ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ๓ ๒ ๑... >> ที่มาของสุภาษิต สำนวน คำพังเพยไทย

    ลำดับตอนที่ #32 : หมวด ห

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.54K
      3
      30 ม.ค. 53

    หมวด ห

              หอกมันแทงมัน  : หมายความว่า  เอาผลที่ได้มาจากการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น  เป็นเครื่องดำเนินต่อไปโดยไม่ต้องลงทุนใหม่  เช่น  เอาเงินที่ได้จากการพนันเสี่ยงโชคนั้นลงไปเสี่ยงในการพนันต่อไป

             หมากัดอย่ากัดหมา  :  หมายความว่า  คนชั่ว  คนชั้นต่ำ  หรือพวกอันธพาลคิดร้ายหรือประทุษร้ายเราอย่างใดอย่าทำตอบ  แต่ควรหลีกเลี่ยงไปเสีย

             หมาเห่าใบตองแห้ง  :  หมายถึง  คนที่ชอบเอะอะโวยวายเป็นที่อวดตัวว่า  ตนเก่งกล้า  แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นคนขี้ขลาด  ไม่กล้าเผชิญกับศัตรู  เปรียบได้กับใบตองแห้งที่ติดกับต้นกล้วย  เวลาลมพัดมามีเสียงดังแกรกกรากหมาได้ยินเข้าหน่อยก็มักจะเห่าส่งเดช

             หมาเห่าไม่กัด  :  ความหมายอย่างเดียวกับ  “  หมาเห่าใบตองแห้ง “  ตามที่สังเกตเอาว่า  หมาที่เห่าเก่ง ๆ นั้นมักจะไม่กัด  และหมาที่ชอบกัดนั้นมักไม่เห่าง่าย

             หมาเห็นข้าวเปลือก  : หมายถึง  การได้เห็นแล้วอยากได้แต่ไม่มีทางที่จะได้  หรือเป็นประโยชน์แก่ตนเองจะโดยฐานะต่ำต้อยหรืออะไรก็ตาม  สำนวนที่เอา  ” หมา “  มาเปรียบนี้มีมาก  แต่มักหมายไปในทางไม่ดี  เช่น  หมาหัวเน่า ,  หมาสองราง  ฯลฯ

     

    s221pc

              หมูจะหาม  เอาคานเข้ามาสอด  :  หมายถึง  การที่เข้าไปขัดขวางผลประโยชน์  หรือกิจการของคนอื่นที่เขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว  สำนวนนี้มีต่อท้ายด้วยว่า  ” ผัวเมียเขาจะกอดเข้าไปข้างกลาง “  มีความหมายอย่างเดียวกัน

             หวานนอกขมใน  : หมายถึง  การใช้คำพูดหรือแสดงกิริยาให้อีกฝ่ายเห็นว่า  ดีต่อ  แต่แท้จริงภายในจิตใจกลับตรงกันข้ามกับกิริยาและวาจา

              หักด้ามพร้าด้วยเข่า  : หมายความว่า  ใช้วิธีบังคับหรือเตี่ยวเข็นเอาอย่างหักโหม  ตามความต้องการของตนเอง  โดยไม่คำนึงว่า  จะเกิดผลเสียอย่างไรบ้าง  ” พร้า “  หมายถึงมีดใหญ่ที่ใช้สับและฟัน  คนสมัยก่อน ๆ มักจะใช้คำพูดควบกันไปว่า  ” มีดพร้า “  และเป็นของประจำทุกครัวเรือน  จึงมักจะนิยมเอามาผูกสำนวน

