กายภาพบำบัด มศว
แนะแนวเข้าศึกษา
ผู้เข้าชมรวม
10,555
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กายภาพบำบัด มศว.
คณะสหเวชศาสตร์...มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
---------------------------
กายภาพบำบัดทั่วไทย ในประเทศ ไทย มี 11 แห่ง
ขอฝาก กายภาพบำบัด มศว. แห่งนี้ ไว้ด้วยครับ
----------------------------
กายภาพบำบัด มศว. จะมีการรับนักศึกษาเข้าศึกษา โดยการสอบตรง....
คณะนี้ได้เปิดทำการมาเป็นเวลานานถึง 14 ปี แล้ว.......
---- เกริ่นนำก่อนแล้วกัน........
คณะสหเวชสาสตร์นี้ เปิดการเรียนการสอน 1 เอกวิชา นั่นก็คือ กายภาพบำบัด
จะทำการเรียนการสอน อยู่ที่ องค์รักษ์ จ.นครนายก ตลอดทั้ง 4 ปี...!
บรรยากาศที่สัมผัสได้ครั้งแรก ทรมานอะไรยังงี้ ไกลเมืองเหลือเกิน
แต่เมื่อมาได้สัมผัส กลับทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป โดยส่วนตัวเป็นคน กรุงเทพฯ
แต่ผู้คนที่มาศึกษาในคณะนี้ ส่วนนน้อย ที่มีคน กทม.ก้อว่าได้ จึงทำให้รู้จักคนมาก
ลักษณะแต่ละบุคคลที่ต่างกันไป....รุ่นพี่เองก้อเถอะ น่ารัก เป็นกันเอง
เราอยู่กัน แบบอบอุ่น พี่น้องร้องเพลง.....ทุกคนมีศักด์ศรีเท่าเทียมกัน
เคารพในความคิดของกันและกันอยู่เสมอ เราเชื่อเช่นนั้น.......
หากไม่ลอง ก้ไม่รู้....ว่าเป็นเช่นไร?
---- กายภาพบำบัด คืออะไร....กายภาพบำบัด เป็นวิชาชีพที่ติดตัวผู้เรียนไปจนวันตาย...
ความรู้ที่หาได้ไม่มีวันหล่น หรือหลงลืม มีแต่ศึกษาเพิ่มตาม คอนเซปที่ว่า
>>>>>>>>>>>> "สองมือ หนึ่งสมอง ประคองชีวิต"<<<<<<<<<<<<<<<<
กายภาพบำบัด คือการรักษาผู้ป่วยโดยไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยา
ใช้บุคคลากรเป็นหลัก...ง่ายๆก็คือ 2 มือ กะ 1 สมอง ก้อทำงานได้
เป็นงานที่ต้องพบปะผู้คน เหมาะกับที่ชอบ เจอผู้คนใหม่ๆ งานสังสรรค์ต่างๆ
คนไข้ที่มาพบเราแต่ละราย ก้ต้องมีอาการต่างๆกันไป มันน่าสนุกที่ได้เจออะไรแตกต่าง
ไม่ซ้ำซากจำเจ งานที่เน้นการปฏิบัติมากก่า แต่ต้องอาศัยความรู้ที่มีด้วย
อาจต้องเป็นคนที่รู้จักมองโลกในแง่ดี ให้กำลังใจคนเป็น ยิ้มง่าย เพราะรอยยิ้ม สามารถสื่อได้ถึงหลายๆอย่าง
แหม คนเราก้ยังอยากอยู่กะคนอารมณ์ดีเลย..
แล้วเราป่วยละ เราอยากได้คนแบบไหนมารักษาเรา!
บุคคลิกภาพ ก้เป็นอีกอย่าง แต่สามารถฝึกกันได้
----การเรียน การสอนเป็นเช่นไร!
