คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Super Star มายา - 18
ตอนที่ 18
เสียงพูดคุยเบาๆภายในห้องประชุมขนาดเล็กผู้อาวุธโสมีตำแหน่งนั่งหัวเราะคุยกันเรื่องธุรกิจต่างๆนานา ตาสวยก้มมองแผ่นกระดาษตรงหน้าไล่อ่านทุกตัวอักษรผู้จัดการหนุ่มเองก็ยื่นหน้ามาอ่านเช่นกัน
“เซ็นเลย เราอาจจะได้กินอาหารจีนทั้งปีเลยก็ได้” ซึงฮยอนกระซิบบอก
“เห็นแก่กิน!”
“ไม่อยากกินหรอ?”
“อยากสิ”
“เซ็นเลย เซ็นเลย เซ็นเลย” เด็กหนุ่มกระซิบเสียงเชียร์เบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
“อีทึก ตัดสินใจได้รึยัง?” ทั้งสองหันมองผู้อาวุธโสประธานบริษัทที่หยุดการสนทนาหันมาถาม ตาสวยมองบอสใหญ่สลับกับประธานนิตยสารชื่อดังที่มารอรับสัญญาด้วยตัวเอง
“คะ...ครับ” ร่างบางวาดปลายปากกาเซ็นรับสัญญา ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองผู้อาวุธโสทั้งสองและคนสนิทชาวจีน รอยยิ้มปรากฏขึ้นมุมปากหนุ่มชาวจีนอย่างพึงพอใจ ตาสวยหลบต่ำเมื่อเผลอสบตานายเหลินและยื่นกระดาษสัญญาให้
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณนะครับ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยพลางยิ้มจนรอยเหี่ยวย่นปรากฏบนใบหน้าชัดเจน
นิตยาสารหลายเล่มวางซ้อนกันบนโต๊ะห้องนั่งเล่นซึงฮยอนเปิดพลิกหน้าดูช้าๆ ตาสวยกวาดมองแฟชั่นรวมทั้งนางแบบอย่างละเอียด
“ตื่นเต้นยังไงไม่รู้” เสียงหวานพูดเบาๆ
“หรูหรา โดดเด่น เน้นความล่ำค่า” ซึงฮยอนมองเครื่องประดับและเสื้อผ้านางแบบในนิตยาสาร ทุกองค์ประกอบล้วนดูดีจนไร้ที่ติด “ผมชักไม่มั่นใจแล้วสิ”
“ไม่มั่นใจว่าฉันจะทำได้ใช่ไหม”
“ผมยังไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย”
“ฉันรู้ว่านายคิด ฉันเองยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย”
“ไปเตรียมตัวเถอะ” ซึงฮยอนก้มดูนาฬิกา ถึงเวลาเขาต้องพารุ่นพี่ไปอัดรายการต่อ
รอยฟกช้ำมากมายประปรายตามร่างกายหนา ร่างสูงเจ้าของร่างกายกวาดตามองอย่างหนักใจ อุบัติเหตุจากการถ่ายละครทำให้พระเอกหนุ่มเป็นกังวลหากวันนี้ถ่ายวาไรตี้โชว์แล้วจะต้องถูกบังคับให้โชว์มัดกล้ามคงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากต้องถ่ายในสภาพนี้
ร่างสูงถอนหายใจออกอีกครั้งก่อนจะหยิบยาหลอดเล็กออกจากกระเป๋าพอดีกับบุคคลใหม่เข้ามาพอดี เจ้าของร่างบอบบางสะดุ้งใบหน้าตกใจเมื่อเห็นเขายืนอยู่ ก่อนจะลูบหน้าอกตัวเองเบาๆ
“ทำอะไรอยู่?” เสียงหวานเอ่ยทักทันที “ไปโดนอะไรมา?”
“อุบัติเหตุนิดหน่อย” ฮันกยองมองปลายนิ้วที่สัมผัสรอยช้ำบนหน้าอก “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“ฉันมาถ่ายรายการ ชั้นสิบสี่”
“คงจะเป็นรายการเดียวกัน”
“จริงหรอ นายด้วยหรอ?” ร่างบางหยิบหลอดยาบีบใส่มือ “เจ็บบอกนะ”
“คุณไม่ทำให้ผมเจ็บหรอก ผมรู้” ฮันกยองส่งยิ้มอย่างมั่นใจ “โอ๊ย!!”
