เงาในเงามืด
เรื่องความจริงสะท้อนความจริง เงามืดที่พยายามออกสู่แสงสว่าง และอีกด้านมุม ที่สังคมยอมรับว่า เป็นสิ่งดี แต่ที่แท้จริงกลับซ่อนเงามืดเอาไว้ข้างใน
ผู้เข้าชมรวม
49
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ใคร ๆ ก็คงอยากจะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง”
นั่นคงเป็นสิ่งที่หลายคนอยากจะได้รับในสังคม เขาว่ากันว่า “เกียรติ สำคัญกว่าทุกสิ่ง”
“ราม” เด็กหนุ่มผู้ชาย อายุเพิ่ง 23 ปีเท่านั้น เป็นพนักงานขับรถส่งของ แม้เขาจะเรียนจบระดับปริญญาตรีด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยม แต่ด้วยโชคชะตาหรืออะไรไม่ทราบ ทำให้เขาต้องมาทำงานนี้
“ตั้งใจเรียนนะลูก จะได้เป็นเจ้าคนนายคน”
มันเป็นคำสอนที่ได้ฟังมาตอนเด็ก ๆ และเขาก็ยึดมั่นในคำสอนนั้นมาเสมอ แต่ว่า ในปัจจุบันมันไม่มีอะไรที่เที่ยงตรงขนาดนั้น ถ้าไม่มีเส้นสาย ก็ยากจะได้ทำงานเป็นเจ้านายคน ในสังคมของเขานั้น กลับต้องใช้คำสอนเสียใหม่ นั่นก็คือ
“ค่าของคน อยู่ที่เป็นคนของใคร”
คงเพราะว่า ถ้าเราวัดกันด้วยความสามารถล้วน ๆ ล่ะก็ เราอาจจะชนะ แต่ว่า มันไม่ได้ดูแค่ความสามารถอย่างเดียว เขาดูด้วยว่า ถ้าทำงานกับเขาแล้วมันจะเกิดความสบายใจมั้ย ในเมื่อเขาเป็นพรรคพวกกัน มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ใครจะได้งาน
สำหรับรามแล้ว เขาต้องการเป็นที่ยอมรับของคน และต้องการมีเงินที่มากพอ เพราะโลกทุกวันนี้ มีเพียงอำนาจเงินและพรรคพวกเท่านั้นที่จะถูกยอมรับ
วันนี้ ราม ได้รับงานพิเศษจากเฮียโชค ให้ไปส่งของที่ต่างจังหวัด แต่วันนี้มันพิเศษกว่าที่เคยขับ เพราะเฮียโชคขอให้ขับไปส่งตอนกลางคืนในเส้นทางที่กำหนดให้ ราม เองก็ตอบรับคำอย่างมืออาชีพ และเริ่มศึกษาเส้นทางที่ได้รับมา
เฮียให้ลูกน้องขนสิ่งของขึ้นรถ เป็นลังกระดาษซึ่งถูกบรรจุไว้อย่างแน่นหนา และมีสติ๊กเกอร์ติดเอาไว้ว่า “ระวังแตก” ผมกำลังมองดูลูกน้องของเฮียขนลังกระดาษที่ว่านั้น พร้อมกับตรวจสอบจำนวนมันว่า ตรงตามที่ลูกค้าต้องการหรือไม่ รถของผมก็เริ่มยุบตัวลงตามน้ำหนักที่ถูกบรรทุก ไม่นานนัก ลังกระดาษทั้งหมดก็ถูกขนใส่รถของผมจนหมด ลูกน้องของเฮียเดินมา ยื่นกระดาษที่จดยอดจำนวนสินค้า และบอกเฮียโชคว่า
“เรียบร้อยเฮีย”
เฮียโชคพยักหน้า พร้อมกับดูกระดาษใบนั้น จากนั้นก็บอกให้ลูกน้องกลับไป และหันมาคุยกับผม บอกผมว่า ขอให้ออกตรงเวลา อย่าได้จอดแวะที่ไหน เดี๋ยวเฮียขอจดอะไรให้แป๊บนึง
