คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : R 1 8 ll Once the Intersection' กาลครั้งหนึ่งของคนแปลกหน้า ; reborn x hibari - end
… คนสองคน ที่เพียงเดินสวนทางกัน จะจดจำกันได้ยาวนานสักเท่าไหร่…
Once the Intersection : 2nd - end
รีบอร์นนั่งทอดความคิดที่คล้ายจะไม่มีสิ่งใดของตน เสียงกุกกักที่คาดได้ว่าคงจะมาจากการรื้อค้นอะไรสักอย่างของฮิบาริทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่กำลังจะทำต่อไป นึกถึงแววตานิ่งเฉยที่มักจะมองมา อยากจะคิดไปเองว่านั่นคือการเชิญชวนแม้จะรู้ดีแก่ใจว่ามันไม่ใช่ก็ตาม
‘rrrrrrrrrrr’
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นมาทำให้ผู้พิทักษ์เมฆาละความสนใจจากภารกิจตรงหน้า มือขาวคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารของตนมาเพ่งมองก่อนจะชะงักไปชั่วอึดใจเมื่อเห็นว่าผู้ที่โทรเข้ามาคือ บอสใหญ่แห่งคาบัคโรเน่ ดวงตาสีนิลหลุบต่ำลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเลือกยุติเสียงรบกวนน่ารำคาญโดยการตัดสายทิ้ง และปิดสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ในมือตัดช่องทางการติดต่อของอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง การกระทำทุกอย่างของเจ้าของบ้านตกอยู่ในสายตาของแขกผู้มาเยือนที่ยังคงรอคอยอย่างเงียบเฉียบ ทั้งดวงตาสีนิลที่ตวัดมองมาทางเขาก่อนจะตัดสายโทรศัพท์และฟูตองหนึ่งผืนที่ถูกร่างบางกว่ายกมาวางตรงหน้า ทำให้รีบอร์นยกยิ้มเย็นให้กับตัวเอง
บางทีนี่อาจเป็นตลกร้ายเรื่องหนึ่ง
ฮิบารินั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าหน้าฟูตองที่ยังคงนอนกองอยู่ที่พื้นอย่างนั้น จนอีกฝ่ายลุกขึ้นมาจัดการปูมันจนเสร็จเรียบร้อย เขาก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้เขาเพียงแต่ไม่อยากลุกไปไหนเท่านั้น สายตาเฉียบคมของอีกฝ่ายที่สบมาเหมือนจะรู้ความต้องการของกันและกันเป็นอย่างดี
“ว่าไง จะขึ้นเตียงกับฉันรึไง” รีบอร์นกล่าวด้วยน้ำเสียงฟังคล้ายหยอกเย้า
“บ้านผมไม่มีเตียง” ภาษาเถรตรงของอีกคนตรงหน้าทำให้เขาเปล่งเสียงหัวเราะในลำคอ
“ประชดชีวิตงั้นหรอ หรือว่าอยากลองของ” คำถามหยาบโลนไม่ได้ทำให้คนฟังและคนถามรู้สึกกระดากอายเพราะต่างก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่ลึกซึ้งพรรค์นั้น
พยายามค้นหาบางสิ่งที่ยังคงทำให้พวกเขาไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แม้เพ่งพินิจไปทั่วใบหน้าและเรือนกายของกันและกันแต่สิ่งที่ทั้งสองค้นพบก็มีเพียงความว่างเปล่า
น้อยนิดเกินกว่าจะเป็นความชอบ และเฉยเมยเกินกว่าจะเป็นความใคร่
“แล้วไม่ดีหรือไง” คำถามกึ่งเชิญชวนของผู้พิทักษ์เมฆาจุดประกายบางอย่างขึ้นในตัวของนักฆ่าหนุ่ม แม้จะรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่รอยยิ้มของเขาก็ยังคงหยักขึ้น
คงเป็นเพราะแสงจันทร์ในค่ำคืนนี้ที่ส่องสว่างเกินไป จนทำให้เขามองเห็นประกายบางอย่างที่หลบซ่อนอยู่ในดวงตาสีนิลแสนยโสคู่นั้น…
อะไรบางอย่างที่แล่นผ่านสายตาที่สอดประสานของทั้งคู่ดึงดูดร่างทั้งสองเข้าหากัน หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นอีกฝ่าย ทั้งนิ้วเรียวยาวที่ไล้ไปตามริมฝีปากบาง มือขาวที่จับเชยใบหน้าซึ่งกันและกัน รสจูบหวาบหวามกับลิ้นร้อนที่เข้าโรมรัน แน่นอนว่ามันไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่าความรัก
“ไม่เคยงั้นหรอ” คำถามซื่อตรงหลุดออกจากปากร่างสูง แม้อีกฝ่ายจะดูเร่าร้อนชำนาญการเพียงใดแต่มันช่างดูเหมือนกับการเสแสร้งในสายตาเขา
ฮิบาริเพียงมองหน้าคนถามไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ มือขาวเอื้อมไปปลดสายโอบิของตัวเองออกอย่างเนิบช้า ตามด้วยยูกาตะเนื้อดีจนกระทั่งไม่เหลืออาภรณ์ใดบนผิวกายเปลือยเปล่า
ค่ำคืนหนึ่ง กับคนที่เพียงเดินสวนทางมาเจอกัน
มือแกร่งรั้งเอวคนถือดีเข้ามาใกล้ ตระกองกอดรัดกันไว้ในอ้อมแขน ผิวกายที่สัมผัสกันแนบแน่นส่งผ่านความร้อนจากเบื้องล่าง ความอ่อนไหวไวต่อสัมผัสที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้เห็น
