกำลังกินข้าวกับพ่อและแม่ วันนี้ลูกหมาก็ยังวุ่นวายและน่ารักเหมือนอย่างเช่นเคย ทุกๆวันเด็กน้อยจะมีพ่อกับแม่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ ทั้งที่เจ้าตัวน้อยก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้วแต่ก็ไม่ยอมทำ เหมือนจะยังพยายามออดอ้อนผู่ปกครองอยู่เรื่อยๆ ซึ่งแทยอนกับทิฟฟานี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกหมาของตัวเองเลย ลูกใครใครก็รักเฉกเช่นนั้นแล

    “ ตัวแค่นี้บ่นเก่งจริงๆนะเรา เนื้อมันก็มีพ่อยังได้กินเลย ”

    แทยอนก็บ่นให้ลูกสาวบ้าง แต่ที่พูดไปก็เพราะใจนั้นรักและเอ็นดู แม้ยูบินจะเป็นเด็กที่สร้างความวุ่นวายให้ไม่เคยหยุดหย่อน แต่ลูกหมาน้อยก็ยังได้สร้างความสุขให้กับครอบครัวอีกด้วย แค่เพียงเสียงบ่นเล็กๆน้อยๆนั่น มันก็ทำให้คนที่ฟังยิ้มออกมาได้ ยูบินก็เก่งนะแค่ต้นหอมกับผักชีหั่นฝอยชิ้นเล็กๆเท่านั้น ลุกหมามันก็ยังเอามาบ่นจนได้ 

    “ แล้วทำไมหนูมะได้กินล่ะ ป๊ะป๋าแย่งหนูกินเหยอ ”

    นั่น มันหันมาว่าพ่อแย่งเนื้อมันกินจนหมด นี้มันโจ๊กหมูสับนะเนื้อมันก็ปนๆกับอย่างอื่นนั่นแหละ เพียงแต่มันขึ้นอยู่กับว่า คนที่ตักป้อนนั้น จะเลือกตักอะไรใส่ปากของใครเท่านั้นแหละ เด็กๆควรจะทานผักเยอะๆใช่ไหม พ่อเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าลูกหมาต้องกินแต่ผักนั่นแหละ ส่วนเนื้อพ่อจะจัดการเองนะลูกเอ๋ย

    “ เปล๊า...พ่อแย่งหนูกินที่ไหนกัน ไม่เชื่อก็ถามแม่ดูสิ ”

    แทยอนปัดข้อกล่าวหานั้นมาให้อีกคน ยูบินหันขวับมาที่ทิฟฟานี่ทันที ทำเอาแม่หมีต้องเลิกคิ้วข้างนึงขึ้นเพราะความสงสัย เจ้าลูกหมามันมันจับจ้องสายตามาที่คนไม่รู้อะไร กลายเป็นว่าตอนนี้ทิฟฟานี่คือผู้ต้องสงสัยคดียักยอกเนื้อหมู งานนี้จึงต้องพึ่งคุณนักสืบตัวน้อยให้เข้าช่วยมาไขคดี
    ยูบินขยับคลานเข้าไปหาทิฟฟานี่ พร้อมกับสายตาจอมจับผิด ซึ่งทิฟฟานี่เห็นแล้วต้องยิ้มให้ สงสัยว่าลูกหมามันจะดูการ์ตูนแนวสืบสวนเยอะไปหน่อยไหม ดูทำหน้าทำตาสิทำเหมือนกับตัวเองรู้เรื่องอะไรมากมายอย่างนั้นแหละ แค่อ่านหนังสือให้ออกก็ยังทำไม่ได้เลย แล้วนี้จะมาจับผิดอะไรใครได้ล่ะลูกหมา

    “ หือ...มองหน้าแม่แบบนี้ หนูมีปัญหาอะไรกับแม่เหรอคะลูกรัก ”

    “ หม่าม๊า...ยอมรับฉาระภาพมาชะดีๆ ”

    เด็กน้อยคลานสี่ขาเข้ามาใกล้ผู้เป็นมารดา จากนั้นลูกหมามันก็ยื่นใบหน้ากลมๆของตนไปหาทิฟฟานี่ คุณแม่คนงามก็ยื่นใบหน้าสวยๆของตนเข้าหาลูกน้อยเหมือนกัน ยูบินย่นจมูกทำปากบานพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน หน้าตาของลูกหมาในตอนนี้ทำเอาคนที่นั่งดูถึงกับแอบอมยิ้ม ลูกหมามันน่ารักเสียจริงๆเลย

    “ สารภาพ สารภาพอะไรล่ะคะลูกหมา หนูจะให้แม่สารภาพอะไร หืม ”

    ทิฟฟานี่เอ่ยถามลูกสาว ซึ่งตอนนี้ดูจะกำลังงวยงงสงสัยกับอะไรที่ตนไม่รู้อยู่ด้วยสิ สายตาของลูกหมามันส่อแววออกมาเลยว่ากำลังอยากรู้อยากเห็น คงอยากจะรู้ว่าเนื้อหมูมันหายไปไหนล่ะสินะ ก็มันเป็นโจ๊กหมูสับแบบที่เรียกว่าละเอียดเลยแหละ จะให้มีเนื้อหมูเป็นชิ้นๆก็คงไม่ได้หรอกนะลูกหมาของแม่

    “ เนื้อหายปายหนาย ”

    มันเป็นคำถามสั้นๆ แต่ดันได้ใจความแบบถึงแก่น เนื้อหมูหายไปไหน นั่นคือสิ่งที่ลูกหมามันกำลังตามหาอยู่ เพราะตัวเองดูการ์ตูนแนวไขคดีมาเยอะมาก ยูบินจึงมั่นใจว่าตัวเองจะต้องหาความจริงเกี่ยวกับเนื้อที่หายไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ยังไงก็ต้องไขคดีเนื้อหมูที่หายไป ไม่มีคำว่าครอบครัว คนชั่วต้องได้รับการพิพากษา

    “ ถามหาเนื้อเหรอจ๊ะ หึๆๆ เก่งจริงก็หาให้เจอสิลูกหมา ”

    ทิฟฟานี่เค้นเสียงหัวเราะในลำคอออกมาแบบท้าทาย พร้อมกันนั้นเธอก็หรี่ตาให้เล็กลงแบบที่มองแล้วมีเลศนัย เพราะอยากจะลองดูว่าลูกหมามันจะฉลาดได้แค่ไหน มันจะรู้ไหมมาเนื้อหมูทั้งหมดนั่นหายไปไหนกัน ไม่ลองก็คงจะไม่รู้เลยล่ะนะ ดังนั้นต้องลองถึงจะได้รู้ 

    “ อืม...มันต้องช่อนอยู่ในชามแน่ๆเยย ”

    สายตาแห่งความสงสัยได้หันเหไปที่ชามข้ามต้นในทันที ทิฟฟานี่ก็มองตามที่ลูกหมามันมอง เธอมองไปที่ชามข้าวต้มพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างที่ว่าแทยอนเองก็เข้าใจได้ยาก ไม่รู้เหมือนกันว่าภรรยาคนสวยคิดจะทำอะไร

    “ งั้นก็ลองหาดูสิจ๊ะคนเก่ง ”

    “ โอเช หนูจาหาเนื้อล่ะนะ ”

    มือเล็กยื่นเข้าจับช้อนจากมือของผู้เป็นมารดา ทิฟฟานี่ก็ปล่อยช้อนให้ลูกหมา เจ้าตัวเล็กเจ้าปัญหาก็คว้าช้อนมา แล้วหย่อนลงไปในชามข้าวต้ม ด้วยความสงสัยและใคร่รู้มากมาย ยูบินก็ใช้ช้อนควานหาชิ้นเนื้อที่ตัวเองต้องการ หมูสับชิ้นเล็กละเอียดก็ทยอยลอยหมุนขึ้นมา แต่ไม่มีชิ้นไหนเลยนะที่มันโดนใจของเด็กน้อย

    “ เล็กอ่ะ หนูจาเอาชิ้นหย่ายๆ ”

    “ ไม่มีหรอกจ้ะ ” 