ว่าแล้วเฮียก็หันหลังไปที่ข้างรถของผม พลางจดข้อความอะไรบางอย่างลงบนด้านหลังของกระดาษแผ่นนั้น ผมก็มองดูรถของผม ด้านหลังมันยุบลงเล็กน้อย คงไม่ได้หนักมากนัก ก็ดีนะ ถ้าน้ำหนักมาก รถก็ต้องใช้แรงมาก กินน้ำมันเยอะขึ้น แถมยังมีเส้นทางลัด ทำให้ถึงที่หมายเร็วขึ้น ดีจริงๆ
เฮียหันกลับมาหาผมพร้อมกับกระดาษแผ่นนั้นและซองสีขาว 1 ซอง ถ้าผมเดาไม่ผิด นั่นคงเป็น เงินสินะ แต่กระดาษแผ่นนั้นมันอะไรกัน ทำไมเฮียต้องเอามาให้ผมด้วยล่ะ
“นี่เป็นรายละเอียดที่ต้องทำระหว่างขับรถไปส่งของ อย่าให้ผิดพลาดล่ะ และนี่คือค่าจ้างของเอ็ง”
ผมหยิบกระดาษและซองจากมือของเฮีย ทั้งสองอย่างนี้มันน่าสนใจทั้งสองอย่างเลย ทั้งซอง ที่มันดูหนากว่าปกติ และกระดาษแผ่นนั้น ที่มีลายมือของเฮียเขียนไว้อยู่ด้านหลัง ผมพลิกกระดาษแผ่นนั้นมาอ่าน เนื้อหาใจความข้างในมีดังนี้
“ขอให้ทำตามทุกสิ่งที่เฮียเขียนให้อย่าให้พลาดนะ แล้วก็อย่าสงสัยกับของที่อยู่ท้ายรถ”
พอผมอ่านมาถึงตรงนี้ ทำให้ผมเงยมองหน้าเฮียอย่างสงสัย แต่ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่สายตาของเฮีย กำลังจ้องมาที่ผมและกลอกตาลงที่กระดาษ ราวกับว่า “มึงอ่านให้จบก่อน” ผมจึงทำตามนั้น ก้มหน้าไปอ่านกระดาษแผ่นนั้นอีกครั้ง
“ที่เอ็งได้งานนี้ เพราะคนขับประจำ มันโดนตำรวจจับ โอกาสนี้เลยเป็นของเอ็ง ขอให้ขับรถเดินทางไปในเส้นทางที่กำหนด เริ่มออกเวลา 2200 ระหว่างทางให้สังเกตวัดที่อยู่ด้านซ้ายมือ ถ้าเจอวัดแล้ว ให้จอดและเอากระดาษแแผ่นนี้โยนตรงแอ่งน้ำข้างประตูวัด จากนั้นก็ให้พูดว่า “สมน้ำหน้า ไม่น่าตายโหงตายห่าเลย” และขัับต่อไปตามปกติ ทำทุกอย่างตามปกติ พอถึงที่หมาย ให้รอเอากระดาษอีกแผ่นจากลูกค้า"
ราม อ่านจบ รู้สึกสงสัย เฮ้ย ทำไมต้องไปพูดอะไรแบบนั้นข้างวัด พูดพล่อย ๆ เดี๋ยวก็โดนดีหรอก ทำไมต้องไปจอดตรงข้างวัดด้วยล่ะ มันมีอะไรหนอ หรือว่าจะเป็นผี
“ตามนั้นนะ ขับรถดีดีล่ะ”
เฮียโชคกล่าวอวยพรกับ ราม แต่ ราม คิดในใจว่า ยังอุตส่าห์อวยพรเนาะ แบบนี้จะไปมีสมาธิขับรถได้ยังไงกัน โธ่ ไอ้เฮีย แต่มันก็ไม่มีทางเลือก ยังไงก็คงต้องไป
ราม เริ่มสตาร์ทรถ ตั้ง GPS เป้าหมายเดินทาง พร้อมกับค่อยๆ ใส่เกียร์ และขับออกจากโกดังของเฮียโชคอย่างช้า ๆ พร้อมกับความหวาดระแวง
“อยู่ดีดี ให้ไปทำอะไรแบบนั้น จะแกล้งกันรึยังไง”
ราม ขับรถออกไปเรื่อยๆ เขาเปิดยูทูปในช่องที่เขาชื่นชอบ ในตอนกลางคืน สิ่งที่จะทำให้รู้สึกดีและไม่ง่วงระหว่างขับรถ ก็คงมีแต่เรื่องผีนี่แหละนะ รามกดไปที่เรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “กฏแปลกๆ ของพนักงานส่งของ" เขาก็ฟังมันไปเรื่อย ๆ เรื่องราวมันช่างคล้ายกับเขาในตอนนี้เลย
“ระหว่างนั้น ผมกำลังอ่านกฏในกระดาษที่ได้รับมา นี่มันบ้าอะไรกันวะ ทำไมผมต้องทำตามด้วย มันไร้สาระมากๆ”
