ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( sf exo ) music is my life. ( all baekhyun )

    ลำดับตอนที่ #4 : ( sf ) ห วั่ น ไ ห ว ( k a i x b a e k x h u n ft. krislay ) - 2 5 -

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 55







     






     

     

     

     

    ครั้งแรกที่ผมเจอเขาน่ะ..

    ..เหมือนเวลามันหยุดหมุนเลยล่ะ..

    แถมยังช็อคมากๆ เลยด้วย..

     

     

     






     

     

     

                เสียงเอะอะโวยวายหน้าร้านเบเกอร์รี่แห่งหนึ่งดังขึ้นเป็นระลอกๆ เมื่อชายหนุ่มหน้าหวานสุดฮอต เดินควงคู่มากับหนุ่มรุ่นน้องสุดหล่อที่ฮอตไม่แพ้กันมายังร้านเบเกอร์รี่แห่งนี้เป็นประจำเหมือนทุกวัน..

     

                ..และมีเสียงดังหนวกหูของบรรดาแฟนคลับดังเหมือนทุกวันเช่นกัน

     

                กรุ๊งกริ๊ง..

     

                “เมื่อไหร่พวกนายจะจบๆ กันไปสักทีนะ กระจกร้านฉันจะพังก็เพราะเสียงแฟนคลับของพวกนายเนี่ยแหละ! -*-” ชายหนุ่มผิวขาวเหน็บแนมก่อนจะหันไปถูพื้นต่อ

                “โธ่ พี่ซูโฮก็..อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วนี่ฮะ” ชายหนุ่มผิวขาวอมชมพูนาม โอ เซฮุนเจ้าของฉายา สาวกคยูไลค์(?) เอ่ยตัดพ้อเล่นๆ ซึ่งเรียกสายตาหงุดหงิดจากคู่สนทนาได้อย่างดี

                “แล้วนี่ลู่หานไปไหนเหรอครับ?” ชายหนุ่มหน้าหวานนาม พยอน แพคฮยอนถามก่อนที่มือบางจะเลื่อนเก้าอี้ใกล้ๆ ตัวเคลื่อนออกแล้วจัดการหย่อนก้นลงไปนั่งแก้เมื่อย

                “ลาออกแล้ว” คนตอบคำถามได้แต่ตอบเรียบๆ โดยไม่ได้สังเกตตาของคนตารีเล็กทั้งสองที่ตอนนี้เบิกโพลงอย่างไม่น่าเชื่อ

     

                “อะไรนะพี่!!!

     

                ทั้งคู่อุทานขึ้นพร้อมกัน พลางทำหน้าคล้ายโลกกำลังจะแตก ซูโฮหันมามองพลางส่ายหน้าอย่างระอา จะไม่ให้เจ้าพวกนี้ช็อคก็ยังไงยังไงอยู่ -*- พวกมันเล่นติดลู่หานซะขนาดนั้น มาทีไรก็ถามถึงแต่ลู่หาน เวลาที่เขาไม่อยู่ก็ไม่เคยถามไถ่เล๊ยยยย! นี่ถ้าคิม จุนมยองคนนี้ตายไปคงไม่มีใครมาฝั่งศพให้ใช่มั้ยเนี่ย? TT

     

                “ก็ยังบอกอยู่ว่าลาออกไปแล้ว -0-” ว่าพลางถูพื้นต่ออย่างไม่สนใจ ในขณะที่ทั้งสองคนต่างรุกรี้รุกรนอย่างร้อนใจ

    พี่ลู่หานลาออกไปแล้ว!! แล้วใครจะซื้อชานมไข่มุกให้เซฮุนคนนี้กินล่ะ!!

    พี่ลู่หานลาออกไปแล้ว!! แล้วใครจะมานั่งฟังแพคฮยอนบ่น(?)ล่ะ!!

     

    แค่ลู่หานคนเดียวทำให้สุดฮอตทั้งสองของโรงเรียนจะเป็นจะตายถึงขนาดนี้ อยากรู้จริงๆ ถ้าพวกแฟนคลับรู้เรื่องนี้แล้วจะเป็นยังไง..