    ทิฟฟานี่บอกกับลูกสาว เมื่อยูบินเงยหน้าขึ้นมาจ้องตาของเธอ คุณหมอคนสวยได้แต่จ้องตอบพร้อมกับยิ้มหวานชวนให้คนที่เห็นเป็นได้ใจอ่อน รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยรักของผู้เป็นแม่ มันได้แผ่ความรู้สึกดีให้กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ แม้แต่แทยอนเองก็ยังได้รับความรักนั้นไปด้วย

    “ ทำไมอ่ะ ป๊ะป๋าแอบกินหมดหรอ ”

    ยูยินหันมามองที่แทยอน คนป่วยไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด แต่ก็ยังถูกลูกหมามันจับผิดเอาจนได้ เขาแค่นอนเล่นเฉยๆนะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้กลายเป็นผู้ต้องหาแบบนี้ พ่อไม่รู้เรื่องเลยนะลูก พ่อมีหน้าที่กินอย่างเดียวเหมือนกัน ส่วนหน้าที่ป้อนเป็นของแม่นะครับ

    “ ฮ่าๆๆๆๆ...พ่อจะไปแอบกินได้ยังไงล่ะลูก ”

    ได้แต่ขำเพราะความไร้เดียวสา ลูกหมามันน่ารักขึ้นทุกวัน ยิ่งโตก็ยิ่งเห็นถึงความน่ารัก เรื่องหน้าตาต้องยกให้พ่อหมาเลยนะ เพราะพ่อพันธ์หน้าตาดีแบบนี้ยังไงล่ะ ลูกหมามันถึงได้ออกมาหน้าตาน่ารักน่าชัง ส่วนด้านไหนที่ออกแนวโหดร้ายทารุณต้องยกให้แม่หมี เธอคนนี้อาจจะแบ่งความโหดร้ายนั้นให้ลูกหมามาก็เป็นได้

    “ ป๊ะป๋าช่อนไว้ในปากอ่ะเปล่า อ้าปากให้หนูดูหน่อยชิ ”

    ความสงสัยยังไม่หมดไปจากใจของหนูน้อย ยูบินวางช้อนลงไปในชามข้าวต้ม จากนั้นลูกหมามันก็คลานสี่ขาเข้าไปหาผู้เป็นบิดา เจ้าตัวป่วนขยับเข้าไปนั่งยังบริเวณที่จะอยู่ใกล้ใบหน้าของแทยอนให้ได้มากที่สุด ลูกหมาก็เลยมุดเข้าไปอยู่ในวงแขนของพ่อหมา ขยับยุกยิ๊กเข้าไปใกล้รักแร้ เข่าน้อยๆไปสะกิดกับเนื้อในส่วนนั้น ก่อให้แทยอนเกิดความรู้สึกจั๊กจี้เบาๆ

    “ อ๊ายอีออกอ๊า...เอื้ออ้ออิ ” ( ไม่มีหรอกน่า...เชื่อพ่อสิ )

    แทยอนทำเสียงอู้อี้เมื่อมือน้อยๆของลูกหมาได้เข้ามาจับที่ปากของเขา ยูบินบังคับให้แทยอนต้องเปิดปาก จากนั้นนิ้วเล็กๆก็สอดเข้าไปในช่องปากของอีกคน ลูกหมายื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของผู้เป็นพ่อ เจ้าตัวน้อยเอียงคอเล็กน้อยเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมองเห็นภายในปากของแทยอน สายตาช่างสงสัยได้สอดส่องมองหาเป้าหมาย แต่ไม่ว่ายูบินจะหายังไงก็หาไม่เจอ ลูกหมาจึงได้ล่าถอยออกมานั่งจ้องหน้าของพ่อเฉยๆ

    “ มันซ่อนอยู่ในแก้มของหนูรึเปล่า...ไหนขอพ่อดูหน่อยซิ ”

    คราวนี้เป็นแทยอนที่เล่นหาชิ้นเนื้อกับลูกน้อย เจ้าตัวยุ่งก็แสนจะว่านอนสอนง่าย พอพ่อบอกให้อ้าปาก มันก็ง้างเอาซะจนเห็นลิ้นไก่ แค่นั้นยังไม่พอใจมันหรืออย่างไรกัน ยูบินผลาเอาปากไปจ่อตรงหน้าของผู้เป็นพ่อ ที่ทำแบบนั้นก็เพื่อจะให้อีกคนรู้กระมังว่าตัวเองนั้นก็บริสุทธิ์เช่นเดียวกัน

    “ อื้อหือ...เต็มๆเลยลูกพ่อ น้ำลายเต็มปากเลย ฮ่าๆๆๆๆ ”

    “ ฮ่าๆๆๆๆ น้ำยาย...ป๊ะป๋ากินน้ำยายป่ะ อ่ะหนูแบ่งให้ ”

    “ เฮ๊ยๆๆๆ ไม่เอ๊า ไปไกลๆเลยนะ ”

    พอบอกว่าจะแบ่งน้ำลายให้ ยูบินก็ปล่อยให้น้ำลายของตัวเองไหลยืดออกมาจากปาก ลูกหมามันทำปากบานใส่ผู้เป็นพ่อ แทยอนพยายามจะหลบน้ำลายหมาบ้า แต่ดูเหมือนว่าสังขารจะไม่อำนวยเอาซะเลยนะนั่น ไม่ว่าแทยอนจะพยายามแค่ไหน ยูบินก็ยังตามไปก่อกวนเขาได้อยู่ดี ส่วนทิฟฟานี่น่ะเหรอ เธอนั่งขำลูกกับสามีที่เล่นอะไรกันก็ไม่รู้

    “ มามะป๊ะป๋า มาให้ลูกหมาจ๊วบที จุ๊บๆ ”

    “ ไม่เอา ไปจุ๊บน้าเจสของแกนู่น ”

    ยูบินก็ยื่นหน้าเข้าหา แต่แทยอนกลับถอยหน้าหนีให้มากที่สุด ลูกหมาน้อยมาพร้อมกับท่าจูจุ๊บอันแสนเร่าร้อน แต่ดูเหมือนว่ามันจะเปียกแฉะเสียมากกว่าเร่าร้อนด้วยซ้ำไป ลูกหมามาพร้อมกับปากบานๆซึ่งมีน้ำลายไหลยืดหยาดเยื้มออกมา พ่อหมาถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคอ เมื่อลูกรักของพ่อได้จ๊วบลงไปที่แก้มอย่างจัง

    “ จ๊วบ...ม๊วก ”

    “ อ๋า...ใบหน้าอันหล่อเหลาของช้าน... ”

    “ ป๊ะป๋าเอาอีกป่ะ เดี๋ยวหนูจะจ๊วบให้นานๆเยย ”

    “ พอแล้วยูบิน พ่อยังไม่หายป่วยเลยนะจ๊ะ ”

    หันขวับมามองตามเสียงแหบๆของคนออกคำสั่ง ยูบินกำลังจะแกล้งแทยอนต่อไป แต่ด้วยถูกมารร้ายมาขัดขวาง แผนการจึงได้เปลี่ยนแปลง จากที่คิดว่าจะไม่แกล้ง กลับต้องแผลงสรใส่แบบไม่ให้มีเหลือ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าลูกหมามันจะโค่นแม่หมี งานนี้ยูบินทุ่มสุดตัวเพื่อความชัวร์ในผลลัพธ์ แต่แผลกลับถูกซ้อนแผนอย่างแยบยล

    ลูกหมาพุ่งเข้าใส่แม่หมีด้วยความเร็วเท่าที่ยูบินจะมี เด็กน้อยถลาเข้าหาแม่อย่างมั่นหมาย ว่าอย่างไรงานนี้แม่หมีต้องเสร็จตนแน่ๆ แต่ปรากฏว่าแขนของทิฟฟานี่ยาวกว่า เธอยื่นเหยียดมันออกมาใส่ลูกรัก ก่อนที่จะจับหมับเข้าที่รักแร้ทั้สองข้าง พรางดึงรั้งเจ้าตัวเล็กเข้ามากอด พร้อมกับหอมแก้มป่องๆอีกหลายฟอดตามความหมั่นเขี้ยว

    “ อ๋า...หม่าม๊าขี้โกงอ่ะ ”

    “ หือ...ลูกสาวใครนะมันน่าฟัดจังเลยนะ มาขอแม่หอมอีกสักฟอดเถอะนะลูก ”

    “ ฟานี่หอมลูกแล้วไม่หอมพ่อของลูกบ้างเหรอครับ พี่เอียงแก้มรอให้หอมแล้วนะ ”

    “ หลับตาสิคะพี่แท ”

    จ๊วบ...!!!

