คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9
รอบรู้ไปเสียทุกเรื่องคงเป็นคำอธิบายตัวคิมฮีชอล
น้ำแข็งหนุ่มหน้าสวยคนนี้ได้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ร่างเล็กได้ถูกคัดเลือกให้มาอยู่ในทีมคดีชุดนี้
เพราะนอกจากต้องการแฮกเกอร์ฝีมือดีและคนที่มีพละกำลังเป็นเลิศแล้ว
ซึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสมอง อันเป็นตัวประติดประต่อแก้ปริศนา
“คำตอบก็คือสิบสาม...ไร่ที่สิบสามอย่างงั้นสินะ”ลีดงแฮเอ่ยถามระหว่างที่หันหน้าไปมองเพื่อนรักที่พยักหน้าเงียบๆ เมื่อได้คำตอบแล้วดงแฮก็กระโจนขึ้นรถจิ๊บก่อนทันทีพร้อมกับตะโกนเรียกคนอื่นๆอย่างอารมณ์ดี
“ให้ว่องให้ว่อง! เวลาไม่รอช้านะพวกเรา~!”
มันไม่ใช่แค่หมีตัวใหญ่ๆดุร้ายคลุ้มคลั่งเพราะหิวและกำลังโกรธอยู่ธรรมดาๆตัวหนึ่ง...
หากแต่มันคือพญาหมี
สัตว์อันเป็นตัวแทนของบาปแห่งโทสะ
และมันกำลังคลุ้มคลั่งต้องการจะอาละวาดกำจัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้ามันอยู่เสียด้วย อุ้งตีนขนาดใหญ่ เล็บอันแสนแหลมคม ฟันคมและร่างกายที่ใหญ่โตบวกกับอารมณ์ดุร้ายที่มันถูกมนุษย์กลุ่มนึงฉีดยาเพิ่มความโกรธความดุร้ายให้มันนั้นทำให้มันพร้อมที่จะกำจัดมนุษย์คนหนึ่งข้างหน้ามัน
ชเวซีวอน...
“ที่หมู่บ้านข้างๆมีสำนักงานเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่าอยู่”คิมคิบอมรีบรายงานทันทีที่พวกเขาทุกคนเห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ยืนอยู่ข้างหน้า
ไวเท่าความคิดและก่อนใครคนอื่นจะได้เอ่ยปาก ซีวอนก็รีบออกคำสั่งทันที “ทุกคนขับรถไปเอายานอนหลับชนิดร้ายแรงที่สุดมา ส่วนทางนี้...”
“ไม่ได้นะ!”
เสียงของใครอีกหนึ่งคนดังขัดขึ้นมาไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้จบประโยคของตน ไม่ต้องสงสัยเจ้าของเสียงคนนั้นก็คือคิมฮีชอลผู้ซึ่ง ณ บัดนี้เดินไปยืนขวางหน้าเขาเสียแล้ว
ดวงหน้าหวานดูจริงจังจนน่ากลัว มันเป็นสีหน้าที่เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าจะไม่ยอมให้ซีวอนได้ทำอะไรตามที่พูดออกไปเด็ดขาด ซ้ำดวงตากลมโตที่แข็งกร้าวเองก็ไม่อาจจะปิดซ่อนความห่วงใยได้เลยแม้แต่น้อย
“อย่างน้อยต้องมีคนอยู่กับนายหนึ่งคน!”เอ่ยสั่งแทบจะตะโกนใส่หน้าผิดกับคู่สนทนาที่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างสูงเลือกที่จะสั่งให้คนอื่นๆไปรออยู่บนรถจิ๊บก่อนจะหันหน้ามาเจรจากับร่างเล็กตรงหน้าที่ดูจะไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย
“ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนาย!”เอ่ยสั่งพร้อมกับยกมือกอดอกเป็นเชิงไม่ยอมแพ้ นอกจากคิมฮีชอลจะมีนิสัยเย็นชาแล้วนิสัยหัวดื้อไม่ยอมใครนั้นก็มีด้วยเช่นกัน แต่เจ้าตัวจะหัวดื้อไม่ยอมให้แก่ชเวซีวอนคนเดียวเท่านั้น มากกว่าที่เป็นกับลีดงแฮเพื่อนรักด้วยซ้ำ
