ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #53 : ตอนที่ 48 ครอบครัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46.94K
      181
      23 ส.ค. 54

     









     ตอนที่
    48 ครอบครัว



     
    สายๆของวันเสาร์ผมตื่นมาด้วยอาการแฮงค์นิดๆ เหล้าอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมมีสภาพแบบนี้ แต่สาเหตุที่แท้จริงคือ ไอ้ภูมิ!!!!!!!!



    เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงห้องก็เกือบตีสาม แทนที่ผมจะได้นอน กลับต้องมาออกศึกกับไอ้บ้านั่น ไม่รู้แม่ง ไปตายอดตายอยากมาจากไหน เล่นเอาผมถึงกับหน้ามืดเลย แล้วแม่งดูมันสิ นอนหลับปุ๋ยสบายอกสบายใจเลยนะ กูเอาไบกอนมาฉีดรมควันมันซะดีมั้ยฮึ



     
    หลังจากนั่งสาปแช่งไอ้ภูมิจนสาแก่ใจ ผมก็ลากสังขารเข้าไปอาบน้ำ พออาบน้ำ เป่าผมแต่งตัวเสร็จเลยเข้าไปตบหัวมันให้หายแค้น ก่อนจะรีบวิ่งหูตั้งออกมา ฮ่าๆ ผมก็แอบกลัวมันจะเอาคืนเหมือนกันนะคร้าบบบ เพราะถึงจะเป็นแฟนกันแต่ภูมิมันคงไม่ปรานีผมหรอกที่เล่นไปตบหัวมันตอนนอนน่ะ



    อีกอย่างภูมิไม่เคยอ่อนข้อให้ผมเลย ถ้าผมแกล้งมัน มันจะทำกลับเอาให้เจ็บกว่าสองเท่า มีครั้งนึงผมจำได้ว่าปาเสื้อใส่หน้ามัน แม่งเดินมาตบหัวผมหน้าทิ่มเลยเว้ย T_T



     
    เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายในการทำร้ายไอ้หล่อตอนหลับ ผมก็มาหาอะไรง่ายๆกิน แล้วกะว่าจะทำเผื่อไอ้ภูมิด้วย(ถ้ามันยอมกินฝีมือผมน่ะนะ) แต่พอเปิดตู้เย็นขนาดเทียบเท่าตู้คอนเทนเนอร์ออกมา ก็พบว่าในนั้น มี แท่น แท้น แท๊นนน น้ำเปล่าสามขวด กับองุ่นแดงเน่าๆหนึ่งแพ็ค




    ผมปิดตู้เย็นดังโครมด้วยความเซ็ง สงสัยวันนี้คงต้องออกไปกว้านซื้อของมากักตุนไว้ซะแล้ว งั้นเช้านี้ก็แดกซีเรียลชืดๆไปก่อนนะภูมิ
     







    “พีมมมม” กูเพิ่งตักซีเรียลเข้าปากได้สามคำ เสียงเรียกหาผมก็ดั่งลั่นห้องนอน ไม่รู้มันเป็นโรคห่าไรชอบเรียกหาผมหลังตื่น แม้ว่าจะนอนอยู่ข้างๆกันบนเตียงม้านนนก็เรียก


     
    “เตี้ยยยย อยู่ไหนวะ” ไอ้ภูมิเดินหน้ายุ่งหัวยุ่งหอบตุ๊กตาหมีน้องเสือน้อยออกมาจากห้อง พอเจอผม มันก็ทำตาโหดใส่ “เรียกทำไมไม่ตอบ”

    “กินอยู่” มันเดินมาหาและนั่งลงข้างผม ก่อนจะชะโงกหน้าที่ยังไม่ตื่นดีมาดูในชาม

     “อะไรน่ะ”

    “ซีเรียล กินมั้ย ทำไว้ให้แล้ว” มันส่ายหน้าและทิ้งหัวลงพิงบนไหล่ผม

    “พีม”



