คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : Chapter 43
งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก
Chapter 43
“ งั้น...เย็นนี้เดี๋ยวพ่อมารับนะ อาจจะช้าหน่อยเพราะพ่อต้องไปทำธุระ เสร็จแล้วจะรีบมารับ เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนนะลูก ”
“ ค่ะ...คุณพ่อก็ขับรถดีๆนะคะ ”
“ อื้อ...ตอนเย็นรอพ่อนะ ”
ดงวอนลูบผมของลูกสาวเบาๆ จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปนั่งในรก แล้วก็ขับออกไปอย่างช้าๆ เพราะนี่มันเขตของโรงเรียน จะขับรถเร็วๆเหมือนอยู่บนทางด่วนไม่ได้ มันนานแค่ไหนกันนะที่เขาไม่ได้มาส่งลูกสาวที่โรงเรียน ครั้งล่าสุดที่จำได้ก็ตอนที่เขาพาดานี่มาสมัครเรียนใหม่ๆนั่นล่ะมั้ง หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้มาส่งลูกที่โรงเรียนอีก จนวันนี้นี่แหละ วันที่ลูกโตเป็นสาวแล้วนี่แหละเขาถึงได้มาส่งอีกครั้ง
“ ดานี่... ”
ยุนอาส่งเสียงเรียกเด็กสาวที่เขามาดักรอ จะใช้เสียงดังมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะเป็นที่จับสังเกตุของคนอื่น เขาจึงได้แต่ฝากเสียงแผ่วเบาผ่านสายลมไป หวังเอาไว้ว่ามันจะไปถึงอีกคน และดูเหมือนว่าความพยายามของเขาจะเป็นผล ดานี่หันกลับมาหาต้นเสียงที่เธอได้ยิน ดานี่ยิ้มบางๆให้กับคนที่เรียกเธอ ยุนอาเองยิ้มหวานให้กับสาวน้อยอย่างลืมตัวเหมือนกัน ขายาวๆเขากำลังจะก้าวเข้าไปหาดเด็กสาวอยู่แล้ว ถ้าไม่มีมารมาผจญซะก่อน
“ ดานี่ ”
เจ้าของชื่อเบี่ยงความสนใจหันไปมองตามเสียงใหม่ที่เรียกเข้ามา ทั้งที่เธอกำลงจะเดินเข้าไปหายุนอาอยู่แล้วเชียว แต่ปาร์ค ฮยอนวู เพื่อนร่วมชั้นเรียน เรียกเธอเอาไว้ซะก่อน ก่อนที่สาวน้อยจะได้ไปหาคนที่รักเธอ
“ ฮึ...มีอะไรเหรอฮยอนวู ”
ดานี่ต้องตัดใจไปจากยุนอา เพราะเธอต้องหันมาให้ความสนใจกับเพื่อนชายก่อน ยังไงก็เพื่อนกันมันคงไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าอีกคนจะคิดอะไรที่เกินว่าคำว่าเพื่อน มันยังดูเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น ที่จะมีรักมีชอบกันบ้าง แต่ถ้าเธอให้ความสนใจยุนอามากกว่า มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นฮยอนวูมาก่อน ส่วนยุนอาเอาไว้ค่อยว่ากันทีหลัง
“ อรุณสวัสดิ์ ดีใจนะที่วันนี้เธอมาโรงเรียนน่ะ ”
เด็กหนุ่มบอกกล่าวความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายได้ยิน เขารู้สึกดีใจเป็นอย่ามากเลยล่ะ ดีใจที่ได้เห็นคนที่ตัวเองรักมาโรงเรียนแล้ว ด็กหนุ่มเป็นห่วงเด็กสาวคนนี้หลายวันแล้วนะ เป็นห่วงตั้งแต่วันที่เธอไม่มาโรงเรียน คาดว่าดานี่น่าจะไม่สบาย เพราะปกติเด็กเรียนอย่างดานี่ไม่เคยขาดเรียนโดยไร้สาเหตุอยู่แล้ว
“ อรุณสวัสดิ์เหมือนกันนะ...ฮยอนวู ”
ดานี่กล่าวทักทายเพื่อนร่วมห้องตามมารยาท เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากจะสนิทสนมอะไรกับฮยอนวูมากเท่าไหร่ ตั้งแต่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบตัวเองอย่างเปิดเผย ดานี่ก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเขา แต่ก็ไม่ค่อยจะทำสำเร็จสักเท่าไหร่หรอก จะไปทำได้ยังไงล่ะ ในเมื่อทั้งคู่ยังเรียนอยู่ที่เดียวกัน แถมยังนั่งเรียนอยู่ในห้องเดียวกันอีก มันจึงเป็นอะไรที่ไม่สามารถทำได้ง่ายๆเลย
