[Fic HBD Allen] I need somebody
ฟิคสั่วๆคับ สั่วไม่สั่วดูชื่อฟิคก็รู้แล้ว - -^ สิ้นคิดสุดๆ นั่งปั่นแทบตาย สุดท้ายก็ไม่ทันวันที่ 25 TAT ปั่นฟิคไปด้วย พิมพ์เรียงความไปด้วย ตรูวจาบ้าตายยยย(เขาให้อธิบายเรื่องไอ้นี่ระบายอารมณ์ซะงั้น =_=)
ผู้เข้าชมรวม
698
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คุยกันก่อนนะกั๊ฟ
อภัยให้ข้าน้อยด้วย ข้าน้อยเพิ่งจะสอบมิดเทอมเสร็จมาหมาดๆ สมองเบลออย่างแรง+การบ้านกองพะเนิน พิมพ์อะไรผิดไป ตกหล่น รึไม่ถูกใจก็บอกได้งับ (เพราะข้าน้อยพิมพ์ไปสับปงกไป ใครเล่นเอ็มด้วยคงรู้) >.< จะพยายามปรับปรุง เผื่อว่าวันหลังจะมีฟิคYติดเรทออกสู่สายตาท่านๆบ้าง เอิ๊กๆ ฟิคนี้เป็นฟิคแรกงับ ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจท่านๆด้วยน้า ขอบคุณกั๊ฟ
----------------------------------------------------------------------
ละอองหิมะสีขาวพิสุทธิ์บางเบาค่อยๆโรยตัวลงมาจากฟากฟ้าสีขาวหม่น สีขาวโพลนปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ เช่นเดียวกับความหนาวเย็นจับขั้วหัวใจนั่น
นัยน์ตาสีขี้เถ้าหม่นหมองเช่นเดียวกันกับสีของท้องฟ้ายามนี้ได้ทอดมองไปยังเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย ฝ่ามือบางที่วางบนระเบียงหินอ่อนเย็นเฉียบนั้นขาวซีดเพราะความหนาว หากแต่เจ้าตัวกลับไม่ใส่ใจเลยซักนิด
//...กี่ปีแล้วนะ...// อเลนถามกับตัวเอง ก่อนจะหลุบตาลงต่ำมองพื้น ...นาน...นานมาก.. หากแต่ยังชัดเจนอยู่ในห้องความทรงจำ ทุกอณูของความรู้สึกยังแจ่มชัดราวกับวันวารที่เพิ่งจะผันผ่านไป.. แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ยังไม่อาจจะลืมเลือน..
มือซ้ายสีแดงถูกยกขึ้นมาช้าๆ ดวงตาสีขี้เถ้าจดจ้องราวกับว่าจะสามารถดึงเอาวันวารที่ผ่านไปแล้วให้หวนกลับมาได้ //...มานา...// นิ้วมือทั้งห้าถูกรวบเข้าหากันแน่น ความทรงจำราวกับจะตอกย้ำหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลให้เจ็บช้ำไปมากกว่านี้ ..ใช่..มันผ่านมาแล้วหลายปี แต่กระนั้นเขาก็ไม่อาจลืม คงได้แต่ปล่อยให้เกาะกินหัวใจให้บอบช้ำอยู่ร่ำไปยามหวนรำลึกถึง.. ภาพของมานาที่โอบกอดและกล่าวต้อนรับเขาทุกครั้งที่เขากลับมาบ้าน.. ภาพของกล่องของขวัญชิ้นแรกในชีวิตบนฝ่ามือใหญ่ที่ยื่นมาทางเขา..
