ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #39 : ตอนที่ 36 รอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46.33K
      197
      11 มิ.ย. 54









    ตอนที่
    36 รอ





     
    สองเดือนแล้วที่ผมใช้ชีวิตเป็นหนุ่มเชียงใหม่ สองเดือนที่อยู่กับพ่อแม่ แบบว่าเอาให้หายคิดถึงกันไปข้าง พ่อบอกว่า”เมื่อไรมึงจะเปิดเทอมซักทีไอ้แมว กูเหม็นขี้หน้า” ฮ่าๆ หนวดก็ทำเท่ไปงั้นแหละ เวลาผมกลับไปอยู่กรุงเทพ แม่บอกว่าพ่อน่ะซึมไปหลายวัน
     



    ช่วงที่ผ่านมาผมก็ยังไปออกงานกับพ่อบ้าง เป็นคนขับรถพาแม่ไปสมาคมแม่บ้านตำรวจบ้าง บางวันไปนอนตีพุงกินผลไม้ในไร่คุณตา
     


    ทุกๆวันก็มีความสุขดีครับ  แต่บางครั้งผมก็รู้สึกเหงาเพราะที่นี่ไม่มีไอ้พวกเพื่อนๆตัวป่วนคอยกวนคอยแกล้ง และอีกอย่าง ผมไม่ได้รับการติดต่อจากไอ้ภูมิมาหนึ่งสัปดาห์เต็ม เจ็ดวันเต็มๆที่ผมเฝ้ารอโทรศัพท์
     
    บางครั้งก็เหม่อลอยบ่อยจนแม่สงสัย ผมโทรกลับไปหามัน ปลายสายก็ติดต่อไม่ได้ ลองโทรหาฟ่างก็เหมือนกัน จากความเป็นห่วงว่ามันเป็นอะไรรึเปล่า ผมก็เริ่มน้อยใจ ทำไมไม่โทรกลับมาบ้าง
     


    ผมไม่ใช่คนขี้น้อยใจ แต่ผมแค่ไม่ชินที่ภูมิไม่มีเวลาให้
     



    บางคืนผมก็ออนเอ็มรอพร้อมกับจ้องโทรศัพท์รอจนเกือบเช้า คืนนี้ก็เหมือนกัน คืนที่พายุฝนกระหน่ำเทลงมาตั้งแต่หัวค่ำ จะสี่ทุ่มแล้วยังไม่มีวี่แววว่าฝนจะหยุดตก แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ยังรอภูมิ



    ผมนึกไปถึงวันสุดท้ายที่คุยกับภูมิ มันยังถามอยู่เลยว่าตั้งชื่อให้ไอ้หมีทารกนี่รึยัง ผมบอกว่าตั้งแล้วชื่อไอ้ขี้โรค มันก็ด่าซะยับ หึหึ แม่งบอกว่าผมไร้เซ้นต์ในการใช้ชีวิตร่วมกับตุ๊กตาหมี แล้วมันก็บังคับให้ผมเปิดกล้ง



    (พีมเปิดกล้องดิ๊)


    “ไม่อ๊าววววว กูอยากนอนคุย”


    (แต่กูอยากเห็นหน้า)


    “เมื่อเช้าก็เห็นแล้ว ไมต้องเปิดบ่อยๆด้วยวะ” ผมกำลังต่อรองกับคนปลายสาย ทะเลาะกับไอ้ภูมิจะเป็นสิบนาทีแล้ว ก็มันจะให้ผมออนเอ็ม เปิดกล้องคุยกัน  แต่ผมขี้เกียจอ่ะ อยากนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงมากกว่า


    (เร็วๆ ไอ้ลิง)



    “เออๆ เปิดคอมฯแปบ” สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้สงคราม “มึงไม่ต้องหัวเราะเลยภูมิ ไอ้แห้ง ไอ้เลว”พอบังคับกูได้นี่ แหม๊ มีความสุขนักนะ


    (ด่าผัว ระวังจะไม่เจริญ) งั้นไอ้ฟ่างคงตกต่ำทั้งชาติเพราะด่าไอ้แทนเป็นงานอดิเรก



    “ห่า ปัญญาอ่อน เมาพิชซ่าเหรอมึงน่ะ”


