คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : Chapter 42
งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก
Chapter 42
( ดานี่...ฉันรออยู่หน้าบ้านแล้วนะ )
ยุนอามาดักรอเด็กสาวที่ตนชอบอยู่ถึงหน้าบ้านของเจ้าหล่อนเลย ตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองกำลังหลงเด็กสาวคนนี้ ไอ้คุณครูหัวงูก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้แม่นกน้อยของตัวเองอยู่คลาดสายตา เขามาจอดรถเฝ้ารอดานี่ถึงที่เลย แบบไม่ได้คิดว่าคุณว่าที่พ่อตาจะออกมาเจอ แล้วก็เอาปืนมาไล่ยิงหรอกนะ ก็เขาคิดว่าระวังตัวดีแล้ว แต่ก็มีหวั่นๆอยู่บ้างแหละ ก็เล่นมาจีบลูกของนายทหารนี่นา แถมยังเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกด้วย
“ คุณยุนอา คุณมาทำไมคะ หนูไปโรงเรียนเองได้ ”
ดานี่ไม่อยากให้ยุนอามาที่บ้านของเธอนัก นั่นก็เพราะว่าเธอกลัวพ่อกับแม่จะรู้ เรื่องที่ลูกสาวคนเดียวของบ้านนี้ มีผู้ชายมารอรับจนถึงหน้าบ้าน ก็ตัวเองยังเป็นแค่เด็กม.ต้นอยู่เลยนะ แล้วมีผู้ชายมารอรับกันแต่เช้าแบบนี้มันจะดูไม่ได้ แค่เธอออกไปนอนนอกบ้านบ่อยๆก็ถือว่าไม่มีดีอยุ่แล้ว นี่ถ้าพ่อกับแม่มาเห็นว่าตัวเองออกไปกับผู้ชายที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา มีหวังได้ถูกกักบริเรณแน่ๆเลย ดีไม่ดีอาจจะมีองครักษ์คอยตามติด24ชั่วดมงเลยด้วยนะ
( ฉันอยากจะคุยกับเธอหน่อยน่ะ ฉันคิดถึงเธอนะ ตอนนี้ฉันรออยู่หน้าบ้าน เธอจะสดวกออกมาหรือว่าให้ฉันเข้าไปรับล่ะ )
“ ไม่ได้นะคะ...คุณจะเข้ามาหาหนูไม่ได้นะ ”
ดานี่รีบเอ่ยห้ามยุนอาทันที วันนี้พ่อกับแม่อยู่บ้านด้วยกันทั้งคู่เลย ไม่รู้ว่าทำไมท่านทั้งสองถึงได้พร้อมใจกันแบบนี้ ปกติตื่นเช้ามาก็ไม่เคยเห็นหน้ากันแล้ว แต่นี่ทั้งพ่อทั้งแม่ต่างก็เลือกที่จะอยู่บ้าน เห็นบอกว่าอยากจะมีเวลาอยู่กับลูกบ้าง ก็เลยอยากจะอยู่ติดบ้านสักวัน แม่น่ะนั่งอ่านนิตยาสารอยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนพ่อก็เอาปืนที่ท่านสะสมไว้ออกมานั่งเช็ด ดูเหมือนว่าท่านทั้งคู่กำลังเตรียมการอะไรสักอย่างอยู่นะ แต่ว่าดานี่ไม่รู้เท่านั้นแหละ
( ทำไมล่ะ ก็ฉันเป็นสามีของเธอนะ )
ยุนอาย้ำสถานะของตัวเอง ว่าเขากับดานี่น่ะเป็นอะไรกัน แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปนั้น มันจะไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยก็ตาม แต่ที่เขาบอกว่าคิดถึงนั้น มันเป็นเรื่องจริงเลยล่ะ มันเป็นความจริงที่ออกมาจากใจของชายคนนึง คนที่ชอบทำตัวให้ดูเย็นชา ชอบทำตัวให้ใครต่อใครคิดว่าตัวเองไม่แคร์ไม่ใส่ใจอะไร แต่เขาใส่ใจดานี่นะ เพราะว่ารักเพราะว่าห่วงไงล่ะ เขาถึงได้มาหาเธอถึงที่แบบนี้
