ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส ภาคพิเศษ

    ลำดับตอนที่ #14 : งานแต่งงาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 785
      2
      2 พ.ย. 51

    งานแต่งงาน

    เหล่าคู่รักแห่งป้อมอัศวินเริ่มเดินทางมาเจอกันที่บารามอสอย่างตื่นเต้น เพราะจะได้แต่งงานเสียที และที่สำคัญจะได้เห็นหน้าหวานใจของเพื่อนฝูงด้วย นั่นเป็นเหตุผลหลัก

    สามนางฟ้าแห่งป้อมทักทายกันอย่างสดใส

    แองจี้ นั่งคุยกับเรนอนและมาทิลด้า ขณะที่แฟนของสามสาว หายไปกับฝูงเพื่อน

    เจ้าชายยูรีซีส คุยกับคิงอาเทอร์

    คิลหายหัวไป ซึ่งสงสัยคงไปหาคิงคาโล

    ส่วนครี้ดกำลังทักทายเดทและซอร์โร และเปรียบเทียบการเป็นเจ้าบ่าวแสนเท่แห่งปี

    "แล้วพวกเพื่อนๆคนอื่นหายไปไหนกันหมดนะ" แองจี้ถามอย่างสงสัย

    "อืม บางส่วนคงยังมาไม่ถึงมั้ง " มาทิลด้าสันนิษฐาน หันไปถามเจ้าหญิงเรนอน

    "อ้อ เจ้าหญิงเอฟีน่า กับนิกส์จะมาถึงช่วงบ่าย ส่วนซิบิลเห็นว่ายุ่งกับการช่วยเตรียมงาน ในฐานะที่เป็นคนเมืองเจ้าภาพ" เจ้าหญิงเรนอนจารนัย

    ไดแอนเดินคู่มากับเจ้าหญิงวิเวียนน่ายีน่า และสองนางรำแห่งซาเรส

    "เชิญพวกท่านพี่หญิงไปแต่งตัวกันได้แล้วค่ะ" ราชินีสาวแห่งเจมิไนบอกเสียงหวาน โดยมีว่าที่เจ้าสาวทั้งสามเดินตามมาด้วย ทำให้สามนางฟ้าของป้อมลุกเข้าไปห้องด้านใน ที่เตรียมไว้สำหรับเหล่าเจ้าสาว

    "แล้วเจ้าสาวคนอื่นๆล่ะ" แองจี้ถามอย่างติดใจ

    "พวกเขาคงเตรียมตัวตอนมืดนะค่ะ เพราะงานเลี้ยงเริ่มกลางคืน" ไดแอนเล่าให้พวกรุ่นพี่ฟังเสียงหวาน

    "เห เจ้าสาวของพวกนั้นขี้อายจัง" มาทิลด้าวิจารณ์อย่างแปลกใจ เพราะยังไม่เห็นหน้าแฟนเพื่อนอีกหลายคน

    "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ไว้ถึงเวลางาน พวกพี่หญิงก็จะได้เห็นเอง" วิเวียนเสริมเพื่อนสาวเสียงขบขัน เพราะความจริงว่าที่เจ้าสาวอีกหลายคนที่จะมาปรากฏตัวแบบกะเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ นั้น รวมตัวกันอยู่อีกห้องหนึ่ง

    ในห้องส่วนพระองค์ของราชินีเฟลิโอน่า ที่กำลังนั่งเสวยน้ำชากับจักรพรรดินีชาเบียน  โดยมีนางไม้แห่งกิลดิเรก โจรสลัดสาว และอดีตเจ้าชายแห่งซาเรสมองตาค้าง

    "พวกนาย?" เจคมองโรสลับกับเฟรินไปมาอย่างไม่แน่ใจ

    "พวกเราทำไมเหรอจ๊ะ เจคกี้ อาชี้ โคลลี้" เฟรินถามเลียนแบบรุ่นพี่ลูคัส

    "นั่นสิ ฉันนึกว่าแยกห้องกับพวกสาวพวกนั้น พวกนายจะรับได้ง่ายหน่อยนะเนี่ย" โรเปรยขณะจิบน้ำชาด้วยมาดขอทานผู้รอบรู้ต่อเหมือนเดิม

