{ BLOCK B } 00 BACK TO DECEMBER || PYOTAE ♡ - { BLOCK B } 00 BACK TO DECEMBER || PYOTAE ♡ นิยาย { BLOCK B } 00 BACK TO DECEMBER || PYOTAE ♡ : Dek-D.com - Writer

    { BLOCK B } 00 BACK TO DECEMBER || PYOTAE ♡

    ถ้าหากคำว่าตลอดไปใช้ได้เฉพาะกับแวมไพร์ ผมยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เป็นแวมไพร์ ผมอยากจะรักษาคำนี้ไว้ให้กับแทอิล รัก..ตลอดไป..

    ผู้เข้าชมรวม

    596

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    596

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    18
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ม.ค. 58 / 17:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    pyotae fiction  
    ถ้าหากคำว่าตลอดไปใช้ได้เฉพาะกับแวมไพร์
    ผมยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เป็นแวมไพร์
    ผมอยากจะรักษาคำนี้ไว้ให้กับแทอิล
    รัก..ตลอดไป..

    contact ; @Kawhmak_ 
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      TITLE :: BACK TO DECEMBER

      COUPLE :: P.O x TAEIL

      WRITER :: KAWHMAK

      STATUS :: 100%

       

      ผมปล่อยให้หิมะเย็นๆพัดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง แต่ผมกลับฝังตัวอยู่ในที่นอน เฝ้าคิดถึงวันเก่าที่มันก็ผ่านเลยมานานแล้วพลันน้ำตาก็ไหลเม็ดใสก็หยดแหมะลงบนหมอน หิมะแรกของปี ผมเคยกอดร่างกายอุ่นๆของอีกคนท่ามกลางหิมะแรกที่หนาวจะแทบจะขาดใจตาย แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจมันอบอุ่นจนแทบจะไม่ต้องการเตาผิงเลย

       

      แต่นั่นมันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว

        

      “จีฮุนถ้าหิมะแรกของปีตกเราจะทำอะไรกันดีล่ะ” เสียงหวานเอ่ยปนตื่นเต้นท่ามกลางลมอุ่นๆของซัมเมอร์ คนร่างใหญ่ปรือตาผ่านแว่นกันแดดสีดำเข้มมองอีกคนที่กำลังนอนเท้าคางทับตัวเขาพลางจ้องมองใบหน้าของเขา จีฮุนกระตุกยิ้มบางก่อนจะยกแขนแกร่งขึ้นกอดร่างบางอย่างเต็มรัก

       

      “ทำแบบนี้”

       

      เสียงหวานหัวเราะคิกคักก่อนจะเริ่มชวนอีกคนคุยด้วยเรื่องสัพเพเหระ กลางชายหาดสีเหลืองน้ำตาล จีฮุนในชุดกางเกงตัวเดียวนอนพริ้มให้แสงแดดเผาร่างขาวซีดของตัวเอง และอีแทอิลตัวน้อยของเขากำลังกลิ้งตัวมานอนทับแขนหนั่นกล้ามของจีฮุนอย่างสบายใจ

       

      “ร้อนๆแบบนี้อยากกินน้ำปั่นหวานๆจังเลยน้า”

       

      พโยจีฮุนดันอีกคนให้กลิ้งไปบนชายหาดก่อนจะดันตัวเองให้ลุกขึ้น แขนแกร่งเอื้อมไปช้อนตัวอีกคนขึ้นพลันเสียงร้องด้วยความตกใจของแทอิลตัวน้อยก็เหวลั่น ใบหน้าหวานกระแทกเข้ากับหน้าอกแกร่งของอีกคนทันที ก่อนจะได้ตั้งสติอะไรร่างเล็กๆนั่นก็ถูกเหวี่ยงลงน้ำทะเลสีใสดังตู้ม ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะของผู้กระทำอย่างจีฮุน

       

      “อุส่าห์ให้พามาทะเล แต่ดันไม่เล่นน้ำทะเลมันหมายความว่ายังไงครับ”

       

      แทอิลรีบตะกายน้ำขึ้นมาอย่างเอาเป็นเอาตาย น้ำทะเลสีใสแล่นเข้าปากเข้าจมูกจนรู้สึกเค็มปร่า เสียงหวานเหวลั่นก็จะกระโจนไปดึงตัวอีกคนคนล้มลงมาด้วย ร่างของทั้งคู่ฟัดนัวเนียกันอยู่ใต้น้ำก่อนที่จีฮุนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง อีแทอิลหัวเราะลั่น ขาเรียวกอดเอวอีกคนไว้แน่นราวกับลูกลิงตัวน้อย แขนแกร่งของร่างสูงกอดรอบเอวอีกคนไว้แน่นกันร่วงลงไป จมูกโด่งเป็นสันของจีฮุนปัดผ่านปลายจมูกของแทอิลอย่างนึกแกล้ง