อีทึกหยิกผิวเนื้อแรงๆอย่างหมั่นไส้ ร่างสูงรีบเบี่ยงตัวออกให้พ้นมือยู่หน้าใส่ร่างบาง
“ชอบทำตัวหน้าหมั่นไส้ เดี๋ยวจะหยิกให้เต็มตัวเลย”
“ใจร้ายจังเลยน้า” ฮันกยองพูดพลางเกลี่ยผมคนตรงหน้าไปทัดหูก้มหน้าลงหวังจะขโมยหอมแก้ม
“อย่า!” นัยน์ตาสวยดุช้อนมอง ฮันกยองชะงักนิดๆและเม้มปากยอมเลื่อนใบหน้าออกให้ห่าง
“เสร็จแล้ว ใส่เสื้อซะ” ร่างบางยัดเสื้อเชิ้ตใส่มือหนา ฮันกยองรีบดึงตัวคนสวยเข้าไปกอดซบอกตน อีทึกใช้มือยันแผงอกไว้ไม่ให้แนบชิดจนเกินไปหากมีคนเข้ามาเห็นจะเป็นเรื่องใหญ่
“คิดถึงจัง”
“ปล่อยได้แล้ว”
“คุณอ้วนขึ้นรึเปล่า?” ร่างสูงวางคางบนหัวเล็กสองแขนกอดเอวคอดไว้
“ฉันอ้วนหรอ?”
“อืม”
“เพราะคยูฮยอนคนเดียวเลย” เสียงเผลอเอ่ยชื่อน้องชายอย่างลืมตัว
“คยูฮยอนทำไม?” ฮันกยองดันตัวออกนัยน์ตามองร่างบางรอคำตอบ
“ก็...เวลาเจอกัน เขาชอบบังคับให้ฉันกินทุกทีเลย”
“อย่างนั้นหรอ? พวกคุณเจอกันบ่อยแค่ไหน?” ร่างสูงถามเสียงเรียบ
“แค่ที่กองถ่ายเท่านั้นนั่นแหละ จะเอาเวลาที่ไหนมาเจอกันนอกเวลาล่ะ” อีทึกขืนตัวออกจากวงแขน “ฉันน่ะงานรัดตัวนะ”
“เสร็จงานนี้แล้วไปไหน?”
“กลับบ้านน่ะสิ”
“แสดงว่าว่าง ถ่ายงานนี้เสร็จรอผมที่ห้องแต่งตัวคุณนะ” ฮันกยองพูดพลางใส่เสื้อเรียบร้อย
“จะไปไหน?”
“กินข้าว ห้ามหนีกลับนะ” พูดเสร็จก็รีบชิ่งเดินหนีออกไปก่อนที่ร่างบางจะปฏิเสธ
“ใครจะยอมรอล่ะ”
..
นัยน์ตาสีน้ำตาลมองซ้ายมองขวาท่าทางลับๆล่อๆอยู่หน้าสถานีโทรทัศน์ ตากล้องหนึ่งคนตามถ่ายอยู่ข้างหลัง นักร้องหนุ่มวิ่งเยาะๆเข้าตัวตึกหันไปส่งยิ้มให้ลุงยามคนคุ้นหน้าค่าตาเป็นอย่างดี ร่างสูงหนาวิ่งหลบหลังเสาทีละเสาเหมือนพวกสปายกลัวจะถูกจับได้ พนักงานต่างมองกันอย่างขำๆท่าทางแปลกๆพร้อมกล่องข้าวห่อผ้าสีชมพูแปร้นในมือ
“คยูฮยอนมาทำลับๆล่อๆอะไรตรงนี้?” ชายหนุ่มหันมองอย่างตกใจ นักร้องสาวรุ่นพี่นั่งยองๆลงตามเพราะเธอเห็นรุ่นน้องคนนี้นั่งมองซ้ายขวา อยู่หลังเสาเป็นเป้าสายตาคนทั้งตึก
“รุ่นพี่สวัสดีครับ ผมเอาข้าวมาให้ภรรยาครับ”
“ภรรยา?”