    "พวกนายก็โดนยาของรุ่นพี่ลูคัสเหมือนกันหรือ" เจคหันไปถามเพื่อนๆอย่างสงสัย

    "ของโคลว์นะ เป็นผู้หญิงมาตั้งแต่แรกแล้ว แค่พ่อมันหวง ส่วนที่เหลือก็ผลผลิตของยา จะรุ่นไหน สเป็คพิเศษแบบไหน ก็อีกเรื่อง" เฟรินตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

    "รุ่นพี่ลูคัสมียาหลายแบบมากเลยเหรอ" โคลว์ถามเสียงไม่แน่ใจ สรุปว่าพวกเพื่อนๆไม่ได้เป็นโฮโมกันใช่มั้ย แต่เป็นผู้หญิงได้

    "ใช่หลายเวอร์ชั่นมากเลย ของฉันกับเจคตอนแรกก็โดนเวอร์ชั่นเดียวกัน แต่ตอนหลังพวกเรากินยาเข้าไปคนละแบบ เลยออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน" อาชูร่า ที่เปลี่ยนเป็นผู้หญิงถาวรแล้ว เพราะไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เลยขอยาพี่ลูคัสแบบถาวรไปเลยตอบ

    "ของฉันนะไม่ใช่ยาของรุ่นพี่ลูคัส แต่เป็นยาในตำนานที่เจ้าชายอาเทอร์หลอกให้ฉันกินตอนพวกเราไปเที่ยวซาเรสกันทั้งชั้นปีไง" โรเล่าเสียงเรียบ กะเผาว่าที่สามีเล็กน้อยอย่างหมั่นไส้

    เพื่อนที่ยังไม่ทราบเรื่องอ้าปากค้างกับยุทธวิธีของเจ้าชายใจสิงห์

    "ของนายล่ะ เฟริน" เจคถามอย่างสงสัย เพราะอีกฝ่ายเป็นคนโปรดของรุ่นพี่ลูคัส ไม่น่าจะเผลอกินยาเหมือนพวกเขา

    "ก็คล้ายๆกับของรุ่นพี่ลูคัสนะ" เฟรินยิ้มหวานตอบแววตาระยับ ส่งผลให้เพื่อนๆมองอย่างสงสัย

    โรขมวดคิ้วอย่างรู้สึกไม่ไว้วางใจด้วยความที่รู้นิสัยของพี่ลูคัสดี แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะคนที่ต้องรับมือเฟรินไม่ใช่เขา แต่เป็นคาโลต่างหาก

    นางกำนัลนำชุดเจ้าสาวมาให้ ขณะที่เฟรินรับอาสาช่วยแต่งหน้าทำผมให้เพื่อนๆร่วมก๊วนอย่างใจดี

    "เอาให้สวยนะ" เจคบอกอย่างเขินเล็กน้อย กลัวสู้พวกสาวๆตัวจริงไม่ได้

    "มือชั้นนี้แล้วน้า" เฟรินบอกยิ้มก่อนลงมือแปลงโฉมเพื่อนๆสุดฝีมือ

    โรมองอย่างไม่แน่ใจว่า พวกเขาจะสวยเกินหน้าพวกผู้หญิงตัวจริงไปหน่อยมั้ยเนี่ย แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะคืนนี้เป็นคืนแต่งงานของพวกเขานี่น้า เอาให้คนๆนั้นมองตาค้างก็คงไม่เลวเหมือนกัน

    ดวงตาสีเขียวเปล่งประกายพอใจ เมื่อเห็นเจ้าบ่าวของเขายืนนิ่งอย่างตกตะลึง

    เสียงประกาศเรียกชื่อพวกเขาเป็นชื่อแรก ส่งผลให้เหล่าผู้มาร่วมงานเลี้ยงมองอย่างตกตะลึง โดยเฉพาะเหล่าเพื่อนๆที่เคยแต่ได้ยินกิตติศัพท์ของจักรพรรดินีแห่งเวนอล แต่ไม่เคยเจอตัวจริง

