Chaos Slayer - Chaos Slayer นิยาย Chaos Slayer : Dek-D.com - Writer

    Chaos Slayer

    โดย Zero Xion

    กลุ่มมือสังหารในเงามืดที่แฝงตัวอยู่ในเมือง พวกเขาคือผู้ที่จะระบายสีผืนฟ้าด้วยสีแดงเลือด

    ผู้เข้าชมรวม

    296

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    296

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 พ.ค. 48 / 01:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ท่ามกลางท้องฟ้าอันไร้ดาวของเมืองกรุง มีเพียงแสงจากเสาไฟที่ฉายลงมาสู่ถนนสีดำเบื้องล่าง
      มีเพียงรถไม่กี่คันที่วิ่งไปมาในยามราตรีที่เงียบเหงาเช่นวันนี้ ยิ่งตามไหล่ทางยิ่งไร้ผู้คนนัก
      ตามเสาไฟฟ้ามีเพียงนกพิราบไม่กี่ตัวส่งเสียง \"กรู๊ ๆ\" เล็กๆ ราวกับพวกมันเห็นชายคนหนึ่งเดินมาตามไหล่ทาง
      เขาเดินอย่างช้าๆ ไปตามทางยามราตรี แสงไฟจากเสา ส่องให้เห็นร่างชายผมสีน้ำตาลใส่เสื้อโอเวอร์โค้ด ยาวจรดขา
      มือทั้งสองเข้าล้วงเข้าไปซุกในกระเป๋า  เขาหยุดก้าวหนึงเพื่อมองเข้าไปยัง สวนสาธารณะที่ไร้ผู้คน
      มีเพียงแค่สุนัขจรจัดที่หลับอยู่อย่างสงบ ข้างบ่อน้ำที่ประดับไปด้วยแสงไฟเล็กๆที่ส่องขึ้นมาจากบ่อ
      เขาเริ่มออกเดินอย่างช้าๆ อีกครั้ง ทุกฝีก้าวของเขาดังขึ้น และค่อยๆถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ทิวทัศน์รอบตัวเขาเริ่มพร่าเลือน
      จนเห็นเพียงแค่ลำแสงเล็กๆ หลายลำพุ่งผ่านสายตาเขาไป เขาวิ่งจนไปสุดทางแยก และกระโดดโผขึ้นไปบนอาคารสูงด้วยการใช้
      กำแพงรอบๆเป็นเครื่องช่วยในการกระโดด  เขายังคงวิ่งไปท่ามกลางคืนเดือนมืด และสุดท้ายเขากระโดดขึ้นไป ทำให้เสื้อครุมโอเวอร์โค้ดของเขาพริ้ว ราวกับ........

      \" ปีกของปิศาจ \"

      l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l


      \" เมื่อคืนที่ท่าน ผู้ว่าการเขตวัฒนาได้ถูกสังหารอย่างจงใจ  \" ผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวทุกคำอย่างตั้งใจพร้อมภาพศพของ ผู้ว่าที่ถูกเซ็นเซอร์ เกือบทั้งร่างจนดูไม่ออก ว่าร่างของท่านโดนอะไรบ้าง แต่มีสิ่งนึงรางๆ ออกมานั้นก็คือ ร่างนั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
      \" เป็นการฆาตกรรมที่โหดร้ายมากค่ะ เพราะว่า ร่างของท่านนั้นถูกแยกออกเป็น 3 ส่วน หลังจากที่ได้สำรวจศพก็พบสิ่งที่น่าประหลาดใจมากค่ะ!! \" ผู้ประกาศข่าวเน้นเสียงอย่างตื่นเต้น และตัดไปยังแพทย์คนหนึ่ง

      \" ร่างของท่าน ถูกตัดด้วย\"บางอย่าง\" ที่แน่ๆ มัมไม่ได้พูกตัดด้วยเลื่อยไฟฟ้าหรือมีด เพราะถ้าถูกตัดด้วยเลื่อยไฟฟ้าเนื้อเยื้อบางส่วนจะขายรุ่ยออกจากกัน และถ้าเป็นมีดก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะ ร่างทั้ง 3 ท่อนนั้นถูกตัดขาดจากกันโดยสิ้นเชิงและคงไม่มีมีดอะไรที่ใหญ่จนสามารถตัดร่างมนุษย์ได้ มันจะต้องเป็นบางอย่างที่ใหญ่กว่านั้นและจะต้องเร็วมาก จึงจะสามารถแยกร่างได้เช่น... \"

      ภาพตัดมายังผู้ประกาศข่าวอีกครั้ง เธอถือไมค์และเริ่มพูดขึ้นทันที \" อย่างที่ได้ยินนะคะ มันเป็นวิธีการที่แปลกประหลาดมากค่ะ ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจ กำลังเร่งสืบสวน ส่วนเหตุจูงใจสันนิษฐานว่าเป็น เรื่องของผลประโยชน์ที่ท่านยักยอกไป ไม่ก็เป็นความแค้นส่วนตัว.....  ปี๊ด!!! \"  

      ทันใดนั้นภาพในโทรทัศน์ก็ดับวูบไป และมีเสียงตะโกนเข้ามา  \" เฮ้ย!!!! จะดูไปถึงไหนมาช่วยกันขายหน้าร้านก่อนเซ้!! \"
      ชายผมแดงราวกับเปลวเพลิงตะโกน เข้ามาพร้อมกับโยนรีโมตเข้าใส่หัวเด็กหนุ่มข้างใน

      \" งานหน้าร้านไม่เกี่ยวกับฉันซักหน่อย \"  เด็กหนุ่มแย้งอย่างเคืองๆ

      \" งั้นก็ช่วยยกระถางดอกกุหลาบมาหน้าร้านหน่อยซิ!! \" ชายผมแดงกล่าวพร้อมกับรีบเดินออกไปหน้าร้านแต่ยังคงโผล่หน้ามาสั่ง \" อ้อ สองกระถางนะ! \"

      \" ขอโทษด้วยนะครับ ดอกกุหลาบสีขาว 2 กระถาง โปรดรอซักครู่นะครับ \" เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้กับลูกค้าสาวสวยสองราย

      \" ไม่เป็นไรค่า... \" สาวสวยทั้งสองตอบอย่างเหมอลอย ราวกับสิ่งที่เธอต้องการนั้นไม่ใช่ดอกกุหลาบสองกระถาง

      ชายผมแดงเสยผมนิดๆแล้วย่อตัวลงไปคุยกับลูกค้าทั้งสอง \" เออ.....หลังจากซื้อกุหลาบเสร็จแล้วเราไปกินข้าวเย็นด้วยกันดีไหมครับ \"

      \" ดะ.....ด้วยความยินดีค้าาา \"  สาวทั้งสองตอบรับอย่างดีใจ

      \" งั้น....... \" ชายผมแดงยังไม่ทันพูดจบประโยคดีแต่แล้วเขาก็ถูกตอกส้นเท้าลงเข้ากลางหัว

      \" ห้ า ม โ ด ด ง า น ตอนบ่ายเด็ดขาด!! \" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเค้นเสียงด้วยความโมโหและวางกระถางพลาสติกที่มีดอกไม้ทั้งสองลงข้างๆลำตัวและชักเท้ากลับมา พร้อมกับเดินกลับเข้าไปที่หลังร้าน

      \" อูย..... \"  ชายผมแดงเอามือกุมบริเวณหัวที่โนนิดๆ แต่ยังคงพูดกับลูกค้าพร้อมกับรอยยิ้ม \" งั้นเปลี่ยนไปเป็นตอนเย็นก็แล้วกันนะครับ \"

      \" คะ...ค่ะ \" เด็กสาวสองคนตอบอย่างตะกุตะกักเล็กๆ อาจจะเพราะตะลึงหรือยังไงก็ตาม
      พนักงานผมสีดำก็ช่วยหยิบกระถางดอกไม้เล็กๆไปที่เคาเตอร์ที่อยู่ห่างไปไม่มากนัก แล้วชายผมสีเงินก็เริ่มคิดเงินพร้อมกับคุยกับพนักงานผมดำ

      \" กุหลาบขาวสองกระถางสินะ พี?? \" ชายผมสีดำที่ชื่อ พีพยักหน้ารับเบาๆ พร้อมกับเดินไปหยิบบัวรดน้ำและเดินไปอย่างเงียบๆ

      เด็กสาวสองคนเดินมาที่แคทเชียร์และยิ้มให้กันเล็กน้อยก่อนจะมองมายังชายผมสีเงิน อย่างอายๆ

      \" ทั้งหมด ร้อยสามสิบบาทครับ \"  เขาขยับแว่นสีเหลี่ยมที่เลื่อนตกมายังปลายจมูกให้เข้าที่อย่างมีมาด

      เด็กสาวสองคนมองกันเล็กน้อยก่อนจะถามกลับไป \" มันกระถางล่ะ 75บาท ไม่ใช่เหรอค่ะ? \"

      \" อ่า ผมลดให้ฮะ เป็นการขอโทษที่ต้องทำให้ตกใจครับ \" ชายผมสีเงินยิ้มนิดๆ แล้วรับเงินจากลูกค้ามาและส่งใบเสร็จไปให้

      เด็กสาวทั้งสองรับดอกไม้แล้วเดินออก ไปยังไม่พ้นหน้าร้านซักเท่าไหร่ เธอสองคนก็กรี๊ดเสียงดัง แล้วคุยกันอย่างออกรสชาติ

      \" เห็นมั้ยๆ อย่างที่ชั้นบอกเลยใช่ม้าาา ทุกคนหล่อ มากกก~~~ \" เธอเค้นเสียงราวกับไปเจอดารามายังไงอย่างงั้นเลย

      \" จริงด้วยๆๆ โดยเฉพาะคนผมสีดำนะ ท่าทางขรึม เทห์มากเลย แล้วก็คนผมสีเงินก็ใจดีมากๆเลย!! \"

      \" แต่เราว่าคนผมสีแดง น่ารักออกนะ แต่ท่าทางเจ้าชู้เนอะ?? \" เธอหันไปคุยกับเพื่อนของเธอ

      \" ใช่ๆ แต่ทุกคนหล่อมากๆเลยหละ..... \" ทั้งสองเดินไปส่งเสียงจี๊ดจาดไป โดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่ามีเมอร์เตอร์ไซด์คันนึงวิ่งผ่านพวกเธอไปอย่างช้าๆ
      ชายคนนั้นหันหยุดรถมอร์เตอร์ไซด์ลง พร้อมกับถอดหมวกกันน็อคออกแล้วหันไปมองกลุ่มเด็กสาวพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

      \" เป็นเด็กสาวที่ร่าเริงกันจังเลยนะ.... \" เขาแขวนหมวกกันน็อกลงข้างๆมอร์เตอร์ไซด์สีดำตัดกับสีแดงเล็กๆโครงของมันนั้นถูกขัดจนเงาพอๆกับกระจกก็ว่าได้เลยทีเดียว เขาหันไปมองป้ายที่ถูกประดับอย่างสวยงามด้วยลายดอกไม้ซึ่งเป็นชื่อร้านนี้

      \" Chonatic Flowers&Tree \"

      มันเป็นร้านเล็กๆ ของตึกแถวใจกลางสยามแหล่งที่มีวัยรุ่นเดินกันขวักไขว่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็มาเพื่อเรียนกวดวิชา หรือไม่ก็มาเดินช็อบปิ้งกัน ซึ่งร้าน Chonatic Flower นี้ตั้งอยู่เด่นเป้นสง่าซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงวันรุ่น ที่ชอบเดินแวะเข้ามาดูหนุ่มๆหน้าตาดีๆ ในร้าน (แบบเมื่อกี้หละ) ซึ่งเป็นร้านเดียวที่ตั้งอยู่ในสยามนี้หละ ซึ่งหน้าร้านจะมีดอกไม้จำนวนมากวางให้เลือกอย่างไม่ขาด มีตั้งแต่ดอกกุหลาบ,ดอกหน้าวัว,ดอกทานตะวันและต้นไม้เล็กๆ จะมีหลายกระถางวางอยู่ด้านหน้าจนล้นออกมาบนทางเท้านิดหน่อย บางวันอาจจะมีลูกค้าเต็มร้าน หรือไม่บางวันอาจจะมีบ้างแต่อาจจะน้อยหน่อย แต่ก็มีมาเรื่อยๆไม่ขาดสาย และที่นี้ยังเป็นตึกแถว ขนาดกว้างประมาณ 4 เมตร พื้นที่ข้างในก็ค่อนข้างจะกว้างพอให้ลูกค้าเลือกสรรดอกไม้

