ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ SF B.A.P STATION] BANGCHAN DAEUP ETC.

    ลำดับตอนที่ #7 : [SF] I Remember

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 55


    Title :: [SF] I Remember

    Author :: Zenjuri

    Pairing:: StillJepp

    Rating :: PG 15+

    Note :: แอบจิ้นคู่นี้เพราะรูปกับหลายๆอย่างเวลาดูตอนสมัยบังยังละอ่อน-///- จนคลอดเรื่องนี้ออกมา

    PS :: 1.สำหรับคนไม่เคยเห็นพี่สติล คลิก    ตอนหัวแดง

            2.ขอบคุณ ilikeyoutheb2st สำหรับคำแปลเพลงค่ะ





    ________________________________________________________________________________________









                ฮยองงงงง~”

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงบางเสียงมันหายไปจากชีวิตผม

     

     

     

     

     

     


                  “เห้ย!!! ไปได้แล้วถึงเวลาแสดงแล้วนะเว้ย!!!เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาทำให้ชายหนุ่ม กำลังนั่งเหม่อได้สติคืนมา ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะเดินตามพี่ๆในวงไปเพื่อทำการแสดงล่าสุดของพวกเค้า

     

     

     

                 การแสดงเป็นไปได้อย่างดี  มีบ้างเล็กน้อยที่จู่ๆเค้าก็ลืมเนื้อร้องขึ้นมาจนเกือบแร๊พผิดยังดีที่ได้ สติทัน และแล้วการแสดงในวันนี้ก็จบลง เค้ายืนโบกมือให้กับแฟนๆที่มารอฟังเหมือนทุกครั้งก่อนจะเดินลงจากเวทีไป พร้อมกับพี่ๆ

     

                  “คิดถึงเด็กมันก็บอกมาเหอะ!

             

                  “เปล่าซะหน่อย!!!

     

                  “ทำเป็นปากแข็ง! ไอ้ซึนเอ๊ย!!!

     

                  “ไม่ได้ซึนไม่ได้อะไรทั้งนั้นหละอินยอบฮยอง!!!

     

                  ชายหนุ่มคว้าเสื้อคลุมที่พาดไว้กับเก้าอี้ก่อนจะปิดประตูดังปัง! เรียกเสียงหัวเราะจากพวกพี่ๆที่เหลืออยู่ในห้องได้เป็นอย่างดี

     

     

     

     

                  “จะรอดูนะว่าจะปากแข็งได้อีกนานมั้ย….”

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

     

     

                  เราเจอกันครั้งแรกประมาณปี2008

     

     

     

                  ตอนนั้นผมอายุประมาณ19

                  ส่วนไอ้เด็กนั่นอายุประมาณ18

                  เราได้มาอยู่วงดนตรีใต้ดินวงเดียวกัน

     

     

              

                  แฟนๆเรียกผมว่าStill PM

                  แต่ไอ้เด็กนั่นชอบเรียกผมว่าโยฮันฮยองมากกว่า

     

                  แฟนๆเรียกไอ้เด็กนั่นว่าJepp Blackman

                  แต่ผมชอบเรียกไอ้เด็กนั่นว่ายงกุกมากกว่า

     

     

     

                  ผมกับไอ้เด็กนั่นต่างก็มีความฝันเหมือนกันคืออยากสร้างสรรค์งานเพลง เราชอบแร๊พเหมือนกัน ชอบดนตรีแนวเดียวกัน อยู่ในวงๆเดียวกันแถมเจ้าเด็กนั่นที่เป็นมักเน่ของวงห่างกับผมแค่ปีเดียวเลย ไม่แปลกที่มันจะติดผมแจ

     

                  แรกๆก็รำคาญอยู่หรอกนะที่มีเด็กคนนึงค่อยเดินตามต้อยๆ ติดผมยิ่งกว่าติดพี่ชายฝาแฝดของมันอีก จนพี่ๆในวงยังแอบแซวเลยว่าผมมีลูกชายตั้งแต่เมื่อไรแต่พอนานเข้าไอ้เด็ก นั่นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปโดยผมไม่รู้ตัว

     

     

     

                  มารู้ตัวตอนตอนเสียงไอ้เด็กนั่นหายไปนั่นหละ

     

     

     

     

                  ฮย๊องงงงงงง~ ผมได้เป็นเด็กเทรนแล้ว!!!