คนสองคน ที่แทบไม่มีตัวตนในชีวิตของกันและกัน… คงไม่ต่างอะไรกับการมีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้า
เสียงหัวใจที่เต้นดังระรัว ลมหายใจกระชั้นหอบถี่ แผ่นอกที่กระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุดหย่อน และร่างกายที่เคลื่อนเข้าหากัน กระแทกกระทั้นคล้ายอยากจะรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายให้มากที่สุด ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงรู้สึกต้องการกันและกันมากมายขนาดนี้
ราวกับว่าโหยหา… ในสิ่งที่เหมือนกัน
ร่างกายกระตุกเกร็งครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับสายธารแห่งกาลเวลาที่หลั่งไหลอย่างไม่มีสิ้นสุด แม้สุขสมเพียงใดแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขารู้ดี คือค่ำคืนนี้จะต้องจบลง
แล้วก็กลับกลาย… เป็นคนแปลกหน้าอีกครั้ง
ไม่มีการโอบกอดอย่างรักใคร่ ไม่มีจุมพิตหวานเชื่อม สิ่งที่พวกเขาทำมีแค่หยิบเสื้อผ้าของตนมาใส่อีกครั้ง เนิบช้าราวกับต้องการถ่วงเวลา ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างนั้นไปทำไม ดวงตาทั้งสองสบกันในความว่างเปล่า พวกเขาไม่ได้รู้จักตัวตนของกันและกันมากขึ้นแต่อย่างใด แต่สิ่งเดียวที่ได้รู้… รู้โดยตลอดมา คือพวกเขาเหมือนกันมากเกินไป
ฮิบาริยันตัวลุกขึ้นจากฟูตอง ไร้ซึ่งบทสนทนาและคำบอกลา เท้าเปล่าก้าวแตะพื้นไม้ตรงไปที่ประตูก่อนที่มือขาวจะเลื่อนบานเลื่อนไม้นั้นออกช้าๆ แว่บหนึ่งที่ตวัดสายตากลับมายังร่างสูงโปร่งของรีบอร์นที่ทอดสายตามองเขาอยู่อย่างเงียบงัน
ไม่คิดผลักไส แต่ก็ไม่คิดจะเหนี่ยวรั้ง
ความสัมพันธ์บางเบาชั่วข้ามคืน ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดที่ทำให้มันเกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนสองคนหยุดเดินต่อไปในเส้นทางของตัวเองได้ บางทีเมื่อแสงแดดยามเช้าของวันพรุ่งนี้มาถึง…พวกเขาอาจลืมกันและกันไปแล้ว
ความคิดหยุดลงเมื่อดวงตาทั้งสองต่างละออกจากกัน ขายาวที่ก้าวออกไป ร่างที่ล้มตัวลงบนฟูตอง ประตูที่ถูกปิดลง และชีวิตของพวกเขาที่ยังคงดำเนินต่อไป
ไปตามทางของตน
.
.
.
คล้ายว่าเวลาจะหมุนเปลี่ยนมาเนิ่นนาน แต่ก็ไม่ต่างกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ภายในโถงรับรองชั้นสูงสุดของผู้บัญชาการวองโกเล่ ร่างโปร่งของชายหนุ่มนามฮิบาริ เคียวยะ ยังคงเดินก้าวไปด้วยจังหวะที่มั่นคง เอกสารในมือกับเครื่องเรือนอิตาลีและบรรยากาศแสนอึมครึมที่ยังคงทอดยาวเรื่อยไปจนสุดผืนพรมแดงทำให้เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์บางอย่างในอดีต
อีกไม่ไกลเท่าไหร่จะถึงห้องทำงานของคนที่ดำรงตำแหน่งบอสใหญ่แห่งวองโกเล่ ฉับพลันความรู้สึกบางอย่างก็ฉายชัด เมื่อเสียงกระทบของรองเท้าอื่นนอกเหนือจากตัวเองดังขึ้น ปรากฏเงาร่างของใครบางคนทอดยาวมา กับตัวตนที่เขาเคยคิดว่าคุ้นตา
… คนแปลกหน้าสองคน จะจดจำกันได้ยาวสักนานเท่าไหร่…
ดวงตาสีนิลที่จับจ้อง กับดวงตาคมที่หรี่ลงเล็กน้อย มุมปากที่ถูกยกขึ้น ฝ่ามือที่ชื้นเหงื่อ และร่างของอีกฝ่ายที่คงกำลังเข้ามาใกล้ในอีกไม่ช้า
มันเป็นเรื่องตลกร้ายอีกเรื่องหนึ่ง...
.
.
.
พวกเขาเดินสวนทางกันอีกแล้ว
__________________________________________
มีการถมดำ(?)เล็กน้อย ฮา ลากคลุมแล้วอ่านเอานะคะ
ในที่สุดก็จบลงกับ R18 คู่ที่ไรท์เตอร์ชอบคาแรคเตอร์ตัวละครมาก
เพราะในสายตาไรท์เตอร์ถ้าจะถามว่าใครคือตัวละครที่หล่อที่สุดใน khr จะตอบว่ารีบอร์นตอนโตแบบไม่ลังเลเลยค่ะ
มีเสน่ห์ และมีเซ็กซ์แอพพีลสูงมากๆ (เถื่อน เท่ เซ็กซี่ หล่อโฉด ขนาดนี้ จะฮิจะป๋าก็ชิดซ้าย ฮา)
แอบเห็นมีคนมาขอ D85 น่าสนใจค่ะ ไรท์เตอร์ก็ชอบคู่นี้... แรร์ดี
ขอว่างเว้นจากคุณเคียวแปปนึง รู้สึกจะแต่งฮิบาริบ่อยมาก ตอนต่อไปถ้าไรท์เตอร์ไม่เปลี่ยนใจซะก่อน(555) น่าจะได้เห็น D85 แน่คะ
ความคิดเห็น