“ ไม่ต้องย้ำขนาดนั้นก็ได้ค่ะ หนูรู้แล้วว่าเราเป็นอะไรกัน แต่ถ้าคุณเข้ามาหาหนู คุณอาจจะกลายเป็นศพก็ได้นะคะ ”
( ศพ...พ่อเธออยู่บ้านเหรอ )
คำพูดของดานี่เล่นเอายุนอาสะดุ้งทันทีที่เขาได้ยิน ศพ...เขาอาจจะกลายเป็นศพ นั่นแสดงว่าพ่อกับแม่ของดานี่อยู่บ้านน่ะสิ ถ้าเขาเข้าไปรับเด็กสาวออกมา มีหวังอาจจะได้เป็นศพตามที่ดานี่พูดมาก็ได้ แล้วจะให้เขาทำยังไงล่ะ ก็ในเมื่อใจมันร่ำร้องอยากจะเจอหน้าเด็กจนใจจะขาดอยู่แล้ว
“ ค่ะ...อยู่ทั้งพ่อทั้งแม่เลย คุณไม่ต้องมารับหนูหรอกนะคะ ”
( แต่ว่าฉัน... )
“ ดานี่...คุยกับใครอยู่เหรอลูก ”
ดานี่สะดุ้งโหยง เมื่ออยู่ๆผู้เป็นพ่อก็เอ่ยถามเธอแบบไม่ทันตั้งตัว ยุนอาเองก็ไม่ต่างกัน เขาเพิ่งจะได้ยินเสียงของท่านพ่อตา พอได้ยินแล้วก็ถึงกับเงียบเลย เขาพูดอะไรไม่ออก นอกจากรอฟังคำตอบของดานี่ อยากรู้ว่าเธอจะตอบพ่อไปว่ายังไง อยากรู้จนตัวสั่น(เพราะความกลัว)ไปหมดแล้ว
“ คุณพ่อ...เอ่อหนู...หนูคุยอยู่กับเพื่อนค่ะ ”
ดานี่ไม่กล้าที่จะบอกไป ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอกำลังคุยอยู่กับคนที่เรียกแทนตัวเองว่าสามี ขืนบอกความจริงออดไปสิ มีหวังได้ตายหมู่กันเลยทีเดียวล่ะ แม้ว่าพ่อของเธอจะไม่โหดร้ายอะไรกับคนในครอบครัว แต่ว่าถ้าเป็นคนอื่นล่ะไม่มีเหลือ แค่ออกคำสั่งแค่คำเดียวเท่านั้นแหละ ไม่นานหรอกแล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อย
“ เพื่อนงั้นเหรอ...แล้วทำไมไม่ไปคุยกันที่โรงเรียนล่ะลูก นี่มันสายแล้วนะ รีบไปโรงเรียนได้แล้ว วันนี้พ่อว่าง งั้นเดี๋ยวพ่อไปส่งเอง ”
คิม ดงวอนบอกกับลูกสาว ว่าวันนี้เขาจะไปส่งเธอเอง รู้สึกสงสัยอยู่เหมือนกันนะ สงสัยว่าทำไมหมู่นี้ลูกสาวของเขาถึงได้ดูหม่นหมองเศร้าสร้อยนัก ดูไม่สดชื่นร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลย แล้วอีกอย่างดานี่ก็ไม่เคยแอบมาโทรศัพท์แบบนี้ด้วย บางทีลูกสาวอาจจะมีอะไรปิดปังเขาอยู่ก็ได้ อะไรที่มันทำให้เธอต้องหวาดกลัวจนต้องปิดเป็นความลับ แต่เชื่อเถอะว่าความลับมันไม่มีในโลก และเขาจะต้องได้รู้ในอีกไม่ช้านี้แหละ
“ ค่ะ...งั้นหนูขอไปเอากระเป๋าก่อนนะคะ ”
“ ได้ลูก...แล้วรีบลงมานะ พ่อจะรอ... ”
แล้วดงวอนก็เดินหนีดานี่ไป เด็กสาวถอนหายใจเอือกใหญ่ เพราะโล่งใจที่พ่อไม่ได้ถามอะไรเธอไปมากกว่านี้ ปัญหาของเธอในตอนนี้มัยมีมากเหลือเกิน ปัญหาเรื่องของเจสสิก้าเป็นอีกเรื่องที่ทำให้เธอต้องคิดหนัก แต่ที่หนักกว่าเห็นจะเป็นปัญหาของเธอกับยุนอา เจสสิก้าเธอมีทางออกสำหรับปัญหาแล้ว แต่กับยุนอานี่คิดไม่ตกเลยจริงๆ เพราะดูท่าแล้วเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน
