ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 22 คนพิเศษ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46.71K
      225
      25 ก.พ. 54







    ตอนที่
    22 คนพิเศษ



     
    สุขสันต์วันแห่งความรักย้อนหลังนะครับ ได้ข่าวว่าไอ้เชี่ยแทนมาทำเสี่ยวหรอครับ อย่าไปหลงมันจนลืมผมล่ะ  แล้วผมได้อะไรจากแฟนในวันวาเลนไทน์น่ะเหรอครับ พูดแล้วโคตรฮา ขอฮาก่อนนะ กร๊ากกกกกกก
     

    ผมได้ต้นไม้ครับ อยู่ในกระถางน่ารักน่าชังเชียว วันนั้นไอ้ภูมิมาหาผมที่บ้านบอกจะพาไปกินข้าว พอผมเข้าไปนั่งในรถปุ๊บ ภูมิก็ก้มหน้า ทำตัวแปลกๆ ไม่ยอมออกรถ ซักพักมันก็ยื่นของบางอย่างมาให้ผม พร้อมกับพูดประโยคที่ผมจะจำไปชั่วชีวิต
     



    “ของขวัญวันวาเลนไทน์ นี่ต้นรักของกู ดูแลดีๆนะ”
     



    ผมรับกระถางว่านหางจระเข้มาถือไว้แบบงงๆ มันขียวๆลายๆหางยาวหนามแหลมมาเลย ตอนนั้นบอกตรงๆผมไม่รู้ว่าจะซึ้ง อึ้ง ฮา หรือจะอะไรดี ภูมิมันคงเอามาไว้ให้ผมทาแผล ไม่ก็พอกหน้ามั้ง
     


    แต่ แม่เจ้า!!! แฟนกูเห็นว่านหางจระเข้เป็นต้นรัก พอนึกได้ผมก็ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นรถ มันก็งอนหน้างอ ผมก็ขำจนน้ำตาน้ำลายไหล ปวดลิ้นปี่กับกรามมาก แต่พอถามไปถามมา เล่นเอาฮาไม่ลง
     


     “กูรู้ว่ามึงชอบต้นไม้ แต่ไม่รู้ว่าชอบต้นอะไร ไม่กล้าถามเพราะอยากเซอร์ไพร์ คนขายบอกว่าให้ซื้อต้นไม้ที่เหมือนแฟน กูบอกเค้าว่าแฟนกูใจดี เป็นคนง่ายๆอยู่ใกล้ๆแล้วมีความสุข ว่านหางจระเข้ดูแลง่าย โตเร็ว แล้วก็อายุยืน กูอยากให้ความรักของเราเป็นแบบนั้น ถึงมันจะดูเรียบง่าย แต่ก็มีคุณค่า ก็อยากให้เราเป็นแบบนี้นานๆ”
     


    กุหลาบ เดซี่ ลิลลี คาเนชั่นดูจืดไปเลยละสิเมื่อเจอน้องว่านจระเข้  ผู้ชายอย่างไอ้ภูมิโรแมนติกได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ผมสัญญานะว่าจะดูแลต้นรักต้นนี้อย่างดี แต่ถ้าสิวขึ้นวันไหนพ่อจะเด็ดให้หางขาด เอามาทาหน้าซะให้เข็ด คึ
     


    ส่วนผมก็ให้ที่ห้อยโทรศัพท์ ที่เป็นตุ๊กตาเด็กผู้ชายแกะจากกะลามะพร้าว ซื้อตอนไปเที่ยวหัวหินนั่นแหละครับ ตั้งใจว่าจะให้นานแล้ว
     

    พอได้ของไอ้ภูมิก็หายงอน มันคงชอบมาก บอกว่าประหลาดดี ผมเห็นมันชอบจับไอ้ตุ๊กตาไม้ขึ้นมาดู แล้วยิ้มคนเดียว เหมือนเป็นเพชรเก้าสิบกะรัต นี่แหละครับ วันแห่งความรักของผม
     





    ………………....…………………..
     






