ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ SF B.A.P STATION] BANGCHAN DAEUP ETC.

    ลำดับตอนที่ #8 : [OS] That XX

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 57


    Title :: [SF] That XX

    Author :: Zenjuri

    Pairing:: BANGTWIN Feat.KIMHIMCHAN

    Rating :: NC 15+(?)

    Note :: เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ(อีกแล้ว)ขณะนั่งอ่านชีวะและฟังเพลงนี้


            ขอบคุณคำแปลจากคลิปนะคะ






    http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=4e2eK9Uu-Zk


    ________________________________________________________________________________________







     
          บนทางเท้าของริมถนน

              ผมเจอผู้ชายของคุณโดยบังเอิญ  (ใช่ผมเห็นเค้า)

           ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยแต่ลางสังหรณ์ของผมมันบอกแบบนั้น (ผมบอกคุณแล้ว)

              มีผู้หญิงคนอื่นอยู่ข้างกายเค้าและที่สำคัญเค้าไม่ได้สวมแหวนที่คุณให้

              ผมว่าผมพูดมากพอแล้วล่ะ… (ผมไม่อยากให้คุณเสียใจ…)

     

     

     

     

     

    “นั่นแฟนยงกุกไม่ใช่เหรอวะ?”คำพูดของเพื่อนทำให้ผมละสายตาจากหนังสือที่นั่งอ่านอยู่ในหันไปมองฝั่งตรงข้ามถนน ภาพผู้ชายที่ผมรู้จักดีกำลังเดินควงหยอกล้อกับหญิงสาวน่ารักๆข้างตัวแถมดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สังเกตุด้วยว่าพวกผมกำลังมองอยู่

     

                แหวนเงินที่นิ้วหมอนั่นหายไป

                มือเรียวๆข้างนั้นกำลังยีหัวผู้หญิงข้างกาย

                รอยยิ้มละมุนแบบที่หมอนั่นชอบยิ้มปรากฏขึ้นมา

     

                “เออวะ!!! รุ่นพี่ฮิมชานจริงด้วย!! อาทิตย์นี้คนที่เท่าไรแล้ววะ?

     

                หนังสือในมือผมดูเหมือนจะหมดความสนใจไปเลยเมื่อผมเจอผู้ชายคนนี้ในสถานการณ์แบบนี้อีกครั้งในรอบหลายวันที่ผ่านมา คิมฮิมชานค่อยๆโน้มหน้าของหญิงสาวคนนั่นเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับจูบเบาๆบนริมฝีปากคู่นั้น

     

     

                ภาพที่ผมเห็นแล้วรู้สึกเจ็บแทนคนอีกคน

     

     

     

     

                “น้องมึงโดนสวมเขาอีกแล้ววะยงนัม

     

               

     

                และตอนนี้คุณก็กำลังโกรธผมซะแล้ว (ทำไมกัน?)

              คุณบอกว่าเค้าเป็นคนดี ไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย  

    (แหงล่ะคุณถูก…)

              มองสายตาของคุณแล้ว

              ผมก็ตอบไปว่าสงสัยผมคงจะเข้าใจผิด

              ใช่ผมแค่โกหกเพื่อคุณ… (ผมขอโทษ)

     

     

     

              “อย่ามาพูดบ้าๆแบบนี้นะยงนัม!!!

     

              “แต่ฉันเห็นจริงๆนะยงกุกอ่า

     

                “โกหก!!! พี่ฮิมชานเค้ารักฉันจะตายเค้าไม่นอกใจฉันหรอก!!! นายไม่ชอบพี่ฮิมชานเลยแต่งเรื่องมาให้ฉันเลิกกับเค้าใช่มั้ยหละ!!!”น้ำใสๆคลออยู่ที่ดวงตาคนตรงหน้าผม ไม่รู้ว่าที่มันไหลออกมาเพราะว่าผิดหวังที่คิดว่าผมโกหกเรื่องแฟนของเค้าหรือเป็นเพราะเสียใจที่ผมมาพูดตอกย้ำในเรื่องที่เค้าน่าจะรู้ดีกันแน่

     

     

                ใช่ชื่อเสียงในเรื่องนั้นของรุ่นพี่คนนั้นทำไมใครจะไม่รู้

                เจ้าชู้เปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นแบบนั้น

                มีก็แต่น้องชายผมนี่หละที่หลับหูหลับตาคบผู้ชายคนนี้ต่อไป

     

     

     

                “ยงกุกอ่านี่บังยงนัมพี่ชายของนายนะ

     

               

     

                “นายเชื่อใจคนอื่นมากกว่าฝาแฝดตัวเองเหรอบังยงกุก?..       

