ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic yaoi hey! say! jump] You mean i love him?

    ลำดับตอนที่ #32 : บ๊ายบาย ฮาวาย~

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 317
      2
      16 ต.ค. 53


    ไม่ลืมอะไรแล้วใช่มั๊ยพี่ชายคนโตถามหลังจากที่กำลังจะเดินไปเช็คเอ๊าท์ (วิท เคย์โตะ)



    อืม ไม่แล้วเนอะ ไดจังยามะจังหันไปถามเพื่อนซี้ที่ยังคงกำลังนั่งแกะถุงถั่วกินอยู่ข้างๆ



    นายเอาเค้กที่ชั้นแช่ไว้ในตู้เย็นออกมายังล่ะไดกิเงยหน้ามาถาม หลังจากนั่งนึกอยู่ซักแป๊บ



    เอาออกมาแล้ว นี่ไงคนตัวอวบยกมือที่ถือกล่องเค้กอยู่ขึ้นมาให้ดู



    อ่อ งั้นก็ไม่มีแล้วล่ะไดกิเช็คคำตอบก่อนจะก้มลงไปแกะถุงถั่วต่อ ทำไมมันแกะยากจังฟระ



    อิโนะจัง แล้วห้องเราล่ะยูโตะถาม



    ชั้นเช็คเรียบร้อยแล้วไม่มีๆ อิโนะจังที่กำลังยืนนับกระเป๋าเช็คของของทุกคนอยู่ตอบ ยูโตะพยักหน้าก่อนจะรายงานยาบุคุง



    โอเค แล้วพวกนายล่ะยาบุหันไปถามเจ้าของห้องที่เหลือ



    เมื่อเช้าชั้นตื่นมาเช็คแต่เช้า ไม่มีแล้วล่ะชี่บอกอย่างร่าเริง



    เอ๊ะ นายตื่นทีหลังชั้นไม่ใช่หรอ ทาคาคิ งง ก็เขายังปลุกชี่อยู่เลยนี่นาตอนเช้าน่ะ



    ชั้นตื่นก่อนยูยะแล้วไปเช็คของน่ะ แล้วก็กลับไปนอนต่อ



    อ๋อ อย่างงี้นี่เอง



    แฮมทาโร่ไม่ลืมอะไรแล้วนะเคย์โตะหันมาเช็คความแน่ใจกับคนห้องเดียวกันมั่ง ทำเอาเจ้าหนูน้อยทำหน้าเบ้ใส่



    จะลืมได้ไง ก็นายเป็นคนเก็บของให้ชั้นเองนี่นายจำไม่ได้รึไง! ถามตัวเองสิ ว่าเก็บมาครบรึเปล่า!



    อ่อ เออนั่นสิ งั้นครบแล้วมั้งเคย์โตะลอยหน้าลอยตาตอบ ทำเอาคนข้างๆอยากวิ่งไปกระโดดถีบ



    จะกวนตรีนไปถึงไหน
    - -*



    งั้นโอเคแล้วนะ เคย์โตะไปเช็คเอ้าท์กัน ยาบุพยักหน้าแล้วก็พาเคย์โตะไปที่เคาท์เตอร์



            ไม่นาน พวกเราทุกคนก็เดินออกมาจากโรงแรม ก่อนจะขึ้นรถมุ่งหน้าไปสู่ สนามบิน อันที่จริงเราก็แวะเที่ยวกันตามทางแหละฮะ แต่พี่โซลบอกว่าให้จิ้นกันเอาเองละกัน เพราะขี้เกียจพิมพ์ แล้วก็ขี้เกียจคิดด้วย ว่าแต่
    จิ้นคืออะไรฮะ (รีดเดอร์ : อย่ารู้เลย รู้แล้วจะหนาวเอาเปล่าๆ หึหึ) เห มันน่ากลัวขนาดนั้นเชียว งั้นช่างมันเหอะ เรื่อยมาเรื่อยๆ ก็มาถึงที่สุดท้ายฮะ รู้สึกว่าจะเป็นน้ำตกอะไรซักอย่าง จากตรงนี้แค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงสนามบินแล้วพวกเราเลยแวะเที่ยวกันเป็นที่สุดท้าย



    ระหว่างทางเดิน



    ยูยะ~ ระวังนะ ทางมันลื่นน่ะคุณคงคิดสินะฮะ ว่า ทาคาคิคุงซึ่งตัวใหญ่กว่าควรจะเป็นคนนำทาง? แต่สลับกันนี่ชี่เป็นคนพาทาคาคิคุงเดินฮะ - - คงเพราะว่าเขาตัวเล็ก แล้วก็คล่องตัวอยู่แล้ว ผิดกับทาคาคิคุงที่ไม่ค่อยออกกำลังซักเท่าไหร่ เลยทุลักทุเลอย่างมากเวลาเดินขึ้นเขา (ที่พื้นเปียกๆตะไคร่น้ำ)



    อ๊ะๆ เหวอ!” เอ๊า ทาคาคิคุงลื่นจนได้! โชคดีที่มีเชือกนำทางอยู่ฮะ เขาก็เลยเกาะได้ไว้ทัน



    ระวังหน่อยสิ ก็บอกว่ามันลื่นไง จับมือชั้นไว้นะชี่ยื่นมือไปให้จับ ทาคาคิคุงลังเลอยู่แป๊บนึงก่อนจะจับมือนั้นเอาไว้



    ขอโทษนะ นี่ถ้าทางไม่ลื่นชั้นคงอุ้มนายขึ้นไปถึงข้างบนแล้วเนี่ยทาคาคิคุงบอก พูดซะขนาดนั้นชี่คงเขินแย่เลย =///=



    บ้า! ถึงไม่ลื่นชั้นก็เดินเองได้น่า พะ พูดอะไรก็ไม่รู้เขินใหญ่เลยจริงๆด้วยแฮะ



    ก็ชั้นเป็นห่วงนายนี่ ตอนนี้ชั้นต้องให้นายช่วยก่อนละกัน เดี๋ยวขากลับตรงอีกทางชั้นอุ้มนายลงไปเองทาคาคิคุงยิ้มแล้วก็สัญญากับชี่ เพราะว่าทางลงอยู่คนละด้าน แล้วก็ไม่ลื่นเท่าไหร่ เพราะอยู่คนละฝั่งกับน้ำตกเลยไม่ชื้นน่ะ ที่ผมรู้เพราะว่าเคย์โตะยืนอ่านป้ายให้ฟังเมื่อกี้ ผมไม่มีปัญญาไปอ่านเองหรอก แน่นอน สมาชิกคนอื่นๆก็เช่นกัน เพราะงั้นผมไม่ได้โง่นะ =3=



