ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความหลังและรักครั้งใหม่
“อุ๊ยตายยยย อิฐ ลมอะไรพัดมาจ๊ะเนี่ย คิดถึงจัง นึกว่าจะไม่กลับมาแล้วนะเนี่ย เป็นไง นิวซีแลนด์ หนาวมั๊ย มีอะไรมาฝากเราบ้างป่าว แล้วเรียนจบหรือยัง” นุกถามอิฐ หนุ่มฮ็อตที่สุดของโรงเรียนที่เพิ่งกลับจากเรียนต่อที่นิวซีแลนด์
“นี่นุก ถามทีละคำถามได้มั๊ย เรากลับมาเมื่อวาน พอดีเราจบก่อนเพื่อนคนอื่นน่ะ เลยกลับมาก่อน เดือนหน้าถึงจะกลับไปรับประกาศนัยบัตร”
“อะไรกัน นี่จบก่อนคนอื่นด้วยเหรอ ทำไมอิฐเก่งอย่างงี้ล่ะ” นุกชมไม่ขาดปาก แต่สายตาของหนุ่มน้อยตาสีน้ำตาลกลับจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างๆ แม่สาวประเภทสองอย่างไม่เข้าใจ
“เอ่อ ว่าแต่ สาวน้อยนักบาสคนนี้ ยังจำเราได้อยู่หรือเปล่า” อิฐกระเซ้าแป้งร่ำ
“อ้อ เอ่อ..จำได้สิ ทำไมจะจำไม่ได้ เนอะ นุกเนอะ” แป้งพูดกลั้วหัวเราะแถมยังใช้ศอกถองเพื่อนแก้เก้อ
“วันนี้แกเป็นอะไรของแกวะยัยแป้ง เมื้อกี้ก็ทำอย่างกับไปลุยกับพวกนักเลงที่ไหนมา ตอนนี้ก็…. อุ๊ยตาย ถึงคิวฉันขึ้นเวทีแล้ว ไปนะแป้ง ไปนะอิฐ” นุกยิ้มหวานให้อิฐทีหนึ่งแล้วกระวีกระวาดขึ้นไปหลังเวที ทิ้งให้แป้งยืนเซ่ออยู่ต่อหน้าคนที่กำลังพยายามจ้องหน้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
“เฮ้ย! อิฐ” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาจากกลุ่มของนายพีลูกนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ส่วนคนอื่นๆก็เป็นพวกลูกนักธุรกิจใหญ่ไม่ก็พวกมีอิทธิพลทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แป้งไม่อยากยุ่งด้วย แต่ถึงอย่างไร เรื่องแย่ๆ ก็ต้องมาเกิดกับเธอทุกที
“ไงวะ กลับมาทำไมไม่บอกพวกเรา” พวกนั้นเดินเข้ามาหาอิฐแล้วทำการทักทายกันตามประสาเด็กผู้ชาย ทิ้งให้แป้งร่ำที่ยืนเซ่ออยู่แล้วยิ่งเซ่อเข้าไปใหญ่ เพราะนายพี คนที่สั่งให้เพื่อนพยายามทำร้ายแป้งก็ยืนอยู่ ณ ที่นั้นด้วย
แป้งกระแอมเสียงดังๆ หนึ่งทีแล้วตีหน้าเรียบขรึม “ฉันว่าพวกนายควรจะไปนั่งที่ได้แล้วนะ มายืนเกะกะแบบนี้ คนเค้าก็ทำงานลำบากน่ะสิ ขอตัวนะอิฐ” แป้งใช้เสียงอ่อนลงเมื่อพูดกับหนุ่มน้อยนัยน์ตาชวนฝัน
“โอ๊ย!” แป้งร่ำล้มผลั่กลงกับพื้น อิฐหน้าเสีย พยายามจะเข้าไปพยุงแต่ถูกพีซึ่งเป็นคนยื่นขาออกไปเกี่ยวเธอจนล้มดึงแขนเอาไว้
“สงสัยพวกเราคงจะยืนเกะกะเค้าจริงๆว่ะ รีบไปเถอะ เดี๋ยวแม่นุ่มนิ่มนี่จะปรี่ไปฟ้องอาจารย์ว่าพวกเราขัดขวางการทำงานของเค้า” พีพูดแล้วพาเพื่อนๆ เดินออกไป แป้งร่ำกัดฟันกรอด ยันตัวขึ้นมาอย่างยากเย็น
พี หรือพีรพัฒน์ หนุ่มน้อยหน้าตาดี แต่เดิมแล้วผิวขาว แต่คล้ำลงบ้างเพราะชอบเล่นกีฬากลางแจ้งอย่างฟุตบอล แต่ถึงอย่างไรก็ยังดูดี ทายาทนายพลใจดีที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับแป้ง พีเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นซึ่งต่างจากพ่อของเขา เขาสามารถทำเรื่องเล็กให้เป็นเองใหญ่ขึ้นมาได้หากอยากจะทำ เรื่องแรกที่ทำให้เกิดกรณีพิพาทอย่างวันนี้คือ เรื่องที่เกิดในงานวันเกิดพ่อของเขา….