              หัวมงกุฎท้ายมังกร  : หมายถึง  การทำอะไรที่ไม่เข้ากันหรือขัดกัน  เช่น  ประกอบอะไรขึ้นสักอย่างมีหัวกับท้ายหรือหางไม่เหมือนกัน  หรือไม่กลมกลืนกัน  สำนวนนี้มักมักพูดกันว่า  ” หัวมงกุฎท้ายมังกร “  ไปเสียแท้จริงแล้วต้องเป็น  ” มังกุ “  ไม่ใช่   ” มงกุฎ “  เพราะ ” มังกุ “  เป็นชื่อเรือต่อชนิดหนึ่ง และ ” มังกร “  ก็เป็นชื่อเรืออีกชนิดหนึ่งเหมือนกัน  สำนวนนี้เอาเรือที่ประดิษฐ์หัวเรือและท้ายเรือ  เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น เรือหงษ์  เรือมังกร  มาเปรียบ

               หัวล้านนอกครู  :  สำนวนนี้ต่างกับคำว่า  ” หัวล้านได้หวี “  เพราะหมายถึง  คนที่ทำอะไรนอกแบบแผน  หรือไม่ทำอย่างที่คนธรรมดาเขาปฏิบัติกันอยู่ทั่วไป  โบราณมักจะเอาคนหัวล้านมาผูกเป็นประโยคสำนวน  หรือคำพังเพยส่วนมาก  เข้าใจว่า  คนหัวล้านในสมัยนั้นคงมีพฤติการณ์อะไรแปลก ๆ หรือเป็นจุดเด่นให้สังเกตได้ง่ายก็อาจเป็นได้

              หาเลือดกับปู  :  ความหมายอย่างเดียวกับสำนวนที่ว่า  ” รีดเลือดกับปู ”

              หาเหาใส่หัว  :  หมายความว่า  หาความลำบากมาใส่ตัวเองหรือเอาเรื่องของคนอื่นมาเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตัวเอง

    s230ip

            หุงข้าวประชดหมา  ปิ้งปลาประชดแมว  : หมายความว่า  การทำประชดหรือทำแดกดันที่กลับเป็นผลร้ายแก่ตนเอง  เพราะธรรมดาแมวชอบกินปลา  ถ้ายิ่งปิ้งปลาให้แมวกินแบบประชดมาก ๆ แมวก็ยิ่งชอบ  แต่ตัวคนทำประชดจะต้องเสียผลมากขึ้น

              เห็นกงจักรเป็นดอกบัว  : หมายความว่า  เห็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นดี  หรือเห็นผิดเป็นชอบ  คำว่า  ” กงจักร “  ซึ่ง หมายถึง  ” ไม่ดี “  และ  ” ดอกบัว ” ซึ่งหมายถึง  ” สิ่งดี “  นั้น  ได้เค้ามาจากนิทานชาดกเรื่อง  ” มิตตวินทุชาดก “  เมื่อพระโพธิ์เสวยชาติเป็นเทวดาและลงไปเที่ยวในเมืองนรก  ไปเห็นมิตตวินทุตกนรกมีกงจักรครอบอยู่บนหัวทรมานเจ็บปวด  แต่พระโพธิสัตว์  กลับมองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว  มีสีสันสวยงาม  ก็ออหกปากขอกงจักรนั้นมาสวมบ้างเป็นการทำให้มิตตวินทุสิ้นกรรม  แต่ตัวพระโพธิสัตว์เองกลับต้องรับกรรมแทน

              เห็นขี้ดีกว่าไส้  : หมายความว่า เห็นคนอื่นดีกว่าญาติพี่น้องของตน

              เห็นเขาขึ้นคานนั่ง  เอามือประสานรัดก้น  :  ความในสำนวนนี้  แปลว่า  เห็นคนอื่นเขานั่งคานหาม  มีคนหามไป  ตัวเองก็เอามือประสานกันเข้า  ช้อนใต้กัน  เป็นทำนองว่า  ตนก็นั่งคานหามเหมือนกันเป็นความหมายถึงการแสดงความทะเยอทะยาน  ใฝ่สูงเกินศักดิ์  อยากจะทำตัวตามอย่างผู้สูงศักดิ์กับเขาบ้าง

               เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง :  สำนวนนี้  ความหมายอย่างเดียวกับ  ” เห็นเขาขึ้นคานนั่ง  เอามือประสานรัดก้น ”