     

    ..สงสัยลู่หานคงได้..

     

     

     

    ..ตายหยั่งเขียด..

     

     

     

     

     

    ..แค่คิดก็เสียวไส้แล้ว - -^^

     

     

     

     

     

     

     

     

    แฮ่ก แฮ่ก..

     

    กรุ๊งกริ๊ง..

     

    “ขอโทษที่มาสายครับ..” ผมผลักประตูเข้าไปถายในร้านเบเกอร์รี่ที่ผมเพิ่งได้ตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟจากลูกพี่ลูกน้องมาเมื่อวาน ก่อนจะยืนหอบแฮ่กๆ เพราะความเหนื่อยจากการวิ่ง

    “อ้าว? จงอินทำไมแกวิ่งมาเล่า! ไม่เห็นต้องรีบเลยคนกันเองทั้งนั้น -*-” พี่ซูโฮเจ้าของร้าน หรืออีกตำแหน่งนึงคือเจ้านายของผม อ้อ! แล้วเขาก็ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมอีกด้วย

    “..ผม..กลัวมาไม่ทันน่ะฮะ แฮ่กๆ..” ผมซูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะสะดุดเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของผู้ชายแปลกหน้าข้างๆ

     

    คล้ายกลับหน้าปัดนาฬิกาหยุดเดิน.. เวลาหยุดหมุน.. ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อไหว..

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั่น.. ริมฝีปากบางชมพูระเรื่อ.. จมูกโด่งรั้นนิดๆ.. คิ้วเรียงสวย.. หน้าผากมน.. หน้าขาวใส.. ดวงหน้าหวาน.. รูปหน้าเรียวสวย..

     

    ทุกๆ องค์ประกอบบนใบหน้าของร่างบางตรงหน้าบอกได้ทันทีเพียงเห็นแค่เสี้ยววินาที..

     

    ..น่ารัก..

     

     

     

    “..จงอิน..จงอิน!! เฮ้ย! คิม จงอิน!!

    “หะ? ห๊ะ!! อะไรฮะพี่ ?” ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อพี่ซูโฮตะโกนเสียงแหลมใกล้ๆ หูผม ผมจึงละสายตาจากอีกคน ก่อนจะหันไปทำหน้าเอ๋อๆ กับพี่ซูโฮแทน

    “นายเหม่ออะไรน่ะ? แล้วมองแพคฮยอนทำไม? เอ๊ะ..นี่นายคงไม่.. -*-” ผมรีบโบกมือปฏิเสธพัลวันก่อนที่พี่ซูโฮจะคิดเป็นอื่นไกลทำให้ใครอาจเข้าใจผิดได้ โดยเฉพาะเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั่น..

     

    “..ถึงนายจะปฏิเสธ แต่ฉันขอเตือนก่อนว่าอย่ายุ่งกับแพคฮยอน..”

     

    ผมหันไปตามต้นเสียงก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีดำสนิทของผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันกับผม.. ต่างกันที่เขามีผิวที่ขาวกว่าผมมาก แต่ที่ทำให้ผมสะดุดกึกทันทีก็คือ..

     

    ..ความเย็นชา และความไม่พอใจในแววตาคู่นั้น

     

    “..” บรรยากาศในร้านเกิดความเงียบ ความกดดันที่ผมเองก็เริ่มรู้สึกได้เพิ่มขึ้นทุกๆ ที จนดีโอเพื่อนของผมที่ทำงานในครัวของที่นี่ออกมาจากครัว

     

    “อ้าว? ไค..แล้วพวกพี่มายืนทำอะไรกันตรงนี้ - -?”