“ปาร์ค จองซูครับ พี่เห็นเขาไหม? ผมจะเซอร์ไพร์เขา”
“ไม่อะ แล้วที่ทำท่าทางแปลกๆนี่กลัวเขาจะเห็นเราหรอ?” คยูฮยอนพยักหน้าตอบ “เดี๋ยวถามให้”
รุ่นพี่สาวเดินไปที่ประชาสัมพันธ์ถามข้อมูลให้ก่อนจะเดินกลับมา พร้อมตะโกนเสียงไม่ดังมากแต่ให้พอได้ยินอย่างนึกแกล้ง
“ปาร์ค จองซูอยู่ชั้นสิบสี่ เขาคงไม่เห็นนายหรอก ออกมาเถอะ” คยูฮยอนสะดุ้งแล้วถอนหายใจเดินออกไปหาพี่สาว
“พี่อะ”
“นายทำตัวเหมือนโรคจิตเลยรู้ไหม แจ็คเก็ตดำกับกล่องข้าวสีชมพู ไม่มีใครเขาเห็นนายเลยมั่งเนี่ย” รุ่นพี่สาวประชด คยูฮยอนเหลือบมองรอบๆพนักงานต่างแอบก้มหน้าขำ
“ผมจะขึ้นไปชั้นสิบสี่ ขอบคุณพี่นะครับ”
“จ้ะ นายนี่โชคดีน้า ได้ภรรยาสวยซะด้วย” รุ่นพี่สาวแกล้งล้อ
“โจว คยูฮยอนซะอย่าง” ไม่วายทำหน้าทะเล้นให้รุ่นพี่
ขายาวก้าวช้าๆสายตาพลางกวาดตามองชื่อตามห้องพัก ก่อนจะชักงักเท้าเพ่งมองป้ายชื่อหน้าห้องใกล้ๆ
“เอ๊ะ! พี่อยู่ที่นี่ด้วย?” เสียงทุ้มห้าวเอ่ยเบาๆอย่างแปลกใจ “แล้วอีทึกอยู่ไหน?”
คยูฮยอนนั่งหลบมุมรอหน้าห้องพร้อมตากล้องข้างๆหยุดถ่ายชั่วคราวเพื่อรอร่างบางออกมาจากห้องจัด
“พี่หิวข้าวไหม?” ร่างสูงหันไปถามตากล้อง
“หิวสิ เสร็จฉากนี้แล้วว่าจะหาไรกิน”
“เดี๋ยวผมเลี้ยงกาแฟพี่แก้วหนึ่งละกัน”
“จำคำพูดนายไว้นะคยูฮยอน” ตากล้องพูดพลางซับเหงื่อบนหน้า
“พีดีจะตามขึ้นมาไหมเนี่ย? ผมไม่อยากหมดหล่อก่อนเจออีทึก”
“เดี๋ยวทีมงานเราก็คงตามขึ้นมาละมั้ง” ตากล้องส่งทิชชู่ให้ร่างสูงไปเช็ดพลางๆ “คยูฮยอน ชอบเขาจริงๆรึเปล่า?”
“ใคร?”
“อีทึกน่ะ”
“พี่คิดว่าไงล่ะ?”
“ทั้งพี่และทีมงานคนอื่นๆคิดเหมือนกันหมด นายชอบเขา แต่คยูฮยอนรายการนี้มันแค่รักหลอกๆพอหลังจากนี้ก็ต้องเลิกกัน”
“หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อผมไม่สนหรอก” ร่างสูงตอบพลางจัดห่อข้าวให้เรียบร้อย “ถ่ายเสร็จกันแล้วมั้ง”
คยูฮยอนชะโงกหน้ามองเสียงคุยดังใกล้เข้ามาตากล้องรีบหยิบกล้องขึ้นเตรียมถ่าย คนแรกที่วิ่งออกจากห้องจัดคือพี่ชายเขาก่อนหายเข้าไปในห้องพัก คยูฮยอนแค่รอให้ร่างบางเดินเข้าห้องพักแล้วเขาค่อยตามไปเซอร์ไพร์
อีทึกเดินถอนหายใจออกเบาๆเข้าห้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ ตาสวยพลางเหลือบมองที่ประตูเป็นระยะยังไม่ทันละสายตาประตูนั้นก็เปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงก้าวเข้าห้องช้าๆใบหน้าแต้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ร่างบางวางกระเป๋าที่กำลังยัดของใส่ลวางที่เดิมความเร่งรีบก่อนหน้าเปลี่ยนเป็นเฉื่อยชา