              เหยียบเต่าเต็มตีน  :  หมายความว่า  ทำอะไรให้มั่นคงอย่าให้เกิดมีข้อผิดพลาดถึงเสียงานเสียการได้  สำนวนนี้  บางทีก็พูดว่า  ” เหยียบเต่าสองตีน “  เป็นการทำให้เต่าดิ้นหลุดไม่ได้

              เหยียบเรือสองแคม  : หมายความถึง  คนที่ทำอะไรไม่ซื่อตรง  และเป็นคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว  แม้จะยืนอยู่ข้างฝ่ายไหน  ก็ยังละโมบไปเข้าด้วยอีกฝ่ายหนึ่ง  อย่างมีเลห์เหลี่ยม  โดยมุ่งแต่ประโยชน์ฝ่ายเดียว  และการเอาตัวรอดเข้าไว้ก่อนอยู่เสมอ

             หินดีเหล็กดี  ตีทีเดียวก็ติด  :  สำนวนนี้  มุ่งหมายโดยเฉพาะถึงชายกับหญิง  ซึ่งรักใคร่ได้เสียกัน  ในทำนองที่ว่า  แม้จะได้เสียกันเพียงครั้งเดียว  ถ้าทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง  มีความสมบูรณ์ทัดเทียมกันก็อาจทำให้หญิงเกิดตั้งครรภ์ได้  โดยไม่จำเป็นต้องสมสู่กันหลายครั้ง  สำนวนนี้  เปรียบเอาหินไฟกับเหล็กมาตี  เพื่อทำให้เกิดประกายไฟติดชุด  คือนุ่นของคนในสมัยก่อน ๆ ซึ่งยังไม่มีไม้ขีดไฟใช้กันคือถ้าหินดีเหล็กดี  ตีครั้งเดียวก็เกิดประกายไฟติดทำให้เป็นไฟขึ้นมาใช้ได้

              หนามแหลมบ่มีคนเสี้ยม  :  สำนวนนี้  อธิบายไว้แล้วใน  ” มะนาวกลมเกลี้ยง  บ่มีคนกลึง ”

              หน้าไหว้หลังหลอก  :  สำนวนนี้มีความหมายอย่างเดียวกับ  ” ต่อหน้ามะพลับ  ลับหลังตะโกน “  คือต่อหน้าทำดีแต่ลับหลังตรงกันข้าม
      หว่านพืชหวังผล  หมายถึง  การลงทุนทำอะไรสักอย่างหนึ่ง  ก็ย่อมจะต้องหวังผลประโยชน์ตอบแทน

               หงายเก๋ง : แพ้ราบคาบ

             หญ้าปากคอก : คุ้นจนมองข้าม

             หนอนบ่อนไส : คนในบ้านหรือพวกเดียวกัน คิดทรยศ

             หนอนหนังสือ : คนที่หมกหมุ่นอยู่กับตำรับตำรา

             หนักแผ่นดิน : ไม่มีประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง

             หนักเอาเบาสู้ :  ขยันทำกิจการงานทุกชนิด ไม่เลือกงาน

             หนังหน้าไฟ : รับความเดือดร้อนก่อนผู้อื่น

             หน้าฉาก : ลักษณะท่าทีที่ปรากฎแก่คนทั่วไป

             หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง : ความลับรักษาได้ยาก

              หน้าเป็นม้าหมากรุก : หน้างอแสดงความโกรธ

             หน้าเลือด : ชอบขูดรีดเอาแต่ได้

             หน้าสิ่วหน้าขวาน : อยู่ในภาวะอันตราย เพราะอีกฝ่ายหนึ่งกำลังโกรธจัด

             หน้าใหญ่ใจโต : ใจกว้างจนเกินเหตุ

             หนามยอกอก : รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงใจอยู่ตลอดเวลา