    “หื้ม”

     


    “ไปกินข้าวบ้านกูมั้ย”





    อะไรนะ ไปกินข้าวบ้านมึงเหรอ


    อาจจะเป็นคำชวนธรรมดา แต่ว่ามันกลับทำให้ผมกลืนนมจืดๆไม่ลง ไม่ใช่เราไม่เคยคุยกันเรื่องที่ภูมิอยากให้ผมรู้จักพ่อกับแม่ของมัน ไม่ใช่ภูมิไม่เคยชวนไปเที่ยวบ้าน ไม่ใช่ผมไม่อยากรู้จักครอบครัวภูมิ แต่ผม
    ….ยังไม่พร้อม
     



    “จะดีเหรอภูมิ กูว่า….” ให้กูทำใจอีกซักเดือนสองเดือนดีมะ



    “แค่ไปกินข้าว ไปเจอแม่ กูไปบ้านมึงแล้ว มึงไม่อยากไปบ้านกูบ้างเหรอ” อย่ามาอ้อนนะ เดี๋ยวกูก็ใจอ่อนอีกหรอก




    “ก็ ไม่ใช่แบบนั้น แต่กู
    …..” เฮ้ออ ก็ผมกลัวจะทำตัวไม่ถูกนี่หว่า ภูมิมันชวนผมหลายครั้งแล้ว แต่ผมก็บ่ายเบี่ยง แถนู่น อ้างนี่ เอาตัวรอดมาได้ตลอด แต่ว่าวันนี้คงถึงเวลาแล้วสินะ
     



     
    “นะพีม ไปเถอะ อย่าคิดมากสิ มีกูอยู่ทั้งคน มีเสือน้อยด้วย” ภูมิยิ้มและเอาไอ้ตุ๊กตาเน่าๆที่เกิดมาเป็นหมีแต่ชื่อเสือ มาหอมแก้มผม ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด ผมพยักหน้าอยู่กับอกภูมิ นั่นสินะ ผมควรจะไปหาคนสำคัญของคนที่ผมรัก ไปเจอพวกท่านบ้าง
     




    แม้จะต้องไปในฐานะที่บอกใครไม่ได้ก็ตาม
     
      







    ……………………………………






     
     
    บ่ายโมงกว่าๆเราก็มาถึงบ้านภูมิ ผมจะไม่สาธยายว่าบ้านไอ้ภูมิเป็นยังไง แต่คุณสามารถมีบ้านแบบนี้ได้ถ้ารวยเข้าขั้นอภิมหาเศรษฐี มันโอ่อ่า หรูหรากว่าที่ผมคิดไว้มาก (สบายล่ะกู กร๊ากกก) คือผมรู้ว่ามันรวย แต่….นี่ ถ้าไม่ใช่คฤหาสห์ก็วังล่ะวะ
     




    จากรั้วอัลลอยที่สูงตะง่านสู่ตัวบ้านระยะทางห่างไกลกันมาก อาจจะทำเป็นลู่วิ่งสี่คูณร้อยได้เลยนะนั่น ส่วนลานน้ำผุแบบโรมันที่สวยโดดเด่น คงสร้างไว้เพื่อจะได้ขับรถอ้อมไปอ้อมมาให้แม่งเปลืองน้ำมันเล่นๆ ฮึ
     





    “ตื่นเต้นเหรอพีม” ภูมิจอดรถแล้ว มันหันมาจับมือผมที่เริ่มเย็นๆ


     
    “ก็นิดหน่อย” ภูมิยิ้มให้ผมทั้งที่หลังมือกำลังเกลี่ยแก้มผมอยู่ ก่อนจะก้มลงมาจูบผม เล่นเอาตกใจ แต่ผมลืมไปว่ารถมันติดฟิล์มมืดยิ่งกว่าอเวจีคงไม่มีใครเห็นหรอก