     
    วันนี้นัดรวมพลผ่อนคลายสมองก่อนสอบในวันพรุ่งนี้ ก่อนสอบหนึ่งวันพวกผมมักไม่อ่านหนังสือ แต่จะหาความสำราญให้ชีวิต เลยมาสุมหัวกันที่ร้านกาแฟของผม เราเลือกนั่งข้างนอก เพราะอยากใกล้ชิดต้นไม้ใบหญ้า ความจริงคือกลัวลูกค้าโต๊ะอื่นรำคาญ เพราะพวกผมคุยกันเสียงดัง
     



    สาวๆที่ร้านก็สดชื่นกันถ้วนหน้า นอกจากจะมาลัลล้าแล้ว พวกผมจะมาปรึกษาวางแผนเป็นกามเทพให้ไอ้น้องเต้ย วันนี้เลยไร้เงาหัวหล่อๆของไอ้คิว



    ระหว่างรอคาปูชิโน่ของไอ้แทน โทรศัพท์ผมก็แผดเสียงลั่น เบอร์ใครวะ
     



    “สวัสดีครับ” ผมรับโทรศัพท์พร้อมกับจัดแก้วกาแฟร้อน กาแฟเย็นแปดแก้วให้อยู่ในถาดเดียว พี่หนิงทำปากบอกว่า เอาไปทีละครึ่งเดี๋ยวหก

    ……………….


    “ฮัลโหล ได้ยินมั้ยครับ”

    (พูดเพราะจัง)
    อ้าว เวลารับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ ก็ต้องพูดเพราะสิ
     

    “ใครอ่ะ”

    (ผมเป็นพนักงานจากธนาคารไทยพานิชย์ โทรมาสอบถามความพึงพอใจของลูกค้าครับ) ผมหลุดขำ เชี่ยตัวไหนอำกูเนี่ย

     
    “ไอ้หนึ่ง”

    (พอใจกับบริการของเรามั้ยครับ) มันยังเล่นต่อ แสดงว่าไม่ใช่
     
    “เชี่ยโจ”

    (ปกติฝากเป็นออมทรัพย์หรือรายวัน)
     

    “แม่งใครวะ ไม่บอกกูวาง”

    (หึหึ กูเอง คลื่น) คลื่น
    ? คลื่นไหนหว่า อ๋ออออ
     

    “สัด ว่างมากหรอมึง” เกือบลืมมันไปเลยแฮะ

    (หึ น้อยใจว่ะ จำกูไม่ได้)
     

    “เอ๋า ก็เสียงจริงๆกับในโทรศัพท์มันไม่เหมือนกันนี่หว่า”

    (เหรอออ แล้วทำไรอยู่)
     

    “คุยกับหมา”

    (โห เก่งเนอะ พูดกับหมารู้เรื่อง ระวังมันเลียปากนะ ฮ่าๆ)
     

    “เชี่ย ตกลงมีไร”

    (จะบอกเรื่องไปค่าย ลงชื่อให้ด้วย สามคน)
     

    “อ่อ ได้ๆ”

    (แล้วมึงไปมั้ย)
     

    “ไปดิ”

    (เหรอ ดีจัง)
    หืม ดีงั้นเหรอ มันคงหมายถึงไปด้วยกันคงสนุกดีล่ะมั้ง
     

    “คุยกับใคร”  อ้าวเวร ไอ้ภูมิมาตอนไหนวะ

    “คุยกับเพื่อน
    ….เออมึง เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ พอดีกูมีธุระว่ะ”


    (อ๋อ อืมๆ งั้นเจอกันวันเข้าค่ายนะ)


    “อืม เจอกัน บาย” ผมวางสายจากไอ้คลื่นแล้ว แต่ภูมิก็ยังจ้องหน้าผมอยู่ ไรวะ เมื่อกี้มันยังยิ้มหวานให้พี่อ้อมอยู่เลย มาหน้าบึ้งใส่กูทำไม