( ดานี่...ดานี่ )
“ คุณพ่อจะไปส่งหนูที่โรงเรียนค่ะ คุณไปก่อนเถอะนะคะคุณยุนอา รีบไปก่อนที่คุณพ่อจะเห็นคุณ หนูยังอยากให้คุณหายใจอยู่นะ ”
*-*-*-*-*
*-*-*-*
*-*-*
*-*
*
“ ผมมาแล้วครับแม่ ”
ยูริแหกปากบอกแม่ ว่าตัวเองน่ะมาหาตามที่ท่านสั่งเอาไว้แล้ว วันนี้เขาได้เริ่มงานเป้นคนขับรถแล้วนะ คนขับรถของคุณนายควอน ซึ่งก็เป็นแม่ของเขาเองนี่แหละ เฮ้อ...จะว่าไปไอ้ตำแหน่งคนขับรถี่มันก็พูดยากเหมือนกันนะ แบบว่าไม่คุ้มกับที่ตัวเองไปเรียนมาเลยอ่ะ จบโทรแล้วมาเป็นคนขับรถ ยุอายังได้งานดีกว่าเขาเลย มันไปเป็นครู ซึ่งได้อยู่กับเด็กนักเรียนสาวๆสวยๆมากมาย ที่น่าอิจฉาที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องที่มันได้เห็นหน้าของคนรักตลอดทั้งวันเลยนี่สิ มีกิ๊กเป็นเด็กนักเรียนก็ดีแบบนี้แหละน๊า
“ อะไรนะ...นายเรียกฉันว่าอะไรนะนาย ควอน ยูริ นายเป็นคนขับรถนะ จะมาตีเสมอกับเจ้านายได้ยังไง เรียกฉันว่าคุณนายควอนสิยะตาทึ่ม ”
ชอนมีเอ่ยถามคนขับรถของเธออย่างไม่พอใจ ตอนนี่ยูริได้กลายเป็นคนขับรถไปแล้ว เขาก็ควรจะเรียกเธอว่าคุณนายควอนสิ ไม่ใช่ว่าจะมาเรียกแม่ๆเหมือนอย่างเคย เวลางานก็ควรจะเป็นงาน ต้องทำหน้าที่ของลูกจ้างให้เต็มที่ ไม่ใช่ว่าจะเอาความเป้นแม่ลูกออกมาใช้แบบนี้ มันไม่รู้หรือไงว่าเวลาทำงานน่ะไม่มีแม่ไม่มีลูกหรอกนะ ตอนนี้มีแต่เจ้านายกับลูกจ้าง ไม่มีครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งนั้น
“ แม่...นี่ลูกของแม่นะ ”
ยูริงงกับการกระทำของผู้เป็นแม่ทันทีเลย อะไรกันอีกล่ะเนี่ย ไม่ให้เรียกแม่ แต่จะให้เรียกว่าคุณนายควอนแทนซะงั้น ไม่รู้ว่าจะเป้นอะไรกันนักกันหนานะ แบบว่าเขาก็เป็นลุกของแม่อ่ะ ถ้าไม่ให้เรียกแม่มันก็ดูยังๆชอบกลนะ เรียกว่าแม่น่ะน่าจะถูกต้องที่สุดแล้ว ไม่อยากจะเรียกว่าคุณนายควอนเลยจริงๆ
“ แล้วยังไงล่ะจะนายคนขับรถ ฉันเป็นเจ้านายของเธอนะ เรียกแนว่าคุณนายควอนนะถูกแล้ว อ้าว...มันยืนทำหน้าหล่ออยู่นั่นแหละ มาเปิดประตูรถให้ฉันสิ มันหน้าที่ของเธอไม่ใช่เหรอ ”
“ ครับผม....เชิญเลยครับคุณนายควอน ”
ยูริไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีกแล้วล่ะ ก็ในเมื่อแม่พูดมาซะขนาดนั้น เขาก็คงจะรั้นไปเรียกท่านว่าแม่ก็คงจะไม่ได้ ก็เลยต้องจำใจเรียกว่าคุณนายตามนั้นเลยละกัน ยูริเปิดประตูรถยนต์ให้ผู้เป็นเจ้านาย ทั้งที่ความจริงแล้วนั้นท่านเป็นแม่ของเขาเองนั่นแหละ ชอนมีเดินเชิดหน้าทำคอแข็ง แล้วก็เข้าไปนั่งในรถอย่างวางมาด มันสะใจจริงๆเลยนะที่สามารถข่มลูกชายของตัวเองได้ แกล้งลูกแล้วมันสนุกดี ไม่ใช่ว่าแม่อยากจะรังแกลูกหรอกนะ แต่พ่อของแกเป็นคนเริ่มมันขึ้นมาก่อนนี่นา แม่ก็เลยต้องตามน้ำไปยังไงล่ะ