ชั้นปี่ที่ 1--------ในรุ่น 14 นี้ มีรวมกันถึง 60 คน
........ก้อเรียนวิชาเบื้องต้น ฟิสิกส์ เคมี ที่ไม่เคยตั้งใจเรียนในม.4-6 ก้อมาเจออีก 1 ปี
เรียนสนุกสนาน เรียนกับ วิศวะ พยาบาล ตัดเกรด ก้อสนุกสนาน นะครับ...อิอิ
ที่แปลกอยู่อย่าง ที่นี่ ไม่มีการเรียนการสอน เลข.....ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
เพราะ ผมไม่เก่งเลขเลยที่เดียวก้อว่าได้ อาจเป็นข้อดีอีกข้อก้อได้ ที่ทำให้ต่างจากที่อื่นอีกข้อหนึ่งคือ เริ่มเรียนวิชาคณะ ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เลย
- วิชาการรักษาด้วยความร้อนความเย็น....เป็นการเลือกใช้ ความร้อน/เย็นมาใช้ในการรักษาแล้วแต่กรณี
จะได้ทราบว่าที่รักษากัน ทุกวันนี้ ถูกหรือผิด ...ผมเองก้เพิ่งมารู้เอาตอนนี้ละครับ
- ระบบร่างกายมนุษย์...อั่นแน่ นี่ดีหน่อย เรียนแต่ในคณะ ไม่ต้องมานั่งเรียน ชีววิทยาใหม่ถือว่าดีมาก เพราะไม่ต้องไปตัดเกรด กับ แพทย์ ทันตะ เภสัช ก้อว่าได้! เรียนเกี่ยวกับ กระบวนการต่างๆในร่างกาย เราต้องทำความเข้าใจให้ได้ เรียนแค่เบื้องต้น 1 ตัว เท่านั้น
- หัตถบำบัด เป็นการบำบัดด้วยมือ ....การนวด เพื่อกระตุ้นการส่งกระแสประสาท ไหลเวียน กล้ามเนื้อการไหลเวียนเลือด อาจต้องเอาไปใช้ ในผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต สบายทั้งผู้เรียน และผุ้เป็นหุ้นให้นวดสนุกสนานกันเลยทีเดียว เรียนตั้งแต่เท้าขึ้นไปเลยทีเดียว.....สบายทุกที อยากบอกว่า แอบหลับเลยละ
-*- ต่างจากหมอนวดนะครับ อิอิ เพราะเราเน้นในแง่ รักษา ไม่ใช่เพื่อความเพลิดเพลิน อย่าเข้าใจเช่นนั้นครับ!
-------แค่นี้ ก้อพอทราบได้เเล้วว่า ต่างจากที่อื่น ตรงที่ได้เรียนวิชาคณะ จะทำให้ทราบว่า เราชอบหรือไม่? ทนได้ไหมที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง...รู้เลยว่าใช่หรือไม่ใช่ พอมีบ้างที่รู้เลยว่า ไม่ใช่นะ ไม่ชอบนะ....ก้เปลี่ยนทางเดินไปทางอื่น
เพราะ รุ่นพี่จะพูดเสมอว่า...ถ้าไม่ใช่ ก้อไปเถอะ ถ้าทนเรียนต่อไป ไม่สนุกหรอก!
แค่นี้ก้อพอคิดได้แต่ถ้า อืมใช่เลย เราละ ไปว่ากันต่อที่ปี 2
ชั้นปีที่ 2------ เรียนสนุก เรียนหนักปนๆๆกันไป
...........การเรียนเริ่มเปลี่ยนไปจากปี 1 โดยสิ้นเชิงก้อว่าได้ ทุกอย่างจะ เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า
การเรียน ที่ต้องเรียนกับอาจารย์ใหญ่ การสอบถือได้ว่ามีมาเรื่อยๆ ไม่หยุดยั้ง
เรียนไปสอบไป สอบเช้า เรียนบ่าย คงต้องรีบปรับตัวซะแล้ว.......เฮ้อ! ไม่มีเวลาให้ท้อเลย
วิชาคณะจะมีบทบาทมากขึ้น---มากๆ ประมาณว่าไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
ออกไปเรียนที่อื่นเลย นอกจากตึกคณะ...55 ประมาณว่า จะเล็งใครไม่ค่อยได้
เพราะฉะนั้นรีบหาตั้งแต่ ปี1 รุ่นพี่จะสั่งมา เป็นการบอก ถ้ายังไม่อยากโสด
มีบ้างบางวิชาที่ได้ไปเรียนนอกตึกคณะ ปีนี้ จะเรียนเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ต่างๆ
ที่มีความสำคัญมากขึ้นเช่น อุลตร้าซาวน์ ก้สนุกสนานกันไป อาจารย์เป็นกันเอง
แต่เวลาสอบ ก้อคือ สอบนะครับ...เรียนไม่มาก แต่เรียนลึก ก้อว่าได้ เพราะเราต้องรู้จริง
เป็นช่วงที่ได้ความรู้เยอะที่สุด มีการเรียนภาษาเพื่อวิชาชีพ
ไม่มากมายอะไร แค่เรียนจากงานวิจัย หรือข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับการแพทย์
เผื่อว่าเราจะไปศึกาาต่อต่างประเทศ..และจะได้ใช้ภาษาอย่างไม่อายด้วย
แต่ยังไม่ถึงที่สุดของที่สุด....มันยังมีต่ออีก.