“ หายดีแล้วเหรอ ”
“ หายดี...อ้อ...อื้อหายดีแล้วล่ะ ”
ดานี่ไหลไปตามน้ำ เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบฮยอนวูว่ายังไง แล้วอีกอย่างเขาก็เข้าใจว่าเธอไม่สบาย ดานี่ก็เลยเล่นส่งไปตามที่ฮยอนวูเข้าใจ ในเมื่อเขาเข้าใจว่าเธอไม่สบาย ก็อย่าพยายามขัดสัทธากันเลยนะไม่สบายก็คือไม่สบายนั่นแหละ อย่าไปดื้อดึงปฏิเสธอะไรออกไปเลย
“ งั้นก็ดีแล้วล่ะ วันนี้มีสอบเต้นรำ เราสองคนจับคู่กันนะ ทุกคนก็มีคู่สอบกันหมดแล้ว เหลือแต่ฉันกับเธอนี่แหละ นะดานี่... ”
ดานี่รู้ว่าจะทำยังไง ในเมื่อเหตุผลของอีกฝ่ายมันก็มีน้ำหนักมากพอ ที่จะทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้ ดานี่หันกลับไปมองหน้าของยุนอา ซึ่งเธอมั่นใจว่าเขาจะต้องได้ยินในสิ่งที่ฮยอนวูพูด ยุนอาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังเหมือนกัน หวงเด็กก็หวงจนไม่อยากจะให้ใครหน้าไหนมาเข้าใกล้ แต่นี่มันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน มันเป็นการสอบของดานี่ เขาไม่มีสิทธิ์อะไรที่ขะเข้าไปขวางได้เลย
“ เอ่อ...จ้ะ...เราสองคนเต้นคู่กันก็ได้ แต่ฉันเต้นไม่เก่งนะ ”
“ ไม่เป็นไร...เดี๋ยวฉันติวให้เอง ว่าแต่...เรารีบไปเข้าห้องเรียนกันดีกว่านะ ใกล้จะได้เวลาเรียนแล้ว ”
ฮยอนวูเห็นว่ามันใกล้จะได้เวลาเรียนแล้ว เด็กหนุ่มจึงเอ่ยชวนเพื่อนร่วมห้อง ดานี่ก็หันไปมองยุนอาอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะถูกฮยอนวูคว้าข้อมือ แล้วก็ออกแรงฉุดให้เดินตาม ยุนอาซึ่งยืนมองการกระทำของเด็กสองคนนี้อยู่ตลอด ก็ถึงกับกัดฟัดกรอดด้วยความไม่พอใจ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ถึงความรู้สึกของฮยอนวูที่มีต่อดานี่ เพราะรู้ยังไงล่ะเขาถึงได้รู้สึกหงุดหงิดอยู่แบบนี้
“ วันนี้ฉันจะยอมยกดานี่ให้หนึ่งวัน แต่ต่อไปอย่าฝันว่าฉันจะยอมง่ายๆนะไอ้เด็กเมื่อวานซืน ”
*_*_*_*_*
*_*_*_*
*_*_*
*_*
*
“ ยูบิน...อ่ะ...อายกให้ ”
เจสสิก้ายื่นกีบติดผมรูปกระต่ายสีขาวน่ารักให้ยูบิน มันเป็นของที่เธอเพิ่งจะได้มาเมื่อไม่นานนี้เอง แบบว่าตัวเองมีเก็บเอาไว้นานแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้ใช้สักที อดีว่ามันติดมือมาด้วย ก็เลยยกให้หลานน้อยท่าจะดีกว่า มันดูเหมาะกับยูบินนะ ลองคิดดูสิว่าจะน่ารักขนาดไหน ถ้ามันได้ไปติดอยู่ที่ผมของเด็กน้อย ลูกหมากับกิ๊บรูปกระต่าย
“ ให้หนูหรอ กอบกุนกั๊บ ”
ยูบินกล่าวขอบคุณเจสสิก้า แล้วหนูน้อยก็ยื่นมือออกไปรับเอากิ๊บมาจากมือของคุณอา ยูบินยิ้มร่าอวดฟันน้ำนมซี่เล็กๆน่ารัก กิ๊บรูปกระต่ายน้อยได้มาอยูในมือของลูกหมาแล้ว หนูน้อยเอามือข้างนึงจับผมม้าของตัวเอง ส่วนมืออีกข้างก็จับกิ๊บเอาไว้ ยูบินพยายามที่จะเอากิ๊บติดที่ผมของตัวเอง แต่หนูน้อยมองไม่เห็นจุดที่จะติด เจสสิก้าก็เลยจัดการให้หลาน เธอติดกิ๊บลงไปที่ผมหม้าของยูบิน จากนั้นก็ปัดให้มนเอาผมออกไปอยู่ข้างๆ เพื่อที่จะได้มองเห็นหน้ากันชัดๆ จากนั้นลูกหมาก็เดินไปหากระจกเพื่อจะได้ส่องดูตัวเอง
“ ฮื๊อ...ม่ายช่าย มะเอาแบบนี้ ”