    “ อึ๋ย...น้ำลายอีกแล้ว ”









    *-*-*-*-*



    *-*-*-*



    *-*-*



    *-*



    *









    “ ควอนยูริ อย่า...อย่าทำแบบนี้ ”

    ไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันนึงนั้นเธอจะพิชิตใจของนายคนเจ้าชู้ได้ แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายนั่น เห็นจะเป็นการที่สามีมาคุกเข่าตรงหน้า ซึ่งยอมรับเลยว่า เธอไม่คิดว่ายูริจะกล้าทำเช่นนี้ เพราะคนที่เจ้าชู้ประตูดินกินหญิงไม่เลือก ไม่มีทางที่จะมาทำซึ้งกับใครที่ไหนได้หรอก แต่ก็อย่างว่านั่นแหละนะ รุ้หน้าไม่รู้ใจ วันนี้ปลาไหลก็มีเกล็ดแล้วล่ะ

    “ ทำไมพี่ถึงจะทำไม่ได้ล่ะครับ ก็พี่รักของพี่นี่นา ”

    เพราะรักหรอกหนาเขาถึงได้ยอมให้หมด คนอย่างยูรินี่น่ะหรือที่จะยอมมาทำแบบนี้กับใครง่ายๆ ตั้งแต่เกิดมาจนจะกลายเป็นพ่อคนอยู่แล้วนั้น เขายังไม่เคยก้มหัวให้หญิงใดมาก่อนเลยนะ นอกจากผู้เป็นมารดาแล้วก็มีเจสสิก้านี่แหละ ที่พ่อพวงมาลัยจะไม่ลอยผ่าน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เขาถึงได้ยอมสยบให้ผู้หญิงคนนี้

    “ ที่รัก...พี่รักน้องเจสนะครับ ”

    ใบหน้าคมเข้มแหงนเงยขึ้นไปมองใบหน้าสวยเฉี่ยวของคนที่นั่งอยู่ด้านบน ยูริยิ้มหวานออกมาอย่างจงใจ เมื่อเขาได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเจสสิก้า น้อยนักนะที่คุณภรรยาจะยิ้มออกมาแบบนี้ นี่คือรอยยิ้มที่นานๆทีจะมีมาสักครั้ง ยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังใจ แม้ว่าเจสสิก้าจะเป็นคนปากหนักปากร้าย แต่จิตใจของเธอดีกว่าที่ตาจะมองเห็น ถึงใครที่เพิ่งจะพบเห็นจะไม่ก็ช่าง คนเหล่านั้นอาจจะมองว่าเธอเป็นคนเย่อหยิ่งไม่กินเส้นกับใคร แต่หากได้ทำความรู้จักกันไปแล้วนั้น จะไม่มีใครเลยที่จะไม่เห็นความดีของเธอ และทุกวันนี้ยูริก็ได้เจอมันกับตัวแล้ว

    เมื่อสายตาได้มองสบประสานกัน มันเหมือนห้วงเวลาได้หยุดลง ณ ที่ตรงนี้ ความรู้สึก ณ เวลานี้นั้นมันแสนจะเงียบงันเสียเหรอเกิน เงียบจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกตัก ที่มักสั่นสะท้านทักทายกันจากภายในอกอยู่แล้ว ไม่มีเสียงใดๆที่ดังให้ได้ยินเลยด้วยซ้ำ สายตาคมยังคงจับจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยของอีกคนอย่างไม่วางตา แต่เจสสิก้ากลับรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอต้องเบนความสนใจ เพราะภายในห้องมันเงียบมากเกินไปหรือไงนะ เวลาที่คนเราได้มีเวลาอยู่กับคนที่รัก เลามันก็มักจะทำให้คิดว่าหยุดเดิน ซึ่งสำหรับคู่นี้เห็นจะเป็นจริง เวลาของเขาและเธอได้หยุดนิ่งจนสนิทลงไป นั่นเพราะว่านาฬิกามันตายตอนนี้พอดีเลย

    “ ยูริ...คุณควอน ยูริ ”

    “ ครับผม ”

    เมื่อเมียเรียกชื่อแล้วนั้น ยูริก็ขานรับด้วยความนอบน้อมตามระเบียบ ชายหนุ่มขยับกายเข้าไปเบียดกระแซะกับเรียวขาสวยของหญิงสาว เหมือนแมวเหมียวที่คลอเคลียอยู่กับผู้เป็นเจ้าของ เจสสิก้าได้แต่จ้องมองใบหน้าของผู่เป็นสามี สารภาพตามตรงเลยก็ได้ว่า ตอนนี้เธอหลงรักสามีของตัวเองจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว ถอนตัวไม่ขึ้นหรืออีกนัยนึงก็คือ ไม่อยากจะถอนตัวเสียมากกว่า ก็ได้สามีที่ดีและน่ารักขนาดนี้ ทำไมเธอถึงจะต้องหนีเขาไปด้วยล่ะ

    “ นาย...เหนื่อยมั้ย ที่ต้องมาดูแลฉันน่ะ ”

    เหนื่อยมั้ย...คำถามสั้นๆแต่ความรู้สึกที่เขาได้รับนั้นมันมากมาย เหนื่อยไหมอย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นหญิงใดเอ่ยถามเขาคงจะตอบไปตามตรงว่าเหนื่อย เพราะมันเหนื่อยจริงๆที่ต้องคอยมาตามเอาอกเอาใจอีกคน ยิ่งตอนนี้ยิ่งต้องยอมรับว่าเหนื่อย แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนนั้น ยูริก็รู้สึกว่ามันคุ้มกับการเหนื่อย เหนื่อยแล้วครอบครัวมีความสุข เหนื่อยแล้วเมียรักสุขสบาย ก็ถือว่าความเหนื่อยนั้นได้มะลายเมื่อเขาได้เห็นรอยยิ้มสวยๆของคนรัก

    “ ไม่หรอกครับ สำหรับลูกกับเมียแล้ว พี่ไม่เคยเหนื่อยเลยนะ ”

    “ ปากหวานจังนะ ทำแบบนี้กับผู้หญิงบ่อยล่ะสิ ”

    มือเล็กยื่นไปแตะที่ปลายคางของผู้เป็นสามี เจสสิก้าช้อนคางของยูริให้เชิดขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อที่เธอจะได้มองสบตาของคนรักได้อย่างชัดเจน ว่ากันว่าคนเจ้าชู้มักจะปากหวาน เพราะต้องการเอาอกเอาใจคู่สนทนา นั่นเป็นสิ่งที่เจสสิก้าก็ย่อมรู้ดี ใช่ว่าเธอเองจะไม่เคยปากหวานใส่ใคร ก่อนหน้าที่เจาหล่อนจะมารักกับยูรินั้น เจสสสิก้าก็มีรักกับเด็กสาวคนนึงมาก่อนแล้ว ตอนนั้นเธอเองก็ปากหวานแบบนี้เลยแหละ ทุกคำที่พ่นออกมาก็ล้วนแล้วแต่หวังเอาอกเอาใจ แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วล่ะ ในเมื่อตอนนี้เธอก็ได้มีรักใหม่ กับคนที่เธออยากจะฝากชีวิตของเธอกับลูกเอาไว้ตลอดกาล

    “ ครับผม พี่ยอมรับครับว่าพี่ปากหวานกับผู้หญิงทุกคนที่พี่คบหา แต่นับจากนี้และตลอดไป พี่จะไม่พูดกับใครอีกแล้วนะครับ ปากของพี่จะพร่ำบอกรัก และพูดคำหวานกับน้องเจสแค่คนเดียวครับ...พี่สัญญา ”