      \" เอ้า...ดอกลินลี่ ล็อทใหม่มาส่งแล้ว......หืม?? \" ชายผมเขียวยาวระบ่าเปิดประตูเข้ามาในร้านอย่างเป็นกันเองก่อนที่เขาจะสังเกตุเห็นชายผมแดงเอามือกุมหัวอยู่ \" โดนสาวๆเหยียบมาหรือไงว่ะเจ้าต่อ \"

      \" ถ้าเป็นสาวๆหละก็ จะเหยียบสักกี่ครั้งก็ไม่เจ็บหรอกน่า... \" ต่อลุกขึ้นมาพร้อมกับลูบหัวที่โนอย่างช้าๆ

      \" อ้าว เจ้าจิ๊ปหละ \" ชายผมเขียวหันซ้ายทีขวาที ไม่นานนักแคทเชียร์ประจำร้าน ซึ่งมีผมสีเงินใส่เสื้อเชิตด์สีขาวแขนสั้นและครุมด้วยผ้ากันเปื้อน ก็ชี้ไปทางประตูทางเข้าหลังร้าน

      \" คงนอนดู ทีวีอยู่ข้างในร้านหละ ไปตามซิ \"

      \" วันนี้ท่าทางรายได้ดีเหมือนเดิมนี้นาใหม่?? \" เขาหันกลับไปชวนชายผมสีเงินคุย

      \" ก็เรื่อยๆ มีลูกค้ามาเรื่อยๆหละวันนี้ แต่ดอกลินลี่มาแล้วไม่ใช่เหรอ?? เข้าไปตามจิ๊ปข้างในดีกว่านะ ท่าทางเขาจะเบื่อแล้วหละ \"

      \" ก็คงงั้นหละ งั้นฝากดูมอร์เตอร์ไซด์ ด้วยนะ \" ชายผมสีเขียวเดินอาดๆ ไปยังหลังร้าน เมื่อเขาแหวกม่านบ่างๆที่ทำจากลูกปัดไม้เข้าไปก็พบเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลกำลังนอนดู โทรทัศน์อย่างสบายใจ


      \" ไปเลยพิกาจู!! ใช้พลังไฟแสนโวลด์เลย!!!!! \"  เด็กหนุ่มตั้งใจดูโทรทัศน์อย่างตั้งใจแต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างมาเกาะบนหัวเขา

      \" ไม่เอาน่าพี่ต่อ! งานหน้าร้านไม่ใช่หน้าที่ของผมซักหน่อย!! \" เขาปัดมือที่มากุมหัวไปอย่างรำคาญ แต่ว่ามือนั้นยังคงมาเกาะอยู่บนหัวเขาต่อ

      \" พี่ต่อ!! \" เด็กหนุ่มหันกลับไปมองด้วยความรำคาญใจแต่ คนที่อยู่ข้างหลังไม่ใช่ชายผมสีแดง แต่กลับเป็นชายผู้มีผมสีเขียวยาวระบ่ามีรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่คอ ดวงตาเขามองเด็กหนุ่มด้วยสายตาน่ากลัวๆ

      \" อ่า..... \" เด็กหนุ่มนิ่งไปซักพักก่อนจะกล่าวทักทายชายผมเขียวด้วยน้ำเสียงขยาด \" เออ.... อรุ่นสวัสดิ์ ฮะพี่เต่า \"

      \" ท่าทางเบื่อมากซินะ ไปยกดอกลินลี่ที่พึ่งมาหน่อยก็แล้วกัน เอามันใส่กระถางที่อยู่ข้างหลังร้านก็ได้นะ แล้วเหลือครึ่งนึงใส่ในน้ำไปเอาไว้จัดดอกไม้นะ \" เขาจัดการสั่งงานอย่างรวดเร็ว และรอฟังคำตอบจากจิ๊ป

      \" อ่า ก็ดีฮะกำลังเบื่อๆ อยู่เลย \" เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ นิดๆ ก่อนจะเดินออกไป

      \" ก็นะ...... \"

      l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l - + - l

      ที่หลังร้าน เด็กชายผมสีน้ำตาลยกลังใส่ดอกไม้มาทีล่ะสองลังจากมอร์เตอร์ไซด์ของเต่า อ้อมมายังหลังร้าน ซึ่งเป็นซอยตันแคบๆ
      ที่ไม่ค่อยมีคนเดิน และสกปรกเล็กน้อย
      เด็กหนุ่มค่อยๆ เกะลังออกมา ข้างในมีดอกลินลี่สีเหลือง ประมาณ 30กว่าดอกได้ จิ๊ปฮัมเพลงแล้วหยิบเก้าอี้ตัวเล็กมา แล้วค่อยๆ หยิบมันออกมาจากลังและ แกะห่อพลาสติกที่หุ้มดินรอบๆ โคนต้นไม้ไว้ เขาบรรจงเขี่ยดินออกเล็กน้อย แล้วใส่ลงไปในกระถางพลางติกสีดำ  หลังจากนั้นก็หยิบถุงดินมาแล้วค่อยๆใส่ดินลงไป โปะส่วนที่เหลือไว้

      \" เอาหละ... รอเพื่อนๆของนายเดี้ยวนะ.. \" จิ๊ปพูดกับดอกไม้ ราวกับว่ามันมีชีวิตก็ไม่ปาน

      แล้วเขาก็วางกระถางนั้นไปข้างๆตัว และค่อยๆ หยิบต้นต่อมาทำอย่างช้าๆ

      ตุบ ๆ  ๆ  ๆ ๆ  เสียงฝีเท้าหนึ่ง ค่อยๆดังขึ้นมาจาก ต้นซอย เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา เพราะปกติไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมาในซอยอันสกปรกซ่อมซ่อแห่งนี้ซักเท่าไหร

      เด็กผู้หญิง อายุประมาณ 15 ใส่ชุดนักเรียนสีขาว กระโปงสีน้ำเงินกรม วิ่งมาอย่างรีบร้อนและทำท่าทีเหลียวหลังบ่อยๆ
      เธอวิ่งมาหยุดที่หน้าเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล และหยุดหอบ แฮ่กๆ ซักประเดี้ยว ก่อนจะหันมาสังเกตุว่ามีเด็กหนุ่มคนนึงนั่งอยู่ตรงนี้

      \" ชะ..... ช่วยด้วยค่ะ มีคนโรคจิตสองคนวิ่ง..... วิ่งไล่ตามชั้นมาค่ะ \" เด็กสาวกล่าวพร้อมกับหอบ เบาๆ

      \" ..... แต่ผมไม่เห็นใครวิ่งไล่มาเลยนี้?? \" เด็กหนุ่มหันแล้วทำหน้าพยักะเยิดไปทางปากซอย ที่ดูเหมือนไม่มีใครจริงๆ นั้นหละ

      \" แฮ่ก..... แฮ่ก......  \" เด็กสาวหันกลับไปมองพร้อมกับหยุดหายใจและทำท่าเหมือนกำลังรวบรวมสติอยู่ แต่แล้วก็มีเสียงดังมาจากต้นซอยอีกครั้ง

      \" เฮ้ย! เจ้าหล่อนวิ่งเข้าไปในซอยนี้ ฉันเห็น!! ตามมาเร็วซิว่ะ!! \"

      เด็กสาวตกใจแล้วรีบหันมาพูดกับเด็กหนุ่ม \" ฉันขอซ่อนตัวก่อนนะค่ะ!! \" เธอกล่าวแล้วรีบวิ่งเข้าไปแอบหลังประตูร้านทันที

      ครู่ต่อมากลุ่ม วัยรุ่นประมาณ 5 คน แต่งกายท่าทางน่ากลัว บางคนก็เจาะหู ไม่ก็สวมสนับเหล็กที่มือ ต่างวิ่งกรูเข้ามาในซอยนี้
      ภาพที่พวกมันเห็นนั้นเป็นซอยสกปรกๆ ที่มีเพียงแค่เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลกำลังนั่งจัดดอกไม้ อยู่ และเมื่อมองข้ามเด็กน้อยคนนี้ไปก็เป็นของกำแพงตึกสูง

      ชายทั้ง 5 ค่อยๆเดินอย่างช้าๆ เข้ามา ต่างคนต่างหันซ้ายทีขวาที ไปรอบๆ และมาหยุดที่หน้าเด็กหนุ่มคนนึง

      \" เฮ้!!  ไอ้น้อง บอกมานะว่า เห็นผู้หญิงคนไหนเดินผ่านมาบ้างไหม?? \" ผู้ชายที่ทำผมทรงโมฮอก ถามเด็กหนุ่ม

      ที่หลังประตูเด็กสาวยืนตัวสั่นระริกๆ เธอแอบมองเหตุการณ์ข้างนอกด้วยหางตาและฟังเสียงอย่างตั้งใจ...
      มือของเธอกุมสร้อยของตน แล้วภาวนาในใจ ให้เด็กที่อยู่ข้างหน้าบอกว่าไม่เห็นเธอ

      \" อ้อ...... เธอวิ่งเข้าไปหลังร้านเรานะ \" เจ้าจิ๊ปตอบไปเสียงเรียบ

      ทันใดนั้นหัวใจของเด็กสาวที่อยู่หลังประตูก็ตกวูบลองไป ใบหน้าเธอซีดลง และพูดในใจ
      \" บ้าไปแล้วหรือไง บอกพวกมันไปตรงๆ ทำไม!!!! ตายหละ....... \"


      \" ขอบใจไอ้น้อง \" กลุ่มชายทั้งห้าคนยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม และเดินไปยังประตูหลังร้านอย่างช้าๆ

      เด็กสาวได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ เธอพูดกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ว่ามันไม่จริง  เธอรู้สึกได้เลยว่าเหงื่อเย็นๆของตัวเธอค่อยๆอาบไปทั่วร่าง

      แต่ว่าเด็กหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วผายมือไป ขวางกลุ่มเด็กพวกนั้น

      \" เฮ้ย ไอ้น้องทำแบบนี้หมายความว่าไง \" ชายคนนึงในกลุ่มนั้นถามขึ้น

      \" ผมบอกว่าเธออยู่ไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกคุณจะไปหาเธอได้นี้ \" เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมกลับจ้องมองไปยังกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5คน

      \" อ้าวๆ... ทำแบบนี้ก็สวยซิ! ไม่รู้จักพวกข้า ช่างกล U รุ่นที่ 93 ซะแล้ว!! \" ชายคนนึงพูดอย่างภาคภูมิและสวมสนับเหล็กไว้ที่มือแล้วลงมือเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทันที

      \" ผัวะ!!!!! \"

      เสียงหมัดดั่งสนั่น แต่นั้นไม่ใช่หมัดของคนนึงในกลุ่มที่จะต่อยจิ๊ป แต่ว่าเป็นเสียงกำปั้นของเด็กหนุ่มที่พุ่งเข้าไปที่ท้องของชายคนนั้นอย่างจัง

      \" ขอโทษนะ หน้าตาพวกคุณไม่ใช่คนรู้จักผมซักหน่อย \"  เด็กหนุ่มที่ชื่อจิ๊ปกล่าว พลางค่อยๆถอนหมัดกลับอย่างช้า แล้วร่างของชายคนนั้นก็ลงไปนอนหมอบแทบเท้าของเขา

      พวกที่เหลือต่างตื่นตะลึงอยู่พวกใหญ่คราวนี้ พวกเขาชักมีดพกเล่มเล็กออกมา แล้วปลุกระดมอีก 4 คนที่เหลือ \" เฮ้ย เล่นมันเลย!! \"