    แฮมทาโร่~” นินทา? ไม่ได้เท่าไหร่ มันก็มาอีกและ - -



    อะไรอีกล่ะผมหันไปตอบมันแบบรำคาญนิดๆ ถึงเมื่อคืนบรรยากาศจะดีมากมายก็เหอะ แต่ตั้งแต่เช้ามามันก็กวนผมตลอดเลย ชักเริ่มหมั่นไส้มันอีกแล้วสิ



    ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยล่ะ ไม่น่ารักเลยว่าผมหรอ - -*



    ก็นายกวนชั้นมาตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะ จะให้ทำหน้าร่าเริงไง้ผมเลยใส่กลับไปซักดอก



    โหๆ แค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง งั้นไม่กวนแล้วๆ แค่จะถามว่าเหนื่อยมั๊ยแค่นั้นเอง จะได้บอกให้ไกด์เขาหยุดพักน่ะ
    อ้าวเป็นห่วงผมนี่เอง งั้นยกโทษให้ก็ได้
    ~



    อ๋อ อืม ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เองผมเลยหันไปบอกเค้าแบบยิ้มๆให้เขาหายเป็นห่วงผม



    แน่ใจนะ เป็นห่วงอ่ะ เห็นเอ่อเมื่อคืนแฮมทาโร่บอกว่ายังเจ็บอยู่ ///” เคย์โตะอ้ำอึ้ง จนผมเขินเลยฮะ โหย มันก็ไม่ได้เจ็บเท่าไหร่หรอก แต่จะปฏิเสธว่าหายแล้วเลยก็ไม่ได้



    เอ่อ /// ก็นะ นิดๆแหละ ทนได้ไม่เป็นไรหรอก ผมตอบแล้วก็หันไปเดินต่อ มันอายอ่ะ เรื่องแบบนี้



    แน่ใจนะ ชั้นรู้สึกผิดจังเลยเคย์โตะก้มหน้าเศร้า ทำเหมือนเป็นความผิดของตัวเองทั้งหมด แต่ก็นะ จริงๆแล้ว
    ผมเป็นคนยอมเองไม่ใช่หรอ เคย์โตะไม่ผิดซักหน่อย เขาก็แค่ขออย่างเดียวเอง
    =////=



    ไม่เป็นอะไรจริงๆ แล้วนายก็ไม่ต้องรู้สึกผิดด้วย เข้าใจยัง ไปต่อได้แล้วผมพยายามบอกให้เค้าสบายใจ แล้วเร่งให้เดินกันต่อ เพราะตอนนี้เราสองคนกำลังเดินรั้งท้ายคนอื่นอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ซะแล้วล่ะฮะ



    จริงนะยังไม่เลิกอีก ผมเลยถอนหายใจเฮือกนึง ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือข้างนึงที่ไม่ได้จับเชือกไปจับมือเคย์โตะขึ้นมา แล้วพาเขาเดินต่อไป ผมก็มีส่วนผิดที่ทำให้เคย์โตะลำบากใจด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นผมก็ต้องรับผิดชอบด้วยสิ
    =///=
    เคย์โตะยิ้ม มองหน้าผมสลับกับมือ ทำเอาผมเขินนิดๆ ก่อนที่มันจะพูดขึ้นมาว่า



    หายเจ็บเมื่อไหร่ก็บอกนะจะได้ทำอีก~~~”



    “O//[]//O
    ไอ้บ้า!!!” เขิน!!!!


    …………………………………………….


    ตัดไปที่คู่อื่นซักหน่อย (รีดเดอร์
    : ตอนทาคาชี่ทำไมไม่ตัดมาบ้างล่ะ แต่งรวมทำไม) (ไรเตอร์ : เออน่า =3=)



    ยาบุ นายจะดึงแขนเสื้อชั้นไปอีกนานมั๊ยเนี่ย!” ฮิคารุเริ่มโวยวาย วันนี้เขาใส่เสื้อแขนยาวมาแหละเพราะอากาศแถวนี้จะเย็นๆหน่อย แต่ก็นะเรื่องที่จะพูดจริงๆน่ะก็คือ ตั้งแต่เริ่มปีนเขากันขึ้นมาเนี่ย ยาบุก็ดึงแขนเสื้อเค้าไว้ตลอดเลย! แขนเสื้อยืดหมดแล้วเนี่ย!!! ชั้นพึ่งไปสอยมาจากตู้ห้องพ่อนะ!!!



    บ่นอะไรของนาย เกิดหลงไปจะทำไงห๊ะยาบุเหล่ตามามอง ไอ้บ้านี่นิ จะโวยวายทำไมนักหนา คนเขาเป็นห่วงนะเนี่ย! เกิดโดนลิงป่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหัวหน้าฝูง พากลับฝูงจะทำไง (ไรเตอร์ : โถ พี่ ดูยังไงพี่ฮิคกี้ก็เป็นคนนะ) พี่ว่ามันเหมือนลิงมากกว่าไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็ลิง!



    โถ่ ฮิคารุคนนี้จะหลงป่าได้ยังไง ในเมื่อชั้นเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในวงแบบนี้! แล้วเราก็กำลังไต่เชือกกันอยู่ด้วย มันจะหลงได้ไง!” ฮิคารุโต้ ก็จริงของเขา เดินไต่เชือกเส้นเดียวกันมา แถมยังเดินตามกันจนหน้าติดตูดคนข้างหน้าซะขนาดนี้จะหลงได้ไงฟระ



    กล้าพูดเนอะนายเนี่ย - - ก็ชั้นเป็นห่วงนายนี่ ถ้านายหายไปแล้วชั้นจะอยู่ยังไง สัญญากันแล้วไม่ใช่หรอว่าจะอยู่ด้วยกันน่ะ ยาบุพูดถึงเรื่องเมื่อคืน โอ๊ย เขิน! พูดแบบนี้มันจะรู้มั๊ยเนี่ย พี่ใหญ่คิดโทษตัวเองที่ดันเผลอพูดมากเกินไป กลัวความลับจะแตก



            ฮิคารุที่เดินตามอยู่ข้างหลังแอบอมยิ้มอย่างดีใจ สัญญากันแล้วสิเนอะ พวกเราน่ะ
    (รีดเดอร์ : ตอนไหนฟระ - -) (ไรเตอร์ : ก็ฝากริวริวบอกเมื่อกี้ไงว่าให้จิ้นกันเอาเอง กร๊าก) อ๋อ ที่นายดึงแขนเสื้อแบบนี้คงไม่กล้าจับมือสินะ นายเนี่ยน้า น่ารักเหมือนเดิมเลยแฮะ~ เอ๊ะ แล้วทำไมถึงไม่กล้าจับล่ะ...? คงไม่หรอกมั้ง