    “ป่ะ” ภูมิแตะหลังผมเบาๆ “แม่กูใจดี ไม่ต้องกลัวนะ” มันก้มลงบอกผมด้วยรอยยิ้ม ผมก็ส่งยิ้มกลับไปให้มันบ้าง ขอแค่มีภูมิอยู่ข้างๆผมก็ไม่กลัวอะไรแล้ว



    “อื้ม แต่บ้านมึงเว่อร์มากภูมิ”
     


    “หึหึ แบ่งมาทำเรือนหอเราซักครึ่งคงดีเนอะ”



    “มึงไปไกลๆกูเลยป่ะ” มุกแป้กๆนี่ขยันหามาเล่นกับกูจัง หึหึ ผมส่ายหน้าปลงๆก่อนจะผลักหัวมันกลับ อย่างน้อยก็ผ่อนคลายขึ้นเพราะมุขควายๆของมันล่ะนะ


     
    พอลงจากรถผมยิ่งใจเต้นแรง กูจะมาตายในบ้านแฟนไหมเนี่ย จริงอยู่ที่การมาครั้งนี้ เราไม่ได้มาเปิดตัวว่าคบกัน ผมไม่คิดว่าพ่อกับแม่ภูมิจะยิ้มมีความสุขหลังจากที่ผมบอกไปว่า เราเป็นแฟนกันครับ
     



    แต่ผมมาเพื่อทำความรู้จักกับท่าน…ก็นะ…. อยู่กินกับลูกชายเขามาเป็นปีแล้ว แฮะๆ ผมก็ควรจะมากราบมาไหว้คนที่ให้กำเนิด ดูแลเลี้ยงดูไอ้ภูมิมา ให้ถูกต้องตามประเพณีใช่ไหมครับ หวังว่าเราจะทำวันนี้ให้ดีได้นะ สู้โว้ย
     



    “น้องภูมิ”


    “พี่นิ่มหวัดดีครับ” มีคุณน้าคนหนึ่งออกมาต้อนรับ เธอดูยิ้มแย้มเป็นมิตร แต่ทำไมภูมิเรียกพี่หว่า งั้นผมก็ต้องเรียกพี่สินะ ผมยกมือไหว้พร้อมส่งยิ้มให้ พี่เขาก็รีบรับไหว้ใหญ่เลย “พี่นิ่มครับ นี่พีมเป็น…” ภูมิหันมาสบตากับผม ผมพยักหน้ายิ้มเป็นกำลังใจให้มัน
     




    “เป็นเพื่อนภูมิครับ”  เราคุยกันแล้วว่าควรจะวางตัวอยู่ในฐานะอะไร ในเวลาที่เราอยู่กับครอบครัว เพราะเราไม่สามารถทำทุกอย่างตามที่ใจต้องการได้ นั่นคือความจริง กฎเกณฑ์มากมายของสังคม ผมจะไม่สนใจก็ได้ แต่ที่ผมต้องแคร์เพราะที่นี่มีคนสำคัญของภูมิอยู่



     
    เวลาที่อยู่กับเพื่อนเราจะทำยังไงก็ได้ ผมจะเป็นยังไงพวกมันก็ยอมรับและพร้อมอยู่เคียงข้างเสมอ แต่สำหรับคนในครอบครัว ผมไม่รู้ว่าพวกท่านจะยอมรับได้แค่ไหนกับความรักของเรา

    ไม่รู้ว่าพวกท่านคิดเห็นอย่างไรที่ลูกชายมีคนรักเป็นผู้ชาย ผมกับภูมิเลยจำเป็นต้องปิดบัง มันคงต้องอาศัยเวลาซึ่งผมก็ไม่รู้ว่านานเท่าไร หรือบางทีอาจจะไม่มีวันนั้นที่ได้บอกความจริง แต่ก็ไม่เป็นไร
     




     
    ถึงแม้จะยังบอกใครไม่ได้ว่าเรารักกัน แต่ผมก็ไม่เสียใจหรอกครับ เพราะคนเดียวที่ผมอยากบอกรัก…..คือ….ภูมิ
     