    (อย่าพูดมาก มึงเปิดยังวะ เตี้ยแล้วยังชักช้าอีก)


    “กูชักไวอยู่นะภูมิ กร๊ากกก”โดนมันด่าว่าทะลึ่งอีก ผมเปิดเอ็มปุ๊บ ไอ้ภูมิก็ส่งคำขอเปิดกล้องปั๊บ มึงกะไม่ให้
    MSN กูตั้งหลักก่อนเลยหรอวะ และแล้วเราสองคนก็เห็นหน้ากันแม้จะอยู่คนละขอบฟ้า



    มันทักทายผมด้วยการแลบลิ้น อมยิ้มกวนตีนใส่ แต่ซักพักมันก็เริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวด จ้องหน้าผมเหมือนไม่เคยพบเคยเห็น




    (พีม มึงไปทำอะไรกับหัวมึงมา) เสียงมันนิ่ง และเย็นยะเยือกชวนขนหัวลุกมาก
     



    “กูไปตัดผมมา เท่ห์ป่ะ”  ผมก็ทำใจดีสู้ นี่แหละครับคือสาเหตุที่แท้จริงที่ผมไม่อยากเปิดกล้องคุยกับไอ้ภูมิ เมื่อตอนบ่ายหลังจากที่คุยกับภูมิเสร็จ แม่ก็ขอร้องอ้อนวอนให้ผมไปตัดผม แม่บอกว่ามันรุงรัง กลัวว่าวันดีคืนดีพ่อกลับบ้านมาดึกๆ เข้าใจผิดคิดว่าลูกเป็นโจรขึ้นบ้านแล้วอาจจะชักปืนมายิงได้ (กรรม)



    ถึงผมจะพยายามอธิบายว่ามันเป็นสไตล์ มันแนว ผมเป็นตัวของตัวเอง แม่ก็ไม่ฟัง แถมยังบอกอีกว่า “ตัวมึง แต่เงินกูส่งเรียน ถ้าไม่ตัดผมก็จะตัดออกจากกองมรดก” เอาซี้ มีรึผมจะขัดได้ ก็เลยต้องไปตัด โคตรเสียดายอุตส่าห์ไว้มาตั้งแต่ปี
    1 จะรวบได้อยู่แล้ว จะเป็นไอ้หนุ่มผมยาวอยู่แล้วเชียว



    ไอ้ภูมิมันมองผมนิ่ง ไม่พูดไม่จา ไอ้นี่ก็เป็นอีกรายที่ไม่ชอบให้ผมปรุงแต่งร่างกายตัวเอง คราวก่อนผมแอบไปเจาะหู ยังโดนมันบ่นจนรูหูผมรู้สึกผิด ผมเลยไม่อยากให้มันรู้ว่าไปตัดผมมา แต่ว่าคงไม่ทันแล้วล่ะ


    “เฮ้ย ช่วยวิจารณ์หน่อย อย่างเงียบดิภูมิ”กูเสียเซลฟ์นะเฟ้ย


    (ใครให้ไปตัด)


    “ก็ แม่บอกให้ตัด กูว่าจะบอกมึงก่อนนะเว้ย แต่
    ….” แต่กูลืม เหอๆ


    (มึงห้ามออกจากบ้าน)


    “แย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมคว้ากระจกมาส่องๆ ปัดๆดู มันก็โออยู่นะ ทำไมไอ้ภูมิถึงต้องซีเรียสขนาดนี้ด้วยวะ “มันก็ไม่แย่มากนี่หว่า มึงไม่ชอบเหรอ” ผมพยายามโน้มน้าวไอ้หล่อหน้านิ่งให้มันคล้อยตาม มันหลิ่วตา กอดอก เอนหลังพิงเก้าอี้



    (ที่ไม่ให้ออกจากบ้านเพราะมึงน่ารัก เดี๋ยวคนอื่นมาชอบ กูหวง)เอ่อ
    …….ฟายยยย พูดซะขนาดนี้กูก็เขินสิ