    คนเจ้าชู้ย่อมมีคารมหวานเอาไว้เป็นอาวุธประจำตัว ยอมรับว่าตลอดเวลาที่เขาได้เที่ยวเสเพลไปวันๆ คำหวานที่หว่านออกไปให้กับใครๆนั้น มันเป็นเรื่องปกติที่เขาพึงกระทำอยู่เสมอ เพราะหากอยากจะได้ใครไปควง ก็ต้องวางป่วงให้คล้องเหยื่อจนมั่น ไม่อย่างนั้นเหยื่ออาจจะหนีหายไป นั่นเป็นสิ่งที่ยูริทำมาก่อนหน้า แต่ ณ ตรงนี้ ตอนนี้ เวลานี้ กับผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเขานี้ คำพูดหวานหูมากมายล้วนแล้วแต่มาจากใจทั้งสิ้น ไม่ได้พ่นออกมาแค่หวังรางวัลตอบแทน หากแต่เป็นการบอกคำหวานที่แทนความรู้สึกภายในใจ 

    ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากปากของคนสวยเลยสักคำ เจสสิก้านั่งยิ้มแบบดูเหมือนจะขำกับคำพูดของยูริ ไม่รู้สิว่าตอนนี้เธอควรจะขำหรือว่าร้องไห้ ยูริเองก็เดาใจคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ค่อยออกเหมือนกัน เขาทำได้แค่มองสบตาของคนรัก แล้วจากนั้นก็เอนเอียงหัวไปซบพักไว้ที่เข่าของอีกคน ยอมให้หมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้วนะ จากคนที่คิดว่าจะไม่มีใครรักจริง และจะไม่รักใครสักคนจริงๆ วันนี้ต้องมาสยบแนบนิ่งอยู่กับเข่าของคนที่พยายามจะฆ่าเขาตั้งแต่แรกเจอ

    เมื่อเห็นศรีษะของอีกคนเอนมาซบแนบกับเข่า เจสสิก้าก็ไม่เหลือเค้าของคนขี้เก๊กอยู่เลย แม้ก่อนหน้านี้เธอจะพยายามทำเฉยมาตลอด แต่เชื่อไหมว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอรอดพ้นมันไปได้ ต่อให้ตีหน้านิ่งทำเป็นไม่สะท้านไหวติงต่อสิ่งใด แต่ลับหลังเขาเธอไม่เคยสะกดใจให้นิ่งได้เลยสักที และครั้งนี้ก็อีกเฉกเช่นกัน ความรู้สึกสั่นสะท้านมันแล่นเข้ามาในอก อกข้างซ้ายมันสั่นไหวใจเต้นจนรู้สึกหวั่นเหมือนมันจะทะลุออกมานอกอก ก่อนหน้านั้นเธอเคยเก็บอาการพวกนี้เข้าไว้ในใจส่วนที่ลึกที่สุด แต่วันนี้มันฉุดลงไปไม่ไหวอีกแล้ว รู้สึกอ่างไรก็อยากจะแสดงให้อีกคนรักรู้เสียเหลือเกิน

    “ นาย...นายไม่ต้องหาคำพูดที่หวานล้ำมาให้ฉัน ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรออกมาอ้าง เพราะว่าสิ่งที่นายทำให้ฉัน มันก็แสดงให้ฉันรู้แล้วว่า นายทำได้เหมือนอย่างที่นายพูดจริงๆ ”

    มือเล็กวางแหมะลงไปที่เรือนผมสีน้ำตาลเข้มของอีกคน พร้อมกับลูบไล้ผมจากกระหม่อมไล่ลงไปจนถึงท้ายทอย เจสสิก้าทำแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อ ส่วนยูริก็นั่งหลับตาพริ้มและยังเอาแก้มแนบพร้อมกับยิ้มอยู่กับเข่าของเจสสิก้า อยากจะบอกจริงๆเลยว่าเธอชอบ ชอบในทุกๆการกระทำของผู้เป็นสามี ไม่ว่าจะเป็นความหื่นที่เกินจะบรรยาย หรือว่าความน้ำเน่ายุงลายวางไข่ แม้แต่ความเซ่อซ่าความเอาแต่ใจ เจสสิก้าก็บอกได้เลยว่าเธอไม่เคยนึกเบื่อเลย จะวันนี้หรือว่าวันไหนๆ เธอก็ยังจะขอยืนยันว่าไม่เคยเบื่อหน่ายูริสามีของเธอเลยสักวินาทีเดียว

    “ ยูริ... ”

    “ ครับ...ที่รัก ”

    ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ชอบที่จะปากหวานใส่เจสสิก้านัก กับคนอื่นก็มีบ้างตามความใคร่ที่เขานั้นต้องการ แต่กับเจสสิก้ามันเขาแต่ความรัก
    ที่มากกว่าความใคร่ใดๆทั้งสิ้น หัวใจดวงนี้มันถวิลหาแต่เธอเท่านั้น ยิ่งวันเวลาผันผ่านเขาก็ยิ่งต้องการเธอมากขึ้นทุกทีๆ ไม่ได้ต้องการเพียงจะลากขึ้นเตียงเหมือนอย่างที่เคยทำกับใครมา หากแต่ต้องการเจสสิก้ามาเป็นคู่ชีวิตและอยู่ด้วยกันไปจนจะแก่เฒ่า อยากจะใช้คำว่าเรามากกว่าคำว่าฉันหรือคุณ 

    “ หากเรามี...ลูกชาย นายจะให้ลูกของเราชื่อว่าอะไรเหรอ ”

    ไม่เคยเลยที่จะเพ้อเจ้อเรื่องชื่อของลูก เพราะไม่เคยคิดอยากจะมีอยู่แล้วนั่นไง แต่เพราะอะไรเธอถึงได้เอ่ยถามอีกคนก่อน อาจจะเป็นเพราะความแน่นอนแล้วว่า ยังไงซะเธอก็หนีไปไหนไม่พ้น โดนศรรักปักตรงกลางใจแล้วก็ไม่พอ พ่อรูปหล่อยังเรียนวิชาเสกเด็กเข้าท้องเธอมาแบบนี้อีก แล้วจะให้คนสวยหลีกหนีไปที่ไหนได้

    “ ถ้าเป็นผู้ชายนะ พี่จะให้ลูกของเราชื่อว่า...แฮวอน ควอน แฮวอน ครับผม ”

    “ แล้วถ้าเป็นลูกสาวล่ะ นายจะให้แกชื่อว่าอะไร ”

    เพราะยังไม่รู้ไงว่าเด็กที่อยู่ในท้องเป็นหญิงหรือชาย เจสสิก้าจึงได้ถามชื่อเอาไว้ทั้งสองอย่างเลย เผื่อเป็นชายจะให้ชื่อตามที่พ่อของเด็กตั้งให้ หากเป็นหญิงเธอก็หมายมั่นเอาไว้ว่าจะตั้งชื่อเอง แต่อีกไม่กี่เดินในภายภาคหน้า เธอและสามีก็จะได้รู้เพศของเด็กน้อยนี่แล้ว ก่อนที่จะวันนั้นจะเยื้องย่างเข้ามาถึง วันนี้ก็ขอสำรวจถึงความคิดเห็นของสามีเสียก่อน

    “ พี่อยากจะให้ชื่อว่า ควอน... ”

    “ ชู่...เปลี่ยนใจแล้วล่ะ ฉันขอเป็นคนตั้งชื่อให้เอง ”

    “ หือ...ได้ยังไงกันล่ะครับ ก็น้องเจสถามพี่เองนะ เพราะงั้นพี่จะตั้งชื่อให้ลูกสาวครับ ”