ดูเหมือนว่าลูกหมามันจะไม่พอใจ กับทรงผมใหม่ที่อาสาวออกแบบให้ หนูน้อยดึงกิ๊บออกจากผมของตัวเอง แล้วก็เดินหยองแหยงเข้ามาหาเจสสิก้า เพื่อที่จะให้คุณอาติดกิ๊บให้ใหม่อีกครั้ง ยูบินยื่นก๊บให้คุณอา เจสสิก้าก้หยิบกิ๊บมาจากมือขงหลาน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมยูบินถึงไม่ชอบใจในสิ่งที่เธอทำให้ หรือว่ามันไม่ใช่สไตน์ของลูกหมาก็ได้มั้ง เจ้าตัวก็เลยไม่ถูกอกถูกใจกับทรงผมที่อาทำให้น่ะ
“ ก็แล้วทำไมถึงไม่เอาแบบนี้ล่ะ น่ารักดีออกนะ ”
“ หึ...เอาแบบนี้ ”
ว่าแล้วยูบินก็รวบกำมนหน้าสั้นๆของตัวเองขึ้น หนูน้อยจับให้มันตั้งตรงปลายๆก็บานเป็นเหมือนต้นมะพร้าว แบบว่าลูกหมามันไม่ชอบอะไรที่เหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่วๆไป แม้ว่าตัวเองจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่ต้องมีอะไรที่มันดูแตกต่างจากคนอื่นสิ ก็หนูจะเอาทรงผมต้นมะพร้าวนี่นา ทรงผมเรียบๆหนูไม่เอาหรอก มันไม่เท่...เดี๋ยวสาวไม่มอง
“ ทรงอะไรเนี่ย ”
“ ยูบินฉุดเท่ ”
ลูกหมามันตั้งชื่อให้กับทรงผมของตัวเองเสร็จสรรพเลยล่ะ ชื่อว่าทรงยูบิยสุดเท่ แต่เท่าที่ดูมันน่าจะเรียกว่า ทรงยูบินเปิดเหม่งมากกว่านะ เอาเถอะ...ไม่ว่ามันจะชื่อทรงอะไร ขอแค่เจ้าตัวน้อยพอใจก็น่าจะเป็นพอนะ เจสสิก้าดึงตัวของหลานน้อยเข้ามาหา จากนั้นเธอก็เอากิ๊บหนีบลงไปที่ผมของยูบิน เอาทรงยูบิยสุดเท่นั่นแหละ ทรงเปิดเหม่งหน้าม้าตั้งอย่างกับต้นมะพร้าว ดูไปดูมาก็น่ารักน่าชังดีซะเหลือเกิน
ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมทิฟฟานี่กับแทยอนถึงได้รักเจ้าตัวน้อยมากมายนัก เพราะตอนนี้เธอเองก็รู้สึกดีกับเด็กแล้วล่ะ จากที่เมื่อก่อนไม่อยากเข้าใกล้ แต่ตอนนี้กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกให้พี่ชาย นี่ล่ะน๊าที่เค้าว่าเอาไว้ ว่าเกลียดอะไรก็มักจะได้อย่างนั้น จากที่เธอเคยเกลียดเด็กก็ต้องมานั่งเลี้ยงเด็ก แล้วจากที่ไม่เคยคิดที่จะสนิมชิดเชื้อกับผู้ชาย ไม่คิดที่จะมีสามีกับคนอื่นเขา ตอนนี้เธอก็มีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังยกหัวใจให้กับชายคนนั้นไปหมดแล้วด้วย
“ อ่ะ...คราวนี้เท่สมใจหรือยัง ”
เจสสิก้าทำทรงผมสุดเท่ให้ยูบินเสร็จแล้ว หนูน้อยก็วิ่งดุ๊กดิ๊กๆไปส่องกระจกอีกครั้ง และคราวนี้ดูเหมือนว่ารงผมที่ตัวเองดีไซด์ จะเป็นอะไรที่น่าพึงพอใจ น่าพิศมัยเป็นอย่างยิ่ง ยูบินยืนส่องกระจกพร้อมกับหมุนตัวมองซ้ายแลขวา สำรวจทรงผมใหม่อย่างตื่นเต้น จากนั้นลูกหมาก็หันมายิ้แฉ่งอวดฟันน้ำนมกับคุณอาคนสวย ตามมาด้วยกระกระพริบตาปิ๊งๆอย่างเจ้าเล่ห์ ยูบินกำลังหว่านเสน่ห์ใส่เจสสิก้า แบบว่ามันคงจะเคยเห็นพ่อทำกับแม่ล่ะมั้ง ก็เลยจำเอามาทำกับคุณอาบ้าง
“ ฉุดยอดไปเยยคนฉวย ”
“ เจ้าชู้ตั้งแต่เล็กแต่น้อยเลยนะลูกหมา เห็นเลยว่าพ่อแกสอนมายังไง ร้ายกว่าอาอีกนะเนี่ย ”
เจสสิก้ามองเห็นถึงอนาคตของยูบินเลยล่ะ ไม่ต้องรอให้โตไปมากกว่านี้หรอก แค่นี้ก็มองรูปการณ์ออกแล้ว ฟันธงได้เลยนะ ถ้ายูบินโตเป็นสาวเมื่อไหร่ มันจะเดินตามรอยพ่อของมันอย่างแน่นอน ไอ้ที่ต้องคิดแบบนั้นก็เพราะว่า ยูบินส่อแววเจ้าชู้ตั้งแต่ตัวยังเท่าลูกหมาอยู่เลย ถ้าโตขึ้นไม่อยากจะคิดเลยว่าจะขนาดไหนก็ตัวอย่างมันมีให้เห็นอยู่แล้วนี่นา
“ ยูบิน..ถ้าโตขึ้นหนูอยากมีแฟนแบบไหน ”