นั่นเป็นเสียงที่อยู่ในคลิปยูทูปที่ถูกเปิดฟัง เรื่องราวประมาณว่า มีชายหนุ่มคนนึงกำลังขับรถส่งของ พร้อมกับมีกฏแปลกๆ ที่ต้องทำตาม ถ้าไม่ทำ อาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับมา และตัวละครในคลิปนั้นก็ฝ่าฝืนกฏ โดยการไม่ทำตาม เพราะเห็นว่ามันไร้สาระสุดๆ แต่ว่า เพราะการที่ละเลยนั่นแหละ ทำให้ตัวละครคนนั้น ต้องเสียชีวิตเพราะทำผิดกฏ
“คนแต่งเรื่องนี่ก็ จินตนาการเยอะไปมั้ง”
ราม บ่นขึ้นมาในระหว่างขับรถ เขารู้สึกว่า คลิปแนวกฏหลอน ๆ มันก็สนุกดี แต่บางทีมันดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย มีแต่อะไรไม่รู้ บ้าๆ บอๆ เหมือนกับกฏในกระดาษที่เฮียโชคเขียนให้กับเรานี่แหละ
ไม่นานนัก ราม ก็ขับรถมาเจอวัดตามที่เฮียโชคบอก นี่คงจะใช่แหละ ตามในกระดาษเป๊ะ เขาก็รู้สึกว่า ทำไปเถอะ คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง ผีไม่มีจริงอยู่แล้ว ไม่แน่ว่า อาจเป็นการทดสอบของเฮียโชคก็ได้ เพราะเขาเพิ่งได้รับงานนี้ แถมเงินก็ดี เฮียโชคคงให้ลูกน้องมาดักรอดูว่า เขาจะทำตามคำสั่งรึเปล่า ใช่แล้ว มันต้องใช่แน่ๆ การทดสอบไง ถ้าเขาผ่านการทดสอบได้ เขาก็จะได้งานประจำ แถมดูสิ ค่าจ้างเยอะขนาดนี้ มันก็คุ้มค่าแรง กะอีแค่ พูดตามในกระดาษ มันไม่ยากหรอก
ว่าแล้ว ราม ก็จอดรถ และเริ่มหยิบกระดาษแผ่นนั้น มองซ้ายมองขวา มองหารถ มองหาคน แต่บริเวณนั้นกลับไม่มีใครเลย แต่แล้ว นั่นไง คน มีคนเดินออกมาจากประตูวัด
“ไอ้หนุ่ม เอ็งมาทำอะไรตรงนี้วะ”
ชายชราอายุประมาณ 70 ปี กำลังเดินออกมาพร้อมกับไฟฉาย และอุปกรณ์หาปลา เดินออกมาจากวัดตรงนั้น รามเห็นชายชรา ก็คิดในใจว่า คนนี้แหละมั้ง ที่เป็นลูกน้องของเฮีย แหม่ เนียนมาก ปลอมตัวมาดูเราเลยเหรอว่าเราจะทำตามในกระดาษหรือเปล่า
“ผมมาทำตามคำสั่งของเจ้านายน่ะครับลุง”
ราม ยิ้ม พร้อมกับเอากระดาษแผ่นนั้นมาขยำ ม้วน ๆ และปามันลงไปแอ่งน้ำ จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงดังเลยว่า
“สมน้ำหน้า ไม่น่าตายโหงตายห่าเลย”
ราม ยิ้ม และสบตาไปที่ชายชรา แต่ชายชรากลับทำหน้าตกใจ
“เฮ้ย เอ็งพูดอะไรแบบนั้นวะไอ้หนุ่ม ตรงนี้มันเขตวัดนะเว้ย”
ราม ยิ้ม และคิดในใจว่า แหม่ ทำเนียน ลุงก็แค่คนมาดูว่าผมจะทำตามรึเปล่าล่ะสิ แต่เอาเถอะ เล่นไปตามน้ำ
“ก็เจ้านายผมเขาสั่งมาแบบนี้ครับ”
ชายชราส่ายหน้า และบอกกับ ราม ว่า
“ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน อย่าให้มาปะปนกันดีกว่า ยังไงก็ ขอให้โชคดี แต่กูขอเตือนว่า อย่าได้ค้นหา หรือรับรู้ การมีอยู่ของผีเหล่านั้นเลย เดี๋ยวเอ็งจะลำบาก ปล่อยให้ต่างคนต่างอยู่ ดีกว่า”