    “สวัสดีครับ” ผมไหว้อีกครั้ง



    “สวัสดีคะ พ่อคุณหล่อเชียว” ตาถึงครับพี่ เขินเบาๆ





     
    “ฮ่าๆถ้าแบบนี้เรียกหล่อ แล้วภูมิล่ะ” ปกติเชี่ยภูมิไม่ใช่คนหลงตัวเองนะครับ มันไม่เคยสนใจหน้าตามันด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เอาไว้ทับถมผมแล้วล่ะก็ มันไม่รีรอที่จะกระโจนเข้าใส่ ฮึ่ม ใจเย็นไว้พีม มึงต้องสร้างภาพว่าเป็นคนดี ยิ้มพีมยิ้ม อย่าปล่อยห่าปล่อยเหี้ยออกไปเชียว



     
    “แหม น้องภูมิของพี่นิ่มต้องหล่อที่สุดอยู่แล้ว แต่ไปว่าเพื่อนแบบนั้นไม่ดีนะคะ พี่ว่าเราเข้าไปข้างในกันดีกว่า คุณแม่รอน้องภูมิที่ห้องรับแขกตั้งแต่เช้าแล้ว”



    “ครับ ฮะๆ” ไอ้เลวภูมิมึงจะหัวเราะกูอีกนานมั้ยห๊ะ ผมถือโอกาสตอนที่พี่นิ่มเดินนำพวกเราเข้าบ้าน หันไปเจาะยางไอ้หล่อ ฮ่าๆ



    “โอ๊ย เชี่ย เจ็บๆๆ”



     
    “อ้าว น้องภูมิเป็นอะไร”


    “พีมเตะภูมิอ่ะพี่นิ่ม” พี่นิ่มส่ายหัว ไม่สนใจมันเลย ฮ่าๆๆๆ สะใจโว้ย ไอ้ภูมิหันมาถลึงตาใส่ผม ถึงจะเป็นถิ่นมันผมก็ซ่าส์ได้นะจะบอก



    “กูจะฟ้องแม่” มันตามมากอดคอผม


    “เชิญ แล้วจะกอดทำด๋อยไรเนี่ย ฮ่วย”


    “หึหึ หมาเตี้ย อารมณ์ดีแล้วใช่มั้ย มึงน่ารัก กูรู้ว่าแม่ต้องชอบมึง” อารมณ์ไหนของมึงเนี้ย มันบอกก่อนจะทิ้งผมแล้ววิ่งเข้าไปกอดใครคนหนึ่ง แป่ว แว่ว แว่ว แววววววว อาร๊ายยยย มาทำให้กูเขินแล้วเมินหนี แสรดดด
     



     “อ้า ลูกชายคุณแม่มาแล้ว” ผู้หญิงสวยคนนั้นวางนิตยสารเล่มหนาลงก่อนจะอ้าแขนรอกอดลูกชาย ภูมิเข้าไปกอดเธอ และถูกหอมแก้มซ้ายขวา อย่าบอกนะว่านี่คือคุณแม่ โอ้วมายด์ลอร์ด!!!!!



    ทำไมยังสาวยังสวยอยู่เลย สองแม่ลูกเขาก็แสดงความรักกันไป ปล่อยให้ผมยืนเอ๋อ ไอ้คนที่มันพาผมมาคงลืมไปแล้วมั้งว่ามีอีกคนที่ยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนี้ จนคุณแม่ท่านหันมาเจอผม



    “อ้าว แล้วน้องภูมิพาใครมาด้วยคะ แม่ไม่ทันมองขอโทษนะจ๊ะ หนูนั่งก่อนสิ” หนู?เหรอ เหอๆ น่ารักได้อีกชีวิตไอ้พีม