            แว๊บนึง ที่เขาคิดว่า เพื่อนสนิทอาจจะชอบเขาอยู่บ้างเหมือนกันก็ได้ แต่ก็ไม่อยากคิดเองไปคนเดียว แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็ช่างมันเหอะ ทำตามที่ใจอยากทำบ้างดีกว่า อีกอย่าง ถ้าเราเกิดหลงไปจริงๆ แล้วนายจะอยู่กับใครล่ะ โคตะ



             ฮิคารุดึงมือที่จับแขนเสื้อเขาจนแน่นออก จนเจ้าของมือหันมามองแบบงงๆ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับมือเพื่อนรักซะเอง โดยที่ไม่พูดอะไร
    ทำเอาคนโดนจับทำหน้างง ตกใจนิดหน่อย



    เอ้า ยืนบื้ออยู่ทำไม อ๋อ นายต้องการจะให้ฮิคารุผู้นี้นำทางสินะ ได้ๆ แหมไม่บอกกันตั้งแต่แรก ฮ่าๆฮิคารุหัวเราะร่าเริง อย่างสนุกสนาน ก่อนจะสลับตำแหน่งไปอยู่ด้านหน้าซะเองแล้วออกเดินต่อ~~


    ……………………………………………


    ยูโตะ น้ำตรงนี้จะเค็มเหมือนน้ำทะเลมั๊ยอ่ะอิโนะจังพูดพลางชะโงกหน้าออกมานอกเส้นทาง เพราะนอกเส้นทางนั้นก็คือ ธารน้ำตกเล็กๆที่ไหลมาจากน้ำตกด้านบนที่เป็นจุดหมายของพวกเขานั่นเอง



    ห๊ะ มันจะเค็มได้ไง น้ำตกนะอิโนะจังยูโตะทำหน้า งง มันจะเค็มได้ไง ในเมื่อแถวนี้มันเป็นน้ำจืด



    เออ นั่นสิ ชั้นก็ลืมไป ตอนนี้เราต้องซึมซับความงามแห่งขุนเขาสินะอิโนะจังพูดเหมือนนึกขึ้นได้ ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ แล้วสูบอากาศบริสุทธิ์เข้าจนเต็มปอด ยูโตะเห็นจึงทำตามบ้าง เป็นอันต้องทำให้ เพื่อนอีกสองคนที่เดินตามอยู่ด้านหลัง ต้องลำบากพาสองคนนี้ขึ้นไปข้างบนต่อแทน (เพราะมันเดินกันไปเองไม่ได้น่ะสิ)



    ให้ตายสิ! พวกนายลืมตาตื่น กลับมาโลกแห่งความจริงได้แล้ว!” ไดกิบ่นขณะพยายามจะดันตัวอิโนะจังให้เดินขึ้นไป โดยที่ตายังปิดอยู่



    นั่นสิ มันหนักนะ!” ยามะจังเองก็บ่นเหมือนกัน เพราะตัวเองต้องรับผิดชอบดันเพื่อนเลิฟอีกคนให้เดินขึ้นไปด้วย โดยที่มีมันก็มีสภาพไม่ต่างกับอิโนะจังเลย ก็คือยังคงหลับตาอยู่นั่นเอง - -‘



    ชู่ว์ เงียบๆสิไดจัง ชั้นกำลังจะฟังเสียงน้ำร้องเพลงอยู่นะอิโนะจังยกนิ้วขึ้นมาทำปากจุ๊ ให้เพื่อนรักเงียบเสียงลงแบบยิ้มๆ ทำหน้าประมาณว่ากำลังดื่มด่ำบรรยายอย่างเคลิ้มสุดๆ



    ห๊ะ =[]=*” ไดกิเริ่มอารมณ์เสีย พูดไรของมันเนี่ย! หนักนะโว้ยยย แล้วเจ้าพวกโอคาริว สวีทกันอยู่ได้ไม่คิดจะมาช่วยกันรึไงนะ!



    นั่นสิ ยามะจังก็เงียบๆด้วยล่ะ กำลังเพลินเลยยูโตะทำหน้าเคลิ้มแบบไม่รู้สึกรู้สา



    ห๊ะ =[]=*” ยามะจังเองก็ชักเริ่มอารมณ์เสียเหมือนกัน แต่ก่อนจะได้ด่าออกไป ไดกิก็



    เฮ้ ยูโตะ ยามะจังก็หนักตัวเองจะแย่อยู่แล้ว ให้มาแบกนายก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ไม่สงสารยามะจังบ้างไง้!” ไดกิตะโกนลงมาอย่างหวังดี? ทำเอายามะจังหน้าแดง



    ไดจังว่าชั้นอ้วนหรอ!!!!” ทั้งสองกำลังจะเริ่มเปิดฉากทะเลาะกันอีกครั้ง โดยที่ไดจังไม่รู้เรื่องว่าตัวเองผิดตรงไหนเหมือนเคย แต่ก่อนหน้านั้น



    ชู่ว์!!!!!!!” ยูโตะกับอิโนะจังก็หันมาดุพร้อมกันซะนี่!



    “=[]=*!!!”


    ………………………………………..


    ถึงแล้วครับ!” เสียงไกด์ตะโกนบอก ทำเอาทุกทีดีใจกันใหญ่ แทบจะเฮกันจนกลิ้งตกลงไปตามทางเดิมเลยทีเดียว =[]= ก็แหม เดินมาตั้งนาน (ปล.15 นาที) เหนื่อยจะตาย พอบอกว่าถึงแล้วเท่านั้นแหละ มันก็เลยดีใจกันใหญ่เลยอ่ะ



    เย้!!!! ว้าวสวยจังเลย!” ชี่ที่ขึ้นไปถึงคนแรกหลังพี่ไกด์ วิ่งถลาเข้าไปดูน้ำตกใกล้ๆ อย่างร่าเริง



    ชี่ ระวังตกนะ!” ร้อนถึงทาคาคิคุง หลังจากตะกายขึ้นมาได้แล้ว ก็แทบวิ่งไปจับชี่ไม่ทัน สงสัยจะกลัวปลิวตกน้ำไปซะล่ะมั้ง - - แต่ผมก็ชักเป็นห่วงชี่นะเนี่ย ผมกลัวเค้าตกลงไปจริงๆอ่ะ