       

      พโยจีฮุนมองใบหน้าอีกคนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น รอยยิ้มเล็กๆของแทอิลถูกกลืนหายไปด้วยริมฝีปากของเขา ดูดดุนเบาๆให้ริมฝีปากสีสวยนั้นเปิดออกก่อนจะเข้าไปก่อกวนลิ้นเล็กๆของแทอิลตัวน้อยอยู่ภายใน กอบโกยความหอมหวานในโพรงปากอย่างเต็มที่ ราวกับว่าความรู้สึกในหัวใจกำลังล้นออกมาจนแทบไม่รู้สึกว่าแสงแดดยามเย็นกำลังแผดเผาทั้งคู่ นานเท่าไหร่ก็ไม่แน่ใจ ก่อนที่แทอิลตัวน้อยจะประท้วงอื้ออึงเพราะพโยจีฮุนกอบโกยออกซิเจนของเขาไปซะจนหมด หากแต่จะปล่อยไปง่ายๆก็คงไม่ใช่ทัศนิวิสัยของจีฮุนสักเท่าไหร่ ฟันคมงับเบาๆที่ริมฝีปากอีกคนเป็นการบอกลาก่อนจะถอนจุมพิศอันหอมหวานออก

       

      ใบหน้าหวาแดงก่ำด้วยความเขินอาย ริมฝีปากเจ่อรีบโกยออกซิเจนเข้าปอด จีฮุนมองใบหน้านั้นด้วยรอยยิ้มน้อยๆ กระซิบคำหวานชิดใบหู “..น่ารัก..”

       

      คนตัวเล็กยกยิ้ม “แล้วรักไหม?”

       

      “รักกว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้วล่ะ”

       

       

      ถ้าหากคำว่าตลอดไปใช้ได้เฉพาะกับแวมไพร์ ผมยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เป็นแวมไพร์ ผมอยากจะรักษาคำนี้ไว้ให้กับแทอิล รัก..ตลอดไป..

       

       

      ลมเย็นๆในฤดูหนาวทำให้อีแทอิลต้องกระชับเสื้อโค้ทตัวหนาของตัวเองเข้ามาอีก ขาเรียวกระโดดไปมาเพราะความหนาวเย็นชะเง้อคอมองคนรักของตัวเองที่หายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ พยากรณ์อากาศรายงานเมื่อเช้าว่าวันนี้อาจจะเป็นวันแรกของปีที่มีหิมะตก เพราะอย่างนั้นคนตัวเล็กจึงรีบลากอีกคนให้ออกจากเตียงมาเดินท้าลมหนาวในสวนสาธารณะแห่งนี้

       

      รอไม่นานนักพโยจีฮุนก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับไอศกรีมสองแท่ง เมื่อครู่พนักงานขายทำหน้าแปลกใจเมื่อเขาหยิบไอศกรีมออกมา คนตัวสูงยื่นไอศกรีมสีสวยให้แทอิลอย่างนึกหมั่นไส้ “ถ้าไม่สบายขึ้นมาล่ะก็นะจะจับฉีดยาให้ตายไปเลย”

       

      คำดุแทบจะไม่มีความหมายเพราะคนถูกดุกลับหัวเราะเสียงใสเสียอย่างนั้น รอยยิ้มหวานๆนั้นทำให้จีฮุนนึกจะว่าต่อไม่ออก มือน้อยๆรีบแกะไอศกรีมตรงหน้าออกมาจากถุง “ใครกินหมดก่อนชนะ”

       

      สิ้นเสียงเจ้าตัว ไอศกรีมแท่งสวยก็ถูกเจ้าตัวงับทันทีในขณะที่จีฮุนยังไม่แม้แต่จะทันแกะซองของตัวเองออกมา ขี้โกงอย่างเห็นได้ชัด

       

      “ไอ้หมูเอ้ย” จีฮุนเอาไอศกรีมของตัวเองที่ยังไม่ทันได้แกะซองเคาะเบาๆที่ศีรษะของคนตัวเล็ก

       

      “โอ้ย เย็นอ่ะ” ใบหน้าหวานยู่ปากเพราะความเย็นของไอศกรีม

       

      ใบหน้าหวานขาวซีดเพราะความเย็นแต่พวงแก้มและปลายจมูกของเจ้าตัวเท่านั้นที่กำลังแดงเปล่ง นึกอยากจะก้มลงไปฟัดให้สะใจ คนตัวสูงค่อยๆแทะเล็มไอศกรีมในมืออย่างช้าๆ ในขณะที่เจ้าตัวยื่นไม้เปล่ามาโชว์ตรงหน้าด้วยความดีใจก่อนจะร้องเย้ยหยันอย่างสะใจ