    ก็อยากจะมีส่วนร่วมตั้งชื่อให้ลูกสาวบ้าง เห็นเขาเป็นชายแต่จิตใจก็อ่อนไหวไปกับเด็กผู้หญิงเหมือนกันนะ ลูกของพ่อก็ต้องให้พ่อตั้งชื่อด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย ผลสุดท้ายเขาหรือเธอเหล่านั้นก็เป็นลุกของพ่อยูริคนนี้อยู่ดี ดังนั้นไม่จำเป็นต้องแย่งแยกคนตั้งชื่อให้หรอกจริงไหม

    “ ไม่...ฉันขอเป็นคนตั้งชื่อให้เอง ”

    “ ไม่ครับ พี่อยากจะตั้งชื่อให้ลูกด้วย ”

    “ เอาอย่างนี้ดีมั้ย เรามาวัดดวงกัน ใครชนะได้เป็นคนตั้งชื่อให้ลูก ”

    “ ตกลงครับผม แล้วเราจะวัดดวงกันยังไงล่ะครับน้องเจส ”

    ยูริถามไปด้วยความซื่อ เขาอยากจะรู้วิธีวัดดวงของเจสสิก้า อยากจะรู้ว่าเธอจะหาเกมส์อะไรมาให้เขาเล่น เพราะเจสสิก้าชอบปั่นหัวยูริอยู่เป็นประจำ เธอชอบทำให้เขารู้สึกไขว่เขวและขาดความมั่นใจ ไม่ได้จะว่าเธอชอบใช้ความเจ้าเล่ห์มาหลอกล่อเขาหรอกนะ หากแต่ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้ามาเล่นกับไฟซะเหลือเกิน

    “ ไม่รู้จริงๆ หรือแค่ทำเป็นหยิ่งล่ะคะคุณพี่ ”

    “ คุณพี่เหรอครับ ”

    “ สามยกนะคะ ใครยังลุกไหว คนนั้นได้ตั้งชื่อให้ลูก ”

    *

    *

    *
    ฮุๆๆๆๆๆ จะมีไอ้ตัวสีแดงดีมั้ยน้อ









    *-*-*-*-*



    *-*-*-*



    *-*-*



    *-*



    *









    “ วางของที่แกเอาไปลงเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้หัวขโมย ”

    น้ำเสียงที่คุ้นหูฝังลงไปในโสตประสาทส่วนที่ลึกที่สุด เสียงดุดันที่สั่นทุกความรู้สึกของคุณพ่อตา ทำให้เสือร้ายกลายเป็นลูกหมาขึ้นมาในทันที ยุนอาพยายามที่จะทำเป็นนิ่งเข้าไว้ เขาบอกว่าความสงบจะสยบทุกความเคลื่อนไหว ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้ปรับตัวแถมยังกลั้นหายใจเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสงบลง แต่เหมือนทุกอย่างมันจะตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    ปึก...!!!

    “ ว่ายังไงล่ะ ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งเหรอ...ไอ้หัวขโมย ”

    แค่ปืนจ่อเข้าที่ขมับมันคงยังไม่พอ เมื่อยุนอาไม่ยอมที่จะทำตามคำสั่งเลย คุณพ่อจงอางที่หวงลูกสาวอย่างกับอะไรดีคนนี้ จึงได้จี้เข้าไปให้ปลายกระบอกปืนลูกซอง ไปกระแทกปึกเข้ากับส่วนที่ห่อหุ้มสมองเอาไว้ โลหะที่สัมผัสกับผิวกายมันช่างเย็นเฉียบเหลือเกิน เย็นจนรู้สึกขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

    “ คุณยุนอา...คุณวางหนูลงเถอะนะคะ ”

    ดานี่สะกิดให้ยุนอารู้สึกตัว เพราะเธอรับรู้ได้ว่าคนรักตัวชาจนแทบจะกระดิกไปไหนไม่ได้แล้ว ตอนนี้ยุนอาที่เธอมองว่าเก่งกล้ากลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ อาจจะเป็นเพราะมีปืนจ่อที่หัวก็เป็นได้ เขาถึงนิ่งได้ใจแบบนี้ เป็นใครมาเจอสถานการณ์คับขันในตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน คาดว่ารายไหนรายนั้นคงต้องเหมือนอยู่ในฝันร้ายดีๆนี่เอง

    “ วางลูกสาวของฉันลงช้าๆนะ อิม…ยุนอา ”

    ท่านนายพลเอ่ยนามของคนที่ถูกปลายปืนจ่อตรงขมับ เพิ่งจะรู้ว่าไอ้หมอนี่เป็นใครมาจากไหน ได้ยินแต่ลูกสาวเรียกว่ายุนอา แต่ไม่รู้ว่านามสกุลอะไร เมื่อไม่รู้จึงได้ให้คนของตนไปตามสืบมา ได้ความว่าชายหนุ่มที่ยืนอุ้มลูกสาวสุดที่รักคนนี้ มีชื่อว่า อิม ยุนอา ทายาทของนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ไอ้หัวขโมยนี่รอดจากมือของท่านนายพลไปได้หรอก ก็มันเล่นมาหยามหน้าท่านจนถึงห้องนอนลูกสาวเลยนี่ ครั้งแล้วครั้งเล่ามันไม่เคยหลาบจำ ดังนั้นครั้งนี้ต้องเอาให้แน่นิ่งไปเลย

    “ วางหนูลงเถอะนะคะคุณยุนอา เชื่อหนูเถอะนะคะคุณ ”

    ดานี่ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ยุนอาวางตัวเธอลงจากอ้อมอก แต่ดูเหมือนว่าอีกคนก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะทำตามเลยสักนิด ชายหนุ่มยังคงยื่นนิ่งทำตัวตรงเหมือนตอนเคารพธงชาติ เด็กสาวมองไม่ออกจริงๆว่าคนที่กำลังอุ้มเธออยู่นี้เขาคิดอะไร ทั้งที่ปืนกระบอกโตก็จ่อหัวแล้วนะ ทำไมเขาถึงไม่ยอมทำตามที่พ่อของเธอออกคำสั่งสักที การยืนนิ่งแบบนี้กลับยิ่งทำให้ท่านนายพลคิดว่าเป็นการท้าทายเสียอีก

    “ ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม เพื่อให้โอกาสแกได้วางลูกสาวของฉันลง แล้วถ้าเวลาเหลือฉันจะปล่อยแกไป ”

    แม้จะดูเหมือนท่านนายพลเป็นคนใจร้าย แต่ท่านก็ฆ่าคนที่ลูกสาวรักให้ตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้อยู่ดี อีกอย่างก็คือชอบใจในตัวของนายหัวขโมยคนนี้อยู่ไม่น้อย นั่นก็เพราะความกล้าบ้าบิ่นที่ชายหนุ่มคนนี้มี มันกล้ามากเลยนะที่บุกเข้ามาล้วงคอพญาจงอาง แล้วมันก็ต้องได้รางวัลของความบ้าบิ่นกลับไปด้วยสิ

    “ หนึ่ง... ”

    ยุนอายังคงนิ่งอยู่เหมือนเช่นเคย เขายังทำเฉยไม่ขยับไหวติงกับเส้นตายที่ได้รับมา

    “ สอง... ”

    “ คุณยุนอาวางหนูลงเถอะนะคะ ได้โปรดเถอะที่รัก ” 

    ท่านนายพลนับสองออกมาแล้ว แต่ยุนอาก็ยังไม่วางดานี่ลง แถมยังมีหน้ามายิ้มหวานให้กับเด็กสาวอีก ชายหนุ่มยิ้มหวานเหมือนอย่างที่เคยทำ แววตาที่มีให้เห็นริบหรี่ยังคงฉายแววสดใส ไม่รู้ว่าเขาจะยิ้มให้เธอทำไม จะยิ้มสวยให้เมียก่อนตายอย่างนั้นเหรอ

    “ สาม...หมดเวลาแล้วนะ อิม ยุนอา ”

    แกร๊ก...!!!

