ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรัก บัลลังก์ฟาโรห์

    ลำดับตอนที่ #11 : #11 ความพยายามกลายเป็นศูนย์ 50%

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 56


                แอ๊ด...

                เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบาท่ามกลางรัตติกาลอันเงียบสงัดของพระราชวังแห่งธีบส์

                พายในชุดนางกำนัลเก่ามอซอ คลุมผ้าสกปรกแบบทาสหญิงค่อยๆเยี่ยมหน้าออกมาภายนอก

                ระเบียงทางเดินยาวนั้นมีคบไฟปักไว้ที่ห่วงทองแดงข้างทางเป็นระยะ เงาสีดำที่ทอดทับไปยังผนังหินทรายบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปร่างราวกับเงาปีศาจ...พายกระชับผ้าคลุมหน้าแน่นด้วยมืออันสั่นเทา บรรยากาศช่างเป็นใจยิ่งนัก หนทางช่างสะดวกง่ายดายและเงียบงัน...เงียบจนเกินไปแล้ว

                ร่างบางก้มหน้างุดในขณะที่ออกเดินตรงไปยังจุดหมาย...สถานที่ที่ใครๆต่างก็หวาดกลัวกันนักหนา

              โถงทางเดินทิศตะวันตก !

              เธอต้องการดวงไฟพยากรณ์นั่น...เธอต้องการทางออกแห่งปัญหานี้

    หากความโชคร้ายมาเยือน หากเจ้าหญิงเนเฟรอะไรนั่นกลับมายังพระราชวังธีบส์แล้วจับได้ว่าเธอไม่ใช่เนฟรูเรตัวจริง เธออาจจะโดนกำจัดทันทีเพื่อเป็นการเปิดทางสู่บัลลังก์ฟาโรห์ก็เป็นได้...การแก่งแย่งอำนาจคือสิ่งที่ทำลายความอ่อนโยนไปจากใจมนุษย์มานักต่อนักแล้ว

    ใครจะรับรองได้ว่าพายจะอยู่รอดปลอดภัยที่นี่ ดังนั้นทุกโอกาสที่มี เธอต้องไขว่คว้ามันไว้ !

    และแล้วระเบียงทางเดินก็มาถึงจุดแยก

    โถงทางเดินอันมืดสลัวปรากฏอยู่เบื้องหน้า เมื่อคิดถึงเรื่องเล่าต่างๆนาๆของเหล่านางกำนัลก็ยิ่งทำให้พายอยากหันหลังกลับไปนอนบนเตียงอุ่นสบายในห้องบรรทมยิ่งนัก

    “สู้เค้านะพาย...เธอทำได้ เธอทำได้...” หญิงสาวพึมพำเป็นการปลอบใจตนเอง ก่อนสูดลมหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี

    และก้าวตรงเข้าไปสู่หนทางที่เธอไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรรออยู่บ้าง

     

    ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไร อากาศรอบกายก็ยิ่งดูจะหนาวเหน็บมากขึ้นเท่านั้น

    พายกัดริมฝีปากในขณะที่อีกมือหนึ่งระผนังหินทรายหยาบไปเรื่อยๆกันหลงออกนอกเส้นทาง ทางเดินบางช่วงเป็นสีส้มสลัวด้วยแสงจากคบไฟข้างผนัง สลับกับบางระยะที่มืดมิด...เธอจำได้ว่าสิ่งก่อสร้างของชาวอียิปต์โบราณได้ซุกซ่อนกับดักมากมายเอาไว้ในความมืดที่หลอกตา

    โถงทางเดินแคบๆถูกสร้างขึ้นจากหินทรายเช่นเดียวกับระเบียงทางเดินอื่นๆหากต่างกันตรงที่สถานที่นี้ดูเหมือนจะถูกละเลยทิ้งร้างจากความสนใจของผู้คนมานานนักหนาแล้ว รอยแตกหลายรอยจึงพาดยาวจากผนังด้านบนสุดลงมาเกือบถึงพื้นหินราวกับสายฟ้าในค่ำคืนแห่งพายุ...ใยสีขาวที่ถูกถักทอด้วยฝีมือเจ้าสัตว์แปดขาโยงระเกะระกะจากฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่งจนดูน่าขนลุก

    นี่ถ้าเอาซาวด์เอฟเฟกต์หมาหอนมาเปิดแถมด้วยนะ บรื๋อ...พี่ป๋องคงไม่ยอมพลาดที่นี่แน่ๆ

                เส้นทางหักเลี้ยวไปทางซ้าย ด้วยความรีบร้อนทำให้หญิงสาวเลี้ยวโค้งอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันระวังตัว

                เงาร่างสีดำพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจากความมืดมิด !

                “กรี๊ดดดดดดด !!!

                พายหลับตาปี๋หวีดร้องอย่างตื่นตระหนก แจ็กพอตแตก เธอเจอของดีเข้าให้แล้ว !