    “เอ่อ แม่ครับ นี่พีมครับเป็น….” ไอ้ภูมิมันแนะนำ เล่นเอาผมแทบจะหยุดหายใจ มึงจะเว้นวรรคเพื่อสิ่งใด ไอ่ฟาย



    “สวัสดีครับคุณน้า ผมเป็นเพื่อนภูมิครับ” ผมนั่งลงโซฟาอีกตัว และไหว้ให้นอบน้อมที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้เคยไหว้มา นี่ถ้าลงไปกราบบนตักได้นี่ทำไปแล้วนะเนี่ย เหอๆ



    “ไหว้พระเถอะลูก แต่ทำไมเรียกน้าล่ะ เรียกคุณแม่สิ”




    “ครับคุณแม่” แล้วแม่ลูกคู่นั้นก็ยิ้มแป้นเชียว



    “หนูเป็นเพื่อนน้องภูมิเหรอคะ คุณแม่ไม่คุ้นเลย”




    “ผมเรียนคนล่ะคณะกับภูมิน่ะครับ”




    “อ๋อ เรียนคนล่ะคณะ แล้วหนูเรียนอะไรคะ” ทำไมแม่กับลูกถึงแตกต่างกันขนาดนี้ ทำไมแม่ดูเป็นผู้ดี๊ผู้ดี มีชาติตระกูล พูดจาก็เพราะ ดูอ่อนโยน แล้วดูลูกแม่แต่ล่ะคนสิครับ นึกว่าหลุดมาจากยุคนาซี




    “ผมเรียนศิลปกรรมครับ” คุณแม่ยิ้มให้และพยักหน้าเข้าใจ แต่ให้ตายเถอะฮิตเลอร์ถ้าบอกว่าเป็นพี่สาวภูมิผมก็เชื่อ


    “มันเป็นเพื่อนของไอ้แทนน่ะแม่ แล้วค่อยรู้จักกับภูมิอีกที” มึงไม่บอกแม่ด้วยล่ะว่ารู้จักกันยังไง ประทับใจกูมาก




    “อ่อ น้องแทน ไม่เห็นมาบ้านนี้นานแล้วเนอะ ว่าแต่หนูชื่ออะไรนะ” เวลาได้ยินคำว่าหนูแล้วมันจั๊กจี้รูหูยังไงไม่รู้แฮะ แบบนี้ยอมให้หนวดเรียกแมวยังดีซะกว่า
    -_- ผมโคตรจะเกร็งเลยอ่า




    “ชื่อพีมครับแม่”



    “จ๊ะลูกพีม หน้าตาน่ารักดีนะ ตัวก็เล็ก รุ่นเดียวกับน้องภูมิจริงรึเปล่าเนี่ย ฮะๆ” ผมสะดุดคำพูดคุณแม่ จนหน้าแทบฟาดพื้น เชี่ยภูมิมันหัวเราะอีกแล้ว
     

    “รุ่นเดียวกันครับ” ผมเกิดก่อนมันเก้าเดือนด้วย เออ เอาสิ ผมส่งสายตามืดหม่นให้ภูมิ แต่ไอ้หล่อมันแค่ไหวไหล่ ยักคิ้วกวนบาทากลับมา



    “ทำไมน้องพีมดูเกร็งๆล่ะลูก ทำตัวตามสบายนะจ๊ะ น้องภูมิไม่ค่อยพาเพื่อนมาบ้าน ไม่เหมือนพี่โอ๊ต รายนั้นน่ะเพื่อนเยอะ มาทีเป็นสิบ พีมมาใกล้ๆแม่สิคะ” ผมก็เบลอเลยครับ หันไปขอความช่วยเหลือจากภูมิที่กำลังเกาะแขนแม่ มันก็พยักหน้าให้


    ผมเลยเดินก้มๆเข้าไปหาท่าน คุณแม่จับหัว จับหน้าผมอย่างกับกำลังเลือกผักผลไม้ในตลาด เอ่อ นี่คนครับแม่คร้าบบบบ
     