      กลุ่มวัยรุ่นทั้งสี่ พุ่งตรงเขาหาจิ๊ปอย่างไม่เกรงใจ ในมือของพวกเขามีอาวุธอย่างน้อยๆก็เป็น มีดพวก ไม่ก็มีสปาต้าเล่มใหญ่
      เด็กหนุ่มกราดสายตาชั่วแวบหนึ่งก่อนจะ หลบมีดสั้นเล่มหนึ่งที่เหวี่ยงใส่เขาอย่างไม่เกรงใจแล้วสะบัดมือเข้าใส่ข้อมือของคู่ต่อสู้
      และเอี้ยวตัวหลบมีดสปาต้า อย่างช้าๆ เมื่อได้โอกาศเขาก็จับหัวของศัตรูไว้แล้วตีเข่าใส่หน้าเขาไปเต็มๆ ส่วนอีกคนที่สวมสนับอยู่ด้านหลังที่กำลังจะเข้ามา เขาก็จัดการจับร่างของชายคนแรกที่กำลังชาเพราะถูกสับเข้าที่แขนจนไม่มีแรงจับมีดแล้ว แล้วจัดการผลักเขาไปชนกับชายที่กำลังพุ่งเข้ามา จนเสียหลักล้มไปทั้งสองคน แล้วเขาก็สามารถล้มคนทั้ง 3 ได้โดยไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่เขาจำได้ว่ายังมัอีกคนนึงนี้ จึงตั้งหลัก เหลี่ยวตามองไปทางคนที่เหลืออีกคน ที่สั่นเป็นจ้าวเข้าอยู่ข้างหลัง

      \"  นายนะ......\"  เขาส่งเสียงเรียกคนสุดท้าย ซึ่งตอบรับด้วยเสียงขาดๆหายๆ ไป \" คะ... ครับ!? \"

      \" ช่วยพาพวกนี้ไปโรงพยาบาลหน่อยซิ ฉันจะต้องจัดดอกไม้ต่อหน่ะ \"

      \" คะ ครับ!!! \" เขารีบจัดแจงลากศพ เอ๋ย ไม่สิร่างที่ไร้สติของพรรคพวกเขาออกไปจากซอยให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

      \" เอ้าออกมาได้แล้ว..... \" เด็กหนุ่มเกาหัวเบาๆแล้วกลับไปเปิดประตูหลังร้านที่ปิดไว้ แล้วร่างของเด็กสาวก็หงายหลังออกมา

      เธอหอบเบาๆ เนื้อตัวเย็นและซีดเผือก เธอมองมายังร่างของเด็กหนุ่ม ด้วยสีหน้าที่ไม่รู้จะต่อว่า หรือควรจะขอบคุณเขาดีเพราะการกระทำเมื่อกี้ ถ้าไม่เรียกว่ากล้าหาญ แล้วก็คงเป็นอะไรที่โง่มากที่ต้องสู้ แบบ 1 : 5

      แต่ก่อนที่เธอจะกล่าวอะไรเด็กหนุ่มก็ตะโกนเสียงดัง \" แว้ก!!!!!!!! \"  

      เด็กสาวไล่สายตามองไปยังสิ่งที่เด็กหนุ่มมอง มันก็คือกระถางที่ต้นลินลี่ที่แตกไม่มีชิ้นดี เธอรู้แล้วว่าควรจะพูดอย่างไรดี

      \" เออ...... ขอโทษค่ะ...... \"

      - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - -

      \" ดอกไม้ 3 ช่อใช่ไหมครับรอซักครู่น่าครับ \" ใหม่แคทเชียร์ประจำร้าน จัดการกดราคาดอกไม้ช่อใหญ่ 3 ช่อ ลงไป

      เขากดราคาอย่างรวดเร็วแล้วบอกราคาไปในทันที\" ทั้งหมด 345 บาทนะครับ \"  แล้วรับเงินจากลูกค้าและทอนเงินให้อย่างรวดเร็ว

      นี้ก็เป็นเวลาบ่าย 3 นิดๆแล้ว คนเริ่มแน่นร้าน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกเด็กสาววัยรุ่นที่ต้องการดอกไม้แล้วก็มาดูพวกหนุ่มๆที่ขยันทำงานกัน (ดูเหมือนจะเป็นข้อข้างหลังเสียมากกว่า)

      พี พนักงานคนนึงในร้านก็ค่อยๆ จัดกระเช้าดอกไม้อย่างบรรจงที่โต๊ะเล็กๆ มุมหนึ่งของหน้าร้าน ส่วนต่อชายผมแดงก็ต้อนรับลูกค้าด้วยอัธยาศัยที่ดีของเขา จนเกือบลืมไปว่างานของเขาคือแนะนำดอกไม้ มากกว่าการจีบลูกค้า
      และเมื่องานด้านหน้ายุ่งๆ คนที่ไม่ค่อยชอบมาอยู่หน้าร้าน อย่างจิ๊ปก็ต้องมาช่วยจนได้ นั้นหละ แต่เขาก็ไม่ค่อยจะช่วยได้ซักเท่าไหรหรอก
      \" เออ......ถ้าไม่รังเกียจไปกินข้าวเย็นด้วยกันได้ไหมค่ะ.... \" ลูกค้าคนนึ่งถามด้วยเสียงกล้าๆกลัวๆ

      เด็กหนุ่มตอบไปพร้อมกับจัดดอกลินลี่เข้าช่อดอกไม้สีบาดตา \" อ่า....... ไม่หละผมยังไม่หิวเท่าไหร \"

      ลูกค้ารายนั้นยืนนิ่งราวกับถูกหักอกดังเป๊าะใหญ่  กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยื่นช่อดอกไม้ไปให้แล้วพูดกับเธอ \" ชำระเงินที่แคทเชียรเลยนะครับ ผมขอตัวก่อนหละ \"

      เขาเดินเข้าไปหลังร้าน แล้วเดินทะลุไปทำงานที่ค้างไว้ให้เสร็จก็คือนั้นก็คือ ยกกระถางลินลี่ไปไว้หน้าร้านให้จบ
      เมื่อเขาเปิดประตูหลังไปก็ต้องประหลาดใจที่ เด็กคนเมื่อครู่ยังคงไม่ไปไหนแถมยังช่วยเอาดอกลินลี่ที่อยู่ในลังลงไปในกระถางอีกด้วย

      เด็กหนุ่มเกาหัวหัวเบาๆ พลั้นย่อตัวลงไปคุยกับเธอ \" ไม่ต้องทำแล้วหละ กลับบ้านไปได้แล้ว \"

      \" แต่....... \"   \" ไม่ต้องแล้วหละแค่กระถางอันเดียวไม่เป็นไรหรอก \" เด็กหนุ่มพูดขัดขึ้น

      \" แต่ว่า รียังไม่ได้ตอบแทนเธอที่ช่วยรีไว้เลยนะ \" เธอกล่าว

      \" อ้อ....... อื้ม......... งั้นเอาเป็น \" เด็กหนุ่มทำท่าครุ่นคิดพลั้นหันกลับมาบอก \" กลับบ้านไปซะ \"

      เด็กสาวนิ่งเงียบตีหน้าไม่พอใจจนคิ้วทั้งสองข้างขมวดจนแทบจะกลายเป็นเส้นเดียวกันเลย แต่ว่าจิ๊ปไม่สนใจเขาหยิบกระถางดอกไม้ไปมากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อยกไปหน้าร้าน
      แต่มีมือนึงดึงตัวเขาไว้แล้วแย่งกระถางอันนึงไปจากมือเขา และส่งเสียง \" ไม่ได้นะ ให้รีช่วยเถอะ!! \"

      ใบหน้าของเธอยิ้มจน จิ๊ปแทบอยากจะหาอะไรมาทุบหน้าเธอก็ไม่ปาน แต่ด้วยความใจอ่อนเขาจึงตอบอย่างรำคาญๆ \" ตามใจเธอแล้วกัน \"

      \" เฮ้ จิ๊ป!! เอาดอกลินลี่มาให้ สองดอกซิ!! \" เสียงของต่อดังขึ้นมาจากหน้าร้าน เด็กหนุ่มตอบรับอย่างเร็วแล้วรีบยกดอกไม้ไปที่หน้าร้าน

      เด็กหนุ่มรีบเดินออกไปหน้าร้านตามด้วยเด็กสาวที่มาช่วยงานอย่างเต็มใจ....

      เวลาผ่านไปอย่างช้าๆจากบ่ายเป็นเย็น แต่ลูกค้าก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหัวค่ำเลย คนถึงได้น้อยลง

      \" ขอบคุณมากครับ \" ใหม่โค้งขอบคุณลูกค้าคนสุดท้าย ที่เดินผ่านประตูกระจกออกไปจึงค่อยแกะ ผ้ากันเปื้อนออก ทางด้านคนอื่นก็เช่นกัน รวมไปถึงเด็กที่มาช่วยงานร้านโดยบังเอิญ

      \" ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะค่ะ~! \" เด็กสาวตะโกนพร้อมกับโบกมือ เธอดูเหมือนพนักงานคนนึงในร้านไปเลยก็ว่าได้จนต่อต้องชมเธออย่างออกนอกหน้า

      \" แหม หนูนี้ช่วยงานได้เยอะจริงๆ เลย โดยเฉพาะเยอะกว่าเจ้าจิ๊ปซะอีก \" ตบท้ายด้วยการประชดเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอย่างจงใจ

      จิ๊ปไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของต่อซักเท่าไหรแต่เขาเดินตรงไปคุยกับเด็กสาว ด้วยน้ำเสียงรำคาญ และเย็นชา
      \" นี้.....หมดธุระของเธอแล้ว รีบๆกลับบ้านไปได้แล้ว เดี้ยวพ่อแม่ก็เป็นห่วงหรอก........ \"

      \" ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่กลับดึก นี้ๆ \"  แต่เด็กสาวยังคงตอบด้วยที่ร่าเริงแล้วเดินอ้อมไปกอดจิ๊ปข้างหลังแล้วพูดคุยอย่างสนิทสนม

      \" นี้ ไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะค่ะ \"

      \" ไม่ \" เด็กหนุ่มปฏิเศษแบบไม่เหลือเยื่อใยเลย

      \" นะ~~ รีอยากไปกินกับพี่อ่าา  \" เธอทำเสียงอ้อน เล็กๆ แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มดูจะโมโหมากกว่าที่จะใจอ่อน

        \" ถือซะว่าตอบแทนเธอที่มาช่วยขายดอกไม้จนเย็นก็แล้วกันจิ๊ป \"  ใหม่ตอบข้ามไหล่มาในขณะที่เขากำลังแขวนผ้ากันเปื้อน

      เด็กหนุ่มขมวดคิ้วไปมา ก่อนจะหันมามองหน้าอันยิ้มแย้มของเด็กสาวที่เรียกตัวเองว่า \"รี\" ก่อนจะตอบอย่างเซ็งๆ ไป

      \" ก็ได้ๆ แต่เธอเลี้ยงนะ! \"

      \" อื้ม!! \" เด็กสาวรับคำอย่างรวดเร็วแล้วจูงมือจิ๊ปออกไปนอกร้านอย่างไม่เกรงใจ

      แต่หลังจากเด็กหนุ่มออกจากร้านไปไม่ทันไรเองก็มีแขกคนนึงย่างกรายเข้ามายังร้านดอกไม้

      \" กริ้ง..... \" เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ที่ประตูดังขึ้นทำให้ ใหม่แหงนหน้าขึ้นไปพูดตามปกติ \" ขอโทษนะครับวันนี้ร้านปิ....