    กษัตริย์อาเทอร์จับมือน้อยกุมไว้แน่น ก่อนพาเดินเข้าไปทำพิธีก่อนใครเพื่อน

    หลังทั้งคู่สาบานรักและทำพิธีเสร็จ กษัตริย์ตาคม พาเจ้าสาวแสนสวยไปนั่งรอที่โต๊ะที่จัดไว้อีกด้าน

    เจ้าหน้าที่ประกาศเรียกชื่อคู่แต่งงานคนต่อไป

    เจ้าชายรัชทายาทแห่งกิลดิเรก และเจ้าสาวคนสวยผู้ลึกลับ

    กษัตริย์อาเทอร์มองดูรุ่นน้องป้อมอัศวิน เจ้าชายแห่งกิลดิเรกผมสีเงินยาวกับเจ้าสาวผมสีน้ำตาลยาวไม่แพ้กัน ที่ดูน่ารักสมกันดี

    "ฉันคิดว่า ฝีมือการแต่งหน้าของเฟรินนี่ทำให้เธอสวยที่สุดในงานเลย โร" เสียงทุ้มกระซิบข้างหูร่างบางข้างตัว มองดูผิวแก้มชมพูอย่างถูกใจ

    "นั่นท่านคงต่อรอดูคู่ต่อไปก่อน" โรบอกเสียงเบามองดูบาทหลวงทำพิธีแต่งงานให้กัสและโคลว์ที่ฝ่ายเจ้าบ่าวก็มองเจ้าสาวคนงามไม่วางตาเช่นกัน

    พิธีเสร็จสิ้น กัสจูงมือโคลว์มานั่งข้างๆพวกเขา มองดูเพื่อนๆทำพิธีกันต่อ

    เจ้าชายยูรีซีส พาเจ้าหญิงแห่งอเมซอนมายืนต่อหน้าบาทหลวง และสาบานรักเสียงมั่นคง และทั้งคู่เดินอย่างสง่างามมานั่งข้างๆเพื่อนๆรอลุ้นคู่ต่อไป

    เจ้าครี้ดที่วันนี้แต่งตัวเท่ในชุดเจ้าชายเต็มยศกุมมือแองจี้แน่น และกล่าวคำสาบานเสียงดังฟังชัด ทำให้แขกหลายคนอมยิ้มกันไปทั่ว

    "ดีนะที่แองจี้ไม่ได้พกคทามาในวันนี้" มาทิลด้ากระซิบบอกเจ้าชายยูรีซีส ถึงนิสัยน่ารักของสองคนนี้

    "พวกเขามาโน้นแล้ว " เจ้าชายยูรีซีสบอกเจ้าสาว และทั้งคู่ส่งยิ้มให้เพื่อนๆ เพราะครี้ดนั่งลงก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นดื่มย้อมใจทันที ขณะที่เจ้าสาวส่งสายตาเขียวมาเตือนแทนคทาในวันนี้ เพราะไม่อยากขายหน้าเลยฝากคทาไว้ที่เรนอนแทนก่อนเริ่มพิธี

    "เฮ้ ทิวดอร์จะออกมาแล้ว" ครี้ดบอกเสียงตื่นเต้น เพราะอยากเห็นเจ้าสาวของเพื่อนเต็มแก่ ก่อนหน้านี้ถามเท่าไร มันก็ไม่ยอมบอก ทำให้พวกเขาต้องมารอดูเอาเอง

    เหล่าเจ้าบ่าวที่ทำพิธีเสร็จแล้วต่างก็อ้าปากค้าง เมื่อเห็นหน้าเจ้าสาวของเจ้าชายทิวดอร์