    “ตาสวยเนาะ แม่อยากได้ลูกชายตัวเล็กๆแบบนี้บ้างจัง หนูเป็นคนใจดีแน่เลย”




    “แม่รู้ได้ไง” ไอ้ภูมิรีบขยับเข้ามาใกล้ทันที

    “ก็ดูตาไงน้องภูมิ ตาน้องพีมใสๆซื่อๆดี”



    “มันเอ๋อด้วยนะแม่ โอ๊ย แม่อ่ะตีภูมิทำไม”

    “แล้วน้องภูมิว่าเพื่อนแบบนั้นทำไมล่ะครับ หื้ม”
     



    “แม่ ภูมิเป็นลูกแม่นะ” มันกอดอกหน้างอไปแล้ว เอิ่ม แล้วผมต้องง้อไหม แต่คงไม่ต้องแล้วล่ะ แม่เค้าง้อลูกชายเค้าแล้ว ท่านสวมกอดภูมิ โอ๋กันยกใหญ่ หน้าไอ้ภูมิเกยอยู่บนไหล่แม่ แต่มือมันเอื้อมมาลูบหัวผม มันยิ้มให้ผมเต็มปากเต็มแก้ม และส่งคำๆหนึ่งโดยไร้เสียงมาบอกผมว่า
     








    “รักนะเตี้ย”





     
    ไอ้ ไอ้ ไอ้บ้า



     
    คุณแม่ของภูมิเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ดูไปดูมาเหมือนไอ้ฟ่างจะได้โครงหน้า รูปหน้าของแม่ไปเต็มๆ ท่านยิ้มแย้มอยู่เสมอ ดวงตาสดใส บ่งบอกถึงความมีเมตตา เลยทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ และจากที่สังเกตดู ท่านคงจะรักลูกชายคนเล็กมาก ทำยังกับไอ้ภูมิเป็นเด็กป.3




     
    ไอ้หล่อได้ทีมันก็อ้อนใหญ่ เวลาภูมิอยู่กับแม่ก็ไม่ต่างจากตอนที่อยู่กับผมเท่าไร อ้อนบ้าง เอาแต่ใจบ้าง อย่างตอนนี้แม่ชวนมันไปงานเปิดตัวอะไรซักอย่างของเพื่อน ภูมิมันก็ดื้อไม่ยอมไป



    “ภูมิไม่ชอบ ทำไมต้องให้ภูมิไป”




    “ก็แม่อยากอวดลูกชายนี่ พี่โอ๊ตก็มาไม่ได้ พี่ฟ่างก็เห็นบอกว่างานเยอะ น้องภูมิไปกับแม่นะครับ”



    “ฟ่างโกหก ภูมิรู้”


    “หึหึ น้องพีมดูสิ ลูกชายคุณแม่ดื้อเนอะ ไม่อายเพื่อนเหรอ หื้ม” ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่มือก็ยังลูบหัวลูกชายด้วยรอยยิ้มเอ็นดู


    ที่ไอ้ฟ่างบอกว่า ภูมิเป็นลูกแหง่ ติดแม่ ถูกแม่สปอย มันไม่เกินความจริงเลยครับ ก็นะ ลูกชายเขาทั้งคน ผมก็ยิ้มไปกับภาพตรงหน้า ผมรู้แล้วว่าผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตภูมิเป็นคนที่ดีมากจริงๆ




     
    คุณแม่ท่านก็ชวนผมคุย ถามเรื่องเรียนบ้าง เรื่องภูมิบ้าง เรื่องชีวิตทั่วๆไป รวมถึงเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ผมฟัง ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องลูกชาย


    มีข้อมูลใหม่ที่ผมเพิ่งรู้และอยากบอกทุกคนว่า ไม่ต้องอิจฉาครอบครัวไอ้ภูมินะครับ ว่าทำไมลูกชายบ้านนี้ถึงหน้าตาดีกันทุกคน เพราะในร่างมันมีสายเลือดประมานเจ็ดแปดเชื้อชาติที่ผสมอยู่