      ใหม่หยุดคำพูดของตนไว้ชั่วครู่ ทั้งๆที่แขกที่มาก็ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาเลยซักนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขาเยาวตามแบบฉบับของนักเรียนมหาลัย
      แต่ว่ามีอย่างนึงที่สะดุดสายตาของเขา นั้นก็คือ มือข้างขวาที่ ถือซองจดหมายสีดำสนิทชูขึ้นในระดับสายตาอย่างจงใจ

      ชายหนุ่มผมสีเงินยืดตัวขึ้นมองผ่าวเลนส์ของเขาไปยังชายผู้นั้น แล้วเปลี่ยนคำพูดโดยสิ้นเชิง \" จะรับอะไรดีครับ.. \"  

      \" เอาเป็น...... \" แขกผู้เยือนทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบด้วยเสียงเรียบ \" ดอกกุหลาบดำ 13 ดอกดีกว่าฮะ \"

      นิวตอบกลับด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มดั่งปกติ \" อ่าขอโทษด้วยจริงๆ ครับ ตอนนี้กุหลาบดำเราหมดสต็อกแล้ว \"

      \" งั้น.....ผมขอสั่งจองไว้ได้ไหมครับ \" แขกผู้มาเยือน ยื่นซองจดหมายสีดำให้กับนิว \" ผมอยากได้ก่อนวันพรุ่งนี้หน่ะครับ \"

      \" ครับงั้นคืนนี้ผมจะรีบไปเอามาให้ครับ \" นิวรับซองจดหมายมาพร้อมกับแววตาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

      l - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  

      \" อ้าาาาามมมมมมมม~~ \"  รียื่นช้อนที่เต็มไปด้วยไอครีมให้กับเด็กหนุ่มที่ ทำหน้าเบ้สุดๆ และไม่มีที่ท่าว่าจะอยากกินของที่อยู่ในช้อนซักเท่าไหรเลย

      \" ทำไมไม่กินหละ ?? \" เด็กสาวถามพร้อมขมวดคิ้ว

      \" กินไอ้ของพรรณนี้แล้วมันจะไปอิ่มท้องได้ไงกันเล่า \" เด็กหนุ่มขมวดคิ้วตอบแล้วมองไปยังไอครีมรสช็อกโกแล็ท ถ้วยนึงที่รีสั่งมาให้

      \" แหม..อย่าพูดอย่างงั้นซิ อร่อยออกนะ \" รีพูดพลางตักคำนึงใส่ปากตัวเอง

      \" มันจะไปอร่อยได้ไงก็แค่ ก้อน.......อุบ!! \" ยังไม่ทันพูดจบดีเลยรีก็ยัดไอครีมเข้าปากจิ๊ปไปเต็มๆ และตามสัญชาติญาณเขาก็เคี้ยวแล้วกลืนลงคอไปทันที แล้วสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป

      \" อร่อยดีเหะ!! \"  เด็กหนุ่มคว้าถ้วยไอติมมาแล้วตักกินอย่างไม่เกรงใจ ซึ่งเด็กสาวก็ส่งเสียงเล็กๆให้ ( \"เห็นม้า\")

      เด็กสาวมองมายังเด็กหนุ่มอย่างมีความสุข เธอฟุ่บลงไปมองหน้าเด็กหนุ่มที่แก่กว่าเธอ เล็กน้อย พลางคิดในใจ ตอนแรกเขาก็ดูหน้ากลัวอยู่หรอก แต่พอมองแบบนี้ แล้วก็เหมือนเด็กคนนึงเลย อาจจะเด็กกว่าเธออีกด้วยซ้ำไป แถมมองดีๆ หน้าตาเขาก็...

      \" มองอะไรของเธอหน่ะ?? \" เด็กหนุ่มส่งเสียง ราวกับปลุกเธอออกจากความฝัน

      \" ป่าวๆ ก็แค่คิดว่าเธอนี้แปลกดีนะ \" เด็กสาวกล่าว พลางมองหน้าเขาที่เปื้อนไอครีมนิดๆ

      \" ฉันว่าเธอแปลกกว่าอีกนะ ฉันไล่เท่าไหรก็ไม่ไป แถมยังมาช่วยงานที่ร้านอีก \" จิ๊ปกล่าวพลางกินลูกเชอรี่สุดท้ายลงไปเคี้ยวกรุบๆ

      \" เหรอ...?  \" เสียงเด็กสาวประหลาดใจนิดๆ ก่อนจะพูดต่อ \" แต่เธอเก่งนะ สู้กับพวกนั้นได้ตั้ง 5 คนเลย \"

      \" ...............ก็แค่เห็นพวกมันแล้วไม่ชอบหน้าก็เท่านั้นหละ \" จิ๊ปจัดการเคี้ยวให้เสร็จแล้วหยิบน้ำเปล่ามาซดต่อ

      \" อย่างกับพระเอกแนะ \" เธอพูดเสียงเบาลง พลางมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างเหม่อลอย ส่วนทางด้านเด็กหนุ่มก็ซดน้ำจนหมดแล้ว

      \" ว่าอะไรนะ???? \"

      - - - + - - - + - - - + - - - + - - - + - - - + - - - + - - - + - - - + - - - + - - -

      ที่สถานนีรถไฟฟ้า ข้างมาบุญครอง เด็กสาวหยอดเหรียญลงไปทีละเหรียญในตู้ และเมื่อครบ บัตรใบนึงก็เด้งออกมา

      \" วันนี้สนุกมากเลยหละ \"  เด็กสาวกล่าว
      เด็กหนุ่มยังคงมีสีหน้าไม่เปลี่ยน แปลงแต่ก็ตอบเธอ \" งั้นเหรอ...... ยังไงก็ขอบใจที่เลี้ยงแล้วกันนะ.. \"

      \" จริงสิ....... \" เด็กสาวหน้าแดงนิดๆ  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามจิ๊ป \" เธอชื่ออะไรเหรอ... \"

      เด็กหนุ่มเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบเธอ \" .......จิ๊ป \"

      \" อุบ... \" เด็กสาวรีบเอามือมาอุดปากกลั้นหัวเราะ ซึ่งจิ๊ปก็รีบแวดใส่เธอ \" มีอะไรน่าขำรึไงเล่า! \"

      \" เหะๆๆ ชื่ออย่างกับเด็กผู้หญิงเลยนะ \" เธอตอบพลางเช็ดน้ำตาที่เล็ดออกมาเพราะขำมากไป

      \" เชอะ..... \"

      \" เอาหละ โชคดีนะจ๊ะ..... \" เด็กสาวหันหลัง แล้วสอดบัตรเข้าไปในเครื่องแล้วรีบเข้าไปในตัวสถานี ก่อนจะขึ้นบันใดเธอหันมาตะโกนเรียกเขา

      \" จิ๊ป!! ครั้งหน้า ฉันจะพาไปกินอีกน้าา!! \"

      เด็กหนุ่มหยักไหล่น้อยๆ ก่อนจะหันหลังให้พลางออกเดินอย่างช้าๆ ส่วนเด็กสาวก็ค่อยๆวิ่งขึ้นไป ข้างบนสถานนีแต่ทันใดนั้นเธอก็ค่อยๆรู้สึกว่าร่างกายเธอหมดแรงไป เสียเฉยๆ แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ มืดลง............

      l - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  
      \" กริ้ง......... \" เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้ง จิ๊ป ค่อยๆเดินผ่านมาอย่างช้าๆ ทันใดนั้นเขาก็สังเกตุว่าร้านยังไม่ปิดแถมทุกคนก็มานั่งรวมตัวกัน อยู่หน้าร้าน ตั้งแต่ พี่นิว พี่เต่า พี่ต่อ รวมไปถึงชายผมดำที่ไม่ค่อยพูดอะไรที่ชื่อพีด้วย

      \" มีอะไรเหรอ ทำไมยังไม่ปิดร้านหละทุกคน?? \"  จิ๊ปถามตามสัญชาติญาณ

      กระนั้นไม่มีใครตอบ จะมีก็เพียงแค่ นิวที่ค่อยๆ สะบัดมือแล้ว ชูซองจดหมายสีดำขึ้นมา ที่มีตัวอักษรสีขาวตัดไว้ว่า

      \" Chaos \"

      เด็กหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว รอบๆ เงียบลงไปถนัดหูเงียบจนได้ยินเสียง เข็มวินาทีเดินเลยก็ว่าได้

      \" Let\'s Slayer The Chaos  \" ชายหนุ่มผมสีดำผุดลุกขึ้นมา ดวงตาเขาฉายแววสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามราตรี


        - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - -

      ดวงดาวท้องฟ้ายามราตรีของเมืองกรุงเทพ ถูกลบเลือนด้วยแสงไฟนีออนที่ไม่รู้จักการหลับ แม้ว่ามืดมากแล้วก็ตาม
      แสงสีเหลือง แดงวิ่งพล่าน ราวกับเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเมือง ฝีเท้าผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่เดินขวักไขว่อยู่กลางสยาม
      บ้างก็มีเสียง คนคุยกันแว่วเข้ามาให้ได้ยินกันบ้าง

      \" เหล่านักล่า ทั้งหลายได้ เวลาที่พวกท่านจะกำจัดความวุ่นวายนี้ด้วยมือของท่านแล้ว \" เสียงทุ่มต่ำบ้างสูงบ้างดังขึ้นจากโน้ตบุค
      ในมือของชาย ที่สวมชุดสีดำ เขามีรูปร่างผอมสูงและมีผมเป็นสีเงิน เขาหันไปคุยกับเพื่อนรอบๆ

      \" สรุบภาระกิจ เป้าหมาย สังหารรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศ ไปเจอกันที่จุดนัดพบ แยกย้ายได้\"

      \" รับทราบ........ \" ชายอีกสี่คนรับคำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะแยกย้ายหายไปในพริบตา

      แต่ละคนต่างมุ่งไปยัง\" จุดนัดพบ \" ด้วยวิธีการที่ต่างกันออกไป ชายผมสีเขียวตรงไปที่จักยานยนต์สีดำสนิทตัดกับสีแดง เขารีบสวมหมวกกันน็อก และไม่นานชายผมขาวก็ตามมารีบขึ้นซ้อนท้ายและออกรถไปอย่างรวดเร็ว
      อีกสองคน วิ่งไปขึ้นรถสปอตร์สีดำสนิท ชายผมสีดำหยิบการ์ดใบน้อยเสียบลงแทนกุญแจ ทันใดนั้นหน้าปัด ต่างๆก็วูบขึ้นมามากมาย
      เขาขยับคันโยกข้างๆ หนึ่งครั้ง แล้วไฟหน้ารถก็ฉายวาบขึ้นมาในทันได  แล้วชายผมแดงก็วิ่งเข้ามาขึ้นรถ นั่งที่นั่งข้างๆคนขับ
      \" ไปกันเถอะ \"  ชายผมสีดำรับแว่นกันแดดมาแล้วบรรจงสวมมันลงไป ทำให้ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
      มือซ้ายของเด็กหนุ่มค่อยๆ ขยับเกียร์อย่างช้าๆ ปลดเบรคมือออก แล้ว เหยียบคันเร่งไปสุดตัว
      รถทั้งสอง ขับมาเจอกันและวิ่งไปบนถนนที่มีเพียงแค่ไฟจากเสาบนถนน สายนี้เท่านั้น แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ตามพวกเขาไปติดๆ
      นั้นก็คือร่างเงาที่ กระโดดข้ามตึกไปทีละตึก ด้วยพละกำลังอันเหลือเชื่อในคืนเดือนหงาย
      แสงจากดวงจันทร์ที่ลอดผ่ามาพอให้เห็นร่างเงาเล็กๆ ของชายหนุ่มที่สะพายสัมภาระอันใหญ่
      จากแยกแล้วแยกเล่า ถนนเส้นแล้วเส้นเล่า ในที่สุดพวกเขาก็มาถึง \" จุดนัดพบ \"

      ปลายทางของพวกเขาก็คือท่าเรือริมแม่น้ำ ที่แสนเงียบสงบเต็มไปด้วยคอนเทนเนอร์มากมายกองระเกะระกะ บางอันก็มีสนิมขึ้นบ่งบอกว่า
      อาจจะไม่มีคนใช้มันมา หลายปีพอสมควรแล้ว ถึงกระนั้น ที่นี้เวลานี้ ก็มีเรือใหญ่ลำหนึ่งเทียบท่าอยู่ อย่างเห็นได้ชัด
      แต่อย่างไรพวกเขาไม่ได้หยุดที่นั้นเสียทีเดียว  พวกเขาหยุดที่เนินที่สูงขึ้นมาหน่อย พอจะทำให้เห็นครอบครุมทั้งท่าเรือ
      ที่มาถึงก่อน เป็นมอร์เตอร์ไซด์คันสีดำ ชายผมสีเงินร่างสูงในชุดสีดำแขนยาวแต่งกายรัดกุมลงมาสะบัดผมก่อนจะ หยิบโน้ตบุคขึ้นมาแล้วเปิดมันขึ้น
      ส่วนชายผมสีเขียวที่เป็นคนขับถอดหมวกกันน็อกออกพลางหยิบ เสื้อกั้กยีนส์แขนกุดขึ้นมาสวมทับเสื้อสีดำข้างในที่ไม่มีแขนเช่นกัน
      เห็นได้ชัดว่าท่อนแขนของเขามีกล้ามเป็นมัดๆ ราวกับถูกฝึกมาอย่างดี ส่วนคนที่ตามมาติดๆ ก็คือรถสปอรต์คันงามสีดำนั้นเอง