“อเลน จากนี้ไป วันเกิดของเจ้าคือวันที่ 25 ธันวา นะ” เด็กน้อยรับกล่องของขวัญมาไว้ในมือพลางเงยหน้าขึ้นมองบิดาของตน ร่างสูงย่อเข่าลงมาในระดับสายตาของเด็กน้อย “วันที่ 25 เป็นวันที่เราพบกันครั้งแรกไง จำไม่ได้เหรอ” เด็กน้อยในความทรงจำของอเลนยิ้ม พร้อมๆกับที่อเลนยิ้ม แต่ต่างกันตรงที่รอยยิ้มของเด็กหนุ่มเป็นรอยยิ้มที่เศร้าสร้อย...
“มานาฮะ ยังงี้ผมก็เป็นเท็ตดี้แบร์สิฮะ... เท็ตดี้แบร์น่ะถือเอาวันที่ตั้งชื่อให้เป็นวันเกิด..” ชายหนุ่มขยี้ผมสีน้ำตาลนุ่มมือเล่น “สุขสันต์วันเกิดนะ อเลน” “สุขสันต์วันคริสต์มาสฮะ มานะ”...มานา..คนที่รักเขา แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กที่มีมือซ้ายสีแดงฉานราวโลหิต..ไม่เคยแม้จะนึกรังเกียจเหมือนกับคนอื่นๆ.. ภาพความทรงจำเมื่อครั้งแรกที่ได้ของขวัญของอเลนยังคงวนเวียนในหัวทุกครั้งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส หากแต่หลายๆปีที่ผ่านมานี้ อย่างน้อย เสนาธิการครอสก็ยังพอจะมีอารมณ์ลุกขึ้นมาฉลองหรือหยุดพักผ่อนกะเขาบ้าง
ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในศาสนจักรแห่งความมืด นี่ก็เป็นคริสต์มาสแรก และแม้ว่าอเลนจะไม่ได้หวังอะไร แต่เขาก็อดเศร้าใจไม่ได้...นอกจากมานาแล้ว จะมีใครรักเขาบ้าง?.. การตายของมานาครั้งที่สองนั้นเป็นฝีมือเขา เป็นความผิดของเขาเอง เป็นบาปที่ใหญ่หลวงนัก บาปที่ต้องชดใช้ด้วยการอยู่คนเดียว...กระนั้นหรือ? ตอนนี้ ถึงใครจะมาว่าเขาว่าอ่อนแอ แต่เขาก็กล้าที่จะยอมรับว่า ตอนนี้เขาต้องการมานา ต้องการคนปลอบใจ คนที่จะอยู่ด้วย แล้วยิ่งกับความทรงจำเก่าๆที่ตามมาหลอกหลอนราวกับจะช่วยตอกย้ำความรู้สึกผิดนั้นด้วยแล้ว เขายิ่งต้องการสักคนเป็นที่สุด
“..เลน...อเลน..อเลน!!!” พลันเสียงหนึ่งก็ดึงเขาออกจากภวังค์ ร่างบางหันไปหาต้นเสียงทันที “คะ ครับ?” อเลนพูดตะกุกตะกัก “เป็นอะไรรึป่าว ยืนเหม่อเชียว” ราวี่ชายหนุ่มเจ้าของผมสีแดงเพลิง และดวงตาสีมรกตที่มักจะฉายแววระยิบแบบคนขี้เล่นเสมอๆ หากแต่ยามทอดมองคนตรงหน้ากลับอ่อนแสงลงอย่างบอกไม่ถูก
“อะ เอ่อ หิมะตกสวยดีนะครับ” พูดเสร็จก็ฉีกยิ้มกว้างตามแบบฉบับ หากแต่นั่นก็ยังไม่สามารถตบตาทายาทบุ๊คแมนได้ “ถ้านายมีอะไรไม่สบายใจก็บอกกันได้นะ...” ราวี่ทิ้งช่วงไว้เล็กน้อยเผื่อว่าคนตรงหน้าจะอยากเล่า ‘อะไร’ ให้เขาฟัง หากแต่ก็ไม่ ราวี่ถอนหายใจเล็กน้อย “แล้วเจอกันที่ห้องอาหารนะ” พูดพลางหมุนตัวจากไป “ครับ..แล้วเจอกัน” ดูเหมือนว่าประโยคนี้ อเลนจะพูดกับตัวเองมากกว่าที่จะตอบราวี่
ร่างบางเหลี่ยวกลับไปยังทุ่งหิมะขาวโพลนนั่นอีกครั้ง ในใจส่วนที่ยังเป็นเด็กของอเลน ภาวนาให้เขาได้เจอร่างสูงใหญ่หากแต่อบอุ่นของมานาเดินย่ำหิมะอีกครั้ง หากแต่ก็ไร้วี่แวว...เขารู้.. รู้มาตั้งนานแล้วว่า คนต้องสาปอย่างเขาคงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวจริงๆ... ร่างบางถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวช้าๆ เพื่อเดินไปยังโรงอาหารของศาสนจักร พร้อมกับรอยยิ้มที่ระบายอยู่เต็มหน้าเพื่อปกปิดความหนาวเหน็บในใจ..อีกครั้ง...