    “ไมมองงั้นอ่ะ คุยกับเพื่อนจริงๆคร้าบบบ มันโทรมาบอกเรื่องไปค่าย” ผมเขย่งตัวโอบไหล่ภูมิ โดนมันเขกหัวกลับ

    “อย่าให้รู้นะว่ามีชู้ กูฆ่าทิ้งแม่งทั้งคู่”


    “โหย โหดว่ะ ไม่มีครับพี่ครับ มาช่วยกูยกถาดกาแฟเร็ว”
     
     

    “เฮ้ย ตัวอะไรเข้าฝันมึงวะปัน” ทันทีที่วางถาดกาแฟลง ไอ้แทนก็ร้องทัก พวกผมหันไปตามเสียงทักของมัน เห็นไอ้ปันกำลังเดินยิ้มหน้าบานมายืนกอดอกโชว์
    หัวสีดำของมันกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนและถูกเซ็ทมาอย่างดี “กูนึกว่าพระเอกหนังเกาหลี”
     

    “ไอ้แทนแม่งตาถึง กูบอกพี่เค้าว่าให้เอาแบบเกาหลี” นี่ไม่รู้หรอว่าพวกกูประชด
    หึหึ ไอ้มิคมือซนจับผมไอ้ปันมาดูใกล้ๆ แล้วก็เบะปาก พวกผมก็นั่งขำ
     

    “เหรอ ร้านไหนวะ พรุ่งนี้กูจะได้ไปตัดมั่ง”
    …..ตัดน้ำตัดไฟแล้วเผาร้านทิ้ง ไอ้เชนก้มมากระซิบกับผมสองคน ฮ่าๆ
     

    “แถวสยามซอยสี่ เดี๋ยวกูพาไปก็ได้ พี่เค้าบอกว่าหน้ากูอินเตอร์ ทำแล้วเหมือนซีวอน” ไอ้ปันทำหน้าจริงจังมาก ไม่รู้ว่ามันเชื่อคนง่ายหรือหลงตัวเอง ถึงผมจะไม่ค่อยสันทัดเรื่องเกาลงเกาหลีเท่าไร แต่ก็มั่นใจว่าไอ้ปันมันไม่เหมือนแน่นอน
     

    “ซีวอนไหนวะ”
     

    “ไอ้ฟ่างแม่งลาว มึงไม่รู้จักซีวอนหรอ เค้าเป็นนักร้องวงดงบังชินกิ วงเดียวกับนิชคุณไง”
     

    “ใช่หรอพี่ปัน” ไอ้แมทรีบแย้ง
     

    “ใช่สิ ใช่แน่นอน แล้วพี่เค้าก็บอกว่ากูทำทรงนี้แล้วเกิด” มันยังเพ้อต่อไป
     

    “ก่อนมีเกิด มันต้องมีดับนะปัน มันเป็นสัจธรรม แล้วอีกอย่างถ้ากูจำไม่ผิด ไอ้คนที่ชื่อซีวอนอะไรเนี่ยมันอยู่คนละวงกับนิชคุณนะ” ไอ้แทนส่ายหัวเอือมระอา  แต่ไอ้ปันมันก็ไม่สะท้าน มันเอาหน้าไปใกล้ๆภูมิเหมือนจะเทียบกัน

    “กูหล่อมั้ยพีม”
     

    “หล่อ” ผมกัดฟันพูด ไอ้หล่อหลบใน หล่อบาดาล(หล่อลึก) มองด้วยตาเปล่าไม่ค่อยเห็น
    ที่จริงมันหล่ออยู่หรอกนะ ทำสีนี้หน้ามันก็สว่างดี แต่ผมกลัวว่าผมจะทิ่มตามันบอดซักวัน แล้วกูจะรอดูว่ามึงจะขยันเซ็ทผมมาเรียนได้ซักกี่วัน
     
     
     
    …………………………………….