      \" เอี้ยด......ดด \"  รถคนนั้นเบี่ยงท้ายเล็กน้อย ก่อนจะหยุดสนิทและจึงตามมาด้วยร่างของชายผมแดงในชุดเสื้อครุมยาวเกือบถึงเข่า
      ปลดกระดุม ให้เห็นเห็นรอยสักรูปปีกนกสีดำแดง ที่กลางอกของเขา ที่ก้าวออกมาจากรถ แล้วหันไปคุยกับ ชายสองคนที่มาถึงก่อนหน้านี้     \" ได้เรื่องไหม ใหม่?? \"

      \" ระหว่างภาระกิจเรียก Code Name ซิ ฟินิกส์ \"  อดีตแคทเชียร์หนุ่มขยับแว่นของเขาก่อนจะลงมือพิมพ์ข้อมูลลงไปในโน้ตบุคที่แน่ๆนี้ไม่ใช่งานของร้านดอกไม้แน่

      \" รับทราบ ดาร์ค \" เขาตอบเหมือนกับประชดนิดๆ ก่อนจะตะแบะแบบทหาร ด้วยหน้าบูดๆ

      \" เรือยังไม่ออก แต่คงอีกไม่นานหรอก ตรวจสอบทะเบียบแล้ว ไม่ผิดแน่เป็นเรือ B.b. หรือ Black Bangkok  รูปประพันธ์ เหมือนกันไม่ผิด  \"  ชายหนุ่มดาร์กหันหน้าจอ คอมมาให้ทั้งสองดู มันแสดงภาพของโครงสร้างเรือและรูปถ่าย ที่ใกล้เคียงกับ ลำที่กำลังเทียบท่านี้มาก

      \" ฮึ... ข่าวที่ได้มาถูกเสมอเลยเหะ \" ชายหนุ่มผมสีเขียวกล่าว พลางยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมองไปทางเรือก่อนจะออกปากถามชายคนที่อยู่ในรถ \" คิดว่าไง  ชาโดว์ ?? \"

      เด็กหนุ่มในชุดเสื้อหนังสีดำที่ครุมทับเสื้อสีขาว ถอดแว่นตาดำออกแล้วมองไปที่เรืออย่างตั้งใจโดยไม่ต้องใช้กล้องส่องแม้แต่น้อย

      \" ...... 81...ไม่สิ 92 คน ที่หัวเรือ 9 ท้ายเรือ 7 กาบเรืออีกข้างล่ะ 8 ติดอาวุธพร้อมมือ อย่างน้อยมี M 60คนล่ะกระบอกไม่ก็ช็อตกัน
      ประมาณ60คนลาดตระเวณอยู่ มีระเบิดมือ ปืนพก ช็อตกัน M60 แล้วก็มีป้อมปืนชั่วคราวประมาณ 4 ป้อม ดูเหมือนจะมี ร็อกเก็ตแรนด์เชอร์ด้วย ส่วนที่เหลือ ไปช่วยกันขน \"ของ \" อยู่ \"   เด็กหนุ่มผมสีดำ กล่าวเสียงเรียบพลางก้าวออกมาจากรถ


      \" ......คิดว่าไงวูลฟ์..... \"  ดาร์คถามความเห็นชายหนุ่มผมสีเขียวที่กำลังส่องกล้องไปรอบๆ ท่าเรืออย่างช้าๆ


      ตุบ.....  ทันใดนั้น มีเสียง หนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังของทั้งสี่ พวกเขาไม่หันกลับไปมองเพราะพวกเขารู้อยู่แล้วว่าคนสุดท้ายก็คือชายหนุ่มที่มี ผมสีน้ำตาล ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินทับเสื้อสีเหลืองอ่อนข้างใน สวมกางเกงสีดำ และสวมทับอีกชั้นด้วยเสื้อครุมโอเวอร์โค้ดยาวจรดพื้นสีดำ มือทั้งสองข้าง สวมถุงมือหนังสีดำแบบเปิดปลายนิ้วด้วย  แบกสัมพาระชิ้นใหญ่มาด้วยชิ้นนึง

      \" มาช้าจริงๆเลยนะ เจ้าหนู \" วูลฟ์ชายผมเสียเขียว ทักอย่างเป็นกันเองแต่เขาก็ยังคงใช้สมาธิกับการใช้กล้องส่องทางไกลอยู่

      \" ขอโทษฮะ..... แต่จะมาแบบนี้โดยไม่มีใครเห็นก็ลำบากพอสมควรเลยฮะ.. \"  เด็กหนุ่มแก้ตัว พลางเดินเข้ามาหา ก่อนจะถามเข้าเรื่อง \" เป็นไงบ้าง ข่าวที่ได้มาถูกไหมฮะ?? \"

      \" อื้มมมม..... \" เขาตอบในลำคอ แล้วชายผมสีขาวจึงโพล่งขึ้นมา \" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมมฤธิ์ มักใหญ่
      ถูกต้องสงสัยในการ ค้าประเวณีต่างชาติ การส่งแรงงานผิดกฎหมายไปยังประเทศญี่ปุ่น ดูเหมือนว่าจะเป็นความจริง  \"
      เขาอ่านข้อมูลที่อยู่ในโน้ตบุค แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น เขายังเริ่มอ่านต่ออย่างช้าๆ
      \" เคยถูกจับข้อหาพรากผู้เยาว์ 4ครั้ง แต่ศาลได้ยกฟ้องอย่างไร้สาเหตุ คงเพราะยัดเงินไป นอกจากนั้นดูเหมือนว่าเป็นพวกชอบข่มขืนเด็ก มีแก๊งของตัวเอง มีสาชิกอยู่ถ้าให้ประมาณเป็นตัวเลขก็คง ซัก ห้าร้อยได้...  \"

      \" เด็ดหัวของหัวหน้าไป ลูกน้องก็คงแตกหละ \"  วูลฟ์กล่าว ก่อนที่เขาจะไปเจอสิ่งที่สะดุดสายตา เขากวักมือเรียกเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ามาแล้วส่งกล้องให้เขา พร้อมกับคำพูด \" ดูนี้ ซีโร่ \"

      เด็กหนุ่มมองผ่านกล้อง มันไม่ใช่กล้องส่องทางไกลธรรมดาๆ แต่มันยังเป็นกล้องอินฟาเรดด์ที่สามารถ ซูมได้หลายร้อยเท่า
      เขามองไปไปยังทิศทางที่ วูลฟ์น่าจะมองไปครั้งสุดท้าย หลังจากมองอยู่ซักพักเขาก็มาสะดุดอยู่ที่ ตึกโทรมๆที่มี 2 ชั้น
      เมื่อซูมเข้าไป ก็จะเห็นได้ชัดว่ามี เด็กผู้หญิงคนนึงถูกขึงอยู่ด้วยสภาพที่มีเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น เธอไม่ใช่ใครอื่น นอกจากเด็กสาวที่เขาเคยช่วยไว้นั้นเอง

      \" ทำไมยัยนั้นไปอยู่ตรงนั้นได้หละ?? \" เด็กหนุ่มพูดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้ อีก 3 คนหันไปมองหน้าซีโร่

      \" หมายถึงใครเหรอ ซีโร่?? \" ฟินิกส์ถามแล้วแย่งกล้องมาจากเด็กหนุ่ม แล้วมองไปไม่นานเขาก็เจอภาพเดียวกับที่ซีโร่เห็น

      วูลฟ์หยิบบุหรี่มามวนหนึ่งแล้วจุดไฟแช็ก แล้วสูบ ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น พวกเขารู้แล้วว่า ยัยนั้นที่ ซีโร่พูดถึงคือใคร
      ชายผมสีขาวผุดลุกขึ้นมาปิดโน้ตบุคแล้วเก็บเข้า มอร์เตอร์ไซด์ของวูลฟ์ก่อนจะหันมาพูดกับทุกคน

      \" ยังไงภารกิจของพวกเราก็ยังเหมือนเดิม..  ช่วยคนที่ถูกจับไปและสังหารเจ้าสมมฤธิ์ \" ชายผมสีเงินขยับแว่นเป็นเชิงกล่าวสรุบ

      \" งั้นผมขอไปช่วยเธอได้ไหม?!?!? \" ซีโร่ตอบอย่างร้อนใจ แต่วูลฟ์ก็ห้ามไว้
      \" วิธีการของนายมันบ้าบิ่นไป ถ้าจะทำสู้ให้ฟินิกส์ทำไม่ดีกว่าหรือ?  \" เมื่อจบประโยค เขาก็พ่นควันบุหรี่

      \" แต่...... \" เด็กหนุ่มพยายามจะอธิบายแต่สิ่งที่เขาพูดมาก็ถูก แต่เขาก็อธิบายไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมเขาร้อนใจ

      \" เอางี้ ซีโร่ \" ชายผมสีเงินเดินไปเปิดท้ายรถ ก่อนจะพูดต่อ

      \" เราจะให้ วูลฟ์กับชาโดวดึงความสนใจของพวกมันก่อน แล้วฟินิกส์ก็ขึ้นไปลอบวางเพลิงที่เรือ แล้วหลังจากนั้น ฉันกับซีโร่จะไปช่วยคนเอง ส่วนเรื่องเขาเป้าหมาย ใครเสร็จงานก่อนก็ลงมือได้ทันทีเลย \"

      ทุกคนพยักหน้าเป็นอันตกลง  แล้วแยกย้ายกันออกไปอย่างรวดเร็ว

      ----------------------------------------------------------------------


      ที่ในท่าเรือ ชายฉกรรณ์กลุ่มใหญ่ กำลังไล่ต้อนเด็กสาวขึ้นเรือ แน่นอนต้องมีคนขัดขืนกันบ้าง ซึ่งเด็กสาวคนนึงในนั้น รีบวิ่งหนี หมายจะกระโดดลงน้ำ แต่ว่าก็ไม่รอดพ้นมือของผู้คุมสุดโหดที่กระโดดชาร์ดตัวเข้าไปกดเธอลงไปนอนกับพื้น

      \" นังเพศย่า! คิดจะหนีเรอะ!!  \" เขาซัดหมัดใส่หล่อนไปหมัดแล้วหมัดเล่า จนเธอร้องไห้ไม่หยุด

      \" อย่างนี้ต้องสั่งสอนกันหน่อยแล้ว  \" ชายผู้นั้นคว้าชายเสื้อขาดๆและออกแรงฉีกมันอย่างง่ายดาย คนอื่นๆที่เห็นก็ยิ่งขยาดไม่กล้าที่จะหนีตาม

      \" เฮ้ย...... \" ราวกับเป็นเสียงสวรรค์ ชายร่างอ้วนคนนึงแต่กายผูกเน็กไทด์เรียบร้อย ไปสะกิดไหล่ทันไดนั้นชายผู้นั้นก็หยุดทันที

      \" เบาๆหน่อย เดี้ยวของเสียกันหมด รีบๆ ขนขึ้นเรือไปได้แล้ว \" เขากล่าวต่อ ชายคนดังกล่าวรีบตอบรับอย่ารวดเร็ว \" คับ!! \"
      แล้วสถบออกมาเสียงเบา \" รอดไปนะแก นังเพศยา \"

      ชายอ้วนคนนั้นเดินไปรอบๆ ที่จริงแล้วเขาก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สมมฤธิ์ มักใหญ่ นั้นเองเขาออกมาเดินคุมงานอย่างรัดกุม   เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเขาก็เดินอาดๆ กลับไปยักตึกโทรมๆ หลังนึงข้างๆท่าเรือ

      ทุกอย่างเป็นไปอย่างช้าๆ ผู้หญิงคนแล้วคนเล่าค่อยๆถูกพาขึ้นเรือ อย่างเงียบๆ  เวรยามรอบเรือ จนไปถึงทางเข้าที่มีเดินไปมาลาดตระเวณหนาแน่น