    คือคุณพ่อเป็นลูกเสี้ยวอิตาเลียน อังกฤษ สเปน ส่วนคุณแม่ท่านมีเชื้อสายจีนผสมแขกขาว มิน่าถึงตาคมออกแขกๆ เหอๆ ลูกออกมาไม่หล่อก็ไม่รู้จะว่ายังไง แล้วไทยแท้ผสมจีนนิดๆอย่างผมก็คงเป็นได้เท่านี้ กูแซ้ดดดดดดดด ทำไมหนวดไม่ผสมผมออกมาให้ได้แบบไอ้ภูมิมั่งวะ



     
    คุยกันได้ซักพักคุณแม่ก็ออกไปหาเพื่อนเห็นบอกว่าจะไปสปากัน ทำงานเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์เลยอยากหาอะไรที่ผ่อนคลาย ท่านชวนผมไปด้วย แต่ผมไม่เอาดีกว่า แม่เลยบอกให้ผมรออยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน^^



     
    พอคุณแม่ออกไป ภูมิมันก็พาผมขึ้นมาบนห้องมัน คืออยากรู้จังว่าบ้านนี้จ้างแม่บ้านทำความสะอาดกี่คนเหรอ ถ้ามันจะกว้างขนาดนี้ล่ะก็นะ







    ตอนที่เดินขึ้นมาไอ้ภูมิมันก็ชี้ให้ดูผ่านๆ ว่าอะไรเป็นอะไร ก็มีห้องรับรอง ห้องประชุม แล้วก็มีสระว่ายน้ำอยู่กลางบ้าน ส่วนอีกสระอยู่ด้านนอก โอ้วววว แล้วของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์แต่ล่ะชิ้น เอาไปขายคงรวยไปอีกนาน เหอๆ



    ส่วนห้องนอนไอ้ภูมิน่าจะกินพื้นที่เกือบทั้งชั้นเลยมั้งเนี่ย อืม ห้องมันสะอาดกว่าที่คิดไว้แฮะ สงสัยคงมีคนทำให้ ต่างจากห้องของเราที่คอนโดแบบฟ้ากับเหว อันนั้นน่ะโคตรของโคตรรก ฮ่าๆ






     
    “เฮ้ย ทำไร ปล่อยๆๆ เดี๋ยวมีใครมาเห็น” ผมเดินดูห้องมันอยู่ดีๆ ก็มีมือมารมากอดข้างหลัง




    “ไม่มีใครเห็นหรอก กูล็อคห้องแล้ว” มึงเป็นคนรอบคอบตั้งแต่เมื่อไร หรือเป็นเฉพาะเรื่องนี้ +_+“กูดีใจนะ ที่แม่ชอบมึง” เสียงกระซิบข้างหู ตามด้วยจูบเบาๆข้างแก้ม
     




    “หึ เพราะเค้ายังไม่รู้ไงว่ากูไม่ได้เป็นแค่เพื่อนลูกชายเค้า”

     
    “เรื่องนั้นไม่ต้องไปสนใจหรอก แค่มึงเข้ากับแม่ได้ กูก็ดีใจแล้ว”



    “อื้ม ก็แม่ออกจะใจดีขนาดนั้น กูก็ชอบท่านเหมือนกัน”



    “ดีๆ แม่ผัวกลับลูกสะใภ้รักกัน”


    “สัส ปล่อยกูได้แล้ว” อ๊ากกกกก พูดบ้าไรของมันวะ ไม่ให้กอดแล้วโว้ย



    “หึหึ จูบก่อนดิ”




    “อย่ามา ภูมิ ห่านี่กูร้อน ปล่อย” มันก็ไม่ฟังหรอกครับ จับผมพลิกกลับไปหา แล้วก็ตั้งอกตั้งใจปล้นจูบผมเป็นนานสองนาน