“พี่พี นั่นมันรองเท้าพายนี่” เด็กหญิงส่งเสียงเจื้อยแจ้วเมื่ออยู่กับพี่ชายซึ่งอายุมากกว่าเธอ 2 ปี พร้อมกับชี้ไปที่เท้าของเด็กหญิงซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงสีชมพูที่มีขายทั่วไป
พีรพัฒน์ ซึ่งบัดนั้นยังเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก เดินอาดๆ เข้าไปยังเด็กหญิงซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแล้วพูดอย่างมีอารมณ์ “นี่เธอ กล้าขโมยรองเท้าน้องสาวฉันเหรอ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้” เด็กหญิงซึ่งขณะนั้นกำลังงงๆ กับคำกล่าวหาแต่ก็ยังมีสติยืนยันว่ารองเท้าคู่นั้นเป็นของเธอ
“นี่มันรองเท้าฉันต่างหาก พ่อฉันซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่แล้ว”
“โกหก ยัยบ้า นี่มันรองเท้าน้องสาวฉัน เอาคืนมาซะดีๆ” พูดจบ เด็กชายก็เริ่มยื้อรองเท้าสีชมพูออกจากเท้าของเด็กหญิงทันที แต่แน่นอนเธอไม่ยอม จึงเกิดศึกชิงรองเท้าขึ้นกลางงาน แต่ไม่มีใครสนใจ คิดว่าสักพักคงเลิกไปเอง แต่ไม่ใช่ เมื่อเด็กหญิงเจ้าของรองเท้าเหลืออด เธอก็คว้ารองเท้าอีกข้าวฟาดเข้าไปที่หน้าผากของเด็กชายอย่างจังจนเลือดออก เด็กชายปล่อยมือที่จับรองเท้าออกมากุมหน้าผากของตัวเองทันที ผู้ใหญ่ในงานรีบมาดู ส่วนจำเลยของเราก็วิ่งหนีไปท่ามกลางความชุลมุน
เด็กชายที่ว่าก็คือคนที่บัดนี้โตขึ้นเป็นหนุ่มร่างสูงโปร่ง ส่วนเด็กผู้หญิงเจ้าของรองเท้าใจเด็ดก็คือ แป้งร่ำ หลังจากวันนั้นพีต้องเข้าไปเย็บแผลที่โรงพยาบาล หลังจากแผลหายก็ทิ้งรอยแผลเป็นเล็กๆไว้ที่หน้าผากด้านบน มันเล็กจนเกือบจะมองไม่เห็น แต่พีก็เกลียดมัน เพราะมันเกิดจากรองเท้าส้นสูงสีชมพูคู่ที่เขาคิดว่ามันเป็นของน้องสาวเขา ด้วยความเป็นเด็ก เขาต่อยอดเรื่องนั้นด้วยการขโมยสุนัขตัวโปรดของแป้ง เด็กหญิงร้องไห้อยู่หลายคืน ก่อนจะหันมาแก้เผ็ดด้วยการเอาขี้หมาไปดักปาพีก่อนไปโรงเรียน แต่เรื่องทุกอย่างกลับกลายเป็นความแค้นใหญ่โต เมื่อแม่ของพีหนีไปกับพ่อของแป้งร่ำ จนทำให้พ่อของพีติดเหล้างอมแงม แป้งเองก็ไม่สบายใจแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้ง 2 หนีไปอยู่ต่างประเทศทิ้งให้แป้งอยู่กับน้องสาวฝาแฝด 2 คน น้ำอบและน้ำอุ่น ในบ้านหลังโต มีทั้งแม่บ้าน และพี่เลี้ยง แต่ไม่มีกลิ่นไอของความสุข ส่วนพีก็ยิ่งเกลียดพ่อของแป้งร่ำมากขึ้นและเอามาลงที่ลูกสาวโดยครั้งหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้แป้งมากที่สุด และเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล ก็คงเป็นการที่พีติดสินบนแฟนคนแรกของแป้งเพื่อให้เลิกกับเธอ จากนั้นมาแป้งร่ำที่แสนขี้อายและอ่อนแอก็กลายมาเป็นนักบาสของโรงเรียนและก้าวมาเป็นประธานนักเรียนในที่สุด
