ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #53 : สุบินในนิทรา ว่าอสรพิษพัวพันรัดร่างสะดุ้งตื่น ฟื้นพบประสบ เทวอสุ ผู้ครองคัมภีร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 241
      0
      24 เม.ย. 51

    ฟากฟ้าป่าหิมพานต์ ในถิ่นแดนแคว้นพนาวัณ อันเป็นที่เลื่องชื่อนั้น นพคุณ พระพี่นาง และ เหล่าขนิษฐา รวมทั้งเพื่อนร่วมเดินทางทุกคนต่างยุรยาตรกันอยู่อย่างไม่รู้จุดหมาย นพคุณ น่าแปลกเหลือเกิน เจ้าเข้าป่าหิมพานต์ครานี้ ใยจึงมิมีแผลเหล่านั้น ปักษยุพูด คงจะพ้นจากคำสาปแล้วกระมัง นพคุณว่าแล้วหัวเราะเดินไปเรื่อยๆ กระทั่งฟ้าเริ่มสลับสี ตะวันคล้อยลงต่ำแทบจะร่วงลงจากขอบฟ้าแล้วนั่น เพลานี้ก็พลบค่ำแล้วนะเพคะพี่นพคุณ เมื่อไหร่เราจะพักกันซักที มณีกาฬพูด ใช่เพคะ เดินมาแต่ช่วงสายๆแล้ว ตอนนี้น้องเมื่อยไปหมดแล้วนะเพคะ แก้วไพฑูรย์พูด นพคุณ พี่ว่าเราพักกันก่อนก็ดีเหมือนกันนะ พี่ว่าเดินหาที่ดีๆก่อไฟหาอาหารกันดีกว่า กิ่งโกมินทร์พูด พระเจ้าข้าพระพี่นาง นพคุณว่า

    เย็นย่ำ ค่ำลงทุกทีแล้ว ใต้ฟ้าป่าหิมพานต์นั้น กองกูณฑ์ถูกก่อขึ้น พวกนพคุณต่างพักผ่อนกันอยู่ จันทร์จรัสสาดแสงกระจ่างแจ้งเหนือเวหาแล้ว ห้วงแห่งราตรีกาลทุกคนต่างหลับใหล กิ่งโกมินทร์พระพี่นางพระองค์แรกนั้นก็นิทราบรรทมหลับอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ข้างๆกันกับปีตมณี ในห้วงนิทราหรือภวังค์จิต กิ่งโกมินทร์นั่นรื่นรมย์อยู่ในอุทยานอันงดงามน่าอยู่ที่หนึ่ง นางกำลังเด็ดดอกไม้มาชื่นชมในมืออยู่นั้นก็มีงูตัวหนึ่งเลื้อยมากับก้านดอก กิ่งโกมินทร์รีบผละถอยแล้วปล่อยดอกไม้นั่นจากมือพลันแต่งูตัวใหญ่นั่นกลับเลื้อยเข้ามาพันร่างของนางแล้วรัดไว้แน่น โอ๊ย... ปล่อยนะ กิ่งโกมินทร์ร้องขึ้นพลันสะดุ้งตื่นขึ้นมา พระพี่นางเพคะ ปีตมณีที่นอนข้างๆเรียกด้วยความเป็นห่วง น้องปีตมณีมีอะไรเกิดขึ้นไหม กิ่งโกมินทร์รีบถามโดยพลัน เบาๆสิเพคะ ตอนนี้ทุกคนหลับอยู่นะเพคะ ปีตมณีว่า กิ่งโกมินทร์มองดูรอบๆ คงไม่มีอะไรสินะ ไม่เป็นไรแล้วหละ กิ่งโกมินทร์พูด พระพี่นางร้องเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง ปีตมณีพูด ก็ ง... กิ่งโกมินทร์เกือบจะแพร่งพรายให้น้องปีตมณีฟังแต่ก็หยุดตัวเองไว้ได้ ตกใจอะไรเหรอเพคะ กิ่งโกมินทร์พูด คือ... กิ่งโกมินทร์พูดไม่ออก ถ้าขืนเล่าให้ปีตมณีฟัง น้องต้องล้อเราแน่ๆเลย กิ่งโกมินทร์คิดในใจ ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่ฝันร้าย กิ่งโกมินทร์พูดเพียงเท่านั้นก็นอนลงเหมือนเดิม

    รุ่งสาง ใกล้จะเช้าแล้ว กิ่งโกมินทร์คงคิดมากเรื่องความฝันจนนอนไม่หลับกระสับกระส่าย เมื่อเห็นว่าใกล้เพลาตะวันขึ้นแล้วจึงลุกออกจากที่ด้วยเสียงเบาๆพลางรีบแยกตัวออกไปเดินเล่นคิดอะไรคนเดียวเรื่อยเปื่อย