----------------------------------------------------------------------
“เหมือนเดิมใช่มั๊ยฮ้า~ ” แจรี่ หัวหน้าพ่อครัวกระดี้กระด้าขึ้นมาทันทีที่อเลนโผล่เข้ามาในรัศมีการมองเห็นของเธฮ(?)
“อะ..เอ่อ ขอแค่ สตูเนื้อชามใหญ่พิเศษ 3 ชาม แล้วก็.... กับ....” แม้ว่ารายการอาหารของอเลนวันนี้จะขึ้นต้นด้วย ‘ขอแค่’ แต่หัวหน้าพ่อครัวกลับไม่คิดว่ามันจะต่างจากปกติเท่าใดนัก รายการยังคงเหมือนเดิมเกือบทั้งหมด เพียงแต่ลดปริมาณลงเท่านั้น
“เป็นอะไรรึป่าวจ๊ะ อเลนคุง วันนี้สั่งน้อยนะ” แต่จนแล้วจนรอด การพยายามทำตัวเป็นปกติของอเลนก็ยังถูกสังเกตได้อยู่ดี ในใจอเลนแทบจะไม่ได้ปฏิเสธเลยว่าเขารู้สึกอยากอาหารน้อยลง อาจจะถึงขั้นไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลยก็ว่าได้ หากแต่เขาก็ยังไม่อยากจะให้ใครมารับรู้เรื่องในใจพวกนี้
แจรี่หันไปเริ่มต้นทำอาหารตามที่ได้รับออเด้อมา หลังจากที่อเลนส่ายหน้าปฏิเสธเจ้าหล่อน ปล่อยให้อเลนจมดิ่งสู่ห้วงของความคิดและความทรงจำอีกครั้ง จนกระทั้ง...
“โซบะที่” เสียงห้วนๆดังขึ้นข้างตัว หากเป็นยามปกติเขาคงจะหงุดหงิดทีเดียว ที่มีเอ็กโซซิสท์ปากเสีย ขี้โวยวาย แถมยังเย็นชาคนนี้อยู่ใกล้ๆ หากแต่ในยามนี้ แม้แต่สายตาเย็นชาคมปลาบเชือดเฉือนคู่นั้น ที่ถูกส่งมา เขาก็ยังไม่สนใจ
“รอก่อนนะจ๊ะ คันดะคุง เดี๊ยนทำให้พ่อหนูอเลนเค้าก่อน เดี๋ยวก็เสร็จแล้วจ๊ะ วันนี้อเลนเค้าสั่งไม่กี่อย่างเอง” แจรี่บอกกับคันดะที่ชักสีหน้าหงุดหงิดอีกตามเคย “ชิ!” แล้วสายตาคมปลาบก็ถูกส่งมายังอเลนอีกรอบ
//...จะว่าอะไรผมก็เชิญครับ..ผมมันพวกต้องสาบอย่างที่ว่าจริงๆนั่นแหละ ผมฟังจนชินแล้ว...// แม้แต่ตัวเขาเองยังแอบแปลกใจเล็กน้อยกับความปลงตกของตัวเอง เมื่อนึกถึงครั้งแรกที่เข้ามาในศาสนจักรแห่งนี้ และได้รับคำด่า(?)เป็นการต้อนรับอย่างดีจากเอ็กโซซิสท์ชาวญี่ปุ่นที่ยืนอยู่ข้างๆเขายามนี้
“ไปรับจ็อบทดลองยาตัวใหม่ของโคมุอิมารึไงเจ้าถั่วงอก... อย่าเป็นอะไรไปซะล่ะ..” อเลนหันขวับอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง คนอย่างคันดะเป็นห่วงคนอื่นเป็นกะเขาด้วยเหรอ?! และโดยเฉพาะกับคนอย่างเขาด้วยแล้ว...?!!