    “ ลาก่อนนะไอ้หัวขะ... ”

    ไกปืนก็ง้างรอการลั่นอยู่แล้ว แต่ท่านนายพลก็ต้องชะงักงัน เมื่อยุนอาวางดานี่ลงให้ไปยืนกับพื้น ตามด้วยการคุกเข่าของตัวเขาเองอีกด้วย ไอ้ท่าทียโสโอหังก่อนหน้านี้มันหายไปไหนหมด เจ้าคนที่นิ่งเป็นหินมันหายไปเสียที่ไหน ถึงได้มีแต่ไอ้คนบ้าที่ไม่รู้จักกลัวตายคนนี้เข้ามาแทน

    “ ผมขอเถอะครับท่านนายพล ผมขอ...ลูกสาวของท่านเถอะครับ ”

    “ คุณยุนอา ”

    ไม่อยากจะเชื่อที่หูได้ยินเลยจริงๆ ไอ้หัวขโมยคนนี้มันกล้าเข้ามาหยามท่านนายพล แถมยังมีหน้ามาขอลูกสาวจากท่านเสียด้วย ดานี่น่ะแก้วตาดวงใจของท่านนายพลเลยนะ นี่ลูกสาวคนเดียวของครอบครัวนี้เลย แล้วไอ้หมอนี่มันถือดียังไงมาขออะไรไม่เกรงกลัวท่านนายพลแบบนี้ เดี๋ยวก็ทำปืนลั่นเป่าสมองของมันให้กระจายเสียหรอก

    “ แกมีสิทธิ์อะไรมาขอลูกสาวของฉัน...หืม ”

    ถามไถ่หาสิทธิอันพึงมีของคู่กรณีมันเสียเลย อยากจะรู้เหมือนกันว่ายุนอามันจะเอาอะไรออกมาอ้าง สิทธิอะไรของมันกันนะถึงได้กล้าเอ่ยปากขอดานี่แบบนี้ ทั้งที่ปลายปืนก็จ่ออยู่กลางกระบาล แต่ อิม ยุน อามันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวท่านนายพลเลยแม้แต่น้อย

    “ ผม อิม ยุนอา ขอใช้สิทธิ์ความเป็นสามีของลูกสาวท่าน...ครับผม ”

    ชายหนุ่มพูดพร้อมกับก้มหัวลงไปแนบจรดกับพื้นห้อง ดูไปดูมาก็เรียกว่าหมอบแบบคลานกราบเลยด้วยซ้ำ คนๆนี้ไม่เคยต้องมาก้มหัวให้ใคร เขาไม่เคยไปร้องขอสาวใดให้มาสน ผู้หญิงทุกคนเขาไม่เคยแย่แส แต่พอมาเจอแม่สาวน้อยคนนี้แล้ว คำว่าพ่ายแพ้มันก็เด่นชัดขึ้นมา ยุนอายอมก้มหัวลดทิฐิที่เขามีลงไปจนหมด ณ เวลานี้เหลือแค่คนจนตรอกที่ต้องการขอลูกสาวจากพ่อตาเท่านั้น

    “ จะมาขอลูกสาวของฉัน แล้วแกมีอะไรที่เป็นหลักประกันล่ะไอ้หนุ่ม ”

    “ หลักประกันของผมก็คือ หัวใจดวงนี้และ... ”

    “ หนูท้องค่ะพ่อ ”

    “ หือ... ”

    ทั้งยุนอาและท่านนายพลต่างร้องอุทานในลำคอพร้อมๆกัน ท่านนายพลอึ้งกิมกี่ไปกับคำบอกเล่าของลูกสาวสุดที่รัก พร้อมกับคำถามที่ว่าดานี่ท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่วนยุนอาก็ไม่ได้ต่างอะไรจากพ่อตามากนัก เขาก็สงสัยว่าเมียเด็กที่รักท้องได้ยังไง ในเมื่อเขาก็ไม่เคยได้แอ้มเธอเลยสักที อย่างมากก็แค่กอด จูบ ลูบ คลำเท่านั้นเอง แล้วสาวน้อยดานี่ท้องกับใครกันล่ะ อะไร ยังไง คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมดเลย

    “ หนูท้องกับคุณยุนอาค่ะ ถ้าพ่อทำร้ายเขา ก็เท่ากับพ่อทำร้ายสามีของหนู ทำร้ายพ่อของหลาน แล้วถ้าเขาตายไป หลานของพ่อก็จะเป็นกำพร้านะคะ ”

    “ ดานี่... ”

    เจอคำพูดที่ห้าวหาญของเด็กสาวเข้าไป ชายสองคนที่วัยต่างกันถึงกับพูดอะไรไม่ออก นอกจากเรียกขานเอ่ยนามของคนต้นเรื่องออกมาพร้อมๆกัน ดานี่เดินเข้ามาขวางทางปืนของท่านนายพล สาวน้อยทำหน้านิ่งดูเด็ดเดี่ยวเอาการ ท่านนายพลรู้สึกหนักอึ้งที่หัวใจ นอกจากจะแค้นที่ยุนอาเข้ามาหยามหน้าถึงบ้านแล้ว ยังต้องมาโกรธเพิ่มเรื่องทำลูกสาววัยกระเตาะของท่านท้องอีก แบบนี้มันทำลายอนาคตของดานี่ชัดๆ จะยิงมันทิ้งเลยเสียดีไหมหนอ

    “ ถ้าพ่อจะทำร้ายคุณยุนอา พ่อก็ข้ามศพหนูไปก่อนค่ะ ถ้าต้องอยู่แบบเป็นหม้าย.....หนูคงทนไม่ได้หรอกค่ะพ่อ ”

    ว่าแล้วเด็กสาวก็โผเข้าไปกอดเอวของผู้เป็นพ่อเอาไว้ ใบหน้าสวยใสทาบซบลงไปที่อกกว้างของท่านนายพล พร้อมกับน้ำตาที่ไหลเอ่อล้นออกมาจากสองตา เสียงสะอื้นร่ำไห้ดังออกมาให้ได้ยินไม่ขาดสาย ท่านนายพลถอนหายใจหลายต่อหลายครั้ง ความหนักใจกับเหตุการณ์ช็อกสุดขีดนี่มันทำให้ท่านถึงกับคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับเรื่องน่าอับอายที่ไอ้ผู้ชายหน้าด้านมันก่อเอาไว้

    ตอนนี้ยุนอากลายเป็นผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ไปแล้ว งงเลยจริงๆไม่รู้ว่าตัวเองไปทำดานี่ท้องตอนไหน ได้แอ้มเด็กสาวคนนี้สักครั้งก็ยังไม่เคยมี หรือเขาเผลอไปเสกเด็กเข้าท้องน้อยๆนั่นเข้าให้ แต่ว่ามันเป็นตอนไหนกันล่ะ เมาไร้สติถึงขนาดลักลับเด็กมันเลยเหรอ แต่ก็ดีเหมือนกันนะเขาอยากเป็นพ่อคนมานานแล้ว แจ๊คพอตเลยงานนี้แอบเข้าบ้านท่านนายพลอยู่ดีๆ ดันมีลูกโผล่มาเป็นโล่กันลูกตะกั่วซะอย่างนั้น เดี๋ยววันหลังทำใหม่เผื่อจะได้เพิ่มอีกสักคน

    “ ลูกพ่อ แก...ไอ้หัวขโมย ”

    “ ครับท่าน ”

    เงยหน้าตอบพร้อมกับจะลุกขึ้นไปยืนประจันหน้า ก็ตอนนี้เขาได้เป็นลูกเขยท่านนายพลจริงๆแล้วนี่นา ทำไมจะไปยืนเผชิญหน้ากับคุณพ่อตาไม่ได้เชียวหรือ

    “ คุกเข่าลง ”

    เสียงตวาดห้วนดังลั่นห้องนอนเล็กๆของเด็กสาว ยุนอารีบทรุดฮวบคุกเข่าลงไปตามที่ท่านนายพลสั่งอย่างรนราน นึกว่าได้เลื่อนขั้นเป็นพ่อของหลานแล้วเชียวนะ พ่อตาน่าจะให้อภิสิทธิ์ในส่วนนี้บ้างสิ ลูกลูกเขยเลยนะครับคุณพ่อตา

    “ บอกมาซิว่าแกจะเอายังไง แกทำอะไรลูกสาวของฉัน ไอ้.... ”