     

                “ฮึก!...พี่ฮิมชานรักฉันนะ

     

               

     

                “ร..เรารักกันนะยงนัมเรารักกันนะ….เค้าไม่นอกใจฉันหรอก

     

               

                น้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้นทำให้ผมปวดใจ

     

                ผมไม่ชอบให้ยงกุกร้องไห้ไม่ชอบเลยจริงๆ

     

     

              “โอเคฉันอาจจะมองคนผิดก็ได้ คนหน้าเหมือนพี่ฮิมชานมีเยอะแยะ ขอโทษนะยงกุก

     

                “ฮึก! เห็นมั้ยหละ! นายคงมองผิดจริงๆหละยงนัม เรารักกันจะตายไป

     

               

                หึน่าขำสิ้นดี

                                   

                รักกันงั้นเหรอ?...

     

                แล้วนายรู้มั้ยพี่ชายนายคนนี้รักใคร?...ยงกุก

     

     

     

                ผมเกลียดที่คุณไม่เข้าใจผม

                ผมเกลียดการรอคอยทั้งหมดนี่เชิญไปกับเค้าเลย

    เลิกกับเค้าเถอะ

                ตอนที่คุณเสียใจ

    ผมรู้สึกราวกับกำลังจะตายที่รัก

                   


     

                   

                “ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ?

     

                “ไม่หละ พี่ฮิมชานเพิ่งส่งข้อความมาบอกฉันว่าเดี๋ยวจะมารับไปกินข้าวด้วยกัน”

     

                “งั้นเหรอ

     

                “เห็นมั้ยยงนัม!! พี่ฮิมชานรักฉันจะตายไป เค้าไม่ได้เป็นอย่างที่นายพูดหรอก คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้น่า”บังยงกุกส่งยิ้มบางๆกลับมาให้ผมก่อนที่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาจะเรียกความสนใจของเค้าไป ร่างผอมยืนมองชื่อที่ขึ้นมาบนโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มออกมาบางๆ

     

                ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครโทรมา

     

                “อื้อ~ คุยกับยงนัมเสร็จแล้วมารับเลยก็ได้ครับ……รู้แล้วน่า~! ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับยงนัมซะหน่อยผมไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่ฮิมชาน!!!......อย่าขับรถเร็วนักนะครับมันอันตราย…..อื้ม! รักพี่ฮิมชานเหมือนกัน”

     

                รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าที่เหมือนกับผม อาจจะเพราะประโยคบอกรักเมื่อครู่ นัยส์ตาคู่นั้นหันมาสบกับผมก่อนที่เจ้าตัวจะยักคิ้วบอกประมาณว่าเห็นมั้ยหละว่าคนในสายรักตัวเองแค่ไหน

     

     

                เมื่อไรนายจะตาสว่างซะทีนะยงกุก

     

                อย่าให้พี่ชายคนนี้ทนไม่ไหวเลย

     




     

     

                ไอ้เชี้ยนั่นมันมีอะไรที่ผมไม่มีงั้นหรอ?

              ทำไมคุณถึงไม่รักผม?

              ไอ้เชี้ยนั้นมันไม่ได้รักคุณเลย

              นานแค่ไหนที่คุณจะต้องร้องไห้อย่างโง่ๆแบบนี้

     

     

     

     

                สาบานได้เลยว่าตอนนี้ผมดูเหมือนเป็นส่วนเกิน

     

                คนสองคนที่ตอนนี้กำลังอยู่ในโลกส่วนตัวจนผมเข้าไปแทรกไม่ได้..

     

     

                คิมฮิมชาน?...ผู้ชายคนนี้มีอะไรดีนักเหรอ? 

               

                หล่อ? รวย? มีสเน่ห์? เอาใจเก่ง?...