    กลางป่าหิมพานต์ กิ่งโกมินทร์เดินเล่นไปก็ครุ่นคิดไปจนกระทั่งเห็นเงาร่างบางร่างกระโดดไปกระโดดมาอยู่บนต้นไม้ กิ่งโกมินทร์ท่าทางจะสนใจอยู่ไม่เบา ใครหนะ นางสั่งเสียงเรียก แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ เงานั้นหายไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้ กิ่งโกมินทร์ยิ่งเดินตามหาเรื่อยๆด้วยความสนใจและสงสัยรวมกัน เราถามว่าใคร ออกมาเดี๋ยวนี้นะ กิ่งโกมินทร์ส่งเสียง พลันร่างหนึ่งมาทางเบื้องหลังปิดปากกิ่งโกมินทร์ไว้แล้วดึงร่างนางไป กิ่งโกมินทร์พยายามดิ้นรน สุดท้ายจึงใช้ศอกแงลงที่ท้องของผู้อยู่เบื้องหลังแล้วรีบไปหันไปพลัน คนทั้งสองมองตากันเหมือนคนเคยรู้จักทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เจ้าเป็นใคร คำถามเดียวกันถูกถามขึ้นพร้อมกันจากนารีที่ชื่อกิ่งโกมินทร์ และ และ บุรุษนามเทวอสุ ทั้งสองไม่มีใครเอ่ยคำตอบออกมาก่อนกัน ต่างก็นิ่งไปเหมือนกาลเวลาได้ถูกหยุดลงไปแล้ว ก่อนที่จะหลุดออกจากห้วงภวังค์พลัน เราชื่อเทวอสุ มาตามหาของสำคัญ สิ่งของที่เรามีหน้าที่ต้องดูแล เทวอสุว่า อะไร... กิ่งโกมินทร์พูด คัมภีร์... คัมภีร์นพรัตน์ เทวอสุตอบตรงๆ อะไรนะ เจ้าทวนชื่อคัมภีร์นั่นอีกครั้งได้ไหม กิ่งโกมินทร์พูด ทวนชื่อคัมภีร์รึ เราบอกว่า คัมภีร์นพรัตน์ เทวอสุพูด

    ที่ประทับของนพคุณและเหล่าผู้ร่วมเดินทาง เทวอสุกำลังเอ่ยเล่าถึงคัมภีร์นพรัตน์ที่หายไป ถ้าเดาไม่ผิด น้องของเจ้าคงมาตามหาของสามสิ่งดังที่คัมภีร์ว่าไว้ เทวอสุพูด สามอย่างที่ว่านั้น คืออะไรบ้างหรือ นพคุณพูด เถาวัลย์เวท เดชอมฤทธิ์ และ วิศิษฏ์บุษบา เทวอสุพูด งั้นเราจะขอชวนท่านร่วมเดินทางไปด้วยได้หรือไม่ นพคุณพูด ข้าไม่ขัดข้องหรอก ข้าต้องการมาเอาคัมภีร์ที่ข้าดูแลอยู่กลับไปยังดินแดนของข้า เทวอสุพูด งั้นก็ถือว่าดี นพคุณพูด

    ฝ่ายวชิรารัตน์ มรกต และ พิมพ์เพทายนั้น โอ๊ย ป่าหิมพานต์กว้างใหญ่ออกอย่างนี้ จะทำยังไงหละถึงจะหาได้ วชิรารัตน์พูด นั่นสิ เราเบื่อแล้วนะ ไอ้ของพวกนั้นมีอยู่จริงๆรึเปล่าก็ไม่รู้ ลักษณะ หน้าตามันเป็นยังไงก็ยังไม่เคยเห็น แล้วนี่ให้มาตามหา คงเจอหรอกนะ พิมพ์เพทายพูด หรือว่าเราต้องแบ่งกันไปหา พิมพ์เพทายเจ้าไปหาเถาวัลย์เวท ส่วนเราจะไปหาเดชอมฤทธิ์ ส่วนน้องวชิรารัตน์ ไปหาวิศิษฏ์บุษบา ตกลงตามนี้จะดีหรือไม่ มรกตพูด จะเอานั้นเหรอ วชิรารัตน์ว่า มรกตพยักหน้า เออ ก็ดีเหมือนกันนะ แบ่งกันหาไปเลย พิมพ์เพทายพูด งั้นก็ต้องตกลง วชิรารัตน์ก็เห็นพ้องด้วยเช่นกัน

    สมุทรักษ์เดินเล่นอยู่กับศักรศร ศักรศร พี่รู้สึกว่า เหมือนพลังอำนาจอะไรบางอย่างบอกพี่ว่าควรช่วยพวกเค้า ควรเดินทางไปกับพวกเค้า สมุทรักษ์ว่าพระเจ้าข้า ข้าเองก็เช่นกัน เหมือนมีพลังดึงดูดไม่ให้กลับเศวตสรวงนคร ว่าไปก็มีลมพัดมาทางหนึ่ง พี่ว่ามันแปลกๆนะ ศักรศร สมุทรักษ์ว่า พระเจ้าข้า แปลก อยู่ๆก็ลมพัดมาแบบนี้ ศักรศรเห็นต้องกัน งั้นเราตามลมนั่นไปดีกว่า เผื่อจะเจอใครสักคน สมุทรักษ์พูด แล้วทั้งสองพี่นางก็พากันวิ่งไปตามทางที่ลมพัด