            เอ๊ะ
    ? จะถามว่าทำไมผมซึ่งเดินรั้งท้ายมากับเคย์โตะถึงรู้เหตุการณ์ด้านบนได้น่ะเหรอ? ก็เพราะผมเป็นคนดำเนินเรื่องไงฮะ ถามแปลกๆ ช่วยอย่าไปสนใจเรื่องหยุมหยิมเรื่องพวกนั้นได้มั๊ยฮะ พี่โซลเขาขอร้องมาน่ะ



    ยาบุ!!! ตรงนี้สวยมากเลย!!!!” ฮิคารุคุงตื่นเต้นใหญ่เมื่อเห็นน้ำตกอยู่ตรงหน้า ลากยาบุคุงไปดูด้วยใหญ่เลยฮะ อ๊ะ ผมพึ่งสังเกต เขาจับมือกันด้วยล่ะ~ แอบมีอะไรรึเปล่าเนี่ย~~



    เข้าไปใกล้มากเดี๋ยวก็เปียกหรอกยาบุคุงเตือนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือข้างที่ว่างล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดตามเส้นผมของฮิคารุคุงที่โดนละอองน้ำตกกระเด็นใส่อยู่



             ฮิคารุคุงเองก็ยิ้มซะน่ารักเชียวตอนที่ยาบุคุงเช็ดผมให้น่ะ ผมว่ามันชักจะน่าสงสัยแล้วสิ
    ~ ผมอยากรู้อ้ะ!!! ว่าแต่ผมคิดไปเองรึเปล่าฮะ ตั้งแต่ผมกับเคย์โตะเปิดเผยกันว่าคบกันอยู่ รู้สึกคนอื่นๆก็เริ่มจะเปิดเผยตัวกันบ้างแล้วนะเนี่ย แสดงว่าที่แล้วๆมา ผมก็คิดมากไปเองงั้นสิ~ ว่าแต่ ตอนนี้ผมอยากรู้เรื่องของยาบุคุงกับฮิคารุคุงจังเลยฮะ~~



    สองคนนั้นเขารักกันน่ะสิ ไม่รู้รึไง แฮมทาโร่เอ๋ เฮ้ย! ตกใจหมดเลย ผมกำลังคิดเพลินๆอยู่แท้ๆ จู่ๆเคย์โตะก็โผล่มาพูดเสียงเนิบๆข้างๆหูผม อย่างกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่งั้นแหละ!



    หายไปไหนมาเนี่ย แล้วเมื่อกี้นายพูดเรื่องอะไรน่ะแต่ผมก็ยังคงเนียนต่อ



    ก็เรื่องยาบุคุงกับฮิคารุคุงไง นายคิดเรื่องสองคนนี้อยู่ไม่ใช่หรอ ชั้นก็เลยบอกว่าสองคนนี้เขาแอบรักกันอยู่ไงเคย์โตะตอบแบบยิ้มๆ แล้วทำเป็นเพยิดหน้าไปทางสองคนนั้นที่กำลังดูน้ำตกกันอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ฉากโรแมนติกอะไรซักเท่าไหร่ก็ตาม - - เพราะยาบุคุงกำลังพยายามดึงคอเสื้อฮิคารุคุงที่เมื่อกี้ขู่ว่าจะฆ่าตัวตายไม่ให้ตกลงไป
    ข้างล่างๆจริงๆอยู่น่ะสิ



    นายรู้ได้ไงว่าชั้นคิดเรื่องนี้อยู่ผมมองหน้ามันแบบอยากรู้สุดๆ รู้ได้ไงเนี่ย! อ่านใจผมได้ด้วยหรอ!



    เคย์โตะหันกลับมามองผมแบบยิ้มๆ



    แฮมทาโร่คิดอะไร ชั้นก็รู้หมดแหละ ก็เราเป็นคนคนเดียวกันไง จุ๊บ~” พูดจบมันก็ก้มลงมาจุ๊บที่หัวผม เขินอ้ะ >///< บ้า คนคนเดียวอะไรกัน (ไรเตอร์ : ก็จริงไม่ใช่หรอ โอคาริวจงเจริญ!!!)



    จะ จริงหรอผมเลยเหลือบตาขึ้นไปมองหน้ามันแบบเขินๆ สองมือไพล่ไว้ด้านหลัง ตอนนี้แก้มผมคงแดงมากเลยล่ะ มันรู้สึกร้อนๆ ทั้งๆที่อากาศมันเย๊นเย็น



    จริงสิ พิสูจน์มั๊ยล่ะ เคย์โตะหันไปหลบตาผมแบบเขินๆตอนที่ผมเหลือบตามองมันเมื่อกี้ ปกติก็มองหน้ากันแบบนี้อยู่แล้ว ทำไมวันนี้เขินล่ะ? แต่หลังจากที่มันทำท่าเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง ก็หันกลับมาถามผม ว่าพิสูจน์มั๊ย? น่ะ พิสูจน์อะไรหรอ?



    Keito part



             ให้ตายสิครับ
    ! คุณเห็นแฮมทาโร่ตอนมองผมเมื่อกี้รึเปล่า?! (ไรเตอร์ : จะไปเห็นได้ไง ในเมื่อนายคุยกับน้องแค่สองคน) น่ารักมากๆเลยล่ะครับ! ตาของแฮมทาโร่มันแบ๊วมากเลยอ่ะ มันน่ารักซะผมตกใจไม่กล้าสบตาต้องหลบหนีเลยทีเดียว ไหนจะท่าทางแบบนั้นอีกล่ะ ที่เอามือไปไพล่หลังแล้วเอียงตัวมาข้างหน้านิดๆ แล้วเหลือบตามองขึ้นด้านบนน่ะ โอยแย่แล้วล่ะครับ



           ย้อนกลับไปในเรื่องซักนิด เรื่องยาบุคุงกับฮิคารุคุงน่ะ ก็แหม ดูก็รู้ครับว่าสองคนนั้นเขารักกันมานาน แต่ไม่กล้าบอกกันเท่านั้นเอง อย่างที่โซลว่าแหละครับ บุฮิคมิเสื่อมคลาย
    ! น่ะ เป็นสโลแกนที่โอเคเก๋กู๊ดลงตัว บาลานซ์ที่สุดแล้วล่ะครับ (ไรเตอร์ : นายเป็นถึงสุภาพบุรุษอังกฤษทำไม สำนวนเฉิ่มขนาดนี้) ถ้าถามว่าทำไมผมรู้ว่าแฮมทาโร่คิดเรื่องนี้อยู่น่ะเหรอ? ก็ผมบอกแล้วไงครับ ว่าเราเป็นคนคนเดียวกัน แฮมทาโร่คิดอะไรผมก็รู้หมดแหละ~~