    "หน้าเหมือนอาชูร่าเลย แต่สวยกว่าแฮะ หรือว่าจะเป็นน้องสาวของอาชูร่า" ครี้ดหันไปถามกัสอย่างสงสัย

    "ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน" อดีตเสธที่มีแฟนปลอมตัวเป็นผู้ชายมาเรียนไม่ขอออกความเห็น

    ทั้งกัสและครี้ดหันไปหาห้องสมุดเคลื่อนที่แทนด้วยความอยากรู้

    "พวกนั้นทานยาเปลี่ยนเพศของรุ่นพี่ลูคัสไปนะ" จักรพรรดินีคนสวยให้คำตอบที่เพื่อนอยากรู้

    "แล้วของนายล่ะ" ครี้ดหันไปถามกัสต่ออย่างสงสัย เมื่อมองดูดีๆ เจ้าสาวคนสวยของเพื่อนก็หน้าคล้ายโคลว์เหมือนกัน

    "ของฉันแค่พ่อหวง แต่โคลว์เป็นผู้หญิงมาตั้งแต่แรกแล้ว" กัสตอบเสียงเรียบ ส่งสายตาห้ามจ้องมากมาให้นักรบแห่งไนล์

    "เอ่อ ฉันว่าไม่ใช่แค่พ่อหวง แฟนก็หวงด้วย"  ครี้ดพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนทักทายทิวดอร์ที่พาอาชูร่ามานั่งร่วมโต๊ะด้วย โดยนั่งข้างกษัตริย์อาเทอร์ ทำให้เขาคุยด้วยลำบาก ไอ้นี่สงสัยหวงแฟนด้วยเหมือนไอ้กัส

    ครี้ดอ้าปากค้างอีกรอบเมื่อเห็นแฟนของเอ็ดเวิร์ดชัดๆ ครั้งนี้นักรบแห่งไนล์ นั่งนิ่งเงียบไม่วิจารณ์อะไรอีกเลยด้วยความตกตะลึงสองชั้น

    เอ็ดเวิร์ดพาเจคมานั่งข้างอาชูร่า รอดูคู่ของนักฆ่าแห่งซาเรสกับเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลที่ทำพิธีเป็นอันดับต่อไป

    เจ้าหญิงเรนอนเดินมานั่งข้างๆแองจี้และมาทิลด้า ทำให้ครี้ดได้โอกาสหันไปถามคิล

    "นายคงไม่บอกฉันนะว่า ท่านหัวหน้าป้อมและท่านเสธของพวกเราจะแต่งงานกันเหมือนพวกเอ็ดเวิร์ด" ครี้ดหันไปถามคิลเพื่อทำใจก่อน

    "นายก็รอดูต่อไปสิ ครี้ด"  คิลบอกเสียงไม่เดือดร้อน ขณะที่แองจี้เริ่มตาเขียวและหันไปขอคทาคืนจากเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลเพื่อเตรียมพร้อมเอาไว้กำหราบก่อนแฟนที่รักจะโรคบ้ากำเริบและทำให้เสียพิธีของเพื่อนๆ

    ราชินีแห่งเอเธนส์ควงคู่นักดนตรีหน้าบากกล่าวคำสาบานเสียงมั่นใจ และเดินเชิดหน้ามานั่งใกล้ๆรุ่นพี่ร่วมป้อมอย่างกษัตริย์อาเทอร์และเจ้าชายยูรีซิส ขณะที่นิกส์หันไปคุยกับเพื่อนๆร่วมป้อมที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันตั้งแต่เรียนจบ

    ราชินีเอฟีน่าแอบมองดูเจ้าสาวของพลพรรคป้อม โดยเฉพาะราชินีคนงามของรุ่นพี่อาเทอร์ ก่อนทำคอแข็ง ทำไมสาวๆป้อมอัศวินถึงได้ดูสวยๆกันทั้งนั้น ก็ยังดีที่สมัยเรียนทำตัวเป็นผู้ชายไปเสียส่วนใหญ่ไม่อย่างนั้นคงแย่งเรทติ้งกับป้อมอื่นน่าดู