“ ไม่ทราบว่าท่านจะให้กระผมไปส่งที่ไหนดีครับ...คุณนายควอน ”
พอยูริเข้ามานั่งประจำตำแหน่งของคนขับแล้ว เขาก็เอ่ยถามเจ้านายถึงจุดหมายที่ท่านต้องการให้เขาไปส่งทันที แต่ชอนมีกลับนั่งทำหูทวนลม เธอทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงของลูกจ้างตัวเล็กๆอย่างยูริเลย ก็คนมันอยากจะแกล้งลูกเล่นอ่ะ ทำเป็นไม่สนใจไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้ท่าจะสนุกดีนะ ถือว่าเป็นการเอาคืนที่มันชอบสร้างแต่ปัญหาให้
“ ท่านครับ...ไม่ทราบว่าท่านจะให้กระผมไปส่งที่ไหนครับ ”
ในเมื่อถามไปแล้วแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมตอบ ยูริก็เลยต้องถามซ้ำอีกรอบ ตอนแรกคิดว่างานคนขับรถ มันจะเป็นอะไรที่สนุกซะอีกนะ แบบว่าวันๆก็ขับแต่รถอย่างเดียว ไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องมาคอยเอาอกเอาใจเจ้านายด้วยน่ะ จะพูดจะจาอะไรก้ไม่ค่อยได้ วันๆก็คอยรับแต่คำสั่งนั่น นู่น นี่ จะมีความคิดเป็นของตัวเองล่ะไม่มีหรอก ถ้าเจ้านายไม่สั่งก็ทำไม่ได้
“ ยังไม่รู้เลย แต่เธอขับรถออกไปก่อน แล้วฉันจะบอกเองว่าจะให้ไปทางไหน ”
“ ทราบแล้วครับผม ”
พอได้รับคำสั่งให้ออกรถได้ ยูริก็ไม่รอให้เจ้านายต้องออกคำสั่งซ้ำสอง เขาค่อยๆเหยียบคันเร่งเพ่อให้รถเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ ส่วนชอนมีก็นั่งดูลูกชายทำหน้าที่ของคนขับรถ สำหรับวันแรกยูริทำได้พอดูเลยนะ เขาไม่กระชากตัวออกเหมือนกับที่ขับรถของตัวเอง แบบนี้ผู้เป็นแม่ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะตอนแรกเธอนึกว่ามันจะแกล้งแม่แล้วซะอีก ที่ไหนได้งานเป็นงานเชียวนะ
“ นี่นายยูริ...เดี๋ยวพอถึงแยกหน้าให้เลี้ยวขวานะ ”
“ ครับผม ”
ยูริทำตามที่ผู้เป็นนายสั่ง ชอนมีสั่งให้เลี้ยวขวาเขาก็เลี้ยวขวา ไม่รู้ว่าแม่จะให้เขาพาไปที่ไหนหรอกนะ รู้แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นลูกจ้าง ที่จะต้องทำตามผู้เป็นนายสั่งเท่านั้น แล้วพอเขาขับรถคันงามมาถึงอีกแยกนึง
“ ยูริ...เลี้ยวซ้ายด้วย ”
“ ครับ ”
