Kiss Scene [TAO X LUHAN] - Kiss Scene [TAO X LUHAN] นิยาย Kiss Scene [TAO X LUHAN] : Dek-D.com - Writer

    Kiss Scene [TAO X LUHAN]

    โดย Zelynn

    เสี่ยวลู่ก็แค่ลองสารภาพรักน้องจื้อเต๋าดู.... เป็นยังไงน้า~

    ผู้เข้าชมรวม

    845

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    845

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 พ.ย. 55 / 23:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    Kiss Scene
    吻戲
    (Wěn xì)


    Pearing : Tao X Luhan

    Rate : PG















    ฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น (ก็แน่ล่ะ) อย่าซีเรียสมากเกินไป หากใครอ่านแล้วรู้สึกคุ้นๆ ตะหงิดๆ อย่าได้ใส่ใจ 
     
    เรื่องคู่... ลองแพริ่งคู่นี้ดู เผื่อเครื่องฟิต สตาร์ตติดง่าย (นั่นมันน้ำมันเครื่อง!!) 


     
    ไร้สาระจริงๆ -*-
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






      ชีวิตมันไม่ง่าย ใครสักคนบอกเอาไว้นี่แหละ ผมจำไม่ได้หรอก แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ ทุกครั้งที่ผมเข้าใกล้คนคนนั้นใจผมสั่น ตาผมพร่า แข้งขาผมหมดแรงราวกับว่าค่อยๆ ถูกเค้าดูดกลืนความเป็นตัวของตัวเองเข้าไปจนหมดจนตกเป็นทาสของเค้าในที่สุด


      “ชั้นชอบนาย!” ห้วงความคิดของผมหยุดลงเมื่อริมฝีปากทรยศเฉลยความในใจให้อีกฝ่ายรับรู้ เจ็บใจตัวเองชะมัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ดวงตาคู่คมที่ผมชอบจ้องมองมาด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะกดยิ้มที่มุมปากเบาๆ เบาเสียจนผมมองแทบไม่เห็น แต่หัวใจรู้สึก.. 




      เค้ากำลังพอใจ




      .....................




      รึเปล่านะ?






      “ทำไมถึงชอบผม?” น้ำเสียงทุ้มที่มัดใจใครต่อใครถามผมด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ 



      ทว่าผมได้ยิน



      “ชะ.. ชอบ ชอบนายไม่ได้เหรอ?” ความไร้เดียงสาเล่นงานผมเสียแล้ว ถามออกไปอย่างนั้นทำไมกันนะซีลูฮั่น จื้อเต๋าส่งเสียงหึเบาๆ ในลำคอแล้วโน้มตัวลงมาจนใบหน้าเราอยู่ระดับเดียวกัน 




      ดวงตาสีนิลไร้ประกายจับจ้องอยู่ที่ผมจนเกือบจะคิดว่าโลกนี้ไม่มีสรรพสิ่งอื่นนอกจากจื้อเต๋าแล้ว ผมกลั้นหายใจเมื่อใบหน้าหล่อคมคายค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้จนลมหายใจของเราสัมผัสกัน ถึงผมจะไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนก็เถอะ สัญชาตญาณมันบอกให้หลับตาลงแล้วรอรับสัมผัสอุ่นเหมือนสายลมจากทิศตะวันออกไกล


      “จูบแย่ชะมัด อายุเท่าไหร่เนี่ย?” ชีวิตมันไม่ง่ายครับ ผิดด้วยเหรอที่ผมเกิดมารักเดียวใจเดียว ร่างกายก็เลยไม่เคยถูกใครแตะต้อง ใครจะไปตรัสรู้วะว่าจูบกันน่ะต้องทำยังไง!! 

      ไอ้เด็กลามก!!!


      “อายุมากกว่านายก็แล้วกัน” เอาอีกแล้ว ทำไมต้องทำเสียงหึในลำคอด้วย มันน่ากลัวนะ


      “ศูนย์คะแนน!” 