    “หล่อเว้ยหล่อ น่ารักเอาไปใช้กับน้องเสือน้อยมึงนู่น” ด่าแก้เขินไปงั้นแหละ ภูมิมันไปอิตาลีแบบตัวเปล่า มันบอกว่าที่นู่นมีครบทุกอย่าง และในกระเป๋าเป้มันเลยมีแค่ไอ้หมีเน่าๆที่มันนอนกอดทุกคืน




    ส่วนไอ้ลูกหมีโปลิโอก็ติดสอยตามผมมาถึงเชียงใหม่ ทิ้งพ่อหมียักษ์ให้นอนเฝ้าห้องกับสมุนอีกนับร้อย ที่จริงก็ไม่ได้อยากจะเอามาหรอกนะ แต่แบบว่ากระเป๋ามันโล่งไง เลยจับๆยัดๆมา แล้วตอนนั่งเครื่องผมก็เซ็งไรงี้ ก็เอาไอ้ขี้โรคมาเล่น ไม่ได้อยากเอามาด้วยจริงจริ๊ง



    “นี่ เลิกจ้องกูซักที อายเป็นนะเว้ย”



    (หึหึ มึงอายเป็นตั้งแต่เมื่อไรวะเตี้ย) ห่า ยังมาจ้องอีกถึงจะเป็นการจ้องผ่านกล้องแต่สายตาไอ้ภูมิก็มีอานุภาพทำลายล้างหัวใจผมอยู่ดี
     




    ผมหันมองกระจกบานเลื่อนที่กั้นห้องกับระเบียง ฝนหยุดตกไปแล้ว มีไอน้ำบางๆเกาะกระจกใส เงาที่สะท้อนกลับมามันทำหน้าหงอยๆ ยิ้มเหงาๆ ผู้ชายคนนั้นนอนตะแคงกอดตัวเอง
     


     ผมคว้าไอ้ลูกหมีโปลิโอมากอด มันมองหน้าผมตาแป๋วเชียว



    “จ้องหน้ากูทำไม คิดถึงพ่อล่ะสิ พ่อมึงนอนอืดอยู่กรุงเทพนู่น” ไอ้ลูกหมีทารกก็เอาแต่ยิ้มตาแป๋ว ผมยิ้มเหงาๆให้มัน และกัดหัวไอ้ขี้โรคด้วยความหมั่นไส้ แต่ถึงมันจะถูกผมทำร้าย มันก็ยังยิ้มให้ผมเหมือนเดิม




    “ที่นี่กับกรุงเทพเวลาคงไม่ต่างกัน แต่ที่นี่กับอีกซีกโลกมันต่างกันมาก มึงว่ามั้ย”
     


    ผมมองเพดานฝ่าความมืดสลัว มองมือถือที่นอนนิ่งอยู่ข้างๆ ผมได้แต่มองและรอให้มันส่งเสียง ผมรออยู่แบบนี้ แต่เบอร์ที่ผมรอก็ไม่ปรากฏบนหน้าจอเลย



    “ภูมิ
    …..มึงไม่รู้รึไง ว่าแฟนมึงขี้เหงา” ผมบอกกับตัวเองเบาๆ  คงมีเพียงไอ้ขี้โรคเท่านั้นที่รับรู้และได้ยินว่าผมกำลังรู้สึกอย่างไร



    ผมปล่อยให้ตัวเองถอนหายใจครั้งที่เท่าไรไม่รู้ของชั่วโมงนี้ และสายตาผมก็เหลือบไปเห็นกีต้าร์ที่วางอยู่ใกล้ๆชั้นซีดี ผมถือกีต้าร์มานั่งที่นอกระเบียง ลมเอื่อยๆที่พัดละอองฝนปรอยๆมากระทบผิว ทำให้รู้สึกหนาว ผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้า คงเพราะฝนตกคืนนี้เลยไม่เห็นดาวซักดวง ผมเกากีต้าร์เบาๆ ดีดเล่นไปเรื่อยๆ




    ผมอยากจะบอกความรู้สึกของผมในตอนนี้ให้คนที่อยู่อีกโค้งขอบฟ้าได้รับรู้  
     















     