    ซิบิลทำพิธีแต่งงานกับไดแอน ซึ่งคู่นี้เพื่อนๆไม่แปลกใจเท่าไร เพราะเห็นท่าทีมาหลายปีแล้ว จึงไม่ทำอะไรให้เพื่อนๆต้องตกใจอะไรอีก

    ถัดมาเป็นคู่ของเดท และซอร์โรกับสองฝาแฝดพี่น้อง นักร่ายรำจากซาเรส

    แต่ที่ทำให้เพื่อนๆต้องตาโตเป็นพิเศษคงไม่พ้นคู่ของท่านหัวหน้าป้อม กับเจ้าสาวคนงามของมัน

    คิงคาโลวานและควีนแห่งบารามอส

    ดวงตาของเหล่าเพื่อนร่วมป้อมที่ยังไม่เคยเห็นควีนเฟลิโอน่าแห่งบารามอสมาก่อน โตเท่าไข่ห่าน เมื่อเห็นเจ้าสาวผมสีน้ำตาล ดวงตาสีน้ำตาลหวานที่เดินเคียงคู่มากับร่างสูงของคาโล

    เหล่าคู่แต่งงานแห่งปีทำพิธีเสร็จก็ถึงเวลาฉลองสำหรับพวกเพื่อนๆที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันตั้งแต่จบจากโรงเรียน

    แขกเหรื่อก็แยกไปสนทนากันตามวงอายุ พวกลูกๆที่ยังคงเอกลักษณ์ของป้อมอัศวินที่หลังหมดพิธีการ เสียงทักทายอย่างเป็นกันเองก็เริ่มขึ้น ประเดิมด้วยคำถามคาใจของเหล่าเพื่อน ที่นำโดยนักรบผู้กล้าแห่งไนล์

    "ตกลงพวกแกไม่ได้เป็นโฮโมกันใช่มั้ย" เจ้าชายแห่งไนล์ถามอย่างสงสัย มองดูทั้งท่านหัวหน้าชมรมและเพื่อนร่วมชมรม ส่งผลให้พระชายาเรียกคทาคู่ใจออกมาจัดการกับคำถามไม่ได้เรื่องทันที

    "นายไม่มีคำถามที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง ครี้ด" เสียงแหลมของพระชายาดังพร้อมเสียงคทาคู่ใจ

    "โธ่ ก็คนมันสงสัยนี่ แองจี้" ครี้ดที่คลำรอยโนป้อยๆแก้ตัวเสียงอ่อน

    "อืมมันก็แล้วแต่จะคิดนะครี้ด แต่ฉันคิดว่า นายไม่สนใจเป็นประธานชมรมหน่อยหรือ" เฟรินในร่างผู้หญิงถามเสียงหวาน

    "ชมรมอะไรหรือ" ครี้ดถามอย่างสนใจ

    "ชมรมเคารพภรรยาไง" รอยยิ้มของปีศาจบอกขณะยักคิ้วกับนางฟ้าที่รักของท่านประธานชมรม ที่ถือคทาขนาบอยู่ข้างๆ

    ครี้ดคอย่น เลิกถามคำถามไอ้หัวขโมยตัวดีทันที

    เหล่าเพื่อนๆหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน กับบรรยากาศที่ไม่แปรเปลี่ยน ไม่ว่าพวกเขาจะมีฐานะที่แท้จริงเป็นอะไรก็ตาม แต่มิตรภาพก็ยังคงอยู่เช่นเดิม

    ***

    หลังงานแต่งงานภาคพิเศษ ติดเรท

    คาโลมองดูเจ้าสาวคนสวย ขณะอุ้มร่างบางวางที่เตียงนอนอย่างอ่อนโยน

    "ฉันรักนายเฟริน" เสียงทุ้มสารภาพก่อนแนบจุมพิตลงบนริมฝีปากสีสดแนบแน่น ท้าวแขนคร่อมศีรษะได้รูป มือลูบผมนุ่ม และเริ่มชิมรสหวานของอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมปล่อยให้ร่างบางได้ทันตั้งตัว