////////////////////////////////////////////////
“นี่นุก ถามทีละคำถามได้มั๊ย เรากลับมาเมื่อวาน พอดีเราจบก่อนเพื่อนคนอื่นน่ะ เลยกลับมาก่อน เดือนหน้าถึงจะกลับไปรับประกาศนัยบัตร”
“อะไรกัน นี่จบก่อนคนอื่นด้วยเหรอ ทำไมอิฐเก่งอย่างงี้ล่ะ” นุกชมไม่ขาดปาก แต่สายตาของหนุ่มน้อยตาสีน้ำตาลกลับจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างๆ แม่สาวประเภทสองอย่างไม่เข้าใจ
“เอ่อ ว่าแต่ สาวน้อยนักบาสคนนี้ ยังจำเราได้อยู่หรือเปล่า” อิฐกระเซ้าแป้งร่ำ
“อ้อ เอ่อ..จำได้สิ ทำไมจะจำไม่ได้ เนอะ นุกเนอะ” แป้งพูดกลั้วหัวเราะแถมยังใช้ศอกถองเพื่อนแก้เก้อ
“วันนี้แกเป็นอะไรของแกวะยัยแป้ง เมื้อกี้ก็ทำอย่างกับไปลุยกับพวกนักเลงที่ไหนมา ตอนนี้ก็…. อุ๊ยตาย ถึงคิวฉันขึ้นเวทีแล้ว ไปนะแป้ง ไปนะอิฐ” นุกยิ้มหวานให้อิฐทีหนึ่งแล้วกระวีกระวาดขึ้นไปหลังเวที ทิ้งให้แป้งยืนเซ่ออยู่ต่อหน้าคนที่กำลังพยายามจ้องหน้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
“เฮ้ย! อิฐ” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาจากกลุ่มของนายพีลูกนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ส่วนคนอื่นๆก็เป็นพวกลูกนักธุรกิจใหญ่ไม่ก็พวกมีอิทธิพลทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แป้งไม่อยากยุ่งด้วย แต่ถึงอย่างไร เรื่องแย่ๆ ก็ต้องมาเกิดกับเธอทุกที
“ไงวะ กลับมาทำไมไม่บอกพวกเรา” พวกนั้นเดินเข้ามาหาอิฐแล้วทำการทักทายกันตามประสาเด็กผู้ชาย ทิ้งให้แป้งร่ำที่ยืนเซ่ออยู่แล้วยิ่งเซ่อเข้าไปใหญ่ เพราะนายพี คนที่สั่งให้เพื่อนพยายามทำร้ายแป้งก็ยืนอยู่ ณ ที่นั้นด้วย
แป้งกระแอมเสียงดังๆ หนึ่งทีแล้วตีหน้าเรียบขรึม “ฉันว่าพวกนายควรจะไปนั่งที่ได้แล้วนะ มายืนเกะกะแบบนี้ คนเค้าก็ทำงานลำบากน่ะสิ ขอตัวนะอิฐ” แป้งใช้เสียงอ่อนลงเมื่อพูดกับหนุ่มน้อยนัยน์ตาชวนฝัน
“โอ๊ย!” แป้งร่ำล้มผลั่กลงกับพื้น อิฐหน้าเสีย พยายามจะเข้าไปพยุงแต่ถูกพีซึ่งเป็นคนยื่นขาออกไปเกี่ยวเธอจนล้มดึงแขนเอาไว้
“สงสัยพวกเราคงจะยืนเกะกะเค้าจริงๆว่ะ รีบไปเถอะ เดี๋ยวแม่นุ่มนิ่มนี่จะปรี่ไปฟ้องอาจารย์ว่าพวกเราขัดขวางการทำงานของเค้า” พีพูดแล้วพาเพื่อนๆ เดินออกไป แป้งร่ำกัดฟันกรอด ยันตัวขึ้นมาอย่างยากเย็น
พี หรือพีรพัฒน์ หนุ่มน้อยหน้าตาดี แต่เดิมแล้วผิวขาว แต่คล้ำลงบ้างเพราะชอบเล่นกีฬากลางแจ้งอย่างฟุตบอล แต่ถึงอย่างไรก็ยังดูดี ทายาทนายพลใจดีที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับแป้ง พีเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นซึ่งต่างจากพ่อของเขา เขาสามารถทำเรื่องเล็กให้เป็นเองใหญ่ขึ้นมาได้หากอยากจะทำ เรื่องแรกที่ทำให้เกิดกรณีพิพาทอย่างวันนี้คือ เรื่องที่เกิดในงานวันเกิดพ่อของเขา….