      “หา?!” อะไรกัน ทำไมถึงศูนย์คะแนนล่ะ งงไปหมดแล้วนะ


      “ด้านปฏิบัตินี่ศูนย์ เทคนิคก็ศูนย์” เชอะ! 


      “จูบของชั้นมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ” จื้อเต๋าพยักหน้ารับแล้วเกลี่ยริมฝีปากผมเล่น ไอ้เด็กบ้า! รู้อย่างนี้ไม่ยอมให้จูบหรอก เจ็บใจชะมัด


      “แต่ความหวานนี่เอาไปเต็มสิบเลย อยากจูบอีกชะมัด” ผมต้องหลับตาปี๋เพราะไอ้เจ้าเด็กเอาแต่ใจนี่แลบลิ้นยาวออกมาเลียกลีบปากผมเสียอย่างนั้น เง้อ~ จะจูบก็จูบซิ ทำแบบนี้หัวใจมันเต้นแรงเกินไปแล้วนะ


      “พี่ลูฮั่น อย่าเม้มปากซิ แล้วอย่างนี้จะจูบได้ยังไง” 


      “กะ ก็ไม่ต้องจูบ” ผมเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากของเด็กนั่นเลยเฉียดแก้มไปหวุดหวิดเล่นเอาใจเต้นขึ้นมาอีกแล้ว 


      “ผมอยากจูบนี่” ช่วงกรามของผมถูกล็อคด้วยมือเรียวยาวและแข็งแรงบังคับให้ค่อยๆ อ้าปากออก จื้อเต๋าฉวยโอกาสประกบปากของเค้าลงแล้วเริ่มส่งลิ้นเข้ามา



      เรี่ยวแรงของผมเหมือนถูกสูบออกไปหมดจนแข้งขาสั่นพาลจะยืนไม่อยู่ อีกฝ่ายกวาดลิ้นไปทั่ว ทั้งริมฝีปาก ตามไรฟัน แล้วก็แกล้งแหย่ด้วยการเอาลิ้นมาดุนลิ้นผมให้กระหวัดกันไปมาก่อนจะค่อยบดเคล้าอย่างอ้อยอิ่ง นาทีนั้นผมแทบไม่ได้รับรู้อะไรแล้ว


      “ไม่เอานะ” ละจากริมฝีปากผม ลิ้นของเด็กเจ้าปัญหาก็ยังคงกวัดกวาดไปตามใบหน้าผมอยู่ ทั้งรู้สึกจักจี้และรู้สึกเขินไปพร้อมๆ กันจนผมต้องร้องท้วงออกมา จื้อเต๋าฉกจูบที่ริฝีปากผมดังจุ๊บเบาๆ อีกครั้งจึงยอมกระถดตัวออกห่างแต่ก็ไม่ได้ห่างมาก เพราะผมพึ่งรู้ตัวนาทีนี้เองว่าร่างผมตั้งได้อยู่อย่างนี้เพราะจื้อเต๋าประคองช้อนกอดรับเอาไว้อยู่


      “ไม่ทันแล้ว ได้มาแล้วล่ะ” เจ้าเด็กนั่นพูดด้วยท่าทีขบขัน อุ้มผมลอยขึ้นจากพื้นด้วยแขนสองข้างก่อนจะส่งยิ้มเบาๆ อย่างที่ชอบทำ 


      “หน้าแดงแล้วน่ารักนะครับ” ผมเริ่มจะเกลียดจื้อเต๋าแล้ว เฮอะ








      กว่าจะเป็นอิสระผมต้องดิ้นขลุกขลักอยู่ตั้งนานกว่าจะออกจากอ้อมแขนของเจ้าเด็กนั่นได้(หลังจากที่กลับมายืนได้ด้วยตัวเองอ่ะนะ) จื้อเต๋ากลับไปสนใจหนังสือที่อ่านอยู่ก่อนหน้านี่ต่อ บรรยากาศในห้องเลยค่อนข้างอึมครึมนิดนึง ผมพยายามชำเลืองตามองเจ้าเด็กอวดดีนั่นหลายทีแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเค้าจะหันกลับมา 


      ซีลูฮั่นผู้มีความสำคัญน้อยกว่าหนังสือจิตวิทยา นั่งงอนไปก็ไร้ผล ไอ้เจ้าเด็กใจร้ายไม่เห็นจะใส่ใจกันเลย 



      เชอะ!!



