คำสัญญาในวันปัจฉิม
คุณคิดว่าเพื่อนที่คบกันตั้งแต่ป.6 จะไว้ใจได้แค่ไหน.....
ผู้เข้าชมรวม
66
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
คำสัญญาในวันปัจฉิม
ธาราสลิล
แสงแดดอ่อนๆในยามเช้าบวกกับสายลมเย็นๆที่พัดต้องผิวสัมผัส เป็นบรรยากาศที่ดีชวนให้รับรู้ถึงความเป็นธรรมชาติของชนบทที่แท้จริง ต้นทองกวาวขนาดใหญ่ที่ออกดอกสีส้มทองอันสวยงามบ่งบอกให้ทราบว่าอยู่ในช่วงฤดูหนาวตั้งตระหง่านอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีทั้งเสาธงขนาดไม่สูงมาก สนามฟุตบอลที่กำลังมีเด็กๆเล่นและหยอกล้อกันอยู่อย่างสนุกสนานตามประสาเด็กน้อยชนบทที่ไม่มีเครื่องเล่นหรือของเล่นอะไรมากมายนัก
เด็กหญิงคนหนึ่งจึงทักเพื่อนขึ้น
“ฟ้าๆ แกไม่มาเล่นกับพวกเราหรอ?”
“อ๋อๆ ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่อยากเล่นหน่ะ กำลังทบทวนบทเรียนอยู่”
“แกนี่ขยันจริงๆเลยนะ ป่ะพวกเราไปเล่นต่อกันเถอะ”
“^___^” ฟ้าใสจึงยิ้มรับ
“ฟ้าใส”เป็นเด็กนักเรียนที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เขาเป็นเด็กที่ขยันและตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งผลการเรียนของเขาก็อยู่ในลำดับหนึ่งมาโดยตลอด แต่ฐานะทางครอบครัวของเขาไม่ค่อยดีนัก เขาอาศัยอยู่กับยายของเขาแค่สองคน เพราะพ่อแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็ก เขาจึงมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน ทั้งต้องทำงานบ้าน และทำงานพิเศษทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้เพื่อช่วยยายของเขาหารายได้เพื่อส่งตัวเองเรียน
เวลา ๐๘:๐๐ น. เป็นเวลาเคารพธงชาติของโรงเรียนชนบทขนาดเล็กแห่งนี้ เด็กๆจึงเลิกเล่นกันแล้วก็มาเตรียมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติ และคนที่นำร้องเพลงชาติก็คือ “ปาลิน” เด็กนักเรียนที่เป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ เธอมีรูปร่างหน้าตาที่สวยและเป็นเด็กกิจกรรมจึงได้รับเลือกจากเด็กนักเรียนทุกคนในโรงเรียนให้เป็นประธานนักเรียน ซึ่งฐานะทางครอบครัวของเธอก็แตกต่างจากฟ้าใสเป็นอย่างมาก เพราะเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว และครอบครัวของเธอก็มีกิจการส่วนตัว ซึ่งเธอก็เป็นคนที่มีฐานะทางสังคมที่ดีที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้ แต่ปาลินกับฟ้าใสก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ คอยช่วยเหลือกันมาโดยตลอดทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องอื่นๆ
บรรยากาศภายในห้องเรียนของชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ที่มีนักเรียนหยอกล้อและเล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่มีเพียงสองคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือและติวบทเรียนให้กันอยู่ นั่นก็คือฟ้าใสและปาลิน
“นักเรียนทุกคนทำความเคารพ” เสียงหัวหน้าห้องดังขึ้น
“สวัสดีครับ/ค่ะ”
“สวัสดีจ้ะ นักเรียนทุกคน ตอนนี้ก็ใกล้จะสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ แล้ว พวกเธอก็อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ก็ต้องขยันและตั้งใจเรียนให้มากๆนะจ้ะ เพราะต้องออกไปสอบเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอื่นด้วย เอาหล่ะจ้ะ วันนี้เราจะมาเรียนเรื่องการแก้สมการกัน..............”