ชอนมีสั่งให้ยูริเลี้ยวซ้าย เขาก็เลี้ยวซ้ายตามนั้น มันชักจะยังไงอยู่นะ เดี่ยวสั่งให้เลี้ยวขวา เดี๋ยวสั่งให้เลี้ยวซ้าย มันชักจะน่าสงสัยซะแล้วสิ ชอนมีก็นั่งยิ้มอยู่เบาะหลังอย่างสนุก เพราะวันนี้เธอได้แกล้งลูกชายสุดที่รักด้วยล่ะ แกล้งให้มันขับรถวนไปวนมาอยู่แถวนี้ อยากเห็นมันหงุดหงิดน่ะ ก็แบบว่าแม่คิดถึงลูกชาย ก็เลยอยากจะเห็นหน้าเห็นตาบ้าง จึงได้เรียกให้ลูกมาหา แล้วก็ให้เขาพาเธอขับรถเล่น
ชอนมีก็สั่งให้เลี้ยวซ้ายอีก แล้วก็ตามมาด้วยเลี้ยวขวา ยูริก็ไม่ได้บ่นอะไร เขายังทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป คนขับรถที่ดีจะต้องมีความอดทน อดกลั้นกับที่สิ่งตัวเองจะต้องเผชิญอยู่ แต่แล้วความอดทนของคุณคนขับรถรูปหล่อก็หมดลงไป เมื่อเขาได้รู้แล้วว่าจุดหมายที่แม่ของเขาให้พาไปนั้น มันเป็นที่ไหนกันแน่
รถยนต์คันหรูเล่นเข้ามาจอดอยู่หน้าอาคารหรือว่าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งมันดูคุ้นหูคุ้นตาของยูริเป็นอย่างมาก แม่ของเขาสั่งให้มาหา แล้วก็ให้พาขับรถเลี้ยวทางนั้นทีเลี้ยวทางนี้ที สุดท้ายก็มาถึงจุดหมายจนได้ และจุดหมายของชอนมีนั้นมันก็คือจุดเริ่มต้นนั่นแหละ
“ แม่...แม่ให้ผมขับรถวนบ้านของตัวเองเนี่ยนะ แม่ว่างขนาดนั้นเลยเหรอ ”
“ ก็แม่ไม่มีที่ไปนี่นา ก็เลยอยากให้แกพาขับรถเล่นหน่อยไม่ได้เหรอ แม่คิดถึงแกนะ ป่ะเข้าบ้านไปหาอะไรกินกันดีกว่านะลูกนะ ”
*-*-*-*-*
*-*-*-*
*-*-*
*-*
*
“ อาเจส...โทรหาอายูลให้หนูหน่อย ”
ยูบินมาทวงเอาสิ่งที่เจสสิก้าสัญญาเอาไว้กับตนตั้งแต่เมื่อคืน หนูน้อยขอให้คุณอาคนสวยโทรตามยูริให้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ แต่คุณอาเจสบอกว่ามันดึกแล้ว เอาไว้ตอนเช้าจะโทรให้ หนูน้อยมามารบเร้าเว้าวอนให้คุณอาทำตามสัญญาที่ให้กันไว้ เพราะคิดถึงคุณอายูลหรอกนะ ก็เลยอยากจะได้เจอหรือว่าได้ยินเสียงกันบ้าง
“ เอ่อ...อาว่าเดี่ยวเราค่อยโทรหาก็ได้มั้ง เช้าๆแบบนี้อายูลคงกำลังยุ่งอยู่แน่ๆเลย ”
เจสสิก้าพยายามที่จะเลี่ยงไม่โทรหายูริ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดอะไรกับสามี ทั้งที่ก็รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรกับเขาไปนะ แต่ว่าไอ้ทิฐิที่มีน่ะ มันทำให้เอไม่กล้าที่จะทำแบบนั้น ไม่กล้าพูดคำว่าขอโทษ หรือแม่แต่จะพูดจะคุยเธอก็ยังไม่กล้าเลย ความรู้สึกผิดที่มันอยู่ในใจก็มีเยอะ เยอะจนไม่รู้ว่าจะเอามันออกไปได้ยังไงแล้วล่ะ
“ มะยุ่งหรอก น่านะ...โทรให้หนูหน่อย ”
ก็หนูน้อยอยากให้คุณอาโทรหาคุณพ่อคนที่สองให้ คนมันคิดถึงนี่นา โทรให้หนูหน่อยเหอะนะ นึกว่าเห็นแก่เด็กตัวน้อยน่ารักคนนึงนะ โทรหาอายูลสุดหล่อให้หนูหน่อย แบบว่าอยากให้คุณอามาหาน่ะ แล้วก็จะได้เล่นด้วยกันไง อยากมีเพื่อนเล่นด้วยอ่ะ เล่นกับอายูลแล้วมันสนุกดีนะ ไม่โหดร้ายเหมือนเล่นกับใครบางคนที่อยู่แถวๆนี้หรอก