      “พี่ลูฮั่น จะไปไหน” ทีเงี้ยล่ะมาสนใจกัน ไม่รอออกนอกประตูไปก่อนล่ะ


      ผมเลี่ยงที่ไม่ตอบ อี้ฟ่านเคยบอกเอาไว้ว่าความรู้สึกน่ะ เราไม่ต้องพูดออกไปทั้งหมดก็ได้ ไอ้อาการอย่างนี้เจ้าเด็กนี่คงพอจะรู้บ้างนะว่าผมงอน


      ตามมาซิ....




      ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกครับ สัญญาณของผมส่งไปไม่ถึงเจ้าเด็กนั่น ใช่ซี๊ ผมมันแค่ซีลูฮั่นนี่ แค่คนที่ตกหลุมรักเค้าแถมยังสารภาพรักเค้าก่อนอีกด้วย น่าอายชะมัดเลย

      สัมผัสอุ่นยังคงติดตรึงอยู่ที่ริมฝีปากขณะที่ผมดื่มน้ำ น่าเจ็บใจนัก รู้งี้ขอลองจูบกับซิ่วหมินก่อนดีกว่า อย่างน้อยก็เป็นซิ่วหมิน ถ้าจูบไม่ดีจะช่วยกันปรับปรุง


      “ขยี้ทำไม ปากเจ่อหมดแล้ว” ทำไมต้องยืนกอดอกพิงกรอบประตูครัวด้วย ไม่มีใครสอนรึไงว่าท่านี้มันเท่ห์เกินไปห้ะ หวงจื้อเต๋า


      “ก็มันปากชั้น” ผมหันหลังหนีแล้วเอาแก้วไปไว้ในอ่าง ออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


      “ผมเป็นห่วง” อยู่ๆ ก็มาอ่อนโยนแบบนี้ใครมันจะไปต่อได้ ไอ้เด็กบ้า


      “อยากให้เจ่อด้วยจูบของผมมากกว่า” เหอะ


      “ชั้นไม่อยาก” 


      “พี่ชอบผมนี่” แล้วไงล่ะ 


      “แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชั้นต้องยอมให้นายจูบนี่” จื้อเต๋าจรดสายตาลงกับปากผมอีกทีขณะค่อยๆ สาวเท้าเข้าใกล้ 


      “จะ.. จะทำอะไร”


      “จูบ” ไอ้เด็กบ้า! 


      “ชั้นไม่ยอมหรอก ถอยไปนะจื้อเต๋า” ไอ้เด็กบ้านี่ นอกจากไม่ยอมถอยแล้วยังล็อกผมเอาไว้กับอ่างล้างจานอีก ไม่เอานะ 


      “ชั้นร้องบอกคนอื่นจริงด้วยว่านายจะแกล้งชั้น”


      “เอาซิ แต่ผมแกล้งพี่ลูฮั่นจริงๆ เหรอ แกล้งปดนี่จะโดนอี้ฟ่านเกอะดุเอานะ” 


      “ใครแกล้งปดกัน นายแกล้งชั้นเห็นๆ ไม่เอานะ” ทำไมแรงเยอะจัง ตัวก็ผอมนิดเดียวแท้ๆ โลกไม่ยุติธรรมเลย 


      “ขอจูบอีกทีนะ” ไอ้เด็กบ้า ขอกันหน้าด้านๆ อย่างนี้ได้ไง ไอ้หน้าด้าน


      “ไม่เอา อื้อ ซิ่วหมินช่วยด้วย อ๊ะ!” 



      ซิ่วหมินที่ขอให้ช่วยเมื่อกี๊โมฆะนะ อย่าเพิ่งมาตอนนี้!!!!!