ซีวอนอ้าปากหมายจะเอ่ยเถียงอย่างเหนื่อยๆ เขารู้ว่าตัวเขาเองเป็นคนเดียวที่ฮีชอลจะไม่มีวันยอมให้เด็ดขาดถ้าเขาเลือกที่จะทำอะไรเสี่ยงตายแบบนี้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้เขาจำเป็นต้องให้คนที่เขารักไปอยู่ที่ๆปลอดภัยเสียก่อน
แต่ไม่ทันจะได้อ้าปากพูดก็เป็นอันต้องหุบแล้วเบิกตากว้างเมื่อพญาหมีที่ร่างเล็กยืนหันหลังให้อยู่นั้นพุ่งตัวมาหาพร้อมกับอุ้งมือที่เงื้อขึ้นหมายจะตะปบคนตรงหน้ามัน
“ระวัง!!!”คนอื่นที่เหลือพร้อมใจตะโกนกันออกมาเป็นเสียงเดียวกันผิดกับฮีชอลที่เบิกตากว้างกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่กำลังมาพุ่งมาข้างหน้าตน เพียงแค่ได้เห็นก็หยุดหายใจและแข็งทื่อไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้แล้ว
สิ่งที่เขารับรู้ต่อมาคือร่างทั้งร่างตกอยู่ในอ้อมกอดของคนตรงหน้าก่อนจะตัวลอยไปตามแรงกระโดดไปข้างๆเพื่อหลบเจ้าหมียักษ์นั่นให้พ้นทาง ฮีชอลรู้สึกถึงแผ่นหลังที่กระทบกับพื้นดินพื้นหญ้าและแรงทับถมจากชายหนุ่มที่กอดตนอยู่
“ข ขอบคุณ”เอ่ยขอบคุณตะกุกตะกักเมื่อสบตากับดวงตาคมเข้มของร่างที่คร่อมตนเอาไว้ จากการคาดเดาแล้วเขาคิดว่าร่างสูงคงต้องโกรธมากแน่ที่นอกจากจะไปห้ามแล้วยังทำตัวเองเกือบตายเดือดร้อนถึงชายหนุ่มที่ต้องพาเขาหลบออกไปให้พ้นทาง หากแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อซีวอนปล่อยกอดก่อนที่จะยันตัวเองให้ลุกระหว่างที่เอ่ยสั่ง “คุณไปกับพวกนั้นเถอะ มันปลอดภัยกว่า”
“แต่...”
“เชื่อใจผมสิ”
น่าแปลก เพียงแค่ประโยคๆนั้นฮีชอลก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในรถจิ๊บที่กำลังขับไปยังหมู่บ้านข้างๆด้วยความเร็วสูง ร่างของซีวอนค่อยๆเล็กลงไปก่อนจะหายไป ร่างเล็กนึกแปลกใจเหลือเกินที่ยอมขึ้นมานั่งบนรถจิ๊บได้โดยไม่ได้เถียงเป็นรอบที่สอง...กับอิแค่ประโยคๆเดียวเท่านั้นเอง
ดวงตาคมเข้มละสายตาจากรถจิ๊บที่ขับออกไปเรื่อยๆ ไม่ทันจะได้มองไปจนสุดสายตานั้นก็เป็นอันต้องกลับมาสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างหน้าตน
“กรรรรร!!!”มันคำรามอย่างหงุดหงิดเมื่อชายหนุ่มสามารถหลบมันได้อีกหนึ่งครั้งก่อนจะเงื้ออุ้งมือแล้วฟาดลงไปอีก
ซีวอนกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว เขาไม่คิดที่จะคว้าปืนออกมาแล้วยิงโต้ตอบเลยแม้แต่น้อยเพราะสัตว์ใหญ่ตัวนี้เป็นเพียงแค่หมีที่ถูกฉีดยาและทำให้โกรธเท่านั้น และถ้ามันถูกฉีดยาสลบอีกรอบ ตื่นขึ้นมาก็คงจะเป็นเหมือนเดิม
ณ ตอนนี้ที่ทำได้ก็คือถ่วงเวลาและหลบมันไปเท่านั้น
นี่มันอะไรกันนักกันหนาวะ?!