ว่าแล้ว ชายชราคนนั้นก็เดินจากไป ส่วน ราม นั้นก็คิดว่า เรียบร้อย จบภารกิจแรก ลุงคนนั้น คงจะแอบไปโทรศัพท์บอกเฮียโชคแน่นอน
ราม ไม่ได้คิดว่า ตนโดนหลอกให้ทำอะไรแปลก ๆ แต่กลับคิดว่า มันก็แค่การทดสอบของเฮียโชคเท่านั้น มันจะมีใครบ้าให้เรามาพูดอะไรแบบนี้ตรงหน้าวัด นอกจากจะทดสอบเรา เสียงน้าค่อมลอยมาในหัวเลย
“เฮอะ!!! ไม่ได้แดกกูหรอก”
ราม หัวเราะลั่นในความฉลาดของตัวเอง (คิดว่าตัวเองฉลาด) และขับรถไปเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงคลิปในยูทูปที่กำลังคลอไปกับการเดินทางที่เงียบสงบ ไม่มีรถสวนมาเลยแม้แต่คันเดียว ถนนลาดยางแบบสวนเลน พร้อมกับป่ากล้วยข้างทางที่รายล้อม
เมื่อคลิปวิดีโอจบลง ราม ก็ฟังจบ และสรุปเรื่องที่ได้ฟังมาจากยูทูป เรื่องเกี่ยวกับคนส่งของและไปเจอกฏหลอน ๆ นั้น
“เฮ้อ เรื่องแต่งก็คือเรื่องแต่ง ไม่เห็นน่ากลัวเลยสักนิด”
“จริงงง ด้วยยยย นี่มันเรื่องงง ขี้ โม้~”
ราม กลับได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ใครกันมาพูดกับเขา มันไม่น่าจะใช่เสียงในยูทูป ก็เขาอยู่คนเดียวนี่นา แล้วใครกัน รามใช้หางตาหันไปทางซ้าย ปรากฎว่า เขาเห็น ใช่แล้ว เขาเห็น เขาตาไม่ฝาด ตรงเบาะโดยสารนั้น มันมีคนนั่งอยู่ เป็นผู้ชาย แต่ แต่ แต่ แต่ มันต้องไม่ใช่คนแน่ๆ เพราะใบหน้าที่บิดเบี้ยว คราบของเหลวที่ไหลออกมาไม่หยุด กับเสื้อผ้าที่ขาดกระจุยแบบนั้น ใช่แล้วล่ะ มันต้องไม่ใช่คน แต่มันมาได้ยังไงกัน หรือว่าตอนนั้น
“(สมน้ำหน้า ไม่น่าตายโหงตายห่าเลย)”
ใช่แล้ว คำพูดนั้น มันไม่ใช่แค่ เรื่องทดสอบ แต่นั่นคือสิ่งที่เขาพูด พอเขาพูด ก็เลยมีวิญญาณติดมากับรถด้วย เอาไงดี ไม่นะ ไม่ เขาจะทำยังไง จะบอกตรง ๆ ว่า ขอโทษครับ ช่วยลงจากรถผมเถอะครับ มันคงไม่ใช่ ขืนเขาบอกไปว่า เขามองเห็น มันคงจะทำให้เรื่องไม่จบง่าย ๆ แน่ เอาไงดี เอาไงดี
“เฮ้ยยย เปลี่ยนนน เรื่องงง ฟังงงง หน่อยยยย เรื่องงง ที่ แล้ววว ม่ายยย เห็นนน จะะะ น่าาา กลัววว เลยยย”
ได้ยินอีกแล้ว รามได้ยินอีกแล้ว มันพูด ใช่แล้ว ผีมันพูด มันบอกให้เราเปลี่ยนเรื่องฟัง ไอ้ผีนี่ มันจะเอาแต่ใจเกินไปนะ ลำพังแค่รู้การมีอยู่ของมัน เขาก็กลัวจะแย่แล้ว แต่เขาจะทำให้มันรู้ว่า เขาเห็นมัน ก็ไม่ควรทำ
งั้น เขาต้องเมินมัน
และแล้ว ราม ก็ตั้งใจทำเป็นไม่เห็น และบ่นไปว่า
“เฮ้อ สงสัยต้องเปลี่ยนไปฟังเพลงแล้วมั้ง”
ราม กดไปที่โทรศัพท์ที่ต่อบลูทูธ เปลี่ยนไปฟังเพลงแทน แต่แล้ว เจ้าผีนั้น กลับรู้สึกไม่พอใจ
“เฮ้ยยยย กู จะะ ฟังง เรื่องงง ผี มึงงง ด้ายย ยินนน กู มั้ยยย?”