      แต่แล้วก็มีเสียงเล็กๆ มาเสียงหนึ่ง ที่เรียกความสนใจของยามที่อยู่หน้าทางเข้าเป็นอย่างดี  มันดูเหมือนมีบางอย่างกำลังพุ่งตรงมาที่นี้
      ทหารยาม เพ่งมองไปดีๆ ก็พบแสงไฟดวงหนึ่งที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้ามาใกล้พอสมควรเขาจึงเห็นว่ามันเป็นจักรยานยนต์สีดำคาดแดง  

      \" เฮ้ย!! ปิดทางเข้าเร็ว มีผู้บุกรุก!!!!! \"  เขาส่งเสียง เรียกคนอื่น และแล้ว สิ่งกีดขวางที่ไม่ธรรมดาก็มา นั้นก็คือเครนยกของที่ยก คอนเทนเนอร์มา ขวางเทางเข้าอย่างสมบูรณ์ ข้าง บนมี พลยิงซุ่มอยู่

      เมื่อเข้ามาถึงระยะ พวกเขาก็กราดกระสุดเข้าใส่ ผู้บุกรุกอย่างไม่เกรงใจ กระสุนนับร้อยกราดออกไป แบบไม่บันบะบันยัง แต่ไม่มีนัดไหนเลยที่จะโดนจักรยานยนต์คันนั้น
      มีแต่มันจะเข้ามาใกล้ขึ้นๆ แล้วก็ใกล้ขึ้น และแล้วคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลัง ก็ยืนขึ้น ผมสีดำของเขาปลิวไปตามแรงลมมือทั้งสองข้างกุมดาบคาตานะ ชูไว้เหนือหัว

      \" อย่ากัดลิ้นตายหละ!!!!!!! \"  ชายผมเขียวข้างหน้าตะโกน แล้วใช้แรงที่มียกล้อมอเตอร์ไซด์ขึ้นสูง  แล้วบิดคนแร่งให้สุด ทำให้รถพุ่งไปข้างหน้า  พวกคนที่อยู่ ข้างหน้าคอนเทนเนอร์ต่างหนีกันเจ้าหละหวั่น  

      \" ย้าาาาาาาาาาก!!!!!! \" วูลฟ์เอี้ยวตัวเล็กน้อย ทำให้ มอร์เตอร์ไซด์ เสียหลัก และ  หมุนตีลังกาไปด้านหลัง แต่นั้นเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจไว้อยู่แล้ว เพราะเขาต้องการจะส่งให้ ชายผมสีดำที่ยืนรอนั้น ใช้แรงกระโดดนี้ ข้าม คอนเทนเนอร์ไปอย่างสวยงาม ส่วนตัวเขาก็หมุนมอร์เตอร์ไซด์คู่ใจเข้าหาศัตรู จนล้มไปหลายราย

      ทันไดเมื่อร่างเขาถึงพื้น ก็ไม่อยู่ให้เป็นเป้าหมายการยิงของศัตรู เขารีบกระโดดออกมาพร้อมกับสวมกรงเล็บเข้าแล้วม้วนตัวหลบกระสุนจากข้างบนคอนเทนเนอร์  
      ด้านร่างของชาโดว์นั้น ก็ลงถึงพื้นได้อย่างสวยงาม ดาบคาตานะเขารับแสงจันทร์แล้วทอประกาย ราวกับมันต้องการที่จะลิ้มรสเลือด
      เขาไม่รอช้าที่จะกำจัดศัตรูบนคอนเทนเนอร์ที่ขวางทาง แต่ก่อนหน้านั้นเขาสะบัดดาบหนึ่งครั้ง เพื่อปัดลูกกระสุนที่ลอบยิงมาจากที่สูง ดูเหมือนเป็นการซุ่มยิง  จากที่สูง.....

      \" ดาร์ก..... มีคนอยู่บนเครน  5 คน คุ้มกันด้วย \" เขาส่งเสียงให้กับ ไมค์ตัวน้อยที่ติดอยู่บนปกเสื้อสีดำของเขาก่อนจะสะบัดดาบอย่างบ้าคลั่งใส่ศัตรูที่โหมเข้ามา

      ส่วนด้านหน้าคอนเทนเนอร์ก็ไม่ต่างกัน วูลฟ์ หลบกระสุนไปที่หลังหินก้อนใหญ่ ที่พอจะบังกระสุนให้กับเขาได้

      \" ซ่า นักใช่ไหม!! เอานี้ไปกินซะ!! \" คู่ต่อสู้ของเขาคนนึงดึงสลักระเบิดแล้วเขวี้ยงเข้าใส่ก้อนหินที่ขวางกระสุนอยู่แต่หารู้ไม่ว่าวูลฟ์กำลังรอโอกาศนี้อยู่พอดีเลย
      เขาวิ่งหลบมาจากหลังก้อนหินคว้าระเบิดมาอย่างประนีต แล้วจัดการขว้างกลับไปให้เจ้าของมันอย่างไม่เกรงใจ
      \" ตูม!!!!!! \"   คอนเทนเนอร์ขวางทางหายกลายเป็นเศษเหล็กไปทันทีพร้อมกับ คนที่เฝ้าอยู่ด้วย

      ข้งในนั้น ชาโดว์กำลังสู้กับศัตรูจำนวนแทบจะนับไม่ไหว  เขามองไปที่เครน เขาหลับตาลงวูบหนึ่ง ทันใดนั้นภาพหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวเขา มันเป็นภาพของเครนที่ขยับอย่างบ้าคลั่งจนทำให้ คนที่ซุ่มยิงอยู่ บนเครนต้องร่วงลงมาเป็นแถบ

      เขาโพล่งตาขึ้นมาในทันใดแล้ว ออกวิ่งฝ่าดงกระสุนไปอย่างเด็ดเดี่ยว ซึ่ง วูลฟ์ก็วิ่งมาเป็นเพื่อนเขาเช่นกัน

      เวลาเดียวกันบนเครน พวกซุ่มยิงจากระยะไกลหัวเราะด้วยความ ซะใจ \" ไปสำนึกผิดที่มาสู้กับพวกเราใน นรกเถอะ!! เฮ้ย ขยับไปทางขวาหน่อยเดะ มองไม่ถนัด\"

      ชายที่ถือปืนสไนเปอร์ส่งคนบังคับเครนให้เลื่อนเครนไปอย่างช้าๆ ซึ่งเขาก็ค่อยๆ ขยับเครนไปทีละน้อย ทีละน้อย แต่แล้วเครนก็หยุดเอาเสียดื้อๆ

      \" เฮ้ย หมุนอีก เดะ!! แบบนี้ก็ยิง   กึก!!~ \"  ทันไดนั้น เครนก็หมุนต่อ แต่คราวนี้ไม่ได้หมุนช้าแบบเดิม แต่มันกลับหมุนเร็ว กว่าที่ควรจะเป็น คนบังคับ ไม่รู้สาเหตุ ว่ามันเกิดได้อย่างไร เพราะมือเขายังไม่ได้จับต้อง คันบังคับเลยแม้แต่น้อย
      \" นี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี้ยย!! อ้ากก!! \"

      ที่ห่างออกไป ดาร์กกำลังยืนใช้โน้ตบุคของตนนั้น บังคับเครนให้หมุนซ้ายทีขวาที ราวกับว่ากำลังเล่นเกมส์อยู่ยังไงอย่างนั้นเลย
      แล้วสุดท้าย เขาก็ตั้งโปรแกรมไว้ให้มันขึ้นไว้ว่า \"Auto Swing\" แล้วปิดจอลงแล้วตรงไปที่โกดัง ที่น่าจะขังคนไว้อยู่

      \" มันเกิดอะไรขึ้น!!  \" ที่เรือเริ่มแตกตื่น ยามหลายคนรีบเร่งพวกที่ยังขึ้นเรือมาไม่ได้ ให้ขึ้นมาบนเรือให้หมด พวกเขาตัดสินใจจะออกเรือให้ไวกว่ากำหนดการไว้   แต่พอทันทีที่กับตันจะเดินเครื่องนั้นเอง เสียงระเบิดจากท้ายเรือก็ดังขึ้น สนั่นหวั่นไหว

      \" มีคนวางเพลง!! ไฟไหม้ \" ชายคนหนึ่งตะโกนแล้วหนีอย่างเอาเป้นเอาตาย แต่ว่าเขาก็ถูกสันมือของชายคนนึงสับเข้าที่กลางหลังของเขาไป

      \"นี้สำหรับ ที่ต่อยฉัน..... แล้วก็ทำตัวแย่ๆกับผู้หญิงหน่ะ\" ชายคนนั้นดึงวิกผมยาวของผู้หญิงออกเผยให้เห็นถึงผมสีแดงราวกับเปลวเพลงของเขา

      อีกด้านหนึ่ง เด็กหนุ่มที่มองคอยมองเหตุการณ์ทั้งหมดทันทีที่เห็น ไฟลุกโหมที่เรือ นั้นเป็นสัญญาณที่ ดาร์คบอกกับเขาไว้ให้ลงมือได้ทันที
      เขาไม่รอช้า รีบกระโดดไถลไปตามเนิน เป้าหมายของเขาก็คือ ตึกร้างที่อยู่ห่างจากตัวเขาไป เกือบ 700เมตร แต่ด้วยฝีเท้าของเขา
      ไม่ถึง 2 วินาทีเขาก็มาถึงโดยแทบไม่มีเสียงเลยซักนิด เขารีบไปแอบข้างประตูแนบหูข้างกำแพงที่เต็มไปด้วยรอยเปื้อนสีดำ
      ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกมา เด็กหนุ่มจึงแน่ใจว่าในนั้นไม่มีใครอยู่มือของเขาค่อยๆเลื่อนไปจับลูกบิด แต่ว่ามันกลับหมุนไม่ได้ คงมีคนลงกลอนไว้

      \" ชิ..... ถ้าประตูล็อก \" เด็กหนุ่มเอื้อม ไปหยิบสัมพาระที่อยู่กลางหลังของเขาออกมา มันเป็นดาบสีฟ้าใสราวกับคริสตัลสีฟ้าขนาดใหญ่ ที่ถูกเจียรเป็นรูปดาบ มีเพียงแค่ด้ามดาบที่ดูเหมือนจะทำจากเหล็กกล้าแล้วพันทับด้วยผ้าสีขาวเพื่อให้จับได้กระชับมือ
      วูบ!!  เสียงเขาสะบัดดาบเล่มยักษ์ ทันใดนั้น ประตูก็ขาดออกเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย เขาวิ่งตรงขึ้นไปที่ชั้นสอง

      ที่นั้นมีเด็กสาวที่ถูกขึงด้วยเชือก ทั้งตัวเธอถูกเฆี่ยน จนเป็นรอยแผลเป็นทั้งตัว เสื้อผ้าก็ขาดวิ่นจนดูแทบไม่ได้ เหลือผ้าบังไว้แค่บางส่วน เท่านั้น   เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปแก้เชือก อย่างรวดเร็ว แล้วถอดเสื้อครุมโอเวอร์โค้ดสีดำไปครุมร่างของเธอ

      \" ไม่นะ... รีอยากกลับบ้าน \" เด็กสาวละเมออกมาเบาๆ ในอ้อมแขนของซีโร่

      เด็กหนุ่มโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูเธออย่างแผ่วเบา\" จะได้กลับแล้ว... อีกไม่นานหรอก........ \"

      \" เปรี้ยง!! \" กระสุนปืนเฉี่ยวหัว เด็กหนุ่มไปเพียงนิดเดียว แต่มันเป็นไปไม่ได้ไม่น่าจะมีคนอยู่ในตึกนี้นี่นา
      แต่เมื่อหันกลับไปก็พบกับชายร่างอ้วน ถือปืนพก เป็นปืนแม็กนัม พลังทำลายของมันก็ไม่ใช่เล่นๆเลยทีเดียว

      \" เอ้าๆ  ดูซิเราจับหนูตัวไหนได้ \" เขาไม่ใช่คนอื่นนอกจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สมมฤธิ์ นั้นเอง