    "ฉันก็รักนายคาโล" เสียงหวานตอบรับ แขนเรียวโอบรอบคอร่างสูง ยิ้มหวานตอบรับคำบอกรักของคนพูดน้อย

    มือร้อนเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์สวยหรูของชุดเจ้าสาวออก มองผิวนวลอย่างหลงใหล จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอขาว ไล่ลงมาตามลาดไหล่นวล ก่อนหยุดที่ตำแหน่งหัวใจของอีกฝ่าย

    จุมพิตร้อนประทับรอยประกาศความเป็นเจ้าของบนผิวนวล

    เสียงหวานครางเครือตอบรับการรุกรานของร่างสูง วงแขนสองคู่กระหวัดเกี่ยวราวกับจะไม่ยอมแยกจากกัน

    ยามเช้าในห้องบรรทมของราชินีแห่งบารามอส  ยิ้มหวานตอบรับจุมพิตอุ่นของคนรัก

    "อาบน้ำก่อนไหม" เสียงทุ้มถามมองดูใบหน้างัวเงียของเฟรินอย่างเอ็นดู

    "ก็ได้ แล้วพวกเราค่อยไปดูพวกเพื่อนๆ"  เสียงใสตอบรับ พร้อมรอยยิ้มพราว

    คาโลอุ้มร่างบางเดินหายเข้าไปในห้องอาบน้ำทันที

    "ไม่ต้องไปแอบดูคนอื่นหรอก " คาโลก่อนระดมจุมพิตไปทั่วใบหน้านวลที่นึกสนุกจะไปแอบดูพวกเพื่อนๆจู๋จี๋กัน

    เสียงหวานครางประท้วงร่างสูงเมื่อไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาว่างไปสืบหาข่าวความเป็นอยู่ของเหล่าเพื่อนๆเลย ฝากไว้ก่อนเถอะคาโล เพราะมะรืนนี้ก็จะเป็นวันหยุดประจำปีของแอเรียสและทริสทอร์แล้ว

    ในที่สุดคิงแห่งคาโนวาลและควีนแห่งบารามอสก็ได้ฤกษ์ออกจากห้องบรรทมไปส่งเพื่อนๆกลับบ้านเมืองของแต่ละคน

    คิงคาโลออกจากแปลกใจที่แขกเจ้าแรกที่ลากลับคือรุ่นพี่ลอเรนซ์และรุ่นพี่ลูคัส ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องรีบกลับไปสะสางงานก่อนวันหยุดยาวประจำปีของแอเรียส ตามด้วยกษัตริย์และราชินีแห่งซาเรสแอนด์เวนอล

    หลังงานแต่งงานสองวัน เหล่าเพื่อนๆก็เริ่มทยอยกลับบ้านของแต่ละคนจนหมด โดยเขาได้รับอนุญาตให้หยุดพักต่อได้หนึ่งสัปดาห์ถือเป็นช่วงฮันนี่มูนที่บิดาบอกว่าจะดูแลราชกิจแทนให้เขา

    คาโลมองราชินีคนสวยข้างกาย อย่างแปลกใจที่เฟรินดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทั้งๆที่ไม่มีเพื่อนเหลือให้ถ้ำมองอีกต่อไปแล้ว  ( เพราะเขาทำให้อีกฝ่ายยุ่งจนไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องเพื่อน )

    "พรุ่งนี้เราไปปิกนิคกันดีกว่า"  เสียงหวานชวน

    "ไปที่ไหนหรือ" ร่างสูงหันมาถามชายาคนงามอย่างแปลกใจ

    "ไปที่ตำหนักบนเขาก็แล้วกัน ฉันให้คนไปเตรียมการไว้แล้ว"  เฟรินตอบชวนร่างสูงไปเก็บของออกเดินทางเที่ยวเหมือนสมัยเรียน

