ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทางสายใหม่ในรูปใบเก่า

    ลำดับตอนที่ #3 : ความหลังและรักครั้งใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 55


                       “อุ๊ยตายยยย  อิฐ  ลมอะไรพัดมาจ๊ะเนี่ย  คิดถึงจัง  นึกว่าจะไม่กลับมาแล้วนะเนี่ย  เป็นไง นิวซีแลนด์  หนาวมั๊ย มีอะไรมาฝากเราบ้างป่าว  แล้วเรียนจบหรือยัง” นุกถามอิฐ หนุ่มฮ็อตที่สุดของโรงเรียนที่เพิ่งกลับจากเรียนต่อที่นิวซีแลนด์



                       “นี่นุก  ถามทีละคำถามได้มั๊ย  เรากลับมาเมื่อวาน พอดีเราจบก่อนเพื่อนคนอื่นน่ะ เลยกลับมาก่อน  เดือนหน้าถึงจะกลับไปรับประกาศนัยบัตร”



                       “อะไรกัน นี่จบก่อนคนอื่นด้วยเหรอ ทำไมอิฐเก่งอย่างงี้ล่ะ”  นุกชมไม่ขาดปาก แต่สายตาของหนุ่มน้อยตาสีน้ำตาลกลับจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างๆ แม่สาวประเภทสองอย่างไม่เข้าใจ



                       “เอ่อ  ว่าแต่  สาวน้อยนักบาสคนนี้  ยังจำเราได้อยู่หรือเปล่า” อิฐกระเซ้าแป้งร่ำ



                       “อ้อ  เอ่อ..จำได้สิ  ทำไมจะจำไม่ได้  เนอะ นุกเนอะ” แป้งพูดกลั้วหัวเราะแถมยังใช้ศอกถองเพื่อนแก้เก้อ



                       “วันนี้แกเป็นอะไรของแกวะยัยแป้ง  เมื้อกี้ก็ทำอย่างกับไปลุยกับพวกนักเลงที่ไหนมา  ตอนนี้ก็….  อุ๊ยตาย  ถึงคิวฉันขึ้นเวทีแล้ว  ไปนะแป้ง  ไปนะอิฐ” นุกยิ้มหวานให้อิฐทีหนึ่งแล้วกระวีกระวาดขึ้นไปหลังเวที  ทิ้งให้แป้งยืนเซ่ออยู่ต่อหน้าคนที่กำลังพยายามจ้องหน้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย



                       “เฮ้ย! อิฐ” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาจากกลุ่มของนายพีลูกนายทหารชั้นผู้ใหญ่  ส่วนคนอื่นๆก็เป็นพวกลูกนักธุรกิจใหญ่ไม่ก็พวกมีอิทธิพลทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แป้งไม่อยากยุ่งด้วย  แต่ถึงอย่างไร เรื่องแย่ๆ ก็ต้องมาเกิดกับเธอทุกที



                        “ไงวะ  กลับมาทำไมไม่บอกพวกเรา” พวกนั้นเดินเข้ามาหาอิฐแล้วทำการทักทายกันตามประสาเด็กผู้ชาย  ทิ้งให้แป้งร่ำที่ยืนเซ่ออยู่แล้วยิ่งเซ่อเข้าไปใหญ่ เพราะนายพี  คนที่สั่งให้เพื่อนพยายามทำร้ายแป้งก็ยืนอยู่ ณ ที่นั้นด้วย



                       แป้งกระแอมเสียงดังๆ หนึ่งทีแล้วตีหน้าเรียบขรึม “ฉันว่าพวกนายควรจะไปนั่งที่ได้แล้วนะ มายืนเกะกะแบบนี้ คนเค้าก็ทำงานลำบากน่ะสิ  ขอตัวนะอิฐ” แป้งใช้เสียงอ่อนลงเมื่อพูดกับหนุ่มน้อยนัยน์ตาชวนฝัน



                        “โอ๊ย!” แป้งร่ำล้มผลั่กลงกับพื้น อิฐหน้าเสีย พยายามจะเข้าไปพยุงแต่ถูกพีซึ่งเป็นคนยื่นขาออกไปเกี่ยวเธอจนล้มดึงแขนเอาไว้



                       “สงสัยพวกเราคงจะยืนเกะกะเค้าจริงๆว่ะ  รีบไปเถอะ  เดี๋ยวแม่นุ่มนิ่มนี่จะปรี่ไปฟ้องอาจารย์ว่าพวกเราขัดขวางการทำงานของเค้า” พีพูดแล้วพาเพื่อนๆ เดินออกไป แป้งร่ำกัดฟันกรอด  ยันตัวขึ้นมาอย่างยากเย็น



                       พี หรือพีรพัฒน์  หนุ่มน้อยหน้าตาดี แต่เดิมแล้วผิวขาว แต่คล้ำลงบ้างเพราะชอบเล่นกีฬากลางแจ้งอย่างฟุตบอล แต่ถึงอย่างไรก็ยังดูดี ทายาทนายพลใจดีที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับแป้ง  พีเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นซึ่งต่างจากพ่อของเขา  เขาสามารถทำเรื่องเล็กให้เป็นเองใหญ่ขึ้นมาได้หากอยากจะทำ  เรื่องแรกที่ทำให้เกิดกรณีพิพาทอย่างวันนี้คือ เรื่องที่เกิดในงานวันเกิดพ่อของเขา….