ลีดงแฮคำรามในใจระหว่างที่เขาและคนอื่นๆช่วยกันอธิบายให้เจ้าหน้าที่แก่ผู้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่คนเดียวที่ประจำการอยู่ในออฟฟิสแห่งนี้ และดูเหมือนว่าชายชราจะไม่เชื่อว่ามีพญาหมีขนาดใหญ่หลุดออกมาและกำลังอาละวาดอยู่ที่สวนส้มเลยแม้แต่น้อย
“ดงแฮ?!”ฮีชอลตะโกนเรียกชื่อเพื่อนรักเรียกความสนใจของอีกสองคนให้หันมามองได้ก็พบกับเจ้าของชื่อที่กระถืบเท้าโครมเดินออกไปจากออฟฟิสที่ทำงาน และไม่ทันจะได้ตั้งคำถามในใจอย่างงุนงงนั้นชายหนุ่มก็กลับมา
และราวกับอ่านใจออกฮีชอลก็รีบเอ่ยอธิบายอีกครั้ง ชายชราละสายตาจากหนุ่มเกาหลีตรงหน้ามาคุยกับหนุ่มหน้าสวยแทน และเขาก็ยังคงไม่เชื่อคำพูดที่พูดมาเหมือนเดิม
“นี่ไม่ใช่เรื่องตล...อุ๊บส์!”ไม่ทันจะได้พูดเสียให้จบคำพูดทุกอย่างก็ถูกกลืนหายไปเมื่อมีอะไรบางอย่างมาปิดปากเอาไว้จากข้างหลัง สิ่งต่อมาที่เขารับรู้คือสติกำลังดับวูบและเขาก็หลับไปในที่สุดด้วยฝีมือของคนที่อาศัยจังหวะที่พูดคุยเดินมาใช้ผ้าโปะยาสลบปิดหน้าเขา
ลีดงแฮค่อยๆวางร่างชายแก่ที่หมดสติไปในอ้อมกอดตนบนเก้าอี้ที่ทำงานอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะเดินไปยังตู้ยาต่างๆที่เอาไว้ใช้กับสัตว์ คิมคิบอมเดินมาสมทบก่อนที่จะคว้ามือไปยังกล่องลูกดอกสีฟ้าที่จ่าหน้าด้วยภาษาอังกฤษว่า ‘ยาสลบชนิดรุนแรง’
ชายหนุ่มรับมันมาบรรจุลงปืนยาวที่วางเอาไว้ข้างใต้กล่องตู้ติดผนังนั่นอย่างช่ำชอง หันมาส่งยิ้มขอบคุณให้คนข้างๆและเพื่อนรักข้างหลังก่อนจะเดินนำทุกคนไปยังรถจิ๊บนั่นอีกครั้ง
ชินดงฮีก้มลงมองนาฬิกาข้อมือดิจิตอบของตัวเอง...เพียงแค่สิบห้านาทีเท่านั้นเองที่ใช้เวลาจากสวนส้มมายังที่นี่ เจรจาอย่างน่าปวดหัวก่อนจะจบลงด้วยดีและกำลังจะกลับไปยังสวนส้มอีกครั้ง
แม้จะเป็นช่วงเวลาที่สั้นและเร็ว ยังไงเขาก็ขอให้ซีวอนที่กำลังรับมือกับเจ้าหมีนั่นคนเดียวปลอดภัยด้วยเถอะ
รถจิ๊บขนาดบรรจุได้ห้าคนนั้นแล่นไปตามเส้นทางที่ทอดไปยังสวนส้มด้วยระยะความเร็วสูงเท่าที่ดงแฮจะสามารถขับได้ และภายในเวลารวดเร็วทุกคนก็ค้นพบว่ารถได้มาจอดอยู่หน้าสวนส้มไร่ที่สิบสามเสียแล้ว
คิมฮีชอลกระโดดลงจากรถเป็นคนแรกก่อนที่จะตามมาด้วยคนอื่นๆ เขารู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นร่างของซีวอนยังคงกระโดดหลบไปหลบมาอย่างรวดเร็วอยู่เพราะนั่นก็บ่งบอกเขาได้ว่าชายหนุ่มยังคงปลอดภัยอยู่