       

      “แทอิลลี่ชนะ ชนะ ชนะ ชนะ” เจ้าตัวเล็กซี๊ดปาก “โอ้ยย เย็นอ่ะ”

       

      “ทำงี้สิจะได้หายเย็น” พลันจบประโยคร่างสูงของจีฮุนก็ล้มลงจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากแดงปลั่ง

       

      อีแทอิลทุบหน้าอกแกร่งเบาๆด้วยความตกใจเรียกเสียงหัวเราะจากร่างสูงได้ไม่น้อยเพราะใบหน้าหวานกำลังแดงไปทั้งหน้า จีฮุนโยนไอศกรีมในมือทิ้งไปเพราะไม่อยากจะต่อสู้กับความเย็น คนตัวน้อยดึงมือของอีกคนมากุมไว้แน่นก่อนจะเร่งให้ออกเดิน ริมฝีปากสีสวยยังคงเอ่ยเจื้อยแจ้วอย่างไม่ยอมหยุดตามประสานิสัยพูดเก่งๆของเจ้าตัว

       

      “จำได้ไหมว่าถ้าหิมะแรกตกจีฮุนจะทำอะไร”คนตัวน้อยพูดเสียงใส

       

      “จำได้สิ”ก่อนที่มือนุ่มนิ่มจะโดนกระตุกโดยแขนแกร่ง

       

      ร่างเล็กถลาเข้ากระแทกกับอกแกร่งดังปั้ก จีฮุนโอบคนตัวเล็กไว้อย่างเบามือพร่ำกระซิบคำบอกรักอย่างที่เจ้าตัวทำอยู่ทุกวัน ราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่แตกหักไปได้ง่าย พโยจีฮุนจะยังคงประคองมันไว้อย่างเบามือ ไม่ว่าจะถึงเมื่อไหร่ พโยจีฮุนจะไม่มีทางทำให้ตุ๊กตาตัวน้อยได้แตกหักลงไปอย่างเด็ดขาด สัญญา

       

      อีแทอิลอมยิ้มหวานก่อนจะสัมผัสถึงความเย็นที่ตกลงมากระทบ.. หิมะ...

       

       

      หากแต่คำสัญญา.. ผมทำมันไม่ได้ตลอดไป

       

      อะไรบางอย่างมันดันผมให้ลุกขึ้น หยิบเสื้อโค้ทตัวโปรดที่แทอิลมักจะชอบยอผมว่าผมใส่ตัวนี้แล้วมันดูดีนักหนา ผมลูบใบหน้าเหนื่อยล้าของตัวเองอย่างหมดแรง ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาซีดเซียวราวกับคนป่วยดวงตาโปนเพราะการเสียน้ำตาไปเยอะ ริมฝีปากสีคล้ำจากบุหรี่แห้งแตก ไหนจะหนวดเคราที่เริ่มขึ้นอยู่รำไร ถึงแม้มันอาจจะดูโฉบเฉี่ยวในสายตาบางคนก็เถอะ.. แทอิลไม่ชอบมัน

       

      ผมตัดสินใจถอดเสื้อโค้ทตัวใหญ่ของผมลงแล้วลากตัวเองเข้าห้องน้ำไป การอาบน้ำในรอบสองถึงสามวันก็เกิดขึ้น ท้องไส้ร้องโครกครากประท้วงร่างกายใหญ่ที่ไม่ค่อยป้อนอาหารมัน ผมเลือกที่จะหยิบเสื้อสเวตเตอร์สีเลือดหมูที่ถักด้วยไหมพรมมาสวมกับยีนส์สีดำพร้อมกับโค้ทตัวใหญ่สีเทาดังเดิม หนวดเคราถูกโกนออกไปแล้วทำให้ใบหน้านั้นดูดีกว่าเดิมขึ้นมานิดหน่อย ผมลูบใบหน้าสีซีดของตัวเองพร้อมกับพร่ำคิด

       

      ไม่เคยคิดเลยว่า ใครสักคนจะมามีอิทธิพลเหนือจิตใจของผมขนาดนี้

       

