ปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประม - ปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประม นิยาย ปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประม : Dek-D.com - Writer

    ปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประม

    พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งบัดนี้เป็นต้นไป พร้อมสั่งปลด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

    ผู้เข้าชมรวม

    427

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    427

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.ย. 49 / 06:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      สรุปสถานการณ์

      "เนื่องด้วยขณะนี้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลไว้ได้แล้ว โดยไม่มีการขัดขวาง เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองจึงขอความร่วมมือประชาชนในการให้ความร่วมมือ และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย”


      ต่อมาเมื่อเวลา 23.50 น. คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ชี้แจงถึงสาเหตุของการเข้ายึดอำนาจ โดยระบุถึงพฤติการของรัฐบาลรักษาการที่เป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมืองหลายประการ ซึ่งคณะปฏิรูปฯ เข้ายึดอำนาจโดยไม่ต้องการที่จะดำรงตำแหน่งบริหารเสียเอง และจะคืนอำนาจสู่ประชาชนโดยเร็วที่สุด

      ต่อจากนั้นได้มีการประกาศลงนามโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร และยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนหน้านั้น



      23.40 :

      ประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 1

      คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

      ด้วยเป็นที่ปรากฏโดยแน่ชัดว่า การบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐบาลรักษาการปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง แบ่งฝ่าย สลายความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ต่างฝ่ายต่างมุ่งหวังเอาชนะด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ และมีแนวโน้มนับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนส่วนใหญ่เคลือบแคลงสงสัยการบริหารราชการแผ่นดิน อันส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง หน่วยงาน องค์กรอิสระ ถูกครอบงำทางการเมือง ไม่สามารถสนองตอบเจตนารมณ์ตามที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเกิดปัญหาและอุปสรรคหลายประการ ตลอดจนหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนของปวงชนชาวไทยอยู่บ่อยครั้ง แม้หลายภาคส่วนสังคม จะได้พยายามประนีประนอมคลี่คลายสถานการณ์มาโดยต่อเนื่องแล้ว แต่ยังไม่สามารถที่จะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยุติลงได้

      ดังนั้น คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินเสียเอง แต่จะได้คืนอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขกลับคืนสู่ปวงชนชาวไทยโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อธำรงรักษาไว้ ซึ่งความสงบสุข และความมั่นคงของชาติ รวมทั้งเทิดทูนไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกคน

      ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เวลา 23.50 น.

      ลงชื่อ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน

      หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

      00.00 :

      ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 2

      เรื่องห้ามการคลื่อนย้ายกำลังทหาร



      ให้ทหารทุกนายไปรายงานตัว ณ ต้นสังและห้ามเคลื่อนย้ายกำลังออกจากที่ตั้งปกติโดยเด็ดขาดถ้าไม่ได้รับคำสั่งจาก
      คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

      ประกาศ ณ วันที่ 19 ก.ย. 2549

      พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน
      หัวหน้าคณะการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

      00.30 :

      คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 3
      ตามที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองของประเทศไว้เรียบร้อบแล้วนั้นเพื่อความสงบเรียบร้อยในการปกครองประเทศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงให้

      1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอณาจักรไทย พ.ศ.2540 สิ้นสุดลง

      2. วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ สิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ

      3. องคมนตรีคงดำรงตำแหน่งและปฎิบัติหน้าที่ต่อไป

      4. ศาลทั้งหลาย นอกจากศาลรัฐธรรมนูญ คงมีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาอัตถคดี ตามบทกฎหมายและตามประกาศคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


      ประกาศ ณ วันที่ 19 ก.ย. 2549

      พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน
      หัวหน้าคณะการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

      01.40 :

      ประกาศคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ฉบับที่ 4

      เรื่อง อำนาจบริหารราชการแผ่นดิน



      ตามได้ที่มี กฎหมายบางฉบับ ได้บัญญัติถึงอำนาจหน้าที่ของ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในอันที่จะปฎิบัติตามกฎหมายได้ และเพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติตามกฏหมายดังกล่าว

      หัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

      ข้อ 1 ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีให้ บรรดาอำนาจหน้าที่ ที่กฎหมายได้บัญญัติว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีหรือ คณะรัฐมนตรีให้เป็น อำนาจหน้าที่ของ หัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือ ผู้ซึ่งหัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มอบหมาย


      ข้อ 2 ระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฏหมายบัญญัติว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีกระทรวงใด ก็ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงนั้น
      เว้นแต่ หัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

      ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549

      พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน
      หัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข



      02.40 :


      คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 1

      เรื่องให้ข้าราชการมารายงานตัว



      ตามที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ทำการยึดอำนาจปกครองประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบนโยบายการบริหาราชการแผ่นดิน จึงให้ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง อธิบดีทุกกรม หัวหน้าหน่วยงานระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ รวมตลอดทั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงไปรายงานตัวต่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่กองบัญการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549 เวลา 09.00 น.

      สั่ง ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549

      พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน

      หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


      02.45 :

      คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 2

      เรื่องให้วันพุธที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549 เป็นวันหยุดราชการ



      เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด หน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงสั่งให้วันพุธที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549 เป็นวันหยุดราชการ และวันหยุดธนาคาร โดยให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หยุดทำการในวันดังกล่าวด้วย

      สั่ง ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549

      พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน

      หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

      "ข่าวทั้งหมดนี้ ทางทีมงานสนุกพยายามนำมาเผยแพร่ ซึ่งยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ"

      ขอขอบคุณ  www.sanook.com

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×