     

                ของแบบนี้ผมก็ทำได้นะ

     

                แล้วทำไมถึงไม่รักผมหละ

     

     

                “ยงนัมเห็นมั้ย!!! เมื่อวานพี่ฮิมชานเค้าไปทำโปรเจ็คกับเพื่อนไม่ได้ไปเดินกับใครอยู่ที่ฮงแดหรอก นายมองผิดคนจริงๆด้วย! บอกแล้วไงว่าพี่ฮิมชานไม่นอกใจฉันหรอก!”น้องชายฝาแฝดของผมวิ่งเข้ามาหาผมที่ยืนห่างออกมาไม่ไกลนักพร้อมกับดึงร่างของบุคคลที่ถูกผมกล่าวหาเมื่อครู่มาด้วยแถมยังแลบลิ้นใส่ผมอีกที่ไปกล่าวหาแฟนตัวเองแบบนั้น

     

                “อย่าสิยงกุก ยงนัมเค้าก็ห่วงนายนั่นหละมีน้องชายน่ารักแบบนี้มันก็ต้องห่วงกันเป็นธรรมดาใช่มั้ยหละยงนัม?

     

                “ครับ

     

                “ฉันรักน้องชายนาย ไม่นอกใจน้องชายนายหรอกหนะ”

     

                “ครับผมรู้

     

                “นายคงไม่อยากให้ยงกุกเสียใจหรอกใช่มั้ยยงนัม?”นัยส์ตาคมคู่นั้นจ้องมองผมราวกับจะสื่อสารอะไรบางอย่างมาให้ผม จะขู่ว่างั้นว่าถ้าผมบอกไปเรื่องที่ชอบเห็นเค้าไปอยู่กับคนอื่นจะทำให้ยงกุกเสียใจ?...

     

     

                ขอโทษนะคิมฮิมชานนายรู้จักบังยงนัมน้อยเกินไปแล้ว

     



     

     

              ตอนที่คุณพูดคุยกับเค้าคุณดูมีความสุขเหลือเกิน

    (คุณดูมีความสุขจริงๆ)

    ยังสามารถมีความสุขขนาดนี้ (ผมมีความสุข)

    คุณบอกว่าคุณรักเค้าเหลือเกิน

    อยากจะอยู่กับเค้าตลอดไป

    คุณเชื่อใจเค้าเหลือเกิน

    (ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อไป)

     

     

                “ยงนัมมมมม~ พี่ฮิมชานให้แหวนฉันมาด้วยหละสวยมั้ย?

     

              “ก็สวยดี

     

              “แถมพี่ฮิมชานยังดูแลฉันอย่างดีเลยนะ~ น่าอิจฉาเปล่าหละ!

     

              “น่าอิจฉาตรงไหน? ระวังเหอะ! คนเจ้าชู้แบบนั้นน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าสักวัน!

     

              “ไม่ต้องเลยนะยงนัม! เรารักกันจะตายไป!! อีกอย่างพี่ฮิมชานก็หยุดที่ฉันแล้วด้วย! ไม่ต้องมาใส่ไฟด้วย!!

     

              “ขอให้ที่พูดมันจริงเหอะ~

     

              “ก็ต้องจริงสิ! เนี้ยพี่ฮิมชานยังสัญญากับฉันไว้ด้วยนะว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป~ น่ารักมั้ยหละแฟนฉัน!

     

              “อื้มขอให้โชคดีแล้วกันถ้ามันทำให้นายร้องไห้ขึ้นมาฉันจะไม่ทนนะ”

     

              “ไม่มีวันหรอก~ ฉันไม่มีวันเสียใจเพราะพี่ฮิมชานหรอก!!!

     

     

    ประโยคที่ยงกุกเคยพูดกับผมไหลเข้ามาในหัว

     

    ไม่มีวันเสียใจงั้นเหรอ?...

     

    แล้วที่ผ่านมานายร้องไห้เพราะใครกัน?...

     

     



     

    เพื่อนของคุณทั้งหมดก็รู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง

    (ใช่พวกเค้ารู้)

    ทำไมคุณถึงไม่รู้สักทีทั้งๆที่มันชัดเจนขนาดนี้ (คือคุณ)

     

     

     

    “ยงนัมขอร้องเหอะ

     

    “ฉันช่วยอะไรไม่ได้หรอกโยฮัน

     

    “แล้วแกจะปล่อยให้น้องแกโดนสวมเขาแบบนี้ต่อไปหนะเหรอ!?!

