ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กว่าจะเป็นบัณฑิต

    ลำดับตอนที่ #1 : หนึ่งร้อยเจ็ดสิบกิโลเมตร

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 53


    หนทางอาจห่างเหินเกินกันบ้าง

    ระยะทางอาจห่างไกลเกินใจถึง

    จากพ่อแม่น้องพี่ที่คะนึง

    หวนรำพึงรำพันวันร่ำลา

     

    สัมภาระภารกิจพิชิตฝัน

    ก้าวมุ่งมั่นสู่แคว้นแดนศึกษา

    ณ ถิ่นฐานอารยธรรมตักสิลา

    เมืองมหาสารคามที่ร่ำลือ

     

    ร้อยเจ็ดสิบหลักชัยใจเฝ้าถึง

    เสียงอื้ออึงเพื่อนครูดูหนังสือ

    การศึกษาแห่งนี้พาฝึกปรือ

    นำพาชื่อฉันไว้บนใบปริญญา

     

     

                    ไม่ไกลมากนักจากมหาวิทยาลัยกับบ้านของผม โดยประมาณ 170  กิโลเมตร แต่ความเหงาทำให้ผมรู้สึกว่าจากบ้านมาไกลพอสมควร ผมคิดเช่นนั้น     หลายคนที่ไม่เคยจากบ้านมาไกล ความรู้สึกก็คงไม่ต่างอะไรจากผมนัก  ถึงแม้ระยะทางจะสั้นเพียงน้อยนิด  ก็ทำให้เราเหงาได้ หากไม่มีพ่อและแม่ที่เราเคยคุย เคยทานข้าว เคยไหว้ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน   แต่วันนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป  เพราะผมต้องใช้ชีวิตด้วยตัวของผมเองโดยไม่มีพ่อกับแม่คอยดูแลเหมือนเช่นก่อน

                    เหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยกับการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ที่เราอยู่ ลำพังเพียงคนเดียวอย่างอิสระ   แต่สำหรับผมมีหลายอย่างที่ตรงปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรม  ไม่ว่าจะเป็นภาษา หรือ อาหารการกิน    วิถีชีวิตจะถูกปรับเปลี่ยนอย่างช้าๆ และก็เรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง  จนบางครั้งผมลืมตัวไปว่าผมกลายเป็นคนที่นี่ไปเสียแล้ว

     

                    ผมมาอยู่ที่นี่ ยังไม่มีเพื่อนสนิท และก็ไม่อยากจะสนิทกับใคร ดูท่าทางแต่ละคนแล้วหยิ่งน่าดู    เพราะอะไรนะเหรอก็ เพราะผมพูดภาษาอีสานไม่เป็นนะสิ    ทั้งๆ ที่เป็นคนอีสานแท้ แต่พูดอีสานไม่เป็น    คงจะว่าผมไม่รู้กำพืดตัวเอง  แต่ที่แท้จริงไปกว่านั้นกำพืดผมจริงๆพูดภาษาเขมรครับ  แถวบ้านไม่มีใครพูดอีสานกันหรอก ผมเลยไม่ชินหู และปากสักเท่าไรกับการสนทนาภาษาอีสาน   ก็เหมือนกับพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาตินั่นแหละครับ  กลัวผิดบ้าง ฟังไม่ออกบ้างก็เลยไม่อยากจะพูดกับใคร  แต่ก็ไม่ขนาดที่จะฟังไม่ออกเสียทีเดียวหรอกครับ  แต่ฟังไม่ทัน  คนแถวนี้พูดเร็ว มีศัพท์แปลกเอามาให้ผมขำ เกือบทุกวัน  แต่ก็ไพเราะ ไปอีกแบบ 

                    กิ่นข่าวแหล่วไป่?”  ผม ได้ยินประโยคนี้จากเพื่อนครั้งแรก  งง เลยครับ  งง เป็นไก่ตาแตกเลย   ผมเข้าใจเพื่อนคงถามว่า กินข้าวแล้วจะไปไหนต่อ ที่ไหนได้ เพื่อนถามว่ากินข้าวแล้วยังนั่นเอง  บางครั้งแทบจะร้องโฮ  ออกมาถ้าฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ  ยิ่งอาจารย์บางท่านสอนในห้องเรียน เล่นมุขภาษาอีสานมาอย่างนี้  ผมต้องขำทีหลังเพื่อนทุกทีเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×