     


             และแล้ว สมองอันสมควรที่จะบรรจุอยู่ในคราบสุภาพบุรุษของผมก็คิดแผนเด็ดๆได้ขึ้นมา
    ? จริงๆผมก็เป็นสุภาพบุรุษมาดเนี้ยบอย่างทีทุกคนรู้จักกันแหละครับ? แต่แหม เวลาอยู่ต่อหน้าแฮมทาโร่ผมมักเปลี่ยนเป็นไอ้เคย์โตะจอมทะเล้นตามแบบฉบับพระเอกฟิคจัมพ์ไปซะทุกทีเลยสิน้า~ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เอาเป็นว่า ผมนึกแผนเด็ดขึ้นมาได้แล้วล่ะ ไปลุ้นกันดีกว่า ว่าจะสำเร็จมั๊ย



    จริงสิ พิสูจน์มั๊ยล่ะผมแกล้งลองเชิงแฮมทาโร่น้อยของผมดู ผมเลยจงใจถามคำถามแบบทิ้งปริศนาพาเพลินให้ชวนคิดเอาไว้ก่อน



    แฮมทาโร่มีท่าทีคิดซักพัก และก็เงยหน้าขึ้นมาคุยกับผมต่อ



    พิสูจน์อะไรล่ะได้ผล! แฮมทาโร่สนใจแล้ว แน่นอนครับ ผมเป็นคนวางแผนซะอย่าง



    ก็พิสูจน์ว่า เราเป็นคนคนเดียวกันจริงๆไงล่ะผมไม่พูดเฉยๆ ปล่อยให้แฮมทาโร่หนีไปไม่ตอบคำถามผมหรอกนะ
    ผมรีบเดินเข้าไปประชิดตัว แล้วจับบ่าสองข้างของเขาเอาไว้ แฮมทาโร่มีท่าทีระแวงผมใหญ่เลยฮะ เลิ่กลั่ก จนเขาเผลอก้าวถอยหลังเลยทีเดียว ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ
    TT



    ยะ ยังไงล่ะ มะ ไม่ต้องก็ได้มั้ง >////<” แฮมทาโร่เขิน น่ารักจังเลย



    ทำไมล่ะ ไม่อยากพิสูจน์รึไงผมเลยแกล้งต่อ (ไรเตอร์ : นายนิสัยไม่ดีจริงๆนะเคต) ผมเปล่านิสัยไม่ดีซักหน่อย



             ผมยืนรอคำตอบจากแฮมทาโร่ ที่อยู่ๆก็ก้มหน้าเงียบไปเหมือนคิดอะไรอยู่ แต่แล้วเขาก็ดันพูดคำที่ผมไม่คาดคิดออกมา (อีกแล้ว
    !)



    กะ ก็ ชั้นก็เชื่ออยู่แล้วไง ว่าเอ่อ ระ เราเป็นคนคนเดียวกันอ้ะ >////< เพราะงั้นไม่ต้องพิสูจน์หรอก



         O[]O!!!
    ทึ่งครับ! ผมไม่คิดว่าแฮมทาโร่จะพูดประโยคนี้ออกมานะเนี่ย!!! ทำไงดีล่ะ ผมดีใจจังเลย! ตั้งแต่วันนั้น เอ่อ…/// วันนั้นแหละครับ (ไรเตอร์ : วันไหนเล่า =..=) ก็วันนั้นไง~ แฮมทาโร่ก็ดูเปลี่ยนไปมากเลยล่ะฮะ ชอบพูดอะไรแบบนี้เสมอ แถมยังทำตัวอ้อน น่ารักๆอีก น่ารักชะมัด! ผมไม่นึกว่าเขาจะทำเรื่องพวกนี้นะเนี่ย! ตอนที่คบกันแรกๆผมก็ไม่ได้หวังอะไร เพราะเขาเป็นคนขี้อาย ดื้อ ไม่ค่อยแสดงออก แต่พอมาจนถึงวันนี้ ผมกลับดีใจจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ!



    อ๊ะ เอ่อ จริงดิ จริงหรอผมเลยตัดสินใจค่อยๆปล่อยมือลงจากไหล่ของแฮมทาโร่ ตอนแรกกว่าจะดึงมาจูบซักหน่อย แต่ไม่แกล้งและ รู้สึกได้สิ่งที่เหนือคาดหมายมาซะก่อน เลยไม่อยากแกล้งแล้วล่ะ~



    จริงสิขณะบรรยากาศกำลังไปได้ดีอยู่เลยนั้น แต่ดั๊น…! มีตัวมาก่อกวนซะนี่!!!!!



    End keito part



    เคย์โตะ!!! นายช่วยมาเอาไอ้หมอนี่มัดท่อนซุงแล้วโยนลงน้ำตกให้มันไปสู่สุขคติซักทีเหอะ!” ยามะจังเดินบ่นมาหาเคย์โตะอย่างเอาเรื่อง มือข้างนึงลากยูโตะ เพื่อนเลิฟของเขาขึ้นมาด้วย!



    อะ เอ๋!” เคย์โตะที่กำลังเคลิ้ม? สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงยามะจัง ก่อนจะหันมาด้วยสีหน้างงๆ อะไรกันเนี่ย! อ้าว ทำไมยามะจังลากยูโตะขึ้นมาด้วยเนี่ย!!! ถะ แถมสีหน้ายามะจังดูเหมือนจะกำลังโมโหสุดๆอยู่เลยนะเนี่ย



    เดี๋ยวยามะจัง! ชั้นว่าจับมัดกับอิโนะจังแล้วโยนลงไปพร้อมกันดีกว่า!” ไดจังเดินตามขึ้นมาติดๆ มือข้างนึงลากอิโนะจังขึ้นมาด้วยเหมือนกัน ดูท่าทางสองคนนี้กำลังโกรธมากมายเลยล่ะ!



    นี่พวกนายเป็นอะไรกันน่ะ ยาบุได้ยินเสียงสมาชิกทั้งสองโวยวาย ดึงเดินเข้ามาดูพร้อมกับฮิคารุ แน่นอนรวมทั้งชี่และทาคาคิด้วยเช่นกัน



    ก็เนี่ย…!!!” ทั้งสองชี้นิ้วมาที่ขยะ?ที่แบกมาด้วยเหมือนกำลังจะพยายามอธิบายแม้ว่าจะกำลังเดือดสุดๆอยู่ก็ตาม แต่



    อืม~~ อยากลองชิมรสชาติน้ำอันบริสุทธิ์แห่งธรรมชาติดูจังเลยอิโนะจังยังคงนอนลาดเอียงตามองศาขนานกับพื้นอย่างสบายใจ สองมือประสานกันวางไว้ตรงหน้าท้อง ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเล้ย ว่ามันลำบากคนลากแค่ไหน!