แต่ ราม กลับทำเป็นไม่ได้ยิน ทำใจดี ฟังเพลงสบายใจ แม้ว่า มือที่ขับรถนั้น จะจิกพวงมาลัยแทบทะลุ หัวใจที่เต้นดังกว่าเสียงกลองของเพลงที่ฟังซะอีก และสายตาที่จดจ่อ กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะมองไปด้านข้าง
“ไม่ น่าาา เชื่ออออ ไอ้ นี่ มันน ไม่ เห็นน เราาา อย่างงง นั้นนน เหรออออ เป็นน ไป ไม่ ด้ายยย ทุกก ที ใครร ที่ พูดดด สมม น้ำ หน้าาา เราา มันน ต้องงง เห็นนน นี่ หว่าา”
ราม ตกใจ สุดขีด รวบรวมเรื่องราวทั้งหมด ที่ได้ยินมา งั้นหมายความว่า มันต้องมีคนเคยพูดแบบนี้ แหละมีผีติดมาด้วย งั้นก็หมายความว่า ไอ้เฮียโชค มันรู้เรื่องนี้ และให้เขาทำตาม บ้าเอ้ย นี่มันอะไรกัน แต่ตอนนี้ คงต้องทำให้ ไอ้ผีตัวนี้ มันคิดว่า เขามองไม่เห็นมัน
“เพลงเพราะดีว่ะ ร้องตามเลยละกัน”
รามตัดสินใจร้องเพลง เพื่อกลบความกลัว เพราะถ้าเงียบล่ะก็ เขาอาจจะเผลอไปคุยกับผีโดยไม่รู้ตัว ราม เร่งเสียงให้ดังขึ้น และร้องเพลงไปด้วย เขาเริ่มใจสงบลงแล้ว เขาสามารถลดอาการสั่นลงไปได้มาก แต่ก็ยังกลัวอยู่
“เฮ้ยยย ไอ้ หนุ่มมม ข้าาา ขอออ เพลงงง ของงง ไหมม ไทยย หัวว ใจ สิงห์”
ไม่เป็นผล ราม ได้ยิน แต่เขามีสมาธิมากพอ ที่จะควบคุมตัวเอง ที่จะไม่สนใจเสียงของผีตัวนั้นแม่แต่น้อย แต่ว่า ยังไง ไอ้ผีตัวนั้น ก็ยังไม่หายไปไหน มันยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น แต่ยังไงก็ไม่รู้ล่ะ เฮียโชคนะ เฮียโชค ช่างกล้า ท้าให้เขาทำอะไรแบบนั้น
ระหว่างทางนั้น ราม เห็นไฟสีแดงและสีน้ำเงิน สลับไปมาอยู่ตรงหน้า เฮ้ย นั่นมันด่านตรวจ ด่านตำรวจนี่นา เขาเห็นแบบนั้น เขาก็ชะลอรถ และจอดนิ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เดินมาใกล้กับรถ พร้อมกับส่องไฟฉายไปมา
ราม จึงลดกระจกลงเล็กน้อย พอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมองเห็นเขา เขาไม่ไว้ใจ ในที่เปลี่ยวแบบนี้ ไม่รู้หรอกว่า ตำรวจจริงหรือปลอม แต่ถ้ายอมไปทั้งหมด อาจจะทำให้เขาได้รับอันตรายได้
“สวัสดีครับ ผม จ่าขม คุณ กำลังจะไปไหน…”
เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดยังไม่ทันจบ เขากลับหยุดพูด และมองไปยังเบาะผู้โดยสาร และมองไปที่ ราม