     

    อีโยฮันเข้ามากระชากคอเสื้อผมที่นั่งนิ่ง ดูเหมือนเค้าจะโกรธอยู่ไม่น้อยที่ผมไม่ทำอะไรเรื่องยงกุกกับผู้ชายคนนั้นซักทีแต่จะให้ทำไงได้? ในเมื่อทั้งๆที่ทั้งผม ทั้งมันบอกเรื่องของผู้ชายคนนั้นให้มันฟังทีไรมันก็เลือกที่จะไม่เชื่อทุกที

     

    ขนาดแฝดอย่างผมบอกยังไม่เชื่อนับประสาอะไรกับเพื่อนสนิท

     

    อยากรู้จริงเชียวถ้าเป็นพ่อเป็นแม่มาบอกมันจะเชื่อมั้ย?...

     

     

    “ก็ยงกุกมันเลือกที่จะไม่ยอมรับความจริงเองนิต่อให้ฉันเป็นแฝดมันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก”

     

    “แต่ฉันสงสารยงกุกนะเว้ย!!! ผู้ชายเลวๆแบบนั้นมันสมควรกับไอ้กุกเลยนะ!!!

     

    ใช่ผู้ชายเลวๆแบบนั้นไม่เหมาะกับน้องชายเค้าซักนิด

     

    “ขอร้องเหอะยงนัมแกเองก็คงไม่อยากให้ยงกุกร้องไห้ไปมากกว่านี้ใช่มั้ย?...

     

     

     

    ใครจะไปอยากให้มันร้องไห้กันหละ

     

     





    เค้าบอกว่าความรักทำให้คนตาบอด

    คุณตาบอดมากเลยที่รัก

              ขอร้องล่ะ ผมเตือนคุณนะ

              เลิกกับเค้าเถอะ

             

     

     

              แจกันที่วางอยู่บนโต๊ะถูกปัดลงกับพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ รูปถ่ายในซองสีน้ำตาลถูกโยนกระจัดกระจายไปทั่วห้อง คนตัวผอมทรุดลงกับพื้นห้องข้างๆเศษแจกันหยาดน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยนั่นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง

     

                “ฮึก

     

                ผมค่อยๆหยิบหนึ่งในรูปถ่ายที่กระจัดกระจายอยู่ขึ้นมาดู

     

                ภาพของผู้ชายคนนั้นกำลังจูบกับผู้หญิงคนอื่นอย่างดูดดื่ม

     

                ถึงมันจะมืดไปหน่อยแต่ก็พอมองเห็นได้ชัดว่าเป็นใคร

     

                “ไม่จริง….มันไม่จริงฮึก!...

     

                ผมไม่ได้อยากทำให้ยงกุกร้องไห้หรอกนะแต่ผมก็ไม่อยากเห็นเค้าต้องทนหลอกตัวเองแบบนี้ต่อไปอีกแล้วก็แค่อยากหาอะไรมาทำให้เค้ายอมรับความจริงให้ได้ซะทีว่าแฟนสุดที่รักของเค้ากำลังนอกใจเค้าอยู่จริงๆ

     

              ถ้าเค้ายังหลอกตัวเองได้ต่อผมก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเค้าแล้ว

     

              “เลิกกับผู้ชายคนนั้นเหอะยงกุก

     




     

     

              รถราคาแพง เสื้อผ้าแสนสวย

              ภัตรคารสุดหรู

              ทั้งหมดนี้ทำให้คุณพอใจใช่มั้ย?