     
     
    “โอ๊ย กูเจ็บนะฟ่าง” พอผมเล่าให้พวกมันฟังว่า วันที่ไปหอจดหมายเหตุผมพูดอะไรกับไอ้เต้ยไปบ้าง ไอ้ฟ่างก็ซัดกบาลผมซะมึนเลย เชี่ย กูจะฟ้องน้องมึง โอย เจ็บอ่ะ


    “สมควรโดนแล้วมึงน่ะ” ไอ้พระเอกเกาหลีรีบทับถมผมต่อ “ ทำอะไรไม่คิด มึงไปพูดแบบนั้นไอ้เต้ยก็รู้ตัวสิวะ มึงแม่งโง่ บื้อ ดักดาน สเล่อ สแหร๋นแต กระแต๊แว๊ด ไม่มีสะ
     

    “พอๆ กูผิด ขอโทษ จบมั้ย แล้วจะให้ทำยังไง”
     
    “ขั้นแรก ไปพาไอ้เต้ยมาให้กูสอบสวน” เชี่ยฟ่าง แล้วทำเป็นด่ากู
     

    เมื่อตกลงกันได้ว่าคงไม่มีวิธีไหนดีไปกว่า พูดกับไอ้เต้ยตรงๆ ฟ่างเลยให้ไอ้แมทโทรเรียกเพื่อนซี้มันออกมา บอกว่าเฮียแทนเลี้ยงกาแฟ รอไม่ช้าไม่นานไอ้เต้ยก็มาถึง ได้ยินเสียงมันทักทายพี่หนิงกับพี่อ้อม ก่อนจะโผล่ออกมาหาพวกผมที่นอกร้าน
     


    “เฮียๆ หวัดดีคร้าบบ ทำไรกันอ่ะ นินทาเต้ยหรอ” ไอ้เต้ยยังคงยิ้มหล่อ ร่าเริงเหมือนอย่างเคย เห็นแล้วก็ไม่อยากพูดเรื่องที่จะทำให้มันไม่สบายใจเลยว่ะ
     

    “เต้ยมานั่งนี่มา นั่งข้างเฮียนี่” ไอ้เต้ยก็เดินมานั่งกับไอ้แทนอย่างว่าง่าย แต่ไอ้น้องแมทนี่หน้าซีดแล้ว มันคงกลัวเพื่อนโกรธ
     

    “ไอ้แมท ไหนมึงบอกว่าวันนี้จะไปหากูที่บ้านไง ทำไมมากับพวกเฮียได้วะ”


    “อ่อ กู พอดีพี่พีมเรียกกูมา” ไอ้แมท ไอ้น้องเวร โยนอะไรมาให้กูเนี่ย
     

    “อืม กูชวนมันมากินเค้ก เลยให้มันโทรเรียกมึงมาด้วยไง เฮ้ยแทนมึงมีเรื่องจะคุยกับน้องไม่ใช่เหรอ คุยดิ”ไอ้แทนตวัดตามาจ้องผม ช่างแม่ง โยนให้พ้นตัวกูเป็นพอ
     

    “ไอ้เบียร์คุยสิ มึงจบโรงเรียนเดียวกันไม่ใช่เหรอ”


    “อ้าว ไอ้มิค ไอ้ฟ่าง ไอ้ภูมิก็เป็นรุ่นพี่มันเหมือนกัน มึงพูดดิภูมิ”
     

    “เฮ้ย ให้ไอ้เชนดิ มันเรียนหมอ” มึงแถไม่ได้เรื่องเลยภูมิ


    “เชี่ยภูมิ กูเรียนหมอแล้วเกี่ยวไรวะ” ไอ้เต้ยก็มองหน้าคนนั้นที คนนี้ที มันคงงง
     

    “พอๆกูพูดเอง” นี่ๆ พระเอกข้าวฟ่างออกโรงเองครับ
     

    “เอ่อ พวกเฮียเป็นไรกันเนี่ย จะแกล้งเต้ยหรอ เต้ยสู้นะบอกไว้ก่อน ฮ่าๆ”