ชั้นปีที่ 3---------นี่ล่ะ ทีสุดของที่สุด
............พอจบปี 2 ก็จะเริ่มทำการฝึกงานแล้ว แต่อาจจะไม่จริงจังมาก แค่คนละ 2-3 ครั้ง
จะเปิดเทอมก่อนชั้นปีใดๆๆ เผื่อที่จะมาเรียนก่อนคนอื่น เพราะมีบางเวลาที่ต้อง ไปฝึกงาน
จึงเอาเวลาที่ไปฝึกงานนั้น มาเรียนชดเชยในช่วงต้นเทอมแทน...เรียนกันหัวปั่นเลยครับ
เรียน ฝึกงาน พรีเซ้นเคสผู้ป่วย สอบ สลับกันไปเป็น กิจวัตร ถือได้ว่าต้องพร้อมเสมอ...
เป็นที่สุดของที่สุดแล้ว....แต่จะหนักแค่ใน 1 เทอมแรกเท่านั้น เพราะจะเริ่มฝึกงาน
นาน ถึง 2 เดือนเลยทีเดียว อาจมีการกลับมาเวะเวียน หา อ.บ้าง ข้อดีอีกอย่างของการเรียนคณะนี้คือ
เที่ยว เวลาฝึกงาน สามารถเลือกที่จะไปฝึกได้...เราอยากเที่ยวจังหวัดไหน ก้อไป.
....หาเพื่อนที่นั่น ให้พาไปเที่ยว ดูทั่วไทยดีไหม.....สบายๆ แถมยังมีเพื่อนทั่วไทยอีก ไม่มีไรมากมาย แค่ถึงจุดพีค ที่สุดของที่สุด แล้วก้ผ่านไปเตียมตัวที่จะออกไปเป้นนักกายพภาพบำบัดเต็มตัว
มีการเรียนการสอน ครบครัน ทั้งเรื่อง ยา จรรยาบรรณวิชาชีพ....ครอบลุมต่างๆดี
ชั้นปีที่ 4----------นักกายภาพบำบัด ก้อว่าได้
ต้องคิดโปรเจค เพื่อให้จบ คิดโครงการดีๆที่มีประโยชน์ เรียนไม่หนักหนาสาหัส เน้นปฏิบัติซะส่วนใหญ่
มีเวลาว่างเหมือนกัน แต่ก้อกระอักเลือดได้ ถ้าไม่เตรียมตัว
เพราะ มีการสอบจบ โดยใช้ความรู้ที่เรียนมาเป็นเวลา 3กว่าปีนั่นละ ถ้าสอบไม่ผ่านก้อ หมดกัน....จะมีการสอบใน ปลายๆๆ เทอม 1 พอจบ
ก้อฝึกงานต่ออีก 3 แห่งแต่ละแห่งกินเวลานาน 1 เดือน.....ก้อเหมือนการพักร้อนเต็มตัว
มีวิชาออกชุมชนต้องแสวงหา สถานที่ แล้วไปตั้งเป็นงานออกหน่วย 1 วัน เป็นวิชาเรียนก้อว่าได้โดยมีการพานิสิต/นักศึกษาทุกคนที่เรียน ไปทำกิจกรรมด้วย......