เจสสิก้าลองถามหลานเล่นๆเท่านั้น แฟน..สำหรับยูบินแล้วหนูน้อยน่าจะเคยได้ยินมาบ้างแหละ มันไม่ใช่อะไรที่พูดยาก แทยอนอาจจะเคยพูดให้ยูบินได้ยินได้ฟังมาบ้าล่ะน่า ลูกหมามันมองหน้าของอา แล้วก็เดินวนรอบตัวของเจสสิก้า เหมือนกับว่ามันกำลังทำการสำรวจหาอะไรอยู่สักอย่าง และคำตอบของยูบินก็ทำให้เจสสิก้ามั่นใจว่า ลูกหมามันเข้าใจในสิ่งที่เธอถามออกไป
“ หนูอยากมีแฟนแบบอาเจส เอาบิ๊กบึ้มอึ๋มๆกว่าหม่าม๊าเยย ”
*_*_*_*_*
*_*_*_*
*_*_*
*_*
*
“ ดานี่...ไม่เป็นไรนะ เอาไว้วันหลังฉันจะช่วยสอนให้อีก ”
“ ขอบใจนะ ฉันคงจะต้องฝึกให้มันมากกว่านี้แล้วล่ะ ”
ฮยอนวูปลอบใจดานี่ หลังจากที่ทั้งคู่เพิ่งจะสอบเต้นรำผ่านไป ฮยอนวูสอบผ่านอยู่คนเดียว แต่ดานี่สอบไม่ผ่าน แม้ว่าจะจับคู่ไปสอบ แต่ครูประจำวิชาก็ดูตามทักษะความสามารถของแต่ละคน ไม่ได้ดูกันเป็นคู่ นั่นเพราะว่าต้องการเห็นพัฒนาการขอเด็กแต่ละคน ฮยอนวูนั้นเป็นนักเต้นอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้มนก็เลยเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับดานี่ที่ไม่ชอบการเต้นรำเลย มันจึงกลายเป็นเรื่องที่ยากเอามากๆ
“ แล้วนี่จะกลับพร้อมกันเลยมั้ย ฉันจะให้คนขับรถพาไปส่งที่บ้าน ”
ฮยอนวูตามจีบดานี่อยู่นานแล้ว และการได้ไปส่งสาวที่บ้าน มันก็เป็นอะไรที่เขาใฝ่ฝันมานาน เขาหวังว่าสักนจะต้องไปส่งดานี่ถึงประตูบ้านให้ได้เลย แต่มันก็ไม่เคยจะมีโอกาสเลยสักครั้ง เพราะเจ้าหล่อนคอยแต่ปฏิเสธเขาอยู่ท่าเดียว วันนี้ก็ค่อยข้างที่จะเย็นมากแล้ว ดานี่อาจจะไม่ปฏิเสธเขาอีกก็ไ ก็เลยลองถามเพิ่องหยั่งเชิงดู เผื่อโอกาสทำคะแนนจะมีมาบ้าง
“ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวคุณพ่อก็จะมารับแล้ว เธอกลับไปก่อนเถอะ อีกอย่างที่โรงเรียนก็ยังมีคนอื่นๆอยู่อีก ฉันอยากจะอยู่ซ้อมเต้นต่อน่ะ ”
ดานี่ต้องอยู่รอให้พ่อมารับ เพราะนั่นถือเป็นคำสั่งเด็ดขาดแล้วว่าเธอจะต้องรอ แล้วอีกอย่างนะ มันเป็นโอกาสดีที่เธอจะเอาเวลาที่รอพ่อ เอามาซ้อมเต้นรำไปพรางๆก่อน วันนี้เธอสอบเต้นรำไม่ผ่าน มันจึงเป็นสิ่งที่ดานี่ค่อนข้างจะกังวล ตั้งแต่เรียนมาก็เพิ่งจะมีครั้งนี้นี่แหละที่เธอสอบไม่ผ่าน การสอบแก้ตัวจะมีขึ้นในอีกสัปดาห์หน้า ยังไงเธอก็ต้องเร่งฝึกปรือฝีมือให้เร็วที่สุด
“ จะเอาอย่างนั้นเหรอ งั้น...ฉันอยู่เป็นเพื่อนอีกคนก็ได้นะ ยังไงก็ไม่มีธุระอะไรที่ไหนอยู่แล้วล่ะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอก เธอกลับไปเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ ”
ฮยอนวูอยากจะอยู่เป็นเพื่อนดานี่ แต่เด็กสาวปฏิเสธเขาออกแล้ว เพราะไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนกับตัวเองไปด้วย แค่ตอนกลางวันเขาสองเธอเต้น ก็นับว่าเป็นพระคุณมากพออยู่แล้ว แล้วอีกอย่างฮยอนวูมีเรียนพิเศษ หากเธอจะรั้งไม่ให้เขาเรียนมันดูจะไม่สมควร แม้ว่าเจ้าตัวจะบอกว่าไม่มีธุระที่ไหนอีกก็ตาม
“ เอางั้นเหรอ งั้น...พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะ ฉันสัญญาว่าจะสอนให้เธอเต้นจนเก่งเลยล่ะ ไปล่ะนะจ๊ะ...ที่รัก ”