    คาโลยิ้มเล็กน้อย กับอาการรื่นเริงของเฟริน ไม่ว่าเมื่อไรอีกฝ่ายก็ดูจะมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ

    หลังอาหารค่ำพวกเขาก็ออกเดินทางท่ามกลางแสงจันทร์ไปตำหนักบนเขาที่ขี่มังกรไปไม่นานก็ถึง และฉลองฮันนี่มูนแสนหวานกันต่อในห้องนอน

    แสงแดดยามเช้าปลุกคู่รักใหม่ให้ลืมตาตื่น

    "คาโลตื่นเถอะ" เสียงปลุกที่ฟังดูห้าวกว่าปกติ ทำให้ดวงตาสีฟ้ามองอย่างสงสัย ก่อนแปลกใจกับภาพที่เห็น จนทำให้เขาต้องขยี้ตาซ้ำ

    ชายหนุ่ม ผมสีน้ำตาล ใบหน้าหวานดูคุ้นเคย แต่หน้าอกแบนราบ กับ...........

    "นายเป็นใคร ?"  คาโลถามก่อนขมวดคิ้วกับเสียงที่เปลี่ยนไปของตัวเอง ดวงตาสีฟ้าก้มลงมองดูตัวเองอย่างแปลกใจ ก่อนอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ควรมี และไม่เห็นสิ่งที่ควรมี

    "เฟริน?" ดวงหน้าสวยเงยหน้าขึ้นถามคนร่วมเตียงอีกครั้ง

    ใบหน้าหวานที่ดูยียวนพยักหน้ารับยิ้มๆ

    "มันเป็นไปได้ยังไง" เสียงหวานตวาดถามอย่างลืมตัว หลุดมาดเจ้าชายน้ำแข็ง

    "อืม มันก็เป็นผลข้างเคียงของยาแปลงเพศไง รุ่นพี่ลอเรนซ์ไม่ได้บอกนายหรือ"  เสียงซื่อถามพร้อมแววตาใส

    "ผลข้างเคียง? " เสียงหวานถามซ้ำช้าๆ ราวกับกำลังแปลภาษามนุษย์ต่างดาว นึกลำดับภาพรุ่นพี่ลอเรนซ์ที่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรมาตลอด แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดสักที เพราะดูเหมือนรุ่นพี่ลูคัสจะดักคอได้ทันเสมอ ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง เมื่อเข้าใจเหตุผลว่า ทำไมรุ่นพี่ลอเรนซ์ถึงได้รีบร้อนกลับประเทศก่อนวันหยุดประจำปี??

    "ใช่ ผลข้างเคียง ที่จะมีสามวันในรอบปีที่พวกเราจะกลับร่างเดิม และส่งผลให้คนรักของพวกเราเปลี่ยนเพศแทน แต่ไม่ต้องห่วงไม่นานหรอก แค่สองวันต่อปีเอง" เฟรินบอกน้ำเสียงปลอบใจเต็มที่

    "หมายความว่าฉันจะอยู่ในร่างนี้ไปสองวัน ส่วนนายจะเป็นผู้ชายไปสามวัน" คาโลที่เริ่มตั้งสติได้ถามย้ำ ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่แน่ใจ

    "ยังมีอะไรที่นายยังไม่ได้บอกฉันอีกไหม เฟริน" เสียงเย็นถาม ขณะที่ไอเย็นแผ่ไปทั่วห้องหอ

    "อืม ก็ไม่มากอะไรหรอก แค่ร่างนี้ของนายก็อาจท้องได้ เหมือนผู้หญิงทั่วไป ก็แค่นั้นเอง" เฟรินบอกสีหน้าประจบเต็มที่ ขยักความจริงเรื่องที่อีกฝ่ายต้องคนตั้งท้องร้อยเปอร์เซนต์ไว้ในใจ บอกแค่ข้อเท็จจริงเล็กๆน้อยๆแทน