     

     

     

                  ก็ดีใจกับมันหละที่ได้เป็นเด็กเทรนแล้ว พวกอินยอบฮยอง จองมินฮยองยังแซวมันว่าได้ถ้ามันได้เดบิวแล้วมีคอนเสิร์ตเมื่อไรอย่าลืมชวน พวกเค้าไปฟีทเจอริ่งเพลงด้วยกันนะ ไอ้เด็กนั่นมันก็ตอบมาว่าแน่นอนอยู่แล้วแถมยังยิ้มกว้างกลับมาเหมือนทุก ครั้งแต่ครั้งนี้ผมสังเกตได้ว่ารอยยิ้มของมันเปลี่ยนไป

     

                  ไอ้เด็กนั่นยิ้มอยู่แต่ทำหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ยังไงก็ไม่รู้….

     

     

     

     

     

     

                  ฮยองผมจะไปดีมั้ย…”

     

                  ก็ดีสิวะ!!! ใครมันจะโง่ไม่ไปหละ

     

                  แล้วถ้าผมไปฮยองจะคิดถึงผมมั้ย?”

     

                  จะคิดถึงทำไม? แกไม่ได้ไปไหนไกลซะหน่อย ดีซะอีกห้องฉันจะได้โล่งๆไม่มีใครมาให้รำคาญ

     

                  ที่ผ่านมาผมทำให้ฮยองรำคาญขนาดนั้นเลยเหรอครับ…”

     

     

     

     

                  ตอนนั้นหละที่ผมได้เห็นน้ำตาไอ้เด็กนั่นไหลออกมา

     

     

     

     

                  ผมไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตามัน

                  ที่ผมทำคือหันหลังเดินเข้าห้องไปปล่อยให้มันยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น

     

     

     

                  ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นไอ้เด็กนั่น….

     

     

     

     

                  ตอนเช้าพอตื่นมาจองมินฮยองก็โทรมาบอกว่าฝากเก็บชองไอ้เด็กนั่นในห้องผมด้วย ไอ้เด็กนั่นมันย้ายไปอยู่หอของบริษัทมันแล้ว

     

     

     

                  ใช่มันไปแล้ว

                  ไอ้เด็กนั่นมันไปแล้ว….

     

     

     

                  หลังจากนั่นผมกับไอ้เด็กนั่นก็ขาดการติดต่อกันไปเลย มีบ้างที่เวลาเจ้านั่นเหนื่อยจะโทรมาหาพี่ๆในวงบ้างยกเว้นผม….

     

                  ผมที่ปกติเคยเป็นที่หนึ่งมันตอนนี้กลับเป็นคนที่มันไม่คิดจะโทรหา….

     

     

     

     

     

                  ถ้าผมไปฮยองจะคิดถึงผมมั้ย?”

     

     

     

     

                  คำถามนี้ยังวนเวียนอยู่ในหัวผมทุกวัน

                  คิดถึงมั้ยหนะเหรอ?....

     

     

     

     

     

     

     

                  “เห้ย!!!! โยฮันมาดูเร็ว! เพลงของไอ้ยงกุกมันออกแล้วนะเว้ย!!!

     

                  เสียงของซึงกยูฮยองทำให้ผมหลุดออกมาจากภวังค์อีกครั้งพร้อมๆเสียงแร๊พคุ้นหู ผมดังขึ้นมา พวกพี่ๆที่เหลือเริ่มไปมุงดูโทรทัศน์ที่ตอนนี้กำลังฉายเอ็มวีของไอ้เด็กนั่น อยู่ เหลือแค่ผมที่ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟาที่เดิม

     

                  “เห้ยยยยย!!! ไอ้ยงกุกมันย้อมหัวแดงเลยเว้ย!!!