      ขายาวๆลากพาตัวผมออกจากคอนโดกว้าง เดินเรื่อยๆจนมาถึงร้านสะดวกซื้อ บางทีผมควรจะหาอะไรให้กระเพาะตัวเองบ้าง ผมกวาดสายตามองขนมปังที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นอย่างเลื่อนลอย ลำไส้ปวดแสบปวดร้อนไปหมด แต่ปากกลับไม่อยากจะให้มีอะไรผ่านลงไป ก่อนที่มือของผมจะเอื้อมไปหยิบเพียงนมกล่องเล็กๆแทน หางตาเหลือบไปเห็นตู้แช่ไอศกรีมที่วางนิ่งอยู่ในมุมเก่าๆของมันในใจก็นึกโหวงขึ้นมาเสียอย่างนั้น

       

      ผมหยุดยืนมองตู้ไอศกรีม มือเลื่อนเปิดฝาตู้อย่างเคย ก่อนจะเอื้อมลงไปหยิบไอศกรีมรสโปรดของอีกคนขึ้นมาถือไว้ ถึงแม้ผมจะไม่ชอบมัน แต่ผมกลับอยากกิน... หรือบางทีผมแค่รู้สึก.. คิดถึง

       

      “ชอบกินสตอร์เบอร์รี่เชอเบทตั้งแต่เมื่อไหร่”

       

      ถ้าหากว่ามันคือฝัน

       

      “สบายดีไหม? พโยจีฮุน”

       

      มันคงจะเป็นฝันที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้สึกมา

       

       

      ภายในร้านกาแฟเล็กๆใกล้ๆร้านสะดวกซื้อนั้น ผมนั่งมองหน้าอีกคนราวกับเห็นตัวประหลาด ใบหน้าหวานซูบผอมลงไปบ้างแต่ยังคงความน่ารักไว้ไม่เปลี่ยน ปลายผมสลวยสีดำสนิทยาวระต้นคอถูกเจ้าตัวมัดเป็นจุกเล็กๆไว้ ดวงตาเรียวสวยที่เคยสดใสนั้นมีแววหมองลงไปอยู่เล็กน้อย

       

      “ฉันเดินผ่านมา..” คนตัวเล็กเปิดบทสนทนาทำลายความเงียบ “ไม่คิดว่าจะเจอ”

       

      ผมทำได้เพียงแค่ประคองตัวเองไม่ให้ตัวสั่น.. ไม่รู้เพราะอะไร.. ผมเหมือนกับคนบ้าที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

       

      ริมฝีปากสีสวยกระตุกยิ้มหวานอย่างที่ชอบทำ ก่อนจะก้มลงจิบกาแฟร้อนๆ “เกือบจะปีนึงแล้วเนอะ”

       

      “..แทอิล..”ผมเอ่ยเรียกอีกคนด้วยเสียงแหบพร่า แทบจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าคือเขาจริงๆ “คือ..ว่า..”

       

      “นายผอมลงไปตั้งเยอะ.. หัดกินข้าวบ้างสิ”

       

      “.......คิดถึงนะ...”

       

      “อื้มม”รอยยิ้มหวานปรากฏให้เห็นทำเอาผมใจชื้นขึ้น ก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ “แต่ว่าฉันต้องไปแล้วล่ะ พอดีนัดเพื่อนไว้” สิ้นประโยคขาเรียวก็ยันตัวเองขึ้นเต็มความสูง มือนุ่มที่เคยสัมผัสโบกมือไปมาช้าๆ

       

      “เดี๋ยวสิแทอิล..” ผมร้องเรียกเบาๆ “พรุ่งนี้.. ว่างไหม?”

       

      ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลงเบาๆเป็นการตอบรับก่อนจะยกมือขึ้นแนบหูเป็นสัญลักษณ์ ก่อนจะรีบเดินออกจากร้านไป.. จริงสิ.. ผมไม่เคยแม้แต่จะโทรหาเขาเลยสักครั้ง.. ไม่ใช่ว่าไม่คิดถึง.. หากแต่ความผิดที่ผมทำไว้มันหนักเกินกว่าที่ผมจะบากหน้าไปขอความเห็นใจจากอีกคน.. ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิด..

       

       

      “จะไปไหนน่ะ”

       

      เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเบาๆด้วยความไม่สบอารมณ์ถ้าหากมองนาฬิกาตอนนี้เวลาก็ปาไปเกือบจะเที่ยงคืนแล้วแต่แทอิลจู่ๆก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวเสียอย่างนั้น จีฮุนมองร่างเล็กที่กำลังสาวะวนอยู่กับการหาของใส่กระเป๋า

       

      “อ๋อ..จีฮุนคือว่า” ร่างเล็กหันขวับมามองหน้าร่างสูงที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง “ซิโค่เขา..ประสบอุบัติเหตุน่ะ”

       

      “โดนจริงหรือแค่สำออยล่ะ”

       

      “จีฮุน!!!”ร่างเล็กร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ “พูดอะไรออกมาน่ะ ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลย!