     
    “อื้อ ภ..ภูมิ พอแล้ว” มันกัดริมฝีปากผมเบาๆอีกครั้งก่อนจะยอมปล่อย แม่งกูเปลืองตัวชิบหาย แต่ก็เต็มใจล่ะว๊า (อ้าวววววว) ฮ่าๆๆ
     





    “ภูมิ นี่พี่โอ๊ตเหรอ” ผมคว้ากรอบรูปบนหัวเตียงมาดูใกล้ๆ ภูมิก็ตามมานั่งใกล้ผมเช่นกัน ในรูปคือชายหนุ่มที่กำลังยิ้มกว้าง แขนทั้งสองข้างกอดคอน้องชายทั้งสองคนที่ผมรู้จักดี ฉากหลังคือหอไอเฟล




    ผมไม่รู้ว่าหน้าตาพี่โอ๊ตจะเรียกว่าอะไร คงบอกได้ง่ายๆว่าเหมือนเอาฟ่างกับภูมิมารวมกัน แม่งหล่อบรรลัย ถ้าผมมีลูก
    ???นะผมจะผสมหลายๆสายพันธุ์เลยคอยดู





     
    “อืม ถ่ายตอนโอ๊ตเพิ่งเรียนจบ โอ๊ตได้เกียรตินิยมด้วยนะ พ่อเลยให้รางวัลไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ รางวัลของโอ๊ตแต่ฟ่างก็เป็นคนได้เลือกอยู่ดี” ไอ้ภูมิยู่ปาก หน้างอ หึหึ น่ารักว่ะ  “ฟ่างชอบฝรั่งเศสไปบ่อยแต่ก็ไม่เห็นจะเบื่อซะที”





    แม้แต่กับพี่น้องไอ้ฟ่างมันก็ยังแสดงอำนาจได้ มันไม่เว้นใครหน้าไหนจริงๆนะเนี่ย เพื่อนอย่างพวกผมจะเหลืออะไรล่ะ แล้วยิ่งกับแฟน เหอๆ คิดแล้วก็สงสารไอ้แทนเหมือนกันเนอะ






    “ดูพ่อก็เป็นคนใจดีนิ ใช่มั้ย”

     


    “ใช่ พ่อใจดี พ่อให้อิสระ ให้เรียนในสิ่งที่เราอยากเรียน ให้ทำงานตามที่ชอบ เพราะวันนึงพวกเราก็ต้องกลับมาทำในสิ่งที่ต้องทำอยู่ดี”
     




    “ดูแลธุรกิจของครอบครัวน่ะเหรอ” ผมวางรูปถ่ายลงและหันไปมองภูมิ ท้ายเสียงของมันดูเหงาๆจนน่าสงสาร
     






    “อื้ม” ภูมิเอนหัวลงพิงกับไหล่ของผม “กูมีพร้อมทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีมึง ทุกอย่างมันก็ไร้ค่า กูขาดมึงไม่ได้จริงๆนะพีม” ผมยื่นมือไปลูบหัวภูมิ และเป็นฝ่ายกอดภูมิไว้ด้วยรอยยิ้ม











     
    “กูจะอยู่ข้างๆมึงเสมอนะภูมิ”








     
     
    ^_^





     






    TBC >>>>>>>>>>>>>





     
    …………………………


     

    ^_^ รักคนอ่านทุกคน แต่รักน้องภูมิมากกว่า อร้างงงงงง ไปล่ะ อิจฉาสะใภ้ไฮโซ กร๊ากกกกก




    ปล มีความลับบางอย่างจะบอก ตาลเป็นคนที่ไม่มีสต็อกนิยายตุนไว้นะคะ คือลงตอนต่อตอน เสร็จปุ๊บลงปั๊บนับตั้งแต่ตอนที่สามเป็นต้นมา และอยากบอกว่า ตอนนี้เค้าหัดสะสมสต็อกแหละ อิอิ เริ่ดเนอะ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×