     

                  “จะไปตกใจอะไรวะ คราวก่อนตอนมันไปฟีทเพลงมันยังย้อมหัวทองเลย

                 

                  “แต่แดงนะเว้ยแดง! นอกจากไอ้โยฮันกูยังไม่เคยเห็นใครกล้าย้อมสีนี้เลยนะเว้ย!!

     

                  “เห้ย!!! ฮยองเงียบกันหน่อยสิผมจะดูยงกุก!

     

                  "มันบอกว่าเพลงนี้มันแต่งเองเลยนะเว้ย! โยฮันแกก็มาดูสิวะ!"

     

                  ผมหันไปดูโทรทัศน์ที่ตอนนี้ข้างหน้ามันเริ่มเกิดการตบตีระหว่างอินยอบฮยอง กับจองมินฮยอง ภาพไอ้เด็กนั่นกำลังแร๊พปรากฏขึ้นมา หัวสีทองๆที่มันเคยย้อมเมื่อคราวก่อนกลายเป็นสีแดงไปแล้ว แถมยังดูโตขึ้นกว่าคราวก่อนตั้งเยอะ

                 


     

    ความทรงจำระหว่างเราที่รู้สึกเหมือนอยู่ในนรก
    ผมไม่รู้ว่าทำไมความทรงจำเหล่านั้นยังติดอยู่ในใจผม
    ผมจะจดจำทุกๆวันในอดีตของเรา คุณที่เคยล้อเล่นกับความรู้สึกผม
    ต้องขอบคุณคุณ ทุกๆอย่างกลับตาลปัตรไปหมด

     

     

    เซอร์ไพร์~~~!!!”

     

    ทำบ้าอะไรของแกวะ!?! ครัวเละไปหมดแล้ว!!

     

    ก็วันเกิดฮยองเลยทำเค้กให้…”

     

    ถ้ามันทำให้คนอื่นวุ่นวายก็อย่าทำเหอะขอร้อง แล้วไอ้ก้อนดำๆนี่คิดว่าจะกินได้รึไงวะ!”

     

     

     

    ก็พูดไปงั้นหละสุดท้ายก็กินหมดอยู่ดี

     

     

    ไม่มีอีกแล้ว ภาพที่ผมยิ้มแย้มอย่างสดใสอยู่ตรงหน้าคุณ
    ไม่ว่าจะมีรักในแบบไหนก็ตามเข้ามา น่าขัน หัวใจของผมที่ถูกบดขยี้
    ผมลองทุกอย่างแล้วเพื่อที่จะลืมคุณ
    ผมเคยหวังว่าจะหายดีให้เร็วที่สุด
    และคุณต้องเป็นคนที่เสียใจเมื่อมองกลับมาที่ผม
    ใช่แล้ว แม้แต่เพลงของผมที่คุณเคยละเลยมัน
    ในตอนนี้ที่เพลงนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปตามถนนต่างๆของกรุงโซล

     

     

    ยิ้มเป็นบ้าอะไรอยู่คนเดียววะ!”

     

    จะไม่ให้ยิ้มได้ไงหละฮยอง!!! ดูสิปีนี้ฮยองได้ของขวัญวันเกิดมาเยอะเลยน้า~”

     

    เอาเวลาที่จะดีใจเรื่องของฉันไปฝึกแต่งเพลงฝึกแร๊พให้ดีขึ้นดีกว่านะ

     

    โห้ยยยย~ ฮยองอ่า~ เพลงใหม่ที่ผมลองแต่งให้ฟังยังไม่ดีอีกเหรอครับ?”

     

    อย่าใช้คำว่าไม่ดี….ไม่ได้เรื่องเลยต่างหาก

     

     

     

                  เพลงของแกหนะเพราะแล้ว….แต่งได้สุดยอดเลยหละแต่ถ้าชมไปเดี๋ยวแกจะได้ใจหนะสิ

     

     

     

    เหนี่ยวรั้งสิ่งต่างๆที่เราเคยทำในอดีตเอาไว้
    ผมจมอยู่ในฝันร้ายที่เป็นเหมือนความทรงจำครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างง่ายดาย
    แต่ยังไง คุณก็คือคนที่ผมเคยรัก
    ผมจะไม่มีวันลืม…Yes, I Remember

     

     

     

    ฮยองงงงงงง~”

     

    อะไรของแกอีก? ไม่เห็นเหรอว่าฉันยุ่งอยู่

     

    นี่~!! สวยมั้ยครับ? ผมถักให้ฮยองเองเลยนะ~ จะได้ไม่เป็นหวัดไง

     

    ผ้าพันคอสีเน่าๆแบบนั้นใครจะไปใช้ลงวะ

     

    ไม่ชอบเหรอครับ…”

     

    เห้ย!!! อย่าทำหน้าหงอยแบบนั้นสิวะ! ใส่ก็ได้วะ!!