ฮยอนวูเดินเข้าไปหาดานี่ แล้วเขาก็กระซิบบอกรักเด็กสาวเบาๆ แต่ว่าคนที่คอยแอบมองแอบตามก็ได้ยินได้วยเหมือนกัน ก็นี่มันห้องซ้อมเต้นนะ แม้ว่าจะพูดเสียงเบาแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้เปิดเพลง หรือว่าได้อยู่กันหลายๆคน มันก็เหมือนกับการตะโกนดีๆนี่แหละ ดานี่ก็ยิ้มตอบฮยอนวูไปตามมารยาท ก็เธอไม่ได้คิดกับเพื่อนชายคนนี้ เกินขอบเขตของคำว่าเพื่อนเลยนี่นา ฮยอนวูเป็นคนที่หล่อมาก เขาเป็นขวัญใจของสาวๆทั้งโรงเรียนนั่นแหละ แต่ว่าดานี่ไม่ได้รักได้ชอบเขาเลย เพราะเธอกำลังรักใครอีกคนอยู่ และก็รู้ตัวแล้วด้วยว่า คนๆนั้นน่ะ ไม่ใช่เจสสิก้าเหมือนอย่างเคยแล้ว เจสสิก้าคือคนี่สอนให้เธอรู้จักกับความรัก แต่อีกคนเป็นคนที่ทำให้เธอเริ่มที่จะรักใหม่ แม้ว่าเขาจะออกแนวปากร้าย ไม่รักษาน้ำใจใครเลย แต่เวลาที่ได้อยู่ใกล้รู้สึกได้เลยว่าเขาปกป้องเธอได้เสมอ
“ อื้อ...เดินทางกลับบ้านดีๆนะ...บาย ”
พอร่ำลากับเพื่อนชายแล้ว ดานี่ก็หันมาซ้อมเต้นรำต่อไป เด็กสาวตั้งท่าเชิดหน้าเชยคางให้มาดมั่น เธอซ้อมเต้นอยู่คนเดียว แต่ก็ทำเป็นเหมือนมีคู่ซ้อมเต้นอยู่ด้วย แม้ว่ามันจะดูตลกมากแค่ไหน แต่สาวน้อยก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้ เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาแต้นรำอยู่แบบนั้น ดานี่เต้นไปคนเดียวของเธออยู่สักพัก เธอพยายามที่จะหมุนตัว แต่เธอเสียงหลักเหมือนกับว่าจะล้ม ร่างกายของสาวน้อยกำลังจะกระแทกกับพื้นอยู่แล้ว หากไม่มีมือใหญ่และแขนแกร่งของใครบางคน มาคว้าเอาตัวของเธอเข้าไปกอดเอาไว้เสียก่อน
“ ระวังหน่อยสิ ทำไมถึงได้ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงจังนะ ”
“ คุณยุนอา คุณยังไม่กลับบ่านอีกเหรอคะ ปล่อยหนูได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดีนะ”
พอเห็นหน้าคนที่เข้ามาช่วยตัวเองไว้เป็นใคร ดานี่ก็พยายามที่จะแกะมือของเขาออก แต่ยุนอาไม่เคยยอมปล่อยให้เธอหนีไปไหนง่ายๆได้อยู่แล้ว ก็วันนี้ทั้งวันยุนอายังไม่ได้พูดคุยหรือได้ใกล้ดานี่เลยสักครั้ง พอจะดอดมาหาที่ห้องซ้อมเต้นก็มาเจอกับฮยอนวูเข้าอีก เขาก็เลยรู้สึกหึงดานี่ขึ้นมาเลยยังไงล่ะ ยังไงก็ขอกอดคนน่ารักตรงหน้านานๆก่อนละกัน กอดให้สมกับที่คิดถึงมาทั้งวันเลยยังไงล่ะ
“ อย่าเพิ่งหนีฉันเลยนะ คิดถึงใจจะขาดอยู่แล้ว ”
“ แต่ถ้าคุณยังกอดหนูอยู่แบบนี้ คุณจะชะตาขาดเอานะคะ ”
คำว่าชะตาขาดในที่นี้ ดานี่หมายถึงชีวิตของยุนอานั่นแหละ เพราะรักเพราะห่วงหรอกนะถึงได้บอกออกไปแบบนั้น คนอื่นอาจจะรู้ว่าพ่อของเธอนั้นโหดมากแค่ไหน แต่ดานี่กับคนในบ้านต่างก็พากันรู้ดี ยิ่งเมื่อเช้าได้เห็นพ่อเอาปืนที่สะสมออกมาทำความสะอาดแบบนั้นแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงยุนอาเข้าไปอีก ขืนเขายังทำรุ่มร่ามกับเอยู่บ่อยๆ รับรองได้เลยว่าเขาไม่ได้ตายดีหรอก อาจจะมีรู้บนตัวก็เป็นได้นะ
“ พ่อของเธอโหดนักหรือไง ทำไมถึงได้บอกว่าฉันจะตายอยู่บ่อยๆล่ะ ”
“ ค่ะ...คุณพ่อโหดมาก วันหลังคุณอย่าไปรอหนูอยู่หน้าบ้านอีกนะคะ หนูยังไม่อยากเสียคุณไปนะ ”
ดานี่เผลอพูดอะไรที่ทำให้ยุนอาต้องเผยยิ้มออกมา คำว่าไม่อยากเสียคุณไปในที่นี้ มันคงจะหมายความว่าดานี่รักเขาแล้วหรือเปล่านะ หากว่ามันเป็นอย่างนั้นก็ดีเลยน่ะสิ เรื่องที่จะไปขอเจสสิก้ามันก็จะได้ง่ายขึ้น หากดานี่มีใจให้เขาเหมือนกัน การที่จะไปเคลียร์ปัญหาให้ยูริ กับการของดานี่มาจากเจสสิก้า มันก็คงจะราบรื่นดีเลยล่ะ ขอให้สิ่งที่เขาคิดอยู่นี้มันกลายเป็นจริงด้วยเถอะนะ