       

      พโยจีฮุนไม่ใช่คนงี่เง่า แต่สำหรับซิโค่ จีฮุนไม่ไว้ใจ ไม่เคยไว้ใจ และจะไม่ไว้ใจตลอดกาล ถ้าหากถามว่าซิโค่เป็นใครก็ขอตอบง่ายๆว่าแฟนเก่าของเจ้าตัวน้อยคนนี้เอง แน่นอนจีฮุนมีสิทธิ์ที่จะหึงหวง

       

      “ไม่ให้ไป” จีฮุนเอ่ยเสียงเรียบ มองอีกคนที่ยืนค้างเติ่งอยู่กลางห้องนอน

       

      แทอิลผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ “นี่จีฮุน ฟังฉันนะ คือว่าทางโรงพยาบาลเขาโทรมา.. ฉันต้องไป”

       

      “เหอะ” ดวงตาคมกรอกไปมา “ไม่มีพ่อไม่มีแม่หรือยังไงทำไมต้องมาวุ่นวายกับแฟนคนอื่น”

       

      “พโยจีฮุน!!!” เสียงหวานแผดลั่นอย่างเหลืออดร่างเล็กเดินกระแทกเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะง้างมือขึ้นจนสุดวงแขน “ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะตบปากนาย!!

       

      จีฮุนจ้องใบหน้าหวานที่เริ่มเหยเกพร้อมกับมือเล็กๆที่สั่นสะท้าน “แน่สิ แฟนเก่าทั้งหล่อทั้งเท่ห์..”

       

      เพี้ยะ!!!

       

      “...”เสียงยียวนกวนประสาทเงียบลงทันทีเมื่อมือเล็กๆของแทอิลฟาดเข้าที่ข้างแก้มอย่างรุนแรงจนหน้าหันไป

       

      “..อย่ามา..อย่ามา..อย่ามางี่เง่ากับฉันแบบนี้นะ!!

       

      “...หึ...”ใบหน้าของจีฮุนชาวาบจนแทบจะไม่รู้สึกอะไร”อยากไปก็ไปสิ”

       

      “....”

       

      “...”

       

      “...”

       

      “แล้วก็ไม่ต้องกลับมา”

       

       

      ถ้าหากว่าผมสามารถยอนเวลาได้ ผมสาบาน... ว่าผมจะไม่ปล่อยให้เขาเดินหายไปอีก

       

      หิมะเย็นๆตกลงมาสู่พื้นดินอย่างไม่มีท่าทีจะหยุด ผมเหยียบมันจนรู้สึกถึงก้อนน้ำแข็งที่เย็นเยียบอยู่ใต้รองเท้าหนังของตัวเอง ผมว้าวุ่นเกินกว่าจะนอนอยู่แค่ในห้อง ยอมรับว่าตั้งแต่เจอแทอิลเมื่อวานทำให้จิตใจของผมอยู่ไม่เป็นสุขเท่าไหร่นัก ยิ่งพบว่าอีกคนนั้นไม่ได้เกลียดตัวผมอย่างที่จินตนาการไว้ก็รู้สึกเหมือนอาการหายใจไม่ออกที่เป็นมาตลอดนั้นหายไปแล้ว

       

      จริงๆแล้วผมไม่ได้นัดแทอิลไว้อย่างที่ใจต้องการ ครับผมไม่ได้นัดเขาไว้ แต่เป็นเขาต่างหาก ที่ส่งข้อความมา ผมมาถึงก่อนเวลานัดราวๆหนึ่งชั่วโมง ผมยืนอยู่ในซอยข้างๆร้านกาแฟที่เราพบกันเมื่อวาน ผมค่อนข้างแปลกใจที่เขานัดผมออกมา มันค่อนข้างแปลกในหลายๆอย่าง

       

      “มาเร็วดีนี่”

       

      หากแต่คนที่โผล่มากลับไม่ใช่อีแทอิล

       

      “...”

       

      ร่างสูงใหญ่สมกับเป็นชายหนุ่ม

       

      “ไง จำกันได้หรือเปล่าล่ะ”

       

      เสื้อกล้ามสีขาวตัวบางโดนทับเพียงโค้ทหนังสีดำที่ไม่หวั่นเกรงกับความหนาวเย็นของหิมะเผยให้เห็นรอยสักพาดยาวตรงหน้าอก

       

      “....ซิโค่”

       

      “หึ..”

       

      ผลั้วะ!!!