              แต่ไอ้เชี้ยนั่นที่อยู่ข้างๆคุณ เค้าไม่ทำให้คุณพอใจเลย

              ไม่เลยซักนิด

     

     


     

              คนตัวผอมในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนช่างเป็นอะไรที่ดูเข้ากันได้เป็นยังดียิ่งกำลังนั่งอยู่ในภัตรคารหรูๆบรรยากาศดีๆแบบนี้ยิ่งเป็นอะไรที่ดูเหมาะกับคนที่ผมกำลังแอบมองอยู่เป็นอย่างดี รอยยิ้มน้อยๆแย้มขึ้นมาเมื่อได้ลิ้มรสฝาดๆของไวน์ในแก้ว

     

                ทุกอย่างช่างดูลงตัว

     

                ยกเว้นแต่ผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่ตรงหน้าเค้า

     

                ผู้ชายคนนั้นไม่เหมาะกับเค้าจริงๆ

     

     

     

              “ขนาดนี้แล้วยังจะพูดแบบนี้อีกเหรอยงกุก!!!

     

              “เรารักกันจริงๆนะยงนัมเรารักกันนะฮึก! เค้าไม่นอกใจฉันหรอก”

     

              “แล้วภาพพวกนี้หละยงกุก!?! นายจะบอกว่ายังไง!!!

     

              “ออาจจะเป็นแค่รูปตัดต่อก็ได้ยงนัมมันมืดจะตายไปไม่ใช่พี่ฮิมชานหรอกยงนัม

     

     

              ผู้ชายคนนั้นมีอะไรดี?...ยงกุกถึงได้เชื่อใจขนาดนั้นกัน?...

     


     

     

     

              เค้ายิ้มอย่างคนเสแสร้งให้คุณ

              สัมผัสใบหน้าและเส้นผมของคุณ

              แต่เค้ากำลังคิดถึงผู้หญิงคนอื่นแน่นอน

              คุณกล้าเสี่ยงกับเค้าได้ยังไง?

     

     

              มือของคนที่นั่งตรงข้ามเลื่อนมาลูบหน้าเค้าเบาๆ รอยยิ้มละมุนแบบที่เค้าชอบเอามาใช้หลอกให้ยงกุกตายใจถูกเอามาใช้อีกครั้งนึง นิ้วเรียวๆของเค้าเกลี่ยนเส้นผมนุ่มนั่นเบาๆก่อนจะโน้มไปหอมแก้มร่างผอมเบาๆ อาการอ่อนโยนที่เค้าแสดงว่ารักน้องชายของผมมากแค่ไหน

     

                อยากจะอ้วก!!!

     

                ตัวอยู่กับยงกุกแต่ใจลอยไปหาผู้หญิงที่ไหนอยู่กันหละ!!!

     

                ยงกุกอ่านายไม่ควรรักผู้ชายเลวๆแบบนี้จริงๆนะ

     

                ในเมื่อพี่เตือนแล้วนายไม่ฟัง

     

                พี่ก็จะไม่ทนแล้วนะ...

     

             

     

     

              “พี่ฮิมชานคะ~

     

                “ฮฮเยวอน

     

                “พี่ฮิมชานหายไปไหนมาคะ? ฮเยวอนคิดถึงพี่ฮิมชานจะแย่อยู่แล้วนะ คืนนี้จะค้างด้วยกันมั้ยคะ?”แขนเรียวโอบรัดรอบคอผู้ชายคนนั้น ใบหน้าหวานคลอเคลียอยู่ข้างๆแก้มคิมฮิมชานอย่างออดอ้อน แตกต่างจากคนที่นั่งตรงข้ามที่ตอนนี้กำลังสั่นอยู่

     

                ก็แหงหละผู้หญิงคนนี้เป็นคนเดียวกับในรูปที่เค้าส่งไปให้ดูนี่

     

                พี่เตือนนายแล้วนะยงกุก

     

                “หื้ม? นี่ยงกุกไม่ใช่เหรอ? ยังไม่เลิกกันอีกเหรอคะ?