หากแต่เมื่อกระโดดลงไปแล้วหัวใจที่เต้นอยู่ก็ถึงกับหายวาบเมื่อเห็นรอยข่วนตามแขนและหลังแกร่งที่เสื้อผ้าขาดกระเจิงเผยให้เห็นรอยข่วนสีเลือดที่ซึมออกมาอย่างน่าหวาดกลัว ไม่ต้องถามก็รู้ได้เลยว่ามันเจ็บมากขนาดไหน
เพียงเท่านั้น ความโกรธก็แล่นพล่านไปทั่วร่างและส่งผลให้มือเรียวคว้ากระบอกปืนยาวจากมือเพื่อนรัก เงื้อขึ้นพาดบ่าอย่างชำนาญ ดวงตากลมโตหรี่ลงจับตาเป้าหมายที่เหวี่ยงมือไปมาอย่างบ้าคลั่งใส่ซีวอนผู้ทำได้เพียงแค่กระโดดหลบเท่านั้น...เฝ้ารอโอกาสอันเหมาะสม
และเหนี่ยวไกปืน
ปังงงงง!!
พญาหมีตัวนั้นหยุดค้าง อุ้งมือของมันค้างกลางอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับตัวหรือส่งเสียงใดๆทั้งสิ้น วินาทีต่อมาสิ่งที่เกิดขึ้นคือสัตว์ยักษ์ตัวนั้นค่อยๆหงายหลังล้มลงไปกับพื้น
ชเวซีวอนเป็นคนแรกที่ได้สติ ชายหนุ่มค่อยๆขยับตัวมายินประชิดข้างๆร่างเล็กที่ยังคงค้างอยู่ในท่าเดิม มือแกร่งทั้งสองข้างค่อยๆวางทับสองมือเล็กก่อนที่จะลดปืนลงแล้วคว้ามันมา ฮีชอลยังคงแข็งทื่อ
เป็นเวลานานกว่าที่เขาจะรู้สึกตัว ดวงตากลมโตกระพริบตาสองสามครั้งเรียกสติของตนกลับมา ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาเกิดวูบอะไร มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าพญาหมีนอนสลบไปข้างหน้าตนเสียแล้ว ข้างๆคือซีวอนที่ยืนถือปืนอยู่
“เอ่อ...ฉัน...”ตะกุกตะกักไม่รู้จะจับต้นชนปลายเริ่มประโยคอย่างไร ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะพูดออกไปทำไม...เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป?
ชายหนุ่มฉีกยิ้มอบอุ่น “คุณเยี่ยมมากฮีชอล นัดเดียวจอดแล้วเจ้านั่นก็ลงไปนอนบนพื้นเสียแล้ว” ประโยคบอกเล่าเหตุการณ์ฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นราวกับอธิบายให้กระจ่างแจ้ง
คำตอบที่ได้รับนั้นทำเอาคนรับฟังถึงกับกระพริบตาแล้วส่งเสียงเอ่ออ่าขาดๆห้วงๆต่อไป ร่างสูงได้แต่ฉีกยิ้มอย่างนึกขำกับท่าทีที่ดูไม่ใช่ฮีชอลเลยแม้แต่น้อย กระนั้นในใจก็พองโตกับการกระทำเมื่อครู่ แม้จะรู้ว่ามันเป็นเพียงการกระทำที่หัวใจสั่งให้ทำมากกว่าสมองที่จะสั่ง
แต่มันก็บอกเขาว่าฮีชอลแทบคลั่งเมื่อเห็นรอยแผลเหวอะหวะขนาดใหญ่กลางหลังเขา และนั่นก็บอกเขาได้ว่าการกระทำเมื่อครู่ที่ฮีชอลทำไปอย่างไม่ทันคิดนั่นก็เพราะ...