       

      จู่ๆหมัดหลุนๆก็ตรงเข้าฟาดมุมปากผมอย่างจังจนผมถลาล้มไปทางด้านหลัง ก่อนจะตั้งสติขึ้นได้คอเสื้อของผมก็ถูกอีกคนดึงกระชากให้ลุกขึ้นพร้อมกับรับหมัดอีกระลอก คราวนี้มันตรงเข้ากระแทกโหนกแก้มขวาจนถึงรู้สึกมึน ผมเซถลาล้มลงกระแทกพื้นอีกรอบ

       

      ผมดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน มองใบหน้าอีกคนที่ดูเหมือนจะโกรธเกลียดผมมาทั้งชีวิต “อะไรของแกวะ!!!

       

      แทนที่จะได้คำตอบผมกลับต้องกระโดดหลบปลายเท้าของอีกคนที่ออกแรงถีบมา “ยังจะต้องถามอีกหรือไง”

       

      หลบไปก็เท่านั้นเท้าอีกข้างของซิโค่ถีบหน้าท้องผมอย่างจังจนรู้สึกได้ว่าท้องไส้กำลังจะขย้อนออกมาทางปาก ผมล้มหลังกระแทกกับพื้นอย่างจังจนลุกไม่ขึ้น แทบไม่ต้องรวบรวมกำลังให้เหนื่อย อีกคนก็ถลาเข้ามาขึ้นคร่อมผม ตามมาด้วยแรงต่อยอย่างหนักที่มุมปาก

       

      รสชาติเค็มปร่าของเลือดที่อยู่ในปากทำให้ผมต้องถ่มมันทิ้ง

       

      “..รู้อะไรไหมพโยจีฮุน...” เสียงแหบต่ำของซิโค่ดังอยู่ข้างหู “แทอิลน่ะ...มีค่าสำหรับฉันมากแค่ไหน...”

       

      “....” ผมหมดแรงที่จะต่อต้าน ปล่อยให้อีกคนฟาดกำปั้นลงมาอย่างไม่ยั้ง

       

      “แต่แก...พโยจีฮุน!!!” ผมได้ยินเพียงเสียงกำปั้นหนักๆที่กระทบใบหน้าของผม “...แกทำเขาร้องไห้..”

       

      “....”

       

      “ฉันอุส่าห์ปล่อยเขาไปกับแก!!!

       

      “....”

       

      “ฉันอุส่าห์ปล่อยสิ่งที่ฉันรักที่สุดไปกับแก ไอ้เวร!!!

       

      “....”

       

      “แต่แกกล้าดียังไง ฉันถามว่าแกกล้าดียังไง!!! แก... แก... ”

       

      “....”

       

      “แกทำให้แทอิลร้องไห้ได้ยังไง.... กล้าดียังไง....”

       

      หากว่านี่คือการลงโทษ คงเป็นการลงโทษที่ผมยินยอมที่จะรับมันทั้งหมด

       

      “....”

       

      “ตอบสิวะไอ้สวะ!!!!!!

       

      “ซิโค่!!!!!

       

      ผมไม่สามารถจะเปิดตาขึ้นมองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้ รู้เพียงแค่ว่าร่างหนักๆที่ทับตัวผมลุกออกไปแล้วก่อนจะตามมาด้วยเสียงคนที่ผมคิดถึงแทบขาดใจ ผมพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนแต่พบว่าจมูกของผมมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด พยายามกอบโกยออกซิเจนรอยตัวเข้าปอด ผมได้ยินเสียงหวานๆนั่นโวยวายอยู่สักพัก..ก่อนที่รอบข้างจะเงียบลง

       

      อ่าห์.... ให้ตายสิ ไม่เคยมีใครดวลหมัดชนะซิโค่เลยหรือยังไงนะ

       

      ผมนั่งมองอีกคนที่กำลังยกขวดยาอะไรสักอย่างขึ้นอ่านวิธีใช้พร้อมกับสูดน้ำมูกใหญ่ ดวงตากลมๆนั่นบวมเป่งเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ผมยกยิ้มบางๆเมื่อเห็นว่าอีกคนนั้นไม่เปลี่ยนไปเลย แทอิลยกมือขึ้นขยี้ตาอีกรอบก่อนจะหันมามองหน้าผมพร้อมกับเม้มปากตัวเองจนเป็นเส้นตรง

       

      “เจ็บไหม” เด็กน้อยเอ่ยถามเบาๆ ผมพยักหน้าอีกคนเริ่มเบะปากอีกรอบแล้ว “ขอโทษนะ”

       

      “ขอโทษทำไม” ผมขำเบาๆ “แล้วจะร้องไห้ทำไมเนี่ย หื้ม?”

       

      “ฮึก..ขอโทษนะ” น้ำตาเม็ดใสร่วงเผาะลงจากดวงตาบวมเป่ง “จีฮุนเจ็บไหม ฮึก..ฮือ..”