    กาลเวลา ยิ่งนานยิ่งเปลี่ยนใจคน

     เปลี่ยนรักของคนเมื่อไกลห่าง


    ยังกังวล ว่าเธอเปลี่ยนไปหรือยัง
     ความหวังนับวันยิ่งเลือนลาง


    เธอบอกให้ฉันรอ สักวันจะย้อนมา
    ยังเชื่อในสัญญา ว่าคงไม่นาน
     จะพบกันใหม่




    ได้แต่หวังถึงการกลับมา
     ทั้งที่เธออยู่ไกลสุดฟ้า

     และอาจไม่เหมือนเดิม

    ได้แต่รอรักคืนกลับมา

    ทุกคืนช่างเหน็บหนาวเหลือเกิน

    กลัวเธอจะผิดคำสัญญา


    อยู่ลำพัง เฝ้ามองแต่นาฬิกา

    เพื่อนับเวลาที่เลยผ่าน


    เธอบอกให้ฉันรอ สักวันจะย้อนมา

    ยังเชื่อในสัญญา ว่าคงไม่นาน

    จะพบกันใหม่


    ได้แต่หวังถึงการกลับมา



    ทั้งที่เธออยู่ไกลสุดฟ้า และอาจไม่เหมือนเดิม


    ได้แต่รอรักคืนกลับมา

    ทุกคืนช่างเหน็บหนาวเหลือเกิน
    กลัวเธอจะผิดคำสัญญา

    ได้แต่หวังถึงการกลับมา

    ทั้งที่เธออยู่ไกลสุดฟ้า และอาจไม่เหมือนเดิม



    ได้แต่รอรักคืนกลับมา ทุกคืนช่างเหน็บหนาวเหลือเกิน


    กลัวเธอจะผิดคำสัญญา



    เฝ้าคอยการกลับมาของเธอ


    ต่อให้นานแค่ไหน ฉันรอ
     




    “กูยังรอมึงนะภูมิ”
     








    ………………………………………..
     



    RRRRRRRRRRRRRRRRRRRR


    ง่า ใครแม่งโทรมาแต่เช้าวะ ผมควานหามือถือ สะเปะสะปะไปทั่ว เออ กูจะรับแล้ว ร้องอยู่นั่นแหละ



    “ฮาโหลล ครายยย”



    (หึหึ ยังไม่ตื่นอีกเหรอ จะเที่ยงแล้วนะ)


    “อือ เที่ยงแล้วเหรอ แล้วกินข้าวเที่ยงยัง” ทำเนียนถาม ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าคุยกับใคร ผมนี่เทพจริงๆ “ว่าแต่ ใครอ่ะ”


    (จำกูไม่ได้อีกแล้ว) ผมขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์ทั้งที่ยังหลับตาหน้าซุกหมอน เสียงใครวะ
     

    “ไอ้เชนเหรอ”


    (กูเป็นคนที่รักมึง อย่าเสือกตอบว่าไอ้ภูมิล่ะ)


    “พ่อเหรอ”


    (กวนตีน)



    คนที่รักผม ไม่ใช่ภูมิงั้นเหรอ กูชักจะหายง่วงแล้วมีผู้ชายมาบอกรักหลังตื่นนอน ผมเงยหน้าจากหมอน เอาโทรศัพท์ออกห่าง เพื่อนดูหน้าจอที่โชว์ชื่อ




    “ไอ้คลื่น”




    (ไง รู้ด้วยว่ากูรักมึง หึหึ) คราวนี้ตาสว่างเลยครับ
    ไอ้คลื่นโทรหาผมเสียงของคลื่นยังคงสดใส อบอุ่นอยู่เสมอ ไม่ได้คุยกับมันนานแล้วเหมือนกัน




    “กูเก่งอ่ะ รู้เห็นทุกอย่าง ฮ่าๆ”

    (ครับ พ่อคนเก่ง พ่อคนดี พ่อคนสูงโปร่ง) ไอ่ฟายยย ห้ามประชดปมด้อยกู


    “แล้วโทรมาไม ว่างหรอสัด”