      มีอะไรเคยได้ดั่งใจซีลูฮั่นบ้าง นอกจากโดนเจ้าเด็กหน้าแมวนี่ประกบปากดูดแล้ว เพื่อนยังวิ่งถลาเข้ามาเกาะขอบประตูทำตาโตร้องเรียกคนอื่นๆ ในบ้านมาดูกันอีก เอาเข้าไป


      จื้อเต๋าช่วยรู้สึกอะไรทีเถอะ ถึงนายจะหันหลังอยู่แต่ก็น่าจะได้ยินเสียงเป่าปากเปี้ยวป๊าวของคนอื่นๆ นะ งื้อ เลิกล้วงลิ้นเข้ามาซะที


      “พี่ๆ ครับช่วยเงียบกันที ผมไม่มีสมาธิ” ถอนริมฝีปากจากผม เจ้าเด็กโหดก็หันไปวีนแก๊งมนุษย์ที่ถือพู่กับป้ายไฟเชียร์อยู่หน้าห้องครัวด้วยเสียงดุ พร้อมตาขวางๆ แล้วก็หันมากัดริมฝีปากล่างผมต่อ เฮ้ย! ช่วยรู้สึกอะไรบ้างทีเถอะ


      “จื้อเต๋า ปล่อย” ผมพยายามผลักเด็กปีนเกลียวออกอีกที จื้อเต๋ายอมละริมฝีปากแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายเลียแก้มซ้ายขวาของผมจนเปียกอีกรอบ งื้อ~ 


      “สรุปว่าได้เสียกันแล้ว? จะได้ฉลอง” อี้ชิงนิสัยไม่ดี


      “ยัง!!” 


      “แล้วทำไมยอมให้น้องมันจูบล่ะ จื้อเต๋าขืนใจเหรอ?”


      “ก็....นิดนึง” 


      “เชี่ยนี่” ถึงจะตัวเล็ก แต่ซิ่วหมินเพื่อนผมก็ใจมากครับ ถลาเข้ามากระชากน้องออกไปเลย ใจร้อนเกินไปแล้ว


      “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”


      “ก็มันขืนใจนาย”


      “ไม่ถึงขนาดนั้นอ่ะ ชั้นก็....ยอมนิดหน่อย”


      “สมยอมมันด้วย เหอะ ใจง่าย” เฮ้ยไม่ได้ใจง่าย แต่ไม่ได้ปฏิเสธแบบจริงจังต่างหาก เพื่อนแย่!!


      “ใจง่ายกับแฟนก็ชิลๆ นี่พี่ ปกติออก” แฟน? 


      “เป็นแฟนกันแล้ว โธ่! แล้วร้องให้ช่วยไมเนี่ย”


      “ก็ตกใจนี่”


      “งั้นพี่ออกไปได้แล้ว ผมจะจูบแฟนผม” เป็นน้องเล็กแต่ดันมีอำนาจไล่พี่ๆ ออกไปหมดได้เนี่ยนะ 




      เอ๊ะ!! แล้วเราเป็นแฟนกันตอนไหน?




      “ยังไม่ได้ตกลงเลย ทำไมนายเป็นแฟนชั้นแล้วล่ะ”


      “ผมก็ชอบพี่ ดีลมะ ใจตรงกันก็เป็นแฟนกันไง” จะว่าดีลก็ดีลนะ แต่ทำไมตอนแรกทำนิ่งจัง ไอ้เด็กบ้านี่


      “ก็ผมเขินนี่ อยู่ๆ คนที่แอบชอบก็มาสารภาพรัก” 


      “คนบ้าอะไรเขินแบบนั้นกัน”


      “คนแบบผมนี่แหละ ว่าไง ยอมให้จูบมั้ย”


      “เอ่อ ขอคิดก่อนนะ” 



      ที่จริงคือในห้องครัวมันโจ่งแจ้งเกินไป 



      ไปที่ลับตากว่านี้ได้มั้ยอ่ะ?



      คีสซีนเนี่ย~




      END..

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×