    ปืนลูกซองถูกยกขึ้นมาจ่อที่หัวของยุนอาอีกครั้ง ท่านนายพลยืนถือมันด้วยมือที่สั่นระริก ไม่ได้สั่นเพราะโกรธหรือกลัวจนตัวสั่นหรอกนะ หากแต่ที่มือของท่านสั่นเทาแบบนั้น นั่นเป็นเพราะว่าปืนลูกซองด้ามยาวมันหนักมากเลยน่ะสิ ถือด้วยมือข้างเดียวมันก็ต้องเมื่อยเพราะเกร็งมากไปหน่อยก็เท่านั้นเอง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งท่านนายพลก็กอดลูกสาวเอาไว้ แม่นกน้อยในกรงทองของพ่อ ปล่อยให้ออกไปบินเล่นไม่ทันไรก็ต้องมาตั้งไข่ในท้องเสียแล้วหรือ ยังอ่อนต่อโลกมากไปหน่อยนะลูกรักของพ่อ

    “ ผม...ผมกล้าทำก็กล้ารับ ครับผม ”

    ยุนอาตะเบ็งเสียงดังให้ท่านนายพลฟังชัดๆ แม้จะจำไม่ได้ว่าตัวเองไปทำเมียจ่าท้องตอนไหน แต่ก็ยินดีและเต็มใจที่จะยืดอกรับผิดกับสิ่งที่เขาอยากจะทำ ก็ความจริงอยากจะปั้มลูกอยู่แล้วนี่นา อยากมากๆเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าดานี่ยังเด็กมากเกินไปหน่อย เขาจึงต้องรอคอยจนกว่าจะถึงเวลา หมายถึงรอให้ดานี่อายุสัก 18 ก่อนท่าจะดี อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ตอนนั้นแม่สาวน้อยก็คงจะน่ากินกว่านี้เยอะเลย แบบอวบอัดน่าฟัดน่าเหวี่ยงตามวัยวุฒินั่นแหละนะ

    “ ดี กล้ารับก็ดี ถ้าอย่างนั้นแกก็.... ”

    กริ๊ก...!!!

    “ ผมยอมรับผิดชอบทุกอย่างแล้ว อย่าฆ่าผมเลยครับคุณพ่อตา ”

    สองมือของชายหนุ่มถูกยกขึ้นมาเหนือหัว เขาแบมือร้องขอโอกาสจากผู้ที่อยู่เหนือกว่า ตอนนี้ยุนอาเริ่มกลัวตายแล้วล่ะ จะไม่ให้กลัวได้ยังไง เขาจะกลายเป็นพ่อคนอยู่แล้วนะ แล้วจะให้เขาทิ้งลูกทิ้งเมียเด็กแบบนี้ไปได้ยังไง ถ้ายังไม่ตายเขาก็หาเลี้ยงดานี่กับลูกน้อยได้สบายๆอยู่แล้ว

    “ แกเรียกฉันว่ายังไง...นะ ”

    “ พ่อ...ตาครับ ผมเรียกท่านว่าคุณพ่อตา ครับผม ”

    ร่างกายสั่นสะท้านเพราะความเกรงกลัว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลัวอะไรได้มากขนาดนี้ ยุนอาคุกเข่าแล้วหลับตาปี๋ เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองสบคนที่กำลังถือปืนอยู่ จะทำให้ท่านนายพลช้ำใจไปมากกว่านี้คงไม่ได้ ต้องกระณีประนอมนอบน้อมแบบสั่นๆเอาไว้ก่อน จะพูดให้ดูเข้าท่าก็ต้องเรียกว่าสั่นสู้กระมัง

    “ หึๆๆ แกกล้ามากเลยนะที่เรียกฉันว่าพ่อตา คงทำใจก่อนเรียกแบบนี้แล้วสินะไอ้ลูกเขย ”

    “ หือ... ”

    คราวนี้เป็นดานี่กับยุนอาที่ร้องหือออกมาอย่างลืมตัว ดานี่ลืมตัวจนเลิกร้องไห้ไปเลยทีเดียว ส่วนยุนอากำลังตะลึงกับสรรพนามใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับมา ไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ท่านนายพลเรียกเขาว่า...ลูกเขย ได้เป็นลูกเขยของท่านนายพลแล้วจริงๆหรือนี่ ถ้าหูไม่ได้ฝาดไปผมจะไปบอกแม่ให้มาของเมียให้เลย

    “ จะหืออะไรล่ะ ลุกขึ้นมาสิไอ้ลูกเขย จะนั่งให้พ่อยิงทิ้งเหรอลูก ”

    “ ครับ...คุณพ่อตา ”

    ยุนอารีบลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน เขายืนยิ้มแฉ่งหน้าบานเป็นกระด้งอยู่ตรงหน้าท่านนายพล ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปใกล้คนที่เขาเรียกว่าพ่อตา จากนั้นก็ยืนตัวตรงก่อนก้มโค้งคำนับอย่างเป็นทางการ ท่านนายพลยืนหน้านิ่งก่อนจะยิ้มรับการคำนับนั้น แม้จะยอมรับยุนอาเป็นลูกเขย แต่ไฉนเลยท่านนายพลก็ยังไม่วางใจในความเจ้าชู้ของยุนอา ก็กิติศัพท์ของไอ้ลูกเขยตัวดีมันดังกระฉ่อนอยู่ไม่น้อยเลยนี่นา ทั้งเรื่องเสเพลงานการไม่ยอมทำ ไหนจะเรื่องพัวพันธ์กับผู้หญิงมากหน้าหลายตานั่นอีกล่ะ นี่ยังไม่รวมเรื่องของซอฮยอนด้วยหรอกนะ หวังว่ายุนอามันจะเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจนในเร็ววัน ไม่อย่างนั้นมันได้ตายแน่

    “ ผมได้เป็นลูกเขยของท่านแล้วใช่มั้ยครับผม ”

    “ ยังไม่สมบูรณ์หรอกนะ ไปคุยกับพ่อแม่ของแกซะ เราจะได้ตกลงกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก่อนที่ลูกสาวของฉันจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ ”

    “ รับทราบ...ครับผม ”

    ว่าแล้วยุนอาก็กระวีกระวาดควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของตน จากนั้นชายหนุ่มก็เดินไปโทรศัพท์ยังระเบียงห้องนอนของดานี่ เขาหันมายิ้มให้ท่านนายพลกับเด็กสาวผู้เป็นที่รัก ก่อนจะหันกลับไปคุยกับคนทางบ้าน ดานี่ยิ้มให้ยุนอาก่อนที่เธอจะหันมาสบตากับผู้เป็นพ่อ

    “ หนูนึกว่าพ่อจะฆ่าเขาจริงๆซะแล้ว ”

    “ ไม่หรอกลูกรัก พ่อจะไม่ฆ่าเขาในเวลานี้หรอก จะฆ่าได้ยังไง ในเมื่อ...มันเป็นพ่อของหลานน้อยคนนี้ ”

    ท่านนายพลชี้นิ้วลงไปที่ท้องของดานี่ เด็กสาวยิ้มรับกับคำตอบของผู้เป็นพ่ออย่างเก้อเขิน เพราะเธอไม่ได้ตั้งท้องจริงๆเสียหน่อย ที่บอกกับผู้เป็นพ่อออกไปมันก็แค่เรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อกล่อมท่านเท่านั้น ดานี่ก้มมองที่ท้องของตัวเองอย่างช้าๆ อยากจะสารภาพกับพ่อจริงๆเลยนะว่า...หนูโกหกค่ะพ่อ แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้เดี๋ยวยุนอาจะตายหนีเธอไปเสียก่อน คราวนี้คงได้เป็นหม้ายจริงๆแล้วล่ะ

    “ หนู...ขอโทษค่ะพ่อ ”

    “ ไม่เป็นไรหรอกลูกรัก เป็นความผิดของพ่อกับแม่เองที่ไม่เคยมีเวลาอยู่กับลูกเลย ถ้าลูกของพ่อจะต้องมาเป็นแบบนี้ มันก็เพราะพวกเราสองคนนั่นแหละ พ่อกับแม่ขอโทษนะลูก พ่อขอโทษจริงๆ เดี๋ยวพ่อจะให้คนไปตามแม่ของหนูกลับมา เราคงต้องมีเรื่องคุยกันยกใหญ่เลย ”