      \" เพื่อนๆ ของแกหลบกระสุนได้ แล้วแกหละ หลบได้รึบเปล่าหละ \" เขาถามเป็นเชิงท้าทายพร้อมกับเล็งปืนมาทางเขาก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเยอะเย้ย
      \" อ้อ ระวัง เด็กผู้หญิงด้วย นะคุณ ผู้พิทักษ์คุณธรรม \"
      แล้วยิงกระสุนนัดนึงเข้าที่ไหล่ของเด็กหนุ่ม  ก่อนจะยิงซ้ำอีกนัดเข้าที่ขา

      เด็กหนุ่มทรุดลงไป แต่เขายังคงกอดร่างของเด็กสาวไว้อย่างมิดชิด
      \" ผู้พิทักษ์คุณธรรมเหรอ ฟังดูเหมือนในการ์ตูนดีนี้ \"  แต่หนุ่มฉายแววตาตรงไปยังศัตรู เวลานี้เด็กสาวค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมาทีล่ะน้อย
      สิ่งที่เธอจำได้ ก็คือเธอถูกทรมาณอย่างแสนสาหัสแต่ตอนนี้ จมูกเธอได้กลิ่นเลือดอย่างชัดเจน

      \" อ้อ งั้นแกก็คงเป็นพวก มดแดงที่คอยกำจัดองค์กรร้ายซินะ?? \" เขายิงอีกนัดเข้าไปที่กลางหลังของเด็กหนุ่ม

      \" อุก...... \" เด็กหนุ่มร้อง ตอนนี้มีกระสุน 3นัดในตัวเขาแล้ว ถ้าเป็นคนปกติคงตายไปแล้ว ซึ่งตามปกติกระสุดเม็กนัม จะทะลวงร่างของมนุษย์ไปอย่างง่ายดายแต่ นี้ กลับแค่ฝังใน

      \" ก็ไม่ใช่อีกนั้นหละ... \" เด็กหนุ่มพักหายใจสักครู่ก่อนจะพูดต่อ \" พวกเราคือ ผู้ล่าหายนะ  \"

      \" อ้อ...... งั้นเหรอ \" เขา ยิงอีกนัดเข้าที่แขน ทันใดนั้นเองเด็กสาวก็ร้องเสียงดังเพราะกระสุนนัดนี้อยู่ใกล้ตัวเธอมาก

      \" ม่ะ...ไม่นะ เลือด... คุณไม่เป็นไรนะ \" เด็กสาวถามเจ้าของร่างที่โอบกอดเธออยู่ด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

      \" ...... ฮึ...เธอเคยบอกใช่ไหมว่าฉันเหมือนพระเอก..... \" เด็กหนุ่มกล่าวในขณะที่ร่างของสมมฤธิ์ ยิ่งเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ


      \" ฉันนะ...... \" เด็กหนุ่มกระซิบในขณะที่รัฐมนตรี เดินเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงระยะที่เขาสามารถเอาปืนไปจ่อหัวของเด็กหนุ่มได้อย่างง่ายดาย

      \" ไม่ใช่พระเอกหรอกนะ.........................  โป้ง!!!!!! \"  เสียงกระสุนนัดที่ 6 ดังขึ้น คราวนี้มันยิงตรงเข้าที่กลางหัวของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลแบบเผาขน จนร่างของเด็กหนุ่มปลิวไปตามแรงกระสุน แล้วลงไปนอนแทบพื้น

      \" ไม่..... \" น้ำตาทั้งสองข้างของเด็กสาวไหลรินมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ ตามด้วยเสียงกรีดร้องที่ดังที่สุดในชีวิตเธอที่เคยทำมา


      \" ฮึ....... พูดได้ดีนี้ พระเอกแค่ไหนมันก็ต้องตายได้หรอกน่า \" รัฐมนตรี เป่าปากกระบอกปืนที่มีควันลอยฉุยๆ แล้วขยับมือออกแรงฉุดเด็กสาวขึ้น

      \" เธอ!! ไปกับฉัน!!  \" เขาฉุดข้อมือแต่ร่างเด็กสาวพยายามขัดขืน แต่แรงของเด็กผู้หญิง ก็ไม่สามารถสู้ได้ สุดท้ายก็ต้องถูกลากออกไปในที่สุด
      เธอร้องไห้ มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้ได้ นี้เป็นแค่ความฝัน..... ซักวันนึงภาพเหล่านี้มันจะไม่ใช่ความจริง แต่ที่เธอรู้สึกเจ็บนี้ก็แสดงว่าจะต้องไม่ใช่ความฝัน เธอตัดสินใจที่จะมองร่างของชายผู้ที่มาช่วยเธอเป็นครั้งสุดท้าย  แล้วหัวใจเธอก็ต้องแทบหยุดเต้น

      ร่างของรัฐมนตรีรู้สึกแปลกๆ ที่จู่เด็กสาวคนนี้ก็เงียบลง และร่างของเธอก็หยุดขัดขืนไปโดยปริยาย เขาเอี้ยวตัวกลับมามองเด็กสาวที่หยุดนิ่ง
      สายตาของเธอจับจ้องเข้าไปในห้องที่เธอเพิ่งถูกลากออกมา ทำให้เขาประหลาดใจจึงค่อยไล่สายตาไป แล้วเขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจ

      ร่างของเด็กหนุ่มกำลังยืนขึ้นมาอย่างช้าๆ แววตาของเขาสะท้อนแสงจันทร์ที่รอดผ่านหน้าต่างมา เขาขยับตัวช้าๆ แล้วร้องเสียงดัง
      \" อุ......อ้าาาาาาาาาก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  อ้าาาาาาาากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!! \"
      เด็กหนุ่ม ทำท่าคล้ายกับพยายามเบ่งพลัง แล้วทันได้นั้นก็มีเสียง กริ้ง! เบาๆ มันเป้นเสียงหัวกระสุน กระทบกับพื้นปูน
      เมื่อเพ่งมองดีๆ กระสุนทุกนัดที่ฝังอยู่ในตัวของเขาค่อยๆดีดออกมาจากร่างของเขาอย่างช้าๆ
      \' เขากำลังคัดกระสุนออกจากร่างด้วยตัวเอง!? \' เป็นสิ่งเดียวที่อธิบายการกระทำของเขาได้
      จากหนึ่งเป็นสอง แล้วก็สี่ และกระสุนนัดสุดท้ายที่ฝังอยู่ในหัว ก็กระเด็นออกมา ที่มันออกมาช้าเพราะคงอยู่ลึกที่สุดกระมั้ง

      เคร้งง... เสียงกระสุนนัดสุดท้าย ออกมา เด็กหนุ่มจ้องตรงมายังร่างของผู้ชายที่จับมือเด็กสาวไว้อยู่มืของเขาเอื้อมไปหยิบดาบคริสตัลข้างตัว

      \" หน่อย!! \" สมมฤธิ์ตัดสินใจจะยิ่งซ้ำไปอีกครั้งแต่แล้วเมื่อเขาลั่นไกนั้นเอง เสียง แกร้ก ครั้งใหญ่ก็ดังขึ้น

      \" ปืนเม็กนั่มหน่ะ ถึงจะมีความแรงกว่าปืนพกทั่วไปแต่ ในลูกโม่ของมันใส่กระสุนได้แค่หกนัดเท่านั้น \" เด็กหนุ่มสะบัดดาบแหวกอากาศเป็นเสียง วูบ!! ครั้งใหญ่ ก่อนจะถามศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า \" ปล่อยเธอ.....ซะ....... \"

      \" ฮึ่ม!! \" รัฐมนตรีตัดสินใจเหวี่ยงเด็กสาวไปให้เด็กหนุ่มพร้อมกับทิ้งปืนลงพื้น และที่สำคัญ เขาโยนลูกระเบิดพกที่เหน็บไว้ข้างหลังไปให้เด็กหนุ่มด้วย แล้วตัวเองก็หนีออกไปอย่างรวดเร็ว


      \" บรึม!!!!!!!! \" แสงสีแดงวาบขึ้น เด็กหนุ่มรีบกระโจนออกหน้าต่างไป ถ้าหากเขาช้ากว่านี้ซัก 2 วินาทีคงกลายเป็นเถ้าไปข้างในแล้ว


      \" ชิ....... \" เด็กหนุ่มลงถึงพื้นอย่างปลอดภัยพร้อมกับร่างของเด็กสาวในอ้อมแขนของเขา


      \" คะ........คุณเป็นใครกันค่ะ \" เด็กสาวในชุดเสื้อครุมโอเวอร์โค้ด ถามขึ้นอย่างอ่อนแรง

      เด็กหนุ่มหันกลับมายิ้มจางๆให้กับเธอ \" ก็.....เด็กขายดอกไม้ไง \" แต่แล้วเด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดไป ใบหน้าของเด็กสาวซีด และตัวก็เย็นเกินกว่าจะเป็นด้วย

      \" ......นั้นสินะค่ะ..... \" เด็กสาวเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเด็กหนุ่มเบาๆ ก่อนจะหายจะหอบๆแล้วพูดต่อ \" เธอชื่ออะไรนะ....รีลืมไปแล้ว \"

      เขาเพิ่งสังเกตุว่ามือของเขาสัมผัสบางอย่างอุ่นๆได้ มันดูเหมือนจะเป็นสีแดง... เมื่อเขาขยับมือไปอีกหน่อย ก็พบว่ากลางหลังของเด็กสาวมี เศษเหล็กชิ้นใหญ่ ปักอยู่กลางหลังของเธอ

      เธอโดนสะเก็ดระเบิด!!  ความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัวซีโร่ทันที เขารีบวางร่างของเด็กสาวลงแล้วดึงเศษเหล็กนั้นออก

      \" นี้....... ตอบรี ก่อนหน่อยซิ...  \"

      \" ยัยบ้า!  นี้ไม่ใช่เวลามาพูดนะ!! \" เขาฉีก แขนของเสื้อครุมโอเวอร์โค้ดออกแล้วรีบพันแผลให้กับเธอเป็นการเร่งด่วน
      แต่ร่างเด็กสาวยังคงเย็นลงเรื่อยๆ ใบหน้าของเธอแทบจะไม่เหลือสีเลือดแล้ว แต่เธอยังคงพูดต่อ \" จริงสิ... เราชื่อวารี นะ \"

      \" อย่าเพิ่ง... \" เด็กหนุ่มตะโกนเสียงดังแต่ เขากลับถูกสะกดคำพูดด้วยปลายนิ้วของเด็กสาวที่มาแตะริมฝีปากของเขาไว้
      เธอฝืนยิ้มอย่างช้าๆ แล้วพูดกับเด็กหนุ่ม คล้ายกับว่านี้จะเป็นคำพูดสุดท้ายของเธอแล้ว \" เธอชื่ออะไรเหรอ......บอกวารีหน่อยสิ \"

      เด็กหนุ่มหยุดนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะปลงแล้วตอบเธอด้วยเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่เคยทำมา \" จิ๊ป....... \"

      ในที่สุดเด็กสาวก็ยิ้ม ขยับปากน้อยๆ แล้วมือของเธอก็ตกลงราวกับภาพช้า แล้วเธอก็หลับไปหลับแบบที่จะไม่มีทางตื่นขึ้นมาอีกครั้งได้แล้ว
      เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด.... ก่อนจะตะโกนออกมาพร้อมกับหยดน้ำสองหยดข้างดวงตา

      \" บ้าที่สุดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! \"


      ---------------------------------------------------


      \" แฮ่ก......ๆ  \" รัฐมนตรี รีบหนีขึ้นมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว จนคนขับแปลกใจ \" อ้าวทำไมกลับมา.. \"
      ยังไม่ทันพูดจบ สมมฤธิ์ก็ตะโกนเสียงดัง \" ออกรถ กลับไปที่แก๊งเร็ว!! \"

      คนขับตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเหยียบคันเร่งแล้วออกรถไปบนถนนอัน เปล่าเปลี่ยวแห่งนี้
      \" นี้มันบ้าชัดๆ คนอะไรว่ะโดนกระสุนแล้วยังไม่ตาย... \" เขาหยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อ กับฝุ่นที่ติดอยู่ตามหน้า

      \"เอาเถอะ... โดนระเบิดนั้นไปคงไม่รอดอยู่ดีนั้นหละ\" เขาพูดเป็นเชิงปลอบใจตัวเอง ก่อนจะเอนหลังลงไปเบาะอย่างสบายใจ