    “ไม่ได้แกล้งแต่มีเรื่องจะถาม”


    “ถามไรหรอ ยากป่ะ”

    “ไม่ยาก แต่ตอบตรงๆนะ”


    “โอเค”
     
    “เต้ย”

    “ครับเฮีย”

    “กูจะพูดตรงๆนะ”


     “เอ่อ ครับ”
     




    “มึงรักไอ้คิวใช่มั้ย”
    เงียบ บรรยากาศวิเวกวังเวงขึ้นมาทันที
     



    ไอ้เต้ยนิ่งแข็งอ้าปากค้าง หน้าซีด ก่อนจะหันไปมองไอ้แมท หน้าไอ้น้องแมทเหมือนอยากตายมาก
     

    “กูขอโทษนะเต้ย กูไม่ได้ตั้งใจบอกพวกพี่ๆนะ กูเมา
    ….แล้ว แล้วมันหลุดปากไป”
     


    “อย่าไปโกรธไอ้แมทเลย พวกเฮียอยากช่วยมึงนะ แต่ถ้าเต้ยไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร เฮียไม่บังคับ แค่อยากให้รู้ ว่าพี่ชายอย่างพวกกูเอาใจช่วยมึงเสมอนะ”
     


    คิดว่าคำพูดดีๆแบบนี้เป็นของใคร ไม่ใช่ไอ้ปันแน่นอน คุณชายเบียร์สุภาพบุรุษของเรานั่นเอง ไอ้เต้ยยังคงก้มหน้านิ่งเงียบ พวกผมก็ได้แต่มองหน้ากัน
    เงียบตามไปด้วย
     
     

    “ไอ้เต้ย
    !!!!!” แต่อยู่ๆไอ้ปันก็โผล่พรวดไปตะโกนใส่หน้าน้อง ไอ้เต้ยผงะตกใจกระโดดไปเกาะแขนไอ้แทน อย่าว่าแต่ไอ้เต้ยเลยที่ตกใจ พวกผมก็สะดุ้งกันเป็นแถบๆ
     

    “มึงจะตะโกนหาพ่อหรอสัด อยู่ใกล้กันแค่นี้” ไอ้ฟ่างถีบขาไอ้ปัน ส่วนไอ้เต้ยก็นั่งหน้าตื่นอยู่ท่ามกลางเหล่ากามเทพทั้งหลาย เหอๆ กูก็ช่างกล้าเรียกตัวเอง
     


    “อิอิ กูเห็นมันนั่งเงียบๆ อยากทำให้เสียขวัญเล่น” เอากับมันสิ คิดได้เนอะ
     

    หลังจากนั้นก็เงียบกันไปอีก ไอ้เต้ยมันคงไม่อยากพูด เฮ้อ พวกผมก็ไม่น่าไปจู่โจมน้องมันแบบนั้นเลย


    “มึงไม่ต้อง
    ….
     




    “เต้ยรักพี่คิว”
    พวกผมอึ้งกันหมด ไม่มีเสียงอะไรเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำนี้จากปากเจ้าตัวจริงๆ
     
     





    “เต้ยกับพี่คิว เราเคยเป็นคนพิเศษของกันมาก่อน”
     
     






    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
     
     



    …………………………………………….
     


    รักใสๆซึ้งๆในอดีตของน้องเต้ยกับพี่คิวกำลังจะมา บรรดาเฮียๆทั้งหลายก็ช่วยน้องด้วยนะจ๊ะ แต่ไอ้ตัวต้นเรื่องมันยังไม่รู้ชะตาชีวิตมันเล้ย คึคึ อีกสี่วันจะสอบเสร็จ เมื่อนั้นแหละ ที่การลงนิยายจะกลับมาเป็นปกติ คึคึ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×