“มองอะไรของนาย ไอ้ถั่วงอก เอ็กโซซิสท์ยิ่งมีน้อยคนอยู่ ขืนนายตายไปดิ ชั้นกับเอ็กโซซิสท์ที่เหลือก็ได้มีภารกิจเพิ่มขึ้นกันพอดี” คันดะบ่นมุบมิบยังกะเด็กบ่นเรื่องการบ้านเยอะจนไม่มีเวลาวิ่งเล่น
//...แล้วถ้าผมไม่ใช่เอ็กโซซิสท์ล่ะ ทุกคนจะยังห่วงผมอยู่รึป่าว...// อเลนตั้งคำถามกับตัวเองอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ..ไม่ว่าจะอย่างไร คนต้อสาบอย่างเขาก็ไม่มีใครรักอยู่แล้ว....
----------------------------------------------------------------------
เวลาล่วงเลยจนราตรีเข้ามาทักทายตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ตัวอเลนเองก็ไม่รู้ เพราะวันนี้เป็นคืนวันคริสต์มาสอีฟ โคมุอิจึงให้ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ ถือเป็นของขวัญวันคริสต์มาสเล็กๆน้อยๆ เขาเลยเอาแต่นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆภายในห้องของเขาในศาสนจักรทั้งวัน ในหัวร่างบางมีแต่ภาพเมื่อครั้งอดีตที่วนเวียนเข้ามาอยู่ไม่ขาด หิมะหยุดตกไปนานแล้ว แต่พื้นที่รอบๆก็ยังคงเป็นสีขาวโพลนของทุ่งหิมะ อเลนออกมารับอาการหนาวที่เขาคิดว่าน่าจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น
นาฬิกาเรือนใหญ่ที่ไม่รู้ว่าอยู่มานานแค่ไหนแล้วด้วยสภาพทรุดโทรมเช่นนั้น หากแต่ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างเที่ยงตรงราวกับจะเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ยังมีแรงได้ฮึดสู้ก็ไม่ปาน บอกเวลายี่สิบสามนาฬิกาสามสิบห้านาที
//..วันพรุ่งนี้ก็วันเกิดเขาแล้วสินะ..// อเลนหลับตาลง พลางคิดถึงคำพูดนั้นของมานา...