    ฟุดฟิดๆ~~ กลิ่นนี้ ใช่กลิ่นน้ำตกรึเปล่าอิโนะจังยูโตะทำจมูกฟุดฟิด ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ เห็นธารน้ำตกใหญ่ลอยอยู่เบื้องหน้า สบายใจจริงนะ!



    “=[]=*”
    ผึง! เสียงอะไรบางอย่างในตัวของคู่หูตัวกลมขาดลง ในฐานะสมาชิกที่สำคัญซึ่งกันและกันแล้ว รับรู้ได้ถึงภัยอันตรายที่จะมาเยือน จึงพร้อมใจกันถอยห่างออกมาทันที ยกเว้น คนสองคนเท่านั้น?



    ย๊ากกกกกก!!!!!!!!!!!!”



            ยามะจังกับไดกิ พร้อมใจกันรวมพลัง แล้วเหวี่ยงอดีต
    ? เพื่อนรักในมือจนหมุนติ้วไปตามแรงโน้วถ่วง ก่อนจะโยนคนทั้งคู่จนกระเด็นกันออกไปกองรวมกันที่หน้าผาด้านข้างด้วยกัน!!!



    โครม
    !!!!!!!!!!!



    แอ๊ก!!!!!!!!!!!!!”



    ยูโตะ! อิโนะจัง!” คนอื่นที่เหลือรีบวิ่งกันเข้าไปดูอาการเพื่อนรักทันที! แต่ไม่ลืมที่จะวิ่งโดยใช้เส้นทางเลี่ยงให้ออกห่างจากคู่หูตัวกลมที่พึ่งเดือดปุดๆ จนเป็นสาเหตุทำให้พวกเขาต้องรีบวิ่งไปดูอาการเพื่อนทั้งสองคนด้วย



             สองคู่หูต้นเหตุ ทำท่าปัดฝุ่นที่มืออย่างเสร็จงาน ก่อนจะเปลี่ยนไปทำท่าจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่บ้าง ประดุจเหมือนจอมพลังที่พึ่งจัดการลูกระจ๊อก
    ? ให้ออกไปให้พ้นทางอย่างสบายๆ



    เชอะ คราวหน้าชั้นไม่แบกพวกนายแล้ว!” ไดกิยืนเท้าสะเอวมอง อย่างเอาเรื่อง



    ใช่ๆ ไม่เอาด้วยแล้ว!” ยามะจังเสริม



    คนที่เหลือเหลือบมามองกันแบบหวาดๆ เพื่อนใครเนี่ย
    ! โคตรน่ากลัวเลย - -‘’



    ฮู้ยยย เจ็บ เสียงของอิโนะจังดังขึ้นมาเบาๆทำให้ทุกคนเปลี่ยนเป้าหมายไปหาเขาทันที



    อิโนะจังเป็นยังไงบ้าง!”



     
    หือ? อ้าว ถึงน้ำตกแล้วเหรอเนี่ย! แหม ก็ว่าอยู่ว่าทำไม รู้สึกได้ถึงออร่าแห่งธรรมชาติฟุ้งกระจายออกมาขนาด
    นี้
    อิโนะจังเมื่อลืมตาขึ้นมาได้หลังกล้ำกลืนความเจ็บปวดที่หลังแล้ว ก็ค่อยๆหันไปมองรอบๆ อย่างมีความสุข เหมือนในที่สุดก็ได้ค้นพบขุมสมบัติที่เฝ้าตามหามานานแล้ว! ส่วนออร่าที่ว่าก็คือ ละอองน้ำตกที่ฟุ้งลอยอยู่จนทั่วบริเวณนั้นนั่นเอง



    =[]=!
    ยังๆ มันยังจะต่ออีก! สรุปเมื่อกี๊เนี่ยไม่ได้สนใจชะตากรรมตัวเองเลยใช่มั๊ย!



    นี่ นายยังจะพูดเรื่องแบบนี้อยู่อีกหรอเนี่ย!!!” ทาคาคิคุงเริ่มจะทนไม่ไหว



    นั่นสิ ยามะจังกับไดจังโกรธใหญ่แล้วนะ ยังไม่รู้สึกตัวอีกรึไง!” ตามด้วยชี่ แล้วชี้นิ้วไปทางไดจังกับยามะจังที่ยืนทำท่าเซ็งอยู่ห่างๆ



    ใช่ๆ! นายจะเพ้อก็ไม่เป็นไรนะ แต่อย่าไปรบกวนสองคนนั้นสิฮิคารุลดเสียงลงเล็กน้อย ก่อนจะทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนที่หันไปมองคู่หูตัวกลมที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้น



    เอ๋ พวกนายพูดเรื่องอะไรน่ะ แล้วยามะจังกับไดจังโกรธเรื่องอะไรหรออิโนะจังส่งรอยยิ้มแบบงงๆ มาให้เพื่อนทุกคน นี่พวกเราพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย โกรธเรื่องอะไรหรอ? ชั้นไม่เห็นรู้เรื่องเลย เอ๊ะ แล้วทำไมเมื่อกี้รู้สึกเหมือนโดนเหวี่ยงเลยแฮะ



    นี่…!” ไม่ทันที่ชี่จะวีนใส่อีกรอบ



    เห แล้วพวกเราไปรบกวนยามะจังกับไดจังตอนไหนหรอ เราไม่ได้ทำอะไรนี่ยูโตะที่นอนฟังอยู่นานค่อยๆยันตัวขึ้นมา



    เฮ้ย ยูโตะ นายฟื้นแล้วหรอเนี่ย!” เคย์โตะที่นั่งประคองเพื่อนอยู่ตกใจ เมื่อกี้หันไปมองแต่ทางอิโนะจัง จนลืมมองเพื่อนที่อ้อมแขนไปเลย อยู่ๆมันก็ลุกขึ้นมาตกใจหมด



    ไม่เป็นอะไรนะริวทาโร่ที่นั่งอยู่ข้างๆเคย์โตะ ถามด้วยสีหน้าแปลกๆ?