    (โหหห ทำร้ายน้ำใจกูอ่ะพีม กว่ากูจะทำใจกล้าโทรหามึงได้)


    “ฮะๆ ทำไมต้องทำใจด้วยวะ กลัวเสียงรอสายกูกินตับมึงรึไง”


    (ยิ่งกว่านั้นอีก มึงอยู่ไหนวะ)


    “อยู่บ้านดิ ถามโง่ๆ ฮ่าๆ”


    (เชี่ยพีมแม่งกวนตีน มึงอยู่เชียงใหม่ใช่มั้ย)


    “เยสเซ่อ”


    (อยากไปเที่ยวเชียงใหม่จัง)


    “หืม มาสิ เดี๋ยวกูเป็นไกด์ให้คิดค่าตัวไม่แพงหรอก สนป่าวๆ”


    (ให้ไปจริงเหรอ)


    “จริงสิ จะมาวันไหนก็บอกละกัน กูจะพาเหล่สาว สาวเชียงใหม่มีแต่แจ่มๆทั้งนั้น เดี๋ยวป๋าพีมจัดให้”


    (งั้นพรุ่งนี้เจอกัน ฮ่าๆ)
    แหม หัวเราะระรื่นเชียวนะมึง


    “พรุ่งนี้เลยเหรอ” ใจร้อนไปไหนครับท่าน


    (อืม พอดีกูมาทำธุระกับพ่อที่แม่ฮ่องสอน เดี๋ยวแวะไปหา)


    “ไอ่ฟาย มึงตั้งใจจะมาอยู่แล้วอ่ะดิ”

    (ฮะๆ รู้ทันอีก แล้วถ้ากูจะค้างด้วยซักสองสามคืนละ ได้มั้ย)


    “โหยเชี่ย แม่งทำเป็น มึงจะอยู่เป็นเดือนก็ไม่มีใครว่าหรอก ตกลงมาจริงๆใช่มั้ย”
    ผมจะมีเพื่อนแล้ว จะไม่เหงาแล้ว


    (ครับ)


    “เออๆ รีบมาๆ งั้นกูไปบอกแม่ก่อนนะว่าเพื่อนจะมาเที่ยวบ้าน แม่กูคงจัดงานต้อนรับมึงเลยว่ะคลื่น ฮ่าๆ”


    (งั้นเหรอ ฝากขอบคุณคุณแม่ล่วงหน้าด้วยนะ)


    “อืม ได้ๆ ว่าแต่มึงจะมาพรุ่งนี้จริงๆนะ” ได้ยินเสียงมันหัวเราะเสียงสดใส


    (อยากให้กูไปขนาดนี้ มึงเหงาละสิไอ้เปี๊ยก)


    “ก็
    ……” ถ้าจะบอกว่ามาก เหงามาก มันจะว่าผมอ่อนแอมั้ย


    (พีม)



    “หื้ม”






    (
    …..คิดถึงนะ)
     
     








    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>
     







    ………………………………….
     




    ภูมิเอ๊ย แกมันอยู่ไกล ใครบางคนเค้าใกล้กว่า หึหึ


    ตอนที่แล้วต้องขอโทษเรื่องภาษาเหนือของตอนที่แล้วด้วยนะคะ Y_Y ตาลไม่ใช่คนเหนือก็เลยให้เพื่อนที่อยู่เหนือช่วย อาจจะทำให้เจ้าของภาษารู้สึกไม่ดี ตาลต้องขอโทษจริงๆคะ ยังไงก็จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น ขอบคุณทุกคำติชมนะคะ
    ^^


    ปล กรุณาอย่าถามตาลว่า”จะรวมเล่มไหม” แต่ควรถามว่า “มึงจะแต่งจบมั้ยคะอีตาล” กร๊ากกกกกกก

    วันนี้พี่ตาลคนสวยก็มีรูปพีมหลังตัดผมมาให้ดูด้วยคะ ภูมิไม่หวงก็บ้าแล้ว แต่ว่าหวงไปก็เท่านั้นแหละ
    คึคึ


     


    อันนี้ตัดผมเสร็จแล้ว

     




    อันนี้แถม อิอิ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×