     

    เย้~! รักฮยองที่สุดเลย!!

     

     

     

    ก็อยากให้แกใส่มากกว่าแกตัวเล็กจะตายไป ป่วยขึ้นมาจะทำไง

     

     

     

     

    แม้ในยามที่ผมหลับตา แสงที่เคยสาดส่องลงมาที่เราสองคนนั้นก็ยังคงอยู่
    ช่วงเวลาที่มีค่าของเรา ผมจะเก็บรักษามันไว้อย่างดี
    ถึงแม้ว่าความเจ็บปวดจะเข้ามากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
    วันที่เราเคยสัญญากันไว้ด้วยคำว่าตลอดไป
    ผมจะไม่มีวันลืมช่วงเวลานั้นได้เลยจวบจนวันสุดท้าย
    I Remember

     

     

     

    ฮยองอ่า~”

     

    อะไรของแกอีกวะ?”

     

    คำว่าตลอดไปมันมีทางเป็นจริงด้วยเหรอครับ?”

     

    ก็เป็นจริงได้สิวะ! อยากลองพิสูจน์มั้ยหละ?”

     

    เอ๋?”

     

    อยู่ข้างๆฉันตลอดไปสิ

     

    ฮยอง…”

     

    ฉันยังใช้งานแกไม่คุ้มที่แกมาอยู่กับฉันเลยนะเว้ย!!! เพราะงั้นแกต้องอยู่ข้างๆให้ฉันใช้งานไปอีกนานเลยหละ!!

     

    โห้ยยยย! ฮยองอ่า!!

     

     

     

    ก็อยากจะพูดว่าให้อยู่ข้างๆกันตลอดไปตรงๆนั่นหละ

    แต่ฉันเขินนิ

     

     

     

    มีอะไรหลงเหลืออยู่บ้างหลังจากการจากลาเหล่านั้น
    ผมได้เรียนรู้ว่าสุดท้ายแล้วคำสัญญาว่าจะอยู่ตลอดไปนั้นไม่มีจริงหรอก
    แต่คำพูดเหล่านั้นผลักดันให้ผมมาได้ไกลขนาดนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
    คุณที่ปล่อยผมไปด้วยมือของคุณเอง
    อย่ามองกลับมาเลยนะ แม้แต่ครั้งเดียว
    ถ้าคุณทำ ผมเชื่อว่าเราต่างก็จะคิดเหมือนกัน
    ผมจะไม่มีวันลืม Yes, I Remember

     

     

     

                  ฮยองผมจะไปดีมั้ย…”

     

                  ก็ดีสิวะ!!! ใครมันจะโง่ไม่ไปหละ

     

                  ถ้าผมไปฮยองจะคิดถึงผมมั้ย?”

     

                  จะคิดถึงทำไมวะ? ดีซะอีกห้องฉันจะได้โล่งๆไม่มีใครมาให้รำคาญ

     

                  ที่ผ่านมาผมทำให้ฮยองรำคาญขนาดนั้นเลยเหรอครับ…”

     

     

       ฉันไม่อยากปิดโอกาสของแกฉันรู้ว่าแกมีพรสวรรค์

       ถ้าแกไปมันจะเป็นเรื่องดีกับแกมากกว่า

       อย่าทิ้งอนาคตของแกเพราะคนอย่างฉันเลย…   

                   เข้าใจฉันนะ

     

     

     

     

       เจ้าเด็กบ้า

     

     

     

     

    TBC  Sorry – Still PM









    ทำอะไรลงไป.... *วิ่งหนี*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×