                       “พี่พี  นั่นมันรองเท้าพายนี่” เด็กหญิงส่งเสียงเจื้อยแจ้วเมื่ออยู่กับพี่ชายซึ่งอายุมากกว่าเธอ 2 ปี พร้อมกับชี้ไปที่เท้าของเด็กหญิงซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงสีชมพูที่มีขายทั่วไป



                       พีรพัฒน์  ซึ่งบัดนั้นยังเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก เดินอาดๆ เข้าไปยังเด็กหญิงซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแล้วพูดอย่างมีอารมณ์ “นี่เธอ  กล้าขโมยรองเท้าน้องสาวฉันเหรอ  เอาคืนมาเดี๋ยวนี้”  เด็กหญิงซึ่งขณะนั้นกำลังงงๆ กับคำกล่าวหาแต่ก็ยังมีสติยืนยันว่ารองเท้าคู่นั้นเป็นของเธอ



                       “นี่มันรองเท้าฉันต่างหาก  พ่อฉันซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่แล้ว”



                       “โกหก ยัยบ้า นี่มันรองเท้าน้องสาวฉัน เอาคืนมาซะดีๆ” พูดจบ เด็กชายก็เริ่มยื้อรองเท้าสีชมพูออกจากเท้าของเด็กหญิงทันที  แต่แน่นอนเธอไม่ยอม  จึงเกิดศึกชิงรองเท้าขึ้นกลางงาน  แต่ไม่มีใครสนใจ  คิดว่าสักพักคงเลิกไปเอง  แต่ไม่ใช่  เมื่อเด็กหญิงเจ้าของรองเท้าเหลืออด  เธอก็คว้ารองเท้าอีกข้าวฟาดเข้าไปที่หน้าผากของเด็กชายอย่างจังจนเลือดออก  เด็กชายปล่อยมือที่จับรองเท้าออกมากุมหน้าผากของตัวเองทันที  ผู้ใหญ่ในงานรีบมาดู  ส่วนจำเลยของเราก็วิ่งหนีไปท่ามกลางความชุลมุน  



                       เด็กชายที่ว่าก็คือคนที่บัดนี้โตขึ้นเป็นหนุ่มร่างสูงโปร่ง ส่วนเด็กผู้หญิงเจ้าของรองเท้าใจเด็ดก็คือ แป้งร่ำ  หลังจากวันนั้นพีต้องเข้าไปเย็บแผลที่โรงพยาบาล หลังจากแผลหายก็ทิ้งรอยแผลเป็นเล็กๆไว้ที่หน้าผากด้านบน  มันเล็กจนเกือบจะมองไม่เห็น  แต่พีก็เกลียดมัน เพราะมันเกิดจากรองเท้าส้นสูงสีชมพูคู่ที่เขาคิดว่ามันเป็นของน้องสาวเขา  ด้วยความเป็นเด็ก เขาต่อยอดเรื่องนั้นด้วยการขโมยสุนัขตัวโปรดของแป้ง เด็กหญิงร้องไห้อยู่หลายคืน  ก่อนจะหันมาแก้เผ็ดด้วยการเอาขี้หมาไปดักปาพีก่อนไปโรงเรียน  แต่เรื่องทุกอย่างกลับกลายเป็นความแค้นใหญ่โต เมื่อแม่ของพีหนีไปกับพ่อของแป้งร่ำ  จนทำให้พ่อของพีติดเหล้างอมแงม แป้งเองก็ไม่สบายใจแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร  ทั้ง 2 หนีไปอยู่ต่างประเทศทิ้งให้แป้งอยู่กับน้องสาวฝาแฝด 2 คน น้ำอบและน้ำอุ่น ในบ้านหลังโต มีทั้งแม่บ้าน และพี่เลี้ยง แต่ไม่มีกลิ่นไอของความสุข ส่วนพีก็ยิ่งเกลียดพ่อของแป้งร่ำมากขึ้นและเอามาลงที่ลูกสาวโดยครั้งหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้แป้งมากที่สุด และเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล ก็คงเป็นการที่พีติดสินบนแฟนคนแรกของแป้งเพื่อให้เลิกกับเธอ  จากนั้นมาแป้งร่ำที่แสนขี้อายและอ่อนแอก็กลายมาเป็นนักบาสของโรงเรียนและก้าวมาเป็นประธานนักเรียนในที่สุด



                                                                                 ////////////////////////////////////////////////


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×