“เห็นนะว่ารีบ จะหนีผมละสิ ไม่มีทางซะหรอก” พระเอกหนุ่มหยิบกระเป๋าร่างบางมาถือ ก่อนจะดึงข้อมือคนสวยมากำไว้อีทึกช้อนตามองอย่างขัดใจคิดว่าจะหนีทันแล้วซะอีก
“กินอะไรดีน้า อยากกินอาหารจีนไหม?” ฮันกยองถามพลางเปิดประตูออกจากห้อง
“ต้องมีกุ้งมังกรด้วยนะ ถ้าไม่มีฉันจะกลับเดี๋ยวนั้นเลยบ้านใครบ้านมัน!” คนสวยพูดเอาแต่ใจ ไหนๆก็ไหนๆแล้วอยากเลี้ยงนักก็จ่ายให้มันคุ้มไปเลยซิฮันกยอง
“ได้ อีทึกอยากกินกุ้งมังกรนะครับ” ร่างสูงทำเสียงล้อเลียนจนคนสวยหยิกต้นแขนให้ร่างสูงเจ็บบิดจนตัวงอ
ตากล้องหนุ่มยืนมองบุคคลตรงหน้าไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำพูดในขณะที่พวกเขายืนนิ่งอยู่ที่เดิมเกือบสิบห้านาที บุคคลเป้าหมายที่ตั้งใจมารอหายไปแล้วไม่ทันแม้แต่จะได้ทักทายกันตอนนี้เขาอยากกลับบ้าน เหลือแต่นักร้องหนุ่มที่ยืนกำห่อข้าวแน่นบทสนทนาที่พอจะได้ยินว่าสองคนนั่นไปไหนคงทำให้นักร้องหนุ่มคนนี้จิตตกอยู่เป็นแน่
“เรา...กลับกันเถอะ พี่จะบอกทีมงานว่าอีทึกเปลี่ยนตารางงานละกัน”
“เรื่องพวกเขาสองคนพี่ต้องเก็บเป็นความลับ” คยูฮยอนเงยหน้ามอง “พี่ชายผมกับอีทึก!”
นัยน์ตาสีน้ำตาลแข็งกร้าวมองตากล้องแกมบังคับก่อนที่จะเสหน้ามองไปทางอื่นเมื่อตากล้องหนุ่มพยักหน้า คยูฮยอนวางกล่องข้าวไว้ข้างเสาที่ตนนั่งหลบแล้วเดินหายเข้าลิฟต์ไปอย่างเงียบๆ ตากล้องหนุ่มถอนหายใจหยิบโทรศัพท์กดโทรออกรายงานโปรดิวเซอร์
..
“ปล่อยซะทีเถอะ” มือสวยสะบัดออกจากการเกาะกุมเหมือนหนวดปลาหมึกยิ่งสลัดออกยิ่งเกาะหนึบเลย
“เดี๋ยวหนี”
“คงหนีได้หรอก แค่ทางหายใจยังไม่มี” ร่างบางกระซิบบ่น เมื่อประชากรบนรถไฟฟ้าใต้ดินเบียดเสียดกันจนแทบจะเหยียบหัวกันอยู่แล้ว “บ้ารึเปล่า?”
“ครั้งก่อนอยากนั่งรถเมย์ไม่ใช่หรอ? ผมก็พามานี่ไงเปลี่ยนจากรถเมย์เป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็คล้ายๆกัน ไม่มีใครสังเกตเห็นเราด้วย” ร่างสูงดึงเอวบางเข้ามาในวงแขนเมื่อคนเริ่มเบียดแย่งพื้นที่กันอีกครั้ง
“ถึงยังอะ?” อีทึกขยับเล็กน้อยจับต้นแขนหนาไว้กันล้ม
“สถานีหน้า” ร่างสูงก้มหน้าซุกกระซิบข้างหู
“อย่าเยอะ! เดี๋ยวโดนแน่”
“ก็มันเบียดอะ ให้ผมทำยังไงล่ะ” ฮันกยองอ้างพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์
ทันทีที่ทั้งคู่เบียดประชากรออกจากรถไฟฟ้าได้คนสวยเริ่มลงโทษคนเจ้าเล่ห์ จิกเล็บลงผิวเนื้อจนเกิดรอย
“ตัวผมช้ำไปทั้งตัวแล้ว”
“เรื่องของนายสิ ฉันไม่ตบนายโชว์ก็ดีเท่าไหร่แล้ว” อีทึกเค้นเขี้ยวเค้นฟันพูดพลางขยับแว่นกันแดดสีดำสนิท “หิว!!”