“พี่พี นั่นมันรองเท้าพายนี่” เด็กหญิงส่งเสียงเจื้อยแจ้วเมื่ออยู่กับพี่ชายซึ่งอายุมากกว่าเธอ 2 ปี พร้อมกับชี้ไปที่เท้าของเด็กหญิงซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงสีชมพูที่มีขายทั่วไป
พีรพัฒน์ ซึ่งบัดนั้นยังเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก เดินอาดๆ เข้าไปยังเด็กหญิงซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแล้วพูดอย่างมีอารมณ์ “นี่เธอ กล้าขโมยรองเท้าน้องสาวฉันเหรอ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้” เด็กหญิงซึ่งขณะนั้นกำลังงงๆ กับคำกล่าวหาแต่ก็ยังมีสติยืนยันว่ารองเท้าคู่นั้นเป็นของเธอ
“นี่มันรองเท้าฉันต่างหาก พ่อฉันซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่แล้ว”
“โกหก ยัยบ้า นี่มันรองเท้าน้องสาวฉัน เอาคืนมาซะดีๆ” พูดจบ เด็กชายก็เริ่มยื้อรองเท้าสีชมพูออกจากเท้าของเด็กหญิงทันที แต่แน่นอนเธอไม่ยอม จึงเกิดศึกชิงรองเท้าขึ้นกลางงาน แต่ไม่มีใครสนใจ คิดว่าสักพักคงเลิกไปเอง แต่ไม่ใช่ เมื่อเด็กหญิงเจ้าของรองเท้าเหลืออด เธอก็คว้ารองเท้าอีกข้าวฟาดเข้าไปที่หน้าผากของเด็กชายอย่างจังจนเลือดออก เด็กชายปล่อยมือที่จับรองเท้าออกมากุมหน้าผากของตัวเองทันที ผู้ใหญ่ในงานรีบมาดู ส่วนจำเลยของเราก็วิ่งหนีไปท่ามกลางความชุลมุน
เด็กชายที่ว่าก็คือคนที่บัดนี้โตขึ้นเป็นหนุ่มร่างสูงโปร่ง ส่วนเด็กผู้หญิงเจ้าของรองเท้าใจเด็ดก็คือ แป้งร่ำ หลังจากวันนั้นพีต้องเข้าไปเย็บแผลที่โรงพยาบาล หลังจากแผลหายก็ทิ้งรอยแผลเป็นเล็กๆไว้ที่หน้าผากด้านบน มันเล็กจนเกือบจะมองไม่เห็น แต่พีก็เกลียดมัน เพราะมันเกิดจากรองเท้าส้นสูงสีชมพูคู่ที่เขาคิดว่ามันเป็นของน้องสาวเขา ด้วยความเป็นเด็ก เขาต่อยอดเรื่องนั้นด้วยการขโมยสุนัขตัวโปรดของแป้ง เด็กหญิงร้องไห้อยู่หลายคืน ก่อนจะหันมาแก้เผ็ดด้วยการเอาขี้หมาไปดักปาพีก่อนไปโรงเรียน แต่เรื่องทุกอย่างกลับกลายเป็นความแค้นใหญ่โต เมื่อแม่ของพีหนีไปกับพ่อของแป้งร่ำ จนทำให้พ่อของพีติดเหล้างอมแงม แป้งเองก็ไม่สบายใจแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้ง 2 หนีไปอยู่ต่างประเทศทิ้งให้แป้งอยู่กับน้องสาวฝาแฝด 2 คน น้ำอบและน้ำอุ่น ในบ้านหลังโต มีทั้งแม่บ้าน และพี่เลี้ยง แต่ไม่มีกลิ่นไอของความสุข ส่วนพีก็ยิ่งเกลียดพ่อของแป้งร่ำมากขึ้นและเอามาลงที่ลูกสาวโดยครั้งหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้แป้งมากที่สุด และเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล ก็คงเป็นการที่พีติดสินบนแฟนคนแรกของแป้งเพื่อให้เลิกกับเธอ จากนั้นมาแป้งร่ำที่แสนขี้อายและอ่อนแอก็กลายมาเป็นนักบาสของโรงเรียนและก้าวมาเป็นประธานนักเรียนในที่สุด
////////////////////////////////////////////////
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น