             หนีร้อมมาพึ่งเย็น : หนีทุกข์จากที่อื่น มาพึ่งที่ใหม่

              หนูตกถังข้าวสาร : ชายที่ฐานะไม่ค่อยดี แต่งงานกับหญิงที่ร่ำรวย

              หนูติดจั่น : จนปัญญา

             หมดกระเป๋า : หมดเงิน ไม่มีเหลือ

             หมดตูด : หมดเงิน ไม่มีเหลือ

             หมดไส้หมดพุง : เปิดเผยเรื่องราวโดยละเอียด

             หมองูตายเพราะงู : ทำหน้าที่อะไรมักจะได้รับภัยจากหน้าที่นั้น

              หมอนกระแต : ไม่มีทางสู้

             หมอบราบคาบแก้ว : ไม่มีทางสู้ ไม่ขัดขืน

              หมาจนตรอก : ต่อสู้ทุกวิถีทาง

              หมาในรางหญ้า : หวงในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ใช้ประโยชน์

              หมาหยอกไก : ทำพลางเล่นพลางจริง จริงหรือไม่จริงก็ได้

              หมาหัวเน่า : เป็นที่รังเกียจของคนอื่น ไม่สามารถเข้ากับใครได้

              หมาหางด้วน : คนที่ทำอะไรผิดพลาดจนได้รับความอับอาย แล้วชวนคนอื่นให้ทำตาม โดยยกย่องว่าสิ่งที่ทำนั้นดีควรทำตาม

             หมาเห่าใบตองแห้ง : การกระทำเชิงข่มขู่ให้กล้ว

             หมูในเล้า : สิ่งที่อยู่ในเงื้อมมือ

             หมูไปไก่มา : ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ตอบแทนกันและกัน

             หยิกแกมหยอก : เหน็บแนมทีเล่นทีจริง

              หวานคอแร้ง : ง่าย สะดวก

             หวังน้ำบ่อหน้า : หวังอย่างเลื่อนลอย

             หอกข้างแคร่ : คนใกล้ชิดอาจจะคิดทำร้าย ขึ้มมาเมื่อใดก็ได้

              หักลำ : ทำให้เสียท่า

              หัวกระทิ : ดีเด่นเป็นพิเศษ

              หัวกะไดไม่แห้ง : มีแขกมาเยือนอยู่เสมอ

              หัวแก้วหัวแหวน : เป็นที่รักใคร่เอ็นดู

              หัวชนกำแพง : สู้ไม่ถอย

             หัวเดียวกระเทียมลีบ : คนเดียวไม่มีพวก

             หัวนอนปลายตีน : หลักแหล่งที่อาศัย

             หัวไม่วาง หางไม่เว้น : ถูกใช้งานหนัก อยู่ตลอดเวลา

              หัวราน้ำ : ไม่ได้สติ

              หัวเรือใหญ่ : คนที่ชอบออกรับแทนผู้อื่น

              หัวหกก้นขวิด : เอาทุกอย่างเอาทุกทาง โดยไม่มีความหมาย

              หัวหมอ : คนที่ชอบอ้างกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตน

              หัวหลักหัวตอ : สิ่งสำคัญที่เห็นเป็นสิ่งไม่สำคัญไป

              หางเครื่อง : ผู้ที่มีความสำคัญน้อยที่สุดในหมู่คณะนั้น

              หางแถว : ผู้น้อย ไม่มีความสำคัญ

              หาเช้ากินค่ำ : หาได้พอประทังชีวิตไปวันๆ

              หาตัวจับยาก : หาคนเทียบได้ยาก

              หามรุ่งหามค่ำ : ตลอดวัน ตลอดคืน
     
              หายเข้ากลีบเมฆ : หายลับไม่พบกันอีก

              หายใจไม่ทั่วท้อง : เป็นหว่งกังวลด้วยความไม่สบายใจ

              หาเศษหาเลย : หาประโยชน์เล็กๆ น้อยๆใส่ตัว

              เห็นดำเห็นแดง : ถึงขั้นแตกหัก

    ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
    siamtower.com

    baanjomyut.com

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×