“ เธอรักฉัน...งั้นเหรอ ”
“ เอ่อ...หนู...หนูไม่รู้ แต่หนูไม่อยากเสียคุณไป เหมือนกับที่หนูเสียพี่เจส คุณเป็นที่พึ่งเดียวที่หนูยังมีอยู่ หนูยังอยากให้คุณอยู่กับหนุไปนานๆนะคะ สัญญานะว่าคุณจะไม่แอบไปหาหนูที่บ้านอีก หนูคงจะเสียใจมาก ถ้าหากไม่มีคุณอยู่ ”
“ ฉันก็อยากจะอยู่กับเธอนานๆเหมือนกัน ฉันรักเธอนะ เรียนจบม.ปลายแล้วแต่งงานกันมั้ย ฉันจะให้พ่อกับแม่ไปขอ แต่ฉันต้องรู้ก่อนว่าเธอจะไม่กลับไปหาเจสสิก้าอีก อย่ากลับไปหาเจสสิก้าอีกเลยนะ เค้ามีครอบครัวไปแล้ว เธอเองก็มีแล้วเหมือนกัน อยู่กับสามีคนปัจจุบัน อยู่กับฉันนะดานี่ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดีเหมือนอย่างที่เจสสิก้าเคยทำเลย จะดูแลไปชั่วชีวิตเลยนะ ฉันอยากอยู่กับเธอคนเดียว แล้วก็อยากให้เธออยู่กับฉันคนเดียวเหมือนกัน ”
ยุนอาขอร้องให้ดานี่เลิกกับเจสสิก้า เขาสารภาพออกมาแล้วว่าตัวเองน่ะรักเด็กคนนี้มากมายแค่ไหน รักมากจนไม่อยากจะให้ดานี่กลับไปหาเจสสิก้าอีกแล้ว เพราะต่างคนต่างก็มีครอบครัวเป็นของตัวเอง เจสสิก้าน่ะมียูริเป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แต่ว่าดานี่ถูกหลอกให้คิดว่าตัวเองน่ะมีสามีเป็นยุนอา แต่นั่นมันก็ไม่สำคัญเท่ากับคำตอบของดานี่หรอก ตอนนี้คำตอบของดานี่สำคัญที่สุด
“ หนูควรจะตัดใจจากพี่เจสใช่มั้ยคะ หนูไม่รู้หรอกนะคะว่าพี่เจสยังรักหนูอยู่มั้ย แต่หนูจะเป็นฝ่ายออกมาเอง ก็หนูเป็นเมียคุณแล้วนี่นา หนูควรจะซื่อสัตย์กับสามี...ใช่มั้ย ”
ดานี่ก็แทบจะร้องไห้ออกมา เมื่อนึกย้อนกลับไปยังวันเก่าก่อน วันที่เธอกับเจสสิก้ายังรักใคร่กันปานจะกลืนกิน วันนั้นกับวันนี้มันต่างกันมากเลยนะ วันนั้นฌะออยู่กับเจสสิก้า แต่มาวันนี้เธอไม่มีคนรักเก่าอยู่ด้วยแล้ว จะมีก็แต่ยุนอาที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีคนใหม่ของเธอนี่แหละ หากจะตัดใจจากเจสสิก้านั้น มันก็พอทำได้อยู่หรอกนะ เพราะอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะหมดใจกับเธอไปแล้ว และอาจจะหมดรักไปนานแล้วด้วย
“ จ้ะ...แล้วฉันจะพาไปหาเจสสิก้านะ เราจะไปคุยกันให้รู้เรื่อง แต่วันนี้ฉันจะต้องไปเคลียร์ปัญหาให้เพื่อนก่อน ยังไงถ้าเป็นไปได้ คืนนี้จะแอบไปหาที่บ้านนะ อย่าลืมเปิดหน้าต่างไว้รอด้วยล่ะ ฉันเห็นรถของพ่อเธอมาแล้วนะ วันนี้พี่ของตัวก่อน คืนนี้เจอกันนะจ๊ะ...เมียจ๋า ”
*_*_*_*_*
*_*_*_*
*_*_*
*_*
*
( ยัยเจส...วันนี้พี่กับฟานี่จะกลับบ้านช้าหน่อยนะ ยังไงก็ฝากดูแลยูบินด้วยล่ะ แล้วพี่จะเอาของปลอบใจไปฝากนะ ยากได้อะไรบอกมาเลยนะน้อง พี่สะใภ้ของแกให้เต็มที่เลย )
“ ขอห้าแสน...เอาเป็นโอนเงินเข้าบัญชีไปเลยนะ ไม่อยากรับเช็ค ขี้เกียจไปขึ้นเงินเอง กลัวเช็คเด้งด้วย ”
ไม่ได้เห็นแก่เงินแก่ทองหรือของมีค่าเลยสักนิดนะ แต่มันเป็นค่าตอบแทนที่เอควรจะได้ ก็รีบเลี้ยงลูกให้สองคนนั้นมาตั้งปดชั่วโมงแล้วนี่นา แล้วนี่ยังจะมีทำล่วงเวลาอีก ดีนะที่ไม่คิดเงินแบบขั้นต่ำที่1.5เปอร์เซ็นด้วยน่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็เกินห้าแสนแล้วล่ะ นี่เพราะสงสารเพื่อน สงสารพี่ชายของตัวเองหรอกนะ ถึงได้เรียกค่าจ้างแค่ห้าแสนเท่านั้นน่ะ