“ แต่อาว่า... ”
“ โทรให้แกหน่อยเถอะเจสสิก้า นึกว่าสงสารลูกหมาของฉันก็แล้วกันนะ ”
ทิฟฟานี่ทนเห็นลูกสาวรบเร้าน้องของสามีไม่ไหว สงสารเพื่อนก็สงสาร สงสารลูกหมาของตัวเองก็สงสารเหมือนกัน เพื่อนก็ไม่กล้าที่จะพูดกับสามีของตัวเอง เบื่อจริงๆไอ้พวกผู้ร้ายปากแข็งเนี่ย รู้ว่าตัวเองผิดก็แค่ขอโทษกันแค่นั้นมันจะเป็นอะไรไปล่ะ ดอกพิกุลไม่ร่วงออกมาจากปากหรอกย่ะ ส่วนลูกหมานี่ก็ช่างออดอ้อนจริงๆเลย วันนี้ปล่อยมันไว้ด้วยกันดีกว่า ถ้าเจสสิก้าไม่โทรไปหายูรินะ เธอจะเป็นคนให้เขามาหายัยคนปากแข็งนี่เองเลยล่ะ
“ นั่นน่ะสิ...ยัยเจส ถ้าแกไม่ทำตามที่ลูกหมากับแม่หมีบอกนะ ฉันจะยุให้ยูริไปหาเมียใหม่เลย เอาให้มันสะบึ้มกว่าแก เอาแบบนมหนองโพไปเลยนะ แบบนั้นฉันว่ามันคงจะติดใจจนลืมแกไปแน่ๆ ”
แทยอนก็เป็นอีกคนที่ทนเห็นน้องสาวของตัวเองทกข์ใจไม่ได้ เขาก็อยากจะปลอบจะพูดดีๆด้วยอ่ะนะ แต่ว่าเขาน่ะปลอบใครไม่ค่อยเก่ง ยิ่งเป็นน้องของตัวเองด้วยแล้วก็ยิ่งไม่กล้าที่จะทำ เดี๋ยวเสียภาพพจน์ของท่านรองประธานหมด ความจริงไม่กล้าที่จะแสดงให้น้องรู้ว่าตัวเองน่ะห่วงมันมากแค่ไหน ก็เลยตัดสินใจพูดประชดมันไปซะเลย ต้องเข้าใจนะว่าคนมันไม่กล้าพูดอ่ะ ไม่ใช่แม่หมีนะที่จะได้ใจดีพูดซะคนอื่นใจอ่อนได้น่ะ
“ ไม่ได้นะ พี่แทจะทำแบบนั้น...ไม่ได้เด็ดขาด ”
เจสสิก้าเริ่มออกอาการหึงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ เธอรีบบอกพี่ชายไม่ให้เขาทำแบบที่พูด ได้ยังไงกันล่ะ เมื่อเมียคนนี้ก็ยังอยู่ แล้วจะปล่อยให้สามีไปหาเมียใหม่ได้ยังไง อะไรกันอ่ะคนพวกนี้ แค่ไม่โทรไปหาไอ้หื่นสุดที่รักแค่นี้ ไอ้คุณพี่ชายกับคุณพี่สะใภ้และหลานน้อยลูกหมา มันก็พากันมารุมเลยนะเนี่ย
“ อ่ะ...โทรให้หนูหน่อย ”
ยูบินหยิบเอาโทรศัพท์ของเล่นของตัวเองมาให้เจสสิก้า คนเป็นอาก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะล้วงเอาโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง เจสสิก้าจ้องมองโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ในมือของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เธอมองหน้าของทุกคนที่อยู่ภายในห้องนั่งเล่น จากนั้นก็ตัดสินใจกดหมายเลขโทรด่วน ด้วยหัวใจที่สั่นไหวเพราะความกลัว
เจสสิก้ายกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบกับหู ใจนึงก็อยากจะพูดคุยกัยสามีให้เข้าใจกัน แต่อีกใจมันก็ติดอยู่ที่คำว่าไม่กล้า กลัวว่าตัวเองจะเสียฟอร์ม แต่ถ้าไม่ด?รหาไม่คุยกันเลย ไอ้ปัญหาพวกนี้มันก็จะไม่รู้จักจบสิ้นไปสักที เอาวะ...ลองง้อสามีก่อนก็คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง ทียัยหมียังง้อสามีของตัวเองบ่อยไป จะลองเสียฟอร์มดูสักครั้งก็แล้วกันนะ