    ไม่เป็นไร แล้วเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นหรอ แล้วชี่พูดว่าอะไรนะ ยามะจังกับไดจังโกรธ ที่ชั้นกับอิโนะจังไปรบกวนเค้า
    หรอ หมายความว่าไง
    ยูโตะถามแบบทำหน้าใสซื่อ



    นั่นสิ ชั้นก็ยัง งงๆ อยู่เลยเนี่ย แล้วทำไมสองคนถึงไปยืนแยกกันชมน้ำตกกันสองคนล่ะ ไม่ชวนกันเลยนะอิโนะจังมีสีหน้างอนๆเล็กน้อย



    นั่นสิ งั้นอิโนะจัง ไปชมน้ำตกที่ธรรมชาติมอบให้กันเถอะ!” ยูโตะชวน



    ไปสิ!” ขณะที่ทั้งสองกำลังลุกขึ้นยืนท่ามกลางความงงงวยของเพื่อนๆอยู่นั้น



    เดี๋ยว! นี่พวกนายไม่รู้ตัวเลยหรอเนี่ย!!!!!!!!!!!!!”


    ………………………………………………


             หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่น้ำตกผ่านพ้นไปแล้ว พวกเราก็ได้ขึ้นเครื่องกันซักทีฮะ เร็วมั๊ย (รีดเดอร์
    : เร็วจนงง) เมื่อกี้โชคดีที่ ยามะจังกับไดจังพากันดูน้ำตกแล้วพี่ไกด์เขารู้สถานการณ์เลยไปซื้อแฮมเบอร์ร้อนๆมาให้กันคนละชิ้น เลยทำให้สองคนนั้นเขากลับมาอารมณ์ดีได้อย่างรวดเร็วเชียวล่ะฮะ - - มันง่ายไปมั๊ย?



            ส่วนอิโนะจังกับยูโตะคุงก็โดนทุกคนรุมเทศน์ใหญ่เลยฮะ รวมทั้งเคย์โตะด้วย แต่ผมเปล่านะ แต่ดูเหมือนพวกเขาก็ยังสำนึกผิดกันแบบ งงๆอยู่ว่า ตกลงผิดอะไรกัน แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก แล้วพวกเราก็ขึ้นรถกันต่อมาถึงสนามบินฮะ



           เป็นที่น่าเสียดาย ขากลับผมคงอดนั่งกับเคย์โตะแล้วล่ะ เพราะยาบุคุงสั่งให้เคย์โตะคอยคุมยูโตะคุงเอาไว้
    T^T เขาบอกว่าเคย์โตะน่ะผิดไม่ยอมดูแลเพื่อนสนิทตัวเอง เคย์โตะเลยต้องจำใจไปนั่งกับยูโตะคุง อิโนะจังก็ถูกแยกให้ไปนั่งกับทาคาคิคุงและก็ชี่ฮะ ส่วนผม นั่งกับยามะจังแล้วก็ไดจังฮะ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ผมก็อยากเล่นกับคนอื่นมั่งเหมือนกัน อยู่กับเคย์โตะตลอดเวลาก็เบื่อฮะ



    ยามะจัง อยากกินขนมปังอันนั้นอ่ะผมซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนพูดขึ้น ยามะจังอยู่ริมฝั่งติดทางเดินฮะ



    เอานี้หรอ หยิบไปเลยๆยามะจังตอบขณะที่ในปากยังเคี้ยวตุ้ยๆอยู่ ผมเลยหยิบไปอย่างไม่เกรงใจ มีเยอะขนาดนั้นผมจะขอซักชิ้นจะเป็นอะไรไป



    ริวทาโร่ไม่เสียใจหรอที่ไม่ได้นั่งกับเคย์โตะอ่ะไดจังกระทุ้งสีข้างผมเบาๆแบบล้อเลียนนิดๆ แต่ในปากก็กำลังเคี้ยวขนมปังอยู่เหมือนกัน แก้มแตกหมดแล้วไดจัง~



    เอ่อ ก็เปล่า ผมก็เบื่อๆหน้ามันเหมือนกันแหละผมตอบเขินๆเล็กน้อย โดนถามเงี้ยมันก็อายเหมือนกันนะ ///



    เห จริงอ้ะไดจังแกล้งทำสายตาจับผิดมาให้ผม



    จริงหรอ~~” ยามะจังทำด้วยเหมือนกัน เข้าขากันดีจริงๆนะ =///=



    ก็จริงน่ะสิ!” ผมก็เขินเป็นนะ! หนีเคย์โตะมาได้แล้วยังจะต้องมาโดนยามะจังกับไดจังแกล้งอีกเนี่ย!



    หรอๆ เอ่อนิ ริวทาโร่…” จู่ๆไดจังก็ลดเสียงต่ำลงมาจนผมชักเชียว



    อะ อะไร



    นอนกับเคย์โตะตั้งสี่คืน แอบทำไรกันป่าวอ่ะ~”



    อึ๊ก
    !



    ค่อกแค่กๆ
    !!!! ผมสำลักขนมปังเลยนะเนี่ย!



    ไดจัง O///O!!!!” อ๊ากกกกก ถามอะไรอ้ะ มะ ไม่มีอะไรนะ! >////< (ไรเตอร์ : เจงอ้ะ~~) บ้าหรอใครจะไปบอกได้!!!



    เอ๊ะ หน้าแดงใหญ่เลย มีอะไรบอกชั้นมาเลยนะ ริวทาโร่ยามะจังทำท่าจับผิดผม วางขนมปังแล้วรัดหัวผมเข้ามาใกล้ๆ



    ไม่มีอะไรซักหน่อย! ปล่อย!” ผมดิ้น ใครจะไปบอกกันเล่า!



    น่าสงสัยนะเนี่ย แฮมทาโร่~” ไดจังทำเสียงเลียนแบบเคย์โตะ



    อย่ามาเรียกผมแบบนั้นน้า! ยามะจังปล่อย! มันไม่มีอะไรจริงๆ!!!”



    ปากแข็ง
    ! พวกชั้นรู้หมดแล้วน่า =/////=



    แหม แค่นี้ทำเป็นให้เรียกไม่ได้นะ เคย์โตะเรียกได้คนเดียวรึไงฮึ!” ไดจังหยิกแก้มผมด้วยความหมั่นเขี้ยว รึ
    หมั่นไส้
    ? ผมก็ไม่รู้น่ะ แต่มันทำให้อ๊าย อายล่ะ >////<



    เชอะ นายไม่รักพวกชั้นแล้วหรอ รักแต่เคย์โตะคนเดียวเลยนะยามะจังทำเป็นงอน



    ใช่ที่ไหนเล่า! >///< พวกพี่เลิกแกล้งผมได้แล้ว!” ผมสะบัดตัวหนีจากการจับกุมของทั้งสองสำเร็จแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงแล้วหลับไปเลย



    โห แค่นี้หนีซะแล้วยามะจังพูดต่อ ผมได้ยินนะ!