ถึงเวลาเลิกเรียนแล้วเด็กนักเรียนทุกคนก็ขี่จักรยานกลับบ้านกันเป็นกลุ่ม แต่ปาลินก็มีรถจากครอบครัวมารับจึงชวนฟ้าใสขึ้นรถไปด้วย เพราะฟ้าใสไม่มีรถจักรยานจึงต้องเดินกลับบ้านเองทุกวัน แต่ฟ้าใสก็ปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
จนมาถึงวันประกาศผลสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ก็เป็นเรื่องปกติเช่นเคยที่ฟ้าใสจะได้ลำดับที่ ๑ ทุกคนต่างก็ปรบมือแสดงความดีใจและให้กำลังใจ และวันนี้ก็เป็นวันปัจฉิมด้วยซึ่งนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ต่างก็ร้องไห้และทำการร่ำลากัน เพื่อที่จะได้ไปเรียนที่โรงเรียนแห่งอื่น
“ฟ้าๆ เธอจะไปเรียนต่อที่โรงเรียนไหนหรอ?” ปาลินพูดขึ้น
“เรายังไม่รู้เลย ว่าจะได้เรียนต่อรึเปล่า แล้วเธอหล่ะ”
“ทำไมเธอพูดแบบนั้นหล่ะ เราว่าจะไปสอบที่โรงเรียนประจำจังหวัดหน่ะ ไปด้วยกันมั้ย”
“เราไม่มีปัญญาไปเรียนโรงเรียนดีขนาดนั้นได้หรอก ขนาดโรงเรียนประจำอำเภอก็เอาให้รอดก่อน สำหรับเราค่าใช้จ่ายมันก็สูงมากเลยนะ”
“แย่จัง!! เราอยากให้เธอไปเรียนด้วยจังเลย”
“เราขอให้เธอโชคดีนะปาลิน หวังว่าเราจะได้มาพบกันอีกนะ”
“เช่นกันจ้ะ โชคดีนะฟ้าใส เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ^____^”
ในการสอบเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษา ปาลินก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัด โดยการใช้เส้นสายเพราะครอบครัวเธอก็เป็นพวกมีอิทธิพลกลุ่มหนึ่ง ส่วนฟ้าใสก็เรียนที่โรงเรียนประจำอำเภอ เพราะยายและคุณครูทุกคนก็ต่างสนับสนุนให้เธอได้เรียนต่อโดยทางโรงเรียนได้ขอทุนการศึกษาให้กับฟ้าใสด้วย
ฟ้าใสได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนประจำอำเภอ เธอก็ตั้งใจเรียนและมีผลการเรียนที่ดีมาโดยตลอด และเพื่อนๆทุกคนในห้องเรียนก็ต่างรักและชื่นชมเธอ เพราะฟ้าใสเป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยติวหนังสือให้เพื่อนก่อนสอบ ใครไม่เข้าใจอะไรก็สามารถมาถามฟ้าใสได้ เธอก็จะช่วยตอบด้วยความเต็มใจ ฟ้าใสก็ได้รับเลือกจากเพื่อนๆให้เป็นหัวหน้าห้องด้วย
แตกต่างกับปาลินที่เธอได้คบกับเพื่อนที่ไม่ตั้งใจเรียน ชอบพากันหนีเที่ยว และไม่ส่งงาน จึงทำให้เธอต้องสอบไม่ผ่านและมีผลการเรียนที่ไม่น่าพึงพอใจตลอดมาซึ่งแตกต่างกับแต่ก่อนมาก และด้วยปาลินที่มีหน้าตาที่สะสวยก็เลยมีมีเพื่อนต่างเพศเข้ามาจีบเธอเป็นจำนวนมาก แต่ครอบครัวของเธอก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเธอมีนิสัยที่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ทั้งเอาแต่ใจและมีนิสัยที่ขี้วีนมากขึ้น
ฟ้าใสได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ มาฝึกอบรมวิชาการที่ตัวจังหวัด ในขณะที่เธอเลิกจากการฝึกอบรมก็ได้ออกมาหาข้าวเย็นทาน ก็ได้มาพบเข้ากับปาลินและเพื่อนต่างเพศของเขา ตอนแรกเธอเกือบจำปาลินไม่ได้ เพราะเธอดูเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะแต่ก่อนปาลินเป็นคนที่เรียบร้อยและน่ารัก แต่ตอนนี้เธอใส่กางเกงที่สั้นมาก ทำสีผม ทาปากสีจัด เขาไม่เหมือนปาลินคนที่เธอเคยรู้จักมาก่อน เธอจึงเดินเข้าไปทัก
“ปาลินๆ เธอจำฉันได้มั้ย ฉันฟ้าใสไง”
“ฟ้าใสไหนฉันไม่รู้จัก เพื่อนฉันไม่มีคนชื่อฟ้าใส รีบออกไปเลยนะ ฉันไม่รู้จักเธอ ยัยเด็กบ้านนอก” ตอบไปทั้งที่จำได้ว่าฟ้าใสเป็นเพื่อนเก่า แต่ปาลินกลัวอับอายแฟนหนุ่มของเธอที่มีเพื่อนเป็นเด็กบ้านนอก
แล้วปาลินก็ได้เดินจากฟ้าใสไปกับแฟนหนุ่มโดยไม่สนใจฟ้าใสเลยแม้แต่นิดเดียว............