    ดานี่จะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป แต่กลับกลายมาเป็นว่าท่านนายกำลังกล่าวขอโทษเธอ ผู้เป็นพ่อสำนึกได้ถึงความผิดที่ตนมี ท่านกับภรรยาทิ้งลูกสาวเอาไว้เพียงลำพังอยู่บ่อยๆ พูดง่ายๆคือมีเวลาน้อยมากที่จะได้อยู่พร้อมหน้ากันพ่อ แม่ ลูก ดานี่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยเงินและความเหินห่าง มีเพียงพี่เลี้ยงเท่านั้นที่ได้ใกล้ชิด ความรักความอบอุ่นจากครอบครัวเธอไม่เคยได้ และหากวันนี้ลูกสาวจะกลายเป็นเด็กใจแตกก็คงจะไม่แปลกอะไร เพราะท่านนายพลตระหนักได้ว่าลูกสาวต้องหาความรักความอบอุ่นให้กับตัวเอง แม้จะเป็นไปในทางที่ผิดก็ตาม 

    “ พ่อคะ หนู...หนูไม่เคยโทษพ่อกับแม่เลยค่ะ หนูรักพ่อกับแม่นะคะ ”

    คราวนี้เป็นน้ำตาแห่งความตื้นตันใจของดานี่ เพิ่งจะเคยมีวันนี้นี่แหละนะที่เธอจะถูกผู้เป็นพ่อกอด นี่แหละความรักความอบอุ่นที่เด็กสาวเฝ้าโหดหา บางครั้งดานี่ก็เข้าใจว่าพ่อกับแม่เห็นเธอไม่สำคัญเท่างาน ทุกวันก็จะมีแต่งานกับงาน พ่อไปทางแม่ไปทาง ไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเลย แต่วันนี้ความเป็นครอบครัวกำลังจะกลับมา ถ้ารู้ว่าโกหกแบบนี้แล้วเธอจะได้ทุกอย่างกลับมา เด็กสาวคงจะโกหกว่าท้องกับเจสสิก้าไปนานแล้ว แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าเธอจะท้องกับผู้หญิงเหมือนกัน ดังนั้นกับยุนอานี่ก็โอเคแล้วล่ะ

    “ พ่อกับแม่ก็รักลูกเสมอนะ และคิดว่าจะต้องรักไอ้กะล่อนนั่นด้วยแล้วล่ะ ”

    ท่านนายพลเหลือบไปมองยุนอาที่กำลังคุยโทรศัพท์กับคนทางบ้าน ไอ้หนุ่มนั่นมันยิ้มหน้าบานจนทำให้ท่านรู้สึกหมั่นไส้ เปลี่ยนใจไม่ให้มันเป็นลูกเขยตอนนี้ยังทันไหมนะ ชักรู้สึกว่าอยากจะยิงมันทิ้งเอาเสียจริงๆเลย แต่ก็อย่างว่าลั่นวาจาไปแล้วนี่สิ แบบนี้ก็ฆ่ามันทิ้งไม่ได้เดี๋ยวลูกสาวเป็นหม้ายขึ้นมาล่ะแย่เลย

    “ เฮ้...ไอ้ลูกเขย ” ท่านนายพลเรียกยุนอาเสียงดังให้ได้สะดุ้งกันเล่นๆ

    “ ครับผม ” คนถูกเรียกรีบกดวางโทรสัพทืในทันใด ก่อนที่จะวิ่งหย่งแหยงเข้ามาหาผู้เป็นพ่อตา

    “ โทรตามพ่อกับแม่แล้วสินะ อีกนานมั้ยกว่าทั้งสองคนจะมาน่ะ ” ผู้เป็นใหญ่ในบ้านหลังนี้สอบถามถึงผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย อยากรู้ว่ามีอะไรคืบหน้าไป
    บ้างแล้วนั่นเอง

    “ อีกไม่กี่นาทีก็ถึงที่นี่แล้วครับคุณพ่อตา ” ยุนอารีบตอบคำถามของท่านนายพลด้วยความว่องไว อุตส่าห์ไดรับตำแหน่งลูกเขยแล้วยังไง ก็ต้องไม่ชักช้าทำให้พ่อตาต้องรอนาน

    “ อืมม์...ก็ดี พ่อจะลงไปรออยู่ข้างล่างนะดานี่ ลูกก็พักผ่อนซะร่างกายจะได้แข็งแรง เจ้าตัวน้อยของพ่อจะได้แข็งแรงไปด้วย ” ท่านนายพลหันมาบอกกับลูกสาว อยากให้ดานี่ได้พักผ่อนมากๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่อยากจะให้เดินเหินไปไหนมาไหนมากนัก ต้องเข้าใจหน่อยนะว่าคนจะเป็นตารู้สึกเห่อหลานเอามากๆเลย

    “ ค่ะคุณพ่อ ” ดานี่ตอบรับคำของผู้เป็นบิดา แม้จะยิ้มรับกับใบหน้าของผู้สูงไว แต่ก็ใช่ว่าจะยิ้มได้อย่างใจอยาก มันยากนะที่โกหกพ่อว่าท้อง แล้วต้องมาทำหน้าระรื่นให้ท่านอีก ชีวิตนี้ช่างมีบาปตั้งแต่เด็กจริงๆเลยนะ คิม ดานี่

    “ อ้อ...ไอ้ลูกเขย ฉันให้เวลาแกดูแลลูกเมียจนกว่าผู้ใหญ่ทางนั้นจะมานะ ไม่กี่นาทีใช่มั้ย ตามสบายล่ะลูกเขย ฮ่าๆๆๆๆ ” ท่านนายพลหัวเราะออกมาอย่างสะใจ เมื่อได้แกล้งไอ้ลูกเขยปลาไหลเพียงน้อยนิดก็ตามที

    “ เดี๋ยวๆๆครับคุณพ่อ ” ยุนอารีบเรียกท่านนายพลเอาไว้ก่อนที่ท่านจะเดินลับตาออกไปจากห้องนอนของดานี่

    “ ฮะ...มีอะไร ” ถามลูกเขยออกไปอย่างกวนๆ ยุนอารับรู้ได้ถึงความยียวนกวนประสาทอยู่ในที แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสื้อเข้าไว้

    “ ไม่กี่นาทีเองนะครับ ”

    “ ก็เออสิวะ มีปัญหาอะไรกับพ่อตามั้ยล่ะลูกเขย ”
    ปรี๊นๆๆ...เสียงแตรรถดังมาจากหน้าบ้าน ยุนอาวิ่งไปดูที่ระเบียงห้องอย่างร้อนรน และยิ่งเห็นว่ารถที่มานั้นเป็นรถของใคร หัวใจดวงน้อยๆนี่ก็หล่นวูบลงไปกองที่ตาตุ่มทันที

    “ หมดเวลาแล้วไอ้ขี้หลี ลงไปข้างล่างกับพ่อได้แล้วนะไอ้ลูกเขย ” ท่านนายพลไม่ได้ว่าเปล่า ยังเดินมากอดคอของยุนอาเอาไว้ แถมยังลากออกไปจากห้องนอนของดานี่อีกด้วย ยุนอาพยายามยื่นมือไปขวักไขว่ในอากาศ หวังที่จะได้คว้าเอาคนรักติดมือมาด้วย แต่มีหรือที่ท่านนายพลจะยอมให้เขาทำอย่างนั้นได้

    “ ดานี่ สามีจะอยู่กับเมียจ๋านะคะ ”

    “ ค่ะ แล้วเมียจ๋าจะรอนะคะสามี ”

    “ ค่ะ รอสามีนะคะเมียจ๋า คุณพ่อตาปล่อยลูกเขยเถอะครับ ”

    “ ปล่อยแกให้โง่สิ ลงไปคุยกันข้างล่างเลยไอ้กะล่อน ”

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×