       

      ผมปัดน้ำตาเม็ดใสให้ออกจากใบหน้าน่ารัก “ร้องไห้ทำไมครับ ใครโดนต่อยมากันแน่เนี่ย”

       

      “...”คนตัวเล็กสะอื้นไห้จนตัวสั่น

       

      “ทำแผลให้หน่อยสิ” ผมลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆ “นะ”

       

      แทอิลค่อยๆทำแผลบนใบหน้าให้ผมช้าๆ แต่ดวงตานั้นยังคงฉ่ำน้ำอยู่ไม่หาย ริมฝีปากบางนั้นเม้มกลั้นสะอื้นจนเป็นเส้นตรง จมูกรั้นๆสูดน้ำมูกจนแดง ผมซี๊ดปากเบาๆเมื่อแอลกอฮอร์แตะโดนแผล เมื่อพูดถึงแผล ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงก่อน หลังจากที่ผมโดนอัดจนแทบตายแทอิลก็โผล่เข้ามาพอดีเพราะว่าเห็นข้อความที่ซิโค่แอบส่งมาให้ผม แทอิลเลยจัดการบังคับให้ซิโค่หอบผมมาส่งให้ถึงห้องถึงแม้จะไม่เต็มใจมาก็ตาม พอซิโค่โยนผมลงบนโซฟาได้ก็หายออกไปแล้ว เหลือเพียงผมกับแทอิลตัวน้อยๆที่นั่งกลั้นสะอื้นอยู่ตรงนี้

       

      “เสร็จ..เสร็จแล้ว” คนตัวเล็กปิดกล่องปฐมพยาบาลก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าของผมอยู่พักใหญ่

       

      “โดนต่อยขนาดนี้ไม่หล่อแล้วล่ะ ฮ่าๆ” ผมกลั้วหัวเราะเบาๆ รู้สึกปวดตรงมุมปากจนต้องร้องซี๊ด

       

      “งั้นฉัน...กลับก่อนนะ”

       

      สิ้นเสียงคนตัวเล็กก็ดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน มือคงไวเท่าความคิด ผมเอื้อมไปคว้าข้อมืออีกคนไว้อย่างแรงจนคนตัวเล็กเซถลาล้มลงทับผมอย่างจัง ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนแทอิลคงจะหัวเราะร่าแล้วฟาดผมเข้าอย่างจังแท้ๆ แต่ตอนนี้ผมได้ยินเพียงสะอื้นไห้เบาๆที่ข้างหู คนตัวเล็กไม่ได้ขืนตัวออกไปแต่อย่างใด แทอิลยอมปล่อยให้ผมกอดอยู่อย่างนั้น ผมรู้สึกถึงน้ำตาของอีกคนที่เปียกชื้นอยู่ตรงหัวไหล่ มันทำให้ผมอึดอัดในอก

       

      “ชู่ว...” ผมลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆ “ไม่ร้องแล้ว”

       

      “จีฮุน..ฮึก.. ใจร้าย..”

       

      จริงๆเวลาคนพูดว่าได้ยินเสียงคนที่รักร้องไห้แล้วเหมือนโดนค้อนใหญ่ๆทุบลงกลางศีรษะผมไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกหนักกว่านั้น ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ผมกลับหายใจไม่ออก มวนท้องมันตีกันมั่วไปหมด ในอกก็แน่นราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมา

       

      “ขอโทษ...จีฮุนขอโทษนะครับ” แขนแกร่งของผมกระชับอ้อมกอดคนตัวบางที่นั่งอยู่บนตัก “ขอโทษนะครับ”

       

      “..ฮึก..ฮือ” อีกคนยกแขนขึ้นโอบรอบคอของผมก่อนจะออกแรงสะอื้นไห้อย่างหนัก “ทำไม..ไล่แทอิลทำไม...ฮึก”

       

      สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำเอาใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย “ขอโทษ..ขอโทษ..ไม่ร้องนะ ขอโทษนะครับ”

       

      “อื้ออ..รู้แล้ว..”

       

      เด็กน้อยพยักหน้า ผมดันตัวอีกคนออกมา ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา จมูกรั้นๆนั้นแดงจนน่าหมั่นเขี้ยว นิ้วยาวๆของผมค่อยๆเกลี่ยคราบน้ำตาให้ออกไป แต่ยิ่งดูเหมือนเช็ดออกไป น้ำตาหยดใหม่ก็ไหลออกมาแทนที่ ผมยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรั้งใบหน้าอีกคนเข้ามาใกล้

       

      จมูกเล็กๆแตะปลายจมูกของผม หน้าผากของผมชิดกับของเขา กลิ่นแชมพูอ่อนๆประจำตัวของเขาลอยเข้ามาแตะจมูกของผม จนอดใจไม่ได้ที่จะกอบโกยมันเข้าปอด

       

      ..คิดถึง...