( แกนี่มันสุดๆไปเลยนะ เออๆ...แล้วจะทำให้ ยังไงก็ดูแลลูกหมาของพี่ดีๆล่ะน้อง แล้วอีกอย่างอย่าพาแกดูหนังโป้ ฉันยังไม่อยากได้ลูกสะใภ้ตั้งแต่ยังไม่แก่ )
“ รู้แล้วน่ะ ฉันไม่ดูหรอกหนังโป้น่ะ ถ้าจะดูสู้ทำเองไม่ดีกว่าเหรอ ได้อรรถรสกว่ากันเยอะเลย ยังไงก็อย่าอยู่ดึกนักล่ะ อยู่บ้านเงียบๆแบบนี้...เค้ากลัวผีนะ ”
( ทำมาเป็นกลัว เดี๋ยวฉันส่งบอร์ดี้การ์ดไปให้นะ แค่นี้นะน้องรัก )
แล้วแทยอนก็วางสายไป เจสสิก้านั่งมองหน้าหลานน้อยที่กำลังดูสาวๆบิ๊กบึ้ม แม้แทยอนจะสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้ยูบินดูหนังโป้ แต่นี่มันไม่ใช่หนังโป้สักหน่อยนะ อย่างมากก้แค่วับๆแวมๆ แบบเป็นอาหารตาน่ะ จะว่าไป...ทำไมเธอไม่รู้สึกอะไรกับสาวๆพวกนี้เลยนะ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ออกจะชอบดูอยู่เหมือนกัน แต่ว่าครั้งนี้ไม่ยักชอบเลย ดูไปก็แค่ผ่านๆตาเท่านั้นแหละ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรด้วยเลยสักนิด อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนรสนิยมไปแล้วน่ะ ถึงว่าสิทำไมเธอถึงไม่ได้รู้สึกเสียใจกับเรื่องของดานี่ มากเท่ากับเสียใจเรื่องของยูริ ที่แท้ก็เพราะว่าไม่ได้มีรสนิยมเหมือนเดิมแล้วนี่เอง หรือจะให้พูดตรงๆก็คงจะต้องบอกว่าเธอหมดรักดานี่ไปแล้วล่ะสินะ ที่ยังหลงเหลืออยู่มันก็แค่ห่วงใย ไม่ใช่เพราะว่ารักฉันชู้สาวอีกแล้ว
“ ยูบิน...ชอบดูแบบนี้เหรอ ”
“ จ้า...ป๊าป๋าบอกว่าน่าดู หนูก็เยยดู บิ๊กบึ้มเหมือนอาเจสเยย ”
ยูบินก็พูดไปตามประสาเด็ก คิดอะไรก็พูดออกไปอย่างนั้น แต่ว่ามันทำให้คนที่ได้ยินถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ ก็ไอ้ที่ว่าบิ๊กบึ้มของยูบินน่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอะไรที่มันบิ๊กบึ้ม ไอ้ลูกหมานี่มันหื่นกว่าที่เธอคิดเอาไว้อีกนะ แบบว่าไม่คิดเลยว่าแทยอนจะทำให้ลูกเป็นได้ถึงขนาดนี้ แค่มองมันก็รู้ว่าใครบึ้มไม่บึ้ม สุดยอดเลยอ่ะ
“ ชอบแบบบึ้มๆเหรอ ”
“ อื้อ...บึ้มๆฉุดยอดเยย ”
“ อย่าว่าแต่ยูบินเลย พี่เองก็ชอบนะ แต่ต้องเป็นน้องเจสคนเดียวเท่านั้น คนอื่นบึ้มพี่ก็ไม่ชอบ ”
เสียงนุ่มทุ้มดังมาจากด้านหลังของสองอาหลาน เจสสิก้ารู้ได้ทันทีว่านั่นเป็นเสียงของใคร เพราะเธอรอคอยที่จะได้ยินเสียงของชายคนนี้มาทั้งวันเลย ขนาดว่าลงทุนยอมเสียฟอร์มโทรไปหาเขาก่อน แต่ว่าเขาไม่ยอมรับสายของเธอเลย รอมาทั้งวันเขาก็ยังไม่ยอมโทรกลับมา ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นจะต้องโทรหาอีกแล้วล่ะ เพราะเขาได้มาพูดให้เธอฟังเสียงแล้ว
“ ยูริ ”
“ อายูล ”
พอเห็นว่าเป็นใครที่มาหา ยูบินก็ลุกออกไปจากโซฟา แล้วก็วิ่งหลุนๆเข้าไปหาแขกผู้มาเยือน ลูกหมามันคิดถึงคุณอาเขยมาก ตามประสาเด็กก็มีวิ่งเข้าไปกอดขาเพื่อแสดงความรักนั่นแหละนะ ส่วนเจสสิก้าก็ได้แต่นั่งมองหลานอย่างอิจฉา อิจฉาที่ยูบินสามารถทำอะไรตามที่ใจของตัวเองต้องการได้เสมอ แต่เธอกลับไม่กล้าที่จะทำแบบนั้น ทั้งที่ก็คิดถึงยูริไม่น้อยไปกว่าที่ยูบินคิดถึงเขาเลยสักนิด ดีไม่ดีอาจจะคิดถึงเขามากกว่าที่ยูบินคิดถึงก็ได้ แต่คนมันปากแข็งมีหรือที่จะยอมพูดไปตามที่ใจของตัวเองต้องการ
“ กลับมาทำไมอีกล่ะ ไม่ไปอยู่ที่คอนโดหรอกเหรอ ”