    พิมพ์เพทายนั่งอยู่บนชิงช้าเถาวัลย์แล้วก็ถอนใจ จะพาพบไหมนะ ถ้าเถาวัลย์เวท มันเป็นเหมือนเถาวัลย์ธรรมดาก็ดีสินะ เราจะเอาไปให้มากที่สุดเลย พิมพ์เพทายว่าพลางโยกชิงช้าเถาวัลย์โล้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงสายลมที่พัดมากระทบร่างแล้วแรงขึ้นเรื่อยๆ พิมพ์เพทายเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว พิมพ์เพทายลุกขึ้นจากชิงช้าเถาวัลย์นั่นพลางมองไปตามทิศทางลม ลมอะไรนักหนาเนี่ย พิมพ์เพทายบ่นไปเรื่อย แล้วก็เห็นว่าสมุทรักษ์ กับศักรศรวิ่งมาตามกระแสลมพลันก็ตกใจ อะไรกันเนี่ย นั่น... พิมพ์เพทายพูดด้วยความหวั่นใจว่าจะถูกไล่ล่า พิมพ์เพทาย สมุทรักษ์พูด แล้วรีบวิ่งตามนางไป พิมพ์เพทายวิ่งหนีใหญ่แล้ว ศักรศร กลับไปบอกทุกคน ว่าตอนนี้เจอตัวพิมพ์เพทายแล้ว ส่วนพี่จะตามนางไปเอง สมุทรักษ์พูด

    นพคุณนั่งหารืออยู่กับกิ่งโกมินทร์ ปักษยุ และ เทวอสุอยู่ ศิรสิทธิ์ และ ศดิศรันย์ก็กำลังหุงหาอาหาร วิชิตเชษฐ์ก็นั่งอยู่กับจันทรัตน์ รดามณีนั่งเพียงลำพังมีแอบมองศดิศรันย์อยู่บ้างแต่ไม่มีเป็นที่ผิดสังเกต ส่วนปีตมณี นั่งอยู่บนแท่นหินมองดูไปรอบกาย มณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์ก็นั่งคุยกัน คิมหันต์และสิทธิราชนั้นเดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น ศักรศรวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา ทุกคน ตอนนี้พี่ข้าเจอตัวพิมพ์เพทายแล้ว พี่ข้ากำลังตามนางไปอยู่ ให้ข้ากลับมาบอกเนี่ย ศักรศรพูด จริงเหรอเพคะ ท่านพบพระพี่นางพิมพ์เพทายแล้วจริงๆเหรอ ปีตมณีพูดขึ้น

    ส่วนสมุทรักษ์นั้นวิ่งไล่ตามพิมพ์เพทายไป ทิ้งวิ่ง ทั้งกระโดด พิมพ์เพทายพยายามหาทางหนีสุดชีวิต พิมพ์เพทายหาที่หลบแถวๆนั้น ก็ได้ที่พุ่มไม้รกที่หนึ่ง สมุทรักษ์วิ่งมาถึงก็เห็นว่าพิมพ์เพทายหายไป เอะ หายไปไหนกัน ก็เห็นหลังอยู่ไวๆนี่นา สมุทรักษ์ว่า พลางเดินวนเวียนอยู่แถวๆนั้นไม่ยอมไปสักที พิมพ์เพทายหายใจเมื่อทั่วท้องด้วยความหวั่นเกรงว่าสมุทรักษ์จะพาตนไปพบนพคุณ ตาบ้า วนเวียนอยู่ได้ นี่ถ้าเราไม่ได้ถอดแหวนเก็บไว้ที่ใต้พิภพหละก็ เจ้าไม่เหลือแน่ พิมพ์เพทายคงได้แต่คิดเท่านั้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย สมุทรักษ์เหมือนว่าจะรู้ว่านางอยู่แถวนั้น สมุทรักษ์เดินดูที่พุ่มไม้ทุกพุ่ม จนเหลือพุ่มสุดท้าย สมุทรักษ์เดินเข้ามาใกล้ตัวแล้ว พิมพ์เพทายยิ่งทั้งเกร็ง และ เกรงในเวลาเดียวกัน ทันทีที่สมุทรักษ์เข้ามาถึงนางก็รีบวิ่งออกจากที่ซ่อนพลันสมุทรักษ์ใช้แขนขวางร่างพิมพ์เพทายไว้จนทั้งคู่ต้องล้มลงไปที่พุ่มไม้นั่น สมุทรักษ์กระชากร่างนางลุกขึ้นมา ได้ตัวซะทีนะ แม่คนเก่ง หลอกให้วิ่งตามแทบแย่ ไม่เหนื่อยบ้างรึไงเนี่ย สมุทรักษ์ว่า ปล่อยนะ พิมพ์เพทายพูด จับลูกเสือได้ ใครจะปล่อยง่ายๆ สมุทรักษ์พูดพลางเสกเชือกออกมารัดร่างนางไปยังที่พัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×