     

                “พี่ฮิมชาน

     

                “ไม่นะ! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะยงกุก พี่กับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีอะไรกันนะ”

     

                “โกหกไม่ดีนะคะพี่ฮิมชาน วันนั้นพี่ฮิมชานยังบอกว่ารักฮเยวอนอยู่เลยนี่”

     

                ริมฝีปากเคลือบลิปสติกนั่นกดจูบลงที่ริมฝีปากผู้ชายคนนั้นเบาๆ น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของน้องชายผม คิมฮิมชานรีบดันร่างของผู้หญิงคนนั้นออกก่อนจะหันกลับมามองยงกุก ชายหนุ่มอ้าปากเตรียมจะอธิบายแต่ก็ไม่ทันประโยคที่อีกฝ่ายพูดออกมา

     

                “เราเลิกกันเถอะครับ

     

     

     

     

              ปริมาณมากมายของน้ำตาที่คุณเสียไป

              ผมอยากจะทำให้คุณมีความสุขเท่านั้นที่รัก

              แบ่งปันความเจ็บปวดมาให้ผมบ้าง         

              ดีกว่าที่จะเจ็บคนเดียวนะที่รัก

     


     

     

              “ยงกุกอ่าเปิดประตูให้ฉันหน่อยสิ”ไร้เสียงตอบรับมาจากด้านหลังของประตู ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ผมหันหลังล้มเลิกความคิดที่จะเข้าไปในห้องของน้องชายแต่ก็ต้องหันกลับไปเมื่อประตูห้องนั่นเปิดออกพร้อมกับร่างของน้องชาย

     

                “ฮึก! ยงนัม

     

                บังยงกุกโถมร่างมากอดผมเอาไว้แน่น ใบหน้าที่เหมือนกับผมราวกับแกะสลักซบลงที่หน้าอกของผมก่อนจะปล่อยโฮออกมา มือของผมลูบหัวเค้าเบาๆอย่างปลอบใจก่อนจะกอดเค้าเอาไว้แน่น

     

                ยิ่งยงกุกเจ็บเท่าไรผมเจ็บยิ่งกว่า

     

                “ไม่ร้องนะยงกุกนายยังมีฉันนะยังมีพี่ชายนายคนนี้อยู่นะยงกุก

     

               

                ใช่นายยังมีพี่ชายคนนี้อยู่นะยงกุก

     

                มีบังยงนัมคนนี้อยู่

               

     

               

     

              ได้โปรดมองมาที่ผมบ้าง

              ทำไมคุณไม่นึกถึงบ้างว่าผมคือคนที่รักคุณ

              ทำไมถึงเป็นคุณคนเดียวที่ไม่รู้อะไรเลย?...

     

     

     

              ยงกุกหลับไปแล้วหลังร้องไห้หนัก

     

                ผมจัดท่านอนให้เค้านอนอย่างสบายก่อนจะเลื่อนผ้าห่มให้มาชิดกับหน้าอกของเค้า

     

                ตากลมๆคู่นั้นปวดช้ำจากการร้องไห้เป็นอย่างหนักจนสังเกตได้ชัด

     

                ถึงจะเจ็บปวดหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยยงกุกให้ผู้ชายคนนั้นต่อไป

     

                “นายหนะมีฉันคนเดียวก็พอแล้วยงกุก”กลีบปากของผมกดจูบลงกลางหน้าผากนั่นเบาๆก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมาที่ริมฝีปากนุ่มเหมือนทุกๆครั้งที่ผมชอบแอบทำเวลาเค้ากำลังหลับอยู่

     

                เป็นน้องชายของฉันแค่เพียงคนเดียวก็พอแล้วบังยงกุก

     

               

     

     






     

    +++ฉับๆ+++












     

                สงสัยจะรุนแรงเกินไปหน่อย

     

                “ผู้ชายเลวๆอย่างพี่ไม่เหมาะกับบังยงกุกหรอกครับ

     

    สติที่เริ่มเลือนลางทำให้เค้ามองเห็นใบหน้าอีกคนไม่ชัดเค้าเหนื่อยกับบทรักครั้งนี้เกินไปแล้วจริงๆภาพทุกอย่างดูเหมือนเริ่มจะมืดไปหมดแต่ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะดับวูบไปเสียงกระซิบแผ่วเบาจากคนบนร่างก็ดังขึ้นมาข้างๆหูของเค้า

     
               “ผู้ชายเลวๆแบบพี่
    เหมาะกับคนเลวๆแบบผมมากกว่านะครับพี่ฮิมชาน

     







     

                “ถ้าดีๆอย่างบังยงกุกหยุดพี่ไม่ได้เลวๆอย่างบังยงนัมคนนี้จะหยุดพี่เองครับ








    อย่าเขวี้ยงรองเท้าใส่ข้าเลย...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×