เจสสิก้าโทรหายูริด้วยใจที่จดจ่อ รอให้อีกคนรับสายของตัวเองสักที แต่ยูริก็ยังไม่รับสายของเธอเลย รอเป็นนาทีสองนาทีแล้วนะ เขาก็ยังไม่รับสายเลย จนในที่สุดสายมันก็หลุดไป ในเมื่อโทรหาก้แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่คิดที่จะรับสาย มันคงจะหมายความว่าเขาไม่อยากคุยกับเธอล่ะสินะ ก็น่าอยู่หรอก เล่นไล่เขาไปตายซะขนาดนั้นแล้วนี่นา ใครมันจะมาทนอยู่กับคนเอาแต่ใจไร้เหตุผลแบบเธอล่ะ
“ ว่ายังไงล่ะ ”
“ ยูริไม่ยอมรับสายน่ะ เค้าคงจะไม่อยากคุยกับฉันมั้ง ”
เจสสิก้าบอกด้วยสีหน้าที่ดูแล้วไม่ดีเลยสักนิด เธอดูเศร้าขึ้นมาทันทีเลยนะ ไม่เข้าใจว่าทำไมยูริถึงไม่ยอมรับสาย ทั้งที่เจสสิก้าก็พยายามลดทิฐิของตัวเองลงแล้วนะ เธอยอมที่จะโทรไปง้อเขาแล้ว แต่ว่าอีกฝ่ายไม่คิดที่จะรับสาย มันคงจะหมายความว่าเขายังโกรธเธออยู่ล่ะสิ ถึงไม่ยอมรับสายนี้สักที
“ อย่าเพิ่งคิดไปแบบนั้นสิ บางทีเค้าอาจจะลืมโทรศัพท์ไว้ที่ไหนก็ได้นะ ”
ทิฟฟานี่พยายามที่จะเยียวยาเพื่อน ก็แบบว่าน้องสาวของสามีพยายามที่จะลดทิฐิของตัวเองลง เจสสิก้ายอมที่จะโทรหายูริก่อนแล้วนะ แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับสาย มันก็น่าที่จะชวนให้คิดว่าไม่อยากรับอยู่หรอก แต่จะมาคิดแบบนั้นมันก็จะยิ่งบั่นทอนหัวใจของตัวเองนะ ยังไงก็อยากให้คิดไปในทางที่ดีก่อน เพราะอย่างน้อยก็จะเป็นการให้กำลังใจตัวเองนะเออ
“ ก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นนะ ว่าแต่ไม่รีบไปทำงานเหรอ นี่มันสายแล้วนะ ”
“ ไปสิ...ป่ะพี่แท เราไปทำงานกันดีกว่านะคะ ”
“ จ้ะ...อ้อยัยเจส...วันนี้แกไม่ได้ไปทำงาน ฝากลูกหมาด้วยนะน้องรัก แล้วเย็นนี้พี่จะไปหิ้วสามีมาให้ ”
*-*-*-*-*
*-*-*-*
*-*-*
*-*
*
Talk…………………..
ไม่รู้ว่าจะฝอยอะไรไปมากมายนะคะ เอาเป็นว่า...คุณครูกำลังจะเจอศึกหลายด้านแล้วล่ะ ก็พ่อของน้องมันมาแล้วนี่นา แถมยังมีท่าว่าจะหวงลูกสาวอีกด้วย ไอ้คุณครูเหม่งมันคงจะไม่ได้เอาน้องดานี่ไปนอนกกด้วยอีกแล้วล่ะ นี่ยังไม่รวมศึกทางน้องซอนะคะ เดี๋ยวน้องซอจะจัดมาให้ไอ้คุณครูเหม่งแน่นอน คู่อื่นๆก็เป็นไปตามนั้นนั่นแหละค่ะ ตอนต่อๆไปถ้าเค้าอารมณ์ดี บางทีอาจจะมีตัวสีแดงๆเพิ่มมาอีกตอนก็ได้นะ ใครจะไปรู้ สุดท้ายก็รักรีดเดอร์อยู่เหมือนเดิมนะคะ จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ความคิดเห็น