“ขอบคุณที่เป็นห่วงผมนะ”
คู่สนทนาเลือกที่จะก้มหน้างุดมองพื้นแทน เพราะคำพูดๆนั้นมันคือสาเหตุที่ทำให้เขาถึงกับคว้าปืนจากดงแฮและไม่รีรอที่จะเหนี่ยวไก เพียงเพื่อที่จะปกป้องคนที่รักหมดหัวใจไม่ให้เป็นอันตรายอะไรไปมากกว่านี้
...เขาทำไปแล้วสินะ
คิดได้เพียงเท่านั้นก็กระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วหัวเราะเบาๆเพื่อกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง แต่ก็คงไม่สามารถปิดบังคนที่รู้จักรู้ใจกันมานานหลายปีที่ยืนข้างๆได้หรอก
คิมฮีชอลกำลังอายและเขาเองก็รู้เสียเต็มอกด้วย เพราะฉะนั้นซีวอนจึงเลือกที่จะปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมฆ่าเวลาให้ร่างเล็กกลับมาเป็นเหมือนปกติได้ เพราะขืนพูดอะไรออกไปยังไงก็คงไม่ตอบกลับมาหรือไม่ก็ยิ่งอายหนักกว่าเก่าแน่นอน
เมื่อดวงหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมาจึงส่งยิ้มให้ก่อนจะเหลือบไปมองยังคนอื่นๆที่นั่งรอบนรถจิ๊บกันหมดเสียแล้ว
“ไปกันเถอะ คนอื่นเขารอกันหมดแล้ว”ไม่ว่าเปล่าก็ถือวิสาสะคว้ามือเล็กมาจูงแล้วเดินนำไปยังรถจิ๊บ คนถูกจูงก็ได้แต่เดินตามโดยไม่ปริปากว่าอะไรเลยแม้แต่น้อยหนำซ้ำยังนึกดีใจกับการกระทำนี้อีก
ดวงตากลมโตหลุ่บตาจ้องมองมือแกร่งที่เกาะกุมมือตนอยู่ ความอบอุ่นจากมือที่จูงอยู่นั้นแผ่ซ่านไปทั่วตัวและซึมซับเข้าไปในหัวใจดวงน้อยๆที่เคยมีความสุขเพราะผู้ชายคนนี้และเจ็บเพราะผู้ชายคนนี้อีกเช่นกัน
อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามนี้กับตัวเอง และอยากจะเอ่ยปากถามชายหนุ่มที่เดินจูงมือข้างๆตนอยู่เหลือเกิน แต่ก็ได้แต่เก็บงำเอาไว้ในใจและมีเพียงรอยยิ้มหวานเศร้าๆเท่านั้นที่ถูกระบายออกมาบนดวงหน้า
ไม่ได้เดินจูงมือกันมานานเท่าไหร่แล้วนะ?
------------------------------------------------------------------------------------------
วู้ววววว ๕๕๕๕ '
คิดถึงฮาเลและวันเดอกันไหมทุกคน -_-;
ตอนนี้กำลังรีบปั่นทั้งสองเรื่องอยู่เลย
อยากจะบอกว่าตอนนี้แอบตันๆฮาเลนิดนึงหงะ TT .
สบายดีไหมแฟนฟิกที่รัก :D ??
ความคิดเห็น