    เด็กขี้อายก็เงี้ยแหละ ยามะจัง รับไม่ได้ก็หนี หุหุไดจังยังคงพูดต่อ



    ฮึ้ย
    ! ก็บอกว่าได้ยินไงเล่า! >////< แต่ผมไม่ลุกไปติดกับดักพวกเขาหรอกนะ!



    “…”



    “…”



             สองคนนั้นเงียบไปเลยแฮะ สงสัยผมจะอึดกว่าเขา ก็อย่างว่า สองคนนี้ความอดทนน้อยจะตาย ผมรอดแล้ว
    ~ เพราะผมได้ยินเขาเริ่มกินกันต่อน่ะสิ คงขี้เกียจรอผมแล้วล่ะ ค่อยยังช่วยหน่อย นึกว่าจะไม่รอดซะแล้วสิ~~ ใครจะไปกล้าบอกเรื่องแบบเนี้ย >////<



          จะว่าไป นอนไปนานๆก็เริ่มง่วงขึ้นมาแล้วจริงๆน่ะสิ เอาล่ะ งั้นผมขอนอนก่อนละกัน ตื่นมาคงถึงญี่ปุ่นพอดีแหละ บ๊ายบาย ฮาวาย
    ~




    (ไรเตอร์
    : หนูไม่รู้ซะแล้ว ว่าเขารู้กันหมดแล้วล่ะน้องเอ๊ย =////= แถมยังมีหลักฐานมัดตัวกันอยู่คามือซะด้วย หลับให้สบายน้า~ อย่าแอบไปฮาเคย์โตะในฝันล่ะ โฮะๆๆ) (รีดเดอร์ : ริวจัง ไม่ใช่แค่จัมพ์นะที่รู้ พวกพี่ก็รู้กันหมดแล้วล่ะ!) (ไรเตอร์ & รีดเดอร์ : วะฮ่าฮ่าๆ!!!)


    ………………………………………


    ทำไมชั้นต้องมาคอยคุมนายด้วยเนี่ยเคย์โตะมองเพื่อนคนข้างๆที่กำลังระริกระรี้อย่างปลงๆ เฮ้อ แทนที่จะได้นั่งกับแฮมทาโร่ ทำไมชั้นต้องมานั่งกับนายด้วยเนี่ย!



    เอ๋ นายพูดเรื่องอะไรน่ะ ปกติพวกเราก็อยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้วนี่นายูโตะยิ้ม เฮ้อ ก็จริงนะ ถ้าไม่นับเวลาอยู่กับแฮมทาโร่ เขาก็อยู่กับยูโตะตลอดเลยนี่นา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ต้องอยู่กับนายเว่ย!



    เออๆ ยูโตะชั้นก็รักนายนะเพื่อน แต่นายเค้าใจป่ะ ว่าตอนนี้ชั้นอยากอยู่กับแฮมทาโร่



    น่าๆ ก็รู้ แต่ทำไงได้ ยาบุคุงสั่งนี่นา~ อยู่กับชั้นแหละ เรามาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่ายูโตะพูด ทำเอาผมซึ้ง มันเนี่ย
    เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ



    อืม~ อยู่กับนายบ้างก็คงดีเหมือนกันแหละแล้วผมก็ลืมแฮมทาโร่ไปชั่วขณะฮะ ผมกลับมาอยู่กับยูโตะแล้วก็คุยกันแหลกจนหลับคากันไปทั้งๆอย่างนั้นเลยล่ะ สรุปผมทำหน้าที่คุมไม่ให้ยูโตะเพ้อได้ดีแล้วสินะฮะ? แล้วก็แฮมทาโร่ไว้ค่อยคุยกันที่ญี่ปุ่นนะ บ๊ายบาย ฮาวาย~~~


    ……………………………………………


    อิโนะจัง ห้ามเพ้ออีกนะรู้ป่าวชี่นั่งประกบข้างซ้ายดุ



    ใช่ เดี๋ยวพวกชั้นโดนยาบุว่า หาว่าคุมนายไม่ได้ทาคาคิประกบขวาดุด้วยเช่นกัน



    อะไรของนายสองคนเนี่ยอิโนะจังมองทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ



    เฮ้ออออออคนคุมเป็นอันต้องก่ายหน้าผากกันเลยทีเดียว พอเหอะ ขอร้อง เหนื่อยแล้วนะเนี่ย! ทั้งสองเลยพยายามชวนอิโนะจังคุยเรื่องอื่น แต่มันก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง เพราะพี่แกชอบวนกลับเข้าไปอดีตทุกทีเลยสิ ให้ตายเหอะ


    ……………………………………….


    ฮิคารุนอนดีด๊!!! น้ำลายนายหกมาเปื้อนแขนเสื้อชั้นแล้วเนี่ย!!!!”



    แงมๆ พ่อหนวกหูว่ะ เงียบๆๆได้ป่ะ แงมๆฮิคารุยัง คงนอนต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร



    ตื่นแล้วมาเช็ดน้ำลายตัวเองเดี๋ยวนี่!!!” ยาบุชักเริ่มคลั่ง ตื่นยากตื่นเย็นจังฟระ!



    งืม ขออีกห้านาทีฮิคารุทิ้งท้าย ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนหันไปทางอื่นแทน =[]=! คิดว่าชั้นกำลังปลุกนายไปโรงเรียนรึไงเนี่ย!!! ตื่นเดี๋ยวเน๊!!

     


    To be con…


    เย้ว จบซักทีฮาวาย สี่เดือนแล้วเนี่ยแต่งมาอ่ะ กร๊ากกกก (นานไปป้ะ) โฮะๆๆๆ ฮาโตะเคย์กับไดยามะอย่างมาก กร๊ากกก อะไรกันเนี่ยยย สรุปตอนนี้แทบไม่มีคู่หลักเลย (รึเปล่า) หุหุ มันชักมั่วๆซะแล้วสิ (มั่วมานานแล้ว)
    =3= พอกลับญี่ปุ่นโซลก็จะแต่งแต่โอคาริวแล้วล่ะ ฮ่าๆ คู่อื่นก็มานะ แต่โอคาริวหนักเหมือนเดิม เดี๋ยวมันจะผิดอิมเมจ โฮะๆๆ (จะได้ทำมั๊ยน๊อ~) =3=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×