“เอ่อ คุณมากับใครครับ ขอดูบัตรประชาชนด้วย”
ราม ได้ยินแบบนั้น ก็รีบพูดสวนกลับไปทันที
“ผะ ผมมาคนเดียวครับ นี่ครับบัตรผม”
จ่าขม ได้ยินก็รีบพูดทันที
“แน่ใจนะครับ”
ราม ได้ยินแล้ว ก็แทบจะกัดฟัน ไอ้จ่าขม นี่มึงซื่อหรือยังไงเนี่ย จะมาสนใจอะไรขนาดนั้น ยิ่งไม่อยากพูดถึงผีอยู่
“จริงครับ คุณตำรวจ ผมน่ะมาคนเดียวจริง ๆ”
จ่าขม ก็รู็สึกเสียวสันหลังวาบ เย็นไปทั้งตัว ก็เลยพูดไปแบบปากสั่น ๆ กับราม
“งั้น ก็ ไปต่อได้เลยครับ ขอให้เดินทางปลอดภัย”
ราม ได้ยินแบบนั้น ก็ถอนหายใจ และกล่าวขอบคุณ เขาค่อย ๆ เลื่อนกระจกขึ้น ใส่เกียร์ และเดินทางต่อ ขับรถออกจากตรงนั้น เขามองไปที่กระจกข้างฝั่งผู้โดยสาร เขาเห็น จ่าตำรวจคนนั้น กำลังยืนเกาหัว และเอามือทั้งสองข้างตบหน้าตัวเอง สงสัยว่า จ่าตำรวจคนนั้นคงเห็นไอ้ผีตัวนี้เต็มๆ
“ตำรวจเมื่อกี้ มันยังเห็นข้า ทำไมแกไม่เห็นวะ??” (ขอพิมพ์ธรรมดาเพื่อจะได้อ่านง่าย ๆ นะขอรับ)
ราม ได้ยินผีมันบ่น เขาได้ยินเต็ม ๆ เขารู้สึกว่า ผีตนนี้ กำลังสงสัยเขา มันเกิดอะไรขึ้น
“หรือว่า แก น่ะ เห็นข้า แต่ แกล้งทำเป็นไม่เห็น”
ราม ได้ยินแบบนั้น ก็ใจหายแว๊บ เขาหนาวไปทั้งตัว มือที่จับพวงมาลัย ยิ่งกำแน่นกว่าเดิมอีก เขาจะทำอย่างไร เขาควรยอมรับความจริง หรือใจแข็งต่อไป และเขาก็ตัดสินใจจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นต่อไป
“เฮ้ย ฉันน่ะ ไม่อยากต้องพูดคนเดียวแบบนี้นะเว้ย”
ผีตนนั้น เริ่มบ่น มันคงอยากจะคุยกับ ราม มากๆ แต่กลับกัน ราม ไม่อยากจะคุยด้วยแม้แต่น้อย รามยังคงตั้งใจขับรถต่อไป จนกระทั่งถึงที่หมาย มันคือโกดังแห่งนึง ที่อยู่นอกเมือง
ราม จอดรถ และเห็นว่า มีแสงไฟฉายกำลังสาดส่องมาที่เขา และทำสัญญาณโบก ให้เขาขับเข้าไปหา เขาก็ทำตามโดยขับรถเข้าไป และจอดรถ เขาลงจากรถ โดยมีผีตนนั้น ที่ยังคงนั่งอยู่ที่เบาะเช่นเดิม
“เฮ้ย ที่นี่อีกแล้วเหรอ”
ผีตนนั้น เริ่มพูดขึ้นมา ราวกับว่า มันเคยอยู่ที่นี่มาก่อน
ส่วนราม เดินไปที่ ผู้ชายคนหนึ่ง เขาดูเหมือนกับเป็นหัวหน้าที่นี่ เขาเดินมาหา ราม และมาพูดคุยกับเขา
“เป็นไงบ้าง ทุกอย่างโอเคใช่มั้ย เจออะไรรึเปล่า?”