“ยืนตากลมแบบนั้นอยากเป็นหวัดตายรึไงเจ้าถั่วงอก!” พลันเสียงที่เป็นของใครไปไม่ได้นอกจากของคันดะก็ดังขึ้นที่ข้างหลังอเลน
“ห่วงจะว่ามีตัวหารแบ่งไปทำภารกิจน้อยรึไงครับ” คันดะไม่ตอบ หากแต่ยื่นเสื้อกันหนาวมาให้ “ใส่ซะ!” ประโยคคำสั่งสั้นๆง่ายๆตามแบบฉบับที่ค่อนข้างจะขัดกับการกระทำ อเลนหันไปสบตากับดวงตาสีรัตติกาลที่บัดนี้หลบสายตาเขาเช่นปกติ แต่เหตุผลที่หลบสายตาในคราวนี้นั้น คงจะไม่เหมือนกันเป็นแน่แท้ อเลนรับเสื้อกันหนาวไปใส่อย่างว่าง่าย ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็ทอดสายตามองไปคนละทาง ราวกันเมื่อกี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
มีเพียงความเงียบระหว่างทั้งคู่ นาน..เนิ่นนาน... จนในที่สุด
“ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าเมื่อก่อนนายไปเจออะไรมาบ้าง... แต่ในเมื่อนายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ลืมเรื่องพวกนั้นซะ” คันดะพูดขึ้นทำลายความเงียบ อเลนสังเกตได้ถึงความห่วงใยเล็กๆในประโยคแทงใจนั้น
“พวกโคมุอิเป็นห่วงนายนะ ราวี่ก็ด้วย..เอ็กโซซิสท์คนอื่นๆ... ชั้นก็ด้วย...” ท้ายประโยคนั้นคันดะพูดเบาราวกับจะกระซิบไปกับสายลมหนาว หากแต่ก็ยังไม่สามารถรอดพ้นหูของอเลนไปได้ ร่างบางหน้าขึ้นสีเล็กน้อย “..ห่วงว่าจะต้องมาลำบากหาผู้เชื่อมต่ออินโนเซนท์เพิ่มอีกหนึ่ง” คันดะพูดต่อจนจบ และแม้ว่าประโยคนั้นจะฟังดูทิ่มแทงใจไปสักนิด แต่อเลนก็รู้ว่าคันดะพูดแก้เขินไปอย่างนั้นแหละ ...พ่อคนฟอร์มจัดเอ๊ย!...
อเลนสัมผัสได้ถึงน้ำหนักของอะไรบางอย่างที่วางลงบนไหล่ของเขา ร่างบางเหลือบสายตาไปมอง แล้วก็ต้องตกใจต้อนรับวันคริสต์มาสเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นก็คือ กล่องของขวัญเล็กๆสีแดงผูกริบบิ้นสีขาวเป็นโบว์สวยงามอยู่ในมือของคันดะที่วางบนไหล่ของเขาอยู่ตอนนี้
คันดะโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูอเลนเบาๆ “HAPPY BIRTH DAY, ALLEN” พร้อมๆกันกับที่นาฬิกาโทรมๆเรือนนั้นบอกเวลาเที่ยงคืนพอดี อเลนเข้าสวมกอดร่างสูงตรงหน้าทันที “MERRY CHRISTMAS ครับ คุณคันดะ” ร่างสูงใส่กล่องของขวัญเข้าไปในกระเป๋าเสื้อก่อนจะโอบกอดร่างบางตอบ พลางกระซิบเบาๆ “อย่าทำหน้าแบบนั้นอีกนะ รู้มั๊ยว่าคนอื่นเขาเป็นห่วง อย่าทึกทักเอาเอง นายน่ะ มีคนรักเยอะแยะไป..” บัดนี้อเลนรู้แล้วว่าแท้จริงแล้วคันดะห่วงเขาจะตายไป เพียงแต่ไม่ยอมแสดงออก...จะว่าไป เขาเพิ่งจะรับรู้จริงๆก็วันนี้เองล่ะกระมัง ว่าแท้ที่จริงแล้ว ทุกๆคนรอบๆกายเขาล้วนแล้วแต่มิได้รังเกียจเขาอันใดเลย ตรงกันข้าม กลับเป็นห่วงเป็นใยเขาถึงเพียงนี้ด้วยซ้ำ... มานาครับ..ในที่สุด ผมก็ได้รู้แล้วล่ะครับว่า ถึงผมจะต้องสาบแต่คนพวกนี้ก็ยังรักและห่วงใยผม.. ผมจะเป็นเอ็กโซซิสท์ต่อไปครับ... อเลนกระชับแขนที่โอบกอดคันดะให้แน่นยิ่งขึ้น พลางปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น ..ดีใจเหลือเกิน ที่คนตรงหน้ามิได้รังเกียจเขาแม้แต่น้อย....