    คาโลนั่งนิ่งอย่างตกตะลึง

    "นายเป็นผู้หญิงแค่สองวันเอง ขณะที่ฉันเป็นตั้งสามร้อยกว่าวันต่อปี ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายเสียหน่อย" เฟรินบ่น

    "แล้วถ้าฉันมีงานด่วนล่ะ" คิงบ้างานถาม

    "นายก็ใช้สร้อยเปลี่ยนเพศก็ได้ แต่นานๆที นายก็น่าจะหยุดพักบ้างนะ" เฟรินส่งสายตาอ้อนมาให้คนรัก

    "แค่สองวันเท่านั้นใช่มั้ย" คาโลหันมาคาดคั้นอีกรอบ

    "ใช่แค่สองวันเอง " เฟรินบอกก่อนก้มไปจุมพิตยุติบทสนทนาทั้งหมด

    คาโลจะประท้วง แต่จุมพิตของอีกฝ่ายที่ไม่เปิดโอกาสให้เขาตั้งตัว ทำให้เขารู้ว่า เวลาแห่งการเอาคืนของเฟรินเริ่มแล้ว

    คาโลที่เปลี่ยนร่างกลับมาเป็นผู้ชายเหมือนเดิม มองร่างของเจ้าหัวขโมยที่ยังคงเป็นผู้ชายวันที่สามต่ออย่างหมั่นไส้ที่เสียรู้มัน

    "ปีหน้า พวกเราไปฉลองครบรอบวันแต่งงานที่แอเรียสดีไหม จะได้ไปเยี่ยมพวกรุ่นพี่ด้วย" เฟรินหันมาถามเสียงใส

    "ฉันไม่เข้าใจว่า ทำไม วันที่สาม พวกเราถึงต้องเป็นผู้ชายทั้งคู่" คาโลถามอย่างติดใจ

    "นั่นก็เพราะรสนิยมส่วนตัวของรุ่นพี่ลูคัสไง แต่ถ้านายอยากรู้คำตอบมากกว่านี้ ฉันจะสาธิตให้ก็ได้" เฟรินบอกขณะเขยิบเข้ามาใกล้ร่างสูงกว่าทันที

    "ฉันไม่อยากรู้เสียหน่อย ไม่ต้องบอกก็ได้" คาโลหน้าแดงก่ำเมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนจะเข้าโหมดสาธิตแบบถึงเนื้อถึงตัว

    "คาโล" เสียงอ้อนปนยั่ว ขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลออกประกายหวานส่งมาหลอมละลายน้ำแข็งตรงหน้า ทำให้เสียงประท้วงเงียบหายไปกับสายลม

    ***จบจ้า***

    แถมท้าย

    ในห้องบรรทมของคิงและควีนแห่งแอเรียส

    ร่างสูงของชายหนุ่มผมสีทอง ดวงตาสีม่วง ที่นอนเคียงข้างร่างสูงของอดีตซาตานแห่งป้อมอัศวิน

    " ป่านนี้ คาลี่ คงได้รู้ความจริงแล้วสินะ" เสียงอารมณ์ดีของซาตาแห่งทริสทอร์เกริ่น

    ดวงตาสีอเมทิสต์ปรายตามองคนรักตัวดีอย่างไม่ชอบใจที่ต้องเสียรู้ไอ้ซาตาน แถมยังไม่สามารถช่วยอะไรคาโลได้

    "ไว้ปีหน้าพวกเราชวนคาลี่กับเฟรี่มาเที่ยวดีไหม ลอรี่"

    เสียงมีดบินแทนคำตอบรับของคิงแห่งแอเรียส ขณะที่ซาตานแห่งทริสทอร์ยังคงยิ้มหน้าระรื่นอย่างไม่เดือดร้อน แถมดูจะซาบซึ้งกับบรรยากาศแบบเก่า และสนุกกับสามวันหยุดประจำปีอย่างคุ้มค่าทุกนาที...

    ***แฮปปี้เอนดิ้ง***

    เรามาแต่งต่อให้จบเสียที หลังขี้เกียจมานาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×