     

    หนุ่มตาโตถามซื่อๆ ก่อนจะเดินเข้ามาทักทายผมตามประสาผู้ชายแมนๆด้วยการจับมือแล้วแท็กบ่า ผมยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปสบตากับคนร่างบางที่เหมือนจะมองผมอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นคนหลบสายตาของผมไป

     

    “เซฮุน กับแพคฮยอนมาแล้วทำไมไม่เข้าไปตามฉันล่ะ ฉันจะได้ทำบลูเบอร์รี่ชีสเค้กให้กิน” ดีโอผละจากผมก่อนจะหันไปถามร่างบาง ก่อนที่ริมฝีปากบางจะได้เอ่ยอะไร คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ยื่นมือไปกุมมือบางไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยขอตัว

     

    “พี่ซูโฮ ผมนึกได้ว่ามีงานต้องทำกับแพคฮยอน ผมขอกลับไปทำก่อนนะฮะ..ส่วนดีโอ ไว้พรุ่งนี้พวกฉันจะมากินเค้กของนายก็แล้วกัน..”  คนที่ชื่อ เซฮุนหันมามองผมนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาผมหน้าชาไปทั้งแทบ..

     

    “ส่วนนายจงอิน.. ฉันหวังว่า ฉัน และแพคฮยอนจะไม่ได้เจอนายอีก..”

     

    “นายพูดอะไรของนายน่ะเซฮุน!?” คนตัวเล้กหันไปมองคนตัวสูงข้างๆ ที่กุมมือตัวเองอย่างงงๆ ปนโกรธระคนเมื่ออีกคนพูดจาไม่ดีกับผม

    “ผมลาล่ะครับ” เซฮุนโค้งครั้งนึงก่อนจะผลุนผลันจูงมือร่างบางออกไป พร้อมๆ กับที่ผมจ้องมองไปที่มือบางที่ถูกมือหนาของอีกคนกุมออกไปเงียบๆ

     

    “เปอร์เซ็นต์ต่ำหน่อยนะที่จะจีบติดน่ะ..”

     

    “พี่พูดเรื่องอะไร?” ผมเฉไฉไปเรื่องอื่น เมื่อได้ยินพี่ซูโฮเอ่ยขึ้นคล้ายอ่านความคิดของผมออก

    “นายอยากรู้ใช่มั้ย? ว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกัน? ทำไมเซฮุนถึงได้ดูหวงแพคฮยอนขนาดนั้น” ผมนิ่งไป ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เมื่อรู้ว่าถึงปิดความรู้สึกไปไม่บอกใคร คนอย่างพี่ซูโฮก็ต้องขุดค้นมันออกมาจนได้

     

    ดีโอหันมายิ้มบางให้ผม ก่อนจะตบบ่าเชิงให้กำลังใจผมเบาๆ ราวกลับว่าสิ่งที่ผมกำลังจะได้ยินมันจะทำให้ผมเสียใจ.. และมันก็ใช่..

     

     

     

     

    “พวกเขาเป็นพี่น้องกัน..พี่น้องท้องเดียวกัน..”

     

     

    “แล้วทำไมถึงได้..”

     

     

     

     

     

     

     

    “พวกเขารักกัน..รักกันในฐานะของคนรัก..ไม่ใช่แบบพี่น้อง..”

     

    ...





     

     










     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ..รู้ก็ทั้งรู้ว่าเธอเป็นใคร..
    ..และฉันก็ไม่คิดจะปีนขึ้นไป..
    ..คงไม่มีทางจะเป็นไปได้..
    ..ก็เรานั้นมันต่างกัน..
    ..ทำได้แค่เพียงเจียมตัวมันไป วัน วัน..
    ..ฉันเข้าใจ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันนี้เป็นวันจันทร์ ซึ่งก็เป็นอีกวันที่ผมต้องมาทำงานที่ร้านเบเกอร์รี่แห่งนี้..และก็เป็นอีกวันที่ผมคิม จงอิน เด็กมัธยมธรรมดาๆ คนนึงนั่งซึมกระทื่อเป็นตุ๊กตาในตู้กระจก..