                “ฮือๆอย่าทำอะไรฉันเลยนะ กลัวแล้วจ้า พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วย”

                แทนที่เงาดำนั้นจะเริ่มหลอกหลอนแบบในหนังผีที่เคยดูมา พายกลับได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆดังขึ้นแทนจนเธอชักเหวอ มือที่ไหว้ปลกๆทิ้งตกลงข้างตัว

                หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ...

                ร่างบางในชุดสีขาวกรุยกรายคลุมร่างมิดชิดยืนอยู่เบื้องหน้า ผ้าคลุมสีขาวและผ้าโปร่งที่ใช้ตวัดคลุมดวงหน้าจนเหลือเพียงดวงตาสีรัตติกาลในกรอบยาวรีล้อมด้วยแพขนตาหนาทำให้ยากที่จะระบุว่าเป็นผู้ใด นางยังคงป้องปากหัวเราะเบาๆกับท่าทางที่คงน่าขบขันเต็มทีของพาย นิ้วเรียวนั้นสวมแหวนเชือกถักสีดำดูแปลกตา

                “ธะ...เธอเป็นใครกันน่ะ ?” พายรวบรวมความกล้าถามออกไป

                แม้จะหยุดหัวเราะแล้วทว่าสตรีผู้นั้นยังคงยืนนิ่ง ไม่ตอบคำถามของเธอแต่อย่างใด

                อาการนิ่งสนิทราวกับรูปสลักนั้นยิ่งเป็นเชื้ออย่างดีของความกลัวที่เพิ่มขึ้น...ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าหวาดกลัวเช่นนี้ คนปกติธรรมดาที่ไหนเลยจะกล้าเข้ามา...นอกจาก...นอกจาก...

                ร่างโปร่งบางในชุดขาวเริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อย ก่อนหันหลังกลับเลี้ยวเดินกลับไปยังความมืดที่นางเพิ่งก้าวออกมา

                บางสิ่งในความรู้สึกคล้ายบอกว่าเธอไม่ควรปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เดินจากไปเฉยๆ ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบลุกขึ้น ปัดฝุ่นออกจากอาภรณ์ที่สวมใส่ก่อนวิ่งตามพลางร้องเรียกร่างบางนั้น

                “เธอ เดี๋ยวก่อน รอด้วยสิ เฮ้ วู้วววว”

                ในความมืด...เธอมองเห็นเพียงปลายโถงทางเดินที่อยู่ไม่ไกลนัก ชายกระโปรงสีขาวปลิวผ่านเข้าไปในเวิ้งอุโมงค์ที่เจาะเข้าไปในผนังด้านซ้าย แสงสีแดงอมส้มสลัวรางทอออกมาจากที่นั่น...ดูเหมือนสิ่งที่เป็นผู้สร้างความสว่างจะซ่อนตัวอยู่ในเวิ้งอุโมงค์นั้นเอง

                พายรู้สึกได้ว่ามือของเธอเย็นเฉียบตอนที่เธอก้าวมาหยุดตรงหน้าเวิ้งอุโมงค์ที่ปลายสุดโถงทางเดินทิศตะวันตก

                ที่ด้านในสุดของห้องเล็กๆนั้น แท่นหินอ่อนเนื้อดีสีขาวบริสุทธิ์ราวแกะสลักจากปุยเมฆวางเด่นเป็นสง่า รองรับเทวรูปทองคำของเทพเจ้าอามุนราผู้มีศีรษะรูปเหยี่ยวประทับอยู่บนเรือสุริยะ แผ่นดวงอาทิตย์ทองคำกลางพระนลาตสะท้อนแสงสีส้มอมแดงของเปลวเพลิงในอ่างทองคำที่ลุกโชติช่วงล้อมรอบเรือสุริยะนั้นไว้...ราวทรงกำลังแล่นเรือข้ามทะเลเพลิงด้วยความงามสง่า

                นี่เอง...ดวงไฟศักดิ์สิทธิ์แห่งอามุน-รา !

                ร่างของพายโซเซไปพิงผนังหินอย่างอ่อนแรง ไม่ใช่ด้วยความยินดีที่ได้พบดวงไฟศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ

                ความรู้สึกนั้นเลือนหายไปนานแล้ว ตั้งแต่เธอค้นพบว่าถ้าหากไม่นับแท่นแห่งดวงไฟแล้ว เวิ้งอุโมงค์นี้...ว่างเปล่า

                ใช่แล้วล่ะ ว่างเปล่า

                ในเมื่อทางออกจากเวิ้งอุโมงค์มีเพียงทางเดียวคือต้องกลับออกมาทางเดิม และต้องเดินผ่านพายอย่างแน่นอน แล้ว...ร่างของหญิงสาวในชุดขาวผู้นั้นหายไปไหนกัน !

                คำพูดของเฮมีหวนกลับมาสู่ความทรงจำ

                ...แต่ทว่าไม่มีผู้ใดเคยได้มันไป เพราะ คา ที่รักษาดวงไฟนั้นจัดการคนโลภมากให้เสียสติไปทุกราย

              คราวนี้ ไม่เผ่นไม่ได้แล้วจริงๆนะ !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×