ก้จะได้ทราบว่า งานที่ต้องเจอที่ต้องทำในอีก 4 ปีเป็นเช่นไร...จะได้ทราบโดยทั่วกัน
มีการเรียนการสอน วิชา สถิติ ด้วย....แต่ก้อแค่สถิติ คงไม่ยากมากมายหรอกนะ
เรียนแค่ ตัวเดียวเท่านั้น....ในหมวด คณิต...เหอๆๆ ถือได้ว่าดีไหมเนี่ย
--------------
การเรียนการสอนที่นี่ จะมีครอบคลุมหมด....เรียนไปซักระยะ จะมีการสัมนาความรู้ มีตลอดช่วง 4 ชั้นปีเหมือนกับเราต้องค้นคว้าเนื้อหามาในเรื่องที่กำหนด และมาพรีเซ้นหน้าห้อง ให้เพื่อนๆรับรู้ เข้าใจ
พร้อมรับคำติชม จาก อาจารย์ผู้สอน จะทำให้เราได้มีความใฝ่รู้อยุ่ตลอดเวลา รวมไปถึง
การพัฒนาบุคคลิกภาพด้วย เวลาที่ต้องพูดกับ สาธารณชน ธารกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต่างๆ
-----สรุป
กายภาพบำบัด เป็นวิชาชีพ โดยใช้หลักวิชาด้วย ศึกษาในสายวิทยาศาสตร์การแพทย์
บุคคลที่จะศึกษา ในคณะนี้ควรที่จะ เป็นคนมองโลกในแง่ดี คิดแก้ปัญหา
ชอบชีวะ พอรุเรื่องฟิสิกส์บ้าง! ชอบการปฏิบัติ เป็นคนประยุกต์ใช้ความรู้
มีอัธยาศัยดีพบปะผุ้คน >>>> ไม่รังเกียจที่จะสัมผัสคนไข้! ถือว่าสำคัญ
อย่างอื่นค่อยว่ากัน ชอบไม่ชอบ มาลองดู....แต่ความรู้สึกที่ได้จากคนๆนึง
ที่เรารักษาเค้าให้หาย หรือว่า กลับไปใช้ชีวิตเป็นปกติ มันดีจริงๆ
"สองมือ หนึ่งสมอง ประคองชีวิต"...........
--* หมายเหตุ กายภาพบำบัด มศว. มักมีการสอบตรง ขอให้น้องๆลองติดตามข่าวเป็นประจำ
หากสนใจ สามารฝากคำถามไว้ได้...เพราะมักจะเน้นบุคคลที่รับตรง
เพราะได้ผ่านการสอบสัมภาษณ์ทางวิชาชีพ. มันเป็นวิชาชีพไง......
-->แรงเทียน ส่องแสงสว่าง นำทาง..ผู้พิการสุ้ไป บำบัด...เผื่อเธอพ้นภัย !
ทางเดินมีหลายเส้นทาง อยู่ที่น้องจะเลือกเดินนะครับ
แต่ทางเดินเส้นนี้...ยินดีต้อนรับน้องเสมอครับ!
มาเป็น pt รุ่น 16 กันนะครับ...
น้องคนไหนที่ สอบติดแล้ว กรุณารายงานตัวด้วยนะครับ
เจอกันเดือน มกราคม...
--------------------------------
มีอะไรสงสัย ทิ้งเมล์ไว้ได้ครับ-->>> nut_zila@hotmail.com
ประกาศด่วนครับ สำหรับน้องๆ ที่ติดรับตรงแล้ว กรุณารายงานตัวด้วยครับ..
ให้ส่งอีเมล์มาที่ smo_pt@hotmail.com ชื่อขนามสกุล
ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ เพื่อสิทธิของน้องๆ มีเรื่องต้องแจ้งให้ทราบ
ผลงานอื่นๆ ของ phat_thana ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ phat_thana
ความคิดเห็น