“ปาลิน เธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ”
วันนั้นฉันยังจำคำพูดนั้นได้ “เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป”
ในช่วงการเรียนของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เป็นช่วงที่เด็กนักเรียนต้องทำงานหนักมาก ทั้งเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัย และทำงาน การบ้าน และกิจกรรมอันหนักหน่วงที่ครูและโรงเรียนได้มอบหมายให้ ในช่วงนี้ฟ้าใสก็ได้ทำงานอย่างหักโหมมาก ได้นอนวันละประมาณ ๓-๔ ชั่วโมง เพราะต้องแบ่งเวลาทั้งอ่านหนังสือ และทำการบ้าน เพราะเธอต้องทำตามความฝันในการสอบเข้ามหาลัยให้ได้ เพื่อที่จะทำให้ยายของเธอได้ภูมิใจและทำให้ท่านได้สบายกว่าที่เป็นอยู่ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยและลำบากขนาดไหน
ส่วนปาลินก็มีแต่เที่ยวไปกับเพื่อนๆ ไม่สนใจเข้าเรียนเลย ครอบครัวของปาลินจึงทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเกลี้ยกล่อมขนาดไหน ปาลินก็ไม่สนใจ สนใจแค่เพื่อนของเธอที่ชวนไปเที่ยวไหนเธอก็ตอบตกลงไปทุกที่ จนโรงเรียนจะไล่ปาลินออก แต่เพราะทางครอบครัวของปาลินได้ขอไว้ว่า ขอให้ปาลินได้จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ก่อน
ในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เทอมปลายฟ้าใสก็ได้เข้าสมัครสอบชิงทุนของอำเภอที่มีทุนให้ไปเรียนต่อต่างประเทศฟรี ซึ่งฟ้าใสก็สอบผ่านได้ทั้งรอบข้อเขียนและรอบสัมภาษณ์ จึงได้รับคัดเลือกให้ไปเรียนต่อต่างประเทศฟรี ประมาณ ๖ ปี เธอจึงได้ตัดสินใจไปเรียนต่อโดยฝากยายไว้กับคุณครูที่คอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดดูแลในระหว่างที่ไปเรียนต่างประเทศ
...... ๖ ปีต่อมาฟ้าใสก็ได้กลับมาที่ประเทศไทยพร้อมกับใบปริญญาบัตรของการเรียนจบหลักสูตรของมหาลัยที่ต่างประเทศ ทำให้คนในหมู่บ้านและยายของฟ้าใสภาคภูมิใจมาก และเธอก็ได้งานทำที่ต่างประเทศด้วย แต่พอกลับมาเธอก็ได้ทราบข่าวว่าเพื่อนเก่าของเธอซึ่งก็คือปาลิน เขาเรียนไม่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เพราะเขาได้ตั้งครรภ์ก่อน จึงได้ถูกทางโรงเรียนไล่ออก แล้วฝ่ายชายก็ไม่ได้รับผิดชอบลูกในท้องของปาลินด้วย ยายของฟ้าใสจึงบอกให้เธอไปเยี่ยมปาลิน
ปาลินในตอนนี้กำลังนั่งเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านของเธอ ซึ่งมีแม่ของปาลินช่วยเลี้ยงด้วย พอปาลินเห็นฟ้าใสจึงรีบเดินหนี แต่ฟ้าใสก็พูดทักไปว่า
“ปาลิน เธอเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”
“ฟ้า เธอไม่โกรธฉันหรอเรื่องวันนั้น”
“ไม่หรอก ฉันจะโกรธเธอทำไมในเมื่อเราเป็นเพื่อนกัน เธอจำวันปัจฉิมตอนป.๖ได้ไหม ที่เธอพูดว่า เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป นั่นแหละฉันจะโกรธเธอลงได้ยังไง”
“ฟ้า ฉันขอโทษเธอจริงๆนะ” ปาลินได้เข้ามาโอบกอดฟ้าใสด้วยความซาบซึ้งใจในมิตรภาพ พร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาด้วยความสำนึกผิด
“ไม่เป็นไร ฉันไม่โกรธเธอหรอก” ฟ้าใส่ยิ้มให้ด้วยความจริงใจพร้อมกับลูบหลังปาลินเบาๆเป็นการปลอบ
ฟ้าใสตัดสินใจไปทำงานที่ต่างประเทศ อย่างที่เขาได้ตั้งใจไว้ แล้วเธอก็ได้พายายของเธอไปอยู่ด้วย และเธอก็ไม่ลืมบุญคุณของครูทุกคนที่ช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด และต่อมาฟ้าใสก็ได้ประสบความสำเร็จมีกิจการส่วนตัวของเธอที่ต่างประเทศเพราะความสามารถในด้านการทำงานและจิตใจที่งดงามงามของเธอ............
-------------------------THE END-----------------------
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ธาราสลิล ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ธาราสลิล
ความคิดเห็น