“ไปสิที่รัก” ฮันกยองแกล้งทำจะโอบไหล่ คนสวยรีบถอยตัวหนี
“ฮันกยอง นี่มันที่สาธารณะถ้าเราโดนจับได้เราตายแน่ ฉันไม่อยากมีปัญหา”
“ดีสิ มีข่าวว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ”
“ฉันถ่าย wgm กับคยูฮยอนอยู่นะ!” ร่างบางชะงักเท้าก่อนพูดเสียงเรียบเตือนให้ร่างสูงรู้ว่าเขาไม่ต้องการแบบนั้น นัยน์ตาคมมองใบหน้าสวยนิ่งและเริ่มเดินนำช้าๆเพื่อให้ร่างบางเว้นระยะห่างในการเดินกับเขา ร่างบางถอนหายใจเมื่ออีกคนเริ่มเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ
ร่างบางก้าวตามช้าๆพอเว้นระยะห่างนัยน์ตาพลางเหลือบมองคนรอบกายอยู่ภายใต้กรอบแว่น
“อ๊ะ!!” ข้อมือเล็กถูกฉุดดึงจนเซ แรงกำลังที่ไม่สามารถต้านทานได้ชายชุดดำเห็นเพียงแค่แผ่นหลังดึงข้อมือเขาทั้งบีบแน่นเสียจนเจ็บข้อมือไปหมด แว่นกันแดดที่เคยใส่ร่วงหล่นนัยน์ตาสวยเห็นแผ่นหลังฮันกยองชัดขึ้น
“ฮันกยอง!!!”
ใบหน้าหล่อหันขวับเสียงเรียกดังไกลๆ คนที่เคยเดินตามหลังหายไปจากสายตา ร่างสูงกวาดตามองหาอย่างร้อนรน
“ฮันกยอง!” ร่างสูงมองตามเสียงอีกครั้ง
“อีทึก!” ฮันกยองรีบวิ่งตามเจ้าของเสียงเรียกกำลังถูกดึงเข้าตู้รถไฟขบวนหนึ่งก่อนดวงตาสวยจะปิดลง ชายชุดดำกอดร่างบางที่ไร้สติแนบอกไม่ให้ผิดสังเกตคนรอบข้าง ฮันกยองทุบประตูอย่างโกรธจัดเมื่อประตูปิดก่อนที่เขาจะไปถึง ชายชุดดำถอดแว่นกันแดดสีดำสนิทและฮู้ดบนหัวออกเผยใบหน้าและดวงตาเรียวรีจ้องร่างสูงอย่างผู้มีชัย
..
...
ดวงตาเรียวรีจ้องดวงหน้าสวยด้วยใบหน้าสงบนิ่งปลายนิ้วเคาะคางตัวเองอย่างใช้ความคิด
“บอกเจ้านายว่าเราได้ตัวเขามาแล้ว” เสียงเข้มเอ่ยคำสั่งลูกน้องคนสนิทรับคำและออกไป ชายหนุ่มมองคนบนเตียงยังคงหลับใหลไร้สติ
เสียงโทรศัพท์ดังอยู่ต่อเนื่องเรียกความสนใจให้ชายหนุ่ม เบอร์โทรเข้าที่เห็นเป็นชื่อเดิมๆกว่าร้อยครั้งก่อนจะรีบตัดสายและปิดมันอย่างรำคาญ
“งดงามเกินกว่าที่ใครๆก็ไม่อาจยับยั้งชั่งใจ คุณน่ะพิเศษเกินไปจนกลายเป็นสิ่งอันตรายทั้งตัวเองและผู้ที่อยากจะครอบครอง” ชายหนุ่มกระซิบเบาๆลูบเปลือกตาบางที่อีกไม่นานคงจะลืมตาได้สติ “คุณน่าจะเป็นของผมก่อนใคร”
มือหนากำโทรศัพท์แน่นหลังจากปลายสายไม่มีสัญญาณตอบรับยิ่งทำให้กระวนกระวายใจมากกว่าเดิม ซึงฮยอนเดินไปมาจนน่าเวียนหัวซึ่งฮันกยองเองไม่คิดจะว่าอะไรต่างคนต่างก็ห่วงอีทึกทั้งนั้น
“จะทำยังไงดี?” ผู้จัดการหนุ่มถามคำถามซ้ำๆที่ร่างสูงไม่อาจให้คำตอบ “มันต้องการอะไร เรียกค่าไถ่รึเปล่า?”