       

      “จีฮุน..อื้อ..”

       

      คำพูดทั้งหมดถูกผมกลืนลงคอ คนตัวเล็กเผยอปากโกยลมหายใจด้วยความตกใจ เปิดโอกาสให้ผมได้กอบโกยความหอมหวานที่แสนจะคิดถึง รสจูบที่ไม่ได้เชยชิมมานานเหมือนเป็นกับดักให้ตกลงไปในหลุมดำที่ดูดสติผมให้สิ้น ลิ้นเล็กที่คอยตวัดหนีเหมือนกำลังเล่นสนุกอยู่กับคนที่มากประสบการณ์กว่า เสียงดูดเม้มทำเอาคนตัวเล็กเขินอาย แขนที่โอบรอบคออ่อนเปลี้ยลงกำหัวไหล่ผมแน่น ถึงแม้จะเคยแต่ก็ยังไม่ประสานัก

       

      “อึก..อื้อ..เดี๋ยว..หายใจ..หายใจไม่ทัน”

       

      ผมยกยิ้มบางมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่พยายามกอบโกยเอาออกซิเจนรอบข้างเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย แก้มกลมขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก ไม่ปล่อยให้มีช่องว่างมากนักไม่ทันได้นับหนึ่งถึงสาม ผมก็จงใจรั้งอีกคนเข้ามาอีกระรอก ผมงับริมฝีปากบางราวกับจะแกล้ง ดูดเม้มซ้ำๆราวกับจะย้ำเตือนว่าที่ผ่านมาผมคิดถึงเขามากแค่ไหน

       

      ผมสาละวนชิมอาหารหวานของโปรดอยู่ไม่จบสิ้นจนแทอิลต้องเป็นคนถอนจุมพิตอันยาวนานนี้ออก คราบน้ำตาจางหายไปแล้ว ถ้าหากว่าใครสามารถอดใจไม่ให้ก้มลงไปฟัดแก้มกลมๆนั่นได้ผมก็ต้องยอมรับว่าเก่งมาก เพราะว่าตัวผมมัน..ไม่เก่งเอาซะเลย

       

      “งื้อ จีฮุน” มือเล็กๆนั่นออกแรงดันให้ผมที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มเขยิบออกห่าง แน่นอน ผมไม่ทำ “หยุดนะ..อ๊ะ!

       

      “น่ารัก...”

       

      แทอิลเม้มปากแน่นก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนัก “แล้วรักไหม?”

       

      “..รักที่สุด..”

       

      “...”

       

      “แล้วรักไหม?”

       

      อยากจะขอบคุณพระเจ้า

       

      “รักกว่านี้...”

       

      ที่ให้โอกาส...

       

      “....”

       

      ให้ผมได้ดูแลเขาอีกครั้ง

       

      “ก็ไม่มีอีกแล้วล่ะ”

       

      ผมสัญญา..

       

      “หื้ม? แฟนใครทำไมน่ารักจังครับ”

       

      จะไม่มีทาง..

       

      “แฟนพโยจีฮุนครับ”

       

      ให้เขาต้องเสียใจอีกครั้ง

       

       

      เม้ามอยยยยยยย

      ;; สวัสดีค่ะ 5555555555555 หัวเราะทำไม? ไม่รู้ มันตื่นเต้นง่ะ ฮ่า แนะนำตัวก่อนหน่อย เค้าชื่อ ข้าวหมาก นะตัว ไม่บอกอายุหรอก อุบไว้ นี่เป็นฟิคบล็อคบีเรื่องแรกที่เขียนเลย มอยก่อนว่าเรื่องนี้มาจากการอินเพลง back to December ของเทเลอร์มากๆ ส่วนตัวชอบคู่พโยแทสุดดด ฟิคก็หาอ่านยากซะเหลือเกิน เอาน่ะ แต่งเองซะเลย ลองชิมรางด้วยช็อทฟิคซักเล็กน้อยก่อนละกัน สนองความต้องการของตัวเอง ชอบไม่ชอบยังไงติเตียนกันได้นะคะ ต้องมีแท็คมะ ? ช็อทฟิคไม่ต้องมีก็ได้เนอะ

      ติดต่อกันได้ทางนี้ ทวิตเตอร์โลย แวะมาเม้ามอยกันได้ตามประสาเด็กขี้มโน @Kawhmak_

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×