      เขาหยุดพักหายใจอยู่พักใหญ่ ทำใจให้สงบลงอย่างช้าๆ  บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไรแล้ว นี้ก็หนีออกมาซักพักแล้วด้วย ยังไม่มีวี่แววใครตามมาเลยด้วยซ้ำไป
      เขาพักแล้วรับลมแอร์อย่างสบายใจ อากาศเย็นๆทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ดูเหมือนตัวเขาจะปลอดภัยแล้ว แต่เขาก็สังเกตุเห็นบางอย่างในกระจกหลัง

      ร่างของเงาหนึ่งกำลังวิ่งตามรถมา เขาขยี้ตารอบหนึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีคนวิ่งด้วยความเร็ว 70กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ หรือเท่ากับรถได้
      แต่นั้นไม่ใช่ภาพลวงตา มีคนวิ่งตามพวกเขามาจริงๆด้วย เป็นร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลจนออกส้มเลย และคราวนี้เขาผูกผ้าคาดหัวสีน้ำเงินเข้ม มันเป็นเศษผ้าจาก ร่างของเด็กสาวที่ตายไปแล้วนั้นเอง

      \" เฮ้ย!! \" เขาตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะมองอีกครั้ง มันเป็นเขาจริงๆด้วย!!  เขาสั่งคนขับในทันได \" เร่งเร็วกว่านี้อีก!! \"

      แล้วเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อสาย เป็นการเร่งด่วน ซึ่งมีคนรับในไม่ช้า  \" ครับ?? \"

      \" รีบให้ทุกคนในแก๊ง เตรียมอาวุธให้พร้อมมือ!! ไปรอที่โรงงาน!! ชั้นถูกไล่ตาม นี้เป็นคำสั่ง!! \"

      เสียงในโทรศัพท์ตอบรับ \" ครับ!! \" แล้วก็ตัดสายไปทันที  ตอนนี้รถคันนี้วิ่งด้วยความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่ว่า เด็กหนุ่มยังไม่มีทีท่าว่าจะ ไล่ไม่ทัน เขากลับค่อยๆ ไล่กระชั้นชิดขึ้นมาเรื่อยๆ เสียอีก

      \" เลี้ยว ซ้ายเร็ว!! \" เขาสั่งคนขับ และรถก็เลี้ยวไปทางซ้ายตรงไปในโรงงานร้างแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลมากนัก

      เด็กหนุ่มไล่เข้ามากระชั้น เข้ามาเรื่อยๆ คว้าดาบเล่มสีฟ้าจากด้านหลังขึ้นมาแล้ว ตอนนี้เขาวิ่งเข้าไปเทียบข้างๆรถได้แล้ว
      เขาลงมือสะบัดดาบออกไป แต่รถคันดังกล่าวก็ ขับหลบได้อย่างเฉียวฉิวนอกจากนั้นยัง เบี่ยงกลับมาเบียดทำให้ความเร็วของ ซีโร่ลดลงไปอีก

      ในที่สุดรถคันดังกล่าวก็วิ่งเข้าไปในโรงงานก่อนในที่สุด แล้วเด็กหนุ่มก็ตามไปติดๆ

      แต่สิ่งที่รอเขาอยู่นั้นก็คือ คนที่ยืนล้อมรอบตัวเขาจำนวนไม่ต่ำว่า สามร้อยพร้อมอาวุธครบมือ  เด็กหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ พบว่านาย สมมฤธิ์ ยังคงเดินอาดๆ หนีไปหลบหลังลูกน้องของเขา

      \" เอามันเลย!!! \" สิ้นเสียงของรัฐมนตรี พวกเขาระดมกราดกระสุนใสเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงิน ไม่ยั้ง แต่ว่า ไม่มีนัดใดเลยที่เข้าเป้า
      ร่างของเขาหลบกระสุนได้อย่างว่องไวและปราดเปรียว เขาพุ่งตรงเข้าไปหาคู่ต่อสู้ แล้วสะบัดดาบอย่างบ้าคลั่ง

      \" ถอย \"


      [SIZE=7]      \" ไป!!\"[/SIZE]
      คนแล้วคนเล่าถูกสังเวยด้วยดาบคริสตัลสีฟ้า ขาดเป็นท่อนๆ ทุกครั้งเมื่อสะบัดดาบ ต้องมีคนตายอย่างน้อย 3 คน
      เมื่อเห็นว่า กระสุนธรรมดาหยุดเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ได้ แน่ ชายกลุ่มหนึ่งก็ขับรถถังมา พร้อมกับจรวดมิสไซด์ อย่างน้อย 12 ลูก
      \" ดูซิว่าแกจะแน่ซักแค่ไหน!! \" มิสไซด์ ทั้งหมด พุ่งตรงเข้ามาใส่เด็กหนุ่ม
      ระเบิดตูมใหญ่ กวาดคนให้ลอยไป บางคนที่โชคไม่ดีอยู่ในรัศมีการโจมตีย่อมตายไปด้วย  นอกจากนี้ กำแพงของโรงงานกระจุยไปข้างนึงเลยทีเดียว คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใคร เหลือรอดจากการระเบิดครั้งนี้

      \" ธ่อ เอ๋ย พระเอกแค่ไหนก็ต้องจอด หว่ะ วูปี้~~ \" คนในรถส่งเสียงเฮลั่น ประหนึ่งว่าตนเองเป็นวีรบุรุษเลย


      \" .......วูบ..... \"  ฝุ่นควันเริ่มจางลง เสียงเฮก็เงียบลงไปตามกันเรื่อยๆ ยิ่งฝุ่นเหลือน้อยเท่าไหรยิ่งไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น
      ในฝุ่นที่จางลงนั้นมีร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินยืน ถือดาบนิ่ง ราวกับว่าระเบิดพวกนั้นไม่ได้ทำร้ายเขาเลยแม้แต่น้อย

      เขาสะบัดดาบขึ้นมาตั้งท่า แววตาเขาจ้องมองไปยังคู่ต่อสู้ทุกคนที่อยู่เบื้องหน้า ราวกับเทพอสูรที่กำลังจะพิพากษาโทษ
      \" .........................ผู้ที่ไม่รักชีวิตขอให้อยู่เป็นเหยื่อสังเวยให้กับ ดาบแห่งท้องฟ้า \" โซระเล่มนี้ \" และ ผู้ที่รักชีวิตก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกไปที่นี้ \"

      \" เด็ดขาด \" เขาย้ำคำอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะย่างเท้าเขาไปอย่างช้าๆ  ไม่มีใครกล้าจะขยับตัวเลยแม้แต่น้อย

      ทีละก้าว ทีละก้าวอย่างช้าๆ ทุกคนยืนสั่น และเมื่อร่างของเด็กหนุ่มเดินเข้ามาพวกเขาก็ต้องเปิดทางให้

      \" มัวทำอะไรอยู่ยิงมันเซ้!! \" สมมฤธิ์คว้าปืนจากลูกน้องเขาคนนึง แล้วกราดใส่ร่างของเด็กหนุ่มอย่างแม่นยำ

      แต่เด็กหนุ่มไม่หยุดเดิน... กระสุนเหล่านั้นพุ่งเข้าใส่ร่างของเขา แต่มันกลับเด้งออก ไม่ทะลวงร่างเหมือนดั่งปกติ
      ถึงอย่างนั้นก็ตาม เขาก็ยังคงยิงไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งหมดแม็ก แล้ว ร่างของเด็กหนุ่มก็ยังไม่เป็นไร

      ร่างของเขาหยุดนิ่งต่อหน้า รัฐมนตรีที่สั่นแล้วสั่นอีก เขาหยิบแม็กกระสุดมาอีก แล้วยิงใส่เด็กหนุ่มแบบเผาขน

      \" โป้ง!!!!!! \" กระสุนทะลวงเข้ากลางหน้าผากของเด็กหนุ่ม จนล้มไป

      แต่เขาก็ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ พร้อมกับกระสุนที่อยู่กลางหน้าผาที่ค่อยๆ เด้งออกมาจากร่างของเขา บาดแผลเริ่มสมานตัวราวกับไม่เคยมีกระสุนนัดใดยิงเข้าไปที่นั้นเลย

      \" ฝากไปบอก วารีในนรกด้วยนะ \" เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมกับยกดาบขึ้นเหนือหัวแล้วพูดกับเหยื่อยสังเวยของคมดาบของเขาด้วยรอยยิ้มเฝื่อนๆ

      \" ไอสครีมของ เซเว่นเซนด์ในวันนี้อร่อยมากเลยนะ \"  

      ^ ^


      \" ฉัวะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! \"

      l - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  - + - l  


      ที่วัดธาตุทอง... เขตเอกมัย

      ที่ศาลาแห่งหนึ่งมีคนแต่งกายชุด ขาวดำเป็นหลัก เขามาในงานและ กำลังเริ่มพิธีรดน้ำศพ อย่างเงียบๆ
      แต่ในกลุ่มแขกบางคนก็มีคุยกันด้วยเสียงกระซิบกันบ้าง

      \" น่าสงสารจังเนอะ ข่มขื่นก่อน แล้วค่อยฆ่า ท่าทางของคงถูกทรมารด้วยหละ...... \" แขกคนนึงพูดแบบกระซิบเบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
      \" อื้ม...... โชคไม่ดีเลยเนอะ แต่ถึงอย่างนั้นคนที่จับเธอไปเป็น ถึงรัฐมนตรีเลยนะ แต่ว่า เขาก็ตายด้วยสภาพที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้สะอีก \"

      \" ใช่ๆ เธอก็ดูข่าวเมื่อวานด้วยใช่ไหม ร่างของเขาถูกตัดเป็น สองท่อนผ่าเข้าตรงกลางหัวพอดีเลย \"

      \" อย่าพูดซิ..... แต่มันคงเป็นกรรมสนองแหละเนอะ ว่าไหม??  \"

      \" คงอย่างงั้นหละ \"  

      บรืน ...  ในงานศพนี้นั้นเอง มีมอร์เตอร์ไซด์คนนึง ขับเข้ามาในตัววัดอย่างช้าๆ มีคนซ้อนอยู่สองคน คนที่อยู่งข้างหลังลงมาแล้วยกพวงหลีดอันใหญ่เข้าไปในศาลา อย่างช้าๆ

      เจ้าภาพงานนี้ เดินออกมาต้อนรับแล้วหาที่วางพวงหลีดสีเหลืออร่ามที่ปักด้วยดอกลินลี่สีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงสีเขียวจากใบเฟิร์น เล็กๆแซมมาไว้เท่านั้น

      \" ขอบคุณมากนะค่ะที่จัดพวงหลีนี้ให้ มันสวยมากเลยค่ะ ไม่ทราบว่ามาจากใครเหรอค่ะ?? \" เจ้าภาพถาม คนที่แบกพวงหลีดมาให้

      \" อ้อ.. เห็นเขาบอกว่าเป็นเพื่อนของเธอนะฮะ \" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบ พลางหันไปมองรูปขาวดำที่มีหน้าของเด็กสาวที่ยิ้มแย้มอยู่

      เด็กหนุ่มหันไปคุยกับเจ้าภาพอย่างไม่ค่อยเกรงใจเท่าไหร \" ท่าทางเธอเป็นเด็กที่ร่าเริงนะ \"

      \"  อื้ม......ค่ะ \"

      \" เออ... \" เด็กหนุ่มลังเลเล็กน้อยก่อนจะถามเจ้าภาพ \" ขอผมรดน้ำศพเธอจะได้ไหมฮะ \"

      \" อ๊ะ..... เอาสิค่ะ??? \"  เจ้าภาพตอบรับด้วยความประหลาดใจ แล้วเด็กหนุ่มก็เดินไปที่ศพเธอ
      เขาบรรจงเอาน้ำเทลงผ่านมือของเธอไปอย่าช้าๆ แล้วคุยกับร่างอันไร้วิญญาณของเธอ

      \" นี้ \"
      \" จำดอกไม้พวกนี้ได้ไหม \"
        \" ดอกลินลี่ที่เธอเคยช่วยฉันจัด..... มันสวยมากเลยหละ...................  \"


      End

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×