ก็ทำเป็นปากร้ายไปงั้นๆแหละ ชอบพูดอะไรที่มันไม่ค่อยตรงกับใจของตัวเองสักเท่าไหร่ ปากก็ประชดประชันไปเรื่อย แต่ว่าใจกลับยิ้มร่าที่เห็นสามีกลับมาหา ใครจะไม่ดีใจล่ะ ก็เล่นโทรหาเขาแล้วไม่รับสาย บอกตามตรงเลยนะว่าเป็นห่วง เธอเป็นห่วงยูริ กลัวว่าเขาจะหนีเธอไอย่างที่เธอได้เอ่ยปากไล่เขาไปจริงๆ ไม่รู้ว่าทำไมปากมันไม่เคยตรงกับใจเลยสักที ทำไมรักถึงไม่กล้าที่จะบอก คิดถึงก็ไม่กล้า เป็นห่วงก็พูดไม่ได้ ปากมันหนักขึ้นไปเรื่อยๆแล้วนะ ยิ่งรู้สึกว่าต้องการชายคนนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นอะไรที่มันไม่ได้ดั่งใจของตัวเองเข้าไปทุกทีเลย
“ ก็ว่าจะไปอยู่หรอกนะ แต่พอดีจำได้ว่าลืมเมียเอาไว้ที่นี่ ก็เลยว่าจะกลับมาเอาเมียไปด้วยน่ะ ”
ยูริก็ทำเป็นปากแข็งเหมือนกัน ทั้งที่จริงก็จะมาง้อเมียนั่นแหละ เวลาห่างกันมันรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปนะ อะไรที่เขาเคยมีมันได้หายไป ใครที่เขารักได้เอาหัวใจของเขาไปด้วย ดังนั้นวันนี้เขาจะกลับมารับเอาหัวใจไปด้วยกัน แค่ไม่ได้เจอหน้ากันแค่นี้ เขาก็ใจจะขาดตายอยู่แล้ว ขืนปล่อยให้มันนานออกไป มีหวังเขาได้ตายไปจริงๆนั่นแหละ
“ แล้ว...นายหาเมียเจอมั้ยล่ะ ”
ก็แอบดีใจอยู่ลึกๆนั่นแหละนะ แต่ว่าไม่ยอมแสดงอาการออกมาให้ใครได้เห็นหรอก ทั้งที่ความจริงก็ดีใจจนอยากจะว่งเข้าไปกอดยูริ เหมือนอย่างที่ยูบินกอดเขาอยู่เหมือนกัน แต่ไอ้คำว่าทิฐิที่มันยังค้ำคออยู่นี่สิ มันทำให้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ แบบว่าอีกอย่างก็กลัวว่ายูริจะได้ใจ ที่เขาเห็นเธอยอมอ่อนให้ก่อน ได้ยังไงกันล่ะ งานนี้ก็ผิดกันทั้งคู่ ยังไงก็ต้องขอโทษพร้อมกันสิถึงจะถูก
“ เจอแล้วล่ะ แต่ว่า...ไม่รู้ว่าเมียจะยอมกลับบ้านด้วยมั้ยน่ะสิ วันนี้ก็เลยต้องลากผู้เชี่ยวชาญมาด้วยน่ะ เข้ามาสิเพื่อน ”
ว่าแล้วผู้เชี่ยวชาญของยูริก็เดินเข้ามาในในห้องนั่งเล่น เจสสิก้าจำได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร เพราะเธอได้เจอกับเขามาแล้ว เมื่อครั้งที่ทะเลาะกับยูริ เพราะเขานี่แหละดานี่กับเธอถึงได้เจอกัน และมันก็เกิดเป็นสนามอารมณ์ที่หลากหลายขึ้นมา แต่แปลกที่ทำไมวันนี้เขาไม่พาดานี่มาด้วยล่ะ
“ คุณ... ”
“ สวัสดีครับคุณเจสสิก้า ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะว่าผมจะมาอธิบายให้เรื่องทุกอย่างมันกระจ่างสักที เพื่อครอบครัวของคุณ และเพื่อตัวของผมเองด้วย ”
*_*_*_*_*
*_*_*_*
*_*_*
*_*
*
Talk………………………..
กลับมาแล้วนะจ๊ะ หลังจากที่ต้องไปคิดอยู่เป็นวันๆเลย ว่าจะเอายังไงกับตอนนี้ แล้วเค้าก็คิดได้ ว่ามันควรจะจบสักทีกับมาม่าของคู่ยูลสิก แต่ไม่ต้องคิดว่ามันจะหายไปเลยนะ คู่ไหนที่ยังไม่เคยมี มันก็จะมีมาเองแหละ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นตอนไหน เอาไว้ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วมันก็จะมาอีกนะจ๊ะ ตอนหน้าเราไปปีนห้องของเด็กกัน มาดูกันว่าไอ้คุณครูหัวล้าน มันจะเป็นยังไง ในเมื่อต้องบุกเข้าไปหาลูกสาวของท่านนายพล แล้วคู่ยูลสิกจะเป็นยังไงต่อไป จะมีไอ้ตัวสีแดงๆนั่นอีกมั้ย อันนี้ยังไม่รู้นะเออ แล้วแต่อารมณ์ของคนเขียนนะจ๊ะ และสุดท้ายก็รักรีดเดอร์ทุกคนเน้อ จุฟฟฟฟฟฟฟ
ความคิดเห็น