. . .
เช้าวันคริสต์มาสที่นับได้ว่าครึกครื้นที่สุดในรอบปี กองงานที่เรียงเป็นตั้งสูงลิ่วของเหล่าแผนกวิทยาศาสตร์ล้วนถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ราวกับไม่มีมันอีกต่อไป เอ็กโซซิสท์ทั้งหลายก็ไม่ต้องไปปฏิบัติภารกิจ เพราะดูเหมือนว่าท่านเคาท์พันปีจะมีกะจิตกะใจสงบศึกชั่วคราวให้พวกเขาด้วย
กล่องของขวัญสีส้มถูกยื่นมาตรงหน้าอเลนทันทีที่เขาเข้ามาในโรงอาหารเพื่อฉลองคริสต์มาสกับทุกๆคน
“HAPPY BIRTH DAY” ราวี่เอ่ยขึ้น “ขอบคุณครับ” อเลนรับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผิดกลับเมื่อวานลิบลับที่ราวี่ทึกทักเอาเองว่าเป็นเพราะได้รับของขวัญวันเกิดจากเขาเป็นคนแรก
อเลนยังได้รับของขวัญจากคนอื่นๆอีกหลายกล่อง แต่ราวี่ก็สังเกตเห็นว่าคันดะ ยู เอ็กโซซิสท์ขี้หงุดหงิดที่ยามนี้นั่งอยู่มุมหนึ่งของโรงอาหารนั้นยังไม่ได้ให้ของขวัญแก่อเลนเลย ราวี่เลยจัดแจงลากตัวอเลนไปหาเจ้าคนรักสงบ(?)นั่นทันที
“มีไร?!” ส่วนเจ้าคนรับสงบก็เริ่มจะพาลหาเรื่องทันทีที่ทั้งคู่มาหยุดยืนตรงหน้า “นายยังไม่ได้ให้ของขวัญแก่อเลนเลย” ราวี่พูดเร็วปรื๋อ ส่วนอเลนก็พยายามสะกิดราวี่ให้ฟังที่เขาพูดบ้าง
“ไม่จำเป็น” คันดะเอ่ยอย่างเย็นชา ส่วนอเลนก็เปลี่ยนจากสะกิดเป็นกระตุกแขนเสื้อ หากแต่ราวี่ก็ยังไม่รู้สึกตัวอยู่ดี(ฉุนยูจนตายด้าน? - -^) “ทำไมนายมันใจดำอย่างนี้!!”ราวี่เริ่มจะฉุนจริงๆ ส่วนคันดะก็รำคาญเต็มที
“ก็ชั้นให้ไปเมื่อคืนแล้วนี่” ราวี่อึ้งกิมกี่ พลางหันมามองอเลนที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีแดงเรือไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นยิ่งทำให้คันดะอยากแกล้งเข้าไปอีกจึงพูดต่อว่า “เมื่อคืนหมอนั่นอยู่กับชั้นทั้งคืน” !!!!
----------------------------------------------------------------------
หึหึหึ แม้จะบอกว่าไม่ติดเรท แต่ก็ไม่ได้บอกงิว่าไม่ได้เขียนให้จิ้นเอง หุหุ เอาล่ะคับพี่น้อง! คริสต์มาสอีฟคืนนั้น อเลนกับคันดะทำอะไรกันเอ่ย?! เช้ามาอเลนถึงหน้าบานเป็นกระด้ง เอิ๊กๆ จิ้นกระจายยยย >[]< b
ผลงานอื่นๆ ของ [zowie] ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ [zowie]
ความคิดเห็น