“ผู้ชายคนนั้น ผมเคยเห็นเขาที่ไหนสักแห่ง”
“เห็นหรอ? ใคร?”
“ผมไม่รู้”
“พี่!!!” เสียงทุ้มห้าวก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาหน้าตาตื่น คยูฮยอนมองพี่ชายด้วยความกระวายใจไม่แพ้กัน
อีทึกนั่งก้มหน้าเมื่ออาการเวียนหัวเกิดขึ้นหลังได้สติทำให้เขาลุกขึ้นเดินแถบไม่ได้ เปลือกตาสวยหลับเพื่อรอให้อาการเวียนหัวทุเลาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้าๆมองสำรวจห้องสี่เหลี่ยมไม่คุ้นตา สมองเริ่มประมวลเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ตนถูกชายแปลกหน้าดึงเข้าตู้รถไฟ อีทึกพุ่งตรงไปทุบประตูไม้สลักร้องเรียกคนด้านนอก
ประตูไม้เปิดออกชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาขาเรียวก้าวถอยอัตโนมัติ
“แกเป็นใคร ต้องการอะไร จับฉันมาทำไม?!”
“คำถามเยอะนัก ขอไม่ตอบละกัน หัวหน้าผมต้องการให้คุณพักผ่อน”
“ปล่อยฉันออกไป!!”
“อยู่เฉยๆ เราไม่อยากทำร้ายคุณ” ชายหนุ่มสั่งเสียงแข็งก่อนจะหมุนตัวเดินกลับ
เพล้ง!!!!
ชายหนุ่มทรุดลงกับพื้นร่างบางใช้จังหวะนั้นหมุนตัวคว้าโคมไฟใกล้มือฟาดเข้าที่หัว ก่อนรีบวิ่งไปที่ประตู อีทึกชะงักเท้าเมื่อชายหนุ่มอีกคนเข้ามาขว้าง คนที่แอบยืนฟังอยู่นอกห้องก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าคนสวยจะบุ่มบ่ามหนี
“ซู่เหลี่ยน!” อีทึกเอ่ยชื่อคนตรงหน้าอย่างตกใจก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าและแววตาแข็งกร้าวจ้องกลับ
ผัวะ!!
หมัดเล็กๆต่อยคนตรงหน้าเต็มแรงอย่างไม่คิดกลัว ผู้ชายคนนี้ที่คิดไว้ใจมาตั้งแต่แรกสุดท้ายก็เป็นแค่การหลอกลวงทั้งนั้น ซู่เหลี่ยนจ้องเขม่งข้างแก้มชาและแสบเขายกตัวร่างบางขึ้นบ่าก่อนโยนลงบนเตียงตรึงข้อมือเล็กทั้งสองติดกับพื้นเตียง
“เจ้านายผมสั่งไว้ ห้ามทำให้คุณมีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ถ้ายังดื้อดึงอยู่แบบนี้ผมไม่รับรองคำสั่งนั้นหรอกนะ!”
“ถ้ากล้าขัดคำสั่งเจ้านายเลวๆนั่นก็เชิญเลย!!!" ร่างบางถีบสีข้างชายหนุ่มจนข้อมือพ้นพันธนาการแต่ร่างกายก็ยังไม่พ้นมือสากนั่นอีทึกใช้มือดันร่างกายหนาที่โถมทับตนแถบหายใจไม่ออก
“ปล่อยฉัน!!!”
“คืนนี้ทำตัวดีๆ เก็บแรงสู้กับผมไว้เถอะ เจ้านายผมอาจจะปราณีคุณบ้าง” ซู่เหลี่ยนยันตัวขึ้นเมื่อร่างบางสงบลงเพราะหมดทางหนี
อีทึกนอนหอบด้วยใบหน้าแดงกร่ำสายตากรอกมองซู่เหลี่ยนหายไปหลังประตูก่อนยันตัวเองลุกขึ้นมือบางกำวัตถุสีดำแน่นและคลายมันออก โทรศัพท์มือถือเครื่องบางที่เขาแอบลวงมาจากกระเป๋าซู่เหลี่ยน นิ้วสวยรีบกดเบอร์โทรออกและวิ่งไปที่หน้าต่าง
“ซึงฮยอน!!!!”
รอ....นะจ้ะ พรุ่งนี้มาอัพตอนต่อไปให้ แก้ไขอีกนิดนึงก่อน
ความคิดเห็น