     

    “โอยย..มานั่งทำดราม่าอะไรตรงนี้วะ? -*-”

     

    เสียงบ่นเซ็งๆ ของพี่ซูโฮดังขึ้นเป็นรอบที่ร้อยของวันนี้..ผมได้แต่ยิ้มฝืดๆ ไปให้ จนเจ้าตัวถึงกลับเบะปากสมเพชผม ผมเลือกที่จะไม่สนใจอาการเซ็งๆ ของอีกคนก่อนจะหันหน้ากลับมามองต้นไม้ ใบหญ้า ถนนหนทาง และสิ่งแวดล้อมต่างๆ หน้าร้านแทน..

     

    อีกด้าน หลังครัว..

     

    “ฉันว่ามันชักจะไม่โอขึ้นทุกวันทุกวันแล้วนะเนี่ย - -” ชายหนุ่มผิวขาวเจ้าของร้านเบเกอร์รี่นาม ซูโฮเอ่ยกับเด็กหนุ่มตาโตที่มีหน้าตาน่ารัก และผิวขาวไม่แพ้กันในขณะที่อีกคนกำลังวุ่นกับการทำเค้กสูตรใหม่อยู่

    “ผมก็ว่างั้นแหละฮะ..ไอ้จงอินมันยิ่งเป็นคนขี้ยึดติดอีกต่างหาก เฮ้ออ~ - -” ปากพูดมือทำ ถึงจะถูกเขาชักชวนให้พูดคุย แต่มือก็ยังไม่ละจากการทำงาน เด็กดีจริงๆ น้า..คยองซูเนี่ย..

     

    “แล้วเรื่องของฉันกับนายล่ะ..”

     

    “พี่หมายถึงเรื่องอะไรฮะ -*-” คิ้วเรียวขมวดแน่นเป็นปม ก่อนจะผละออกจากแป้งเนื้อนุ่มตรงหน้า ซูโฮยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะดุนลิ้นกวนอารมณ์ของคนตาโต มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบางอย่างจงใจก่อนจะกระตุกยิ้มเมื่ออีกคนสะดุ้งตัวโยน

     

    “..พ..พี่จะทำอะไรน่ะพี่ซูโฮ..นี่มันในห้องครัวนะพี่!! อ๊ะ...!?!

     

    ยังไม่ทันจบประโยคทักท้วง ริมฝีปากบางถูกริมฝีปากหนาบดเบียดเข้าหาอย่างไม่ทันตั้งตัว เรียวลิ้นร้อนเริ่มไล้เลียริมฝีปากปากนุ่มไปเรื่อยๆ จนอารมณ์ของอีกคนตะเหลิดไปไกลเกินจะห้ามอยู่ เผลอเผยอปากให้ร่างสูงได้เข้าไปลิ้มลอง..

    มือหนากดท้ายทอยคนตัวเล็กกว่าให้ปรับองศาในการรับรสจูบได้มากยิ่งขึ้น ความหวานละมุนในโพรงปากชื้นของคนตัวเล็กทำเอาร่างสูงแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่..มือหนาสัมผัสสะเปะสะปะไปทั่ว เตรียมปลดกระดุมของอีกคนออก.. แต่ทว่าต้องสะดุดให้กับเสียงดังโครมทางด้านนอก..

     

    “..”

    “..”

     

    ทั้งสองผละออกจากกันไม่มีท่าทีเขินอาย หากแต่ความกังวลในแววตาทั้งคู่กลับฉายเด็ดชัดยิ่งนัก.. เสียงโครมนั่น..เกิดอะไรขึ้นกันแน่..

    แต่คนต่างพากันวิ่งไปยังหน้าร้าน ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อภาพตรงหน้าที่ทั้งคู่เห็นคือ...!!!!

     

     

     

     



     

     

     

     

    ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์

     

     

     

     

     

     

     

     

     











     

     

     

    ความจริงคือ..เรื่องนี้ดราม่าหนักในช่วงแรก แต่ช่วงหลังเลี่ยนมดขึ้นค่ะ :)




     
    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×