ราม คิด ว่า จะตอบยังไงดี คงจะเล่าทั้งหมดไม่ได้
“ผมเจอด่านตำรวจครับ มีแค่นั้น”
ผู้ชายคนนั้นยิ้ม และหันมาพูดกับเขา
“ข้าชื่อ เสือ นะ ชื่อ ราม ใช่มั้ย เฮียโชค โทรมาบอกแล้วว่า วันนี้มีคนส่งของคนใหม่ ใช้ได้นี่นา”
ในระหว่างที่ ลูกน้องของเฮียเสือ กำลังยกของอยู่ เขาก็หยิบกระเป๋าเงิน และหยิบธนบัตร 1000 บาท ให้กับ ราม และบอกว่า นี่เป็น ทิป
ราม รับเงินมาอย่าง งง ๆ แต่ก็ไม่อยากถามอะไรมาก เพราะเขายังคงสนใจกับ ผีตนนั้น ที่ยังคงนั่งอยู่บนรถของเขา
เมื่อของถูกยกลงจนหมด ราม ก็บอกลากับ เฮียเสือ และขึ้นรถกำลังจะออกจากที่นี่ แต่ จะเอายังไงดี ไอ้ผีตัวนี้ก็ยังคงไม่ไปไหน
“แค่มีใครซักคน แผ่เมตตาให้ข้า เดี๋ยวข้าก็จะกลับไปอยู่ที่เดิมเอง แต่คงไม่มีหวังล่ะมั้ง เพราะแกไม่ได้ยินข้าเลย ข้าคงจะต้องนั่งรถกลับไปกับแก”
ผีตนนั้น บ่นขึ้นมา กับใบหน้าที่ผิดหวัง บาดแผลและสารคัดหลั่งนั้น ค่อย ๆ หายไป เสื้อผ้าที่ขาดและเก่า กำลังกลับกลายเป็นชุดใหม่ที่สะอาด สภาพของผีตนนั้น กำลังกลับไปเป็นเหมือนตอนก่อนตาย ราม ที่ได้เห็นก็รู้สึก สงสารและเวทนา แต่จะบอกว่า มองเห็นก็ไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจ ที่จะพูดบางอย่างออกไป
“คืนนี้ ก่อนนอน คงต้องแผ่เมตตาซะหน่อยละ ได้ทิปมา ตั้ง 1,000 นี่เนาะ สงสัยวันนี้ดวงดี”
ผี ตนนั้นได้ยิน ก็ยิ้มออกมา และค่อย ๆ หายไปพร้อมกับรอยยิ้ม แม้จะไม่รู้ว่า ไอ้คนนี้ มันมองเห็นรึเปล่า แต่ก็จะลองเชื่อใจมัน ไม่แสดงตัวให้เห็น แต่ถ้ามันไม่ทำอย่างที่บอก ผีตนนั้นก็ปรากฏให้เห็นได้ จนกว่า ไอ้หนุ่มคนนี้ มันจะแผ่เมตตาให้
และแล้ว ราม ก็ขับรถกลับบ้าน ด้วยความสบายใจ เพียงลำพัง ไม่มีผีนั่งอยู่ข้าง ๆ
………………
เมื่อรามกลับไป เฮียเสือ ก็กำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคน
“ไง ไอ้โชค นี่กูเอง”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไอ้เด็กใหม่คนนี้ มันใช้ได้ว่ะ มันไม่เห็นผีตัวนั้นด้วยนะ เอ้อ ใช่ ผ่านด่านมาได้สบาย ทันเวลาข้าส่งของพอดี”
“ตำรวจโง่นั่นคงเห็นผี อย่างเคยนั่นแหละ ไม่งั้น คงไม่มาถึงเร็วขนาดนี้หรอก”
“เออน่า ขืนมันตรวจของหลังรถ ก็แย่น่ะสิ 555”
“ข่าวมันไว ไม่งั้นมันคงไม่มีด่านหรอก”
“เออ ของครบ ทุกอย่างพร้อมจำหน่าย”
“คงต้องใช้ไอ้เด็กนี่ไปก่อนล่ะนะ จนกว่าไอ้คนเก่าจะออกจากคุก ก็ดันไม่ทำตามกฎ”
“พอไม่มีผีนั่งไปด้วย ก็โดนตรวจค้นเลย ข้าเสียหายนะ ถึงจะไม่เท่าไรก็เถอะ”
“ยาเสพติดตอนนี้หาง่าย ขืนเราส่งช้า ลูกค้าก็จะไปหาคนอื่นน่ะสิ”
รีวิวจากนักอ่าน
นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว
มาเป็นคนแรกที่เขียนรีวิวนิยายให้กับนิยายเรื่องนี้กันรีวิวถึงตอนที่ 0
รีวิวถึงตอนที่ 0
ผลงานอื่นๆ ของ คราสรัตติกาล ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ คราสรัตติกาล
ความคิดเห็น